“นี่สิ ผลงานชิ้นเอก!”
“แล้วอันนี้ล่ะ อืม… หายากจริงๆ”
“และอันนี้ ผมขอตั้งชื่อว่า— ศิลปะขั้นสุดยอด!”
ทุกครั้งที่ลีออนวางรูปถ่ายลงบนโต๊ะ ใบหน้าของรอสไวส์ก็ยิ่งหมองลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงรูปสุดท้าย เธอหยิบขึ้นมาแบบสุ่มแล้วเผามันด้วยเปลวไฟมังกร
แต่ดูเหมือนลีออนจะไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
เอาเลย เผาได้เผาไปเหอะ ก็มาดิคร้าบบบ
เพราะเขายังมีสต็อคไว้อีกเพียบ!
เมื่อมองท่าทีใจเย็นของลีออน รอสไวส์ก็เดาได้ทันทีว่าเขาต้องเตรียมรูปพวกนี้ไว้มากกว่าที่เห็น
เขา… เขาแอบเข้ามาถ่ายรูปกระต่ายสาวสุดน่าอายพวกนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
แถมยังมีรูปหมู่ด้วยอีกต่างหาก!
เพี้ยะ—
ลีออนวางมือบนไหล่ของรอสไวส์ พร้อมทั้งเย้าแหย่ยัยมังกรที่ความอับอายและความโกรธกำลังจะระเบิดเต็มที่
“อยากรู้ล่ะสิว่าผมถ่ายรูปพวกนี้ตอนไหน”
ดวงตาของมังกรสีเงินจ้องมองลีออนเขม็ง ถ้าเป็นเวลาอื่น ลีออนคงหมอบกราบอยู่แทบเท้าเธอ พร้อมอ้อนวอนขอความเมตตา
แต่เพราะเขากล้าหยิบรูปพวกนี้ออกมาโชว์หน้าตาเฉย โดยไม่กลัวว่าเธอจะทำลายเขา รอสไวส์ยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องมีไพ่เด็ดซ่อนอยู่
ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามและตัดสินใจรอดูว่าลีออนยังซ่อนไพ่ใบอื่นไว้อีกหรือไม่
เมื่อเห็นรอสไวส์แค่จ้องเขาด้วยความอับอายและโกรธโดยไม่พูดอะไร ลีออนจึงพูดต่อ
“ยังจำได้ไหม ครั้งสุดท้ายที่เธอใช้ ‘อาคมโลหิต’ กับผมเพราะอยากแก้แค้น?”
ณ จุดนี้ รอสไวส์เข้าใจทุกอย่าง
เธอควรจะเดาได้ตั้งนานแล้ว
ในช่วงวันที่เธอหมดสติไป ลีออน เจ้าคนเจ้าเล่ห์นี่คงไม่ได้แค่นั่งรอให้เธอฟื้น
นอกจากจะออกสำรวจรอบๆ บริเวณภูเขาหลังของวิหารมังกรเงินแล้ว เขาต้องทำอะไรบางอย่างแน่นอน!
แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเป็น…เรื่องแบบนี้!
ลีออนมองดูสีหน้าของรอสไวส์อย่างพึงพอใจ
ในตอนนี้ ยัยมังกรไม่ต่างอะไรจากปลาปักเป้ากำลังจะระเบิดด้วยความโกรธ
แต่น่าเสียดายสำหรับเธอ ลีออนถือจุดอ่อนสำคัญของเธอไว้ในมือ
ไม่ว่าเธอจะโกรธแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถระเบิดออกมาได้
นี่หรือคือความรู้สึกของการควบคุมชะตากรรมของคนอื่น?
มันช่างน่าพอใจยิ่งกว่าการเชื่อมโยงด้วยรอยสักมังกรเสียอีก!
รอสไวส์กัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะเหลือบมองภาพถ่ายหลายใบที่วางอยู่บนโต๊ะ
“นายคิดจะใช้สิ่งนี้มาขู่ฉันงั้นเหรอ?”
ลีออนส่ายศีรษะ “ไม่ ไม่เลย ฉันไม่เคยบอกสักคำ มีแต่เธอเองต่างหากที่พูดว่า ถ้าใส่ชุดกระต่าย เธอจะยอมทำตามที่ฉันสั่งใช่ไหมล่ะ?”
