“อืม…อรุณสวัสดิ์ นายท่าน”
“อือ…อรุณสวัสดิ์ค่ะ นายท่าน”
กิจวัตรยามเช้าทำให้ผมรู้สึกมีพลัง
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังห้องนั่งเล่น
พวกเราทานอาหารเช้าด้วยกัน และ พูดคุยถึงแผนการในวันนี้
พอมาคิดดูแล้ว วันนี้ผมน่าจะให้พวกเธอหยุด…
เพราะผมไม่มีแผนจะทำอะไรเลยวันนี้
เลยคิดว่าจะอยู่บนเรือแล้วเล่นกับริมุแทน…ฟังดูเป็นความคิดที่ดีนะ
“อิเนส เฟลิเซีย วันนี้ผมจะให้พวกเธอหยุดพักแล้วกัน”
“วันนี้ผมจะอยู่บนเรือตลอดทั้งวัน”
“เพราะงั้น ทั้งสองคนไปใช้เวลาว่างในแบบที่ชอบได้เลย”
“ถือว่าเป็นการพักผ่อนหลังจากทำงานหนักมานาน”
“ฟุฟุ นายท่านจะให้พวกเราหยุดกันจริงๆ เหรอคะ?”
“อืม…ว่าแต่จะไปทำอะไรกันดีล่ะทีนี้?”
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ฉันไม่เคยคิดเรื่องอะไรแบบนี้เอาไว้เลย”
“นับตั้งแต่ออกจากหมู่บ้านมา”
“อย่างนั้นหรือ?”
“ถ้าอย่างงั้นไม่ลองไปเดินเล่นสบายๆ ในเมืองดูล่ะ”
“ลืมเรื่องการคุ้มกันไปแล้วเดินเที่ยวให้สบาย แบบนั้นก็น่าจะช่วยให้ผ่อนคลายได้”
“จริงด้วย ตอนที่ฉันยังเป็นนักผจญภัย”
“ก็ใช้ชีวิตสบายๆ แบบนั้นเหมือนกันนี่”
“เฟลิเซีย เราลองไปเที่ยวเล่นให้สนุกกับเถอะ”
“นายท่านหมายถึงการออกไปเที่ยวเล่นแบบสบายๆ ใช่ไหมคะ?”
“อืม…ถ้าเช่นนั้นฉัยจะไปลองทำดูค่ะ”
“อ๊ะ ถ้าจะไปเที่ยวก็ต้องใช้เงิน นี่ เงินค่าขนม”
“10 เหรียญเงินต่อคนเลยเหรอคะ!”
“มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอคะ นายท่าน”
“10 เหรียญเงินอาจฟังดูเยอะก็จริง”
“แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอได้ออกไปเที่ยวเล่นกันเองโดยไม่มีผม”
“เพราะงั้นผมเลย อยากให้พวกเธอได้ซื้อของอะไรที่อยากได้ ได้ทำอะไรในสิ่งที่อยากทำ”
“ดังนั้น ใช้เงินนี่ ตามแบบที่ทั้งสองคนชอบได้เลยนะ”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากค่ะ นายท่าน”
“ขอบคุณน้า นายท่าน”
“ขอให้สนุกนะ”
“แล้วเจอกันนะคะ นายท่าน”
ผมไปส่งพวกเธอที่ท่าเรือ
ตอนแรกพวกเธอดูจะงงๆ กันอยู่
แต่ไม่นานพวกเธอก็ตั้งสติได้ และเดินจากไป
พวกเธอดูตื่นเต้นกันมากเลย ผมหวังว่าพวกเธอจะสนุกกันนะ…
เฮ้อ…การมีสาวงามสองคนอยู่ข้างๆ แบบนี้เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ใช่ไหม?
