ท่ามกลางสายตาสงสัยของมังกรน้อยนับไม่ถ้วน—รวมถึงมนุษย์หนึ่งคน—รองอาจารย์ใหญ่เดินขึ้นไปบนแท่นด้วยความตื่นเต้น พร้อมถือเรียงความของโนอาไว้ในมือ ครูประจำชั้นรีบถอยไปยืนด้านข้าง เปิดทางให้เขา
ทุกคนในแผนกมังกรน้อยต่างรู้ดีว่า ครอบครัวเมลค์วี เป็นดั่งดวงใจของรองอาจารย์ใหญ่
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม้แต่การอ่านเรียงความเพียงบทเดียว ก็ต้องได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากเขา
อย่างไรก็ตาม พอขึ้นมาบนเวที รองอาจารย์ใหญ่กลับไม่ได้รีบอ่านเรียงความของโนอาทันที
เขาเลือกจะอธิบายก่อน
“เหตุผลที่บทความของโนอาไม่ได้เข้าร่วมการประเมินครั้งนี้ เป็นเพราะ… ผู้อำนวยการผู้ทรงเกียรติของพวกเรา แองเจลินา โอเล็ตต์ แห่งเซนต์ไฮส์อะคาเดมี ได้ยินเรื่องราวความสามารถและภูมิหลังของเธอเข้า”
“ดังนั้น ท่านจึงต้องการพิจารณาเรียงความของโนอาด้วยตัวเอง!”
แองเจลินา โอเล็ตต์…
นี่เป็นครั้งแรกที่ลีออนได้ยินชื่อของผู้อำนวยการแห่งเซนต์ไฮส์อะคาเดมี
ถ้าผู้อำนวยการตัวจริงยังไม่โผล่มาแสดงอำนาจเร็ว ๆ นี้ ลีออนคิดว่า รองอาจารย์ใหญ่อาจจะยึดตำแหน่งแทนได้เลยก็เป็นได้
ก็แน่ล่ะ… มังกรเฒ่าตัวนี้ปรากฏตัวบ่อยเสียยิ่งกว่าผู้อำนวยการจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวันสอบเข้า หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน
ขณะพูด เขาโบกแผ่นกระดาษที่เต็มไปด้วยคอมเมนต์สีแดงไปมา ท่าทีภาคภูมิใจของเขาสื่อชัดว่า…
ไม่ใช่ผู้อำนวยการที่เป็นคนตรวจเรียงความของโนอา—แต่เป็นเขาต่างหาก!
“อย่างที่คาดไว้ บทความของโนอาทำให้ท่านผู้อำนวยการโอเล็ตต์พอใจมาก ท่านกล่าวว่า ถ้าคะแนนเรียงความของมังกรน้อยมีเต็มร้อยคะแนน ท่านจะให้โนอา เก้าสิบห้า”
“ทำไมต้องหักห้าคะแนนเหรอ?”
‘เพราะห้าคะแนนมันหักไม่พอ?’ ลีออนแอบประชดในใจ ขณะมองท่าทางตื่นเต้นของรองอาจารย์ใหญ่
รองอาจารย์ใหญ่หัวเราะอย่างพอใจ ก่อนจะเฉลย
“เพราะ…”
“ท่านผู้อำนวยการบอกว่า—‘อ่านไม่จุใจพอ!’”
“ครั้งหน้าถ้ามีการประกวดเรียงความอีก เราต้องให้โนอาเขียนให้มากขึ้น! ท่านผู้อำนวยการยินดีที่จะสละเวลาครึ่งชั่วโมงเพื่อตรวจเรียงความของโนอาโดยเฉพาะเลยทีเดียว!”
