ที่ชายฝั่งใกล้หมู่บ้านดาร์กเอลฟ์ เราขนไม้ทั้งหมดขึ้นเรือแล้วก็เดินทางกลับมาที่เกาะ
เมื่อมาถึง หัวหน้าหมู่บ้านก็พาชาวบ้านลงมารับ
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณหัวหน้าหมู่บ้าน เป็นยังไงกันบ้างครับ?”
“อรุณสวัสดิ์ วาตารุซัง ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีครับ”
“เข้าใจแล้วครับ เราขนไม้ทั้งหมดมาให้แล้ว”
“ขอบคุณมากครับ ได้ยินแล้วใช่ไหมทุกคน?”
“นี่คือไม้ที่เหลือทั้งหมด รีบขนขึ้นไปที่หมู่บ้านกันเถอะ”
ทันทีที่หัวหน้าหมู่บ้านสั่ง ชาวบ้านก็เริ่มขนย้ายไม้
ผมช่วยพวกเขายกไม้ขึ้นไปบนยอดเขา
และเห็นว่าพวกเขาสร้างรั้วกันจนเสร็จแล้วและกำลังเริ่มก่อสร้างหมู่บ้าน
“คุณหัวหน้าหมู่บ้าน เริ่มสร้างบ้านกันแล้วหรือครับ?”
“ใช่ครับ เราใช้รั้วเก่ามาประกอบเข้าด้วยกัน เลยทำให้เสร็จเร็ว”
“แต่สำหรับบ้าน เราต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ งานส่วนนี้น่าจะใช้เวลาพอสมควรครับ”
“เข้าใจแล้วครับ ผมว่าความเร็วขนาดนี้ก็ถือว่าเร็วมากแล้วนะครับ”
“มีอะไรที่คุณต้องการเพิ่มเติมไหมครับ?”
“เราได้รับเสบียงเพียงพอแล้วครับ”
“ตามที่คนดูแลบอก เรามีเสบียงพอใช้ไปได้อีกอย่างน้อยห้าเดือน”
คนที่ไปสำรวจทุ่งหญ้าบอกว่าสามารถล่ากระต่ายเขาและนกได้ ดังนั้นผมคิดว่าพวกเขาน่าจะอยู่ได้นานกว่านั้น
“เข้าใจแล้วครับ เรากำลังจะไปทำการค้าพริกไทย”
“คงจะไม่ได้มาที่เกาะนี้อีกอย่างน้อยหนึ่งเดือน แต่ผมคิดว่าคงไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ?”
“พวกคุณจะไปค้าพริกไทยหรือครับ?”
“ถ้าผมไม่ได้เห็นพวกคุณต่อสู้กับมอนสเตอร์ทะเลก่อนหน้านี้”
“ ผมคงห้ามคุณไว้ แต่ดูเหมือนวาตารุซังและคนอื่นๆ จะไม่มีปัญหาอะไรนะครับ”
“ขอให้เดินทางปลอดภัยครับ”
“ขอบคุณมากครับ แล้วพบกันใหม่”
เฟลิเซียก็กล่าวลาหัวหน้าหมู่บ้านและแม่ของเธอ จากนั้นเราก็กลับขึ้นเรือและออกเดินทาง
“เราจะไปโกเทนเบิร์กกันก่อน”
“เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับทวีปทางใต้”
“และถ้าเป็นไปได้ก็จะทำการซื้อขายที่นั่น”
“จากนั้นเราจะไปประเทศอื่น”
“แต่ถ้าสถานการณ์ความปลอดภัยแย่ เราจะออกจากโกเทนเบิร์กทันที”
“มีอะไรจะถามอีกไหม?”
“ถ้าเราไปประเทศอื่น นายท่านคิดว่าจะซื้อพริกไทยได้ทั้งหมดเท่าไหร่คะ?”
