เป็นเวลาห้าวันแล้วนับตั้งแต่ผมซื้อพริกไทยจากกิลด์การค้า
เราขนพริกไทยด้วยการใส่พวกมันลงในเรือยางที่ผมซื้อเอาไว้ และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น
เราก็ออกไปซื้อเสบียงอาหารกัน
ระหว่างซื้ออาหาร เรามักต้องไปยุ่งเกี่ยวกับพวกคนแบบ…บ้าง
ความปลอดภัยในเมืองดูเหมือนจะแย่ลงจริงๆ
แต่ที่ผมคิดปัญหาส่วนใหญ่น่าจะเกิดจากรูปลักษณ์ที่เด่นสะดุดตาของไอเนสและเฟลิเซีย…
ผมคิดว่าถ้าผมออกไปคนเดียวคงจะมีโอกาสเจอเรื่องยุ่งยากน้อยกว่า
แต่ผมจะไม่ทำแน่นอน เพราะถ้าผมออกไปคนเดียวแล้วเกิดไปเจอเรื่องวุ่นวายเข้าล่ะ
ผมคงถูกปล้นจนหมดตัวแน่ และนั่นจะเป็นจุดจบของผม
ไอเนสและเฟลิเซียจัดการปัญหาทุกอย่างได้อย่างไม่มีปัญหา
ในขณะที่ผมแค่ยืนดู และเรื่องราววุ่นวายก็จบลงในทันที
รู้ไหม ผมรู้สึกเหมือนเป็นแค่อากาศที่ไร้ตัวตนเลยล่ะ
ผมซื้อของฝากสำหรับทุกคนที่เมืองทางใต้ พวกผู้ชาย ผมเลือกซื้อเหล้าหายากจากทวีปนี้ไปให้
ผมไม่รู้ว่ารสชาติของมันจะเป็นยังไง แต่เพราะมันหายาก พวกเขาน่าจะพอใจ
ผมพยายามเลือกของฝากสำหรับพวกผู้หญิงอย่างดีที่สุด
เพราะผมอยากสร้างความประทับใจที่ดีกับพวกเธอ หลังจากนั้นพวกเธอก็จะใจดีกับผม
หลังฟังความคิดเห็นจากทุกคน ผมก็ตัดสินใจซื้อชุดเซตเครื่องเทศและผ้าที่ทำจากวัสดุที่พบได้เฉพาะในทวีปนี้
ผมเน้นไปที่อาหารและเสื้อผ้าเป็นหลัก เพราะไอเนสและเฟลิเซีย
ดูพอใจกับอาหาร และเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าเหล่านี้ ดังนั้นผมมั่นใจว่าคิดถูกแล้ว
ผมซื้อของมากมายจนเงินเหลือแค่ 5 เหรียญเงิน เท่านั้น
ไม่พอสำหรับค่าที่พักคืนนี้อีกต่อไป
“งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ พร้อมกันหรือยัง?”
“ฟุฟุ พร้อมแล้ว”
“ฉันก็พร้อมค่ะ”
“โอเค ไปกันเถอะ ไปหาที่ลับตาคนแล้วค่อยเรียก ลูโตะ ออกมา”
“ค่ะ”
เราเดินออกจากเมืองและมองหาที่ลับตา จากนั้นก็ขึ้นเรือ และเริ่มออกเดินทางไปยังเมืองทางใต้
“เฮ้อ รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเลย”
“อุฟุฟุ ใช่ค่ะ ถึงที่กอเทนเบิร์กจะสนุกก็จริง เพราะพวกเราได้กินอาหารอร่อยๆ”
“น่าเสียดายที่เราไม่ได้เที่ยวชมอะไรเลย แต่ฉันคิดว่าลูโตะนี่ล่ะ ดีที่สุดแล้ว”
“อืม เราอาจได้กลับมาเที่ยวชมทวีปทางใต้อกีครั้ง เมื่อเรื่องการสืบทอดเรียบร้อยแล้ว”
“ผมวางแผนไว้ว่าจะไปเยือนประเทศอื่นๆ ด้วย ดังนั้นคงต้องเอาไว้โอกาสหน้า”
“นายท่าน ฉันไม่ได้อาบน้ำมาซักพักหนึ่งแล้ว…อยากอาบน้ำหน่อยมั้ยคะวันนี้?”
