นี่ก็ผ่านไปสักพักแล้วนับตั้งแต่ที่เราออกเดินทางกลับสู่เมืองทางใต้
ทั้งๆ ที่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติสามารถใช้งานได้แท้ๆ มันควรจะเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายไม่ใช่เหรอ?
แล้วทำไมตอนนี้ผมถึงได้มานั่งโยกอยู่แบบนี้ล่ะเนี่ย! หรือว่าเกิดจากความเครียดสะสม?
เพราะตอนนี้ ไอเนส อลิเซียซัง และมารีน่าซัง กำลังขับเรือกันอยู่ด้วยความสนุกสนานหลังจากที่ไม่ได้ขับมานาน
พวกเธอหักเลี้ยวเรือไปมาแบบวกวนเหมือนกับกำลังหลบหลีกอะไรบบางอย่างอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่มีมอนสเตอร์เข้ามาโจมตีด้วยซ้ำ…
“อืม…ผมว่าพวกเธอน่าจะเป็นแบบนี้กันไปอีกสักพัก”
“คงต้องรอให้พวกเธอสงบลงเอง…”
“ขอโทษนะคะ วาตารุซัง”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ คลอเร็ตต้าซัง”
“ไอเนสเองก็ไปด้วย ผมต่างหากล่ะครับที่ควรจะต้องเป็นฝ่ายขอโทษ”
“ไม่เป็นไรหรอก คลอเร็ตต้า พวกเธอก็แค่ตื่นเต้นเกินไปหน่อยเพราะไม่ได้ขับเรือมานานก็เท่านั้นเอง เดี๋ยวเบื่อก็หยุดเองล่ะ”
“แต่..มันไม่ได้มีมอนสเตอร์โจมตีเข้ามานะ อัลม่า?”
“อย่าคิดมากสิ คลอเร็ตต้า”
“ถ้าเอาแต่ทำหน้ารู้สึกผิดแบบนั้น วาตารุซังจะลำบากใจเอานะ”
“เอ๋? จริงเหรอคะ?”
“ใช่ครับ ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก อีกอย่างการเดินทางครั้งนี้ก็ยังอีกตั้งไกล
ดังนั้นแล้วพวกเรามาผ่อนคลายแล้วทำตัวตามสบายกันเถอะครับ”
“ข-เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะพยายามไม่คิดมากค่ะ”
“ใช่ครับ ทำตัวสบายๆ เข้าไว้”
“ค่ะ”
พอถึงเวลามื้อกลางวัน ทั้งสามคนก็ดูจะสงบลงบ้างแล้วก็กลับมาที่ห้องนั่งเล่นตามปกติ
หลังจากทานข้าวเสร็จ คาร์ล่าซังก็เดินเข้ามาหาผม
“วาตารุซัง โคร็อกเกะนี่จะทำเมื่อไหร่เหรอคะ?”
“โคร็อกเกะเหรอครับ? อ๋อ งั้นทำเป็นมื้อค่ำวันนี้เลยดีไหมครับ?”
“ดีค่ะ”
จริงสิ ผมลืมเรื่องโคร็อกเกะไปเลย
ก่อนหน้านี้ผมเคยสัญญากับคาร์ล่าซังไว้ว่าจะทำโคร็อกเกะให้กิน
ผมบอกว่าจะทำโดยใช้สูตรที่มันคล้ายๆ กับ โคร็อกเกะครีมปู
เธอคงจำได้แม่นเลยสินะ งั้นผมคงต้องรีบไปเตรียมวัตถุดิบตั้งแต่ตอนนี้แล้วล่ะ
“วาตารุซัง กำลังจะไเข้าครัวเหรอคะ?”
“ใช่ครับ ผมกำลังจะไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำโคร็อกเกะที่เคยสัญญากับคาร์ล่าซังเอาไว้น่ะครับ”
ฮ่าๆ ผมลืมเรื่องนี้ไปเลยจริงๆ
“ให้ฉันช่วยได้ไหมคะ?”
