สองวันหลังจากออกจากเกาะ
เราก็มาถึงชายหาดใกล้ๆ กับหมู่บ้านของดาร์กเอลฟ์
ระหว่างทางก็มีสู้กับมอนสเตอร์ทะเลบ้างเป็นบ้างครั้ง
“หืม? ไม้พวกนั้นคืออะไรน่ะ”
“พวกเขาเริ่มขนย้ายกันแล้วเหรอ? ทำงานไวกันจริงๆ”
“อุฟุฟุ จริงด้วยค่ะ”
“ดูเหมือนทุกคนจะตื่นเต้นกับการย้ายถิ่นฐานกันนะคะ”
“ต้องขอขอบคุณจริงๆ นะคะ นายท่าน”
“ผมก็บอกไปหลายรอบแล้วไง ว่านี่มันอยู่ในเงื่อนไขสัญญาของเรา”
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ เฟลิเซีย”
“เอาล่ะ ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ”
เมื่อเรามาถึงหมู่บ้าน ทุกคนกำลังยุ่งกับการทำงาน
พวกเราทักทายพวกเขาแล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน
“สวัสดีครับ คุณหัวหน้าหมู่บ้าน ดูเหมือนจะกำลังยุ่งมากเลยนะครับ”
“ทุกอย่างราบรื่นดีหรือเปล่า?”
“อ้อ สวัสดี วาตารุซัง ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ตามที่ตกลงกันในที่ประชุมครับ”
“ตอนนี้มี 17 คน ที่เตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับการย้ายถิ่นฐาน”
“ชาวบ้านทุกคนกำลังช่วยกันรื้อถอนบ้านและขนย้ายไปที่ชายหาดครับ”
“อย่างนี้นี่เอง แล้วพวกเราจะเริ่มออกเดินทางได้ตอนไหนครับ?”
“งานที่ต้องใช้คนจำนวนมากจะเสร็จภายในวันพรุ่งนี้”
“หลังจากนั้นงานที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของคนที่อยู่ต่อ”
“ดังนั้นพวกคุณสามารถออกเดินทางได้ในวันมะรืนนี้ครับ”
“เร็วกว่าที่คิด ขอบคุณครับ งั้นผมจะเตรียมตัวสำหรับการออกเดินทางในวันมะรืนนี้นะครับ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ”
หลังจากคุยกันเสร็จ หัวหน้าหมู่บ้านก็กลับไปทำงานต่อ
ส่วนผมก็ปล่อยให้เฟลิเซียไปช่วยแม่ของเธอ ขณะที่ผมกับไอเนสคุยกันและเล่นกับริมุ
“อืม เรามีเวลาเหลืออีกเยอะเลย เราจะทำอะไรกันดีก่อนจะถึงวันมะรืน”
“เราค่อยไปช่วยพวกเขาดีไหม?”
“เราเป็นคนนอกค่ะ อีกอย่างเราเหมือนเป็นผู้มีพระคุณของหมู่บ้านนี้”
“ถ้าเราไปช่วย อาจทำให้พวกเขารู้สึกกังวลใจได้ค่ะ”
“อ้อ ก็จริง ขอโทษ”
“งั้นเราก็มาพักผ่อนจนกว่าจะเดินทางแล้วกัน”
“ค่ะ ทำแบบนั้นกันเถอะ”
ตามที่พูดไว้ ผมเล่นกับริมุ คุยกับไอเนส และพักผ่อนจนถึงวันที่เราออกเดินทาง
“เห็นว่ามากันครบทั้ง 17 คนแล้ว คุณหัวหน้าหมู่บ้าน ทุกคนพร้อมออกเดินทางแล้วหรือยังครับ?”