“ดีเลย ที่โรงแรมผมได้แต่เช็ดตัวเท่านั้น ไปอาบน้ำกันดีกว่า”
“ผมจะพักผ่อนหลังจากออกห่างจากทวีปทางใต้แล้ว ช่วยเตรียมอ่างน้ำไว้ให้ผมด้วยล่ะ”
“ค่ะ”
ผมให้พวกเธอไปเตรียมตัว และเล่นกับริมุระหว่างที่ขับเรือ
“ริมุ วันนี้เราจะอาบน้ำกัน ริมุชอบอาบน้ำใช่ไหม? ดีใจมั้ย?”
“…อาบน้ำ…ชอบ…ริมุ…ดีใจ…”
“อืม ตั้งตารอได้เลย”
หลังจากขับเรือมาสักพัก ผมก็หยุดเรือไว้เพราะได้เวลาไปอาบน้ำแล้ว
ผมถอดเสื้อผ้าออก ไอเนสกับเฟลิเซียช่วยล้างตัวให้ผม
เราแช่น้ำในอ่างด้วยกัน และเมื่อเริ่มร้อนเกินไป พวกเราก็ลุกขึ้นมาพักให้ร่างกายเย็นลง
รู้สึกดีจริงๆ กับการได้อาบน้ำหลังจากไม่ได้อาบมานาน
แน่นอนว่าระหว่างนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะมองเจ้าสิ่งนั้นที่เย้ายวนใจ
ช่วงเดียวที่ผมสามารถละสายตาไปจากพวกมันได้คือตอนที่เล่นกับริมุที่ลอยอยู่ในน้ำเท่านั้น
“การได้อาบน้ำหลังจากไม่ได้อาบนานๆ มันรู้สึกดีจริงๆ ว่าไหม?”
“ค่ะ นายท่าน การอาบน้ำเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีจริงๆ เฟลิเซีย ล่ะว่าไง?”
“ตอนที่ไอเนส กอดนายท่านจากด้านหลัง นายท่านดูเหมือนจะละลายไปเลย”
“อุฟุฟุ ใช่ๆ ตอนที่นายท่านซบกับหน้าอกของเฟลิเซียก็เหมือนจะละลายไปเลยเหมือนกัน”
“พอเถอะ ทั้ง 2 คน…ผมเริ่มหิวแล้วสิ หลังจากอาบน้ำมานานๆ พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ”
“อุฟุฟุ”
“ค่ะ”
ระหว่างมื้อเย็น เราก็คุยกันถึงแผนการในอนาคต
“เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราไปถึงทวีปทางใต้”
“เราเลยต้องมุ่งหน้าไปตรงๆ เลย แต่ขากลับ เราจะเบี่ยงเส้นทางออกไปเล็กน้อย เพื่อออกตามว่าค้นเกาะให้กับเฟลิเซีย”
เราจะไปถึงเมืองทางใต้ช้ากว่ากำหนด เพราะเราต้องอ้อมเส้นทางการค้าพริกไทยออดไปพอสมควร
เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเจอผู้คน เราจะค้นหาเกาะนั้นจนถึงนาทีสุดท้าย ก่อนที่เสบียงสำรองของเราจะหมด
“ขอบคุณมากค่ะ นายท่าน ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ”
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนกัน เกาะใหม่เหรอ…ฟังดูน่าสนุกดี”
“งั้นคราวนี้เราจะเบี่ยงไปทางตะวันตกกันล่ะ โดยตั้งความหวังว่าจะเจอเกาะ”
“ค่ะ”
เราหันหัวเรือไปทางทิศตะวันตกและเริ่มออกเดินทาง
นอกจากการค้นหาเกาะแล้ว ชีวิตประจำวันของผมก็ยังคงเหมือนเดิม
คือขับเรือ ฝึกซ้อม เล่นซุกซน จากนั้นก็นอน บางครั้งก็ต้องสู้กับมอนสเตอร์ทะเล
“ผมพึ่งนึกขึ้นมาได้ ริมุใช้เวทมนตร์ได้ไหม?”
“…?…”
“ไม่รู้เหรอ? อืม ดูเหมือนจะยังเด็กเกินกว่าที่จะรู้สินะ”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ นายท่าน?”