“ถ้าเราขายผ้าไหมแมงมุมได้ราคาเดิม ก็น่าจะได้ 35 เหรียญแพลทินัม”
“เราควรซื้อพริกไทยให้ได้เท่ากับมูลค่านี้”
“พริกไทยขนาดนั้นจะทำให้เราได้เงินมากถึง 700 เหรียญแพลทินัมเลยนะคะ”
“เข้าใกล้เรือสำราญไปอีกก้าวแล้วค่ะ”
“ฮ่าฮ่า ผมรู้ แต่ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้น”
“เพราะเราไม่สามารถขายพริกไทยทั้งหมดนั่นได้ในครั้งเดียว”
“ไหนจะต้องใช้เวลารวบรวมเหรียญแพลทินัมอีก”
“เราคงต้องเดินทางกันอีกนาน”
“นอกจากนี้ ถึงแม้จะมีพริกไทยมากมาย”
“เราจะซื้อพริกไทยมูลค่า 35 เหรียญแพลทินัมจากสองประเทศได้จริงๆ?”
“อืม ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ”
“ฉันเคยได้ยินมาว่ากองเรือขนาดใหญ่ที่นำพริกไทยกลับมาจะทำเงินมหาศาล”
“ดังนั้นบางทีพวกเขาอาจจะรวบรวมพริกไทยได้เยอะ”
“ฉันก็เคยได้ยินเรื่องนั้นเหมือนกัน”
“กองเรือขนาดใหญ่สามารถขนพริกไทยกลับมาได้เป็นจำนวนมาก”
“ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องให้เฟลิเซียกับไอเนสเรียนการขับเรือแล้วล่ะ”
“จากนั้นก็ซื้อเรือเพิ่มอีกสักสองลำเพื่อขนพริกไทย”
“ขับเรือเหรอคะ ฟังดูน่าสนุกจัง”
“แต่ นายท่านคะ ถ้าซื้อเรือเวทมนตร์เพิ่มอีกสองลำ”
“ทางรัฐบาลต้องหันมาสนใจนายท่านแน่ค่ะ”
“เพราะการที่มีเรือเวทมนตร์มากมายขนาดนั้น”
“จะมีก็แต่พ่อค้าที่ร่ำรวยหรือไม่ก็ขุนนางที่ทรงอำนาจไม่กี่คนเท่านั้น ที่มีเรือมากมายขนาดนั้นในครอบครอง”
“อีกอย่างถ้าเกิด นายท่านซึ่งในสายตาของคนทั่วไปแล้วมองว่าเป็นแค่พ่อค้าธรรมดาๆ”
“เกิดมีเรือเวทมนตร์สามลำ ขึ้นมา…”
“รัฐบาล ขุนนาง หรือพ่อค้ารายใหญ่ๆ จะต้องพยายามมาแย่งเรือนายท่านไปด้วยหลายๆ วิธีแน่นอนค่ะ”
“ทั้งการเกลี้ยกล่อม ข่มขู่ หรือแม้กระทั่งใส่ร้าย”
“อ่า การเพิ่มจำนวนพริกไทยในตลาดทีเดียวสามเท่าคงจะไม่เวิร์กจริงๆ สินะ”
“แม้แต่เรือแบบญี่ปุ่นของผมก็เคยเกือบถูกยึดไปหลังจากถูกใส่ร้าย เหมือนกัน”
“ยิ่งถ้ารัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องคงยิ่งวุ่นวายไปใหญ่”
“อุฟุฟุ เอ็นริเก้ซังเคยเล่าให้ฉันฟังว่าก่อนที่นายท่านจะมาซื้อตัวพวกเรา”
“นายท่านเคยถูกใส่ร้ายโดยพ่อค้าที่มีขุนนางหนุนหลังมาก่อนสินะคะ”
“แต่นายท่านก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองในศาลต่อหน้าท่านเคานต์แห่งแดนใต้ได้”
“น่าเสียดายจริงๆ ที่ฉันไม่ได้เห็นเหตุการณ์นั้น”
“คดีใส่ร้ายครั้งนั้นพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ด้วยวิธีง่ายๆ เฉยๆ หรอก”
“ถ้าไม่ได้กิลด์มาสเตอร์ไปติดต่อกับท่านเคานต์ให้ล่ะก็…ผมคงถูกยัดข้อหาและถูกยึดเรือไปแน่นอน”
“ด้วยความสามารถของนายท่าน ตราบใดที่อยู่บนเรือ”
“นายท่านก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่างเลยนะคะ”
“นายท่านสามารถอยู่รอดได้สักระยะหนึ่งเลย ถ้าซื้อเรือยางมาเยอะๆ แล้วขนอาหารมาให้เต็ม”
“แต่การอยู่ในที่แคบๆ เป็นเวลานาน คงจะเหนื่อยน่าดู”
“และถ้าถูกล้อมไว้เป็นเวลานานๆ นายท่านก็น่าจะถึงขีดจำกัด”
“แต่หากนายท่านซื้อเรือสำราญมาได้และมีเงินที่มากเพียงพอ”
“นายท่านก็จะสามารถรับมือได้ในเกือบทุกๆ สถานการณ์เลยค่ะ”
“อุฟุฟุ ถูกต้อง”
“ฉันเพิ่งดูหน้าจอการซื้อเรือของนายท่านมา”
“มีเรือขนาดใหญ่เยอะมากๆ แล้วก็มีอันที่ดูน่าสนุกเต็มไปหมด”
“การที่มีเรือที่มีขนาดใหญ่ถึงขนาดนั้น และยิ่งอยู่ในมหาสมุทรเปิดแบบนี้”
“คงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครสามารถขวางเส้นทางของมันได้”
“เพราะฉะนั้น เรือสำราญน่าจะช่วยพวกเราได้มากจริงๆ ค่ะ”
“ผมรู้ พอเราได้เรือสำราญมาและสามารถเก็บเงินได้เยอะๆ แล้ว”
“เราจะสามารถทำอะไรที่มันเสี่ยงๆ ได้มากขึ้นกว่าตอนนี้”
“แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น เราต้องระมัดระวังตัวเอาไว้”
“ถึงแม้จะต้องใช้เวลานานหน่อยก็ตาม”
แต่ผมนึกภาพตัวเองทำอะไรเสี่ยงๆ ไม่ออกเลย นี่สิ…แม้กระทั่งตอนที่ได้เรือสำราญมาแล้ว
“ฟุฟุฟุ มันน่าขำนะคะ นายท่าน”
“ที่นายท่านคิดว่าตัวเองระมัดระวังตัวน่ะ”
“ทั้งๆ ที่โลกภายนอกมองว่านายท่านเป็นพ่อค้าบ้าๆ ที่พยายามทำการค้าพริกไทย 2 รอบแบบนี้”
“เอ๊ะ มาคิดๆ ดูแล้ว…”
“การค้าพริกไทยนี่ก็นับเป็นความเสี่ยงเหมือนกันนี่นา…”
“เห้อ…ผมอยากทีวิธีขายพริกไทยให้ได้เยอะๆ แบบไม่มีใครรู้จังเลย”
“เอาเถอะ ถึงจะไม่ได้ซื้อเรือใหม่”
“แต่พวกเธอก็น่าจะมาเรียนขับเรือกันเอาไว้บ้างนะ”
“ฟังดูน่าสนุกจังเลย ฉันอยากเรียน”
