ผมแล่นลูโตะเข้าไปยังท่าเรือของเมืองออร์ฮุสและทอดสมอไว้ในพื้นที่ที่เนสจัดเตรียมเอาไว้ให้
ฝูงชนจำนวนมากต่างมามุงดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น…
ก็แน่ล่ะ จู่ๆ มีเรือใหญ่ขนาดนี้มาจอดรออยู่ที่อ่าวเป็นใครก็ต้องสงสัยล่ะ
จินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้ามันเป็นเรือสำราญจะเกิดอะไรขึ้น
ในขณะที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้คนรอบข้าง
พวกเราก็ไปหามารีน่าซังที่รออยู่ที่ท่าเรือจากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังบริษัทการค้าโกเฟรโด้
“มารีน่าซัง คุณได้พบประธานบริษัทการค้าโกเฟรโด้แล้วหรือยังครับ?”
“ได้พบแล้วค่ะ ฉันได้แจ้งเขาไปแล้วว่าท่านจอมเวทกำลังเดินทางมา และขอให้เขาอย่าถามซักไซ้เรื่องของท่าน
รวมถึงแจ้งไปแล้วด้วยว่ามีจดหมายจากท่านมาร์ควิสแห่งลูก้าฝากมาด้วย เขาบอกว่าเขาจะรออยู่ที่บริษัทการค้าจนกว่าท่านจอมเวทจะมาถึงค่ะ”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากครับ ว่าแต่โดโรธีซังจะมาพบเราที่บริษัทการค้าด้วยหรือเปล่า?”
“ฉันก็ไม่แน่ใจค่ะ ฉันไม่รู้ว่าเธอจะต้องใช้เวลานานขนาดไหนในการไปส่งจดหมายให้ท่านเจ้าเมือง
ดังนั้นเธออาจมาพบเราที่นี่หรือไม่ก็ที่ลูโตะก็ได้ค่ะ”
“เข้าใจแล้ว เอาล่ะ เราไม่ค่อยมีเวลา ไปเริ่มการเจรจากันเถอะ”
“ค่ะ”
พวกเราเดินตามมารีน่าซังเข้าไปในบริษัทการค้าโกเฟรโด้
เนื่องจากมีการแจ้งล่วงหน้าไว้แล้วเราจึงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
จากนั้นก็ถูกพาไปที่ห้องทำงานของประธานบริษัท
อยากรู้จริงๆ ว่าเขาจะมีปฏิกิริยายังไงกับคนหน้าสงสัยอย่างผม
“ยินดีต้อนรับสู่บริษัทการค้าโกเฟรโด้ของเราครับ ท่านจอมเวท
กระผมมีชื่อว่าอิซาร์โก้ เป็นประธานบริษัทการค้าโกเฟรโด้แห่งนี้ครับ ยินดีที่ได้พบท่าน…”
“ขออภัย แต่เราจำเป็นต้องปกปิดตัวตน ดังนั้นเรียกเราว่าจอมเวทหรืออะไรก็ได้ตามแต่ใจเจ้าเลย
นี่คือจดหมายจากท่านมาร์ควิสแห่งลูก้าและเงินสำหรับการชำระค่าสินค้า”
ผมล่ะสงสัยจริงๆ ว่าถ้าเขารู้ว่าผมเป็นแค่พ่อค้าแรงค์ F ธรรมดาๆ ที่ไม่ใช่จอมเวทล่ะก็เขาจะมีปฏิกิริยายังไงกันนะ…
“เข้าใจแล้วครับ กระผมขออนุญาตเปิดอ่านนะครับ”
จากนั้นเข้าก็เปิดซองจดหมายและเริ่มอ่านมันทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
ผมล่ะรู้สึกอึดอัดกับความเงียบแบบนี้จริงๆ เพราะผมไม่แน่ใจว่าการวางตัวของผมแบบนี้มันเหมาะสมหรือไม่…
“กระผมอ่านจบแล้วครับ ตอนแรกกระผมกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของลูก้ามาก
แต่พอได้ยินว่าท่านจอมเวทช่วยปลดปล่อยท่าเรือให้กระผมก็รู้สึกเบาใจครับ
กระผมต้องขอขอบคุณท่านจอมเวทจากใจจริงครับ จากเนื้อหาในจดหมาย
ท่านมาร์ควิสได้มีการร้องขอให้มีจัดหาเสบียงอาหารที่สามารถเก็บรักษาได้นาน
มาให้ได้มากที่สุดในจำนวนเงิน 20 เหรียญทองคำขาว ครับ
และท่านโดโรธีก็ได้ไปพูดคุยกับท่านลอร์ดในเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ดังนั้นส่วนนี้จึงไม่เป็นปัญหา
แต่เนื่องจากปริมาณอาหารที่ต้องการนั้นมากเกินกว่าที่บริษัทการค้าของเราจะจัดหามาได้
จึงต้องมีการหารือเรื่องนี้กับบริษัทการค้าอื่นก่อนถึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ครับ
ดังนั้นกระผมขอเวลาให้พวกเราสักหน่อยได้ไหมครับ?”
“เราเข้าใจว่าคำขอนี้เป็นภาระที่หนักและเข้าใจว่าการรวบรวมเสบียงต้องใช้เวลา
แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของลูก้ายิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ดังนั้นกรุณารีบดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ครับ พวกเราจะดำเนินการให้เร็วที่สุด… ว่าแต่อาหารที่รวบรวมได้จะให้นำไปที่ไหนเหรอครับ?”
“เรือของเราจอดอยู่ห่างออกไปจากท่าเรือเล็กน้อย เราไม่สามารถนำมันเข้ามาเทียบท่าได้
ดังนั้นเราต้องขอให้พวกเจ้าส่งเสบียงไปที่นั่นด้วยเรือเล็กแล้วล่ะ”
“รับทราบครับ”
“ขอบคุณ”
ว้าก! ผมใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วการมาแสดงท่าทีโอหังแบบนี้มัน…งือ ผมอยากกลับบ้านแล้วอ่า…
จากนั้นเราก็คุยเรื่องรายละเอียดกัน จากนั้นการเจรจาก็เสร็จสิ้น
ทางบริษัทการค้าที่มีเรือขนาดกลางอยู่ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถนำสินค้าไปส่งที่ สตรองโฮลด์ ได้
หลังจากการเจรจาสิ้นสุดลง พวกเราก็กลับไปที่ลูโตะโดยที่ไม่ได้แวะไปไหนเลย
“เฮ้อ ในที่สุดก็จบสักที ผมวางตัวแบบนี้โอเคไหม?”
“ฉันคิดว่าโอเคค่ะ จอมเวทส่วนใหญ่ก็มีท่าทางแบบนั้น
เพราะส่วนมากจะเป็นพวกบ้าเวทมนตร์ หรือไม่ก็เป็นพวกชนชั้นสูงที่เย่อหยิ่งจนเป็นที่รู้กันว่ายากที่จะเข้าหาค่ะ”
“อ-อย่างนั้นเหรอ?”
เนส ถ้ารู้แบบนี้ก็บอกผมตั้งแต่แรกสิ… ผลลัพธ์ของการทำตัวหยิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้กลับกลายเป็นความประทับใจที่ดีงั้นเหรอ?
จอมเวทนี่มันบ้าอะไรกัน? พวกคลั่งเวทมนตร์ก็คงเหมือนนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง
ส่วนพวกชนชั้นสูงก็คงเป็นพวกที่ดูถูกทุกอย่างและคิดว่าตัวเองเจ๋งที่สุด? ผมล่ะไม่อยากเข้าใกล้คนพวกนั้นเลย
“คือตอนที่ฉันเข้าไปแจ้งข่าวพอพวกเขาได้ยินว่าท่านจอมเวทจะมา
พวกเขาก็ถามว่ามีอะไรที่ต้องระวังบ้าง ดูเหมือนพวกเขาจะกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นค่ะ”
“งั้นพวกเขาคิดว่าจอมเวทที่ค่อนข้างปกติจะมา? พวกเขาไม่สงสัยเลยเหรอว่าผมไม่ใช่จอมเวท?”
“ในจดหมายของท่านมาร์ควิสกล่าวว่าท่านปลดปล่อยท่าเรือได้ ดังนั้นฉันไม่คิดว่าจะมีใครสงสัยค่ะ”
“เฮ้อ…ค่อยโล่งใจหน่อย”
ผมพยายามทำตัวให้เหมือนจอมเวทลึกลับที่ใส่ฮู้ดโดยไม่มีเหตุผล แต่กลับได้ผลดีเกินคาด
ถ้าจะเล่นบทบาทนี้จริงๆ ผมควรหาข้อมูลเกี่ยวกับจอมเวทจริงๆ สักหน่อยดีไหมนะ…
“หลังจากนี้ ค่อยไปคุยกับโดโรธีซังเมื่อเธอกลับมา แล้ววางแผนสำหรับอนาคตกันต่อ”
“”””ค่ะ””””
ผมละอยากขายพริกไทยที่นี่จริงๆ เพราะเมืองนี้เป็นเมืองใหม่ที่พึ่งเคยมาครั้งแรก
แต่คงไม่ได้สินะ ปริมาณพริกไทยที่มีอยู่ตอนนี้ช่างลดลงยากเหลือเกิน…
“วาตารุ”
ริมูกระโดดเข้ามาหาผม
“มีอะไรเหรอ?”
“ฟูจัง สั่นด้วย”
ฟูจังสั่น? …ริมุหมายถึงเก้าอี้นวดใช่ไหม?
“ริมู อยากให้ฟูจังลองใช้เก้าอี้นวดด้วยเหรอ?”
“ใช่”
ดูเหมือนจะสนุกมากจนเขาไปชวนฟูจังให้ลองด้วยสินะ
ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ผมกังวลว่ามันจะมีแปลกๆ เกิดขึ้นน่ะสิ
…ฟูจังเองก็กระโดดเข้ามาหาผมแล้วบอกว่า “..สั่น..” ด้วยเหมือนกัน
ดูเหมือนจะอยากลองหลังจากได้ฟังเรื่องจากริมุสินะ
“เอ่อ มารีน่าซัง ดูเหมือนว่าริมูจะสนุกกับเก้าอี้นวดมากจนเอาไปบอกฟูจังน่ะครับ
ถึงมันดูแปลกๆ ไปหน่อยแต่ในเมื่อริมุไม่เป็นไร…ให้ฟูจังลองดูหน่อยได้ไหมครับ?”
“ถึงจะมีบางคำที่ทำให้ฉันรู้สึกกังวล แต่ถ้าฉันอยู่ด้วยก็ไม่มีปัญหาค่ะ ถ้าฟูจังอยากลอง ก็ให้ลองได้เลย”
“เข้าใจแล้วครับ งั้นริมุ ฟูจัง รอกลับไปที่เรือลำใหญ่ก่อนนะ?
แต่ถ้าผมกับมารีน่าซังบอกให้หยุดต้องหยุดนะ สัญญาได้ไหม?”
“ได้”
“..ได้..”
ริมูและฟูจังกระเด้งไปมาอย่างมีความสุข น่ารักดีจริงๆ
แต่พอจินตนาการถึงภาพที่พวกเขาอยู่บนเก้าอี้นวดแล้ว ผมกลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
“อ๊ะ โดโรธีซัง กลับมาแล้วเหรอครับ”
“กลับมาแล้วค่ะ”
“ยินดีต้อนรับกลับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยากนะครับ”
เธอดูเหนื่อยมากเลย เกิดเรื่องยุ่งยากอะไรขึ้นหรือเปล่านะ?
“โดโรธีซัง คุณดูเหนื่อยๆ นะครับ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะ ถ้าลูก้าล่มสลาย ออร์ฮุสเองก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ฉันเลยได้รับอนุญาตให้ซื้อเสบียงค และพวกเขาก็ยินดีช่วยเหลือค่ะ
แต่ท่านลอร์ดสนใจเรื่องของท่านจอมเวทกับเรือขนาดใหญ่มาก
จนถามฉันไม่หยุดเลยค่ะ เพราะงั้นฉันเลยรู้สึกเหนื่อย”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว สตรองโฮลด์ มันก็เด่นจริงๆ นั่นล่ะ ขอโทษด้วยนะครับ”
“ฉันกลับรู้สึกขอบคุณที่มีเรือลำนี้ไว้ใช้ขนเสบียงไปช่วยลูก้าได้มากกว่าค่ะ
ส่วนเรื่องของท่านจอมเวท ฉันบอกว่าฉันได้ทำสัญญากับท่านเอาไว้เลยไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแวะไปที่บริษัทการค้าโกเฟรโด้ตอนขากลับมา
และแจ้งคำสั่งจากท่านลอร์ดให้พวกเขาทราบมาแล้ว
ได้ยินมาว่าพรุ่งนี้เช้าพวกเขาจะเริ่มขนส่งสินค้าที่รวบรวมไว้มาให้พวกเราค่ะ”
“ยิ่งเร็วก็ยิ่งดีครับ ผมจะออกตั๋วสำหรับขนส่งสินค้าไว้ให้ 30 ใบ นะครับ
โอ๊ะ! ก่อนอื่นเราต้องไปจัดการเรื่องจุดขนถ่ายสินค้ากันก่อน”
“ค่ะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนเอาตัวไปส่งให้เอง”
“เธอพักเถอะ โดโรธี ฉันจะเป็นคนเอามันไปให้เอง”
“จริงเหรอ? ถ้างั้นฝากด้วยนะมารีน่า”
“อืม…”
“นี่ครับ มารีน่าซัง ผมจะเปิดประตูขึ้นเรือที่ท้ายเรือฝั่งซ้ายเอาไว้ บอกให้พวกเขาขนของขึ้นที่ตรงนั้นนะครับ”
“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
ผมส่งมารีน่าซังออกไป แล้วก็นั่งพูดคุยกันโดโรธีซังในระหว่างที่รอเธอกลับมา
“ผมแปลกใจนะครับที่ลอร์ดของเมืองนี้ยอมแบ่งอาหารมาให้พวกเราแบบนี้
ถึงระยะทางจากที่นี่ไปลูก้าจะใช้เวลาแค่สี่วันด้วยเรือเวทมนตร์
แต่ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะเริ่มสะสมเสบียงไว้รับมือกับจักรวรรดิกันแล้ว”
“ฉันคิดว่าพวกเขาคงจะสะสมเสบียงเอาไว้อยู่ก่อนแล้วล่ะค่ะ
และที่พวกเขายอมช่วยเพราะมองแล้วว่าการช่วยลูก้าเป็นผลดีกับพวกเขา
เพราะตราบใดที่อาณาจักรเบรสเชียยังอยู่จักรวรรดิ ก็ไม่สามารถทำอะไรอาณาจักรเทสซาโลนิกิได้”
“เข้าใจล่ะ ว่าแต่โดโรธีซัง อาณาจักรเทสซาโลนิกิมีโอกาสที่จะส่งกองกำลังไปช่วยที่อาณาจักรเบรสเซียไหมครับ?”
“มีการพูดถึงกองหนุนอยู่ค่ะ แต่ฉันไม่ทราบรายละเอียด”
“ถ้าพวกเขาสามารถส่งกองกำลังมาได้ การต้านกองทัพจักรวรรดิก็คงง่ายขึ้นเยอะ…”
“ค่ะ นั่นจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเรา แต่ฉันไม่แน่ใจว่าทางการจะยอมรับคำขอแบบนี้หรือเปล่า”
“คงยากสินะครับ”
“ค่ะ”
ผมรีบตัดจบการสนทนาที่เริ่มจะออกไปในทางมืดมน แล้วก็เปลี่ยนมาคุยเรื่องทั่วไปต่อจนมารีน่าซังกลับมา
“ยินดีต้อนรับกลับ มารีน่าซัง”
“กลับมาแล้วค่ะ พวกเขาบอกว่าจะเริ่มขนของกันพรุ่งนี้เช้า
ท่านลอร์ดบอกว่าท่านขอให้บริษัทการค้าอื่นช่วยด้วย
และพวกเขาจะขนส่งสินค้า 20 เหรียญทองขาว และของช่วยเหลือจากท่านลอร์ดให้เสร็จภายในสามวัน
ดังนั้นพวกเขาต้องการตั๋วเพิ่มอีก 30 ใบ ค่ะ ท่านช่วยออกให้ได้ไหม?”
“เข้าใจแล้วคครับ…นี่ครับตั๋ว”
หลังจากส่งตั๋วให้มารีน่าซัง ผมก็มองดูเธอออกไปอีกรอบ …ผมน่าจะออกตั๋วไว้เยอะๆ ตั้งแต่แรก
หลังจากฆ่าเวลาไปอีกพักหนึ่งมารีน่าซังก็กลับมา เราจึงกลับไปที่สตรองโฮลด์
ก่อนจะลืมผมได้เปลี่ยนที่จอดรถให้ดูเหมือนไม้และปิดทางเข้าออกทั้งหมดเหลือไว้เพียงทางเดียว แค่นี้ก็น่าจะไม่มีทางเข้าไปด้านในได้แล้ว
“ทุกคนครับ ถึงบนเรือจะปลอดภัยแต่ก็เป็นไปได้ที่คนที่ได้รับตั๋วไปอาจจะพยายามก่อปัญหาขึ้นก็ได้
ถึงพวกเขาจะฆ่าหรือทำร้ายพวกเราไม่ได้ แต่ก็ระวังตัวกันเอาไว้ด้วยนะครับ”
“ถ้าเกิดพวกเขาเห็นสิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือมันจะไม่ยุ่งยากเอาเหรอคะ
ฉันคิดว่าเราน่าจะแปลงทุกอย่างบนเรือเอาไว้น่าจะดีกว่านะคะ”
“ผมควรจะทำอย่างงั้นเหรอครับ? ว่าแต่โดโรธีซังในความคิดของคุณ
คุณพอจะสามารถแทรกซึมเข้ามาบนเรือลำนี้ได้ไหมครับ?”
“มารีน่า น่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าฉันค่ะ…มารีน่า ถ้าเธอเป็นหน่วยสอดแนมพอที่จะแทรกซึมขึ้นมาบนเรือลำนี้ได้ไหม?”
“ถ้ามีตั๋วและอุปกรณ์ที่เหมาะสม ฉันคิดว่าฉันพอที่จะสามารถแทรกซึมขึ้นมาบนเรือลำนี้ได้ค่ะ”
“อืม ถ้าพวกเขาเห็นของบนเรือก็คงเป็นปัญหาจริงๆ นั่นล่ะ
งั้นจนกว่าพวกเราจะส่งเสบียงไปถึงลูก้า ผมจะแปลงทุกอย่างยกเว้นห้องพักเอาไว้แล้วกัน
เพราะห้องพักไม่สามารถเข้าไปได้ด้วยตั๋วพวกนั้นอยู่แล้ว
อีกอย่างผมจะเปลี่ยนประตูหน้าต่างทั้งหมดให้ไม่สามารถเข้าได้จากข้างนอกด้วย
ดังนั้นข้างในนี้จะมืดมาก เราคงต้องใช้เวทแสงในการเดินไปไหนมาไหนกันแล้วล่ะครับ”
“””””เข้าใจแล้วค่ะ”””””
เซ็งชะมัดที่ต้องมาแปลงภายในของเรือแบบนี้
แต่ผมสัญญากับริมุและฟูจังเอาไว้แล้วดังนั้น…
ผมจึงใส่เหรียญทองแดงเข้าไปในเก้าอี้นวด แล้ววางริมุกับฟูจังลงไป
จื๊ดๆ จื๊ดๆ จื๊ดๆ จื๊ดๆ… การสั่นด้วยความเร็วสูงจึงเริ่มขึ้น
ไม่ว่าผมจะเห็นมันกี่ครั้ง หัวใจผมก็ยังรู้สึกหวิวๆ อยู่ดี
“วะ-วาตารุซัง แบบนี้จะไม่เป็นอะไรเหรอคะ?”
“ครับ ผมเองก็กังวลกับภาพที่เห็นเหมือนกัน แต่จากที่ได้ยินริมุบอกว่าสนุกมาก”
“งั้นเหรอคะ…”
มารีน่าซัง ถึงกับช็อกจนลืมไปเลยว่าพวกเรากำลังแสดงบทเป็นจอมเวทกันอยู่?
เธอกับโดโรธีซังมองริมุและฟูจังด้วยความกังวล
ในที่สุด เวลาของเก้าอี้นวดก็หมดลง เรารีบอุ้มริมุและฟูจังออกมา
“ริมุ รู้สึกเวียนหัวหรือเปล่า? เป็นอะไรไหม?”
“ไม่เป็นไร”
“งั้นเหรอ ดีแล้ว แต่ถ้ารู้สึกไม่ดีต้องบอกผมทันทีนะ”
“อื้ม”
“มารีน่าซัง ฟูจังพูดว่าอะไรบ้างครับ?”
“…ฟูจังบอกว่าสนุกมาก ค่ะ”
“…งั้นเหรอครับ”
สไลม์สนุกกับการสั่นด้วยความเร็วสูงงั้นเหรอ? ช่างเป็นปริศนาจริงๆ
เอาล่ะ มาแปลงโฉมเรือให้เสร็จๆ ไปเลยดีกว่า
เริ่มจากเก้าอี้นวดก่อนเลย ผมจะทำให้เป็นมันเป็นเก้าอี้ธรรมดาๆ
แต่ผมกลับรับรู้ได้ถึงความเศร้าของริมุ ผมจึงบอกริมุว่าจะยกเลิกมันเมื่อกลับไปถึงลูก้า แล้วก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้ริมุยอมรับ
หลังจากจัดการเรื่องแปลงโฉมเรือเสร็จ พวกเราก็รับไปประทานอาหารเย็น
จากนั้นผมก็ใช้เวลาสวีทกับไอเนสและเฟลิเซียจากนั้นก็เข้านอน…
ตลอดสามวันที่ผ่านมา มีเรือขนเสบียงเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
ปริมาณอาหารที่นำขึ้นมาบนเรือนั้นมีปริมาณที่มหาศาลมาก
คนส่วนใหญ่ต่างประหลาดใจกับขนาดของเรือและพื้นที่จอดรถ แต่พวกเขาก็ยังขนของกันได้อย่างเป็นระเบียบ
มีเพียงไม่กี่คนที่ดูน่าสงสัยที่พยายามแอบขึ้นเรือ แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเลิกความคิดหลังจากเห็นประตูที่มีคนเฝ้า
จากนั้นพวกเขาพยายามแอบขึ้นมาด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ในตอนกลางคืนเหมือนอย่างที่มารีน่าซังบอก
ตั๋วที่ผมออกให้มีทั้งหมด 60 ใบ แต่ตอนนี้กลับมีคน 10 พยายามแอบบุกขึ้นมาบนนี้อยู่…
“โดโรธีซัง คุณคิดว่าพวกที่พยายามแอบขึ้นเรือมาเป็นคนของจักรวรรดิหรือเปล่าครับ?”
“ฉันก็บอกไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีสายของจักรวรรดิปะปนอยู่ด้วย
แต่จากที่พวกเขาได้ตั๋วกันมาง่ายๆ ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะถูกส่งมาโดยท่านลอร์ดแห่งออร์ฮุสมากกว่าค่ะ”
ลอร์ดของเมืองนี้อย่างงั้น?
“ค่ะ เพราะจอมเวทที่เอาแต่อยู่บนเรือแบบนี้ย่อมเป็นที่กังวลของพวกเขาค่ะ
มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาถูกส่งมาเพื่อรวบรวมข้อมูลของท่านจอมเวทให้ได้มากที่สุด”
“เห้อ…ถึงพวกจะช่วยลูก้าแต่ก็อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับจอมเวทเหมือนกันสินะครับ”
“แล้วเราควรจับพวกเขาไว้หรือเปล่าครับ?”
“ไม่ค่ะ พวกคนพวกนี้จะไม่พูดอะไรแน่ๆ ถ้าไม่ถูกทรมาน
แถมตัวพวกเขาเองก็คงไม่มีข้อมูลสำคัญอะไรอยู่แล้ว
อีกอย่าง ฉันไม่เคยทรมานใครมาก่อนเลยไม่รู้ว่าจะรีดข้อมูลออกมาได้ไหม
ดังนั้นเลยไม่คุ้มที่จะจับกุมพวกเขาค่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ นี่ก็ดึกแล้วพวกเรามาแบ่งเวรกันแล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะครับ”
เอาจริงๆ ผมก็แอบโล่งใจนะ เพราะถ้าจู่ๆ พวกเธอเกิดจับใครคนใดคนหนึ่งในหมู่คนพวกนั้นมาทรมาน
เพื่อรีดเอาข้อมูลล่ะก็ ผมคงเหวอจนไปต่อไม่เป็นแน่…
“””””ค่ะ”””””
เมื่อผู้บุกรุกปีนขึ้นมาถึงด้านบนก็พบเข้ากับกำแพงที่พวกเขาไม่ทำลายได้และไม่มีทางเข้าอื่นใด
พอพระอาทิตย์ขึ้นครึ่งหนึ่งของพวกเขาก็จากไป ส่วนอีกครึ่งหนึ่งยังแอบซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
ผมมีแผนที่จะยกเลิกตั๋วทั้งหมดตอนที่เราออกเดินทาง ว่าแต่พวกที่ซ่อนตัวอยู่จะเป็นยังไงนะ?
จะว่าไปผมยังไม่เคยเห็นใครถูกขับออกจากเรือเพราะการปฏิเสธการขึ้นเรือมาก่อนเลยนี่นา…
งั้นมาลองทดสอบกับพวกนี้ดูดีกว่า ว่าแต่ระยะทางจากที่นี่ไปถึงฝั่งยังพอที่จะว่ายน้ำกลับไปได้อยู่หรือเปล่า?
ถึงแม้จะมีปัญหากวนใจเล็กน้อยแต่ในที่สุดการขนส่งเสบียงก็เสร็จสิ้นลงจนได้ ได้เวลากลับไปที่ลูก้ากันแล้ว!
MANGA DISCUSSION