ในช่วงเที่ยงของวันที่สาม ที่พวกเรามุ่งหน้าไปยังเมืองกอเทนเบิร์ก
เมืองท่าขนาดใหญ่ที่มผมได้ข้อมูลมาจากหมู่บ้านแรก
ตอนนี้ ผมเห็นเมืองนั้นอยู่ริบๆ ที่ปลายสายตาแล้ว สงสัยว่าเราจะเข้าไปในเมืองทั้งแบบนี้ได้เลยไหมนะ?
“ไอเนส เฟลิเซีย ผมเห็นเมืองแล้ว พวกเธอคิดว่าพวกเราควรจะแล่นเรือเข้าไปที่ท่าเลย หรือควรจะเดินเข้าไปในเมืองแล้วรวบรวมข้อมูลก่อนดี?”
“เอ่อ…เรือลำนี้น่าจะเด่นเกินไป ฉันคิดว่าเดินเอาแล้วเข้าไปหาข้อมูลในเมืองก่อนน่าจะดีนกว่า เธอล่ะคิดว่าไง เฟลิเซีย?”
“ฉันก็เห็นด้วยค่ะ ฉันไม่คิดว่าการทำตัวเด่นจะเป็นผลดีเท่าไหร่หรอกนะคะ ดังนั้นพวกเราควรเก็บเนื้อเก็บตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ”
“ตกลง ถ้าอย่างนั้น เรามาลงจากเรือตรงนี้ แล้วเดินไปที่เมืองกัน”
““ค่ะ””
พวกเราลงจากเรือและเดินตรงไปที่เมือง
ถ้าเราสามารถเข้าไปในเมืองได้อย่างปลอดภัย
เราควรตรงไปที่กิลด์การค้าเลยดีไหมนะ? หรือผมควรรวบรวมข้อมูลในเมืองก่อนดี
แต่ถ้าลองมาคิดดีๆ การเดินเตร็ดเตร่ไปในเมืองที่สถานการณ์ความปลอดภัยแย่ลง แบบนี้มันอันตราย
เราไปที่กิลด์การค้าก่อนแล้วกัน จากนั้นค่อยรับฟังเรื่องราวต่างๆ จากพวกเขา
ระหว่างที่กำลังเดินและคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้น
เราก็มาพบเข้ากับแถวสำหรับเข้าเมือง เราจึงเข้าไปต่อท้ายแถว ในที่สุดก็มาถึงตาเรา
“คุณมีอะไรยืนยันตัวตนไหม?”
“อันนี้ใช้ได้ไหมครับ?”
“หืม? นี่มันบัตรกิลด์จากทวีปทางเหนือนี่!”
“มันสามารถใช้ยืนยันตัวตนได้ แต่เกิดอะไรขึ้นกับเรือของคุณ?”
“อ๋อ เรื่องนั้น ก่อนที่เราจะมาเมืองนี้ พวกเราแวะที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งก่อนมา”
“พวกเขาบอกว่าตอนนี้มีปัญหามากมายและสถานการณ์ความปลอดภัยก็ไม่ค่อยดี”
“ดังนั้นพวกเราเลยจอดเรือไว้และตัดสินใจเข้ามาดูสถานการณ์ก่อน”
“เข้าใจแล้ว ที่จริงก็มีพวกอันธพาลเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีการต่อสู้อะไรรุนแรง”
“คุณจะปลอดภัยถ้าไม่ออกไปไหนมาไหน ตอนกลางคืนหรือไม่เข้าไปในสลัม”
“และเนื่องจากนี่ไม่ใช่บัตรกิลด์ของทวีปนี้ ดังนั้นจึงต้องเสียค่าเข้าเมือง 10 เหรียญทองแดง”
โอ้ ความปลอดภัยไม่ได้แย่ขนาดนั้นสินะ
“อย่างงั้นเหรอครับ? ขอบคุณมาก สองคนนี้มากับผม ผมจะจ่ายค่าเข้าเมืองให้พวกเธอด้วย ว่าแต่เงินพวกนี้ใช้ได้มั้ยครับ?”