“นาย…!”
เธอพูดเร็วเกินไป
ถูกเจ้าเล่ห์คนนี้เล่นงานเข้าให้
จริง ๆ แล้ว รอสไวส์ไม่มีความจำเป็นต้องรักษาคำพูดต่อเชลยของตัวเอง เธอพูดไปแล้วแต่ไม่ทำตาม ลีออนจะทำอะไรเธอได้?
ในอดีต เธอเคยใช้ข้ออ้างนี้เพื่อบังคับลีออนหลายครั้ง ตราบใดที่เธอสามารถขัดต่อความตั้งใจของเขาได้ นั่นถือเป็นการทรมานที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเขา
แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม
ไม่เพียงแต่เธอจะพูดบางอย่างอย่าง “ให้เธอทำตามใจชอบ” แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ลีออนยังมีไพ่เหนือกว่า ที่สามารถทำลายเธอได้อย่างสิ้นเชิง
ตามคำกล่าวที่ว่า “คำพูดที่เอ่ยออกไปย่อมเป็นเสมือนคำทำนาย”… ตอนนี้ เธอทำได้เพียง… ให้เขาทำตามใจชอบ
“แล้วนายต้องการให้ฉันทำอะไรกันแน่?” รอสไวส์ถาม
ลีออนแสร้งทำเป็นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เธอไม่ได้บอกเองหรือว่า เธอจะไม่มีวันใส่ชุดกระต่ายให้ฉันดูตลอดชีวิต? แต่รูปพวกนี้ ฉันถ่ายไว้ตอนเธอสลบไป”
“จากนิสัยของเธอ ฉันรู้ว่าเธอคงไม่พอใจแน่ ๆ เพราะงั้นมาทำแบบนี้กันดีกว่า ใส่ชุดกระต่ายมาให้ฉันดูอีกรอบตอนนี้เลย” ลีออนพูดด้วยท่าทีเรียบเฉย
“ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ?” รอสไวส์ถามเสียงเย็น เธอจำเป็นต้องรู้ว่าขอบเขตของลีออนคืออะไร และเขาจะใช้รูปพวกนี้กดดันเธอได้มากแค่ไหน
“ปฏิเสธเหรอ? ไม่มีปัญหาเลย แต่ว่าครั้งหน้าที่เราไปบ้านของพี่สาวเธอ บางทีอาจมีการนำรูปชุดกระต่ายพวกนี้ไปโชว์ แล้วเราก็จะได้ดูด้วยกันทั้งครอบครัวไง”
“…เก่งมาก คาสโมด เก่งจริง ๆ” รอสไวส์คิดอย่างขมขื่น ไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตสังคมของฉัน แต่ยังทำให้พี่สาวของฉันกลายเป็นคนประหารอีกด้วย นายมันร้ายกาจจริง ๆ!
หากอิซาเบลล่าได้เห็นรูปพวกนี้ รอสไวส์คงไม่กล้าสบตาพี่สาวได้อีกอย่างต่ำสองร้อยปี
หมากนี้ของลีออนเล่นงานรอสไวส์ได้จัง ๆ ทิ้งเธอไว้โดยไม่มีทางสู้
ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่รอสไวส์ก็จำต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
“ฉัน… ฉันไม่มีชุดกระต่าย” รอสไวส์พูดพลางกอดตัวเองและหลุบตาลง
“อย่างนั้นเหรอ? เอาล่ะ ฉันก็ไม่ได้ใจร้ายอะไรขนาดนั้น” ลีออนตอบ
รอสไวส์เงยหน้าขึ้นมา เขาจะ…ปล่อยเธอไปจริง ๆ งั้นเหรอ? หรือว่าเขาจะใจดีได้ขนาดนี้?