“ครับ ผมได้บอกพวกเขาให้ทำตามคำสั่งของวาตารุซังแล้วครับ พวกเขาจะเป็นกำลังให้คุณ”
“เข้าใจแล้วครับ งั้นก็ไปกันเถอะ”
เรามุ่งหน้าไปที่เรือ โดยไม่มีพวกก็อบลินเข้ามาวุ่นวายเลย
คงเป็นเพราะเรามากันเยอะ เมื่อมาถึงเรือ เราก็เริ่มมัดเชือกกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่เตรียมมาเพื่อใช้สร้างรั้ว
“จะออกเดินทางแล้วนะครับทุกคน 2 วันนี้อาจจะคับแคบหน่อย ขอให้อดทนกันหน่อยนะครับ”
“ค่ะ/ครับ”
ในเรือที่มีคนรวม 20 คน มองไปทางไหนก็เจอแต่คน
โดยเฉพาะเด็กๆ 3 คนที่ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ
หมู่บ้านดาร์กเอลฟ์มีเด็กทั้งหมด 6 คน พวกเขาแบ่งกันมาทีละครึ่ง
แม้ผู้ใหญ่จะดุเด็กๆ ที่วิ่งเล่น แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนั่ง
มื้ออาหารแต่ละมื้อวุ่นวายไปหมด และทั้งผู้ใหญ่และเด็กต่างก็แตกตื่นกันเมื่อมีมอนสเตอร์ทะเลเข้ามาโจมตี
แม้เราจะพยายามปลอบใจว่าทุกคนจะปลอดภัย แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย
เราผ่านการเดินเรือที่แสนยากลำบากมาและในที่สุดก็มาถึงที่เกาะ
เหล่าดาร์กเอลฟ์ส่งเสียงโห่ร้องออกมาเมื่อเห็นเกาะ
เกาะนี้ดูดีกว่าที่พวกเขาคิดไว้ ทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความยินดี
บาร์นาบัสและบรูโน่ที่ดูเหมือนจะได้ยินเสียงก็รีบวิ่งมาหาเรา
“ทุกคน ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยากนะครับ”
“ เรามาถึงเกาะกันอย่างปลอดภัยแล้ว ช่วยเอาสัมภาระลงจากเรือและเช็คว่าไม่ได้ลืมอะไรนะครับ”
ผมมองดูเหล่าดาร์กเอลฟ์ที่กำลังลงจากเรืออย่างตื่นเต้นและเปี่ยมไปด้วยความสุข
มันคุ้มค่าแล้วกับความพยายาม แต่ผมยังต้องทำแบบนี้อีกครั้งหนึ่ง คงจะเหนื่อยน่าดู
“ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยากนะครับ วาตารุซัง”
“บาร์นาบัสซัง คุณกับบรูโน่ซังไม่มีปัญหาอะไรระหว่างที่อยู่ที่นี้ใช่ไหมครับ?”
“ครับ ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ”
“ดีแล้วครับที่ไม่มีปัญหา งั้นช่วยแนะนำคนอื่นๆ ด้วยนะครับ”
“แล้วผมก็อยากให้ทุกคนไปช่วยกันขนท่อนไม้ที่ผูกไว้ท้ายเรือด้วย”
“ครับ”
“ทุกคนครับ มีเต็นท์อยู่บนยอดเขานั่นนะครับ”
“เราจะย้ายกันไปที่นั่น ใครที่แข็งแรงก็ไปช่วยกันขนท่อนไม้ด้วยนะครับ”
“โอ้!”
ผู้หญิงและเด็กๆ เริ่มเดินขึ้นไปบนยอดเขาพร้อมกับสัมภาระ
ส่วนพวกผู้ชายดูเหมือนจะไปช่วยกันลากท่อนไม้ที่ผูกมากับเรือขึ้นฝั่ง แล้วค่อยๆ ขนกันไปทีละท่อน
“ขอบคุณทั้ง 2 คนมากนะครับ อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว”
“ครับ”
เฮ้อ ดูเหมือนพวกเราจะโลภเกินไปหน่อยนะ
เล่นขนไม้มาเยอะจนแทบจะขนไปไม่ไหว ไม่รู้ต้องเดินอีกกี่รอบ
ในที่สุดเราก็จัดการขนท่อนไม้ทั้งหมดเสร็จก่อนพระอาทิตย์ตก
ระหว่างนั้นเราก็พักกันเป็นระยะๆ
บนยอดเขามีเต็นท์หลายหลังตั้งเรียงรายอยู่ พวกเขากำลังเตรียมมื้อเย็น
“อืม ถ้าเราย้ายคนที่เหลือกับของที่ยังไม่ได้ขนมาอีกสักรอบ ก็น่าจะเสร็จแล้ว?”
“อุฟุฟุ ฉันคิดว่าทุกคนคงสามารถสร้างหมู่บ้านจากศูนย์ได้ค่ะ
เพราะที่นี่มีวัสดุแล้วก็อาหารที่เพียงพอ”
“ใช่ค่ะ ทุกคนดูจะทำงานกันอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยความหวัง ฉันคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
“นั่นสินะ วันนี้เราก็เหนื่อยกันมากแล้ว หลังมื้อเย็นเราก็ไปอาบน้ำบนเรือแล้วนอนที่นั่นเถอะ”
“อุฟุฟุ ฉันไม่ได้อาบน้ำมานานแล้ว ตื่นเต้นจังเลยค่ะ”
“5 วันแล้วสินะ ฉันก็อย่างอาบเหมือนกัน”
หลังมื้อเย็น เรากลับไปที่เรือและบอกพวกเขาว่าพรุ่งนี้เช้าเราจะออกเดินทาง
พวกเขาบอกว่าจะเริ่มสร้างรั้วกันในวันพรุ่งนี้ จากนั้นพวกเราก็เราแยกย้ายกัน
ผมกลับมาที่เรือและเตรียมตัวอาบน้ำ
“คืนนี้เราจะอาบน้ำโดยไม่เปิดไฟนะครับ เพราะพวกเขาบนอาจมองเห็นเราได้จากบนยอดเขา”
“อุฟุฟุ…อาบน้ำในความมืดเหรอ…น่าสนุก”
“ตกลงค่ะ แต่ระวังด้วยนะคะ มันอันตราย”
เฮ้อ การอาบน้ำหลังทำงานหนักช่างมีความสุขจริง
รู้สึกเหมือนตัวกำลังจะละลายเลย
มันมืด แต่ก็สัมผัสได้ถึงความใกล้ชิด ถ้ามองเห็นก็คงจะสนุกกว่านี้
“ริมุ ระวังหน่อยนะ มันมืด”
“…อืม…”
“เฮ้อ ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงดาว ช่างสวยงามจริงๆ”
“ตั้งแต่เริ่มเข้านอนแต่หัวค่ำ ผมก็ไม่เห็นท้องฟ้าสวยๆ แบบนี้เลย”
“จริงค่ะ ฉันไม่ค่อยออกมาข้างนอกตอนกลางคืนเหมือนกัน เลยไม่เคยเห็นวิวแบบนี้มาก่อน”
“อุฟุฟุ ตอนที่ฉันยังเป็นนักผจญภัย ฉันเคยเห็นมันตอนตั้งแคมป์บ้าง”
“แต่การได้เห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแบบนี้ตอนอาบน้ำ นี่มันสุดยอดยิ่งกว่า”
การอาบน้ำอย่างสบายใจเป็นสิ่งที่ดีงามจริงๆ บางทีนี่อาจเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกผ่อนคลายขนาดนี้
หลังจากการอาบน้ำที่ยาวนานกว่าปกติ เราก็กลับไปที่ห้องและจบลงด้วยการหยอกล้อก่อนที่จะหลับไป
สองวันผ่านไป ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
ผมฝึกฝน เล่นกับริมุ หยอกล้อ นอนและสู้กับมอนสเตอร์ทะเล
เรามาถึงที่ชายหาดใกล้หมู่บ้านดาร์กเอลฟ์ พอเสร็จจากกิจวัตรยามเช้า
ผมก็ออกไปข้างนอกแล้วก็พบกับกองไม้ขนาดใหญ่
“ไม้เยอะขนาดนี้…หมู่บ้านคงถูกรื้อจนเสร็จแล้ว ใช่ไหม?”
“นี่มันแค่ห้าวันเองนะ”
“จริงด้วยค่ะ… อ๊ะ นั่นพ่อของฉันนี่”
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
ผมจอดเรือไว้ใกล้ๆ ฝั่งแล้วเดินไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน
“คุณหัวหน้าหมู่บ้าน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าครับ?”
“อรุณสวัสดิ์ครับ วาตารุซัง ไม่มีอะไรผิดปกติหรอกครับ”
“เราเพิ่งจะรื้อหมู่บ้านเสร็จเลยคิดว่ารออยู่ที่นี่น่าจะสะดวกกว่า”
“เข้าใจแล้วครับ วิธีสะดวกกว่าแน่นอนครับ”
“ก่อนอื่น เรามามัดไม้กับเรือกันก่อนเลยนะครับ”
“ทุกคนได้ยินแล้วไหม ลอยไม้ลงทะเลแล้วมัดเชือกไว้กับเรือ”
“โอ้”
“ผมแปลกใจนะเนี่ย ที่พวกคุณทำได้เร็วขนาดนี้”
“เรารื้อโครงสร้างใหญ่ๆ ออกไปแล้วตั้งแต่ก่อนวาตารุซังออกเดินทาง”
“ที่เหลือก็มีแต่ของเล็กๆ อีกอย่างทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ด้วยครับ”
“ชาวบ้านที่อยู่บนเกาะบอกว่าจะเริ่มสร้างรั้วกันแล้ว”
“ถ้าทุกคนไปช่วยกัน หมู่บ้านก็คงจะเสร็จในเร็วๆ แน่”
“ครับ พวกเราจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อให้เป็นแบบนั้น”
เราพึ่งมัดไม้ไปได้ประมันครึ่งเดี่ยว ส่วยอีกครึ่งจะขนมาครั้งต่อไป
“ทุกคนครับ เอาสัมภาระไปขึ้นเรือได้เลยนะครับ”
ขณะที่ผมมองทุกคนทยอยขึ้นเรือ ผมก็เจออะไรบางอย่างแปลกๆ
หือ…! คน! ถูกมัด! ด้วยเชือก! หา…อะไรล่ะนั่น!?
เอ๊ะ นั่นมันคนที่จ้องผมตอนที่มาถึงหมู่บ้านครั้งแรกนี่นา เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แย่ล่ะ สบตากันซะแล้ว คนที่ถูกมัดก็เริ่มดิ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนเขาอยากจะฆ่าผมเลย สัมผัสได้ถึงความเป็นศัตรู
“เอ่อ…คุณหัวหน้าหมู่บ้านครับ นั่น…?”
“…ไม่ต้องไปสนใจครับ เราจะอบรมเขาใหม่ทีหลัง”
“อ้อ เข้าใจแล้วครับ”
หัวหน้าหมู่บ้านดูจะรู้สึกอายๆ แฮะ
โอ้ ใช่ คนที่เขาเคยบอกว่าไม่เห็นด้วยหรือเปล่า?
จะพาคนแบบนั้นมาด้วยทำไมเนี่ย? แต่ช่างเถอะ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปแล้วกัน
“งั้นจะออกเดินทางแล้วนะครับ ระหว่างทางอาจมีมอนสเตอร์ทะเลโจมตีเข้ามา”
“แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เราเคยรับมือกับมันมาแล้ว”
“ถ้าถูกโจมตี ขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนก ทำตัวให้สงบเข้าไว้นะครับ”
“ครับ/ค่ะ”
บนเรือที่เต็มไปด้วยเสียงดัง เมื่อมอนสเตอร์โจมตีเข้ามา
แม้พวกเขาตกใจ แต่ก็ไม่ถึงขั้นตื่นตระหนกเหมือนครั้งก่อน
อาจเพราะคำแนะนำก่อนออกเรือ หรือเพราะพวกเขาเชื่อใจหัวหน้าหมู่บ้าน
คนที่ถูกมัดนั้นถูกปล่อยให้นอนกลิ้งอยู่บนดาดฟ้าด้านหลังเรืออยู่เป็นเวลาสองวัน…หวังว่าเขาจะไม่เป็นอะไรนะ
เมื่อเรามาถึงเกาะ เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นอีกครั้งเหมือนกับครั้งแรก
กลุ่มแรกที่อยู่บนยอดเขาเมื่อได้ยินเสียงก็รีบลงมาหา ชาวบ้านต่างพากันดีใจยกใหญ่
เด็กๆ วิ่งไปบนยอดเขาอย่างร่าเริง โอ้ มีผู้ใหญ่วิ่งตามไปด้วย
ดูเหมือนจะโกรธนิดหน่อย เด็กๆ คงโดนดุแน่ๆ
“เหนื่อยกันหน่อยนะครับ ที่เหลือก็แค่ขนไม้นั่นขึ้นไป”
“ครับ งั้นเราก็มาขนไม้กันเถอะ”
การขนย้ายดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ดูเหมือนว่ากลุ่มที่มารอบนี้จะแข็งแกร่งมากกว่ากลุ่มแรก พอขึ้นมาถึงยอดเขา
รั้วก็ถูกสร้างไปครึ่งหนึ่งแล้ว ดูเหมือนหมู่บ้านจะพร้อมในเวลาอีกไม่นาน
ไม้ถูกกองเรียงกันไว้อย่างดี พวกเขาดูจะไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไร
และดูเหมือนการอยู่ที่นี่จะเป็นการรบกวนพวกเขา แล้วเราควรทำอะไรต่อไปดี?
“ยังไม่เที่ยงเลย กลับไปขนไม้อีกรอบกันดีไหม?”
“นายท่าน จะไม่พักบ้างเหรอคะ?”
“อย่าหักโหมเกินไปเลยนะคะ”
“เฟลิเซีย เธอน่ะเข้าใจผิดแล้วล่ะ”
“ฉันเข้าใจผิดอะไรเหรอคะ?”
