ตอนที่พวกเราพบกับวาตารุซังครั้งแรก
เขาเป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดาq คนหนึ่ง ที่มีเรือเวทมนตร์ที่สามารถเดินทางไปที่เกาะได้
ถึงแม้การมีเรือเวทมนตร์ที่สามารถเดินทางไปที่เกาะได้จะมีอันตรายอยู่บ้าง
แต่เขากลับดูไม่คิดมากกับเรื่องนี้เท่าไหร่เลย และดูเหมือนว่าจะใช่ชีวิตสบายๆ ไปตามปกติ
หลังจากที่เขารับงานที่เกาะอยู่หลายครั้ง สภาพความเป็นอยู่บนเกาะก็ค่อยๆ ดีขึ้น
มีแพเต็นท์เอาไว้นอน มีแพอาบน้ำให้ใช้ แล้วก็มีอาหารอร่อยๆ ให้กินมากขึ้น
แล้วบนแพอาบน้ำนั่นเอง พวกเราก็ได้รู้ว่าวาตารุซังเป็นคนที่ออกจะทะลึ่งนิดๆ แถมยังแพ้ทางผู้หญิงเอามากๆ ด้วย
เขาเป็นชายหนุ่มที่แปลกจริงๆ ทะลึ่งนิดๆ แล้วก็รักสไลม์ ฉันล่ะไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ
หลังจากนั้นสมาชิกคนอื่นๆ ก็เริ่มชอบวาตารุซังมากขึ้น
แล้วก็เริ่มที่จะระบุตัวเขาทุกครั้งที่พวกเรามีภารกิจบนเกาะ จนกระทั่งวันหนึ่ง
ฉันถึงกับตกตะลึงที่โดโรธีกับมารีน่า เริ่มหันมาชอบสไลม์เหมือนกันกับเขาซะอย่างงั้น
ตอนที่พวกเราเจอโฮลี่สไลม์บนเกาะ โดโรธีกับมารีน่าก็ยืนกรานว่าจะเอามันกลับไปเป็นของฝากให้วาตารุซังให้ได้
ตอนนั้นฉันทั้งตกใจทั้งรู้สึกไม่สบายใจเลย เพราะโดโรธีที่ปกติจะเป็นคนจริงจัง
และมารีน่าที่เป็นคนที่ไม่ค่อยพูด กลับยอมทำอะไรเพื่อคนที่ไม่ใช่สมาชิกของปาร์ตี้เราแบบนี้
ถึงแม้การนำมันไปด้วยจะไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อภารกิจของเราเลยก็ตาม แต่…แบบนี่มันไม่ปกติ
แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ว่าพวกเธอก็แค่ชอบสไลม์เฉยๆ ก็เท่านั้นเอง
แต่ในตอนนั้น ฉันถึงขั้นคิดอย่างจริงจังเลยว่าวาตารุซังอาจจะล้างสมองพวกเธอไปแล้วก็ได้…
แต่ไม่ว่าฉันจะสังเกตดูเขายังไง ก็ไม่เห็นว่าเขาจะทำอะไรแบบนั้นเลย สุดท้ายก็สรุปไปว่ามันเป็นความเข้าใจผิด
หลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็เริ่มรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่มองมาที่หน้าอกของฉัน
พอลองแกล้งหยอกดูนิดหน่อย เขาก็รีบเบือนหน้าหนีทันที… หุหุ ช่างน่ารักจริงๆ
จากนั้นอยู่ๆ เขาก็บอกว่าจะลองทำการค้าพริกไทยดู
ตอนนั้นฉันก็รู้สึกกังวลเรื่องของเขาอยู่นะ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจจริงๆ
และไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ออกเดินทางไปค้าพริกไทย
คนอื่นๆ เองก็พากันเป็นห่วงเขาเหมือนกัน แต่อลิเซียบอกว่า…
เขาได้บอกกับเธอ ว่าเรือของเขามีความลับอะไรบางอย่าง
ทำให้เขามั่นใจมากๆ ว่าจะทำการค้าพริกไทยในครั้งนี้สำเร็จ
แล้วหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาพร้อมของฝากจากทวีปทางใต้
ในตอนนั้นฉันตกใจมากเลยที่เห็นเขากลับมาพร้อมกับทาสสาวสองคนที่ทั้งสวยและมีฝีมือ
และดูเหมือนทั้งคู่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แถมยังเข้ากันได้ดีอีกต่างหาก
เขารอดจากการเดินทางที่อันตราย แถมยังกลับมาพร้อมทาสสาวแสนสวยถึงสองคน
ปกติถ้าใครมาเห็นอะไรแบบนี้ ก็ต้องอดที่จะประหลาดใจไม่ได้เหมือนกัน
ฉันเองก็ประหลาดใจที่ชีวิตของเขาไปได้สวยขนาดนี้…ทั้งๆ ที่เขาดูเหมือนคนง่ายๆ สบายๆ แท้ๆ
แต่ก็นะ เขาก็ยังแพ้ทางผู้หญิงอยู่เหมือนเดิม แถมยังรับปากว่าจะมาทำอาหารให้คาร์ล่าอีก
วันต่อมา ตอนที่เขามาทำอาหาร ก็ดันไปมีเรื่องกับลูกของเจ้าของโรงแรมเข้าอีก
ฉันรู้สึกสงสารเขานะ แต่พอเขาได้เห็นว่าอลิเซียกับคนอื่นๆ จริงจังกับเรื่องนี้แค่ไหน
เขาก็หันมามองฉันด้วยความตกใจกับปฎิกิริยาของพวกอลิเซีย จากนั้นก็ส่งสายตาเห็นอกเห็นใจมาให้
ดีล่ะ…ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะให้เขาช่วยอลิเซียกับคนอื่นๆ ปรับปรุงเรื่องมุมมองเกี่ยวกับผู้ชาย
เขาคงคิดว่าฉันเป็นคนมีเหตุผลสินะ… แล้วนี่ก็ไม่ใช่เพราะฉันโมโหที่เขาทำหน้าตกใจใส่แบบนั้นหรอกนะ
ที่ฉันลากเขาเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้แบบนี้เพราะฉันคิดว่าเขาน่าจะช่วยได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องโมโหเลยสักนิด
ปาร์ตี้ของพวกเราน่ะ เป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน เลยไม่มีผู้ชายอยู่ในกลุ่มเลยซักคน
บางทีอาจเพราะพวกเราต้องคอยรับมือกับพวกนักผจญภัยนิสัยไม่ดี
ที่เข้ามารุมจีบอยู่ตลอดจนแทบไม่ให้พักหายใจ ก็เลยทำให้พวกเราไม่ค่อยสนใจผู้ชายสักเท่าไหร่
แล้วยิ่งกว่านั้น นอกจากตัวฉันเองแล้ว คนอื่นๆ ก็แทบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองน่ะหน้าตาดีขนาดไหน
จะว่าไปปาร์ตี้ของพวกเรานี่ระดับความดูดีก็สูงเอาเรื่องเลยนะเนี่ย
แต่เพราะสมาชิกในปาร์ตี้โดนพวกนักผจญภัยผู้ชายตามตื๊อกันจนน่าเบื่อแล้ว
พวกเธอเลยคบหากับผู้ชายเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น ทำให้พวกเธอไม่ได้ใส่ใจเรื่องหน้าตาหรือนิสัยอะไรพวกนั้นเลย
ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเรากับวาตารุซังเนี่ย เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์เลยด้วยซ้ำ
อาจจะเพราะบรรยากาศที่ดูไร้พิษภัยที่ปล่อยออกมาจากตัวเขาก็ได้
ฉันเคยคาดหวังว่าเขาจะช่วยให้พวกเราตระหนักได้ถึงเรื่องของความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง แต่…ก็นะ
เขาเป็นคนที่ไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ แต่กลับทำอาหารเก่ง ออกจะทะลึ่งนิดๆ
แต่ก็ไม่ได้มีบรรยากาศแบบพวกผู้ชายที่หวังจะทำอะไรที่มัน…
สุดท้ายความสัมพันธ์ของพวกเราก็เลยกลายเป็นเหมือนได้เพื่อนผู้หญิงที่คุยกันถูกคอเพิ่มขึ้นมาอีกคนไปซะอย่างนั้น… น่าปวดหัวจริงๆ
อย่างน้อยวาตารุซังก็ช่วยอธิบายเรื่องปัญหาของลูกเจ้าของโรงแรมให้
ว่ามันเกิดจากความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของผู้ชายคนนั้น
ซึ่งนั่นทำให้คนอื่นๆ ตระหนักถึงสถานการณ์กันขึ้นมาหน่อย
แล้วหลังจากที่เคลียร์ปัญหานั้นเสร็จ เขาก็ทำของทอดรวมให้พวกเรากิน…มันอร่อยมากเลยล่ะ
ถ้าเป็นเรื่องอาหารล่ะก็ คลอเร็ตต้ากับคาร์ล่าถึงกับยอมสยบให้เขาแบบถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะ
ตอนที่พวกเราถามเขาว่าแผนการต่อไปคืออะไร วาตารุซังก็ตอบว่าจะกลับไปค้าพริกไทยอีกรอบ
การเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายแบบนั้นอีกครั้งเหรอ!?…ทั้งที่ฉันคิดว่าเขาดูเหมือนจะเป็นคนรอบคอบแท้ๆ
แต่นี่เขากลับบอกว่าจะกลับไปค้าพริกไทยอีกครั้ง!
ไม่รู้ว่าฉันประเมินเขาผิดไป หรือว่าเพราะความลับของเรือที่เขาใช้กันนะ…
เขาดูเป็นคนเรียบง่ายก็จริง แต่ยิ่งมองลึกลงไป ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ซ่อนความลับอะไรไว้เยอะมาก
หลังจากนั้น เขาก็กลับมาจากการค้าพริกไทยได้อย่างสบายๆ
แล้วก็แวะมาหาพวกเราพร้อมกับของฝาก ท่าทางก็ยังคงสบายๆ เหมือนเดิม
ครั้งนี้เขาบอกว่าเขาซื้อเครื่องประดับมาเยอะไปหน่อย เลยให้พวกเราเลือกอันที่ชอบได้ตามใจ…
ซึ่งฉันก็แอบสงสัยอยู่ว่าผู้ชายคนหนึ่งจะซื้ออะไรแบบนี้มาเยอะๆ โดยไม่ได้คิดอะไรได้ด้วยเหรอ?
พอถามเขาเรื่องแผนการเดินทางในอนาคต เขาก็บอกว่าจะไปปาแลร์โม่
คลอเร็ตต้าถึงกับอ้าปากค้างเลยล่ะ ก็เธอเคยพูดไว้นี่นะว่าอยากไปเยี่ยมชมมหาวิหารให้ได้สักครั้งก่อน
พวกเราก็เคยคิดว่าจะไป แต่ก็ลังเลเพราะต้องข้ามพรมแดนประเทศที่ยุ่งยากทั้งทางบกและทางทะเล
และเมื่อพวกเราบอกเขาว่าอยากจะขอไปด้วย เขาก็บอกว่าเขาขอเวลาคิดดูก่อนเพราะมันเกี่ยวข้องกับความลับของเรือ
แต่สุดท้ายในวันต่อมาเขาก็ตอบตกลง พวกเราจึงรีบเตรียมตัวออกเดินทาง ไปซื้อของ แล้วก็ถูกพาไปดูเรือของเขา
พอเห็นภายในเรือ ฉันถึงกับตกตะลึงในบรรยากาศที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
แล้วยิ่งตกใจเข้าไปอีกเมื่อเขาเปิดเผยความลับให้พวกเรารู้…
จะไม่เป็นอะไรเหรอเนี่ย ที่บอกความลับระดับนี้ให้กับพวกเราง่ายๆ?
แต่ยังไงฉันก็พอมองออกว่าเขาคงคิดแค่ว่า ถ้ามีปัญหาก็แค่หนี ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน…
แต่เขาจะรู้ตัวไหมนะ ว่าความสามารถที่เก็บอาหารปริมาณมหาศาลได้แบบนี้
ถ้าทางประเทศรู้เข้า มีหวังโดนรุมล้อมแน่ๆ ฉันได้แต่จินตนาการถึงความกังวลในใจของเขา
พวกเราได้รู้ความลับของความสำเร็จในการค้าพริกไทยของเขาในตอนที่ถูกมอนสเตอร์ทะเลโจมตี
ฉันถึงกับคิดเลยว่า นี่มันโกงชัดๆ! สกิลที่ไร้เหตุผลแบบนี้มันอะไรกัน
ฉันยังรู้สึกสงสารมอนสเตอร์พวกนั้นเลย หลังจากถูกใช้ในเกมไล่จับจนหมดแรงแล้ว พวกมันก็ถูกกำจัดไปง่ายๆ
ตอนแรกฉันก็ตกใจแล้วนะที่เห็นเรือ ลูโตะ แต่พอมาเจอกับไฮด์อเวย์เข้า…
ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายเป็นคำพูดยังไงเลย…มันก็เป็นเรือที่สุดยอดอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
จนฉันอดเป็นห่วงไม่ได้เลยว่าทำไมเขาถึงเปิดเผยเรือลำนี้ออกมาง่ายๆ แบบนี้ ทั้งที่ควรจะเก็บมันเป็นความลับได้แท้ๆ
แต่ก็พอจะเข้าใจเหตุผลอยู่ เพราะเขาดูตื่นเต้นมากๆ ในช่วงเวลาของการอาบน้ำ
เขาดูมีความสุขสุดๆ ไปเลนล่ะเวลาที่พวกเราลงไปแช่ในอ่างพร้อมกันกับเขา
ก็สมกับเป็นอ่างอาบน้ำชั้นยอดล่ะนะ พวกเราเองก็สนุกไปกับมันมากเหมือนกัน
แล้วอีกเรื่อง ถ้าเราเข้าไปแช่อยู่ก่อนแล้วเขาจะไม่ตามลงไปทีหลัง เพราะเกรงใจพวกเราอยู่เสมอ
ถึงจะทะลึ่งนิดๆ แต่ฉันคิดว่าคนแบบนี้ก็นับว่ามีความเป็นสุภาพบุรุษนะ (หรืออาจจะเรียกว่าขี้เกรงใจดีนะ…)
ตอนที่ไปถึงปาแลร์โม่ พวกเราก็เห็นเขาใช้เรือในการขนสินค้าบนบกเหมือนกัน
เขาขายพริกไทยที่นั่นได้กำไรมหาศาลเลยล่ะ มันทำให้พวกเราเห็นว่าธุรกิจของเขาไปได้สวยขนาดไหน
ความสามารถของเขายังช่วยพาพวกเราผ่านถ้ำที่มีลมแรงจัดจนไม่สามารถเดินต่อไปได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่าความสามารถนั้นอาจจะไม่แข็งแกร่งนักในบางสถานการณ์ แต่ถ้าใช้ให้ถูกวิธี ก็เป็นสกิลหายากที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายจริงๆ
ถึงแม้เขาจะมีเกล็ดของริวอยู่ในมือ แต่เขากลับกลัวการเป็นเป็นจุดสนใจมากกว่าการมีชื่อเสียงซะงั้น
เขาปฏิเสธที่จะแสดงตัวให้ใครอื่นเห็นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวจริงๆ… คนธรรมดาที่จิตใจอ่อนไหวง่านอย่างเขา
กลับได้รับสกิลเฉพาะตัวที่ทรงพลังมากถึงขนาดนี้ ถ้าเขาใช้มันอย่างถูกวิธีล่ะก็ เขาสามารถต่อกรกับประเทศทั้งประเทศได้เลยด้วยซ้ำ
เขาเป็นคนดี เป็นชายหนุ่มที่น่าคบหา แต่ก็ยังใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยและแพ้ทางผู้หญิงไม่เปลี่ยน…
ถ้าวันหนึ่งเขาถูกจักรวรรดิ หรือประเทศที่ยึดถือมนุษย์เป็นใหญ่ใช้ประโยชน์ล่ะก็…
อนาคตของพวกเราเผ่ามนุษย์สัตว์คงได้ตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ เขาอาจจะถูกผู้หญิงสวยๆ ปั่นหัวเอาก็ได้
โดยที่ไม่รู้เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเธอต้องการอะไรจากเขา…
ฉันคิดนะว่า เราไม่ควรปล่อยให้เขาไปไหนมาไหนง่ายๆ
โชคดีที่ตอนนี้เขาชอบพวกเราอยู่ แต่สำหรับสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่ม
พวกเธอกลับมองว่าเขาเป็นแค่เพื่อนที่ดีเท่านั้น
พวกเราควรจะปรึกษากันเรื่องนี้ดีไหมนะ? หรือบางที ฉันอาจจะคิดมากไปเอง…
MANGA DISCUSSION