อ๋อ เข้าใจล่ะ…
พูดให้ชัดก็คือ—“ไม่ได้อ่านเรียงความของโนอาก็เหมือนมีมดไต่ทั่วตัว”
พักเรื่องคอมเมนต์ไว้ก่อน รองอาจารย์ใหญ่เบนสายตาออกไปนอกหน้าต่าง หรี่ตาภายใต้คิ้วสีขาวของเขา ก่อนจะถอนหายใจยาว
“คำพูดของท่านผู้อำนวยการทำให้ฉันนึกถึงสมัยหนุ่ม ๆ ตอนที่เฝ้าติดตามคอลเลกชันเรียงความของนักเขียนคนหนึ่งในหนังสือพิมพ์ของมังกร”
“นักเขียนท่านนั้นอัปเดตรายสัปดาห์ และทุกครั้งที่อ่านจบ ฉันก็รู้สึกว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาช่างยาวนานเหลือเกิน”
“มันเหมือนกับว่า… มี ‘อาการเสพติด’ ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย และมีเพียงบทความตอนต่อไปเท่านั้นที่จะช่วยบรรเทามันได้”
“ฉันเชื่อว่า…” รองอาจารย์ใหญ่พูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านผู้อำนวยการอาจจะกำลังติดเรียงความของโนอาเข้าแล้วก็เป็นได้”
จากนั้นเขาก็ละสายตาจากหน้าต่าง หันไปหาครูประจำชั้นที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ว่าแต่ ครูประกาศอันดับของเรียงความในชั้นเรียนไปแล้วหรือยัง?”
ครูประจำชั้นพยักหน้า “ค่ะ ประกาศไปแล้ว”
ทันทีที่ได้ยิน พ่อของลาลที่นั่งอยู่ด้านล่างก็รู้สึกสะดุ้งวาบขึ้นมาในใจ เขารีบลุกพรวดขึ้นพร้อมกล่าวว่า
“ท่านรองอาจารย์ใหญ่! ท่านไม่ได้คิดจะยกเลิกอันดับที่หนึ่งของลูกชายผมใช่ไหม?! ผมบอกไว้ก่อนเลยนะ นี่เป็นความสามารถของลูกชายผมล้วน ๆ และจะถูกเพิกถอนไม่ได้เด็ดขาด!”
คำพูดของพ่อของลาลฟังดูหนักแน่นราวกับเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แถมยังทำให้ตัวเองดูเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพื่อเรียกคะแนนสงสารจากคนอื่น
แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป “ความสามารถแท้จริง” ที่เขาพูดถึงนั้น… มันแท้จริงจริงหรือ?
เรียงความของโนอาไม่ได้ถูกตัดออกจากการประเมินเพราะความผิดพลาด หรือถูกส่งล่าช้า
ตรงกันข้าม—มันถูกส่งไปให้ แองเจลินา โอเล็ตต์ ผู้อำนวยการของโรงเรียน ผู้ที่มีมาตรฐานสูงกว่าและคาดหวังในคุณภาพของเรียงความมากกว่าครูประจำชั้นเสียอีก
และภายใต้มาตรฐานที่เข้มงวดนั้น เรียงความของโนอายังคงได้รับคำชื่นชมอย่างสูง
สิ่งนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ถึงคุณภาพที่ ปฏิเสธไม่ได้ ของมัน
หากโนอาได้เข้าร่วมการประเมินตามปกติ การคว้าที่หนึ่งคงไม่ใช่ปัญหาเลย
พูดง่าย ๆ ก็คือ “ความสามารถแท้จริง” ที่พ่อของลาลคุยโวเอาไว้ อย่างมากก็คงอยู่แค่ อันดับสอง เท่านั้น
มันเหมือนกับการเปรียบเทียบนักเรียนหัวกะทิ กับ อัจฉริยะตัวจริง
ทั้งสองคนสอบได้คะแนนเต็มร้อยในข้อสอบปลายภาค
แต่นักเรียนหัวกะทิกลับเชื่อมั่นอย่างภาคภูมิใจว่าตัวเอง “เก่งเทียบเท่าอัจฉริยะ” โดยไม่รู้เลยว่า…
คะแนนเต็มของเขาอยู่ที่ 100 เพราะข้อสอบมีให้แค่ 100 คะแนน
ส่วนอัจฉริยะตัวจริงได้ 100 เพราะข้อสอบมีแค่ 100 ข้อให้ทำเท่านั้น!
แล้วสถานการณ์แบบนี้จะแก้ได้ยังไง?
คำตอบก็คือ “ทำแบบโนอา”
—เผชิญกับความท้าทายที่เข้มงวดกว่า และยังคงโดดเด่นได้อย่างแท้จริง!
