10 วันหลังจากที่เราออกเดินทาง
ตอนนี้เรากำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ที่กำลังโหมกระหน่ำ
ตอนเช้าเมื่อผมตื่นมาก็พบว่า ไฮด์อเวย์ กำลังสั่นอยู่
พอมองออกไปผมก็พบคลื่นลูกใหญ่และฝนตกหนักที่กำลังถูกบาเรียกันเอาไว้อยู่
ฝนตกหนักทำให้เห็นรูปร่างของบาเรียได้อย่างชัดเจนเลย
“เราโดนพายุเล่นงานเข้าเต็มๆ เลยครับ”
“วันนี้คงจะทำอะไรไม่ได้แล้วจนกว่าพายุลูกนี้จะผ่านไป”
“งั้นวันนี้เรามาพักผ่อนกันชิวๆ ทั้งวันเลยดีไหมครับ?”
“เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อนสิคะ วาตารุซัง”
“แน่ใจเหรอคะ ว่าจะทำตัวสบายๆ แบบนั้น?”
“อ๋อ อลิเซียซัง ไม่ต้องห่วงครับ”
“เรือลำนี้น่ะไม่มีวันจม และต่อให้เราถูกพัดออกไปไกลแค่ไหน เราก็ยังมีแผนที่จะสามารถนำเรากลับมาที่เดิมได้ในทันที”
“วาตารุซัง ดูใจเย็นจังเลยนะคะ ขอถามหน่อยได้ไหมคะ ว่าทำไมเรือลำนี้ถึงไม่มีวันจม?”
“อ่อ เรือที่ผมอัญเชิญมา จะมีคุณสมบัติพิเศษติดมาด้วยครับ”
“คือมันจะไม่มีวันจมแล้วก็ไม่สามารถทำลายได้ด้วยครับ ดังนั้นมันจึงแข็งแกร่งมากๆ”
“… อย่างงี้นี้เอง สมกับเป็นสกิลเฉพาะตัวจริงๆ นะคะ”
“ใช่ครับ เพราะงั้นทุกคนสบายใจกันได้เลย เชิญพักผ่อนกันให้เต็มที่…ถึงจะสั่นไปหน่อยก็เถอะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
“อุฟุฟุ นายท่าน ฉันอยากลองขับ ลูโตะ ในพายุแบบนี้ดูจังเลยค่ะ”
“ไม่ได้ ต่อให้เรือจะไม่จมก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขับเรือฝ่าพายุไปแบบนั้น”
ไอเนส ผมรู้ว่าเธอจริงจังกับเรื่องนี้ แต่ถ้าผมอนุญาต
เธอจะต้องแล่นเรือฝ่าพายุไปด้วยความเร็วเต็มสปีดแน่นอน
เห้อ…ยังก้บเด็กที่ตื่นเต้นเวลาเจอกับพายุไต้ฝุ่นเลย
…อลิเซียซังก็อย่าทำหน้าผิดหวังขนาดนั้นสิ
“น่าเสียดาย ทั้งๆ ที่น่าจะสนุกแท้”
“ยอมแพ้เถอะ”
“ก็ได้ค่ะ”
หลังจากอธิบายสถานการณ์ให้ทุกคนฟังแล้ว ผมก็ตัดสินใจไปพักผ่อนจนกว่าพายุจะสงบ
ผมนอนลงบนโซฟาเพื่อหลีกเลี่ยงอาการเมาเรือและคิดถึงการเดินทางในครั้งนี้
จนถึงตอนนี้ การเดินทางถือว่าประสบความสำเร็จใช่ไหมนะ?
