เอาล่ะ มาเรียก Ex 45 ออกมากันดีกว่า
“ริมุ ผมกำลังจะเรียกเรือลำใหม่ออกมา แกอยากเห็นไหม”
ผมเรียกริมุที่ยังอยู่ในกระเป๋า แล้วกระเป๋าก็เปิดออกมาและริมุก็ไต่ขึ้นมาบนไหล่ของผม
“…เรือ …?”
“ใช่แล้ว ผมจะเรียกเรือลำใหญ่ๆ ออกมา อยากเห็นไหม?”
“…อยาก…เห็น…”
ริมุพูดออกมา แล้วขึ้นมานั่งบนหัวของผม
มันน่ารักมากเลยใช่มั้ยล่ะ
“เรียกเรือ”
เรือลำหนึ่งที่มีตัวเรือสีขาวบริสุทธิ์และหน้าต่างสะท้อนแสงสีดำ ปรากฎออกมาจากวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่กำลังเรืองแสงอยู่
ชั้นสองเป็นสะพานเดินเรือหรือเปล่านะ…
หน้าต่างที่ชั้นหนึ่งเป็นสีดำทั้งหมด เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวหรือเปล่า?
แล้วเราจะเข้าไปทางไหนได้ล่ะเนี่ย มีพื้นที่ด้านล่างหลัง?
ผมว่าน่าจะสามารถเข้าไปได้จากตรงนั้นได้…
ด้านหลังเรือมีพื้นที่เยอะมากเลย ตรงนี้น่าจะเรียกว่าดาดฟ้าท้ายเรือหรือเปล่า?
ดาดฟ้าท้ายเรือค่อนข้างกว้างจึงน่าจะสามารถใช้เป็นห้องอาบน้ำได้
ไว้ค่อยไปดูภายในเรือทีหลังแล้ว ผมเดินไปสำรวจที่ดาดฟ้าที่หัวเรือ
จากนั้นก็ได้เข้าไปสำรวจภายในตัวเรือ ห้องรับแขก มีโซฟารูปตัวแอล โต๊ะ และเก้าอี้เตี้ยๆ สองตัว
ขึ้นไปชั้นสองมีโต๊ะสีฟ้าขนาดใหญ่และมีโซฟาตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของโต๊ะ
ตรงนี่น่าจะเรียกว่าสกายเลาจน์ ผมสามารถมองเห็นทัศนียภาพภายนอกจากหน้าต่างได้อย่างชัดเจน
สงสัยจังว่าเครื่องปรับอากาศจะสามารถทำงานได้ไหม
โอ้ ได้ด้วย สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอารยธรรมโชยมาเลย
ริมุก็ตื่นเต้นด้วยเหมือนกัน มันเด้งไปมาบนหัวของผม
“ริมุ มันน่าทึ่งใช่ไหมล่ะ หรูหราสุดๆ !”
“…หรูหรา…”
ถัดมาก็เป็นห้องครัว ในห้องครัว มีเตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ ตู้แช่แข็ง และตู้เย็น มีจานชามและอุปกรณ์ครัวครบครัน
ทางด้านหลัง นี่คือห้องนอนไว้สำหรับแขกด้วย ในห้องมีเตียงอยู่สองเตียง มีห้องน้ำในตัวที่อยู่ข้างๆ
ต่อมาก็ห้องมาสเตอร์ ในห้องนี้มีห้องไว้สำหรับเก็บของและมีเตียงขนาดใหญ่ที่สามารถนอนได้ถึง 3 คน
ด้านหลังก็มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ แค่มองดูห้องนี้ก็ทำให้ผมตื่นเต้นแล้ว
หลังจากออกไปข้างนอก ผมก็ปีนบันไดขึ้นไปยังชั้นสอง ที่นี่คือสะพานเดินเรือย่างงั้นเหรอ?
