หลังจากลองขับ แอดด์ เสร็จ
ผมก็กลับมาหาคาร์ล่าซัง ไอเนส เฟลิเซีย และฟูจัง
“นายท่าน สุดยอดไปเลยค่ะ!
ตอนแรกฉันนึกว่ามันจะเป็นเรือซะอีก
ที่ไหนได้กลับกลายเป็นพาหนะเวทมนตร์ไปซะงั้น!”
“ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นพาหนะเวทมนตร์ซะทีเดียวหรอกนะ
แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงหล่ะมั้ง?”
พูดตามตรง คือผมไม่เคยเห็นพาหนะเวทมนตร์มาก่อนเลยยังสรุปไม่ได้
“สุดยอด!”
คาร์ล่าซังเดินเข้ามาดู แอดด์ ด้วยความสนใจแบบสุดขีด
“อยากลองนั่งดูไหมครับ”
“อืม”
จากนั้นผมก็ออกตั๋วสำหรับ แอดด์ ให้คาร์ล่าซัง และ เฟลิเซีย
โดยทั้ง 2 คน ผลัดกันมานั่งเบาะหลัง
ผมขับ แอดด์ วนไปรอบๆ ทุกหญ้าโดยที่มีพวกเธอโอบเอวของผมเอาไว้
เอาจริงๆ สถานการณ์ตอนนี้มันก็รู้สึกดีอยู่หรอกที่มีสาวสวยมานั่งซ้อนท้ายแบบนี้
แต่น่าเสียดายที่พวกเธอสวมเกราะนี่สิ เลยไม่ค่อยได้รับสัมผัสของเจ้านั่นเท่าที่ควร
แต่ก็นะ มาถือโอกาสอธิบายการใช้งานให้พวกเธอฟังไปด้วยเลยดีกว่า
“รู้สึกยังไงบ้างครับ คาร์ล่าซัง?”
“สนุกมากเลย!”
คำตอบของเธอสั้นมาก แต่ถ้าดูจากท่าทางและการขยับของมือ
คงจะสนุกมากๆ เลยสินะ คาร์ล่าซังเนี่ยเป็นคนที่ซื่อตรงดีจริงๆ
เฟลิเซียเองก็ดูจะสนุกเหมือนกัน แต่ปัญหาตอนนี้คือไอเนสนี่สิ
เพราะสีหน้าของเธอตอนนี้มันดูผิดปกติสุดๆ ไปเลยล่ะ
สีหน้าแบบนี้มันเป็นแบบเดียวกันกับตอนที่เธอขับเรือเลยนี่หว่า
…ผมชักเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วสิ ไว้ให้เธอลองทีหลังก็แล้วกัน
แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งผมให้เธอรอนานเท่าไหร่
ก็ยิ่งทำให้เธอคึกมากขั้นเท่านั้น…อ๊าาา นี่ผมตัดสินใจผิดสินะ…
“นายท่านๆ ! ถึงตาของฉันแล้วใช่ไหมคะ?
ไปกันเถอะค่ะ! พวกเรารีบๆ ไปกันเถอะค่ะ นายท่าน”
“อ-อืม”
จากนั้นผมก็พาไอเนสที่กำลังคึกสุดๆ ขึ้นนั่งที่เบาะหลังและเริ่มออกรถ
เธอกอดผมเอาไว้แน่นเลย…ผมก็นึกว่าเธอจะกรี๊ดกร๊าดมากกว่านี้ซะอีก
แต่ที่ไหนดี เธอกลับตั้งใจฟังที่ผมสอนอย่างจริงจังซะงั้น
ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของไอเนสแนบชิดกับผมแบบสุดๆ เลยล่ะ…
เอ่อ…ถ้าเธอกรี๊ดกร๊าดตามปกติล่ะก็ อะไรๆ มันคงจะง่ายกว่านี้แฮะ
พอมาตั้งใจฟังแบบนี้แล้วทำให้ผมรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเลยล่ะ
“เป็นยังไงบ้าง ไอเนส สนุกไหม?”
ผมถามไปทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“สนุกมากเลยค่ะ! เร็วพอๆ กับการขี่ม้าเลย
แล้วก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างกันด้วย
ฉันตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ นี่ขนาดอยู่แค่ข้างหลังนะคะเนี่ย!”
เธอนี่ชอบอะไรแบบนี้จริงๆ เลยนะ ไอเนส
ผมคิดว่าอลิเซียซังกับมารีน่าซัง ก็น่าจะชอบเหมือนกัน…
ผมจินตนาการภาพที่พวกเธอ ขับรถวนไปรอบๆ อย่างสนุกสนานออกเลย
แต่ก็แอบกังวลอยู่นิดหน่อย…เพราะถ้าล้มขึ้นมาละก็คงจะอันตรายน่าดู
ถึงพวกเธอจะไม่เป็นอะไรก็เถอะ เพราะแต่ละคนเลเวลสูงๆ กันทั้งนั้น…
แต่มันก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี งั้นช่วงแรก
ผมจะจำกัดความเร็วเอาไว้ที่ก่อน 40 กม./ชม. ก่อนก็แล้วกัน
เพราะแค่นี้ก็ถือว่าเร็วมากแล้วสำหรับโลกนี้
“งั้นต่อไปมาลองขับกันดูบ้างนะครับ
คาร์ล่าซังขึ้นข้างหน้าเลยครับ ผมจะได้สอนคุณจากข้างหลัง”
“ได้เลยค่ะ!”
ผมสอนวิธีขับให้เธอโดยให้เธอค่อยๆ บิดคันเร่ง
เพื่อทำให้ แอดด์ เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
แล้วผมก็ให้เธอลองไปขับวนรอบทุ่งหญ้าโดยที่หลีกเลี่ยงจุดที่มีหญ้าขึ้นสูงเอาไว้
เธอขับได้ดีเลยนี่นา เฟลิเซียเองก็ทำได้ดีเหมือนกัน
พวกเธอสามารถขับได้อย่างถูกต้องตามที่ผมสอนเลย
ไอเนสเองก็ทำได้ดี ขออย่างเดียวคือต้องไม่ตื่นเต้นมากจนเกินไป…
แต่ดูทรงแล้วน่าจะทำไม่ได้แหงมๆ
“นี่มันก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว พวกเรามาทานมื้อเที่ยงกันเลยดีไหมครับ? คาร์ล่าซัง”
เธอยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้ผม
งั้นอัญเชิญ ไฮด์อเวย์ ออกมาเลยก็แล้วกัน
เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่สวยงามใช่ไหน?
อืม…งั้นลองเปลี่ยนบรรยากาศดูหน่อยน่าจะดีกว่า
เพราะบรรยากาศตอนนี้มันเหมาะกับการปิกนิกกลางแจ้งแบบสุดๆ เลยยังไงล่ะ
ผมเลยอัญเชิญเรือเก็บอาหารออกมาแล้วเอาอาหารที่ซื้อไว้ออกมาเสิร์ฟ
โดยปกติผมคงจะอัญเชิญเรือยางออกมาแล้ว
แต่เฟลิเซียบอกว่าที่นี่ไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนที่สามารถฝ่าบาเรียของเธอเข้ามาได้
ดังนั้นผมเลยไม่จำเป็นจะต้องอัญเชิญเรือออกมา
“ทำไมถึงได้ยิ้มแบบนั้นล่ะคะ นายท่าน กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?”
“หืม? อ้อ ก็แค่คิดว่าทำแบบนี้แล้วรู้สึกสนุกดีน่ะ”
ตรงหน้าผม คาร์ล่าซัง ริมุ และฟูจังกำลังกินอาหารกันอย่างตั้งใจแบบสุดๆ เลยล่ะ
“ผมชอบบรรยากาศแบบนี้มากๆ เลยล่ะ มันสงบสุขดีจริงๆ”
“ใช่ค่ะ ที่นี่ฉันรู้สึกปลอดภัยยิ่งกว่าตอนที่เราอยู่ที่เมืองทางใต้อีก”
“ฮ่าๆ ก็จริงนะ”
เมื่อกินเสร็จ ผมก็นั่งจิบกาแฟกระป๋อง
รอให้ 3 นักกินประจำกลุ่มของพวกเรากินอิ่ม…ทุกคนนี่กินกันเยอะจริงๆ แฮะ
ตอนนี้พวกเราคุ้นเคยกับการขับรถบนบกแล้ว
ต่อไปก็เป็นการขับในน้ำสินะ ผมยังกลัวทะเลอยู่
เลยว่าจะไปลองที่แม่น้ำแทน ทุกคนในหมู่บ้านยังคงเมาค้างกันอยู่
ดังนั้นตอนนี้ก็คงจะยังไม่มีใครไปที่แม่น้ำหรอกมั้ง…
แต่แล้วผมก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ ถ้าผมตั้งใจจะขึ้นไปสำรวจอีกฝั่งของภูเขา
ยังไงผมก็ปิดเรื่องของ แอดด์ กับชาวบ้านไม่ได้นี่นา…
ชักเริ่มรู้สึกว่าต่อให้ชาวบ้านเห็นก็ไม่น่าจะเป็นอะไรแล้วแฮะ
ยังไงพวกเขาก็เห็น ซีกเกอร์ แล้ว ต่อให้เป็นเรือสำราญก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ไว้คืนนี้ค่อยลองไปปรึกษาเรื่องนี้กับทุกคนก็แล้วกัน
จากนั้นพวกเราก็ย้ายกันไปที่แม่น้ำ แล้วค่อยๆ ลงน้ำจากจุดที่พอจะลงได้
…หือ? ไม่มีเสียงเท่ๆ ตอนเปลี่ยนโหมดงั้นเหรอ?
อย่าง ชะวิ้ง หรือ กะชิ้ง อะไรแบบนี้?
แล้วแบบนี้มันจะลงน้ำได้จริงๆ เหรอ
เพราะตอนที่ผมกดปุ่มมันก็แค่ยกล้อขึ้นข้างๆ เท่านั้น
แต่แล้วตอนที่ยางเริ่มขยับและแอดด์เริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
ก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นมาจากข้างหลัง หือ…อะไรกัน?
ปกติมันต้องฮือฮากันตอนเปลี่ยนโหมดไม่ใช่เหรอ?
ทำไมพวกเธอถึงมาฮือฮากันตอนนี้ล่ะ? ผมไม่เข้าใจเลย
แต่พอถามดูทีหลังพวกเธอก็บอกว่า
‘ก็คุณบอกว่ามันใช้ได้ทั้งบกและน้ำไม่ใช่เหรอ? มันก็ต้องฮือฮากันตอนมันขยับในน้ำได้สิ’
หรือนี่จะเป็นช่องว่างระหว่างวัย…ไม่สิต้องช่องวางระหว่างโลกถึงจะถูก
แอดด์ วิ่งไปบนผิวน้ำได้อย่างราบรื่นถึงแม้จะมีการกระแทกอยู่นิดหน่อยก็เถอะ
ดูเหมือนกระแสน้ำในแม่น้ำจะมีผลกับมันมากเลยสินะ
ผมว่าเรือสไตล์ญี่ปุ่นน่าจะเหมาะกับการใช่ในแม่น้ำมากกว่า
งั้นเก็บ แอดด์ ไว้ใช้เฉพาะตอนที่อยู่บนบกน่าจะดีกว่า
พอผมวนกลับไปหาทุกคน ทุกคนก็ตั้งท่าพร้อมที่จะขึ้นขี่กันเต็มที่เลยล่ะ
พวกเธอผลัดกันออกไปขับน้ำ แล้วก็สนุกกับการยกล้อขึ้นๆ ลงๆ กันสุดๆ เลยล่ะ
เพราะแทนที่จะขับบนผิวน้ำ พวกเธอกลับขับขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างฝั่งกับผิวน้ำซะงั้น
พอขับกันจนพอใจแล้วพวกเราก็มุ่งหน้ากลับไปที่ ซีกเกอร์ กัน
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะ วาตารุซัง”
คลอเร็ตต้าซังทักทายผมด้วยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น
อ๊า…ช่างเป็นรอยยิ้มที่เห็นแล้วรู้สึกสบายใจดีจริงๆ…
ว่าแต่ตุ๊กตาพวกนั้นมันอะไรน่ะ?
ตอนนี้มีตุ๊กตา 5 ตัว วางเรียงกันอยู่ข้างๆ ตัวของคลอเร็ตต้าซัง
นี่เธอทำทั้งหมดนั้นในขณะที่ต้องดูแลพวกอลิเซียซังไปด้วยเนี่ยนะ!?
ความเร็วนี่มันอะไรกัน ทำเอาผมกลัวเลยว่าห้องของเธอมันจะกลายเป็นห้องตุ๊กตาไปแล้วเลย
เอ๊ะ!…หรือว่ามันจะกลายเป็นห้องตุ๊กตาไปแล้วจริงๆ …
“ผมกลับมาแล้วครับ คลอเร็ตต้าซัง
อลิเซียซังกับคนอื่นๆ เป็นยังไงบ้างครับ?”
“ก็ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ แต่ยังไม่เต็มที่”
“เข้าใจแล้วครับ งั้นพรุ่งนี้เราค่อยออกไปสำรวจ
ที่ๆ มีกลิ่มแปลกๆ ลอยออกมา ตามที่ผมเคยพูดเอาไว้กันนะครับ
อ๊ะ! หรือคุณคิดว่าเราควรพักกันอีกสักวันดีครับ?”
“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะถึงพวกเธอจะดื่มกันหนักขนาดไหน
ขอแค่ผ่านคืนนี้ไปก็ฟื้นตัวกันได้แล้วค่ะ ดังนั้นไปกันพรุ่งนี้ได้เลย”
โอเค ในเมื่อคลอเร็ตต้าซังยืนยันแบบนั้นงั้นเราก็ออกเดินทางกันวันพรุ่งนี้เลยแล้วกัน
จากนั้นผมก็มานั่งจิบชากับคลอเร็ตต้าซัง พลางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้เธอฟังด้วย
คาร์ล่าซังเองก็กำลังพยายามเล่าเรื่องของ แอดด์ ให้คลอเร็ตต้าซังฟังอย่างเต็มที่เหมือนกัน
ว้าว แปลกมากเลยนะเนี่ย เพราะปกติคาร่าซังจะไม่พูดมากถึงขนาดนี้
คาร์ล่าซังเล่าเรื่องของ แอดด์ ด้วยความตื่นเต้นแบบสุดๆ เลยล่ะ
ส่วนคลอเร็ตต้าซังก็รับฟังเธออย่างตั้งใจ บรรยากาศช่างดูอบอุ่นจริงๆ
ในสถานการณ์แบบนี้ผมควรจะอยู่เงียบๆ และเฝ้ามองพวกเธอไปสินะ
เพราะผมรู้สึกว่าถ้าผมพูดอะไรขึ้นมาตอนนี้มันจะไปขัดบรรยากาศที่แสนนุ่มฟูนี่น่ะสิ…
“เห…งั้นเหรอ? มันวิ่งได้ทั้งบนบกแล้วก็ในน้ำเลยเหรอ?
ฟังแล้วไม่น่าเชื่อเลยนะ ขอบคุณที่เล่าให้ฟังนะคาร์ล่า”
“งั้นพรุ่งนี้ช่วยแสดงมันให้ฉันดูหน่อยนะคะ วาตารุซัง”
“เอ๋!? แต่ถ้าขอตอนนี้ เขาก็จะเอาออกมาให้ดูเลยนะ”
ผมเองก็อยากจะอวดเหมือนกันนะครับ
แล้วผมก็อยากให้คลอเร็ตต้าซังมาซ้อนท้ายด้วย
แต่ถ้าไปพูดแทรกตอนนี้มีหวังได้พังแน่ๆ ดังนั้นเงียบไว้แบบนี้ล่ะ…
จะว่าไปคาร์ล่าซังนี่ก็มีมุมที่ดูงอแงแบบเด็กๆ อยู่เหมือนกันสินะ?
ส่วนคลอเร็ตต้าซังก็ให้ความรู้สึกแบบคุณแม่ อืม…ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่แปลกดีจริงๆ
ปกติสองคนนี้จะอยู่ด้วยกันตลอด การที่วันนี้แยกจากกันทั้งวัน
จึงเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากๆ แล้วคลอเร็ตต้าซังก็พูดโดยไม่ใช้คำสุภาพกับคาร์ล่าซังด้วย แปลกดีแฮะ
“ฟุฟุ จริงๆ ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันนะ
แต่คิดว่าอลิเซียกับคนอื่นๆ ก็คงจะอยากเห็นด้วยเหมือนกัน
งั้นเรามารอให้ถึงวันพรุ่งนี้แล้วไปดูพร้อมกันทุกคนดีกว่าไหม?”
“อืม…”
“วาตารุซัง พวกเราจะเอายังไงกับมื้อเย็นดีคะ?”
อ่าว? จู่ๆ โดนตัดบทเฉยเลย…
ให้ผมนั่งดูเฉยๆ ก็ได้นะครับ ผมไม่ว่าอะไรหรอก
“ครับ จากที่ดูพวกอลิเซียซังก็ยังไม่น่าจะไหว…
งั้นพวกเราไปเลือกอาหารจากเรือเก็บอาหารมาทานกันดีไหมครับ?”
“ดีค่ะ แบบนั้นจะช่วยได้มากเลย”
อาหารแบบเสียเงินที่ผมซื้อมาจาก คาสเซิล ยังเหลืออีกเพียบเลยล่ะ
แต่ผมยังไม่กล้าไปแตะต้องพวกของฟรีหรอกนะ
เพราะไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ถ้าผมเผลอไปยุ่งกับมัน
บางที่อาจจะมีบทลงโทษก็ได้ ถ้าเกิดผมโลภจนเกินไป
หลังจากนั้นพวกเราที่ไม่มีอะไรให้ทำ
ก็เลยมานั่งเล่นเจงก้าด้วยกัน เพื่อรอให้ถึงเวลาอาหารเย็น
และในขณะที่พวกเราเล่นกันอยู่ อลิเซียซังกับคนอื่นๆ ก็ตื่นขึ้นมา
ดูจากสีหน้าแล้ว น่าจะยังเมาค้างกันอยู่สินะ
เพราะสีหน้าของพวกเธอดูไม่ค่อยดีเลยตอนนี้
แม้แต่สุดยอดสาวงามก็ดูไม่จืดสินะ เวลาที่เมาค้างเนี่ย…
เอ๊ะ!? แต่อัลม่าซังดูเซ็กซี่แปลกๆ แฮะ
ดูเหมือนกำลังทรมาน แต่ก็ให้ความรู้สึกยั่วยวน…
หรือนี่จะเรียกว่าความเย้ายวนแบบ ‘ดาร์ค’ ?
อัลม่าซังเนี่ยดูเซ็กซี่ในสายตาของผมเสมอเลย
หรือนี่ผมหลงเสน่ห์จากฟีโรโมนของเธอเข้าให้แล้ว?
“ทุกคนไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
“ค่ะ พวกเราสบายดี แค่ดื่มมากไปหน่อยเท่านั้น…”
อลิเซียซังตอบผมพร้อมกับยิ้มแห้งๆ…
ไม่อ่ะ นี่ไม่เรียกหน่อยแล้ว แบบนี้เขาเรียกว่า เยอะ ต่างหาก
“คือ…ผมมีเครื่องดื่มที่ช่วยเรื่องอาการเมาค้างด้วยนะครับ”
จากนั้นผมก็หยิบเครื่องดื่มเกลือแร่ออกมา และส่งมันให้กับทุกคน
จริงๆ ของพวกนี้ก็ไม่ควรดื่มเข้าไปหลังจากไปดื่มมาหรอก แต่ถ้าเป็นตอนนี้คงจะไม่เป็นไร
พอได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็รีบยกมันขึ้นดื่มทันที…
“อ๊า~ รู้สึกดีจังเลย มันช่วยเรื่องเมาค้างได้จริงๆ ด้วย
ทำไมตอนที่ดื่มก่อนหน้านี้ มันถึงได้มีรสชาติแปลกๆ นะ
ทั้งๆ ที่ตอนนี้อร่อยสุดๆ เลย ทำไมเป็นแบบนั้นกันนะ?”
นี่คือคำประเมินจากพวกเธอเมื่อดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ ผมเองก็สงสัยเรื่องนั้นเหมือนกัน
ผมนั่งเล่นบนโซฟาไปอีกสักพัก
แล้วก็แนะนำอุด้งให้กับคนที่ยังเมาค้างอยู่และยังไม่อยากกินอะไร
เพราะ อุด้งมันกินง่ายเลยเหมาะกับคนที่เมาค้าง
ในขณะที่กลุ่มเมาค้างกำลังกินอุด้งกันอย่างเงียบๆ
พวกผมก็ไปกินอาหารเย็นกันตามปกติ
หลังอาหารเย็น พวกเธอก็มาขอเครื่องดื่มเกลือแร่กันอีกขวด
“อ่า… ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ วาตารุซัง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมดีใจที่พวกคุณรู้สึกดีขึ้น”
สีหน้าก็ดูสดใสขึ้นด้วย เครื่องดื่มเกลือแร่กับอุด้งได้ผลดีจริงๆ
ไว้ผมจะไปลองดูเองตอนที่เมาค้างบ้างแล้วกัน
“คือผมมีเรื่องอยากจะปรึกษากับทุกคนหน่อยนะครับ”
“มีเรื่องอะไรเหรอคะ?”
“คืออย่างที่ทุกๆ รู้กัน ผมพยายามปิดบังความสามารถของตัวเองมาตลอด
แต่ตอนนี้ผมเริ่มคิดแล้วว่า มันไม่น่าจะจำเป็นขนาดนั้นก็เลย…
อ๊ะ! ผมไม่ได้จะเอาความสามารถไปอวดหรือเอาไปทำอะไรที่ไม่ดีหรอกนะครับ”
“ถ้าเป้าหมายไม่ใช่การอวดตัวเอง เพื่อที่จะได้เป็นขุนนาง
หรือ มีตำแหน่งใหญ่โต ในประเทศล่ะก็ ฉันคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาค่่ะ”
พูดอะไรของคุณน่ะครับ อลิเซียซัง
ขุนนางกับเกียรติงั้นเหรอ…ถึงของแบบนั้นมันจะฟังดูใกล้เคียงกับแนวฮาเร็มก็เถอะ
แต่เรื่องพวกนั้นน่ะ มันต้องมีเรื่องยุ่งยากตามมาอย่างแน่นอน
ดังนั้นต่อให้จะมีฮาเร็ม แต่ถ้าใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ได้ มันก็ไม่มีความหมายหรอก
“ผมไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นหรอกครับ เรื่องที่ผมจะปรึกษาคือ
ตอนนี้ผมสามารถอัญเชิญเรือแบบใหม่ที่เจ๋งมากๆ ออกมาได้แล้วครับ
แต่เพราะมันโดดเด่นเกินไป ก็เลยว่าจะเปิดเผยเรื่องความสามารถของผมออกไปน่ะครับ
อีกอย่างตอนนี้ผมก็ได้เรือสำราญมาแล้วด้วย เลยคิดว่าแทนที่จะมาแต่กลัวที่จะโดดเด่นอยู่แบบนี้
แล้วอดทนที่จะไม่ทำในสิ่งที่อยากทำ สู้ผมเปิดเผยออกไปแล้วทำในสิ่งที่อยากทำน่าจะดีว่า ทุกคนคิดยังไงกันบ้างครับ?”
ถึงมันจะดูเสี่ยง แต่ถ้าผมอยู่เงียบๆ แบบนี้ต่อไป ก็คงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
ดังนั้นถ้าเปิดเผยความสามรถออกไป ผมก็น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้
ผมจะเปิดเผยความสามารถของผม เฉพาะบนเกาะดาร์กเอลฟ์แห่งนี้เท่านั้น
เพราะผมรู้สึกว่าถึงจะซ่อนเไปมันก็คงจะไม่มีประโยชน์อยู่
“อืม…ถ้าพูดถึงเรื่องความปลอดภัย การปิดเอาไว้น่าจะปลอดภัยกว่า
แต่ถ้าเปิดเผยออกไปก็จะทำอะไรต่างๆ ได้มากขึ้นสินะคะ
แล้วคุณยอมรับเรื่องที่ตัวเองจะโดดเด่นมากขึ้นได้หรือเปล่าคะ?”
โอ้! อลิเซียซังเข้าใจประเด็นได้ในทีเดียวเลยแฮะ…
“นายท่าน อยากจะทำอะไรงั้นเหรอคะ?”
ไอเนสถามอย่างตรงไปตรงมาเลยแฮะ…แต่ต้องขอโทษด้วยนะไอเนส
เพราะจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือ ผมรู้สึกอึดอัดที่ไม่ได้ใช้ แอดด์ ก็แค่นั้นล่ะ
ผมเคยคิดจะปลอมให้มันเป็นม้า แต่ม้ามันไม่เข้ากับเรือนี่สิ
แถมถ้าลองปลอมมันเป็นม้าจริงๆ แล้วตอนวิ่งมันไม่ขยับขาล่ะ แบบนั้นคงแปลกน่าดู
“ผมยังไม่ได้คิดอะไรไกลขนาดนั้นหรอกครับ
แต่ผมรู้สึกว่าการปิดบังความสามารถบนเกาะมันไม่มีประโยชน์น่ะ
เพราะอย่างน้อยๆ ผมก็เคยอัญเชิญ ไฮด์อเวย์ ออกมา
ให้คนจากหมู่บ้านริมทะเลสาบเห็นแล้ว…”
“บนเกาะนี้อาจจะดูปลอดภัยก็จริง แต่คุณจะเอาอะไรมา
ตัดสินว่าสถานการณ์ไหนปลอดภัย หรือ แบบไหนไม่ปลอดภัย ล่ะคะ?”
เป็นคำถามที่จริงจังกว่าที่คิดแฮะ
“อืม…งั้นเริ่มจากเอา แอดด์ ไปขับรอบๆ เกาะดูดีไหมครับ?
แล้วก็ลองจินตนาการว่า ถ้าเอามันไปใช้บนแผ่นดินใหญ่มันจะเป็นยังไง?
บอกตามตรง คือผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตอนที่แปลงเรือแล้วมันจะออกมาเป็นแบบไหน”
“อืม ฉันยังไม่เคยเห็น แอดด์ ค่ะ เลยยังไม่รู้ว่ามันเป็นเรือแบบไหน
จึงยังตอบคำถามของคุณไม่ได้ค่ะ งั้นพวกเราลองไปดูกันตอนนี้เลยดีไหมคะ?”
“ไม่เป็นไรครับ อลิเซียซังยังไม่หายดีใช่ไหมล่ะ
ไว้พวกเราค่อยไปกันวันพรุ่งนี้ก็ได้ครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถึงจะยังไม่เต็มร้อย
แต่ฉันไหวค่ะ ดังนั้นพวกเราไปกันเถอะ”
จากนั้นพวกเราก็ตัดสินใจว่าจะออกไปดู แอดด์ ด้วยกัน …
ไม่รู้ว่าพวกเธอจะมีปฏิกิริยายังไง แต่ผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะได้โชว์มันให้พวกเธอเห็น…
MANGA DISCUSSION