“อ้อ เฟลิเซีย ผมถามริมุเกี่ยวกับเวทมนตร์ของมันน่ะ แต่ดูเหมือนมันจะยังไม่เข้าใจ”
“คงต้องรอให้มันโตอีกซักหน่อย แล้วค่อยถามใหม่”
“พูดถึงเรื่องนี้ ริมุจังเป็นโฮลี่สไลม์ใช่ไหมคะ?”
“ถ้าเขาใช้เวทมนตร์ธาตุศักดิ์สิทธิ์หรือเวทมนตร์รักษาได้ พวกเราคงจะปลอดภัยยิ่งขึ้นเยอะเลยค่ะ”
“ใช่ แต่ตอนนี้ริมุก็มีความน่ารักอยู่แล้วนะ”
“ฟุฟุ ริมุจังน่ารักจริงๆ นั่นล่ะค่ะ มื้อเที่ยงพร้อมแล้ว… แต่ นายท่านคะ นั่นมันใช่เกาะหรือเปล่าคะ?”
“หืม? เกาะเหรอ? ไหน?”
“ตรงปลายนิ้วของฉันค่ะ ท่านมองเห็นเงาเกาะลางๆ ไหมคะ?”
“โอ้ ผมเห็นแล้ว ไปบอกไอเนสให้รุ้ด้วยว่าเรากำลังจะมุ่งหน้าไปยังเกาะ”
“ได้เลยค่ะ”
เราเดินทางมาถึงที่เกาะ แต่…
“อืม ที่นี่ดูไม่เหมาะเท่าไหร่ มันเล็ก แถมพื้นดินก็เป็นหินอยู่เยอะเกินไป สร้างหมู่บ้านที่นี่ไม่ได้หรอก”
“ค่ะ ฉันเห็นด้วย แต่อย่าท้อไปเลยนะ เฟลิเซีย”
“อย่างน้อยเราก็เจอแผ่นดินแล้ว ตอนนี้เราก็แค่ต้องหาเกาะที่มนุษย์สามารถอยู่อาศัยได้”
“มันดีกว่าการไม่มีความหวังอะไรเลย จริงไหม? ดังนั้น เข้มแข็งไว้นะ”
“ท่านพูดถูกค่ะ เราเจอแผ่นดินแล้ว ถ้าเราค้นหาต่อไป เราก็น่าจะเจอเกาะดีๆ เข้าซักวันค่ะ ฉันจะพยายาม”
หลังจากนั้น เราก็พบเกาะเล็กๆ ทีละเกาะ แม้จะเป็นเกาะที่ไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย แต่การค้นหาก็เริ่มพบเกาะบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
“อืม ดูเหมือนว่าบริเวณนี้จะมีเกาะเล็กๆ กระจายตัวกันอยู่เต็มไปหมดเลยสินะ”
“ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าจะมีเกาะใหญ่ๆ อยู่ใกล้ๆ นี้ แต่ก็ยังหาไม่เจอเลย”
“ทำไมถึงคิดว่าอาจมีเกาะใหญ่ๆ อยุ่ใกล้กับเกาะเล็กๆ เหล่านี้ ล่ะคะ?”
“ผมเองก็ไม่รู้มากเท่าไหร่หรอก แต่เกาะน่ะ มักจะก่อตัวขึ้นเมื่อพื้นทะเลยกตัวขึ้นจากเหตุการณ์ใหญ่ๆ ใต้ทะเล”
“เช่น แผ่นดินไหวใต้ทะเลหรือการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำ หรือบางครั้งก็เกิดจากแผนทวีปจมลง”
“และส่วนที่สูงของทวีปจะยังคงเหลืออยู่เหนือผิวน้ำ และกลายเป็นเกาะได้”
“เอาเป็นว่า ตอนนี้เราพบร่องรอยเหล่านั้นรอบๆ ตัวของเราแล้ว”
“ผมเลยคิดว่าอาจมีเกาะใหญ่อยู่แถวๆ นี้ก็ได้”
“งั้นลองมาค้นหาแถวนี้กันต่อ โดยไม่ยอมแพ้กันเถอะพวกเรา”
“โอ้”
หลังจากใช้เวลาไป 3 วัน ในการสำรวตพื้นที่โดยรอบ ในที่สุดเราก็พบเกาะขนาดใหญ่
“เฮ้ ทุกคน ผมเจอเกาะขนาดใหญ่แล้ว มันมีเขียว และดูน่าจะมีป่าอยู่ด้วย”
ทั้งสองคนรีบวิ่งขึ้นมาบนห้องคนขับในทันที
“ไหนคะ นายท่าน!”