“มูลค่าของมันเท่ากัน แต่มันจะทำให้คุณดูเด่นเกินไป แนะนำให้รีบไปแลกเงินจะดีกว่า”
“ขอบคุณครับ”
ฟู่! ในที่สุดเราก็เข้ามาได้อย่างปลอดภัย
กิลด์การค้าอยู่ตรงนั้นเอง เมื่อเข้าไปข้างใน
ผมพบว่า แม้แต่ในทวีปนี้ พี่สาวในกิลด์ก็ยังคงเป็นสาวสวยอีกเช่นเคย
แสดงให้เห็นว่าผู้ชายมักจะมีจุดอ่อนให้กับผู้หญิงสวยๆ ไม่ว่าจะอยู่ทวีปไหนก็ตาม
“ขอโทษนะครับ เรามาจากทวีปทางเหนือเพื่อค้าขาย ติดต่อที่เคาน์เตอร์นี้ได้เลยไหมครับ?”
“เอ๊ะ คุณมาจากทวีปทางเหนือเหรอคะ?”
“ดะ…ได้ค่ะ กรุณาตามฉันมาทางนี้ค่ะ”
“ครับ”
พี่สาวคนนี้ก็เป็นคนสวยเหมือนกัน…
ให้ผมเดาเธอน่าจะประมาณคัพ C เธอเป็นมนุษย์ มีผมสีน้ำตาล และสวยมากๆ
“กรุณารอสักครู่ ฉันจะเตรียมชามาให้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“นี่ค่ะ ชาของคุณ ฉันชื่อเมียร์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ ผมชื่อวาตารุ และสองคนที่อยู่ข้างหลังผมเป็นคนคุ้มกัน ชื่อไอเนสกับเฟลิเซีย”
“ค่ะ แล้วที่ว่ามาค้าขายจากทวีปทางเหนือนั้น หมายถึงการค้าพริกไทยใช่ไหมคะ?”
“ใช่ครับ แต่ผมได้ยินมาว่า ที่นี่ผ้าไหมแมงมุมเป็นที่นิยมมากเลยนำมันมาด้วย”
“ผ้าไหมแมงมุมเหรอคะ?”
“แน่นอนค่ะ เราสามารถค้าขายกันได้ค่ะ แต่ฉันคิดว่าคุณน่าจะได้ราคาที่สูงกว่าถ้าคุณนำมันไปขายกับร้านค้าโดยตรงนะคะ”
“ก็จริงครับ แต่ผมไม่รู้จักร้านค้าที่ไว้ใจได้ที่นี่เลย และได้ยินข่าวลือไม่ค่อยดีมาด้วย”
“ผมเลยอยากปิดดีลนี้ให้เร็วที่สุด คุณพอจะให้ข้อมูลผมหน่อยได้ไหมครับ?”
“อย่างนั้นหรือคะ? ฉันคิดว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกนะคะ”
“ฉันสามารถให้ข้อมูลเท่าที่คนทั่วไปในประเทศนี้รู้ได้ค่ะ แต่ถ้ามากกว่านั้น คุณจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของกิลด์และซื้อข้อมูลเอาค่ะ”
“สำหรับตอนนี้ ขอข้อมูลที่คุณสามารถให้ได้ก่อนแล้วกันครับ/”
“เข้าใจแล้วค่ะ ประมาณสองเดือนก่อน กษัตริย์แห่งคาทาเนียได้สิ้นพระชนม์ลงอย่างกะทันหัน”
“และสาเหตุการเสียชีวิตก็ยังไม่ทราบแน่ชัด ตอนนี้เจ้าชายองค์แรกและองค์ที่สองกำลังทำศึกแย่งราชบัลลังก์กันอยู่ค่ะ”
“แม้ว่าจะไม่มีการต่อสู้โดยตรง แต่ทั้งสองฝ่ายต่างรวบรวมกำลังรบ”
“ส่วนพวกขุนนางก็เริ่มระดมพลกันแล้ว ทำให้มีทหารรับจ้างรวมถึงพวกอันธพาลจากที่อื่นมารวมกันที่เมืองนี้ค่ะ”
“คุณมีคำถามอะไรเพิ่มเติมอีกไหมคะ?”