ปกติผมต้องพยายามทำตัวดูดีและพยายามระมัดระวังตัวตลอดเวลา
เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั่นมันจะทำให้ผมดูไม่เท่
และผมไม่อยากให้พวกเธอเกลียดผม ผมจึงพยายามทำอย่างเต็มที่
แต่การทำอย่างนั้นอยู่ตลอด ก็ทำให้ผมเหนื่อยใช้ได้เลย…
แน่นอนว่าการมีสาวงามอยู่ข้างกายเป็นเรื่องที่ดี
แต่ผมที่เป็นแฟนตัวยงของอนิเมะ มังงะ และไลท์โนเวล
การได้ใช้ชีวิตแบบสบายๆ โดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรมาก
น่าจะเป็นชีวิตที่เหมาะกับผมมากกว่า
“…?…”
“โอ้ ริมุ วันนี้เราจะอยู่บนเรือกันตลอดทั้งวัน”
“ดังนั้นมาเล่นกันเถอะ”
“…เล่น…ชอบ…”
“ว้าว ริมุนี่ น่ารักจังเลยน้า…”
ผมนอนเอกเขนกบนโซฟาแล้วกอดริมุ…
อืม อยากกินแฮมเบอร์เกอร์กับโค้กไปพร้อมกับดูอนิเมะจังเลย
สงสัยจังว่าบนเรือสำราญสุดหรู ผมจะทำแบบนั้นได้ไหมนะ?
พวกเราจะมาเล่นเกมโปรดของริมุกัน
เริ่มด้วย “สูง สูง” ข้าโยนริมุขึ้นไปจนเกือบถึงเพดาน
จากนั้นเมื่อเขาตกลงมา เขาจะดูอารมณ์ดีมาก
และส่งเสียง “…กิ้ว♪…” ซ้ำไปซ้ำมา
“…ข้างนอก…”
“อยากออกไปเล่นข้างนอกเหรอ?”
“…ข้างนอก…กระโดด…”
“อ๋อ อยากออกไปข้างนอกแล้วกระโดดสูงๆ เหรอ?”
“แต่ผมคงโยนริมุให้สูงเท่าไอเนส ทำไม่ได้หรอกนะ”
“แบบนั้นจะโอเคไหม?”
“…โอเค…”
บางครั้งไอเนสก็ขว้างริมุไปสูงเกินจนผมรู้สึกกังวลเลยล่ะ
แต่ถ้าริมุขออะไร ผมก็ต้องยอมทำตามที่ริมุขอล่ะนะ
ครั้งหนึ่งริมุเคยออกไปไกลจนถึงนอกขอบเขตเรือด้วย
ดีว่าครั้งนั้น ริมุโดนการปฏิเสธขึ้นเรือดีดกลับมา
เลยทำให้ริมุไม่เป็นอะไร ตอนนี้เล่นเอาผมใจหายใจคว่ำหมด
“งั้นก็ไปกันเถอะ”
“อืม…เอาตรงนี้แล้วกัน”
ผมขว้างริมุขึ้นไปสูงเกินกว่าดาดฟ้าชั้นสองของเรือ
จากนั้นก็รับริมุที่ตกลงมาด้วยความระมัดระวัง
ผมล่ะรู้สึกประหม่าจริง แต่ดูเหมือนริมุจะมีความสุขมาก
หลังจากเล่นไปซักพัก ผมก็เริ่มรู้สึกเหนื่อย จากนั้นเราก็เปลี่ยนไปเล่นเกมใหม่กัน
พวกเราเล่นกันไปจนกระทั่งถึงมื้อเที่ยง
“ริมุ อร่อยไหม?”
“…อร่อย…”
ผมไม่ได้กินข้าวสองต่อสองกับริมุ มานานแล้ว
คงตั้งแต่สมัยที่เรายังอยู่บนเกาะ
มันเป็นช่วงเวลาที่แสนคิดถึงจริงๆ
“ริมุ มาเล่นเกมล่าสมบัติกันเถอะ”
“…เล่น…”
“งั้นริมุต้องไปหาเนื้อแห้งที่อยู่ในห่อผ้านี่นะ”
“ผมจะเป็นคนเอามันไปซ่อนเอง”
“…อืม…”
ช่วงนี้ริมุหาสมบัติได้เร็วมาก ไม่ว่าผมจะซ่อนไว้ใต้เตียงหรือที่ไหนๆ ริมุก็หาเจอ
งั้นรอบนี้ ผมลองเอาซ่อนไว้เหนือลำโพงติดผนังดีไหมนะ?