“อยู่ตรงไหน ตรงไหน?”
“ไม่ใช่ทางนั้น มองมาทางนี้สิ”
“โอ้ มันเป็นเกาะที่ใหญ่มากจริงๆ”
“ถ้ามีเกาะที่ใหญ่ขนาดนั้น หมู่บ้านของฉันต้องใหญ่ขึ้นอีกหลายสิบเท่าแน่เลยค่ะ”
“ทั้งสองคน ใจเย็นก่อน มันดูใหญ่พอที่จะอาศัยอยู่ได้ก็จริงจากระยะไกล”
“แต่เราต้องลองไปตรวจสอบหลายๆ ดูก่อนว่ามีคนอาศัยอยู่หรือเปล่า หรือว่ามีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งเกินไปไหม”
“อย่างแรกเลย เราต้องลองเข้าใกล้ๆ เกาะ แล้วลองวนรอบเกาะดู เพื่อตรวจให้แน่ใจว่ามีสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์หรือมีมอนสเตอร์
อันตรายอะไรอาศัยอยู่หรือเปล่า”
“ค่ะ”
ผมพยายามปลอบเฟลิเซียที่ดูตื่นเต้นมากๆ เราเริ่มวนรอบๆ เกาะเพื่อสังเกตสิ่งต่างๆ
ริมุก็ดูสนใจเกาะนี้มาก ซึ่งมันน่ารักดี
เราเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน
เราจึงหยุดการสำรวจไว้ก่อน และไปเตรียมตัวกินข้าวเย็น
“นายท่านคะ ตอนนี้ดูเหมือนจะยังไม่มีร่องรอยของการอยู่อาศัยของมนุษย์เลยใช่ไหมคะ?”
“อืม ยังไม่มีเลย”
“เกาะนี้เหมาะสมมากค่ะ มีทั้งภูเขา ป่า ทุ่งหญ้า และแม่น้ำ”
“เฟลิเซีย ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอนะ แต่ใจเย็นลงหน่อย”
“ถ้าเธอตั้งใจจะพาครอบครัวมาอยู่ที่นี่จริงๆ เธอต้องใจเย็นๆ และตรวจสอบดูให้ละเอียดที่สุด”
“อย่ามองข้ามสิ่งผิดปกติใดๆ ไปแม้แต่นิดเดียว”
“โอ้ จริงด้วย ขอบคุณค่ะ ไอเนส ฉันจะพยายามสงบใจ”
“ฮ่าฮ่า ไอเนสที่คอยปลอบเฟลิเซียนี่ดูตรงข้ามกับเวลาปกติเลยนะ”
“ใช่ค่ะ ปกติแล้วเฟลิเซียจะช่วยปลอบฉันตลอด และครั้งนี้ฉันต้องทำให้เธอสงบบ้าง”
“ฉันก็ไม่ได้รับบทนี้บ่อยนักหรอกนะ”
“ฮ่า ๆ เอาล่ะๆ ในเมื่อทานมื้อเย็นเสร็จแล้ว เราไปอาบน้ำแล้วเข้านอนแต่หัวค่ำกันเถอะ”
“พรุ่งนี้เราต้องไปสำรวจเกาะกันอีก”
“ค่ะ”
ตอนที่ผมตื่นขึ้นมา ท้องฟ้ายังสลัวอยู่เลย ดูเหมือนผมจะเข้านอนเร็วไปหน่อย
“จุ๊บ~ อรุณสวัสด์ค่ะ นายท่าน”
“เฟลิเซียที่สวมใส่อุปกรณ์ครบ เขามาจูบอรุณสวัสดิ์ผม ขณะที่ไอเนสยืนหัวเราะคิกคักอยู่ด้านหลัง”
“จุ๊บ~ อรุณสวัสด์ค่ะ นายท่าน”
“อรุณสวัสดิ์ เฟลิเซีย เธอเตรียมตัวเร็วจังเลยนะ เรายังไม่ได้วนรอบเกาะจนครบเลย”
“ขอโทษค่ะ ฉันแค่รู้สึกตื่นเต้นจนสงบใจไม่ได้น่ะคะ”
“เอาเถอะ งั้นเรามากินข้าวเช้ากันก่อนก็แล้วกัน”
“ค่ะ”
ริมุตื่นขึ้นมา จากนั้นพวกเราก็กินอาหารเช้าพร้อมกันกัน
พอพระอาทิตย์ขึ้น เราก็ออกเดินทางทันที เราสามารถวนรอบเกาะได้ในเวลาเลยเที่ยงมาเล็กน้อย
“ตอนนี้เราก็วนมาจนรอบเกาะแล้ว ไหนๆ ตอนนี้ก็เลยเที่ยงมาแล้ว”
“งั้นเรามาคุยถึงแผนต่อไประหว่างมื้อเย็นกันดีกว่า”
“อย่างแรกเลย เราไม่พบสิ่งก่อสร้างใดๆ ของมนุษย์บนเกาะเลย ไม่มีอาคารใดๆ บนชายหาดหรือทุ่งหญ้า”
“ค่อนข้างปลอดภัยที่จะสันนิษฐานว่าไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่ แต่เราจะยังยืนยันไม่ได้จนกว่าจะตรวจสอบป่าและภูเขา”
“ฉันเห็นด้วยค่ะ ฉันสังเกตเห็นสัตว์เล็กๆ และมอนสเตอร์ในทุ่งหญ้าด้วยค่ะ”
“จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนเกาะนี้จะดูเหมาะสมมากๆ”
“มีภูเขาอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะล้อมรอบด้วยป่า ที่เหลือเป็นทุ่งหญ้า”
“มีแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลจากภูเขาลงสู่ทะเล ตราบใดที่ไม่มีผู้คนหรือมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง”
“ผมคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการตั้งถิ่นฐานใหม่”
“ใช่ เราสามารถใช้เรือแบบญี่ปุ่นล่องตามแม่น้ำไปจนถึงภูเขาได้ และถ้าไม่มีร่องรอยของผู้คนตามแนวแม่น้ำ”
“ผมคิดว่าเราสามารถสรุปได้ว่าไม่มีคนอยู่ที่นี่ หลังจากนั้นเราจะสำรวจป่าและภูเขาต่อ งั้นออกเดินทางกันเลยไหม?”
“ค่ะ”
เรามุ่งหน้าไปยังแม่น้ำและเปลี่ยนเป็นเรือแบบญี่ปุ่นเพื่อล่องขึ้นไปตามแม่น้ำ
ทุ่งหญ้าดูผ่อนคลายมากเลย โอ้ มี “กระต่ายเขา” ด้วย
ดูเหมือนการล่าเนื้อสัตว์ที่นี่จะทำได้แบบสบายๆ
เราเดินทางข้ามทุ่งหญ้าเข้าสู่ป่าโดยไม่มีปัญหาอะไร
มีต้นไม้ล้มอยู่บ้าง แต่เราก็เลี่ยงได้โดยการเรียกเรือออกมาและเก็บเรือกลับ เมื่อจำเป็นในระหว่างที่เราลึกเข้าไปในป่า
ในป่ามีสไลม์และก็อบลินอยู่ พวกมันสามารถใช้เป็นแหล่งหินเวทมนตร์ได้ ดังนั้นมันก็ไม่ได้แย่ไปซะทั้งหมด
เมื่อเราล่องตามแม่น้ำต่อไป กระแสน้ำเริ่มแรงเกินกว่าจะไปด้วยเรือแบบญี่ปุ่น และท้องฟ้าก็ใกล้จะมืดแล้ว
เราควรตั้งแคมป์ที่นี่
“เราควรเตรียมตัวตั้งแคมป์กันได้แล้ว”
ผมเรียกเรือกระท่อมออกมาหลังจากไม่ได้ใช้นาน
ผมยังเรียกเรือยางสองลำที่เคยใช้ขนอาหารออกมาด้วย
ตั้งเรียงเป็นรูปสามเหลี่ยม จุดไฟไว้ตรงกลาง และเตรียมอาหารเย็น
“อุฟุฟุ นายท่านมีเรือแปลกๆเยอะ จังเลยนะคะ มีเรือที่เป็นห้องเล็กๆ แบบนี้ด้วย”
“ก็นะ ถ้าตั้งบาเรียไว้รอบๆ แบบนี้มันจะกลายเป็นที่พักที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบเลย ถือว่ายอดเยี่ยมมาก”
“ใช่ค่ะ ฉันชอบมันเพราะสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ”
“โอ้ ริมุ อย่าไปไกลเกินไปแบบนั้นสิ”
“ขอโทษที เฟลิเซีย ช่วยตั้งบาเรียให้ริมุหน่อยได้ไหม?”
“ไม่ต้องกังวลค่ะ ตั้งแต่เราออกจากเรือมา ฉันก็กางบาเรียไว้ให้ริมุจังแล้วค่ะ”
“ขอบคุณมาก ดูเหมือนว่าริมุจะกำลังสนุกอยู่กับป่าหลังจากไม่ได้มานาน”
“อุฟุฟุ จริงค่ะ ดูมันกระเด้งไปมาสิ น่ารักมาก”
“แล้วการสำรวจป่าเป็นยังไงบ้าง?”
“มีพวกก็อบลินค่ะ แต่คนในหมู่บ้านของฉันสามารถรับมือกับพวกมันได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นชุมชนขนาดใหญ่ก็คงลำบาก”
“อืม มอนสเตอร์ที่ฉันเห็นนอกจากก็อบลินก็มีแค่สไลม์ แต่เพราะป่ามันใหญ่มาก เราไม่มีทางรู้เลยว่าข้างในนั้นมีอะไรอีกบ้าง”
“ใช่ค่ะ ถ้าเราค่อยๆ ขยายการค้นหาอย่างระมัดระวัง ฉันคิดว่าเราน่าจะรับมือได้ค่ะ”
ถ้าหมู่บ้านถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาใกล้ทะเลหรือแม่น้ำ ซึ่งเห็นตอนที่เข้ามา
มันน่าจะเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดถ้าคิดถึงกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน พวกเขาจะสามารถอพยพออกมาได้ถ้ามีเรือ
“เข้าใจละ งั้นหมายความว่าเธอไม่อยากอยู่ในป่าตั้งแต่แรก”
“แต่จะสร้างหมู่บ้านในที่ที่ปลอดภัยก่อน ฉันเคยคิดว่าพวกดารืกเอลฟ์ชอบอาศัยอยู่ในป่าซะอีก”
“พวกเราชอบป่าค่ะ แต่เราก็รู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน ดังนั้นเราจะไม่ทำอะไรเป็นการฝืนตัวเอง”
“งั้นพรุ่งนี้เราจะไปสำรวจภูเขากัน ถ้ามันดูปลอดภัย เราก็สามารถย้ายคนของเธอมาที่นี่ได้”
“ถ้าไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นี่ มันก็เป็นเกาะที่ค่อนข้างเหมาะสม ฉันอยากย้ายมาที่นี่จริงๆ”
“ผมก็คิดว่าเกาะนี้ดูดีนะ มันยากที่จะจินตนาการว่าจะมีคนอยู่อยุ่ในภูเขา”
“ถ้าบริเวณแม่น้ำไม่มีร่องรอยของมนุษย์ มันก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ”
“เอาล่ะ งั้นมากินมื้อเย็นกันดีกว่า”
“ค่ะ”
“อุฟุฟุ ริมุจังนี่ไวต่อเรื่องอาหารจริงๆ นะ ดูสิ กลับมาแล้ว”
“..อาหารเย็น…?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้วล่ะ ริมุ รออาหารเย็นอย่างตื่นเต้นเลยใช่ไหม?”