**ปล.จากผู้แปล คิดว่าน่าจะทรงเดียวกับเรื่องจอมโหดกระทะเหล็ก r ที่ผลชนะของจางมันชนะบลูกับโอทานิ คะแนน100ที่ฉิวเฉียดกับ100ที่เหนือชั้นมันต่างกันยังไง
ลีออน รอสไวส์ และผู้ปกครองหลายคนที่อยู่ในห้องต่างเข้าใจหลักการข้อนี้ดี
แต่พ่อของลาลกลับยังคงยึดมั่นกับ “ที่หนึ่งที่ได้มาอย่างยากลำบาก” ของลูกชายสุดชีวิต
แม้แต่ลาลเองก็ทนไม่ไหว เขาดึงแขนเสื้อพ่อเบา ๆ แล้วกระซิบว่า
“พ่อครับ เกรดของโนอาดีกว่าผมมาตลอดเลยนะ ถ้าแข่งตามปกติ ผมว่าเธอได้ที่หนึ่งอยู่ดี…”
ไอ้ลูกบ้านี่!
ฉันเป็นพ่อของแกนะ! หรือว่าโนอาต่างหากที่เป็นพ่อของแก?!
เมื่อเห็นสีหน้าของพ่อของลาล รองอาจารย์ใหญ่ก็กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“กรุณาวางใจได้เลย ที่หนึ่งของลาลเป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับ ฉันจะไม่เพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงอันดับของเขา นี่คือเกียรติที่เขาสมควรได้รับ และไม่มีใครจะมาแย่งไปจากเขา”
ลีออนเห็นด้วยอย่างเต็มที่ เพราะจริง ๆ แล้ว มันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไรเลย
ด้วยเหตุผลสองข้อ—
ข้อแรก ถ้าหากอันดับของลาลถูกลดจากที่หนึ่งไปเป็นที่สอง แม้ว่าจะไม่มีใครสนใจว่าพ่อของลาลจะโวยวายอะไรอีกแค่ไหน
แต่ผลกระทบที่แท้จริงจะตกอยู่กับ ลาลเอง
หลังจากเหตุการณ์ที่เขาพยายามรังแกโนอาแต่สุดท้าย ตัวเองกลับแขนหักเสียเอง ตั้งแต่นั้นมา มังกรน้อยตัวนี้ก็ดูจะเป็นเด็กดีขึ้นมาก
เขาเริ่มตั้งใจเรียนมากขึ้น ใส่ใจกับบทเรียนในห้องมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีทางคว้าที่หนึ่งมาได้แน่
ส่วนเหตุผลข้อที่สอง…
จากน้ำเสียงและคำพูดของรองอาจารย์ใหญ่ มันชัดเจนอยู่แล้วว่า ในระดับของเรียงความของโนอา การเข้าร่วมการประเมินในชั้นเรียนแทบจะไม่มีความหมายเลย
จริงอยู่…
คนที่ “แข็งแกร่งเกินไป” ก็มักจะไม่ได้ถูกนำมานับคะแนนอยู่ดี
ลูกสาวที่ดี ก็ต้องเดินตามรอยพ่อสิ!
เมื่อได้ยินคำพูดของรองอาจารย์ใหญ่ ในที่สุดพ่อของลาลก็เงียบลงแต่โดยดี
รองอาจารย์ใหญ่ถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะหันไปมองครูประจำชั้นด้วยสายตาที่สื่อความหมายบางอย่าง
ครูประจำชั้นเข้าใจทันที และรีบสวมบทบาทผู้ช่วยอย่างเต็มตัว
“ท่านรองอาจารย์ใหญ่ ในเมื่อเรียงความของโนอาเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แล้วทำไมไม่อ่านให้ทุกคนฟังล่ะคะ? โนอา หนูว่าไง?”
โนอาลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันไปมองรองอาจารย์ใหญ่
“ได้ค่ะ”
ดวงตาของรองอาจารย์ใหญ่หยีลงจนเป็นเส้นเล็กขณะยิ้มอย่างพึงพอใจ
ได้อ่านเรียงความของนักเรียนตัวอย่างจากครอบครัวต้นแบบด้วยตัวเอง นี่มันเป็นเกียรติขนาดไหนกัน!
