สองวันหลังจากออกจากหมู่บ้าน
ในตอนบ่ายแก่ๆ พวกเราก็มาถึงบาร์เล็ตต้า…
ภายในรถม้า มีเกล็ดขนาดใหญ่ที่ถูกห่อด้วยผ้าวางอยู่บนเรือยาง
พวกเราผ่านประตูเมืองเข้าไปและมุ่งหน้าตรงไปที่กิลด์นักผจญภัยทันที
“ฉันต้องการเข้าพบกิลด์มาสเตอร์ ช่วยไปจัดการให้ฉันได้เข้าพบเขาที”
“มีเหตุฉุกเฉินอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ไม่มี แต่เรื่องนี้สำคัญมากดังนั้นฉันจึงพูดตรงนี้ไม่ได้”
อลิเซียซังจะดูจริงจังขึ้นทุกครั้งที่มาที่กิลด์นักผจญภัย เธอจะดูจริงจังกว่าปกติซัก 20% ได้
“งั้นเราไปคุยกันที่ห้องอื่นดีไหมครับ? เพราะถ้ามันไม่ใช่เรื่องฉุกเฉิน ผมก็อยากทราบว่ามันคือเรื่องอะไร”
“ถ้าข้อมูลนี้หลุดไปมันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะฉะนั้นยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี
ถ้าคุณจัดการให้ฉันไม่ได้ ฉันก็จะไปที่กิลด์การค้าหรือไม่ก็ที่มหาวิหารแทน
ดังนั้นจงตัดสินใจมาว่าจะไปแจ้งกิลด์มาสเตอร์ให้ฉันหรือว่าจะให้ฉันไปที่อื่น”
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปแจ้งกิลด์มาสเตอร์ให้ กรุณารอสักครู่”
“อลิเซียซัง แจ้งเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่กิลด์ไม่ได้เหรอครับ?”
“ไม่ได้ค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่ของกิลด์ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับนักผจญภัยคนอื่นๆ
และมีบางครั้งที่เจ้าหน้าที่กิลด์ทำข้อมูลหลุดออกไปด้วยค่ะ เราจะเสี่ยงให้ข้อมูลนี้รั่วไหลออกไปไม่ได้”
“งั้นเหรอครับ? เรื่องนี้ยุ่งยากกว่าที่ผมคิดเยอะเลยนะครับ!”
“ค่ะ ถึงเจ้าหน้าที่กิลด์ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาความลับก็ตาม
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อมูลที่หลุดออกมาหลายครั้งนั้นเกิดจากเจ้าหน้าที่ของกิลด์”
“ดังนั้นพวกเราจึงต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ค่ะ”
ขณะที่พวกเราคุยกัน พนักงานต้อนรับคนนั้นก็เดินกลับมา
“กิลด์มาสเตอร์บอกให้คุณเข้าไปพบได้ครับ เชิญตามมาทางนี้”
พนักงานต้อนรับคนนั้นนำทางพวกเราไปยังห้องกิลด์มาสเตอร์
เมื่อเข้าไปในห้องพวกเราก็พบกับชายสูงอายุที่มีหน้าตาดุดันคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ…
เขาคนนี้คือกิลด์มาสเตอร์อย่างงั้นเหรอ? ยังกับหัวหน้าแก๊งยากูซ่าเลย!
“ได้ยินว่ามีเรื่องสำคัญขนาดที่คุยกับเจ้าหน้าที่กิลด์ไม่ได้?
นี่เจ้าหน้าที่ของฉันดูไม่น่าไว้วางใจขนาดนั้นเลย? ถ้ามันเป็นเรื่องไร้สาระล่ะก็เจอดีแน่!”
หวาย น่ากลัวแฮะ! กิลด์มาสเตอร์ปกติมันเป็นแบบนี้เหรอเนี่ย?
“แล้วเจ้าเด็กนั่นล่ะ? เขาดูไม่เหมือนคนที่อยู่ในปาร์ตี้แรงค์ A เลยนะ”
“เขาเป็นพ่อค้า แล้วก็กรุณาให้ทุกคนออกไปก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องนี้กันด้วย
แต่ถ้าคุณไม่อยากฟัง ฉันก็จะไปที่กิลด์การค้า พวกฉันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
“หมอนี่คือคนที่ฉันไว้ใจที่สุด นี่กำลังบอกจะบอกว่าไม่ไว้ใจหมอนี่ด้วยงั้นเหรอ?”
