โนอาโชคดี…
เพราะเธอมีพ่อที่สามารถเข้าใจความหมายซ่อนเร้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ในคำพูดของเธอได้
และลีออนก็โชคดีไม่แพ้กัน…
แม้ว่าในตอนแรก โนอาจะไม่ได้เปิดใจยอมรับเขาทันที แต่ความรักของเขาที่มีให้เธอ ไม่เคยน้อยไปกว่าที่มีให้มูนเลย
และในที่สุด ความรักนั้นก็ละลายกำแพงที่กั้นระหว่างพ่อกับลูกลงจนหมดสิ้น
ขณะที่พ่อกับลูกสาวสบตากัน…
ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใด ๆ เพิ่มเติม
ทุกสิ่งที่อยากจะสื่อ ได้ถูกถ่ายทอดผ่านเรียงความของโนอาไปหมดแล้ว
ตอนนี้—แค่เพียงสายตาที่มองกัน ก็เข้าใจหัวใจกันได้แล้ว
รอสไวส์ที่มองดูฉากนี้อยู่ข้าง ๆ รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก…
แม้ว่าระหว่างเธอกับลีออนจะมีจุดที่ขัดแย้งกันประปราย และชอบแข่งขันกันเรื่องลูกสาวอยู่เสมอ
แต่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา—
จากจุดเริ่มต้นที่ว่า “อย่ามาแตะต้องฉัน”
สู่คำพูดแรกที่ว่า “พ่อ สู้ ๆ ” ในวันกีฬาสี
จนถึงวันนี้— “หนูมีคุณพ่อที่ดีที่สุดในโลก”
รอสไวส์เป็นพยานที่เห็นกระบวนการนี้ทั้งหมด
เธอเป็นคนที่เห็นด้วยตาตัวเองว่า ลีออนกับโนอาสามารถละลายกำแพงที่เคยขวางกั้นระหว่างกันได้
ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของลีออนในตอนนี้ได้ดีไปกว่าเธออีกแล้ว
จริง ๆ แล้ว… เธออยากจะแซวลูกสาวเสียหน่อย ว่าทำไมถึงให้ความสำคัญกับพ่อมากขนาดนี้
แต่ตอนนี้ แม่เริ่มรู้สึกอิจฉาขึ้นมาแล้วสิ…
แต่พอคิดดูดี ๆ รอสไวส์ก็ตัดสินใจว่า จะไม่พูดอะไรดีกว่า
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด…
ก็คือการที่ลูกสาวของเธอมีวัยเด็กที่สมบูรณ์และมีความสุขที่สุด
รองอาจารย์ใหญ่ยืนอยู่ข้างครูประจำชั้น ปรบมือไปพร้อมกับกระซิบถามเบา ๆ
“ว่าไงล่ะ? นี่ไม่ใช่การลำเอียงให้ครอบครัวพวกเขาใช่ไหม? เรียงความของโนอาดีจริง ๆ ใช่ไหมล่ะ?”
ครูประจำชั้นพยักหน้าหงึกหงัก พร้อมเอ่ยชมอย่างจริงใจโดยไม่มีการประจบ
“อารมณ์ในบทความจริงใจมาก และสำนวนก็ลื่นไหลกว่าของเด็กคนอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด ไม่แปลกใจเลยที่ท่านผู้อำนวยการโอเล็ตต์จะตั้งตารอผลงานของเธอ ฉันเองก็อยากอ่านเพิ่มเหมือนกัน”
รองอาจารย์ใหญ่หัวเราะเบา ๆ แล้วแซวขึ้นว่า
“งั้นก็ควรจัดประกวดเรียงความเพิ่มอีกใช่ไหมล่ะ?”
ครูประจำชั้นตอบกลับทันที “ฟังดูเป็นความคิดที่ดีเลยนะคะ”
ลีออนและรอสไวส์ ที่นั่งอยู่แถวหน้า ได้ยินบทสนทนาระหว่างรองอาจารย์ใหญ่กับครูประจำชั้นแว่ว ๆ ท่ามกลางเสียงปรบมือ
จัดประกวดเรียงความเพิ่ม?
อย่าทำเลยเถอะ!!
แค่เดทเดียว พวกเราก็แทบไปไม่รอดแล้ว!