โอ้ ใช่ ลืมไปเลย ว่าต้องแปลงโฉมเรือก่อน
แต่การเปลี่ยนแปลงถึงภายในด้วยจะทำให้เรือลำนี้เสียเปล่า อีกอย่างคงไม่มีใครสามารถเข้ามาข้างในได้ยกเว้นแค่ไอเนสและเฟลิเซีย
ดังนั้น ผมจึงจะปล่อยด้านในมันไว้แบบนั้น ผมจะเปลี่ยนแปลงเฉพาะภายนอกเท่านั้น
โดยการพรางตัวเป็นเรือไม้เพื่อให้ดูเหมือนเรือเวทมนตร์ลำอื่นๆ
แบบนี้จะ โอเคไหมนะ…
โอเค ละมั้ง…แค่นี้การพรางตัวก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือก่อนจะถึงเช้าวันพรุ่งนี้
ดังนั้นมาสนุกกับเรือลำนี้กันดีกว่า
ผมชงชาในครัว นำผลไม้ออกมา และจัดปาร์ตี้น้ำชากับริมูที่สกายเลานจ์
เยี่ยม ผมผ่อนคลายในขณะที่เฝ้ามองริมุกำลังย่อยผลไม้อย่างมีความสุข
ตอนนี้ไปอาบน้ำกันดีกว่า ผมต้มน้ำจำนวนมากในครัวและเติมน้ำในอ่างอาบน้ำ
ถึงจะมีห้องอาบน้ำฝักบัว แต่ผมอยากลองอาบน้ำแบบเห็นวิวทะเลมากกว่า
คราวนี้ผมเรียกเรืออ่างอาบน้ำออกมาบนดาดฟ้าหัวเรือซึ่งดูเหมือนว่าจะมีวิวที่สวยมากกว่าท้ายเรือ
ผมถอดเสื้อผ้าออกแล้วแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ อากาศแจ่มใส ทะเลสีฟ้า ท้องฟ้าสีคราม อยู่รอบๆ ตัวผม
ริมุซึ่งสำรวจบริเวณระเบียงด้านหน้ากำลังปีนขึ้นมาบนอ่างอาบน้ำ
“อยากอาบน้ำด้วยไหม ริมุ?”
“…อาบ…”
“ได้สิ แต่จะแช่นาน ไม่ได้นะ แล้วก็อย่าให้น้ำในอ่างซึมเข้าไปในตัวล่ะ”
“…อืม…”
ริมุค่อยๆ จุ่มตัวลงในน้ำร้อนอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนสุดท้านก็ลงไปในน้ำร้อน
ริมุ ลอยอยู่ในน้ำร้อนจากนั้นก็ลอยไปลอยมาในน้ำ ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าสไลม์จะสามารถลอยแบบนี้ได้ด้วย
“ริมุ ไม่เป็นไรใช่ไหม มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ถ้ารู้สึกไม่สบาย ให้รีบขึ้นจากน้ำร้อนทันทีเลยนะ”
“…ชอบ…”
โอ้ ดูเหมือนว่ามันจะชอบ?
เอาล่ะ ถ้าแกพอใจกับมัน ก็ดีไป
ผมค่อยๆ ขึ้นจากอ่างหลังจากแช่น้ำไปซักพัก แต่ริมุก็ยังคงลอยไปลอยมาอยู่ในอ่าง
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ผมเลยว่าเตรียมอาหารเย็นโดยใช้แสงจากตะเกียง
“ริมุ อาหารเย็นพร้อมแล้ว”
“…อาหาร…”
เรารับประทานอาหารเย็นด้วยกัน โดยมีผม กำลังชื่นชมปฏิกิริยาตอบสนองอย่างร่าเริงของริมุต่ออาหาร
“ผมคิดว่าน่าจะถึงเวลาเข้านอนแล้ว”
ผมนอนลงบนเตียงในห้องมาสเตอร์แล้วหลับตาลง
ผมรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย เพราะเตียงที่นี่มันนุ่มสบายกว่าเตียงของผมที่ญี่ปุ่นซะอีก
ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าเตียงหรูๆ มันจะนอนสบายได้ขนาดนี้
ถ้างั้นก็ ราตรีสวัสดิ์….
เมื่อตื่นขึ้นมา ผมรู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก
อาจเพราะผมได้นอนหลับอย่างสบายบนเตียงนุ่มๆ
หลังทานอาหารเช้ากับริมูและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันใหม่
ผมก็ขึ้นไปที่สะพานเดินเรือจากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปยังเมืองทางใต้
ตอนที่ผมออกเดินทางไปเมืองทางใต้นั้นยังมืดอยู่เลย เสียดายที่ผมมองไม่เห็นวิว เพราะเป็นเวลากลางคืน
ผมรอให้ใกล้เวลารุ่งสางแล้วจึงค่อยออกเรือ การนั่งบนเก้าอี้สบายๆ ขับเรือไปพร้อมกับชมวิวสวยๆ แบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก
เมื่อผมมาถึงที่ท่าเรือ ยังไม่มีใครมาที่นี่
ผมจึงลงไปชงชาให้ตัวเองและรอให้คนอื่นๆ มาถึงที่นี่
หลังจากนั้นไม่นาน ไอเนสและเฟลิเซียก็เดินทางมาถึง โดยแต่ละคนลากรถเข็นมาด้วย
“ไอเนส เฟลิเซีย อรุณสวัสดิ์ ดูเหมือนพวกเธอจะได้อาหารมากันเยอะเลยนะ”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ นายท่าน”