“ฉันบอกกับพนักงานของคุณไปแล้วว่ายิ่งมีคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี
อีกอย่างฉันไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว ฉันต้องการคุยเรื่องนี้กับกิลด์มาสเตอร์เท่านั้น
ถ้าคุณอยากฟังเรื่องนี้ก็ให้เขาออกไป ถ้าไม่ฉันก็จะไปที่อื่น นี่คือทางเลือกของคุณ”
“ชิ ก็ได้ แกออกไปก่อน”
วันนี้อลิเซียซังดูน่ากลัวเป็นพิเศษเลยแฮะ เรื่องนี้มันใหญ่ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่สิๆ ผมได้ยินมาว่าแม้แต่ราชวงศ์และขุนนางจากประเทศอื่นๆ ก็ยังสนใจเรื่องนี้ เพราะงั้นมันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
“เอาล่ะ ฉันไล่เขาออกไปแล้ว ถ้าพูดเรื่องไร้สาระออกมาล่ะก็ พวกแกเจอดีจริงๆ แน่”
“ขู่ไปก็เท่านั้นล่ะ เพราะอีกเดี๋ยวคุณก็จะยุ่งจนไม่มีเวลานอนเลยล่ะ”
“เหอะ ฉันจะรอดู ไหนว่ามา…”
ทำไมกิลด์มาสเตอร์ถึงต้องทำตัวก้าวร้าวแบบนั้นด้วยนะ?
“พวกเราไปพบสมุนไพรล้ำค่ามา คลอเร็ตตา เอาพวกมันออกมาหน่อย”
คลอเร็ตตาซังนำสมุนไพรที่เธอเก็บมาออกมาวางไว้ตรงหน้าของกิลด์มาสเตอร์
เมื่อสมุนไพรทั้งหมดถูกนำมาเรียงอยู่บนโต๊ะ สีหน้าของกิลด์มาสเตอร์ก็เปลี่ยนไปเป็นตกตะลึง…ดูเหมือนมันจะเป็นสมุนไพรที่ล้ำค่าจริงๆ สินะ
“เฮ้ยๆ เอาจริงเหรอเนี่ย? สมุนไพรพวกนี้อยู่ในที่เดียวกันจริงดิ?
เอาพวกมันมาจากไหน? นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะไปแจ้งที่กิลด์นักปรุงยามาหรือยัง?
เราต้องรีบไปปกป้องมัน บอกสถานที่ตั้งของที่ที่พบมันมาเดี๋ยวนี้”
“เดี๋ยวฉันยังพูดไม่จบ รอฟังให้จบก่อน”
“หา! มีอะไรอีก?”
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง ถึงเขาจะหน้าตาเหมือนหัวหน้าแก๊งยากูซ่า แต่ท่าทางกับการพูดจาของเขา
มันเหมือนกับพวกกุ้ยข้างถนนเลยอ่า นี่เขาเป็นกิลด์มาสเตอร์จริงดิ?
“เฮ้อ…เสียงดังชะมัดอยู่เงียบๆ แล้วฟังให้มันจบไม่เป็นหรือไง”
อลิเซียซังเริ่มอารมณ์เสียแล้วสินะเนี่ย แต่พูดแบบนั้นกับกิลด์มาสเตอร์ได้ด้วยเหรอ?
“เฮ้ยๆ นั้นมันคำพูดที่ควรพูดกับกิลด์มาสเตอร์หรือไง?”
“ชิ! เสียเวลาชะมัด”
“เราไปที่กิลด์การค้ากันเถอะค่ะ วาตารุซัง”
“เอ๊ะ? จะให้ผมเป็นคนไปแจ้งเหรอครับ? ผมเป็นแค่พ่อค้าแรงค์ F เองนะ?”
“ก็ดีกว่าต้องมาคุยกับคนแบบนี้ ฉันไม่อยากคุยกับคนที่ไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้มันสำคัญขนาดไหนค่ะ”
พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องไปเลย อ่าว! แล้วผมจะทำยังไงกับบรรยากาศตอนนี้ดีล่ะ? กิลด์มาสเตอร์เองก็เหวอไปแล้วเหมือนกัน
“อุฟุฟุ นายท่าน ไปกันเถอะค่ะ”
“เอ๊ะ? อ-อืม”
ขณะที่ผมเดินออกจากห้อง ผมได้ยินเสียงตะโกนกับเสียงของบางอย่างถูกทุบแตก
แบบนี่มันจะโอเคจริงๆ เหรอ? เราไปเป็นศัตรูกับกิลด์นักผจญภัยแบบนี้จะดีจริงๆ เหรอ?
เมื่อออกมาจากกิลด์นักผจญภัยพวกเราก็มาขึ้นรถม้าแล้วก็มุ่งหน้าไปที่กิลด์การค้า
“โดโรธีซัง ไปที่กิลด์การค้าทั้งๆ แบบนี้เลยจะดีเหรอครับ? เราจะไม่กลายเป็นศัตรูกับกิลด์นักผจญภัยใช่มั้ย?”
“มันก็ไม่ดีหรอกค่ะ แต่กิลด์มาสเตอร์คนนั้นนิสัยแย่มาก แถมการพูดการจายังไม่ดีอีก อลิเซียคงทนไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ”
“อย่างงั้นเหรอครับ แต่แบบนี้พวกเขาจะไม่ตามมารังควานพวกเราเหรอครับ?”
“ช่างมันเถอะค่ะ แค่เรากลับไปที่เมืองทางใต้ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
“วาตารุซัง จากนี้ไปก็ฝากเรื่องการเจรจาด้วยนะคะ!”
“เอ๊ะ! ก็พึ่งบอกไปไม่ใช่เหรอครับว่าผมเป็นแค่พ่อค้าแรงค์ F น่ะ…”
เอ้า พูดจบก็ทิ้งกันแบบนี้เลยเหรอครับ แล้วทำไมผมต้องไปเป็นคนเจรจาด้วยเนี่ย!
ผมไม่อยากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องสำคัญขนาดนี้นะครับ นี่ พูดอะไรหน่อยสิครับ
“ฟุฟุฟุ พยายามเข้านะคะ เพราะถ้าล้มเหลวเราจะไปที่มหาวิหารกันต่อค่ะ”
แย่ล่ะ ถ้าไปที่มหาวิหารก็หมายความว่าจะไปที่จุดศูนย์กลางของประเทศนี่ ผมไม่อยากไปที่นั่น!
ผมต้องจบเรื่องทุกอย่างเอาไว้ที่กิลด์การค้าให้ได้
หลังจากเข้าไปด้านในผมก็เข้าไปคุยกับคุณพี่สาวที่แผนกต้อนรับ ลืมบอกไปเธอเป็นคุณพี่สาวที่มีหูจิ้งจอกล่ะ
“ขอโทษนะครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะมาแจ้ง ขอพบกิลด์มาสเตอร์หน่อยได้ไหมครับ?”
“ขอทราบได้ไหมคะ ว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอะไร?”
“ขอโทษครับ มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ดังนั้นผมจึงต้องแจ้งกับกิลด์มาสเตอร์เท่านั้นครับ”
“ขออภัยด้วยค่ะ ถ้าดิฉันไม่ทราบว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ดิฉันก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้ค่ะ
เพราะถ้าคุณไม่ไว้ใจพวกเรา เราก็ไม่สามารถแนะนำคุณให้กับกิลด์มาสเตอร์ได้”
“นั่นมันก็จริง…งั้นช่วยไปบอกกิลด์มาสเตอร์ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับทั้งประเทศและอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ได้ไหมครับ?”
รู้สึกเหมือนผมกำลังทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยแฮะ ทั้งๆ ที่แค่บอกเธอไปว่าจะเอาเกล็ดของริวมาให้กิลด์มาสเตอร์ดูแค่นั้นก็น่าจะจบเรื่องแล้วแท้ๆ
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะไปแจ้งกิลด์มาสเตอร์ให้ค่ะ”
“หวังว่ามันจะไม่ใช่เรื่องโกหกนะคะ ว่าแต่…ทุกอย่างโอเคใช่ไหมคะ?”
“ฮ่าฮ่า ครับ จริงๆ ตอนนี้ผมก็อยากรีบๆ หนีไปเหมือนกันแต่โชคร้ายที่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ ช่วยไปแจ้งกิลด์มาสเตอร์ให้หน่อยนะครับ”
“เข้าใจแล้วค่ะ กรุณารอสักครู่”
โอ้ย อยากกลับบ้านแล้วอ่ะ ผมอยากกลับไปที่เรือ อยากกลับไปนอนกลิ้งบนเตียงแล้วกอดริมุเอาไว้แน่นๆ เพื่อคลายเครียดจังเลย
“กิลด์มาสเตอร์เชิญคุณเข้าไปพบค่ะ กรุณาตามดิฉันมาทางนี้”
ผมเดินตามพี่สาวหูจิ้งจอกเข้าไปในห้องของกิลด์มาสเตอร์
“สวัสดี ได้ยินมาว่ามีเรื่องที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายไปทั้งประเทศมาแจ้งใช่ไหม ไหนลองว่ามาซิ”
“เอ่อ ก่อนหน้านั้น ผมขอรบกวนให้คนอื่นๆ ออกไปก่อนได้ไหมครับ?”
“หืม? เขาเป็นรองหัวหน้ากิลด์การค้าและเป็นคนที่ไว้ใจได้นะ”
เอ๊ะ? จะให้ผมไล่คนที่มีตำแหน่งสูงขนาดนี้ออกไปจริงๆ เหรอ? ผมจะทำยังไงดีล่ะ?
“เอ่อ… ผมไม่รู้มาก่อนว่าเขาเป็นบุคคลที่มีความสำคัญถึงขนาดนั้น
แต่ผมได้รับแจ้งมาว่ายิ่งมีคนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดีครับ เพราะฉะนั้นผมขอคุยกับกิลด์มาสเตอร์แค่คนเดียวจะได้ไหมครับ?”
ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ถึงแม้ว่าผมจะบอกแค่กิลด์มาสเตอร์ สุดท้ายแล้วคนนี่ก็ต้องดำเนินการก็ต้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาอยู่ดี
ผมคิดว่ามันไม่น่ามีปัญหาถ้าพวกเขาจะรู้เรื่องนี้ เราจำเป็นต้องปิดบังกันขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?
“อืม เข้าใจแล้ว ขอโทษนะ แต่ช่วยออกกันไปก่อนเถอะ”
“ครับ”
“ตอนนี้ คุณบอกฉันมาได้หรือยังว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?”
“ครับ ฉันมีสองเรื่องที่ต้องบอกคุณ เรื่องแรก คลอเร็ตตาซัง…”
“น-นี่มัน… สมุนไพรหายากทั้งนั้นเลยนิ? แม้แต่ที่กิลด์การค้าก็แทบจะไม่เคยเห็นพวกมัน…แล้วมันมีอะไรผิดปกติอย่างงั้นเหรอ?”
“พวกเราเป็นคนที่ค้นพบแหล่งที่อยู่ของสมุนไพรพวกนี้ครับ”
“ว่าไงนะ? นั่นเป็นเรื่องจริงเหรอ? คุณค่าของสมุนไพรพวกนี้มันไม่สามารถประเมินราคาได้เลยนะ”
“ใช่ครับ พวกมันถูกค้นพบโดยปาร์ตี้นักผจญภัยจิราโซเล่ พวกเธอเป็นปาร์ตี้นักผจญภัยแรงก์ A จึงไม่มีทางเป็นเรื่องผิดพลาดแน่นอนครับ”
“หืม? มันแปลกๆ นะ ถ้านักผจญภัยแรงก์ A เป็นคนค้นพบ พวกเธอก็ควรไปแจ้งที่กิลด์นักผจญภัยสิ
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเธอถึงต้องมาแจ้งผ่านนาย ซึ่งเป็นพ่อค้าแรงก์ F “
“นั่นเป็นเพราะพวกเราไปที่กิลด์นักผจญภัยมากันก่อนแล้วครับ
แต่กิลด์มาสเตอร์ที่นั่นเขาออกจะหยาบคายแล้วก็แสดงความก้าวร้าวออกมามากเกิดไปนิด
พวกเราเลยออกมาก่อนที่จะได้คุยกันครับ”
“หือ…หมอนั่นมันก็เป็นคนแบบนั้นล่ะ แต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะแสดงความก้าวร้าวออกมาหรอกนะ?”
“ไม่ครับ เขาแสดงความก้าวร้าวออกมาตั้งแต่ตอนที่เราพบกันเลยครับ
เขาดูจะไม่พอใจมากที่เราบอกว่าไม่สามารถพูดเรื่องนี้กับพนักงานต้อนรับของเขาได้ จากนั้นพอเราขอให้เขาไล่คนของเขาออกไป เขาก็ยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่”
“อ่า ก็หมอนั่นให้ความสำคัญกับลูกน้องของตัวเองมาก ดังนั้นเขาคงจะอารมณ์เสียเพราะคิดว่าลูกน้องที่เขาไว้ใจถูกมองว่าน่าสงสัย
แต่โดยปกติแล้ว การไม่พูดเรื่องสำคัญกับพนักงานต้อนรับก็เป็นเรื่องปกติ… แบบนี้ก็น่าเป็นห่วงอยู่นะ”
“งั้น ขอเข้าเรื่องต่อเลยก็แล้วกันนะครับ”
“หืม? มีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าสมุนไพรล้ำค่าพวกนี้อีกเหรอ?”
“ครับ และ…ผมขอไปเอาของที่รถม้าเข้ามาได้ไหมครับ?”
“หืม ได้สิ จะให้ฉันส่งคนไปช่วยไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ ไอเนส เฟลิเซีย ฝากด้วยนะ”
“ค่ะ”
“ฉันไม่คิดเลยว่าเรื่องนี่มันจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับทั้งประเทศจริงๆ ฉันจะติดต่อกิลด์นักปรุงยาและรัฐบาลให้
และสัญญาว่าจะส่งหน่วยรักษาความปลอดภัยไปดูแลพวกมัน กิลด์นักผจญภัยจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องในครั้งนี้”
“ขอบคุณมากครับ”
เป้าหมายของพวกเราสำเร็จไปเกือบหมดแล้ว กิลด์มาสเตอร์ของกิลด์นักผจญภัยจะหัวเสียขนาดไหนกันนะเมื่อได้ยินเรื่องนี้ทีหลัง
ไอเนสและเฟลิเซียกลับมาพร้อมกับเกล็ดของริว พวกเธอค่อยๆ แกะผ้าที่ห่อออกต่อหน้ากิลด์มาสเตอร์
“เอ๊ะ… นี่มัน… เกล็ดของมังกรอย่างงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ครับ พวกมันเป็นเกล็ดของริว เราเจอมันถูกฝังอยู่ใกล้ๆ กับแหล่งที่พบสมุนไพรพวกนี้ครับ มีทั้งหมดสองชิ้น”
“ร-ร-ร ริว อย่างนั้นเหรอ! ม-ไม่อยากจะเชื่อ…หลังฐาน พวกคุณมีหลักฐานอะไรบ้าง?
ถ้ามันเป็นเกล็ดของริวจริง ไม่ใช่แค่ในประเทศนี้ แต่ทั้งทวีปจะต้องตกอยู่ในความโกลาหลขึ้นแน่ๆ”
โห เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ…? เขาพูดจริงหรือเปล่าเนี่ย?
ไม่สิ ดูจากสีหน้าของเขาแล้ว เขาจะต้องพูดจริงแน่ๆ … แง ผมอยากกลับบ้านแล้วอ่า…
“หลักฐานเหรอครับ? เอ่อ…อัลม่าซัง…”
“ผู้ที่สามารถสัมผัสพลังเวทจากเกล็ดเหล่านี้ได้ จะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่ามันมีพลังศักดิ์สิทธิ์ปะปนอยู่ด้วยค่ะ”
“หืม…ดูจากปฏิกิริยาที่ดูเครียดๆ ของพวกคุณ ฉันก็เชื่อแล้วล่ะ แล้วพวกคุณจะทำยังไงกับของเหล่านี้?”
“เราจะบริจาคชิ้นหนึ่งให้กับทางมหาวิหาร และอีกชิ้นหนึ่งจะถูกนำออกไปประมูลค่ะ”
“เข้าใจแล้ว ว่าแต่พวกคุณจะไม่เอามันไปทำเป็นอุปกรณ์ของตัวเองเหรอ?”
“อุปกรณ์ที่ทำจากวัตถุดิบของริวเป็นของที่อยู่ในระดับสมบัติของชาติ ดังนั้นพวกเราคิดว่ามันอาจเป็นอันตรายหากเราสวมใส่ของแบบนั้น”
“เป็นการตัดสินใจที่ดี เข้าใจแล้ว ก่อนอื่น ฉันจะไปเรียกหัวหน้ากิลด์นักปรุงยากับพระคาร์ดินัลที่สามารถรับรู้ถึงพลังเวทได้มาที่นี่
ฉันเองก็ตัดสินใจไม่ได้ว่ามันเป็นเกล็ดของมังกรหรือว่าของริว แต่ต่อให้เป็นแค่มังกรก็นับเป็นเรื่องใหญ่มากพออยู่แล้ว
ฉันจะบอกเรื่องนี้กับรองหัวกิลด์แค่คนเดียว และจะให้เขาไปจัดการส่วนที่เหลือ พวกคุณโอเคกับเรื่องนี้ไหม?”
“ฝากด้วยนะครับ”
พระคาร์ดินัลอะไรนั่นกำลังจะมาเหรอ…ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับตำแหน่งของเขาเลย
แต่ดูเหมือนเขาจะเป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากๆ …ผมควรทำยังไงดี?
“เอ่อ คุณช่วยเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ?”
“ได้ครับ คุณรู้จักถ้ำที่อยู่ห่างจากที่นี่ไปประมาณสองวันไหมครับ ที่ๆ มีลมพัดแรงอยู่ตลอดเวลาน่ะ?”
“คุณหมายถึงถ้ำที่อยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านเล็กๆ ของพวกพ่อค้าขายไม้ใช่ไหมครับ?”
สมกับเป็นกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์การค้า เขารู้จักแม้กระทั่งหมู่บ้านเล็กๆ แบบนั้นด้วย
นับว่าน่าประทับใจเลยทีเดียว…แต่ก็น่ากลัวอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน
“ใช่ครับ หลังจากสำรวจถ้ำและพื้นที่โดยรอบ มาริน่าซัง หน่วยสอดแนมของจิราโซเล่
ก็ได้ยินเสียงลมแรงดังมาจากทางหน้าผา เมื่อเธอไปตรวจสอบก็พบว่ามีโพรงขนาดใหญ่อยู่
และเมื่อเธอปีนลงไปสำรวจ เธอก็พบแหล่งของสมุนไพรเหล่านี้และเกล็ดครับ
แต่ตัวผมไม่สามารถลงไปได้เลยต้องรออยู่ข้างนอก รายละเอียดต่อจากนี้คุณต้องไปถามจากอลิสเซียซัง ที่เป็นหัวหน้าของปาร์ตี้จิราโซเล่ครับ”
“เข้าใจแล้วครับ แต่ก่อนอื่น ฉันมีคำถาม พื้นที่นั้นไม่ใช่สถานที่ที่นักผจญภัยแรงก์ A ควรเข้าไปสำรวจ ทำไมพวกคุณถึงได้ไปสำรวจที่นั่น?”
“อ่อ พวกเราไปเพื่อตามหาสไลม์ที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ครับ
มีคำกล่าวว่าสไลม์ที่มีคุณสมบัติทางเวทมนตร์มักอาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีปรากฏการณ์ธรรมชาติที่รุนแรงครับ
ดังนั้นพวกเราจึงลองไปค้นหาถ้ำที่มีลมแรงและพื้นที่โดยรอบดูครับ”
“อย่างนี้นี่เอง ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมพวกเธอถึงต้องการฝึกสไลม์
ว่าแต่สไลม์ที่ผู้หญิงคนนั้นถืออยู่ก็คือสไลม์ที่เธอฝึกไว้ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น คุณคืออลิเซียซังใช่ไหมครับ? คุณช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับภายในถ้ำหน่อยได้ไหม?”
เฮ้อ…จบหน้าที่ของผมซักที ที่เหลืออลิเซียซังคงจะจัดการเองได้
พวกกิลด์มาสเตอร์ที่บาร์เล็ตตานี่คุยด้วยแล้วเหนื่อยจริงๆ กิลด์มาสเตอร์ที่เมืองทางใต้ยังคุยด้วยง่ายกว่านี้อีก
หลังจากที่อลิเซียซังพูดคุยจบ พวกเราก็ถูกบอกให้ไปรออยู่ในอีกห้องหนึ่งและยังออกไปไหนไม่ได้ตอนนี้
“งั้นดิฉันจะพาพวกคุณไปพักที่อีกห้องค่ะ กรุณาตามมาทางนี้ มันอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยภายในวันนี้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
พวกเราเดินตามพี่สาวหูจิ้งจอกไปยังอีกหน่อยหนึ่ง ในที่สุดผมก็ได้พักซักที ว้าว เธอเอาชามาเสิร์ฟให้ด้วยล่ะ
“อลิเซียซัง แน่ใจเหรอครับ ว่าสิ่งที่พวกเราทำไปมันถูกต้องแล้ว?”
“เรื่องการเจรจาที่เพิ่งผ่านมาเหรอคะ?”
“ครับ”
“ฉันคิดว่าแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะคะ ไว้กิลด์มาสเตอร์ของกิลด์นักปรุงยากับพระคาร์ดินัลมาถึง การเจรจาก็น่าจะเสร็จแล้วค่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ ผมดีใจที่ได้ยินแบบนั้น ผมขอฝากเรื่องการเจรจาไว้กับอลิเซียซังด้วยนะครับ”
“ในเมื่อคุณเป็นคนเริ่มการเจรจานี้ ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าวาตารุซังเป็นคนดำเนินการต่อนะคะ”
“วาตารุซัง ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ กิลด์มาสเตอร์ของกิลด์การค้าเองก็คงจะคุยกับฝ่ายตรงข้ามโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าคุณเป็นคนเจรจาไปแล้ว
ดังนั้นถ้าอยู่ๆ เปลี่ยนตัวคนเจรจา อาจทำให้เกิดปัญหาได้ค่ะ”
“อึก… เข้าใจแล้วครับ ผมจะพยายามให้ดีที่สุด งั้น…ก่อนอื่นเลย พระคาร์ดินัลนี่สำคัญขนาดไหนเหรอครับ?”
“ในประเทศนี้ ลำดับตำแหน่งก็ พระสันตะปาปา พระคาร์ดินัล อาร์คบิชอป บิชอป แล้วก็นักบวช กับมัคนายก ถูกหรือเปล่า? คลอเร็ตตา”
“ถูกแล้วล่ะ อลิเซีบในศาสนจักรจะมีการแบ่งออกเป็นย่อยๆ อีกเล็กน้อย แต่ลำดับโดยรวมก็ประมาณนี้”
“งั้นหมายความว่าบุคคลสำคัญขนาดนั้นกำลังถูกเรียกมาที่กิลด์การค้าในวันนี้เหรอครับ? แล้วถ้ามองในสายตาของประชาชนทั่วไป มันจะไม่เป็นปัญหาเหรอ?”
“เพราะเกล็ดของริวมันมีค่าขนาดนั้นเลยยังไงล่ะคะ ดีแล้วที่พวกเราไม่ได้เอาไปทำเป็นอุปกรณ์
นอกจากนี้ ฉันแน่ใจว่าเขาจะมาที่นี่แบบไม่เปิดเผยตัวตนคงไม่ได้มาแบบแต่งตัวเป็นพระคาร์ดินัลมาแบบเต็มยศหรอกมั้ง?”
กิลด์มาสเตอร์ของกิลด์การค้า กิลด์มาสเตอร์ของกิลด์นักปรุงยา แล้วก็พระคาร์ดินัล…
ทำไมผมต้องมาเจอกับคนใหญ่คนโตขนาดนี้ด้วยล่ะเนี่ย?
เอาล่ะในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว…ผมต้องโยนความสำเร็จทั้งหมดไปให้กับสมาชิกจิราโซเล่ในการเจรจาครั้งนี้ให้ได้
ตอนนี้น่าจะเป็นอีกตอนที่ถูกตัดไปในเวอร์ชั่นมังงะสินะ
MANGA DISCUSSION