“จริงๆ ผมอยากกลับไปพักที่เรือน่ะ ลูโตะ น่ะสบายกว่าที่นี่มาก”
“อ้อ จริงด้วยค่ะ ฉันลืมไปซะสนิทเลย”
“ใช่แล้วล่ะ ถ้าไม่มีคนเยอะๆ เหมือนก่อนหน้านี้”
“บนเรือน่ะ สบายกว่าอยู่แล้ว”
“…ริมุ… ก็ด้วย…”
“อ้อ จริงสิ ริมุก็อยู่ด้วย ฉันไม่ได้ลืมริมุหรอกนะ”
“…ลืม…ไม่ดี…”
“ฉันไม่ได้ลืมจริงๆ นะ”
“แต่เพื่อเป็นการไถ่โทษ วันนี้เรามาสนุกกันให้เต็มที่เลย”
“…จริงเหรอ…?”
“ใช่ เราจะอาบน้ำด้วยกันแล้วก็เล้นกันให้เยอะๆ เลย”
“…ริมุ…ชอบ…อาบน้ำ…”
“ใช่ มันจะต้องเป็นการอาบน้ำที่สนุกแน่ๆ เราจะเล่นกันเยอะๆ เลยน้า…”
“เอาล่ะ งั้นเรากลับไปที่เรือกันดีไหม? ไอเนสล่ะ ว่าไง?”
“ไม่มีปัญหาค่ะ กลับกันเถอะ”
ผมบอกหัวหน้าหมู่บ้านว่าจะกลับไปขนไม้ที่เหลืออีก
หัวหน้าดูเป็นห่วงผม แต่ผมไม่สามารถบอกได้ว่าผมจะสบายใจกว่าตอนที่อยู่บนเรือ
ผมแค่บอกเข้าไปว่าผมไม่เป็นไร แล้วก็กลับไปที่เรือ
“ผมคิดว่ารอบนี้เราน่าจะขนไม้มาได้ทั้งหมด”
“แต่…พอเสร็จแล้ว เราจะทำอะไรกันดี?”
“มีอะไรที่พวกเราจะช่วยพวกเขาได้อีกไหม?”
“อืม บางทีเราควรไปหาของใช่ที่จำเป็น ให้พวกเขาดีไหม?”
“ตามที่พ่อฉันบอก วัสดุและเสบียงดูเหมือนจะมีเพียงพอแล้วค่ะ”
“ดังนั้น พอขนไม้เสร็จ ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะจัดการต่อเองได้ไปอีกสักพักเลยค่ะ”
“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้น เราไปทำการค้าพริกไทยต่อกันดีมั้ย?”
“ผมยังมีเงินไม่พอที่จะซื้อเรือสำราญเลย ต้องไปหาเงินเพิ่ม”
“จริง ฉันก็อยากได้เรือสำราญเร็วๆ เหมือนกัน”
“แต่คงต้องใช้เวลาอีกซักพัก เพราะเราขายพริกไทยได้ในแต่ละครั้งมีจำนวนจำกัด”
“แล้วไหนจะต้องทยอยเก็บเหรียญแพลทินัมทีละนิดๆ อีก”
“ใช่ การเปลี่ยนพริกไทยเป็นเงินมันต้องใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะ”
“เราต้องหาวิธีหาเงินแบบอื่นบ้างแล้วล่ะ”
“แต่นายท่านคะ มันยากมากเลยนะคะ ที่จะมีวิธีที่ได้กำไรมากกว่าการค้าพริกไทย”
“อืม ก็จริง ไม่มีงานง่ายๆ แล้วทำเงินได้ดีๆ อยู่เลยเหรอ…”
“งั้นเราก็คงต้องค่อยๆ ทำการค้าพริกไทยไปเรื่อยๆ”
“อุฟุฟุ การค้าพริกไทยก็เป็นงานที่อันตรายนะคะ”
“ปกติคนส่วนใหญ่มักเสียชีวิตไปกับการทำธุรกิจนี้”
“พอพูดแบบนั้น ผมก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีแล้วล่ะที่มีเรือแบบนี้”
“เพราะปกติ มีเรือแค่ 1 ใน 30 ลำเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการค้าพริกไทย”
ผมคิดว่าผมเริ่มชินกับพลังของสกิลอัญเชิญเรือแล้ว และบางทีก็อาจเผลอเหลิงเกินไปหน่อบ
ถ้าคนอย่างผม ประมาทหรือเหลิงมากจนเกินไป ก็มีโอกาสที่จะล้มเหลวได้…
ฉะนั้น ผมต้องมีสติและพยายามอย่างเต็มที่ต่อไป
MANGA DISCUSSION