“ฉันคิดว่าเราได้ของทุกอย่างที่เราต้องการมาครบแล้วค่ะ จะขนของพวกนี้ขึ้นเรือกันตอนนี้เลยไหมคะ”
“อืม เรามาขนพวกมันไปไว้บนดาดฟ้าท้ายเรือกันเถอะ แล้วผมค่อยไปจัดการกับมันตอนที่เราออกเดินทาง”
“”ค่ะ””
ขณะที่พวกเรากำลังขนอาหารขึ้นเรืออยู่นั่น คามิลล์ซังก็มาส่งผ้าไหมแมงมุมให้พวกเราพอดี
ดูเหมือนดีโน่ซังและเอนริเก้ซังจะมาส่งพวกเราด้วย
“คามิลล์ซัง ดีโน่ซัง เอนริเก้ซัง อรุณสวัสดิ์ครับ ขอโทษที่ต้องให้มาแต่เช้าขนาดนี้นะครับ“”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองอยากมาส่งวาตารุซังเหมือนกันค่ะ”
“ดังนั้นถึงเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด แต่โปรดกลับมาพร้อมพริกไทยจำนวนเยอะๆ นะคะ”
“ฮ่าๆ ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”
เราขนสัมภาระขึ้นเรือและพูดคุยกับคามิลล์ซังและคนอื่นๆ อีกนิดหน่อย
พวกเขาคุยกับผมว่า “มันเป็นเรือเวทมนตร์ที่ประหลาดมาก คุณพอรู้ไหมว่ามันถูกขุดพบที่ไหน”
เมื่อพวกเขาถามผม ผมก็พึ่งรู้ว่าเรือเวทมนตร์มันได้มาจากการขุดค้น ผมต้องระวังหน่อยแล้วสิแบบนี้…
“เอาล่ะ ผมไปแล้วนะครับ คามิลล์ซัง ดีโน่ซัง เอนริเก้ซัง”
เราออกเดินทางจากเมืองทางใต้พร้อมกับคำอวยพรให้การเดินทางปลอดภัยและประสบความสำเร็จ
จุดหมายปลายทางคือทวีปทางใต้ ซึ่งนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวนานที่จะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนด้วยเรือเวทมนตร์
ขณะที่ผมกำลังจมดิ่งอยู่กับอารมณ์นั้น ไอเนสกับเฟลิเซียก็เดินขึ้นมาที่สะพานเดินเรือ
“นายท่าน เรือลำนี้สุดยอดไปเลย มีของที่ฉันไม่เคยเห็นแล้วก็ไม่เข้าใจอยู่มากมายเลยค่ะ”
“เตียงก็นุ่มแถมยังใหญ่มาก ส่วนเก้าอี้ก็น่ารักมากค่ะ”
“ดูเหมือนพวกคุณทั้งสองคนจะชอบเรือลำนี้นะ”
“รอแปปนะ ไว้ผมจัดของบนดาดฟ้าเรือเสร็จก่อน
แล้วผมจะไปสาทิตวิธีใช้สิ่งของบนเรือลำนีัให้พวกคุณดู”
“ค่ะ”
ผมต้องซื้อเรือยางมาเพิ่มอีกสามลำเพื่อบรรทุกของที่พึ่งซื้อมา เนื่องจากมีของที่ซื้อมามากมาย
เมื่อจัดของเสร็จเรียบร้อย ผมก็ไปสาทิตวิธีใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเรือให้พวกเธอดู
พวกเธอประทับใจกับเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และช่องแช่แข็ง
พวกเธอเอียงคอสังสัย? เมื่อได้ยินคำอธิบายเกี่ยวกับเตาไมโครเวฟ
จากนั้นผมก็ พาพวกเธอไปรู้จักกับวิธีให้ก๊อกน้ำ พวกเธอสงสัยว่าน้ำเหล่านี้มาจากที่ไหนกัน?
ผมว่าเรื่องพวกนั้นไม่จำเป็นต้องรู้หรอก แค่พวกเธอรู้วิธีใช้ของต่างๆ เป็นก็พอแล้วใช่ไหมล่ะ?
เมื่อผมอธิบายเรื่องห้องอาบน้ำและห้องน้ำให้พวกเธอฟัง
พวกเธอก็ดีใจเป็ยอย่างมาก พวกเธออยากใช้ห้องอาบน้ำในทันที ที่ได้ยินผมอธิบาย
พวกเราสามคนเลยเข้าไปอาบน้ำ ในห้องอาบน้ำเล็กๆ นั้นด้วยกัน
จากนั้นก็ผลัดกันอาบน้ำให้กันและกัน ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริงๆ
“อุฟุฟุ รู้สึกดีจังเลยค่ะ เรือเวทมนตร์ลำนี้สุดยอดไปเลยค่ะ นายท่าน”
“ฉันเองก็เคยขึ้นเรือเวทมนตร์ลำอื่น มาหลายลำแล้วเพื่อทำหน้าที่คุ้มกัน แต่ฉันไม่เคยเจอเรือลำไหนที่เป็นแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ”
“ฉันไม่อยากจะคิดเลยค่ะ ว่าเรือสำราญสุดหรูมันจะสุดยอดได้ถึงขนาดไหน”
ก็เรือลำนี้ไม่ใช่เรือเวทมนตร์นี่น่า…
จริงๆ ผมก็สงสัยอยู่ว่ามันใช่เรือเวทมนตร์จริงๆ หรือเปล่า
ในเมื่อผมสามารถทำความสะอาดมันได้เพียงแค่ผมคิดว่าจะให้มันสะอาด
น้ำกับเชื้อเพลิงก็สามารถเติมได้เพียงแค่คิดเหมือนกัน
ดังนั้นบางทีผมอาจเรียกมันว่าเรือเวทมนตร์ได้อยู่ล่ะมั้ง?