“ฉันก็อยากเรียนเหมือนกันค่ะ นายท่าน”
“งั้นมาลองกัน มันไม่ได้ยากอย่างที่เห็นหรอก”
“เดี๋ยวผมจะอธิบายวิธีการบังคับเรือให้ฟัง”
“ค่ะ”
“ก่อนอื่น ก็สตาร์ทเครื่องยนต์ ตรงนี้”
“ส่วนคันโยกที่อยู่ด้านขวาล่างนี้คือ อุปกรณ์สำหรับควบคุมเรือ”
“ตอนนี้มันอยู่ในโหมดปกติ แต่ถ้าพวกเธอดันมันไปข้างหน้า เรือก็จะเดินหน้า”
“ถ้าดันมันไปข้างหลัง เรือก็จะถอยหลัง”
“และถ้าหมุนพวงมาลัยตรงนี้ ไปทางซ้าย เรือก็จะเลี้ยวซ้าย”
“และถ้าหมุนมันไปทางขวา เรือก็จะเลี้ยวขวา”
“นี่ล่ะ คือทั้งหมดที่ต้องรู้ในการบังคับเรือ”
“แค่พวกเธอฝึกใช้ให้ชิน พวกเธอก็สามารถบังคับเรือลำนี้ได้แล้ว”
“เพราะยังไงเรือของเราก็ไม่มีวันจมอยู่แล้ว”
“ดังนั้นลองไปขับเล่นดูได้เลย”
“อ๊ะ ง่ายกว่าที่คิดอีกนะคะเนี่ย!”
“ฉันคิดว่าฉันเองก็น่าจะทำได้ค่ะ”
“นี่แค่พื้นฐาน”
“ยังมีอีกหลายอย่างเลยที่ต้องเรียนรู้”
“เช่น การจอดเรือหรือการพยากรณ์สภาพอากาศ”
“เอาล่ะ ไหนๆ ก็ ไหนๆ แล้ว”
“พวกเธอก็ลองผลัดกันบังคับเรือตอนกลางวันดูสิ”
ผมสอนพวกเธอได้แค่นี้ล่ะ เพราะที่นี่มันคือต่างโลก
ผมไม่เคยสอบหรือมีใบอนุญาตอะไรเกี่ยวกับการขับเรือเลย
แล้วอีกอย่าง จริงๆ แล้วผมเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องเรือมากเท่าไหร่นักหรอก…
ว่าแต่โลกนี้เขาจะมีสอบ วิชาที่เกี่ยวกับการเดินเรือไหมนะ?
“ค่ะ”
ไอเนสเริ่มลองบังคับเรือในทันที
เธอผลักคันโยกไปจนสุด แล้วลองหมุนพวงมาลัยซ้ายขวาเพื่อดูผลลัพธ์
“วู้ฮู้ สนุกจังเลยค่ะ”
“การได้บังคับเรือด้วยตัวเอง เนี่ย!”
“รู้สึกได้ถึงความเร็าเลยล่ะ ฮ่า ฮ่า”
หลังจากนั้นไม่นาน เฟลิเซียก็อดใจไม่ไหว เลยขอผลัดกันบังคับบ้าง
“ไอเนส ถึงตาฉันแล้วค่ะ ขอฉันลองบ้าง”
“อ๊ะ ได้สิ”
“ขอโทษทีน้า…ที่ฉันสนุกมากเกินไปหน่อย”
“นายท่าน มันสนุกมากเลยค่ะ”
“แต่ฉันอยากลองบังคับในที่ที่มันมีอุปสรรคเยอะกว่านี้น่ะคะ”
“ไม่ใช่ในทะเลที่เปิดโล่งขนาดนี้”
“ฮ่าฮ่า ถ้ามีโอกาสน่ะนะ ถ้ามีโอกาส…”
“อุฟุฟุ สัญญาแล้วนะคะ”
ผมกลัวที่จะให้ไอเนสขับตอนที่มีอุปสรรคเยอะๆ จังเลย
มันอาจจะเร็วเกินไป เพราะเธออาจจะเร่งเต็มที่แล้วชนเข้ากับอะไรสักอย่างก็ได้
เฟลิเซียดูจะปลอดภัยกว่า ไอเนสเยอะ…
เพราะเธอลองปรับความเร็วไปทีละขั้นและก็บังคับพวงมาลัยอย่างนุ่มนวล
เธอลองตรวจสอบทุกอย่างที่เรือทำได้
“นายท่าน มันสนุกมากเลยค่ะ”
“การได้บังคับเรือเองแบบนี้ มันทำให้รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับเรือมากขึ้นกว่าการอยู่นั่งเฉยๆ”
จากนั้นเฟลิเซียก็ลองแล่นเรือด้วยความเร็วสูงสุด
เธอดูไม่เหมือนคนที่ชอบความเร็วเท่าไหร่ นั่นจึงทำให้ผมรู้สึกโล่งใจ
“ดีใจที่พวกเธอสนุกกันนะ”
“จะลองฝึกเพิ่มก็ได้ ถ้าพวกเธออยากทำ”
“ค่ะ”
“อุฟุฟุ ฉันสงสัยจังว่าถ้าเกิดเจอเข้ากับมอนสเตอร์ทะเล”
“แล้วพวกเราขับเรือไล่ตามพวกมันไป จะเป็นยังไงกันน้า…”
“แค่คิดก็ น่าสนุกแล้ว…”
“ไอเนส อย่าพูดอะไรแปลกๆ สิ”
“แต่ เฟลิเซีย บางครั้งเราอาจต้องหนีจากมอนสเตอร์หรือเรือของศัตรูนะ”
“ฉันว่าการฝึกอะไรแบบนี้ไว้ ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดีนะ”
“…ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะมีเรือศัตรูลำไหน ที่จะสามารถไล่ตาม ลูโตะ ทัน”
“ยิ่งเรื่องมอนสเตอร์ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย…”
“นายท่านล่ะคะ คิดว่ายังไง?”
“อืม ผมก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเหมือนกัน และก็ไม่อยากให้เกิดด้วย”
“แต่…พอพูดถึงเรือของศัตรูแล้ว…”
“โลกนี้ มีโจรสลัดไหม?”
“ฉันเคยได้ยินมาว่าโจรสลัดมักจะอยู่ตามเส้นทางเดินเรือที่มันปลอดภัย”
“นอกจากนี้ ยังได้ยินมาว่าบางครั้งเรือทหารจากประเทศที่เป็นเผด็จการ ก็ออกปล้นสะดมในทะเลเหมือนกัน”
“แต่ถ้าเราอยู่ในทะเลเปิด เราก็แทบจะไม่เจอพวกนั้นเลยค่ะ”
“อืม…ทะเลเปิดอันตราย เพราะมีมอนสเตอร์ทะเลอยู่มาก”
“เลยไม่ค่อยมีเรือผ่านเส้นพวกนี้ เลยทำให้เราไม่พบกับโจรสลัด”
“แต่ถ้าเราใช้เส้นทางที่มันปลอดภัยกว่านี้ ก็อาจมีโอกาสพบพวกมัน”
“แล้วถ้าเราขนคนไปด้วยและไม่อยากให้พวกเขาเห็นความสามารถของ ลูโตะ”
“ถ้าโดนโจรสลัดโจมตี เราก็ต้องหนี…”
“แต่…ผมไม่คิดว่าเราจะเจอสถานการณ์แบบนั้นนะหรอกนะ”
“แต่ นายท่าน”
“ถ้ามีสถานการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นจากคำขอของกิลด์การค้าล่ะคะ?”
“โดยเฉพาะ ถ้านั่นเป็นคำขอจากคามิลล์ซัง”
“นายท่าน คิดว่าจะปฏิเสธคำขอของเธอได้จริงๆ เหรอคะ?”
“ดังนั้นแล้วนายท่าน”
“พวกเราต้องฝึกฝนสิ่งเหล่านี้ไว้ค่ะ”
“อืม พอพูดแบบนี้แล้ว”
“ผมก็คิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้นะ…”
“เอาล่ะ ฝึกไว้ก็ไม่เสียหาย ตราบใดที่ไม่ทำอะไรที่มันเสี่ยงเกินไป”
“เย้ ขอบคุณค่ะ นายท่าน”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ดูไอเนสจะดีใจมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า ชักรู้สึกไม่สบายใจนิดๆ แล้วสิ…
“ฉันจะเริ่มฝึกทันทีเลยค่ะ”
“…ริมุ…ด้วย…”
“เอ๊ะ? ริมุ เมื่อกี้ว่าจะทำอะไรนะ?”
“…นี่…”
ริมุกำลังกระเด้งไปมาบนพวงมาลัย…
เอ๊ะ? ริมุอยากลองขับเรือเหรอ?
“อืม ผมคิดว่ามันยากเกินไปสำหรับริมุนะ”
“…ทำด้วย…”
ถ้าริมุอยากทำ งั้นหน้าที่ของผมก็คือทำให้มันเป็นจริง
“ริมุรับหน้าบังคับพวงมาลัยนะ ส่วนผมจะจัดการคันโยกเอง”
“…อืม…”
“เอ๊ะ นายท่าน? เกิดอะไรขึ้นคะ?”
“ริมุอยากลองขับเรือดูน่ะ และหน้าที่ของผมคือทำให้มันเกิดขึ้น”
“ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ… แต่ริมุจัง จะขับเรือได้จริงๆ เหรอคะ?”
“เฟลิเซีย ยอมเถอะ”
“โชคดีที่เรือลำนี้ ไม่มีวันจม”
“และถ้าเราสนุกกันอยู่ฝ่ายเดียว ริมุจังก็น่าสงสารแย่”
“อืม ก็จริงค่ะ… แต่มันจะโอเคจริงๆ เหรอ?”
ขอโทษนะ เฟลิเซีย ดูเหมือนเธอจะกังวลมาก
แต่ผมเตรียมใจที่จะทำทุกอย่างไว้แล้ว ถ้านั่นเป็นสิ่งที่ริมุอยากทำ
“โอเค ริมุทำได้ดีมาก!”
“คราวนี้ลองไปทางนั้นกันไหม?”
“ใช่ ริมุเก่งมาก ลองเพิ่มความเร็วอีกนิดไหม…”
“ริมุจังทำได้ดีมากเลยนะคะ นายท่าน”
“เขาหมุนพวงมาลัยได้ยังไงกัน?”
“อืม ฉันก็สงสัยเหมือนกัน”
นี่กลายเป็นกิจวัตรใหม่ของผมไปแล้ว
เรือที่จู่ๆ ก็เร่งความเร็วขึ้นตอนที่ผมกำลังนอนเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่น
ตัวของผมโยกไปโยกมา มันช่างกระตุ้นประสาทดีแท้…
การโจมตีของมอนสเตอร์ที่เคยเป็นวิธีฆ่าเวลา
ตอนนี้กลายเป็นสิ่งที่ไอเนสรอคอยอย่างใจจดใจจ่อไปซะแล้ว หลังจากที่เธอเรียนรู้วิธีขับเรือ
เฟลิเซียเองก็สนุกกับการขับเรือเหมือนกัน และมักไปร่วมสนุกกับไอเนส
ไอเนสบอกว่าการไล่ล่ามอนสเตอร์ที่พยายามหนีมันไม่สนุก
เธอไม่พอใจมากเวลามอนสเตอร์ดำลงไปในน้ำแล้วหนี
เธอจะสนุกมากๆ เวลาที่มีมอนสเตอร์มาไล่ล่าพวกเรา
เมื่อไม่นานมานี้ แทนที่จะเร่งหนีให้เร็วที่สุด
พวกเราจะเล่นเกมกัน โดยการพยายามเข้าไปใกล้มอนสเตอร์ให้ได้มากที่สุด โดยที่ไม่สัมผัสมัน
ใครที่พลาดโดนมอนสเตอร์แตะก่อน จะถือว่าแพ้ไป
และต้องยืนเฝ้าจนกว่าจะมีมอนสเตอร์ตัวใหม่มาโจมตี
ครั้งหนึ่ง ไอเนสอยากเล่นเกมหลบหนีในทะเลตอนกลางคืน
ผมก็อนุญาตเธอ และทั้งคืนก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน ของไอเนส
ผมเลยได้หยอกล้อกับเฟลิเซียสองต่อสองแล้วจากนั้นก็เข้านอน
….อืม ผมนอนไม่ไหลับผมเป็นห่วงไอเนสมากๆ เลย
ผมกลัวว่าเธอจะไปทำอะไรแปลกๆ เข้า จนต้องไปสั่งห้ามไม่ให้เธอเล่นอะไรแบบนี้อีก
แต่สุดท้ายผมก็พ่ายแพ้…
หลังจากโดนขอร้องซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง ว่าให้ยกเลิกคำสั่งห้าม
ในที่สุดผมก็ต้องยกเลิกคำสั่งไป ผมนี่มันอ่อนแอจริงๆ…
“นายท่าน ฉันคิดว่ามอนสเตอร์เริ่มหมดแรงแล้วนะคะ”
“งั้นเรามาจัดการมันเลยดีกว่า เตรียมตัวนะคะ”
“โอเค ริมุ ไปกันเถอะ”
หลังจากไล่ตามจนหมดแรง มอนสเตอร์ก็จะถูกกำจัดด้วยเวทมนตร์ในที่สุด
ผมรู้สึกสงสารมอนสเตอร์ทะเลพวกนี้จริงๆ
แต่ดูเหมือนจะมีแค่ผมที่รู้สึกแบบนี้ เพราะทั้งสองคนดูสนุกกับการร่ายเวทย์โจมตีใส่พวกมันมาก
ผมเก็บหินเวทมนตร์จากมอนสเตอร์ที่ถูกกำจัด จากนั้นก็นำพวกมันไปเก็บไว้ในเรือคลัง
“อุฟุฟุ…ฉลามจอมตะกละเนี่ย ยอมแพ้กันไม่เป็นจริงๆ เลย”
“ช่างน่าชื่นชม”
“ใช่ พวกมันล่าสนุกมากเลย แต่ก็ไม่เท่าซีเซอร์เพน”
“อุฟุฟุ ใช่ โดยเฉพาะลมหายใจของมัน…ที่น่าทึ่งมากๆ”
“ทำเอาฉันตื่นเต้นเลย…”
“ใช่ๆ ความตื่นเต้นจากการหลบลมหายใจในวินาทีสุดท้าย และความหงุดหงิดเมื่อโดนโจมตี”
“มันช่างเป็นความรู้สีกที่ยากจะห้ามใจจริงๆ ฉันอยากให้พวกมันโจมตีเราบ่อยๆ จัง”
“นั่นสิ ฉันสงสัยจังว่าจะมีรังของซีเซอร์เพนอยู่แถวๆ นี้บ้างไหม…?”
“คงจะสนุกน่าดู ถ้าเจอรังของพวกมัน”
“พวกมันจะต้องพุ่งเข้ามาโจมตีจากทุกทิศทางแน่ๆ”
“จากนั้น ลมหายใจก็จะปลิวว่อนไปทั่ว”
“แต่ถ้าทักษะของเรายังไม่ดีพอ ก็อาจจะแพ้ได้ในพริบตาเลยนะ”
“ก็จริง ลองมาจำกัดความเร็วในการหลบหนีดูมั้ย ? อาจเป็นการฝึกที่ดี”
“การฝึกบังคับเรือและประเมินสถานการณ์ก็ดูเป็นความคิดที่ดีเหมือนกันot”
“งั้นมาลองดูกันเถอะ อุฟุฟุ ฉันสงสัยจังว่าพวกมันจะโจมตีเราเร็วๆ นี้ไหมนะ”
“แทบจะรอไม่ไหวแล้ว”
ผมไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน…แม้แต่เฟลิเซีย
ไอเนสนี่ไม่ต้องพูดถึง…นี่มันยังกับพวกเธอกำลังคุยกับเรื่องการเลือกเครื่องประดับงั้นล่ะ
ประมาณว่า “ฉันชอบอันนี้ แล้วเธอล่ะชอบอันไหน หรือ เธอคิดว่าอันไหนน่าจะดีกว่ากัน?”