รองอาจารย์ใหญ่แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะอ่านเรียงความชิ้นนี้—ผลงานที่เต็มไปด้วยความรักและสายใยครอบครัว—ให้ทุกคนได้รับฟัง
เมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา ลีออนและรอสไวส์ก็เริ่มมีเหงื่อแตกพลั่ก
เพชฌฆาต… กับกิโยตีนแห่งความอับอายทางสังคมของเขา…
กำลังรอเวลาลงดาบอย่างใจจดใจจ่อ!
มือของทั้งคู่เผลอเอื้อมไปหากันข้างหลังเก้าอี้ของโนอา ก่อนจะจับกันแน่นโดยไม่รู้ตัว
ต้องการแบ่งปันความอบอุ่นกันสินะ?
ไม่… ไม่ใช่แค่นั้น
เพราะครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย พวกเขาจะเผชิญหน้ามันไปด้วยกัน!
“แต่…”
โนอาพูดขึ้นอีกครั้ง “หนูอยากอ่านเองค่ะ”
รองอาจารย์ใหญ่ชะงักไป “หนูจะอ่านเองเหรอ?”
โนอาพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ค่ะ”
พ่อแม่ทั้งสอง ที่นั่งอยู่ข้างซ้ายและขวาของเธอ เงยหน้าขึ้นมองหน้าของลูกสาวพร้อมกัน
ลูกรัก… จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ?
ต้องแย่งกิโยตีนจากมือมังกรเฒ่า แล้วยกขึ้นด้วยตัวเอง เพื่อประหารพ่อแม่ให้ตายทั้งเป็นในงานนี้เลยไหม?
เฮ้อ…
เอาเถอะ…
ถูกลูกสาวประหารเอง ยังดีกว่าให้คนอื่นลงมือ…
ทั้งคู่ค่อย ๆ คลายมือออกจากกันเล็กน้อย เหลือเพียงปลายนิ้วที่ยังคงเกี่ยวกันไว้
จากนั้นก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ รู้สึกเหมือนลูกโป่งที่ค่อย ๆ ปล่อยลมออกทีละนิด
แน่นอนว่า รองอาจารย์ใหญ่ไม่มีทางปฏิเสธคำขอของโนอา
“ตกลง โนอา งั้นเชิญขึ้นมาอ่านเลย”
โนอาเดินขึ้นไปบนแท่น หยิบเรียงความของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะเหลือบมองพ่อแม่ที่นั่งอยู่ด้านล่าง
จากนั้น เธอก็เริ่มอ่านอย่างตั้งใจ
“พวกเขาเป็นคู่รักที่เต็มไปด้วยความรัก… แต่ก็แปลกประหลาดมากเช่นกัน”
“แต่นั่นไม่ได้ทำให้หนูชอบพวกเขาน้อยลงเลย หนูกลับชอบมาก… มากจนหมดหัวใจ”
น้ำเสียงของโนอาไม่ได้เร่าร้อนเหมือนสองมังกรสาวที่อ่านก่อนหน้า แต่มันกลับให้ความรู้สึกเยือกเย็น คล้ายกับท่าทางปกติของรอสไวส์
แต่ภายใต้ความเยือกเย็นนั้น กลับซ่อนความรู้สึกอันลึกซึ้งเอาไว้
ทุกจังหวะที่เธอเน้นคำ ล้วนถูกวางมาอย่างเหมาะสม—ไม่อ่อนไป ไม่มากไป
โดยเฉพาะคำว่า “ชอบมาก… มากจนหมดหัวใจ”
มันไม่ได้ฟังดูเหมือนคำพูดของมังกรน้อยทั่วไปเลย
ไม่ใช่การแสร้งทำเป็นเป็นผู้ใหญ่ แต่มันคือ ความรู้สึกจริงใจที่สุด ที่เธอมีต่อพ่อแม่ของเธอ