“ทำไมเจ้าชายองค์แรกถึงไม่ได้รับเลือกให้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไปโดยอัตโนมัติล่ะ?”
“แล้วเมืองนี้สนับสนุนฝ่ายไหนหรือเปล่า?”
“แม่ของเจ้าชายองค์โตเป็นเจ้าหญิงจากประเทศอื่นค่ะ”
“ส่วนแม่ของเจ้าชายองค์รองนั้นเป็นสนม แต่ก็เป็นถึงลูกสาวของอัครมหาเสนาบดีของประเทศนี้”
“ดังนั้นอัครมหาเสนาบดีจึงประกาศออกมาว่าเจ้าชายองค์โตนั้นไม่เหมาะสมที่จะเป็นกษัตริย์ เจ้าชายองค์รองควรขึ้นครองบัลลังก์แทน”
“ส่วนเจ้าเมืองนี้สนับสนุนฝ่ายเจ้าชายองค์โตค่ะ”
“โอ้ ฟังดูเหมือนเรื่องในนิยายเลย แล้วแบบนี้มีโอกาสที่ความขัดแย้งจะไม่พัฒนาไปสู่การต่อสู้ไหมครับ?”
“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นและสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันคิดว่าคงจะมีการปะทะกันในที่สุดค่ะ”
ผมไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่จากที่ฟังดูเหมือน อัครมหาเสนาบดีพยายามจะดึงเจ้าชายองค์โตลงจากตำแหน่ง
เพื่อที่จะได้ปกครองประเทศในแบบที่เขาต้องการ
ถ้าเป็นในนิยาย เจ้าชายองค์โตก็น่าจะโดนกดดันจนกระทั้งเข้ามาถึงขีดจำกัด
แต่สุดท้ายเขาก็จะพลิกกลับมาเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และพลิกสถานการณ์กลับมาได้
“ขอบคุณมากครับ ผมจะพยายามปิดดีลให้เร็วที่สุด ผมจะสามารถซื้อพริกไทยได้มากที่สุดเท่าไหร่ครับ?”
“ถ้าคุณให้เวลาฉันประมาณห้าวัน ฉันสามารถจัดหาพริกไทยมูลค่าประมาณสิบเหรียญแพลตตินัมให้คุณได้ค่ะ”
“เอ่อ งบประมาณของเรามีอยู่ 2 เหรียญแพลตตินัมครับ”
“และผมตั้งใจจะใช้เงินทั้งหมดจากการขายผ้าไหมแมงมุมเพื่อซื้อพริกไทยกลับไปได้ไหมพอจะทำได้ไหมครับ?”
“พรุ่งนี้ผมจะนำผ้าไหมแมงมุมมาให้ คุณช่วยจัดการให้หน่อยได้ไหมครับ?”
“แล้วช่วยแนะนำโรงแรมที่ปลอดภัยและมีอาหารอร่อยๆ ด้วยนะครับ?”
“ค่ะ โรงแรมในตอนนี้อาจจะแพงไปสักหน่อย คุณโอเคไหมคะ?”
“ครับ ผมยอมจ่ายเพื่อความปลอดภัย”
“ในกรณีนั้น ฉันขอแนะนำ โรงแรมไข่มุกค่ะ ราคาประมาณ 2 เหรียญเงินต่อคนต่อคืนค่ะ ถึงจะแพงไปซักหน่อย แต่ในแง่ความปลอดภัยถือว่าดีมากค่ะ”
2 เหรียญเงินก็ 20,000 เยน?
แม้แต่ในญี่ปุ่นก็ถือว่าแพงมาก และยิ่งในโลกนี้ที่ราคาสูงถึง 20,000 ต่อคนก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่
แต่เอาเถอะ ถ้าพักที่ถูกๆ แล้วเกิดปัญหา มันก็คงไม่คุ้ม
“ขอบคุณมาก พรุ่งนี้ตอนเช้าคุณจะว่างตอนไหนครับ?”