ริมุจะหาเจอหรือเปล่า?
“ริมุ ผมซ่อนสมบัติเอาไว้แล้ว…”
“คราวนี้จะยากขึ้นนิดนึงนะ”
“ริมุจะหาเจอหรือเปล่าเอ่ย?”
“…ริมุ…หา…”
ริมุเริ่มเคลื่อนที่ไปรอบๆ ค้นหาตามจุดต่างๆ ที่ผมเคยซ่อนสมบัติเอาไว้
ริมุฉลาดมากเพราะเขาสามรถจดจำที่ซ่อนเดิมๆ ได้
มาคิดดูแล้ว ทำไมเขาต้องเคลื่อนที่ไปมาด้วยการกระเด้งทุกครั้งเวลาออกหาสมบัติด้วยล่ะ?
ผมลองสังเกตการเคลื่อนไหวของริมุ…
อืม…อย่างเดียวที่ผมสังเกตเห็นคือริมุน่ารัก
แม้สมบัติจะซ่อนอยู่ในจุดที่ยาก แต่ริมุก็ไม่ยอมแพ้และพยายามขยายขอบเขตการค้นหาออกไปเรื่อยๆ
โอ้ ริมุไปเกาะบนผนังแล้ว และกำลังเคลื่อนที่ยังลำโพง ริมุรู้ได้ยังไงน่ะ?
“…ริมุ…เจอแล้ว…”
“เก่งมากเลยริมุ”
“ผมภูมิใจในตัวริมุจริงๆ ที่สามารถหามันเจอได้”
ทั้งๆ ที่ผมซ่อนเอาไว้ดีแล้วแท้ๆ”
“ริมุ…ดีใจ…วาตารุ…รัก”
“ริมุ เก่งมากๆ เลย”
“ผมดีใจมากเลย รุมิ”
“ริมุช่วยพูดชื่อผมอีกครั้งได้ไหม?”
“วาตารุ”
“โอ้ ริมุ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ”
“จากนี้ไปเราจะคุยกันได้มากขึ้นกว่านี้แน่ๆ”
“ริมุ…คุย…วาตารุ”
“ใช่ๆ มาคุยกันเยอะๆ เลยนะ”
ผมกอดริมุเอาไว้ในอ้อมแขน และเพลิดเพลินไปกับสัมผัสที่เนียนนุ่มและเด้งดึ๋งของเขา
ผมมองดูที่หน้าต่างสถานะของตัวเอง และเห็นว่าสกิลฝึก ของผมเลเวลเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 แล้ว
ผมคิดว่าถ้าสกิลนี้พัฒนาขึ้นอีก ผมคงจะสามารถพูดคุยกับริมุได้มากขึ้น
ผมพูดคุยกับริมุอย่างสนุกสนาน
อ๊า…ผมกำลังได้รับการเยียวยาจากริมุล่ะ…
มุมมองของไอเนสและเฟลิเซีย
อืม ควรทำอะไรดีนะ?
ตอนที่ยังเป็นนักผจญภัย เรามักจะไปกินอาหารอร่อยๆ แล้วจากนั้นก็ไปเล่นพนัน…
ไม่ เราจะไม่เอาเงินที่นายท่านให้มาไปเล่นการพนัน…
ตอนนี้ เราสามารถกินอาหารอร่อยๆ ได้มากเท่าที่ต้องการ
สามารถไปเที่ยวได้มากเท่าที่อยากแล้ว เพราะงั้นตอนนี้เราเลยค่อนข้างพอใจกับทุกอย่างที่มีแล้ว
ว่าแต่ คิดไรไม่ออกเลย แฮะ ว่าจะทำอะไรดี…
ไปซื้อของจากร้านแผงลอยดีมั้ย?
ไม่อ่ะ ร้านแผงลอยในเมืองส่วนใหญ่ตอนนี้กำลังยุ่งกับการเตรียมของ
ถ้าไปก็น่าจะต้องรอนาน…
“นี่ เฟลิเซีย เธอมีอะไรที่อยากทำไหม?”
“ฉันเหรอคะ?”