ถ้ามีมากกว่านี้ ผมไม่รับประกันเลยนะว่า จะไม่เอาคุณไปแขวนกลางนครนภาเป็นสถานที่ปิดท้ายเดท มังกรเฒ่าเอ๋ย…
พิธีมอบรางวัลของการประกวดเรียงความสิ้นสุดลง และหลังจากงานเลิก บรรดาผู้ปกครองมังกรที่รู้จักกันก็เริ่มจับกลุ่มคุยกันตามปกติ
ผู้ปกครองบางคนเข้าไปหาครูประจำชั้นเพื่อสอบถามเกี่ยวกับพัฒนาการและผลการเรียนของลูกมังกรของตน
แต่… รองอาจารย์ใหญ่กลับยังไม่ปล่อยครอบครัวของลีออนไป
ลีออนรู้ทันที—
ถ้ามังกรเฒ่าตัวนี้ยังไม่ได้ทำตัวเป็นเพชฌฆาตสมใจในวันนี้ล่ะก็ เขาคงไม่ปล่อยพวกเราไปง่าย ๆ แน่!
“คุณลีออน คุณรอสไวส์” รองอาจารย์ใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เรียงความของโนอา เป็นบทความที่จริงใจที่สุดเท่าที่ฉันเคยอ่านมาตลอดหลายร้อยปีในตำแหน่งนี้เลยทีเดียว!
ขนาดว่าฉันอยากเอามันไปแขวนไว้ที่ผนังห้องทำงานของฉันแทนที่ภาพของผู้อำนวยการโอเล็ตต์เลยล่ะ!”
“ไม่นะครับ/คะ ท่านรองอาจารย์ใหญ่!”
ลีออนและรอสไวส์รีบโบกมือปฏิเสธแทบจะพร้อมกัน
“พวกเราดีใจที่ท่านชื่นชมผลงานของโนอา แต่เราไม่สามารถให้ความเคารพต่อท่านผู้อำนวยการโอเล็ตต์ลดลงได้เด็ดขาด ใช่ไหม โนอา?”
โนอาพยักหน้ารัว ๆ
เธอรู้ดีว่าพ่อแม่ของเธอ ไม่มีทางเอาคืนรองอาจารย์ใหญ่ได้เลย
ดังนั้น… สิ่งที่เธอทำได้ก็คือ เชื่อฟังทุกอย่างที่ถูกขอให้ทำโดยไม่ลังเล!
กลยุทธ์หลักคือ—ทั้งครอบครัวต้องร่วมมือกันต้านทานรองอาจารย์ใหญ่ให้ได้!
“อา… ผลงานชิ้นนี้ถือเป็นของหายากอย่างแท้จริง” รองอาจารย์ใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงชื่นชมสุดซึ้ง
“ขนาดว่าถ้ามีใครพยายามลอกเลียนแบบ ก็คงถือเป็นการดูถูกมันเลยทีเดียว! มันควรจะเป็นผลงานชิ้นเดียวในโลกนี้เท่านั้น!”