“ฉันจะเริ่มทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ คุณมาช่วงเวลาไหนก็ได้ค่ะ”
“เข้าใจแล้ว งั้นพรุ่งนี้ฉันฝากตัวด้วยนะครับ”
“ฉันจะรอนะคะ”
ทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหม?
ผมมุ่งหน้าไปยังโรงแรมไข่มุก เพื่อจัดการเรื่องการพักก่อนจะเกิดปัญหาอะไรตามมาอีก
ค่าที่พักคืนลt 6 เหรียญเงิน ทำให้ผมหนักใจเล็กน้อยสำหรับคนธรรมดาๆ แบบผม แม้จะหาเงินได้เยอะก็ตาม
และมันก็น่าเศร้าด้วยที่ต้องมาจ่ายราคาแพงขนาดนี้ ลูโตะ สบายกว่าที่นี้ตั้งเยอะ
แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยไว้ก่อน
“นายท่าน การเจรจาเป็นยังไงบ้าง?”
ผมเล่าทุกอย่างที่ได้ฟังจากกิลด์ให้ทั้งสองคนฟัง และพวกเธอก็ถอนหายใจ
“ฉันอยากเที่ยวชมสถานที่สักหน่อยแท้ๆ แต่สถานการณ์แบบนี้ ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมามันจะยุ่งยากมาก”
“ดังนั้นเราควรรีบปิดดีลให้เสร็จ แล้วรีบกลับกันน่าจะดีกว่าค่ะ”
“ผมเองก็อยากเที่ยวเหมือนกัน แต่ไม่อยากถูกดึงเข้าไปยุ่งกับสงครามกลางเมืองเลย ดังนั้นเรามารีบปิดดีลแล้วรีบออกไปกันเถอะ”
“ฉันเห็นด้วยค่ะ แต่ว่าเรื่องอาหารล่ะคะ เอายังไงดี?”
“เรายังพอมีอาหารอยู่บ้าง น่าจะพอสำหรับ 1 เดือน พวกเราจำเป็นต้องเติมเสบียงไหมคะ?”
“อืม ผมเองก็อยากลองไปซื้ออาหารนะ”
“ผมเองก็สนใจอาหารในทวีปนี้เหมือนกัน”
“งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน ระหว่างที่ยังปิดดีลไม่ได้ พวกเราก็ไปซื้อของในเมืองด้วยเลยแล้วกัน”
“”ค่ะ””
“แต่ห้องนี้…ถึงจะไม่แย่ แต่ ลูโตะ ดีกว่าเยอะเลยนะคะ ฉันรอที่จะกลับไปหามันไม่ไหวแล้ว”
“อืม ผมก็คิดเหมือนกันแต่ตอนนี้ผมกำลังรออาหารอยู่นะ ผมมั่นใจว่าเราน่าจะได้กินเมนูที่ไม่เคยลองมาก่อนแน่”
“จริงด้วย เรื่องอาหารนี่แหละสำคัญ และในเมื่อเรามาถึงนี่แล้ว เราต้องลองพวกมันให้ได้”
“ใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว ไปที่ห้องอาหารกันเถอะ วันนี้เราจะจัดเต็มกัน”
“อุฟุฟุ ฟังดูน่าสนุกจังค่ะ”
“ฉันดีใจจังเลยค่ะ นายท่าน”
“พวกเรามาถึงทวีปใหม่ทั้งที ต้องสนุกกันให้เต็มที่”
ในห้องอาหาร เราได้รับเมนูมา เนื่องจากที่นี่เป็นร้านอาหารระดับสูง เมนูจึงมีให้เลือกหลากหลาย
“อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ วันนี้เราจะจัดเต็มกันหน่อย พวกเธออยากสั่งอะไรก็สั่งได้เลย”
“สำหรับตอนนี้ ผมจะสั่งเมนูแนะนำมาก่อน”
“ค่ะ”
เนื่องจากที่นี้ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเทศ อาหารที่มาเสิร์ฟมาจึงเต็มไปด้วยรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมของเครื่องเทศ
เช่น ซี่โครงย่างปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย กระเทียม และสมุนไพรต่าง รวมถึงไก่อบทั้งตัวที่ยัดไส้ด้วยสมุนไพร
พาสต้าซีฟู้ดกับซอสมะเขือเทศเผ็ดจัดจ้าน มีรสกระเทียมและพริกขี้หนูแบบจัดเต็ม
ในฐานะที่ ที่นี่เมืองท่า อาหารทะเลจึงอุดมสมบูรณ์
แม้จะไม่มีซาซิมิ แต่ผมก็สามรถเพลิดเพลินไปกับเมนูปลานึ่งได้ ซึ่งนี่เป็นอาหารหรูที่ปกติผมไม่ค่อยจะได้กินมากนัก
“ริมุ อร่อยไหม?”