ผมว่าผมเข้ากันกับสมาชิกจิร่าโซเล่ได้ค่อนข้างดี
แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แววของอีเวนต์ปักธงหรืออะไรพวกนั้นเกิดขึ้นเลย
ทั้งที่ผมมาต่างโลกแท้ๆ แต่ไม่เห็นมีอีเวนต์แบบพวกตัวเอกเกิดขึ้นเลยซะงั้น…
สมาชิกจิราโซเล่ก็ยังทำตัวกันตามปกติ มันเหมือนผมแค่พยายามรักษาความสัมพันธ์เอาไว้เท่านั้น
ถ้าเป็นตัวเอกจริงๆ มันก็น่าจะได้ฮาเร็มแบบพาสซีพไปแล้ว สาวๆ ต้องเขาหาผมแล้วสิ
ถึงพวกเธอจะไม่ได้รังเกียจตอนลงอ่างด้วยกันก็เถอะ
ผมคิดว่าพวกเธอไม่ได้เกลียดผม…แต่รู้สึกเหมือนพวกเธอจะไม่ได้มองว่าผมเป็นผู้ชายเลย
ผมคิดว่าผมคงต้องเอาชนะใจพวกสาวๆ ด้วยของหวานแล้วล่ะ
ลองทำไอศกรีมดูดีมั้ยนะ? เอาล่ะ มาเริ่มจากคาร์ล่าซังก่อนแล้วกัน
“นี่ วาตารุซัง คุณทำขนมอร่อยๆ อย่างอื่นได้อีกไหมคะ?”
“ขนมเหรอครับ?…ก็พอรู้วิธีอยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะสำเร็จหรือเปล่า จะให้ลองทำดูไหมครับ?”
“ค่ะ”
“งั้นจะลองดูครับ ถ้าล้มเหลวก็ขอโทษด้วยแล้วกันนะครับ”
“ค่ะ แต่ขอให้พยายามให้เต็มที่นะคะ”
คาร์ล่าซังในตอนนี้แตกต่างไปจากตอนแรกที่ผมพบเธอมาก
ตอนนี้เธอดูน่ารักมากๆ แถมความต้องการในเรื่องอาหารของเธอก็ตรงไปตรงมามากขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มน่ากลัวแล้ว
“ฮะๆ จะพยายามให้เต็มที่ครับ”
ผมคิดว่าน่าจะทำไอศกรีมได้ เลยหยิบครีม น้ำตาล และไข่ ออกมาแล้วไปที่ครัวพร้อมกับคาร์ล่าซัง
“อ๊ะ วาตารุซัง แล้วก็คาร์ล่าด้วย จะทำอะไรกันเหรอคะ?”
“ว่าจะทำไอศกรีมเป็นของหวานน่ะครับ”
“ไอศกรีม? ให้ฉันช่วยได้ไหมคะ?”
“ได้ครับ ผมกำลังจะไปขอให้คุณช่วยชำระล้างวัตถุดิบให้อยู่เลย”
“ฟุฟุ จะทำเต็มที่ค่ะ”
“ก่อนอื่น ให้ตอกไข่แล้วแยกไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกัน จากนั้นก็ใช้เวทย์ชำระล้างครับ”
“ค่ะ”
“ส่วนคาร์ล่าซัง ช่วยตีไข่ขาวจนมันตั้งยอดให้หน่อยครับ
งานอาจจะหนักหน่อยแต่พยายามเข้านะครับ ถ้าเหนื่อยก็สลับกับคลอเร็ตต้าซังได้”
“ค่ะ จะทำเต็มที่เลย”
“จากนั้นก็ใส่ครีม ไข่แดง และน้ำตาลลงไป แล้วตีให้ส่วนผสมตั้งยอด”
ผมพยายามสุดความสามารถ แต่หมดแรงไปก่อนคาร์ล่าซังซะอีก ขอโทษครับ คลอเร็ตต้าซัง
“เมื่อส่วนผสมเข้ากันจนเนื้อเนียนแล้ว ให้เทลงในภาชนะแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซ
จากนั้นก็รอให้มันแข็งตัวก็เป็นอันเสร็จครับ”
“ขั้นตอนการทำค่อนข้างง่ายเลยค่ะ ติดแต่ตรงที่การคนส่วนผสมให้เข้ากัน”
“ฉันเองก็ทำได้เหมือนกัน ดีใจจังเลย”
“วิธีนี้เป็นวิธีที่ดั้งเดิมที่สุดครับ ผมได้ยินมาว่าเราสามารถผสมผลไม้และของอื่นๆ
ลงไปได้ แต่การทำให้รสชาติออกมาลงตัวเป็นเรื่องยาก”
“อย่างนั้นเหรอคะ? ฉันอยากลองทำรสชาติอื่นๆ ดูจัง”
“สู้ๆ นะครับ”
เมื่อผมเสิร์ฟไอศกรีมหลังอาหารเย็น มันก็กลายเป็นเมนูฮิตในหมู่สาวๆ
ทุกคนขอเพิ่มกันหลายรอบจนหมดเกลี้ยง
วันต่อมาพวกเธอก็ขอให้ผมทำอีก ผมเลยได้แต่ตีส่วนผสมวนไป
เมื่อผมลองตกแต่งพุดดิ้งด้วยไอศกรีม วิปครีมและผลไม้ จากนั้นก็ลองนำมันไปเสิร์ฟให้พวกเธอดู
ปรากฎว่า สาวๆ กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่… บอกตรงๆ เลยว่าผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆ แล้วสิ
แผนการล่อสาวๆ ด้วยของหวาน แบบนี้มันจะดีจริงๆ เหรอ?
หลังจากผ่านเรื่องต่างๆ มามากมาย ผมก็ได้เรียนรู้ว่าไม่ควรพยายามเอาใจพวกเธอมากจนเกินไป
แต่ผมก็ยังอยากทำให้พวกเธอรู้สึกดีและมีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
โชคดีที่พวกเธอยอมเข้าใจว่ามันเป็นขนมสุดหรูที่เอาไว้ใช่เสิร์ฟในโอกาสพิเศษเท่านั้น
นั่นทำให้ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะเลย
ผมลองทำ คาโบนาร่า กับกราแตง เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมการกินอาหารที่ทำมาจากนม
ทำให้ตอนนี้สาวๆ สามารถกินอาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบกันได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว
เนื่องจากเราไม่มีเตาอบ ผมจึงขอให้ไอเนสช่วยใช้เวทไฟในการทำกราแตง
แรกๆ ก็เละเทะไปหมด แต่ตอนนี้เธอจับทางได้แล้ว
ชีสออกมามีสีน้ำตาลอ่อนและสุกกำลังดี
พอมีเวลาว่างมากขึ้น ผมก็สอนสมาชิกจิราโซเล่ขับเรือ พวกเธอสนุกกับมันมาก
แต่ดูเหมือนตอนนี้อลิเซียซังกับมาริน่าซังจะเก่งพอๆ กับไอเนสแล้ว
ตอนนี้ในเวลาว่างๆ พวกเธอสามคนมักจะไปรวมตัวกันที่ห้องคนขับ รอให้มอนสเตอร์เข้ามาโจมตี
บางครั้งเฟลิเซียก็ไปแจมกับเขาด้วยถ้าผมรับอนุญาต สรุปแล้วพวกเธอเป็นคนแบบเดียวกันสินะ?
ช่วงนี้สาวๆ มักคุยกันว่าพวกเธออยากให้ซีเซอร์เพนท์เขามาโจมตี
ผมเริ่มรู้สึกเสียใจที่สอนพวกเธอขับเรือขึ้นมาแล้วสิ หรือพวกเธอกำลังเครียดกันอยู่?
เวลามอนสเตอร์เข้ามาโจมตี พวกเธอมักจะลากมันไปทั่ว แล้วจบด้วยการโจมตีเต็มกำลังจนมอนสเตอร์ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
ซีเซอร์เพนท์ ที่มีมูลค่าถึง 1 เหรียญทองคำขาวเองก็ไม่รอด มันถูกโจมตีจนแหลกเป็นชิ้นๆ
ช่างน่าเสียดายจริงๆ ผมเลยขอให้พวกเธอจัดการกับมอนสเตอร์ที่มีมูลค่าสูงอย่างระมัดระวังเพื่อที่จะสามารถเก็บวัตถุดิบได้
ผมรู้สึกสงสารเหล่ามอนสเตอร์เวลาอยู่บนเรือลำนี้จริงๆ
มันคงฟังดูตลก ที่ผมรู้สึกสงสารมอนสเตอร์ที่ปกติผมไม่มีทางเอาชนะมันได้ แม้จะต้องใช้เวลาอีกกี่ปีก็ตาม
มันให้ความรู้สึกเศร้าเหมือนตอนที่ ได้เห็นของเล่นที่เจ้าของเล่นจนเบื่อแล้วถูกโยนทิ้งไปยังไงยังงั้น…
สมาชิกจิราโซเล่ดีใจกันมากที่เลเวลของพวกเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระหว่างการเดินทางนี้
พวกเธอบอกว่าด้วยเลเวลของมอนสเตอร์ที่อยู่บนบก มันเป็นการยากมากที่จะทำให้อัพเลเวลได้เร็วขนาดนี้
ผมสงสัยจังว่าเลเวลของพวกเธอจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่กันนะ…
แต่ผมไม่กล้าถาม เพราะกลัวจะช๊อคถ้าผมรู้ความจริงเข้า
สาวๆ คุ้นเคยกับเรือมากจนบ้างครั้งพวกเธอไม่เห็นว่าผมเป็นผู้ชายอีกต่อไป บางครั้งพวกเธอก็นั่งอยู่บนโซฟาในชุดที่ค่อนข้างเปิดเผย
มันเป็นภาพที่ชวนมองจริงๆ แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกเศร้าที่พวกเธอไม่เห็นผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งอีกต่อไปแล้ว
ผมอยากลองถามพวกเธอไปจริงๆว่า “นี่พวกคุณกำลังยั่วผมอยู่หรือหรอครับ?” แต่ก็ไม่กล้า…
ที่ไม่กล้านี่ไม่ใช่ว่าผมป๊อดอะไรหรอกนะ แค่ผมกลัวที่จะได้รับคำตอนที่มันฟังแล้วมันปวดใจต่างหากล่ะ
แต่ผมก็มีความสุขนะ ตอนที่มอนสเตอร์เข้ามาโจมตีในช่วงที่พวกเธอแต่งตัวโป๊หน่อยๆ
หน้าอกที่สั่นไหวตามจังหวะของเรือนั้นช่างน่าดูจริงๆ และเมื่อพวกเธอเริ่มสู้กันอย่างเต็มที่ มันช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆ
เมื่อมองหน้าอกที่กำลังสั่นไหวเหล่านั้น ผมก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
ผมน่ะ ไม่มีวันยอมรับพวกพระเอกในไลท์โนเวลที่ใช้ความรู้โกงๆ ของตัวเองคิดค้นยกทรงขึ้นมาหรอกนะ…
ถ้าเป็นนางเอกผมก็พอเข้าใจได้ ที่ต้องทำยกทรงขึ้นมา แต่ทำไมพระเอกต้องทำยกทรงขึ้นมาด้วยล่ะ?
ผมอยากไปตะโกนดังๆ อัดหน้าพวกนั้นว่า “นี่ นายไม่อยากเห็นหน้าอกที่กำลังสั่นไหวอย่างงั้นเหรอ!?”
ส่วนยอดที่โผล่ออกมามันคือความโรแมนติกขั้นสุดยอดของลูกผู้ชายเลยนะ
ถึงอาจจะมีเหตุผลเรื่องหน้าอกผิดรูป หย่อนคล้อย หรือสั่นจนเจ็บ
แต่ผมอยากให้ใช้เวทมนตร์ในการแก้ปัญหาเหล่านี้มากกว่า เพราะมันเป็นโลกแฟนตาซียังไงล่ะ
ถึงความรู้โกงๆ จะยอดเยี่ยมก็เถอะ ยังไงผมก็ยังไม่เข้าใจเรื่องยกทรงอยู่ดี…พูดแล้วก็ขึ้น ไม่ได้ๆ เรื่องมันชักจะออกทะเลแล้วสิ
ส่วนคลาสเวทมนตร์ของคลอเร็ตต้าซังก็ดำเนินไปได้ด้วยดี
หลังจากที่ริมุเรียนรู้เวท โฮลี่สเปียร์ ได้แล้ว คลอเร็ตต้าซังก็เริ่มสวนเวทย์หมวดชีวิตประจำวันให้เขา และเขาก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ริมูสามารถใช้เวท โฮลี่สเปียร์ ได้แล้ว เขาสามารถจัดการเมอร์แมนได้ด้วยตัวของตัวเอง…
แย่ล่ะ…ถ้าผมไม่ได้ธนูใหม่เร็วๆ นี้ ต่อไปผมต้องหมดประโยชน์แน่เลย
ดูเหมือนริมุจะชอบเวทชีวิตประจำวันมากกว่า โฮลี่สเปียร์ เพราะมันช่วยงานได้มากกว่า
ไม่ว่าจะเติมน้ำในแก้ว หรือแม้แต่ช่วยล้างจาน ผมรู้สึกว่าน้ำที่ริมูสร้างด้วยเวทมนตร์สามารถล้างสิ่งสกปรกออกได้ดีกว่าน้ำก๊อกธรรมดาเสียอีก
สิ่งที่ทำให้ผมอิจฉาที่สุดก็คือ ริมุมักจะขึ้นไปนั่งบนไหล่สาวๆ ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จพร้อมกับเป่าลมเบาๆ ให้พวกเธอ
สาวๆ ต่างหลงรักริมุกันหัวปักหัวปำ ริมุได้รับความนิยมมากจริงๆ
ผมอดอิจฉาไม่ได้เวลาเห็นริมุไปอยู่บนหน้าอกของพวกเธอ
ตั้งแต่มาที่โลกนี้ คนที่ผมอิจฉามากที่สุดก็คือริมุ แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะริมุน่ารักเกินไปจริงๆ
ความสำเร็จของริมุไม่ได้หยุดอยู่แค่เวทมนตร์เท่านั้น เขายังทำให้เฟลิเซียเสียหน้าในเกมโอเมลโล่ได้อีกด้วย
ไอเนสและอลิเซียซังดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นเฟลิเซียแพ้
ช่วงนี้ผมเริ่มคิดขึ้นมาจริงๆ แล้วว่าผมพอจะมีโอกาสกับเหล่าสมาชิกจิราโซเล่บ้างไหม
แม้จะรู้ว่ามันเป็นเป้าหมายที่ยากเกินเอื้อม แต่เนื่องจากเราอยู่บนเรือลำเดียวกัน
ผมก็หวังว่าจะมีโอกาสเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ลองมาคิดดูหน่อยสิ…
1. อลิเซียซัง เธอเป็นหัวหน้าของจิราโซเล่ เราคุยกันบ่อยมาก และผมก็ว่าเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน
แต่ส่วนใหญ่จะคุยเรื่องการขับเรือหรือไม่ก็แผนการหลบหนี เธอมักจะมาช่วยสลับเวรกับผมเวลาที่ผมบังคับเรือ
อลิเซียซังไม่ได้มองผมเป็นผู้ชายคนนึงเลย เราเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า
2. โดโรซีซัง เราคุยกันเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ก็คุยเรื่องของริมุ หลังคุยกันไปซักพัก
โดโรธีซังก็บอกว่าเธออยากได้สกิลฝึกสัตว์ ผมเลยเล่าให้เธอฟังว่าก่อนจะได้สกิลนั้นมาผมทำอะไรบ้าง
ถ้าให้สรุป โดโรธีซังน่าจะเป็นเพื่อนของริมุมากว่าผมเสียอีก
3. มารีน่าซัง เธอเป็นคนเงียบๆ ผมเลยไม่ค่อยได้คุยกับเธอเท่าไหร่ เธอจะถามเฉพาะในเรื่องที่เธอสนใจเท่านั้น
มารีน่าซังก็ชอบริมุด้วยเหมือนกัน เธอคุยกับเขามากว่าที่คุยกับผมซะอีก
ผมคิดว่าเธอไม่ได้เกลียดผมนะ แต่เราต้องทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้ ยังอีกไกลที่จะไปถึงขั้นโรแมนติก
4. อัลม่าซัง เราคุยกันบ่อยและเข้ากันได้ดี เธอไม่โกรธเวลาผมมองเธอด้วยสายตาลามก
ตรงกันข้าม เธอมักจะยั่วยวนผมด้วยเซอร์วิสแบบเบาๆ เสมอเวลาที่ผมมองไปที่เธอ
จนทำให้บางครั้งผมอยากจะไปคุกเข่าขอเป็นคนรับใช้ของเธอเลยล่ะ ผมล่ะรู้สึกอายกับความคิดของตัวเองจริงๆ
เหมือนกับเด็กหนุ่มที่หลงไปกับพี่สาวทรงเสน่ห์ที่มักเขามาหยอกล้อด้วยความช่ำชองอยู่เป็นประจำ… แต่ผมอายุ 20 แล้วนะ
5. คาร์ล่าซัง ผมคิดว่าเราเข้ากันได้ดีที่สุด มีการสัมผัสทางกายกันบ้างเล็กน้อย ผมรู้สึกว่าพอจะมีความหวัง
แต่สุดท้ายผมก็รู้สึกว่าเธอคิดกับผมแค่ในฐานะคนที่ทำอาหารอร่อยๆ ให้เธอกินซะมากกว่า
เธอมักมองมาที่ผมด้วยตาที่เปล่งประกายเสมอ แต่นั่นไม่ใช่สายตาแห่งความรัก
มันเหมือนจะถามว่า “มีของอร่อยอะไรไหมคะ?” “จะทำอะไรให้ฉันกินเหรอคะ?” มากกว่า
6. คลอเร็ตต้าซัง เราก็เข้ากันได้ดีมาก เราคุยกันทุกวันและทำอาหารด้วยกันในครัว
เราพูดคุยเรื่องเมนูและอาหารที่จะทำกันอย่างสนุกสนาน
ถ้าให้สรุปง่ายๆ ก็… เพื่อนแม่บ้านล่ะมั้ง? ผมนึกภาพตัวเองเหมือนคุยกับเพื่อนแม่บ้านที่เข้ากันได้ดีอยู่เลย
หลังจากคิดดูแล้ว ผมไม่เห็นอะไรที่จะนำไปสู่ความรักกับสาวๆ ได้เลยซักอย่าง
ไม่เคยได้ยินพวกเธอพูดถึงความรักหรือผู้ชายมาก่อนด้วย
แม้แต่ตอนที่ไปคุยกับคุณพนักงานตอนรับในโลกนี้ ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าพวกเธอเคยคิดเรื่องความรักกันบ้างหรือเปล่า
ผมคิดว่าผมคงไม่ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ชายจนกว่าจะมีผลงานมากกว่านี้
คุยไปเรื่อยหลังจบตอน
ตอนนี้ก็เรื่อยๆ ไม่มีอะไร
แต่จากที่ดู วาตารุ มันกะรวบยกตี้เลยนี่หว่า
MANGA DISCUSSION