สามพ่อแม่ลูกยิ้มแห้ง ๆ ออกมาพร้อมกัน…
ริมฝีปากกระตุกอย่างเป็นจังหวะสอดคล้องกันอย่างน่าประทับใจ—สมกับเป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ
“โอ้ จริงสิ” รองอาจารย์ใหญ่นึกขึ้นได้ “เนื่องจากเรียงความของโนอาไม่ได้เข้าร่วมการจัดอันดับในชั้นเรียน ท่านผู้อำนวยการโอเล็ตต์จึงอยากชดเชยความ ‘น่าเสียดาย’ เล็ก ๆ นี้”
“ท่านเลยฝาก ปากกาประจำตัวของท่าน มาให้เป็นของขวัญแก่โนอาด้วย”
ขณะที่พูด รองอาจารย์ใหญ่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า ก่อนจะหยิบปากกาออกมา แล้วโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อส่งให้โนอา
โนอารับมันด้วยสองมือ พลางพินิจดูอย่างระมัดระวัง
ปากกาด้ามนี้เปล่งประกายโลหะเป็นเอกลักษณ์ สีดำและเงินสะท้อนแสงระยิบระยับ ราวกับดวงดาวทอแสงอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี
ทั้งด้ามให้สัมผัสหนักแน่นเล็กน้อย เมื่อลองจับไว้ในมือ มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถือครองเศษเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์อันสงบเงียบ
ลีออนรู้เพียงว่า ในสังคมมนุษย์ ปากกาที่มอบให้กันมักเป็นสัญลักษณ์ของเกียรติยศและการยอมรับ
โดยเฉพาะในหมู่นักปราชญ์อาวุโสที่ได้รับความเคารพ—พวกเขามักได้รับปากกาจากเพื่อนร่วมวงการเมื่อเกษียณอายุ เพื่อแสดงถึงความนับถือและการยกย่องในผลงานที่ผ่านมา
เมื่อลองคิดดู แม้ว่า ในวัฒนธรรมของมังกร สัญลักษณ์ของปากกาอาจมีความหมายแตกต่างออกไป
แต่สุดท้าย… มันก็คงเป็นการยอมรับในความสามารถอยู่ดี
“ท่านผู้อำนวยการโอเล็ตต์ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับนักเรียนคนไหนเป็นพิเศษแบบนี้บ่อยนัก” รองอาจารย์ใหญ่กล่าว พลางตบไหล่โนอาเบา ๆ
“โนอา ความสามารถและความพยายามของหนู ทำให้ท่านผู้อำนวยการยอมรับในตัวหนูได้จริง ๆ พยายามต่อไปนะ”
“ขอบคุณท่านรองอาจารย์ใหญ่ และขอบคุณท่านผู้อำนวยการโอเล็ตต์ค่ะ” โนอากล่าวอย่างสุภาพ
รองอาจารย์ใหญ่ยืดตัวขึ้น ก่อนจะหันไปมองลีออนกับรอสไวส์
“และขอบคุณทั้งสองท่านด้วย ที่เลี้ยงดูเด็กที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ให้กับสถาบันของเรา”
“ทางเราจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวังอย่างแน่นอน เราจะดูแลและบ่มเพาะโนอาอย่างดีที่สุด”
รอสไวส์ยิ้มพยักหน้ารับ ก่อนจะแลกเปลี่ยนคำพูดตามมารยาทกับรองอาจารย์ใหญ่
ลีออนเองก็คิดจะพูดอะไรสุภาพ ๆ บ้าง
แต่พอนึกขึ้นได้ว่า เป้าหมายของโรงเรียนนี้คือการฝึกฝนเหล่าอัจฉริยะให้พร้อมต่อกรกับนักล่ามังกร…
เขาไม่รู้จะพูดอะไรดี…
เอาเถอะ… ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือ ภาวนาให้ลูกสาวเรียนจบช้า ๆ หน่อย
และที่สำคัญ—อย่าข้ามชั้นเด็ดขาด!
ไม่อย่างนั้น… “เสื้อกันหนาวนุ่มๆของพ่อ” อาจกลายเป็น “เสื้อเกราะหนาม” เข้าให้ก็ได้
หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อย รองอาจารย์ใหญ่ก็ขอตัวกลับไปทำงาน
วันนี้เป็นวันศุกร์ และพิธีมอบรางวัลก็ใช้เวลาชั่วโมงสุดท้ายของวันไปหมดแล้ว
นั่นหมายความว่า…
โนอาสามารถกลับบ้านกับลีออนและรอสไวส์ได้แล้ว—เป็นการเริ่มต้นวันหยุดสุดสัปดาห์ของครอบครัว!