“ในเมื่อเธอไม่มีชุด งั้นฉันให้เวลาเธอหนึ่งชั่วโมงไปเตรียมตัว เป็นไง ใจกว้างพอมั้ยครับ?” ลีออนพูดต่อ
“ลีออน นายมัน…” รอสไวส์เริ่มพูดแต่หยุดไป
ลีออนมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนัง “ตอนนี้ห้าโมงห้าสิบ ฉันจะปัดเศษให้แล้วกัน ให้เวลาเธอเพิ่มสิบนาที ตอนหนึ่งทุ่มคืนนี้ ผมจะไปที่ห้องเธอเพื่อตรวจผลงาน”
ลีออนเอนตัวเข้าไปใกล้รอสไวส์ ลมหายใจของทั้งคู่สัมผัสกันจนรู้สึกได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากแก้มแดงระเรื่อของรอสไวส์
“ทำตัวน่ารัก ๆ หน่อยสิ? เธอคงไม่อยากให้พี่สาวของเธอรู้เห็นภาพกระต่ายน้อยพวกนี้หรอก ใช่ไหม?” ลีออนพูดยิ้มเยาะ
“หุบปากไปเลย ฉันจะไปหามาใส่ละ!” รอสไวส์ตอบกลับเสียงห้วนก่อนจะผลักเขาออกไปและรีบเดินออกจากห้องไปด้วยเสียงส้นสูงดัง “ตึก ตึก”
ปัง—
เสียงปิดประตูที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ลีออนหัวเราะเบา ๆ “ในที่สุดก็มาถึงตาฉันเป็นฝ่ายคุมเกมบ้าง”
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ลีออนมาถึงห้องของรอสไวส์ เขาเห็นเธอนั่งอยู่บนขอบเตียง ในท่าทีคล้ายเด็กสาวที่กำลังจะออกเรือน ร่างของเธอถูกคลุมไว้ด้วยเสื้อโค้ทยาวสีดำที่ปกปิดตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอยังคงไม่จางหาย เพิ่มเสน่ห์ลึกลับบางอย่างให้กับเธอ
“ฉัน… ฉันหาหูกระต่ายไม่เจอ” รอสไวส์เงยหน้าขึ้นมองลีออน พลางพูดเบา ๆ
“ทำไมถึงหามันไม่เจอ?” ลีออนถาม
จริง ๆ แล้ว ตอนที่ลีออนถ่ายรูปพวกนั้น เขาก็ไม่ได้มีหูกระต่ายเหมือนกัน สุดท้ายเขาก็แค่ใช้ผมของรอสไวส์มาดัดแปลงเป็นหูกระต่ายแทน
ดังนั้นเขาเข้าใจดีว่าทำไมตอนนี้รอสไวส์ถึงหามันไม่เจอ แต่เขาแค่อยากหยอกแม่มังกรคนนี้เล่น ๆ เพื่อให้เธอได้สัมผัสกับความอึดอัดที่เขาเคยเจอบ้าง!
รอสไวส์กัดริมฝีปากแดงเบา ๆ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สุด แต่แฝงความหนักแน่นในคำพูดว่า “ฉันหามันไม่เจอจริงๆ… ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น”
ลีออนทำท่าเคร่งขรึมเหมือนผู้มีอำนาจ “เอาล่ะ ไหน ๆ มันก็เป็นครั้งแรกของเธอ ฉันจะผ่อนปรนให้หน่อยก็แล้วกัน”
ลีออนเอนหลังพิงเก้าอี้ ไขว่ห้างและชี้ไปที่เสื้อโค้ทของรอสไวส์ “แล้วใต้เสื้อโค้ทตัวนี้คือ…”
รอสไวส์ไม่ได้ตอบทันที เธอถามกลับแทน “ถ้าฉันยอมทำตามคำสั่งนาย แล้วนายจะทำลายรูปพวกนั้น รวมถึงสำเนาหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง ใช่ไหม?”
“แล้วแต่อารมณ์ละกัน” ลีออนตอบโดยไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน
ฟังดูเหมือนว่าเขามีสำเนาเก็บไว้อยู่จริง ๆ
รอสไวส์หันมามองเขา “นายทำสำเนาไว้ทั้งหมดกี่ชุด?”