“แน่นอนครับ”
ไหนดูสิว่าส่วนผสมที่ต้องใช้ก็มี…
มันฝรั่ง เนื้อบด หอมหัวใหญ่ เนย ครีม เกล็ดขนมปัง ไข่ เกลือ แล้วก็พริกไทย สินะ
“ก่อนอื่นก็ต้มมันฝรั่งให้สุก ในระหว่างนี้ คลอเร็ตตาซังช่วยไปหั่นหอมหัวใหญ่ให้หน่อยได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ”
“คาร์ล่าซัง ช่วยหั่นขนมปังเป็นชิ้นเล็กๆ แบบตอนที่ทำทอดรวมให้หน่อยได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ”
ผมรู้ว่าคาร์ล่าซังไม่ค่อยถนัดเรื่องการทำอาหารเท่าไหร่ แต่เธอจะดูมีความสุขทุกครั้งที่ได้ช่วย
ดังนั้นผมเลยมักจะให้เธอช่วยทำอะไรที่มันง่ายๆ อยู่เสมอ
“จากนั้นผมจะนำเนื้อบดกับหอมหัวใหญ่ที่หั่นไว้ไปผัดในกระทะปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไทย”
“ค่ะ/ค่ะ”
“ต่อไปก็…ดูเหมือนมันฝรั่งจะสุกแล้วนะครับ”
“เรามาช่วยกันปอกเปลือกแล้วบดมันให้ละเอียดดีกว่าจากนั้นก็ใส่เนยลงไป”
“ระวังร้อนกันด้วยนะครับ”
“ค่ะ/ค่ะ”
“พอมันฝรั่งได้ที่แล้วก็เอามาผสมกับเนื้อที่เตรียมไว้ ผสมทุกอยากจนเป็นเนื้อเดียวกัน
จากนั้นก็ใส่ครีมลงไปเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จครับ”
“เราจะพักพวกนี้เอาไว้ก่อน พอถึงตอนเย็นค่อยมาปั้นเป็นก้อนแล้วทอดเหมือนกับตอนที่เราทำของทอดรวมครั้ง”
“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันแทบจะรอให้ถึงตอนเย็นไม่ไหวแล้วค่ะ วาตารุซัง”
“ฉันก็เหมือนกันค่ะ ตื่นเต้นๆ “
พอเตรียมของเสร็จ ผมก็ตัดสินใจว่าจะไปพักสักหน่อย เลยไปชงชามาแจกให้ทุกคน
“เฮ้อ~ รู้สึกดีจังเลย ที่ได้นั่งพักสบายๆ บนเรือแบบนี้”
“ฟุฟุ นั่นสินะคะ”
“วาตารุซัง ฉันอยากกินพุดดิ้งค่ะ”
“ได้เลยครับ มันยังพอมีเวลาก่อนจะถึงมื้อเย็นอยู่”
หลังจากแจกพุดดิ้งให้กับทุกคนเสร็จ ผมก็กลับมานั่งที่โซฟาพร้อมกับจิบชาไปด้วย
อ๊า~ การได้พักผ่อนนี้มันดีจริงๆ
ช่วงนี้ผมต้องไปพบทั้งกิลด์มาสเตอร์ และพระคาร์ดินัล ตั้งหลายครั้ง
นั้นทำให้ผมมีความเครียดสะสมไม่ใช่น้อยเลย การได้มาพักผ่อนสบายๆ แบบนี้มันช่วยให้ผมผ่อนคลายได้มากจริงๆ
ผมอยากใช้เวลานี้พักผ่อนให้เต็มที่ก่อนที่จะถึงเมืองทางใต้
ผมเอนตัวลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างเกียจคร้าน และจู่ๆ…
ตาของผมก็ไปสบเข้ากับดวงตาของซีเซอร์เพนท์ขนาดใหญ่ที่กำลังจ้องลงมา
“ทะ ทะ…ทุกคน ดูนั่น”
“กรี๊ดดด ซีเซอร์เพนท์! ฉันจะเป็นคนแรก”
“อลิเซีย นี่มันเรือของนายท่านนะ ฉันที่เป็นทาสของนายท่านควรจะต้องเป็นคนแรกสิ”
“ตรรกะแบบไหนของเธอน่ะ ไอเนส!?”
“ถ้างั้นพวกเราที่เป็นแขกของวาตารุซังก็ควรได้ก่อนสิถึงจะถูก!”
“อุฟุฟุ~ ทั้งสองคนน่ะเข้าใจผิดแล้ว”
“ใครไปถึงก่อนก็ต้องได้ก่อนต่างหากล่ะ!”
“อ๊ะ มารีน่า เดี๋ยวสิ!””
ผมมองทั้งสามคนพุ่งตัวไปยังห้องคนขับด้วยรอยยิ้มแหยงๆ
“เฟลิเซีย ช่วยไปดูแลทั้งสามคนนั้นให้หน่อยนะ อย่าให้พวกเธอทำอะไรบ้าๆ ล่ะ
แล้วถ้าเธออยากขับเรือก็ขับได้เลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ นายท่าน”
เฟลิเซียรีบตามทั้งสามคนไปอย่างร่าเริง จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก
เรือก็เร่งความเร็วขึ้น แสดงว่าพวกเธอคงใช้เวลาพักใหญ่เลยสินะ ในการตัดสินใจว่าใครจะได้เริ่มก่อน
แต่…อลิเซียซัง คุณไม่ควรจะกรี๊ดด้วยความดีใจขนาดนั้นตอนที่เห็นซีเซอร์เพนท์นะครับ…
“อ๊ะ ฟูจังสามารถเลเวลอัพได้ในสถานการณ์แบบนี้นะครับ
ระหว่างนี้เรามาสอนเขาขว้างหินกันดีไหมครับ? ถึงมารีน่าซังจะไม่อยู่ แต่ผมว่าคงไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ค่ะ มาทำกันเถอะ”
“เข้าใจแล้วครับ โดโรธีซัง ให้ริมุทำเป็นตัวอย่างให้ฟูจังดูก่อนดีไหมครับ?”
“ดีค่ะ แบบนั้นน่าจะช่วยได้เยอะเลย รบกวนด้วยนะคะ”
“ครับ ริมุ เราจะมาสอนฟูจังขว้างหินกันนะ ริมุช่วยแสดงตัวอย่างให้ดูหน่อยได้ไหม?”
“ได้”
“ขอบใจนะ ริมุ งั้นลองขว้างก้อนหินก้อนนี้ไปที่โซฟาตัวนั้นทีสิ”
“โอเค”
ริมุวางก้อนหินไว้บนส่วนโค้งของร่างกายแล้วดีดออกไปอย่างแรง ก้อนหินกระแทกโซฟาดัง ปัง! …
บางทีนี่อาจจะเป็นผลของการเลเวลอัพสินะ พลังโจมตีของริมุสูงขึ้นมากเลย
“ริมุ แข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้เยอะเลย เก่งขึ้นมาก”
“ริมุเก่งเหรอ?”
“ใช่ เก่งมากเลย”
“ริมุ ดีใจ”
หลังจากชมริมุเสร็จ ผมก็หันไปหาฟูจัง
เขากำลังดีดก้อนหินออกไปเหมือนกัน แม้ว่ามันจะเบาและไม่ได้มีพลังอะไรนัก แต่มันทำให้ผมนึกถึงริมุในตอนแรกๆ เลยล่ะ
“ไม่เป็นไรนะ ฟูจัง เดี๋ยวฟูจังก็ทำได้แบบเดียวกับริมุเองตอนที่เลเวลเพิ่มขึ้นนะ พอแค่นี้ก่อนก็ได้”
“จริงด้วย พอเลเวลเพิ่มขึ้นก็จะดีขึ้นเอง ฟูจังถามริมุจังได้นะ”
ฟูจังเดินเข้าหาริมุด้วยร่างกลมๆ นุ่มๆ ของเขา พวกเขากอดกันและขยับไปมา ภาพนี่มันช่างน่ารักสุดๆ เลยล่ะ
ไม่นานนัก ฟูจังก็กลับไปหาโดโรธีซัง และฝึกขว้างหินต่อ
ใบหน้าของโดโรธีซังตอนนี้ดูตื่นเต้นและมีความสุขมากๆ เลย ช่างเป็นภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นเลยจริงๆ
“ริมุ สอนฟูจังแล้วเหรอ?”
“เลเวลอัพ เยี่ยม!”
“ใช่แล้ว ริมุฉลาดมาก และเป็นเด็กดี”
“ริมุเป็นเด็กดีสุดๆ เหรอ?”
“ใช่ ริมุฉลาดมาก และเป็นเด็กดี”
ผมชมริมุอีกครั้ง เขาน่ารักจริงๆ
อ้อ จะว่าไป ผมเองก็อยากลองธนูอันใหม่เหมือนกัน
สงสัยจังว่ามันจะสร้างความเสียหายให้กับซีเซอร์เพนท์ได้ไหม?
จนถึงตอนนี้ผมจัดการได้แค่ก็อบลินเท่านั้น อยากลองจริงๆ
พอมองออกไปด้านนอก ผมก็เห็นซีเซอร์เพนท์ที่กำลังพ่นลมหายใจออกมา
ไอเนสที่หัวเราะคิกคักก่อนจะหมุนพวงมาลัย… ดูท่าจะใช้เวลาอีกสักพัก
ผมนั่งลงบนโซฟา ลูบริมุไปพลางมองฟูจังฝึกฝนไปพลาง
ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ ก็นั่งพูดคุยกันและตรวจสอบอาวุธ ดูเหมือนพวกเธอจะเคยชินกับสถานการณ์แบบนี้ไปซะแล้ว
ในที่สุดเรือก็หยุดลง และทุกคนก็ออกไปข้างนอก
“อุฟุฟุ สนุกจังเลย~”
“งือ…มันไม่พ่นลมหายใจตอนถึงตาฉันเลยอ่ะ”
“ก็มารีน่าเป็นคนสุดท้าย มันคงเหนื่อยแล้วล่ะมั้ง”
“ครั้งหน้าฉันจะต้องเป็นคนแรก!”
“ฟุฟุฟุ ต้องเป็นฉันสิคะ”
“เฟลิเซีย เธอน่ะไปเป็นคนสุดท้ายเลย”
…เฟลิเซีย นี่เธอเป็นคนแรกเหรอเนี่ย?
นี่ขนาดตามไปที่หลังนะ สงสัยจริงๆ ว่าพวกเธอไปตกลงกันยังไง
“ทั้งสี่คน เรากำลังจะจัดการซีเซอร์เพนท์กันแล้วนะ ถ้าไม่ตั้งใจกันล่ะก็ ผมจะไม่ให้ขับเรือกันแล้วนะ”
พอพูดจบ พวกเธอก็รีบวิ่งกลับลงไปเอาอาวุธกันในทันที
ทั้งที่ซีเซอร์เพนท์ยังอยู่ตรงนี้แท้ๆ แต่พวกเธอกลับคิดเรื่องลำดับก่อนหลังกันก่อนซะงั้น…
ไม่นานทั้งสี่ก็กลับมา แล้วฟูจังก็เริ่มขว้างหิน ก้อนหินพุ่งไปโดนซีเซอร์เพนท์อย่างจัง โดโรธีซังชมเขาใหญ่เลยล่ะ
ส่วนมารีน่าซัง… ดูจะตกใจสุดๆ จนเหมือนกับจะช็อกไปแล้วเลย
หลังจากนั้น ริมุกับผมก็ลองยิงธนูกับใช้สกิลหอกศักดิ์สิทธิ์บ้าง
โอ้! มันปักเข้าไปได้จริงๆ ด้วย
ถ้าธนูของผมโจมตีซีเซอร์เพนท์ได้ แสดงว่ามันน่าจะใช้ได้กับมอนสเตอร์ส่วนใหญ่สินะ
หลังจากนั้น พวกเราก็ร่วมมือกันจัดการซีเซอร์เพนท์ด้วยการโจมตีเต็มกำลัง
ผมเรียกเรือออกมาเพื่อเก็บมัน จากนั้นแยกส่วน จากนั้นก็เรียกเรือกลับ
ตอนนี้เรามีมอนสเตอร์ทะเลสะสมเอาไว้เยอะเลยล่ะ จะเอาไงกับมันดี…?
พอกลับมาที่ห้องนั่งเล่น ผมก็เห็นมารีน่าซังกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเอาใจฟูจัง
“โดโรธีซัง เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ มารีน่าซังถึงได้มีท่าทีลนลานแบบนั้น เธอทำให้ฟูจังโกรธเธอเหรอ?”
“เปล่าค่ะ เธอแค่รู้สึกหงุดหงิดที่ ฟูจังเติบโตขึ้นในที่ระหว่างที่เธอออกไปเล่นสนุกน่ะคะ”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง ถ้าฟูจังไม่โกรก็ไม่เป็นไรสินะครับ”
“ฟุฟุ ใช่แล้วค่ะ”
งั้นมาพักสักหน่อยแล้วค่อยไปทำโคร็อกเกะดีกว่า
ระหว่างนี้ก็ดูมารีน่าซังพยายามไปก่อน ตอนแรกที่เจอผมนึกว่าเธอจะเป็นคนเงียบๆ และสุขุมซะอีก…
“อุฟุฟุ วาตารุซัง อย่ายิ้มลามกแบบนั้นในตอนที่มองมารีน่าอยู่สิคะ”
“อัลม่าซัง อย่าพูดเหมือนผมกำลังทำเรื่องไม่ดีสิครับ นี่เป็นรอยยิ้มปกติของผมต่างหาก”
“อย่างงั้นเหรอคะ? แล้วกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ? ใช่ความคิดที่ไม่ดีหรือเปล่า”
“อยากรู้ไหมครับว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ อัลม่าซัง?”
“อร๊า? ถ้าถามแล้วจะบอกอย่างงั้นเหรอคะ?”
“ครับ! เอ่อ…คือผมกำลังคิดว่ามารีน่าซังดูเปลี่ยนไปมากเลยนับตั้งแต่ที่เราพบกันครั้งแรก”
เผลอหลุดไปตามจังหวะของอัลม่าซังอีกแล้ว…
“ก็จริงค่ะ มารีน่าเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดและมักจะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกอะไรออกมา
หรืออย่างน้อยๆ ฉันก็คิดแบบนั้น แต่พอเธอได้มาสนิทกับคุณ
เธอก็เริ่มค่อยๆ เผยด้านต่างๆ ออกมา
ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะชอบการขับเรือและสไลม์มากขนาดนี้”
“ฮ่าฮ่าๆ พูดแบบนี้ผมก็รู้สึกผิดนิดหน่อยแล้วสิครับ อัลม่าซัง”
“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเธอดูมีความสุขมากเลยตอนนี้ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีค่ะ”
“ว่าแต่เธอดูมีความสุขอยู่เหรอครับ ตอนนี้? ผมว่าเธอกำลังพยายามอย่างสุดชีวิตอยู่มากกว่านะ…”
“อืม ก็ใช่ แต่เธอก็แสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างตรงไปตรงมา นั่นเป็นเรื่องที่ดีนะ”
“อัลม่าซัง เป็นคนที่ใจดีมากกว่าที่ผมคิดอีกนะครับ เหมือนพี่สาวใจดีเลย”
“อร๊า? ปกติฉันดูไม่เหมือนพี่สาวที่ใจดีเหรอคะ?”