“ขอโทษที่ต้องให้อยู่ในกระเป๋าตลอดนะ เอาล่ะ มีอีกเยอะเลยกินให้เต็มที่นะ”
“…ริมุ กินเยอะ… อร่อย…”
“อร่อยดีใช่ไหมล่ะ”
“ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ ฉันกินต่อไปไม่ไหวแล้ว นายท่าน มันอร่อยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ฉันก็อิ่มแล้วเหมือนกันค่ะ ขอบคุณนะคะ นายท่าน”
“ยินดีมาก ผมเองก็อิ่มแล้วเหมือนกัน ผมว่าได้เวลากลับไปที่ห้องพักกันแล้ว”
หลังจากเพลิดเพลินกับมื้ออาหารอันอุดมสมบูรณ์ ผมก้มาล้างหน้าล้างตาและเข้านอน
ในตอนเช้า…ไอเนสและเฟลิเซียก็มาปลุกผมด้วยการจูบอีกเช่นเคย
เราหยอกล้อกันเล็กน้อยก่อนจะเตรียมตัวลงไปที่ห้องอาหาร
ริมุตื่นขึ้นมาเมื่อมาถึง
“อรุณสวัสดิ์ ริมุ อาหารเช้ามาแล้ว”
“…อรุณสวัสดิ์… อาหารเช้า…”
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ผมก็กลับไปที่ห้องและเรียกเรือออกมาเพื่อเอาผ้าไหมแมงมุม
“เอาล่ะ ไปที่กิลด์การค้ากันเถอะ”
“ค่ะ”
เมื่อมาถึงที่กิลด์ ผมก็ทักทายเมียร์ซัง
“อรุณสวัสดิ์ครับ เมียร์ซัง ฉันนำผ้าไหมแมงมุมมาแล้วครับ”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ วาตารุซัง เชิญตามฉันมาทางนี้ค่ะ”
“ครับ”
“นี่ค่ะ ชาของคุณ แล้วฉันจะขอตรวจดูผ้าไหมแมงมุมหน่อยจะได้ไหมคะ?”
“นี่ครับ”
ผ้าไหมแมงมุมพวกนี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่กันนะ?
ผมคิดว่ามันต้องไม่ถูกแน่ เพราะเป็นถึงของที่กิลด์การค้าแนะนำมาเลยนะ ว่ามันเป็นสินค้าคุณภาพสูง
“ฉันตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ พวกมันคุณภาพดีมาก กิลด์การค้าของเรายินดีที่จะรับซื้อไว้ทั้งหมดในราคา 5 เหรียญแพลตตินัม ค่ะ”
“แต่ตามที่ฉันได้บอกไว้ครั้งก่อน ถ้าคุณนำมันไปขายให้กับร้านค้าโดยตรง ราคาน่าจะได้เพิ่มมากกว่าอีก 1 เหรียญแพลตตินัมค่ะ”
“คุณแน่ใจว่าจะขายที่นี่จริงๆ ใช่ไหมคะ?”
หมายความว่าถ้าไปขายที่อื่น ราคาจะได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 ล้านเยนงั้นเหรอ?
เอายังไงดีล่ะ แต่ผมไม่มีความมั่นใจในการทำธุรกิจเลยนี่สิ และก็ไม่อยากถูกดึงเข้าไปในสงครามกลางเมืองด้วย
งั้นขายมันที่นี้ไปเลยดีกว่า
“ครับ ผมจะขายที่นี่บ่ะ คุณช่วยจัดหาพริกไทยที่มีมูลค่า 7 เหรียญแพลตตินัม มาให้ผมหน่อยได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ ฉันต้องใช้เวลาประมาณห้าวันในการรวบรวมพริกไทยทั้งหมดให้คุณค่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมาก”
“อ้อ ผมอยากจะทยอยขนของที่รวบรวมได้ออกไปทีละนิดๆ คุณช่วยแจ้งให้ผมทราบเมื่อคุณรวบรวมมันได้จำนวนหนึ่งได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ ฉันแจ้งไปที่ โรงแรมไข่มุก ได้ใช่ไหมคะ?”
“ได้ครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
เอาล่ะ ตอนนี้เราก็ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วสินะ
ผมควรต่อรองเพิ่มราคาผ้าไหมแมงมุมเพิ่มอีกซักนิดหรือขอลดราคาพริกไทยดูอีกซักหน่อยดีมั้ยนะ…
เอาเถอะ แค่นี้ผมก็น่าจะพอทำกำไรได้แล้ว ยอมขาดทุนบ้างนิดหน่อยจะเป็นไรไป
เห้อ ผมคงไม่เหมาะกับการทำธุรกิจจริงๆ สินะเนี่ย…ว่าแต่แล้วผมเหมาะกับอะไรล่ะ?
“เราเสร็จธุระที่นี่แล้ว เหลือแค่ต้องซื้อของ”
“เราไปซื้ออาหารกับของฝากให้คนที่ช่วยเราไว้ที่เมืองทางใต้กันดีกว่า”
“ไอเนส เฟลิเซีย ถ้าพวกเธออยากได้อะไร บอกผมได้เลยนะ”
“ค่ะ”
ผมจะซื้ออะไรไปฝากเหล่าสาวๆ ที่ดูแลผมที่เมืองทางใต้ดีนะ?
ผู้ชายก็คงพอใจแค่กับเหล้าหายาก
เอาเป็นว่าผมลองเดินดูไปเรื่อยๆ แล้วค่อยตัดสินใจละกัน
อย่างที่คิด เมื่อเราเดินดูของในเมืองท่าที่แสนคึกคักแห่งนี้ เราก็เจอเข้ากับปัญหาจนได้
“เฮ้ น้องสาว มาสนุกกับพวกเราดีกว่า อย่าไปอยู่กับไอ้หมอนั่นเลย”
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมเจอเข้ากับเหตุการณ์ตาม “บทมาตรฐาน” เป๊ะ แบบนี้
ผู้ชายมีหนวด 5 คน แต่งตัวเหมือนทหารรับจ้าง พูดเหมือนในนิยายเป๊ะ
แต่น่าเศร้าที่ผมไม่ได้มีพลังแบบพวกตัวเอกเลยจัดการพวกเขาเองไม่ได้
“เฮ้ ได้ยินที่ฉันพูดไหม? ทิ้งผู้หญิงไว้แล้วไสหัวไปซะ โอ้ แล้วก็ทิ้งเงินทั้งหมดไว้ด้วย”
“ผมจะปล่อยพวกเธอไว้ได้ไง พวกเธอเป็นคนคุ้มกันของผม แล้วนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำลางวันแสกๆ บนถนนหรอกนะ“”
“อะไร? พวกเราผิดตรงไหน? สาวๆ พวกนี้อยากมาสนุกกับเรา เราก็เลยจะสนุกด้วยไง”
“แล้วในเมื่อแกต้องจ่ายเงินชดเชย ก็ไม่มีอะไรผิดนี่นา งั้นทำไมไม่รีบวางเงินไว้แล้วไสหัวไปซะล่ะ”
โอ้ นี่มันตรรกะเบียวๆ แบบในนิยายชัดๆ
ตอนนี้ผมอยู่ในเหตุการณ์แบบนั้นแล้ว เราจะไม่สามารถเจรจาให้จบด้วยดีได้จริงๆ หรือ?
ผมมองไปรอบๆ แต่ทุกคนต่างแผ่รังสีว่า “ไม่อยากยุ่ง” จนไม่มีใครแม้แต่จะสบตาผมเลย
จะไม่มีใครเรียกทหารมาช่วยจริงๆ เหรอ?
“แกนี่มันไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ ใช่ไหม? ไสหัวไปให้พ้น!”
จู่ๆ พวกเขาก็วิ่งเขามาชกผม…
แต่ไอเนสกับเฟลิเซียก็จัดการพวกนั้นได้ในพริบตา… แบบนี้โอเคแล้วเหรอ?
เราควรหนีจากสถานการณ์แบบนี้ไหม? หรือควรจับพวกเขาไว้?
ขณะที่ผมกำลังคิด ทหารก็มาถึงพอดี ผมหวังว่าพวกเขาจะมาถึงเร็วกว่านี้อีกหน่อยนะ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“อ่อ ผมเป็นพ่อค้า แล้วคนพวกนี้พยายามเข้ามาปล้นผม”
“พวกเขาบอกให้ผมส่งเงินให้และทิ้งผู้หญิงแล้วให้รีบไสหัวไป”
“จากนั้นพวกเขาก็พยายามจะเข้ามาชกผม ผมเลยขอให้คนคุ้มกันช่วยปกป้อง”
“จริงหรือ?”
“ใช่ครับ รอบ ๆ ตัวผมมีหลายคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ ผมมั่นใจว่าพวกเขายินดีมาเป็นพยาน”
เมื่อผมพูดจบ ทหารบางคนก็เริ่มซักถาม
ชายพวกนี้เป็นทหารรับจ้างที่ทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมาย ไม่เพียงแค่กับผม พวกเขายังเคยก่อความผิดไว้ในอดีตอีกด้วย
“ดูเหมือนจะเป็นความจริง คุณอยากจัดการกับพวกเขายังไง?”
“ถ้าคุณต้องการจะลดพวกเขาให้กลายเป็นทาสก็ได้ แต่คุณต้องดำเนินการตามขั้นตอน”
หา? พวกเขาจะถูกลดฐานะไปเป็นทาสเลยงั้นเหรอ?
เอาจริงๆ ก็สมควรนะ เพราะพวกเขาพยายามปล้นเงินผมและจะพาผู้หญิงไปด้วย
“เราไม่มีเวลามากขนาดนั้นครับ”
“ถ้ายังไงช่วยชดเชยให้คนที่ได้รับความเสียหายจากพวกเขาด้วยแล้วกันนะครับ เพราะจากที่ผมได้ยินมา พวกเขาทำเรื่องแย่ๆ ไว้เยอะ”
“เข้าใจแล้ว”
คนที่ได้ฟังคำพูดของผมก็เริ่มบ่นกับทหารถึงความเสียหายที่พวกเขาได้รับทีละคน
บรรยากาศดูวุ่นวายเล็กน้อย
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
พวกเรากลับมาที่โรงแรมเพื่อพักผ่อน
“ไอเนส เฟลิเซีย ขอบคุณที่ปกป้องผมไว้นะ”
“ฟุฟุ ฉันถูกซื้อมาเพื่อทำหน้าที่นั้นอยู่แล้วค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา”
“ฉันก็เหมือนกันค่ะ”
“ฮ่าฮ่า จริงด้วย แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ”
“วันนี้ผมไม่อยากออกไปไหนแล้วล่ะ มาพักผ่อนกันอยู่ที่โรงแรมกันดีกว่า”
“”ค่ะ””
ยอดเงินคงเหลือปัจจุบัน: 2 เหรียญทอง 40 เหรียญทองแดง
MANGA DISCUSSION