“อืม…ฉันเองก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน”
“แต่… คิดไม่ออกเลยค่ะ”
ตอนเราอยู่ที่หมู่บ้าน เราทำอะไรบ้างนะ?
ปกติก็ไปช่วยพ่อแม่ หรือไม่ก็ไปล่าสัตว์
นอกจากนั้น…ก็มีฝึกเวทมนตร์…
เอ่อ…แล้วอะไรอีกนะ…
…ถึงนายท่านจะบอกให้มาพักผ่อนก็เถอะ
ปกติเราจะมาเดินเล่นรอบๆ เมืองกับนายท่านเสมอเลยนี่นา…
พอต้องมาเองแบบนี้แล้ว…คิดไม่ออกเลยว่าจะไปทำอะไรดี
“ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง”
“แล้วเธอล่ะ ไอเนส มีอะไรที่อยากทำไหม?”
“ฉันก็คิดไม่ออกเหมือนกัน”
“เป็นปัญหาจริงๆ เลยน้า…”
เฟลิเซียเองก็ไม่มีอะไรที่อยากทำเหมือนกัน แล้วเราควรทำอะไรกันดีล่ะ?
อะไรคือสิ่งที่คนปกติเขาทำกัน?
มีอะไรที่เราต้องการไหมนะ?
…เสื้อผ้า ใช่แล้ว เสื้อผ้าไงล่ะ!
ลองไปซื้อเสื้อผ้ากันดีกว่า…
“นี่ เฟลิเซีย อยากไปลอวซื้อเสื้อผ้าด้วยกันไหม?”
“เสื้อผ้าเหรอคะ?”
“ใช่ ปกติเวลาที่เราออกไปไหนมาไหน”
“เรามักจะต้องทำหน้าที่คนคุ้มกันเสมอ”
“ดังนั้นเราจึงใส่แต่อุปกรณ์ป้องกัน”
“ส่วนเวลาที่เราอยู่บนเรือ เราก็มักจะใส่ชุดธรรมดาๆ ที่นายท่านเป็นคนซื้อให้”
“ฉันเลยคิดว่านายท่านจะต้องดีใจแน่”
“ถ้าเราใส่เสื้อผ้าสวนๆ เวลาที่เราอยู่บนเรือ”
“นะ…นั่นอาจจะเป็นความคิดที่ดีก็ได้นะคะ”
“ลองไปดูกันเถอะค่ะ…”
“อะ-ไอเนส เธอไม่คิดว่าเสื้อตัวนั้น…”
“มะ-มันเปิดเผยมากเกินไปเหรอ?”
“เธอคิดงั้นเหรอ?”
“แต่ฉันคิดว่านายท่านน่าจะชอบนะ”
“ถ้าเราใส่เสื้อผ้าแบบนี้เวลาอยู่บนเรือน่ะ”
“จะ-จริงเหรอคะ?”
“เราไม่ได้จะซื้อกันแค่ชุดเดียวซักหน่อย จริงไหม?”
“เพราะงงั้นมาซื้อทั้งชุดแบบธรรมดา และ ชุดแบบเปิดเผยกันเถอะ”
“ฉะ-ฉันคิดว่ามันอาจดูล่อแหลมเกินไปนะคะ”
“อีกอย่างนายท่าน อาจจะไม่ชอบก็ได้”
“อย่ากังวลไปเลย เฟลิเซีน”
“นายท่านต้องชอบแน่นอน”
“เธอจำรอยยิ้มของเขา ตอนที่เห็นเราในชุดขาดๆ ตอนที่อยู่โรงค้าทาสได้ไหม”
“เอ่อ…พอเธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ฉันก็รู้สึกว่ามันอาจจะจริงก็ได้…”
“ใช่มั้ยล่ะ มีเสื้อผ้าสนุกๆ แบบพวกนี้อีกเยอะเลย”
“พวกเรารีบไปเลือกกันเถอะ”
เราหยุดพักกินมื้อกลางวันกันระหว่างทาง
จากนั้นก็กลับไปเลือกซื้อเสื้อผ้ากันต่อ
พวกเราซื้อทั้งชุดที่ดูใส่สบายแล้วชุดที่มันดูเปิดเผยมา…
“เฮ้อ ได้ของมาหลายอย่างเลย”
“สนุกดีนะ ว่ามั้ย…”
“ค่ะ ถึงจะซื้อพวกผ้าราคาแพงไม่ไหว”
“แต่ก็สนุกมากที่ได้มาเห็นเสื้อผ้าหลากหลายแบบ”
“นี่ เฟลิเซีย เธอคิดว่านายท่านจะมีปฏิกิริยายังไงเวลาที่เห็นพวกเราใส่ชุดพวกนี้?”