…คุณดูเหมือนราชินีสุดเซ็กซี่มากกว่าครับ เพราะเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ของคุณ แต่ถ้าพูดแบบนั้นออกไปตรงๆ คงไม่ดีแน่…
“อืม…ก็มากกว่าพี่สาวนิดหน่อย… เอ่อ ผมต้องไปทำโคร็อกเกะแล้ว”
คิดอะไรไม่ออกเลย ตอนที่มองหน้าอัลม่าซัง
คำที่นึกออกมีแต่คำว่าน่าหลงใหลกับเซ็กซี่
ไม่รู้ว่าพวกหนุ่มฮอตๆ เขาจะพูดกันยังไงในสถานการณ์แบบนี้นะ…
“อร๊า? ยังไม่ถึงเวลาไปทำอาหารเย็นสักหน่อยนะคะ บอกฉันมาก่อนสิคะ ว่าคิดกับฉันยังไง?”
(…เหมือนพี่สาวสุดเซ็กซี่)
“อุฟุฟุ อะไรนะคะ ฉันไม่ได้ยินเลย”
“…คุณดูเหมือนพี่สาวสุดเซ็กซี่ครับ!”
“อุฟุฟุ อย่างงี้นี่เอง ขอบคุณนะคะ”
เห้อ…ผมโดนปั่นซะเละเลย แถมผมมั่นใจว่าเธอได้ยินตั้งแต่ครั้งแรกด้วย
แต่เธอก็ยังให้ผมพูดอีกรอบ…เวลาคุยกับอัลม่าซัง ประมาทไม่ได้เลย ไม่งั้นผมโดนเธอเล่นแน่ๆ
“ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ไปที่ไฮด์อเวย์กันดีกว่า… อ๊ะ จริงสิ ไฮด์อเวย์ไม่มีระบบขับเคลื่อนนิ
แบบนี้ระบบออโต้ไพรอตก็ใช้งานไม่ได้น่ะสิ แล้วเราจะทำยังไงกันดี?”
“ระบบออโต้ไพลอต คืออะไรอย่างงั้นเหรอคะ วาตารุซัง?”
“เอ๊ะ? ผมยังไม่เคยอธิบายให้ฟังเหรอครับ?”
“คุณเคยพูดถึงมันเหรอ? ฉันจำไม่ได้นะ โดโรธีรู้ไหม?”
“ไม่ ฉันเองก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน”
“จริงเหรอครับ? ผมนึกว่าผมเคยอธิบายไปแล้วซะอีก
ระบบออโต้ไพลอตคือความสามารถที่ช่วยให้เราไปยังสถานที่ที่เคยไปมาแล้วได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
แม้ว่าเราจะไม่แตะต้องพวงมาลัยเลยก็ตาม มันจะพาเราไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นมาก
เพราะมันจะเคลื่อนที่ตลอดเวลา แม้ในขณะที่เรากินข้าวหรือนอนหลับ”
“เป็นความสามารถที่สุดยอดมากเลยค่ะ แบบนี้พอไปถึงที่ไหนสักครั้ง ครั้งต่อไปก็จะไปถึงที่นั่นได้เร็วขึ้นเป็นสองเท่าเลยสินะคะ”
“ใช่ครับ อลิเซียซังคิ แต่ปัญหาคือไฮด์อเวย์ไม่มีระบบขับเคลื่อน เลยไม่สามารถใช้ออโต้ไพลอตได้”
“อ้อ เข้าใจแล้ว… แต่พวกเราไม่ได้รีบ งั้นพวกเราปล่อยให้วาตารุซังเป็นคนตัดสินใจแล้วกัน”
“ขอผมคิดแป๊บนะครับ”
อืม… ลูโตะ จะไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทาง แต่ ไฮด์อเวย์ เหมาะสำหรับการพักผ่อนมากกว่า
แล้วถ้าลองลาก ไฮด์อเวย์ ด้วย ลูโตะ ล่ะ? แม้จะทำให้ช้าลงบ้างแต่ถ้าทำได้ก็น่าจะคุ้ม
“ผมอยากลองอะไรบางอย่าง ขอออกไปอัญเชิญไฮด์อเวย์ก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
ผมอัญเชิญไฮด์อเวย์ออกมา แล้วใช้เชือกหนาสองเส้นที่เคยใช้กับแพ มัดมันเข้ากับ ลูโตะ
เรือมีคุณสมบัติไม่สามารถทำลายได้อยู่แล้ว ขอแค่เชือกไม่ขาดก็น่าจะโอเค
พอผมเริ่มเคลื่อน ลูโตะ ไฮด์อเวย์ก็ค่อยๆ เคลื่อนที่ตามไปช้าๆ
ปัญหาคือถ้าเชือกขาดเพราะมอนสเตอร์เข้ามาโจมตีล่ะ ลูโตะ ก็จะแล่นต่อไปโดยไม่มีไฮด์อเวย์ แต่ถ้าผมเรียกเรือกลับก็คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“สำเร็จถึงจะช้าหน่อย แต่ก็ถือว่าใช้ได้ ลองดูไปก่อนแล้วกัน”
“ค่ะ”
พอเรือจอดพวกเราก็ย้ายไปที่ไฮด์อเวย์
ตอนเรือจอด ลูโตะ กับ ไฮด์อเวย์ กระแทกกันนิดหน่อย
แต่เพราะมีบาเรียของแต่ละลำอยู่ พวกมันเลยหยุดได้โดยไม่มีแรงกระแทกเลย เป็นภาพที่แปลกดีจริงๆ
“งั้น ผมไปทำโคร็อกเกะสำหรับมื้อเย็นก่อนนะครับ”
“วาตารุซัง ฉันจะไปช่วยนะคะ”
“ฉันด้วยค่ะ!”
“ขอบคุณครับ”
มีคลอเร็ตตาซังกับคาร์ล่าซังอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอุ่นใจดีจัง งั้นมาทำให้ดีที่สุดกันเลย!
“เอาล่ะ นี่คือส่วนผสมที่เย็นตัวลงแล้ว จับขึ้นมาปั้นเป็นรูปทรงวงรีแบนๆ แบบนี้”
“แบบนี้เหรอ?”
“ยากจังเลย…”
“คลอเร็ตตาซังทำได้ดีมากครับ ส่วนคาร์ล่าซังก็อย่ารีบร้อนค่อยๆ ปรับทรงไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ …ใช่ แบบนั้นแหละ”
“เสร็จแล้วค่ะ!”
“อื้ม ขอแค่ไม่รีบก็โอเคแล้ว”
“ค่ะ”
“พอปั้นเสร็จแล้วก็เอาไปคลุกแป้ง จากนั้นจุ่มลงในไข่ที่ตีไว้
แล้วคลุกเกล็ดขนมปังให้ทั่ว เสร็จแล้วก็ทอดในน้ำมัน
ส่วนผสมทั้งหมดสุกอยู่แล้ว เราแค่ต้องทอดให้กรอบ
พอได้สีเหลืองทองแล้วก็ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน ก็เป็นอันเสร็จ”
“สีสวยจัง!”
“น่ากินมากเลยค่ะ!”
“ผมจะทอดให้หมดเลยนะครับ ฝากไปเตรียมโต๊ะด้วย
ของทอดต้องกินตอนร้อนๆ จะอร่อยที่สุด เพราะงั้นพอทอดเสร็จแล้วจะกินกันเลย!”
“”ค่ะ!””
ผมอัญเชิญเรือเก็บเสบียงออกมา และให้พวกเธอนำของที่จะเอาไปกินเป็นเครื่องเคียงไปจัดบนโตีะ
ยกเว้นจานหลัก จากนั้นก็ยกกองโคร็อกเกะที่ทอดเสร็จแล้วไปวาง
“โคร็อกเกะเข้ากันได้ดีกับซอสมะเขือเทศนะครับ ลองจิ้มดูได้”
“งั้นก็…จะทานแล้วนะครับ”
“””””จะทานแล้วนะคะ!”””””
“อร่อยจัง”
“จริงด้วย กรอบมากเลย ด้านในเป็นมันฝรั่งที่ผสมกับเนยและครีมใช่ไหม?
มันทั้งกรอบ ทั้งหอมเนย และเนื้อเนียนนุ่มสุดๆ”
“ฉันชอบโคร็อกเกะแบบที่เหลือเนื้อสัมผัสของมันฝรั่งไว้หน่อย มากกว่าการบดจนละเอียด”
“ฉันอยากลองแบบบดละเอียดดูบ้าง”
“มันเข้ากับซอสมะเขือเทศสุดๆ เลย”
อืม… ซอสมะเขือเทศอร่อยก็จริง แต่ผมอยากได้ซอสวูสเตอร์จังแฮะ
ถ้ามีบนเรือเฟอร์รีก็คงดี… แต่โคร็อกเกะนี่เป็นที่นิยมจริงๆ นะ
ผมทำเอาไว้เยอะเลย เพราะถ้าเหลือผมก็จะเก็บมันเอาไว้ในเรือเสบียง แต่ดูท่าว่าจะหมดเกลี้ยง
เอาเถอะ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเหลือ อีกอย่างทุกคนก็ดูมีความสุขกันด้วย
และแล้ว โคร็อกเกะกองโต ก็หายไปในพริบตา
“เฮ้อ อร่อยสุดๆ รสชาติไม่เหมือนกับของทอดหรือคัตสึเลย
มันฝรั่ง เนื้อบด หอมใหญ่ ครีม เนย ทุกอย่างเข้ากันได้ดี ฉันชอบโคร็อกเกะมากๆ เลย”
“ชอบมากกว่ากุ้งทอดอีกเหรอครับ?”
“เอ๋? เอ่อ… กุ้งทอดก็อร่อยนะ… สรุปแล้วทั้งสองอย่างดีที่สุดเลย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผมดีใจที่อลิเซียซังชอบนะครับ”
สมาชิกคนอื่นๆ ก็ดูจะชอบโคร็อกเกะกันมาก
คลอเร็ตตาซังถึงกับบอกว่าอยากลองทำเองในครั้งหน้า
หลังจากทำความสะอาดเสร็จ ผมก็ไปเปลี่ยนชุดอาบน้ำและลงแช่ตัวในอ่างอย่างผ่อนคลาย
ไม่นาน จิราโซเล่ก็ตามเข้ามาแช่น้ำด้วย
“วาตารุซัง ขอเข้าไปด้วยได้ไหม?”
“ได้สิครับ เชิญเลย”
“เฮ้อ~ อาบฝักบัวมันก็ดีอยู่หรอก แต่การได้มาแช่น้ำอุ่นๆ แบบนี้มันสบายจริงๆ เลยเนอะ”
“ใช่ แช่น้ำแบบนี้ช่วยคลายความเมื่อยล้าได้ดีมากเลยล่ะ”
โชคดีจริงๆ ที่ผมคิดวิธีลากเรือขึ้นมาได้ ถ้ายังอยู่บน ลูโตะ
พวกเราก็คงทำได้แค่อาบฝักบัวเฉยๆ ผมนี่เก่งจริงๆ
“มารีน่าซัง ฟูจังโอเคกับการแช่น้ำไหมครับ?”
“อืม เขาบอกว่ารู้สึกดี เพราะมีริมุจังแช่น้ำอยู่ด้วย เขาเลยไม่กลัว”
“งั้นก็ดีแล้วครับ”
ริมุกับฟูจังกระโดดดึ๋งๆ ในอ่างน้ำ กระแทกกันไปมาแล้วเด้งกลับมา เหมือนพวกเขาจะสนุกกันน่าดู
หลังจากแช่น้ำจนสบายตัวแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกลับห้องของตัวเอง
แล้วผมก็ใช้เวลาสวีท กับไอเนสและเฟลิเซีย ก่อนจะหลับไป
ฝันดีนะ…
MANGA DISCUSSION