และเมื่อการอ่านดำเนินต่อไป ลีออนและรอสไวส์ก็เริ่มตระหนักว่า…
เรียงความนี้ไม่ใช่ “เครื่องมือประหารทางสังคม” อย่างที่พวกเขากลัวเลยสักนิด
ตรงกันข้าม—
มันคือ “จดหมายรัก” จากลูกสาวของพวกเขาต่างหาก…
“พวกเขาทำให้หนูเข้าใจว่า ‘ความรัก’ ไม่ใช่การเดิมพัน แต่เป็นการเดินทาง… การเดินทางที่ต้องไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย”
“ถ้าความรักเปรียบเหมือนตราชั่ง ในครอบครัวของหนู มันคงไม่มีข้อสงสัยเลยว่าตราชั่งนี้จะเอียงไปทางหนูกับน้องสาวเสมอ เพราะคุณพ่อกับคุณแม่ได้วางความรักทั้งหมดไว้ฝั่งของพวกเรา”
เดิมทีลีออนคิดว่ามันอาจเป็นเพียงมุมมองเกี่ยวกับ “ความรักที่ผิดแปลกไปจากปกติ”
แต่ทุกประโยค ทุกบรรทัดกลับเปี่ยมไปด้วย ความรักอันบริสุทธิ์และลึกซึ้ง ที่โนอามีต่อพ่อ แม่ และพี่สาวของเธอ
บางทีคำว่า “ลึกซึ้ง” อาจจะดูเป็นคำที่หนักเกินไปสำหรับเด็กคนหนึ่ง
แต่ลีออนรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
ในเวลาเพียงแปดร้อยคำ เรียงความของโนอาก็ดำเนินมาถึงตอนจบ…
ลีออนคิดว่า โนอาอาจจะกล่าวยกย่องต่อไปอีก อาจจะพยายามขยายแนวคิดของเรื่องให้ยิ่งใหญ่ขึ้น
แต่… ตอนจบของเธอ ไม่เป็นแบบนั้นเลย
เธอเพียงแค่วางกระดาษลง สีหน้าจริงจังและสงบนิ่ง ก่อนจะก้มลงมองลีออนที่นั่งอยู่ด้านล่าง
พ่อกับลูกสาว—ถูกคั่นกลางด้วยแท่นบรรยาย สบตากัน—หนึ่งสูง หนึ่งต่ำ
ผ่านไปครู่หนึ่ง โนอาก็พูดขึ้นเบา ๆ
“หนูมีคุณพ่อที่ดีที่สุดในโลกค่ะ”
เธอเว้นวรรคไปชั่วอึดใจ
แล้วรีบหันไปทางรอสไวส์ที่อยู่ข้าง ๆ อย่างรวดเร็ว
“แล้วก็คุณแม่ด้วยค่ะ!”
เดิมที ในเรียงความของโนอา เธอเขียนไว้ว่า—”หนูมีคุณพ่อและคุณแม่ที่ดีที่สุดในโลก”
เมื่อเทียบกับอุปมาอุปไมยและถ้อยคำที่ลึกซึ้งก่อนหน้านี้ ประโยคสรุปนี้ดูจะธรรมดาไปหน่อย
แต่มีเพียง ลีออนและรอสไวส์เท่านั้น ที่จับสังเกตถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในคำพูดนี้ได้—
ทุกครั้งที่โนอาพูดถึงพ่อแม่ ถ้าทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน เธอมักจะเรียก “แม่” ก่อน แล้วค่อยเรียก “พ่อ”
แต่ครั้งนี้…
เธอเอ่ยถึง “พ่อ” ก่อน “แม่”
***
จบ116
คห.ผู้แปล เอาจริงๆมันเริ่มมาพีคความรู้สึกก็ตอนนี้แหละ ว่าจะปลดล็อความรู้สึกที่มีกำแพงกั้นระหว่างลีออนกับลูกสาวมันต้องทำไงบ้าง อย่างน้อยเรื่องความรักของลูกที่มีต่อพ่อ ก็เขียนได้ดีพอให้เราอ่านได้เรื่อยๆนะ ถึงจะไม่ว้าวแบบรัก18+จัดหนักของผัวเมีย แต่มันก็พอใจฟูได้ระดับนึงเลย
MANGA DISCUSSION