“…ริมุ อาหาร ชอบ…”
“ใช่ กินให้เยอะ ๆ เลยนะ”
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ผมก็เช็ดตัวแล้วเข้านอนในเรือกระท่อม
แม้มันจะเล็ก แต่การที่เราได้ใกล้ชิดกันมันทำให้รู้สึกดีมากเลนล่ะ
แค่เสียงหายใจหวานๆ จากทั้งสองคน และเจ้าสิ่งนุ่มนิ่มพวกนี้… มันทำให้หลับยากซะจริงๆ
เช้าแล้วสินะ แม้ผมจะได้นอนไม่มาก แต่ผมก็มีความสุขดี หลังจากจูบในตอนเช้าแบบปกติ ผมก็ไปเตรียมอาหารเช้า
หลังอาหารเช้า เราปีนขึ้นภูเขาเลยเลอะตามแม่น้ำไป มันเป็นภูเขาที่ชันพอสมควรแต่ไม่สูงมากนัก เราจึงถึงยอดก่อนเที่ยง
“อืม ภูเขาลูกนี้ดูไม่มีอะไร และจากบนยอดมองลงไปในป่า ผมก็ไม่เห็นร่องรอยของชุมชนหรืออะไรประมาณนั้นเลย”
“ค่ะ ถ้าไม่มีมอนสเตอร์ระดับ S ซ่อนอยู่ในป่า ฉันคิดว่าที่นี่ก็คงจะปลอดภัย”
“ใช่ค่ะ ฉันก็คิดเหมือนกัน นายท่านคะ ท่านจะช่วยให้ดาร์กเอลฟ์ย้ายมาตั้งถิ่นฐานบนเกาะนี้จะได้ไหมคะ?”
“ได้สิ ฉันจะช่วยเท่าที่สามารถทำได้”
“ขอบคุณมากค่ะ นายท่าน ฉันซาบซึ้งใจจริงๆ ”
“อืม ผมจะพยายามให้ดีที่สุด ถ้าตกลงกันได้แล้วแบบนี้ งั้นเรากลับไปที่เมืองทางใต้กัน”
“ค่ะ”
เย็นวันนั้น เฟลิเซียเข้ามาคุยกับผม
“ขอบคุณนะคะ นายท่าน ที่ช่วยหาที่พักพิงปลอดภัยใหม่ให้กับเหล่าดาร์กเอลฟ์”
“ตอนนี้ฉันจะอุทิศตนเพื่อรับใช้นายท่านด้วยการและใจตลิดขนวิญญาณของฉันค่ะ กรุณาดูแลฉันด้วยนะคะ”
“เอ่อ…อะ-โอ้ ผมดีใจมากเลยที่ได้ยินแบบนั้น แต่การอพยพยังไม่เสร็จ”
“ดังนั้นผมอยากขอให้เธอรอจนกว่าการอพยพจะเสร็จสิ้นก่อน แล้วค่อยมานะ”
อะไรกัน นี่ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย? ทำไมผมถึงได้ปฎิเสธเธอล่ะ?
เฟลิเซียดูเหมือนจะโอเคกับมัน ทำไมผมถึงต้องทำตัวเย็นชาแบบนี้ด้วย?
ตอนนี้ที่ผมทำได้คือทำได้แค่เสียใจเท่านั้น
ฮ่า ๆ คงช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ ก็ผมพูดไปแล้วนิ
งั้นมาทำให้ดีที่สุดเพื่อการอพยพกันดีกว่า…
“โอ้ จริงด้วยแบบนั้นสินะคะ ขอบคุณมากค่ะ นายท่าน”
“อุฟุฟุ แน่ใจเหรอคะ? เฟลิเซียเป็นคนพูดเองแท้ๆ”
“อย่าพูดนะ แค่นี้ผมก็เสียใจมากพอแล้ว”
“ดังนั้นในสถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่ผมทำได้เพียงอย่างเดียวคือต้องรีบทำการอพยพให้เสร็จโดยเร็วที่สุด”
“อุฟุฟุ ค่ะ มาพยายามด้วยกันนะคะ”
“และฉันเองก็อยากให้นายท่านทำสัญญาที่ให้ไว้ให้เสร็จโดยเร็วเหมือนกัน”
“ไว้เมื่อเวลานั้นมาถึงมาใช้ห้องที่ดีที่สุดของเรือสำราญ ในช่วงเวลานั้นของเรากันนะคะ”
“โอ้ว ผมจะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อที่จะได้เจ้าสิ่งนั้นมา”
คืนนั้นเป็นอีก 1 คืนที่ผมนอนไม่หลับ
ผมต้องพยายามเพื่อที่จะได้สนุกไปกับไอเนสและเฟลิเซียให้ได้….
MANGA DISCUSSION