“ฉันว่าเขาน่าจะดีใจนะ”
“อืม? ปกติเขาก็ซื่อตรงกับความต้องการของเขาอยู่นะ”
“ถึงบางครั้งจะพยายามทำตัวเท่ก็เถอะ”
“ใช่ๆ แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะมานึงเสียใจทีหลัง”
“มันน่าขำมากเลย…”
“เห้อ…ถ้าเขาจะทำตัวเท่ เขาก็ควรเก็บความเสียใจของเขาเอาไว้บ้างก็ดีนะ…”
“เขาคงคิดว่าเขาซ่อนมันไว้ดีแล้วล่ะมั้ง…”
“จริงเหรอ…?”
“เอาเถอะ ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว เรากลับกันเถอะ?”
“ค่ะ”
พวกเราเล่นและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนรู้สึกเหนื่อย
และในที่สุดริมุก็หลับไป ผมวางเขาลงบนผ้าห่มและค่อยๆ ขยับออกมาเบาๆ เพื่อไม่ให้เขาตื่น
เฮ้อ…วันนี้ผมได้รับการเยียวยาแบบเต็มที่เลย
บางทีผมก็ควรหาเวลาแบบนี้ให้กับตัวเองบ้าง แต่ตอนนี้จะทำอะไรต่อไปดีล่ะ?
ผมไม่อยากไปทำอะไรให้มันยุ่งยากด้วยสิ งั้นวันนี้ปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบไร้ความกังวลน่าจะดีกว่า
ผมจึงทิ้งตัวลงบนโซฟาและปล่อยตัวเองให้เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่แสนสงบสุข
…อืม? ได้ยินเสียงของไอเนสกับเฟลิเซียด้วยล่ะ…
พวกเธอกลับมาแล้วเหรอ?
ผมอนุญาตให้พวกเธอขึ้นเรือและออกไปต้อนรับพวกเธอ
“ยินดีตอนรับกลับนะทั้งสองคน”
“สนุกกันไหม?”
“สนุกมากเลย นายท่าน”
“ฉันก็สนุกมากเหมือนกันค่ะ”
“งั้นก็ดีแล้ว”
พวกเธอดูอารมณ์ดีมาก ผมดีใจที่เห็นพวกเธอมีความสุข
“นายท่าน ขอเวลาพวกเราแปปนะ”
“พวกเราจะไปเปลี่ยนชุด”
“หือ? เปลี่ยนชุดเหรอ?”
“เอ่อ…ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก…”
เปลี่ยนชุดเหรอ? พวกเธอไปซื้อชุดใหม่มาเหรอ?
ผมแทบไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าให้พวกเธอเลย… รู้สึกแย่นิดหน่อยแฮะแบบนี้…
ผมคงต้องใส่ใจกับเรื่องนี้มากขึ้นหน่อยแล้วสินะ
ในขณะที่รอด้วยความรู้สึกผิด
ไอเนสและเฟลิเซียก็กลับมา
โอ้โห เฟลิเซียดูดีมากๆ เลย ชุดของเธอถึงจะดูเรียบๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นผู้ใหญ่
ชุดนี้มันเข้ากับเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบเลย เธอสวยมากๆ…
ส่วนไอเนส… เธอใส่เสื้อที่มีเนื้อบางเบาที่โชว์ให้เห็นทรวดทรงองค์เอวของเธอ ตลอดจน หน้าอก และต้นขาอย่างเต็มที่
“นายท่านพวกเราอยากรู้ว่า นายท่านชอบแบบไหนมากกว่ากัน?”