สมองของลีออนสะดุดเล็กน้อย ก่อนตอบกลับว่า “สองชุด”
ถึงแม้ว่าฉันจะได้เปรียบ แต่ก็ยังต้องมีลูกล่อลูกชนสักนิด การจัดการกับมังกรตัวนี้ ฉันประมาทไม่ได้เด็ดขาด
รอสไวส์สูดลมหายใจเข้าลึกและค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมา “อย่าให้ฉันเจอสำเนาพวกนั้นเชียวนะ ลีออน ไม่อย่างนั้น…”
ลีออนยักไหล่แบบไม่ใส่ใจ “นั่นเป็นปัญหาของอนาคต เธอก็รู้ ฉันน่ะใช้ชีวิตแบบไม่คิดมากนัก เพราะงั้นมาสนุกกับปัจจุบันกันเถอะ อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้เลย ฝ่าบาทบันนี่ ได้โปรดถอดเสื้อโค้ทออกเถอะ”
รอสไวส์หลับตาลง ก่อนจะค่อย ๆ ถอดเสื้อโค้ทออกด้วยความจำใจ
ภายในเสื้อโค้ทนั้น แน่นอนว่าคือชุดบันนี่เกิร์ลเต็มรูปแบบ ถุงน่องสีดำแนบสนิทกับเรียวขาที่สง่างาม ในขณะที่ชุดบอดี้สูทคอเว้าต่ำเผยให้เห็นสัดส่วนที่เย้ายวนของรอสไวส์อย่างไม่มีกั๊ก
หน้าอกที่อวบอิ่มพอดีตัวถูกโอบรัดไว้ใต้เนื้อผ้ารัดรูป โดยมีส่วนหนึ่งของรอยสักมังกรเผยให้เห็นออกมาครึ่งหนึ่ง ลากต่อไปจนถึงร่องอกด้านหน้า
เนื่องจากหา “หูกระต่าย” และ “หางกระต่าย” ไม่ได้ บริเวณเอวด้านหลังของชุดบันนี่เกิร์ล จึงมีเพียงแค่หางมังกรสีเงินของเธอ
ที่น่าประหลาดใจคือ มันไม่ได้ดูแปลกแยกเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเพิ่มเสน่ห์ใหม่ ๆ ให้กับเธออย่างน่าประหลาด บันนี่เกิร์ล + มังกรสาว การผสมผสานระหว่างสิ่งที่ลีออนชื่นชอบที่สุดกับสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในแบบที่น่าทึ่ง!
สีหน้าของรอสไวส์ดูอึดอัดและเกร็งเล็กน้อย ขาของเธอถูกกดเข้าหากันแน่น ในขณะที่ปลายหางมังกรของเธอห้อยลงไปที่เท้า ดูเหมือนเธอจะหาที่วางมันไม่ได้อย่างสบายใจ เธอดูเหมือนจะไม่สามารถผ่อนคลายได้เลย
และก็เป็นเพราะท่าทีขวยเขินและอึดอัดนี้เอง ที่จะไปกระทบใจของเหล่าผู้ชื่นชอบบันนี่เกิร์ลบางกลุ่มได้อย่างจัง
“ดูพอรึยัง?”
เสียงของรอสไวส์เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย พร้อมกับแก้มที่แดงระเรื่อ “แล้วเราจะทำอะไรต่อไป?”
ลีออนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหยิบแส้เล็ก ๆ ออกมา—แส้ที่รอสไวส์เคยใช้ตอนสวมบทเป็นครูสอนเขามาก่อน
“เอ่อ แฮ่ม…คุณเมลกวี นอนลงเดี๋ยวนี้ เพราะเรากำลังจะ…เริ่มบทเรียนแล้ว”
รอสไวส์: …
เจ้านักล่ามังกร ถ้าฉันได้โอกาสบ้างนะ นายจะต้องเจอฉันเอาคืนแน่!
****
จบ105
คห.ผู้แปล ตอนอ่านนี่ฮามากเลยนะ พลาดคำพูดนิดเดียว ลีออนเอาใหญ่เลย ถึงบอกว่าถ้ามองตามเหตุผล ยังไงโอกาสที่ภาพพวกนี้จะไปถึงพี่สาว มันเป็นไปไม่ได้ แค่ยัยมังกรไม่พาไปเยี่ยมก็จบละ แต่ลืมๆไปซะ แล้วมาสนุกกับความซึนและฮาของผัวเมียคู่นี้ดีกว่า บอกเลยว่า บันนี่เกิร์ลมันแจ่มขนาดนี้่ พวกพี่ๆเขาถึงจัดเต็มกันซี้ดซ้าดระดับนึงเลย
ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION