มีชายคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นมาต่อหน้าผม พร้อมกับปล่อยจิตสังหารออกมา จากนั้นเขาก็ตะโกนโวยวายเสียงดัง…
โอ้ หมอนี่มันพนักงานโรงแรมคนนั้นนี่…ผมเจอปัญหาแล้วสิแบบนี้
นี่มันเหมือนกับฉากการฆ่าตัวตาย(ทางสังคม)ต่อหน้าผู้คนเลย ผมควรทิ้งรถเข็นแล้วหนีไปเลยดีไหม?
แต่ทำไมกันนะ? ผมรู้ว่าพวกเราแข็งแรงกว่าชายที่อยู่ตรงหน้านี้แน่นอน อาจเพราะพวกเรามีเลเวลที่สูงกว่า
แต่ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนจะหนีจากเขาไปไม่พ้นเลยล่ะ? พนักงานโรงแรมคนนี้ดูท่าจะตามพวกเราไปไม่หยุดแน่ๆ
“คาร์ล่าซัง คลอเร็ตต้าซัง พวกคุณยังไปยุ่งกับผู้ชายแบบนี้อยู่อีกเหรอครับ? ถึงเขาจะเป็นคนถือของ เขาก็ไม่ควรมายืนอยู่ข้างๆ พวกคุณแบบนี้นะครับ”
เขาดูถูกผมตั้งแต่เริ่มเลยงั้นเหรอเนี่ย! ถึงขั้นมองผมเป็นแค่คนถือของที่ ไม่มีสิทธิ์อยู่ข้างๆ พวกเธอเลยงั้นเหรอ…
“เอ่อ คุณ…พนักงานโรงแรมในตอนนั้นใช่ไหม?”
“ผมว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณนะครับ”
“จะปล่อยให้เป็นแบบนี้จริงๆ เหรอครับ? พวกคุณคือปาร์ตี้นักผจญภัยแรงค์ A จิราโซเล่”
“พวกคุณไม่เหมาะกับโรงแรมเกรด B แบบนั้นหรอกครับ อีกอย่างผู้ชายคนนี้มันก็แค่แมลงที่คอยมารบกวนพวกคุณเท่านั้น กลับไปที่โรงแรมของผมเถอะ”
หืม? นี่ทำเป็นไม่สนใจผมเลยเหรอ? แล้วอะไร…แมลงรบกวนอย่างงั้นเหรอ? คือจังหวะนี้ผมควรโกรธใช่ไหม?
ตอนนี้คนเริ่มมามุงกันแล้ว ผมควรโกรธดีมั้ย? หรือไม่ควรโกรธดี ถ้าโกรธแล้วมันจะดูไม่ดีหรือเปล่า?
เอาล่ะ ตัดสินใจได้แล้ว ผมจะทำตัวให้ดูสงบและสุขุมให้ได้มากที่สุด เพราะแบบนั้นมันจะดูหล่อเท่มากกว่า
“คุณพนักงาน ที่นี่มันกลางถนนสายหลักนะครับ ไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะมาทำอะไรแบบนี้
เพราะฉะนั้นกรุณาถอยออกไปและเลิกก่อความวุ่นวายได้แล้วครับ”
“ผมสัญญาว่าจะให้บริการพวกคุณอย่างดี ถ้าพวกคุณกลับมา พวกคุณจะได้ห้องที่ดีที่สุด อาหารที่ดีที่สุด
และผมจะเป็นผู้ดูแลส่วนตัวให้กับพวกคุณเอง พวกคุณจะไม่ต้องทำอะไรเลยครับ ถ้ากลับมาอยู่ที่โรงแรมของผม
คุณไม่จำเป็นต้องออกไปซื้อเองด้วยซ้ำ แค่บอกมา ผมจะเป็นคนไปจัดการให้พวกคุณทุกอย่าง…”
เขาไม่ฟังผมเลย… นี่ผมเป็นอากาศสำหรับเขางั้นเหรอ? เห้อ…เสียใจจุง
(ไอเนส คำพูดของผมไปไม่ถึงเขาเลย ทำยังไงดี?)
(ฟุฟุฟุ ฉันคิดว่านายท่านควรเงียบแล้วดูสถานการณ์ไปค่ะ)
(เอ๋! แต่แบบนั้นมันจะดีเหรอ?)
(ไม่ต้องห่วงค่ะ วาตารุซัง ฉันเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว และฉันก็เตรียมแผนการรับมือเอาไว้แล้วด้วย ดูฉันจัดการเขาให้ดีๆ นะคะ)
(เอ๋? คลอเร็ตต้าซัง จะไหวเหรอครับ?)
(ไม่มีปัญหาค่ะ)
(เข้าใจแล้วครับ)
ว่าแต่คนที่เป็นศูนย์กลางของสถานการณ์ในตอนนี่มานั่งกระซิบกระซาบกันแบบนี้ก็ได้เหรอ?
แล้วพนักงานคนนั้น…? โอ้ เขากำลังโม้เกี่ยวกับสรรพคุณของโรงแรมของตัวเองอยู่อย่างภาคภูมิใจจนไม่สนใจใครหน้าไหนเลย
จะว่าไปดูๆ แล้วก็เพลินดีเหมือนกัน…
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีครับ?”
“รอแปปนะคะ ฉันคิดว่าอีกไม่นานพวกเขาก็น่าจะมากันแล้ว… โอ้ นั่นไง มากันแล้ว”
มีกลุ่มชายฉกรรจ์วิ่งตรงเข้ามา จากนั้นก็กระโดดรวบพนักงานโรงแรมคนนั้นทันที…
ว้าว…พนักงานโรงแรมคนนั้นลงไปดิ้นพล่านเลย…หลังจากมีการขัดขืนเล็กน้อย ในที่สุดพนักงานโรงแรมคนนั้นก็ถูกลากตัวออกไป…
“เกิดอะไรขึ้นน่ะครับ!?”
“พวกเขาคือพนักงานที่คุณเจ้าของโรงแรมจ้างเอาไว้ค่ะ ผู้ชายคนนั้นมักจะแอบหนีออกมาและก่อความวุ่นวายแบบนี้ประจำ
คุณเจ้าของโรงแรมเลยจ้างคนเหล่านั้นเอาไว้ตามจับเขากลับไปค่ะ”
“แล้วทำไมพวกเขาถึงมาได้เร็วกันขนาดนี้ล่ะครับ?”
“โรงแรมนี้เป็นธุรกิจที่เปิดมานานแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นเลยมีคนที่รู้จักของคุณเจ้าของอยู่ทุกที่
ดังนั้นถ้ามีใครพบเห็นพนักงานคนนั้นออกมาก่อความวุ่นวายข้างนอก พวกเขาก็จะรีบไปแจ้งคุณเจ้าของทันที”
เป็นแบบนี้บ่อยแล้วงั้นเหรอ? งั้นที่ผมพูดไปทั้งหมดก็เสียเวลาเปล่าน่ะสิ…
“เอ่อ…เข้าใจแล้วครับ งั้นเราไปซื้อของต่อกันเถอะ”
“ค่ะ”
หลังจากซื้อของเสร็จ เราก็กลับไปที่โรงแรมนางแอ่น ผมรู้สึกเหนื่อยมากๆ เลยตอนนี้
จากนั้นไม่นาน สมาชิกคนอื่นๆ ของจิราโซเล่ก็กลับมาถึง ผมจึงพาพวกเธอไปที่เรือ
“เชิญเข้ามาได้เลยครับ”
ผมอนุญาตให้พวกเธอทุกคนขึ้นเรือและพาเข้ามาชมข้างใน สมาชิกของจิราโซเล่ดูจะตื่นตาตื่นใจกันมาก
“เชิญนั่งตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปเตรียมชามาให้”
ผมเชิญทั้ง 6 คนให้นั่งลงบนโซฟาและเก้าอี้ในห้องนั่งเล่น
“ได้แล้วครับ”
“วาตารุซัง เรือลำนี้เป็นเรือเวทมนตร์ที่แปลกมากค่ะ ถึงด้านนอกจะดูเหมือนเรือเวทมนตร์ทั่วๆ
แต่ด้านในนี่มัน…มันสวยมากๆ จนไม่รู้จะบรรยายยังไงเลยค่ะ มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
“ขอบคุณครับ อลิเซียซัง เอาล่ะครับ ตอนนี้ผมจะบอกความลับของผมให้ฟัง”
“เอ๊ะ? คุณจะบอกความลับของตัวเองเหรอคะ? ไม่ใช่ของเรือ?”
“จริงๆ ตามเทคนิคแล้วมันเป็นความลับของผมมากกว่าจะเป็นความลับของเรือน่ะครับ
ลองดูด้วยตาของตัวเองน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่าครับ”
“อัญเชิญเรือ”
มีวงเวทย์ปรากฏขึ้นจากนั้นก็มีเรือยางโผล่ขึ้นมามา…
“นี่คือสกิลเฉพาะตัวของผมครับ ชื่อว่า ‘อัญเชิญเรือ’ เรือที่พวกคุณกำลังนั่งอยู่ตอนนี้ก็ถูกเรียกออกมาด้วยสกิลนี้เหมือนกัน”
“ส-สกิละเฉพาะตัว…? ต-แต่มันควรเป็นความลับไม่ใช่เหรอคะ!?”
สมาชิกจิราโซเล่อึ้งกันไปตามๆ กัน บางคนถึงกับอ้าปากค้าง…
ถึงจะเป็นใบหน้าที่กำลังตกตะลึง แต่พวกเธอก็ยังคงสวยอยู่ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย…
“ครับ เอาล่ะตอนนี้พวกเราก็มาช่วยกันขนอาหารและของที่ซื้อมาลงไปในเรือลำนี้ที่ผมเรียกออกมากันเถอะครับ”
ไอเนสกับเฟลิเซียช่วยผมขนอาหารและของต่างๆ ลงในเรือ
โอ๊ะ ว่าแต่ริมุหายไปไหนแล้ะ? อ้อ กำลังเล่นอยู่ที่ด้านบนนี่เอง
“จากนี้ผมจะเรียกเรือกลับไปนะครับ ซึ่งจะทำให้อาหารที่อยู่ในเรือถูกเก็บรักษาไว้โดยที่เวลาในนั้นจะหยุดนิ่งเอาไว้ครับ”
“เอาล่ะ แบบนี้ก็น่าจะโอเคแล้ว…คลอเร็ตต้าซัง?”
“ฉัน ม-ไม่รู้จะพูดยังไงดีค่ะ แต่เข้าใจแล้วค่ะ วาตารุซัง”
“เอาล่ะครับ งั้นเรามาขนอาหารลงเรือกันให้หมดดีกว่า”
ผมเรียกเรือออกมาอีกสองลำ ขนอาหารที่เหลือลงไป แล้วเรียกเรือกลับไป
“ผมยังมีความลับอยู่อีกอย่าง ไว้จะอธิบายให้ฟังหลังจากออกเรือแล้วนะครับ”
“อ๊ะ จริงสิ ถ้ามีคนรู้เรื่องสกิลของผมมันจะยุ่งยาก ดังนั้นกรุณาเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วยนะครับ”
“ม-มันต้องปัญหาแน่นอน ค่ะ ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับแน่นอนค่ะ ทุกคนด้วยใช่ไหม”
“””อืม”””
“ขอบคุณมากครับ งั้นผมจะพาไปเดินชมเรือต่อนะครับ ที่นี่คือห้องครัวครับ ถ้าบิดก๊อกน้ำตรงนี้ ก็จะมีน้ำไหลออกมาครับ
ตรงนี้เป็นตู้เย็นส่วนตรงนี้ก็เป็นตู้แช่แข็ง เราสามารถเอาเครื่องดื่มหรืออาหารมาแช่ได้ ในตู้ตอนนี้มีน้ำผลไม้เย็นๆ อยู่นะครับ
สามารถดื่มได้ตามสบายเลย และนี่ก็เตาครับ สามารถใช้มันตั้งหม้อเพื่อทำอาหารได้”
“ว้าว สุดยอดมากๆ จนไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มที่ตรงไหนก่อนเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวใช้ไปเรื่อยๆ ก็ชินเอง ไอเนสกับเฟลิเซียก็ชินเร็วมาก
ถ้าสงสัยอะไรก็ถามได้ตลอดเลยนะครับ ต่อไปคือห้องพัก ซึ่งนอนได้สอง…”
“อลิเซีย แบบนี้มันไม่ยุติธรรมนี่ ฉันเองก็อยากลองเหมือนกัน”
“นี่ อลิเซีย คาร์ล่า วาตารุซังกำลังอธิบายอยู่นะ”
“”ขอโทษค่ะ””
“ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพอออกเรือจะมีเวลาให้สนุกกันอีกเยอะ ตอนนี้มาฟังคำอธิบายกันก่อนนะครับ”
“””ค่ะ”””
“นี่คือห้องน้ำ เอ่อ…รู้สึกแปลกๆ จัง ที่ต้องมาอธิบายอะไรแบบนี้ให้พวกคุณฟัง
ยังไงก็ลองสอบถามไอเนสกับเฟลิเซียดูกันเอาเองทีหลังนะครับ
อ่อ ถ้าบิดก๊อกตรงนี้ก็จะมีน้ำไหลออกมาเหมือนกันนะครับ”
อ๊ะ ไม่ทันสังเกตเลยว่าริมุไปอยู่ในอ้อมแขนของโดโรธีซังตั้งแต่เมื่อไหร่
“นี่คือห้องมาสเตอร์ครับ ปกติผมจะใช้ห้องนี้เป็นห้องนอน”
“โห เตียงใหญ่มากเลยค่ะ แล้วก็ดูนุ่มสุดๆ”
“ครับ มันเป็นเตียงที่ผมชอบมาก”
“และนี่ก็ห้องอาบน้ำครับ เป็นที่สำหรับเอาไว้ทำความสะอาดร่างกาย มันสะดวกมากเลยนะครับ
พวกคุณสามารถมาลองใช้กันได้ เดี๋ยวผมให้ไอเนสกับเฟลิเซียอธิบายให้ฟังทีหลัง…”
“ฟุฟุฟุ ทำความสะอาดร่างกายงเหรอคะ? ไปทำอะไรมันกันน้า…ถึงได้เลอะเทอะ?”
อัลม่าซัง อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น ผมเข้าใจว่าคุณกำลังคิดอะไร แต่มันไม่ใช่แบบนั้นนะครับ…
“อ-เอ่อ เวลาล่องเรือไปนานๆ ลมทะเลอาจทำให้รู้สึกเหนียวตัวได้ครับ ดังนั้นผมคิดว่าทุกคนคงได้มาใช้งานที่นี่กันบ่อยแน่ๆ”
“เอาล่ะ ครับ เท่านี้ก็ถือว่าผมพาเที่ยวชมเรือเสร็จสินแล้ว พวกคุณมีคำถามอะไรไหมครับ?”
“ค่า…”
“ครับ โดโรธีซัง?”
“คือถ้าฉันไม่เข้าใจอะไร ก็ไปถามกับไอเนสซังหรือไม่ก็เฟลิเซียซังได้เลยใช่ไหมคะ”
“แล้วก็ขอทราบกฎที่ต้องปฏิบัติเวลาอยู่บนเรือด้วยค่ะ”
“กฎเหรอครับ…? จริงๆ ก็ไม่ได้มีกฎอะไรหรอกครับ แต่ถ้าจะให้พูดก็ ‘ห้ามฆ่ากันบนเรือ’ กับเวลาฝึกซ้อมต้องสู้ด้วยมือเปล่าครับ”
“เข้าใจแล้วค่ะ ทุกคนเข้าใจแล้วใช่ไหม?”
“””ค่ะ”””
นอกจากนี้…ผมก็นึกอะไรไม่ออก เอาไว้ถ้ามีอะไรค่อยไปเพิ่มที่หลังเอาแล้วกัน
“เอ่อ วาตารุซัง นี่อาจเป็นคำขอที่ฟังดูหน้าอายนิดหน่อย แต่ฉันขอนอนกับริมุจังหน่อยได้ไหมคะ?”
โดโรธีซังที่ปกติจะดูเย็นชาอยู่เสมอกลับทำท่าทีเขินอายแบบนั้น… นี่มัน!
“เอ๊ะ? อ้อ คุณอยากนอนกับริมุอย่างงั้นเหรอครับ?”
“ค่ะ”
“ผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ ถ้าริมุโอเค เดี๋ยวผมถามเขาให้”
ผมอิจฉาริมุมากๆ เลยตอนนี้ อยากรู้จริงๆ ว่ามันพอจะมีสกิลอย่างแชร์ความรู้สึกกับสัตว์เลี้ยงหรืออะไรพวกนี้บ้างไหมนะ…
“ริมุ เรากำลังจะไปออกเรือกับเหล่าพี่สาวจากจิราโซเล่ และตอนนั้นโดโรธีซังก็อยากนอนด้วยกันกับริมุ ริมุคิดว่ายังไง?”
“โดโรธี? …ริมุชอบ”
“งั้นเหรอ…ริมุชอบโดโรธีซังงั้นเหรอ แล้วอยากนอนด้วยกันไหม?”
“นอนด้วยกัน?”
“ใช่ครับ นอนด้วยกัน”
“ริมุ…โดโรเธีย…นอนด้วยกัน”
“งั้นครั้งหน้าริมุไปนอนกับโดโรเธียซังนะ”
“นอน…ด้วยกัน”
“โดโรเธียซัง ริมุไม่ขัดข้องที่จะนอนกับคุณครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ วาตารุซัง ฉันจะตั้งตารอที่จะได้นอนกับริมุจังเลย”
ผมเองก็อยากนอนด้วยเหมือนกันนั่นแหละ แต่ถ้าพูดไปคงโดนหาว่าลามกแน่ๆ
โดโรธีซังกับริมุดูมีความสุขกันมาก… ผมละอิจฉาริมุสุดๆ เลย
“วาตารุซัง พรุ่งนี้เราออกเรือกันได้เลยใช่ไหมคะ?”
“ครับ อเลสเซียซัง เอาเป็นเวลาไหนดีครับ?”
“เอ่อ 6 โมงเช้าจะเร็วไปไหมคะ?”
“ไม่ครับ “
“ถ้างั้นเจอกัน 6 โมงเช้านะคะ งั้นพวกเราขอตัวก่อนค่ะ”
หลังจากส่งสมาชิกจิราโซเล่กลับแล้ว ผมก็ตรงไปที่ร้านของดอนนิโน่ซัง
พร้อมเหล้าหนึ่งขวดกับกระดาษที่เขียนกฎการเล่นเอาไว้
“สวัสดีครับ ดอนนิโน่ซัง”
“โอ้ วาตารุ ของพร้อมแล้วนะ เอาเหล้ามาด้วยหรือเปล่า?”
“ครับ ผมเอามาด้วย นี่ครับกฎสำหรับของเล่น”
“โอ้ งั้นครั้งหน้าข้าจะลองเอาไปเล่นดูบ้าง”
โห ตอนนี้เขาคงเห็นแต่เหล้าอยู่ในสายตาสินะ
“ดอนนิโน่ซัง เราขนของกันไปเองไม่น่าจะหมด ดังนั้นช่วยส่งคนมาช่วยพวกเราขนหน่อยจะได้ไหมครับ?”
“หืม? ได้สิ เอาพวกเด็กๆ แถวนี้ไปช่วยได้เลย”
ช่างฝีมือหนุ่ม หัวเราะกันออกมาอย่างอารมณ์ดีจากนั้นก็มาช่วยพวกเราขนกระท่อมไปที่เรือ
ผมรู้สึกสงสารพวกเขาเล็กน้อย เลยให้เหรียญเงินไปคนละเหรียญ
ผมผูกกระท่อมเข้ากับเรือยางขนาดใหญ่ การทำงานดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นเพราะมีแรงงานมาช่วย
ตอนนี้เรามีเรือกระท่อมทั้งหมด 3 หลังแล้ว แม้จะมีหลังหนึ่งที่ดูเก่าและซอมซ่อไปหน่อยก็เถอะ
ภายในเรือกระท่อมหลังใหม่เป็นยังไงบ้างนะ? โอ้ มันดูดีกว่าที่คิด พื้นเรือยางนุ่มๆ ถ้ามีผ้าห่มก็พอจะนอนได้สบาย
มีโคมไฟ โต๊ะเล็กๆ ชั้นวางของ ทุกอย่างเพียงพอสำหรับการนอนพักผ่อน ต่อไป ก็ไปลองเล่นเกมกันดีกว่า
“ไอเนส เฟลิเซีย นี่คือเกมที่มีชื่อว่า โอเทโล่ กับ เจงก้า ผมจะสอนกติกาให้ เรามาเล่นกันเถอะ”
“”ค่ะ””
เริ่มด้วย เจงก้า เพราะเป็นเกมที่ง่ายสำหรับคนที่พึ่งหัดเล่นครั้งแรก
ทั้งสองคนค่อยๆ ดึงแท่งไม้ออกอย่างระมัดระวัง เสียงอุทานน่ารักๆ ดังขึ้นทุกครั้งที่แท่งไม้ดูเหมือนจะล้มลงมา
ทุกครั้งที่ล้ม จะมีเสียงกรี๊ดกับเสียงหัวเราะดังสนั่น และผู้แพ้มักจะขอเล่นอีกครั้งเสมอ
มันสนุกมาก แต่ผมก็พบเข้ากับข้อบกพร่องที่ร้ายแรงอย่างนึง เกมนี้ไม่เหมาะกับการเล่นบนเรือเลย
เพราะมันเล่นไม่ได้ตอนที่เรือแล่นหรือตอนที่มีคลื่นลูกใหญ่ๆ น่าจะคิดให้ดีกว่านี้ก่อนทำ
ส่วน โอเทโล่ ก็สนุกไม่น้อยเลย ตอนแรกผมชนะทั้งสองคนได้อย่างง่ายๆ
เพราะพวกเธอโดนพลิกหมากไปหลายครั้ง แต่พอพวกเธอเริ่มเข้าใจความสำคัญของมุมและขอบมากขึ้น เกมก็เริ่มสนุกขึ้น
ที่น่าประหลาดใจคือ ริมุเองก็สนใจเล่น โอเทโล่ ด้วยเหมือนกัน ผมจึงสอนกติกาให้เขา และเขาก็สามารถเล่นได้ดี
ริมุสามารถหยิบหมาก วางหมาก และพลิกหมากได้อย่างคล่องแคล่ว ไอเนสและเฟลิเซียต่างก็ไม่ยอมแพ้
แม้จะเป็นริมุ แต่พวกเธอก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ และพยายามสู้อย่างสุดกำลังจนสามารถเอาชนะมาได้ แม้จะหืดขึ้นคอไปนิดก็ตาม
เห้อ…ไม่เป็นผู้ใหญ่กันซะเลยนะทั้ง 2 คน
ริมุเองก็ดูเศร้านิดหน่อย ที่แพ้บ่อยๆ ผมเลยเล่นกับเขาแล้วแกล้งแพ้ให้ ถึงนี่จะไม่ใช่การกระทำที่ดีนัก
แต่มันก็ทำให้ริมุมีความสุขสุดๆ เขากระโดดไปมาอย่างน่ารักจนทำให้ผมพลอยยิ้มไปด้วย
“เอาล่ะ พรุ่งนี้เราต้องตื่นกันแต่เช้า ดังนั้นมากินข้าวเย็นแล้วเข้านอนกันดีกว่า”
“””เอ๊ะ?”””
“ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้วนะ อดทนกันหน่อย พรุ่งนี้เรามีนัดกับจิราโซเล่ ถ้าตื่นสายจะทำยังไงกัน ดังนั้นวันนี้ก็พอแค่นี้”
“””เข้าใจแล้วค่ะ”””
ตั้งแต่พรุ่งนี้เราจะต้องอยู่ร่วมกันกับจิราโซเล่ งั้นคืนนี้ขอสนุกให้เต็มที่เลยแล้วกัน …
…ในตอนเช้า หลังทำกิจวัตรประจำวันเสร็จ สมองผมก็ปลอดโปร่ง
โอ้ วันนี้เป็นวันที่จะออกเดินทางกับสมาชิกจิราโซเล่นิ
ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้สนิทกับพวกเธอมากขึ้น
และ ถ้ามีจังหวะและโชคดีอำนวยผมอาจจะ…
เอาล่ะ มาทำให้ทริปล่องเรือครั้งนี้สนุกที่สุดๆ กันเถอะ!
MANGA DISCUSSION