“ระหว่างแบบที่ฉันใส่หรือว่าแบบที่ เฟลิเซียใส่…”
“พวกเราจะได้เอาไว้ไปตัดสินใจว่าจะใส่แบบไหนบ่อยที่สุดดี”
“ผมชอบแบบที่ไอเนสใส่… แต่ ขอเวลาคิดแป๊บนะ”
ผมควรทำยังไงดี? สำหรับผม ชุดแบบของไอเนสคือดีที่สุดแล้ว
แต่ผมจะสามารถรักษาความสงบเอาไว้ได้ตลอดไหมนะ
เวลามีผู้หญิงสวยๆ มาใส่ชุดแบบนั้นอยู่ใกล้ๆ ตลอดทั้งวัน?
“เอ่อ… เป็นไปได้ไหมที่พวกเธอจะใส่ชุดแบบเฟลิเซียในช่วงเวลาปกติ”
“แล้วเปลี่ยนไปใส่ชุดแบบไอเนสในเวลากลางคืน?”
“ได้สิคะ แต่ว่า ถ้านายท่านไม่ว่าอะไร ฉันขอใส่แบบนี้ในเวลาปกติด้วยได้หรือเปล่า?”
“ดะ ดะ ได้สิ ผมไม่ว่าอะไรหรอก”
“แต่ผมคงไม่เป็นอันทำอะไรแน่ ถ้าไอเนสมาอยู่ใกล้ๆ ผมด้วยชุดแบบนั้น”
“แหม๋ๆ เข้าใจแล้วค่ะ”
ไอเนส เธอกำลังเข้าใจผิดนะ…เฟลิเซียเองก็อย่ามองมาที่ผมด้วยสายตาผิดหวังขนาดนั้นสิ
แต่ก็นะ ผมก็ชอบที่ไอเนสชอบเข้ามาหลอกล้อแบบนี้ด้วยสิ
แต่เพื่อไม่ให้ผมดูแย่เกินไปในสายตาพวกเธอ ผมต้องรีบเปลี่ยนเรื่องให้เร็วที่สุด
“เอ่อ วันนี้ผมเล่นกับริมุตลอดทั้งวันเลยล่ะ”
“แล้วสกิลฝึกก็ดูเหมือนจะเลเวลอัพด้วย”
“มันทำให้ผมเข้าใจความคิดและความต้องการของริมุได้มากขึ้น”
“โอ้ เยี่ยมไปเลย”
“ยินดีด้วยค่ะ นายท่าน”
“ขอบคุณ เอาล่ะไปกินข้าวเย็นกันดีกว่า”
หลังมื้อค่ำ ผมก็ไปอาบน้ำและได้เห็นพวกเธอในชุดผ้าบางๆ…
มันยอดเยี่ยมมากเลย จากนั้นพวกเราก็ไปหยอกล้อกันที่เตียง
จากนั้นก็ ราตรีสวัสดิ์…
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับจูบรับอรุณตามกิจวัตร…
โอ้ ชุดผ้าบางๆ ในตอนเช้า
นี่มันช่างกระตุ้นประสาทสัมผัสเสียจริงๆ
ผมมีความสุขมากๆ จนอยากเข้าไปกอดพวกเธออีกครั้งเลย
แต่ก็ต้องใจเย็นไว้ก่อน ตอนนี้ถึงเวลาอาหารเช้าแล้ว
“วันนี้ พวกเราจะไปที่กิลด์ค้าเพื่อรับเงิน”
“จากนั้นจะไปสอบถามข้อมูลเรื่องตำแหน่งที่ตั้งของปาแลร์โม”
“แล้วก็ไปที่โรงแรมนางแอ่น เพื่อเอาของฝากไปให้เหล่าสมาชิกของจิราโซเล่ ถ้าพวกเธออยู่ที่นั่น”
“จากนั้นก็ไปซื้อเสบียง”
“ค่ะ”
ผใไปถึงกิลด์การค้าและมองหาคามิลล์ซัง…
อ๊ะ เธออยู่ตรงนั้นไง
ผมมักเห็นเธออยู่ที่นี่เสมอ…เธอมีวันหยุดบ้างไหมเนี่ย?
“คามิลล์ซัง อรุณสวัสดิ์ครับ”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ วาตารุซัง”
“คุณมารับเงินค่าสินค้าใช่ไหมคะ?”
“ใช่ครับ”
“นี่ค่ะ เงินค่าสินค้าจำนวน 30 เหรียญทองคำขาว”
“กรุณาตรวจสอบด้วยนะคะ”
“ครับ”
30 เหรียญทองคำขาวนี่ถือเป็นเงินจำนวนมหาศาลเลยนะ
แบบนี่เป็นเรื่องปกติของกิลด์การค้าหรือเปล่านะ
ที่สามารถหาเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ได้ในเวลาแค่ไม่กี่วัน?
“เรียบร้อยครับ”
“แล้วก็ ผมอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปาแลร์โม่หน่อยน่ะครับ”
“คุณพอช่วยบอกตำแหน่งของมันหน่อยได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ วาตารุซัง จะเดินทางไปด้วยเรือใช่ไหมคะ?”
“ใช่ครับ”
“ถ้าอย่างนั้น คุณสามารถเดินทางไปที่นั่นได้ในเวลาประมาณ 10 วันโดยใช้เรือเวทมนตร์ค่ะ”
“โดยเดินทางจากเมืองทางใต้ไปทางทิศตะวันออก จากที่นั่น ก็ใช้เวลาอีกประมาณ 20 วันในการนั่งรถม้า”
“เพื่อที่จะไปถึงเมืองหลวงบาร์เล็ตต้าที่ซึ่งมหาวิหารตั้งอยู่ค่ะ”
“โห นั่นฟังดูน่าจะเหนื่อยเอาเรื่องเลยนะครับ”
ผมชักรู้สึกลังเลแล้วสิ ควรล้มเลิกแผนไปปาแลร์โม่ดีไหมนะ…?
“ใช่ค่ะ แต่ว่าถ้าคุณล่องเรือต่อไปเรื่อยๆ ตามแนวชายฝั่งอีก 7 วันโดยไม่ขึ้นฝั่ง”
“คุณจะไปถึงเมืองท่าที่มีชื่อว่าเบอร์กาโม่ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของปาแลร์โม่”
“จากที่นั่นก็ใช้เวลาอีกแค่ประมาณ 3 วันด้วยรถม้าคุณก็สามารถไปถึงเมืองหลวงได้เหมือนกันค่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ มันใช้เวลานานมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้เยอะเลย”
“ผมคงต้องกลับไปลองคิดดูอีกที ขอบคุณมากนะครับ คามิลล์ซัง”
อืม การเดินทางด้วยเรือสำหรับผมถือว่า โอเค
แต่ 20 วันในรถม้านี่ มันนานเกินไป
เส้นทาง 3 วันโดยรถม้า น่าจะโอเคกว่า…
ผมคิดถึงเรื่องนี้ในขณะที่เดินออกมาจากกิลด์การค้า
“ผมว่าเราไปทางเบอร์กาโม่น่าจะดีกว่า พวกเธอสองคนว่าไง?”
“3 วันด้วยรถม้า ย่อมดีกว่าอยู่แล้วนายท่าน”
“ฉันเองก็คิดเหมือนกันค่ะ”
“งั้นเราค่อยกลับไปวางแผนกันอีกที ตอนที่กลับไปที่เรือนะ”
“จุดหมายต่อไปคือโรงแรมนางแอ่น หวังว่าเหล่าสมาชิกของจิราโซเล่จะกลับมากันแล้วนะ”
“ค่ะ”
ไม่รู้เหมือนกันว่าสมาชิกของจิราโซเล่จะกลับมากันแล้วหรือยัง
ผมหวังว่าพวกเธอจะชอบของฝากที่ผมเตรียมมานะ…
คุยไปเรื่อยหลังจบตอน
วาตารุนี่มันตามใจริมุทุกอย่างจริงๆ สินะ
เกิดวันนึงริมุมันกลายเป็นคนขึ้นมาได้จริงๆ คงสนุกน่าดู
MANGA DISCUSSION