ทั้งสามคนเดินออกจากห้องเรียน มุ่งหน้าไปยังทางออกของโรงเรียน
โนอาก้มลงมองปากกาในมือ แม้ว่ามันจะเป็นของขวัญจากท่านผู้อำนวยการโอเล็ตต์…
แต่เธอรู้ดีว่า เรียงความที่เธอเขียน ไม่ได้เป็นผลงานของเธอเพียงลำพัง
เธอเหลือบมองไปทางพ่อ… แล้วหันไปมองแม่…
ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกลังเลเล็กน้อย…
“เป็นอะไรหรือเปล่า โนอา?” รอสไวส์สังเกตเห็นว่าลูกสาวดูเหมือนมีอะไรในใจ จึงเอ่ยถามก่อน
“เอ่อ… หนูคิดว่า การที่ท่านผู้อำนวยการโอเล็ตต์ชื่นชมเรียงความของหนูได้ ก็เพราะคุณพ่อกับคุณแม่ช่วยหนูเยอะมากเลยค่ะ”
โนอาพูดพลางก้มมองปากกาในมือ
“เพราะงั้น… หนูคิดว่าปากกาด้ามนี้ควรให้พวกคุณ แต่… มันมีแค่ด้ามเดียว…”
“หนูไม่รู้ว่าควรให้ใครดี”
เด็กน้อยซื่อตรงเสมอ ถ้าไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้
ลีออนกับรอสไวส์สบตากัน ก่อนที่รอสไวส์จะเป็นฝ่ายพูดก่อน
“ให้พ่อเถอะ” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย “เขาเป็นคนวางรากฐานวิชาการให้หนูก่อนเข้าเรียน ช่วยหนูไว้เยอะมาก”
โอ้ ยัยมังกรเอ๋ย… ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอใจกว้างขนาดนี้?
นึกว่าเธอจะเถียงผมเรื่องนี้ด้วยซ้ำ…
แบบนี้แปลว่าคนที่ใจแคบกว่ากลายเป็นผมเองสินะ?
ลีออนคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ไม่ได้สิ! ถ้าเธอใจกว้างขึ้น… งั้นของฉันต้องกว้างยิ่งกว่า!
“งั้นให้แม่น่าจะดีกว่านะ” ลีออนกล่าวขึ้น
“พ่อไม่ค่อยได้ใช้ปากกาเท่าไหร่ แต่แม่ต้องใช้มันตอนทำงาน”
เขาไม่ได้พูดไปส่ง ๆ เพราะ ครั้งล่าสุดที่เข้าไปในห้องทำงานของรอสไวส์เพื่อหยิบกุญแจห้องสมุด เขาเห็นเธอใช้ปากกาจัดการเอกสารกองโตอยู่จริง ๆ
การใช้ปากกาที่ลูกสาวมอบให้ จะต้องช่วยให้เธอทำงานขยันขึ้นแน่ ๆ —ยัยมังกรเอ๋ย!
รอสไวส์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
นักล่ามังกร ใจดีขนาดนี้เชียว?
คิดจะสร้างภาพพ่อผู้อบอุ่นในสายตาลูกสาวสินะ?
หึ! ฉันไม่ยอมให้นายทำสำเร็จง่าย ๆ หรอก!
“ให้พ่อไปเถอะ” รอสไวส์ยืนยันเสียงหนักแน่น
“ให้แม่”
“ให้พ่อ”
“ให้แม่”
“ให้พ่อ~” ลีออนลากเสียงยียวน
“ให้แม่!” รอสไวส์เริ่มขึ้นเสียง
โนอารู้สึกเหมือนจะเป็นลม…
แต่ก่อนที่เธอจะหมดสติไปจริง ๆ เธอก็ยัดปากกาใส่มือรอสไวส์ทันที
“หนูจะเชื่อฟังพ่อค่ะ ปากกาด้ามนี้ให้คุณแม่!”
—โอ้โห! เคลียร์ปัญหาได้เนียนมาก!
เก่งมากลูก พ่อภูมิใจสุด ๆ! ไปเรียนที่โรงเรียน นอกจากวิชาการแล้ว หนูยังฝึกสกิลเข้าสังคมมาดีอีกด้วยนะเนี่ย!
****
จบ 117
คห.ผุ้แปล จบไปเรียบร้อยกับการเคลียหัวใจโนอาและลีออน หลังจากนี้พ่อลูกก็แทบไม่ค่อยมีปัญหาแล้ว ช่วงหน้าก็อาคฉลองวันเกิดละ มาดูว่าผัวจะจัดงานให้เมียได้อลังขนาดไหน
ปล.เอาจริงๆ ให้แปลฉากรักกันของครอบครัวผมก็มีไฟไม่ได้แพ้กับการแปลผัวเมียนะ 555 มีอย่างเดียวที่ขี้เกียจแปลจริงๆคือฉากสู้นี่แหละ
ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION