ตอนที่ 1 ความว่างเปล่าสู่จุดเริ่มต้น
ล่องลอยภายในความมืดที่สุดแสนจะหยั่งถึง และภายในความมืดก็มีเพียงแค่ความว่างเปล่าโอบล้อมรอบกาย ไม่มีทั้งรูป รส กลิ่น เสียง มีเพียงความรู้สึกที่ผสมปนเปไปมา ทั้งความโกรธ ผิดหวัง เศร้า แค้น แค้น…..
อารมณ์พวกนั้นผสมปนเปไปมาจนยากที่จะยั้งสติไว้ได้
ความจริงที่ว่าตนนั้นล้มเหลวในฐานะอัศวินศักดิ์สิทธิ์อันทรงเกียรตินั้นทำให้หัวใจของตนแทบจะแหลกสลายและฟื้นคืนขึ้นใหม่ แต่ก็จะแหลกสลายไปอีกครั้งเป็นวงจรอุบาท
ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าระยะเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว ตัวเขาที่จมอยู่ในความรู้สึกอันเดือดพล่านและเป็นทาสต่อมันไม่อาจล่วงรู้ได้
จนกระทั่งแสงสว่างปรากฏขึ้นอีกครั้ง
แสงสว่างที่สว่างจ้าจนทำให้อยากที่จะเอามือขึ้นมาบดบังมันหลังจากอยู่ภายในความมืดมาระยะหนึ่ง
จากแสงสว่างจ้าก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นแสงสว่างสีเหลืองส้มและค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นแสงสว่างที่สบายตา
ต่อจากรูปก็คือเสียง
เสียงของเด็กทารกที่ร้องออกมาดังก้องไปทั่วบริเวณ จากมุมมองสายตาของเขาที่เห็นเป็นหญิงสาววัยกลางคนคนหนึ่งที่แต่งชุดเมดก็ค่อยๆอุ้มตัวเขาขึ้นมาก่อนที่จะส่งมอบไปให้หญิงสาวที่นับว่าเป็นวัยรุ่นอยู่ก็ไม่ผิด
เธอมีสีผมสีขาวนวล แต่ก็ไม่ใช่หญิงชราแต่อย่างใด ผมสีขาวนั้นมาจากพันธุกรรมแต่กำเนิดของนาง ไม่ใช่มาจากการเปลี่ยนแปลงจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
รูปร่างหน้าตาสวยสดงดงามอย่างหมดจด ถ้าเทียบกับเหล่าขุนนางที่ตนเคยเจอมา เธอถือว่าเป็นหญิงสาวระดับแนวหน้าเลยทีเดียว
“คุณคะ ดูสิ”
หญิงสาวยิ้มอย่างงดงามและหันไปพูดกับใครบางคน ไม่นานก็ได้คำตอบ ผู้ชายดูผอมเพรียว ใบหน้ายังอ่อนเยาว์อยู่แต่ก็บรรลุนิติภาวะแล้วไม่ผิดแน่เดินเข้ามาและมองมาที่ตัวเขา
“อืม ดูแล้วสุขภาพแข็งแรง”
ชายผมสีดำขลับแต่งชุดดูเป็นทางการชะโงกหน้ามาดูและก็ออกไปราวกับไม่ได้ใส่ใจกับตัวเขาขนาดนั้น
“แบบนี้น่าจะคาดหวังได้”
ชายคนนั้นพูดเช่นนั้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบจากนั้นก็มีเสียงดังแกร๊กและปิดท้ายด้วยแกร็กอีกที
สีหน้าของหญิงสาวจึงเปลี่ยนมาเป็นเศร้าสร้อยลงทันตาและจ้องมองตัวของเขาลงมาด้วยสายตาสงสารอย่างหาที่สุดมิได้
“ลูเซียน……..ชื่อของลูกคือลูเซียน”
‘ลูเซียน???’
เขาได้แต่ครุ่นคิดอยู่ภายในใจ ตัวเขามีชื่อว่า อลัน แม็กเวล แต่แรกเริ่มเดิมทีตัวเขาเป็นเพียงทาสติดที่ดิน สถานะนับว่าอยู่ต่ำกว่าสามัญชนก็ว่าได้
แต่ด้วยความโชคดีและความพากเพียรจึงทำให้ตัวเขาที่แต่เดิมไม่ควรมีโอกาสก็ได้รับโอกาสในที่สุด อลันเข้าหน่วยอัศวินปกป้องอาณาจักรที่มีชื่อว่า หมาป่าโคลน เป็นหนึ่งในหน่วยอัศวินที่มีอยู่ทั่วๆไป เป็นเพียงหน่วยอัศวินเล็กที่มีสมาชิกหน่วยไม่ถึงยี่สิบคนด้วยซ้ำ
ถัดจากความโชคดีที่ทำให้เขาได้รับโอกาสในการเข้าร่วมหน่วยอัศวินทั้งที่ตนมีฐานะทาสติดที่ดินก็เป็นความพากเพียร
อลันมีความตั้งใจในเป้าหมายถัดไปว่าจะยกระดับฐานะครอบครัวของเขาให้เลื่อนขึ้นจากทาสติดที่ดินเป็นสามัญชน ไม่สิ เขามุ่งมั่นมากกว่านั้น หมายจะให้ครอบครัวของตนมีฐานะเป็นขุนนาง
ด้วยเหตุนั้นเขาจึงตั้งเป้าหมายว่าจะเลื่อนขั้นเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักรให้ได้ สุดท้ายเขาก็ทำได้ดั่งที่สมใจปราถนาในที่สุด แต่ระหว่างทางนั้นเขากลับสูญเสียไปมากมาย มากมายเหลือเกิน
แต่สุดท้ายตัวเขาก็ทำเป้าหมายของตนสำเร็จและได้เลื่อนขั้นเป็นหนึ่งในสิบสองอัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งราชอาณาจักรคัลแลน
‘ฉันชื่ออลัน….อลัน แม็กเวล หนึ่งในสิบสองอัศวินศักดิ์สิทธิ์อันทรงเกียรติ แล้วแม่หญิงนางนี้กำลังพูดอะไร….ลูเซียน?’
เขาตั้งใจจะขยับตัวให้ลุกขึ้นแต่ก็พบว่าร่างกายของตนนั้นหนักอึ้ง ไม่สามารถยกตัวลุกขึ้นได้ พยายามที่จะพลิกตัวไปทางซ้ายก็ทำไม่ได้เนื่องจากถูกโอบอุ้มอยู่
‘อุ้ม??? ฉันถูกอุ้มอยู่งั้นหรอ!’
ถึงทัศนวิสัยจะไม่เอื้ออำนวยต่อการมอง แต่ตัวเขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงสัมผัสอันอ่อนนุ่มจากแขนของนางผู้นี้ถึงแม้ว่าตนจะถูกห่อด้วยผ้าก็เถอะ
‘นี่ฉัน……เกิดใหม่อีกแล้ว’
ภาพทิวทัศน์ที่เคยสัมผัสมาก่อนเมื่อนานมาแล้ว เป็นภาพทิวทัศน์ที่ทุกคนควรจะลืมไปทั้งหมดแล้ว แต่ไม่ใช่กับตัวเขาที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ภาพทิวทัศน์เช่นนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกสำหรับเขา แต่เขาเคยเห็นตั้งแต่มาเกิดใหม่ในต่างโลกที่แล้ว
ตั้งแต่เขาได้กำเนิดมาเป็นอลันในชาติที่แล้ว
‘ตัวของเราในตอนนี้คือ ลูเซียน อย่างนั้นหรือ?’
หญิงสาวแกว่งแขนที่โอบอุ้มร่างของเขาเบาๆเพื่อหมายที่จะกล่อมตัวเขาให้นอน และก็ได้ผล ความรู้สึกผ่อนคลายเข้าครอบงำตัวของเขาอย่างไม่ยากเย็นนัก เปลือกตาค่อยๆปิดลง และสติรับรู้ต่างๆก็ดับวูบลง
นั่นเป็นตอนที่ตัวเขาได้มาเกิดใหม่เป็นครั้งที่สอง
ระยะเวลาร่วงเลยเป็นหลักปี เขาที่อายุได้สักสามขวบเขาสามารถลุกขึ้นและเดินได้อย่างคล่องแคล่วโดยที่ไม่ล้ม ส่วนตลอดมานั้นก็มีล้มลุกคลุกคลานเป็นธรรมดาของกล้ามเนื้อที่ยังไม่เติบโต
ถึงแม้ว่าร่างกายจะเป็นเด็กและค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่สมองของลูเซียนสามารถคิดได้อย่างที่เด็กทั่วๆไปไม่สามารถทำได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่ตัวเขาฝึกลุกและเดินให้คล่อง เขาก็ได้ฟังเรื่องราวต่างๆผ่านเมดและผู้หญิงผมขาวนวลคนนั้นด้วย
เธอคนนั้นมีชื่อว่า แคลล์ กราฟวาลท์ เป็นภรรยาคนที่สี่ของตระกูลกราฟวาลท์ที่มีหัวหน้าตระกูลกราฟวาลท์ที่มีชื่อว่า โรซาน กราฟวาลท์เป็นสามี แน่นอนว่าแคลล์เป็นแม่ของเขา และโรซาน ชายที่โผล่หน้ามาแค่ตอนที่เขาเกิดเป็นพ่อของเขา
ตระกูลกราฟวาลท์เป็นตระกูลดังที่เบื้องหน้าค้าขายน้ำหอมเป็นหลัก ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงเพราะมีฐานลูกค้าที่เป็นผู้หญิงที่เหนียวแน่น ไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็นกลุ่มผู้สนับสนุน แต่ยังมีผู้ชายในจำนวนไม่น้อยเลยที่รักสวยรักงามเป็นกลุ่มลูกค้า
และแน่นอนว่ามีเบื้องหน้าก็ต้องมีเบื้องหลังเป็นปกติธรรมดาของตระกูลขุนนาง เบื้องหลังของตระกูลกราฟวาลท์คือ เป็นหัวโจกของการค้ามนุษย์และเผ่าพันธ์อื่นๆเช่นกัน
ทั้งหมดนั้นลูเซียนอ่านจากหนังสือเป็นหลัก ส่วนการแอบอาศัยได้ยินจากบทสนทนาก็เป็นเรื่องยากเพราะไม่มีใครจะเอาเรื่องอย่างว่ามานั่งอธิบายให้เด็กทารกฟังหรอกจริงมั้ย
ที่โชคดีคือตนรู้เรื่องเหล่านั้นได้มาจากหลักภาษาที่เป็นภาษาเดียวกันกับตอนที่ตนยังใช้ชีวิตในฐานะอลัน แม็กเวลเมื่อชาติที่แล้ว
‘นั่นก็แสดงว่ามีโอกาสไม่น้อยเลยที่ใลกที่มาเกิดใหม่นี้จะเป็นโลกเดียวกันกับตอนที่ใช้ชีวิตเป็นอลันในชาติที่แล้ว ต้องตรวจสอบดูอีกที’
“ลูเซียน ถึงเวลาหม่ำแล้วน้า~”
“แอ๊~~”
หนึ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับตัวของเขาก็คือตอนที่ต้องดื่มนมจากแคลล์ ถึงแม้ว่าร่างกายจะเป็นเด็ก ไม่สามารถมีอารมณ์ทางเพศได้ แต่ความนึกคิดของตัวเขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว เรียกว่าอยู่ในวัยชราแล้วก็ได้ถ้าต้องนับรวมอายุเมื่อชีวิตแรกสุดแล้ว
ทำให้ตอนต้องดื่มนมจากเต้า ตัวเขาจะรู้สึกผิดบาปอย่างถึงที่สุด ขอละไว้แค่นี้แล้วกันเพราะถ้าสาธยายต่อไปตัวเขาที่เป็นถึงอัศวินศักดิ์สิทธิ์อันทรงเกียรติคงต้องแปดเปื้อนในมลทินเป็นแน่แท้
เรื่องที่สมควรตรวจสอบอีกเรื่องนึงคือ โลกใบนี้มีเวทมนต์หรือไม่ ถ้าไม่มีก็สามารถระบุได้อย่างชัดเจนเลยว่าโลกที่มาเกิดใหม่ใบนี้ไม่ใช่โลกใบเดียวกับตอนที่เป็นอลัน
‘หนังสือเวทมนต์……’
หน้าปกเขียนไว้อย่างเรียบง่าย ปกทำจากหนังของบางสิ่งเป็นสีน้ำตาล ดูเก่าคร่ำครึไปหน่อยแต่เริ่มจากเล่มนี้แล้วกัน
พอได้ตรวจสอบก็รู้ว่าโลกใบนี้มีเวทมนต์จริงๆ แถมระบบพื้นฐานยังเหมือนกับตอนที่ยังเป็นอลันอีกด้วย
การจะใช้เวทมนต์ได้ตามหลักพื้นฐาน ร่างกายของมนุษย์จำเป็นต้องมีแกนมานาอยู่ภายในร่างกายเพื่อที่จะสามารถผลิตมานาออกมาได้ และการใช้เวทมนต์นั้นก็จะหยิบมานาเหล่านั้นมาผ่านวงเวทย์
วงเวทย์เป็นเหมือนดั่งตัวแปรรูปพลังงานดิบอย่างมานาให้เป็นพลังงานที่แปรรูปแล้วอย่างพลังเวทย์บริสุทธิ์และควบคุมได้
หรือสรุปง่ายๆคือ มานาคือพลังงาน ส่วนวงเวทย์คือเครื่องแปรรูป
‘ลองกันหน่อยดีกว่า เริ่มจากเสริมสมรรถภาพร่างกาย’
เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน หลับตาทำสมาธิจนสามารถรับรู้บางสิ่งอยู่ในบริเวณท้องน้อย พอรับรู้ได้แล้วก็ทำให้เขารู้สึกอุ่นๆที่บริเวณนั้น นั่นเป็นแกนมานาของเขานั่นเอง
และการที่ตนสามารถรับรู้ได้ถึงแกนมานานั้นทำให้เขารู้ความเข้ากันของธาตุได้ก่อนเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกันโดยที่ไม่ต้องรอพิธีตรวจสอบความเข้ากันของเวทมนต์แต่อย่างใด
ในชีวิตของอลัน กว่าตัวเขาจะรู้ถึงความเข้ากันของเวทมนต์และได้เริ่มฝึกอย่างเป็นจริงเป็นจังก็ล่อเข้าไปตอนที่เขาอายุสิบห้าปีเลยทีเดียว นั่นเป็นช่วงอายุของการบรรลุนิติภาวะ แต่ในขณะที่เด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกันได้รู้ตั้งแต่พิธีตรวจสอบความเข้ากับเวทมนต์ตอนอายุแปดปี
นั่นเป็นข้อเสียเปรียบของโอกาส เขาซึ่งเป็นทาสติดที่ดินมีโอกาสที่ด้อยกว่าคนอื่นๆมากนัก แต่ก็โชคดีที่ความเข้ากับเวทมนต์ของเขาเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นธาตุที่หายาก จึงทำให้ตัวของเขาถูกดึงเข้าไปในหน่วยอัศวินทันที
‘แต่ตอนนี้ไม่ใช่…..’
เขามีความรู้ในชาติที่แล้ว แถมฐานะของตระกูลที่ตัวเขาเกิดมายังเป็นตระกูลที่ร่ำรวยไปด้วยทรัพสินเงินทอง ความด้อยกว่าของโอกาสได้มลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
ด้วยความรู้ของชาติก่อน
มานาค่อยๆไหลออกมาไปตามเส้นเลือด ไหลไปทั่วร่างกายพร้อมกับความอุ่นของมัน เขารู้สึกอุ่นไปทั่วร่างกายทันทีหลังจากที่ปล่อยให้มันไหลเวียน
‘ลุกซ์ อิลลูมิเนท (แสง จงส่องสว่าง)’
ทันใดนั้นวงเวทสีเหลืองก็ปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงกลม ภายในวงเวทสลักอักษรรูนอยู่เต็มไปหมด นั่นเป็นเพราะตัวของเขาจำรูปแบบวงเวทได้อย่างแม่นยำ
และแล้วแสงสว่างจ้าก็ปรากฏขึ้นบนวงเวทภายในมือของเขา เป็นแสงของธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเคยมีในชีวิตของอลัน
‘ดูเหมือนว่าความเข้ากับธาตุศักดิ์สิทธิ์ของฉันจะยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง’
Chapters
Comments
- ตอนที่ 2 ระบบอันน่ารังเกียจ กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 1 ความว่างเปล่าสู่จุดเริ่มต้น กรกฎาคม 6, 2025
MANGA DISCUSSION