พวกเธอพูดถึงมอนสเตอร์ทะเลด้วยท่าทางแบบนั้นล่ะ…
เฟลิเซียทำหน้าที่ได้ดี เพราะงั้นเธอจะไปเล่นสนุกนิดหน่อยผมก็ไม่ได้ว่าอะไร…
แต่เมื่อเธอได้รับอนุญาตแล้ว เธอก็จะบ้าบิ่นได้พอๆ กับไอเนสเลย
รังของซีเซอร์เพนงั้นเหรอ? ถ้าพวกเธอเจอมันเข้าจริงๆ ล่ะก็…
ผมหวังว่าพวกเธอจะหามันไม่เจอนะ…
เพราะผมไม่กล้าเข้าไปห้ามพวกเธอตอนที่พวกเธอกำลังสนุกกัน
ผมคิดว่ามันน่าจะเกิดจากความเครียด… ผมควรให้พวกเธอหยุดพักบ้างดีมั้ยนะ…
แต่ผมออกไปไหนมาไหน ไม่ได้ถ้าไม่มีคนคุ้มกัน
แต่ผมสามารถอยู่ในเรือได้สักวันสามวัน
ดังนั้นเมื่อเรากลับไปที่เมืองทางใต้ ผมจะให้พวกเธอหยุดพัก
เรามาถึงกอเทนเบิร์ก หลังจากที่สลับกันไปมาระหว่างช่วงเวลาแห่งความสงบสุขและช่วงเวลาแห่งความวุ่นวาย
ที่เกิดจากฉากหลบหนีสุดมันส์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
สถานการณ์ทางการเมืองของที่นี่ก็ยังคงดูไม่มั่นคงเช่นเดิม
ดังนั้นเราจึงลงจากเรือจากจุดที่ห่างไกลโดยใช้เรือแบบญี่ปุ่น
“คราวนี้เราใช้เวลา 10 วันก็มาถึง ซึ่งถือว่าดีกว่าครั้งที่แล้วมาก”
“เพราะระบบออโต้ มันช่วยให้เราลดเวลาเดินทางลงได้ถึง 15 วัน”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเกม พวกเราคงมาถึงเร็วกว่านี้อีกค่ะ”
“ระบบออโต้ สุดยอดไปเลยค่ะนายท่าน”
“ใช่ๆ ความสามารถของนายท่านยอดเยี่ยมมากเลย”
“ไอเนส ถ้าเธอรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ก็เพลาๆ ลงบ้างนะ…”
“เฮ้ ไอเนส มองมาทางนี้สิ”
“เอ๊ะ ค่ะ…”
“เห้อ…ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พวกเธอบังคับเรือได้เก่งกันแล้ว”
“เอาล่ะ มาจริงจังกันหน่อย”
“เมื่อพวกเราไปถึงเมือง…”
“ถ้าความปลอดภัยภายในมันดูแย่ลงมากๆ พวกเราจะถอนตัวทันทีเข้าใจนะ…”
“ดังนั้นฝากเรื่องการคุ้มกันด้วย”
“ค่ะ”
“อ้อ แล้วก็ ริมุ อย่าลืมไปซ่อนตัวอยู่ในกระเป๋าล่ะ”
“ไม่ใช่บนหัวของผม”
“…โอเค…”
MANGA DISCUSSION