“ผมคิดว่าถ้าจะให้เปรียบเทียบ เรือสำราญสุดหรูก็คงเหมือนกับเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ที่มีแต่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายล่ะมั้งครับ”
“มีห้องพัก ร้านค้าที่ ร้านอาหารสุดหรู อยู่บนนั้น และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านความบันเทิงที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้ ล่ะมั้ง…”
ผมก็ไม่เคยขึ้นเรือสำราญสุดหรูเหมือนกัน ดังนั้นผมจึงทำได้แค่จินตนาการเอาเท่านั้น
“ฉันนึกภาพไม่ออกเลยค่ะ แต่ฉันก็ตั้งหน้าตั้งตารอมันนะคะ”
“มีอะไรที่ไม่เข้าใจไหม เฟลิเซีย?”
“มีหลายอย่างที่ฉันยังไม่เข้าใจค่ะ แต่ฉันพอรู้วิธีใช้พวกมันแล้ว ดังนั้นถ้ามีอะไรเพิ่มเติมฉันจะถามคุณนะคะ นายท่าน“”
“อืม ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม ถามผมมาได้เลยนะ”
“เราจะออกเดินทางต่อในเร็วๆ นี้ พวกเธอทั้งสองสามารถไปใช้เวลาว่างได้ตามต้องการเลยนะ”
หลังจากนั้นไม่นานพวกเธอก็นำถ้วยชามาเสิร์ฟ
“ต้องการชาสักถ้วยไหมคะ นายท่าน?”
“ขอบคุณครับ ผมขอพักแปปแล้วกัน”
ขณะที่กำลังสนทนากับพวกเธอ ผมก็คิดขึ้นได้..ว่า นี่ไม่ใช่ชีวิตของผู้ชนะไม่ใช่เหรอไง? สาวสวยสองคนบนเรือสำราญ นี่มันชีวิตของผู้ชนะไม่ใช่เหรอ!
แต่อาหารอร่อยๆ กับเครื่องดื่มดีๆ และความบันเทิงยังมีไม่เพียงพอ
หากผมสามารถได้เรือสำราญสุดหรูมาครอบครองล่ะก็
ผมก็จะสามารถเรียกชีวิตแบบนี้ว่าชีวิตแบบผู้ชนะได้อย่างเต็มปาก
ดังนั้น ผมต้องทำงานหนักขึ้นอีก…
เราออกเดินทางไปจนถึงเย็น จากนั้นก็มารับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน
จากนั้นก็ไปเล่นกันในห้องมาสเตอร์ และเข้านอน
ในเช้าวันที่ห้าของชีวิตที่มีแต่ความสุขนี้
เราถูกสัตว์ทะเลขนาดใหญ่โจมตีเป็นครั้งแรก
“นายท่าน นายท่าน ฉันขอเวลาแปปนึงได้ไหมคะ”
“หืมม? มีอะไรแต่เช้าเหรอ?”
ผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ปกติแล้วพวกเธอจะรอให้ผมตื่นเองไม่ใช่เหรอ แล้วไหนล่ะจูบอรุณสวัสดิ์?
และเมื่อผมตื่นขึ้นมาเต็มที่ ผมก็เห็นเฟลิเซียที่อยู่ตรงหน้าผม กำลังมองมาที่ผมด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
“มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
“ค่ะ ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไงดีค่ะ นายท่าน…เอ่อ…ซีเซอร์เพนท์กำลังโจมตีเรือลำนี้อยู่ค่ะ”
“อะไรนะ…เอาล่ะ ผมจะไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ผมลุกออกจากเตียงและมุ่งหน้าไปยังดาดฟ้าท้ายเรือ
ซึ่งไอเนสกำลังมองดูร่างของซีเซอร์เพนท์ที่กำลังพุ่งเข้ามาชนเรือลำนี้อยู่อย่างสนุกสนาน
ดูเหมือนเธอจะมีความตื่นตะหนกอะไรเลยกับเหตุการณ์นี้
แต่ถึงแม้ซีเซอร์เพนท์จะพุ่งชนเรือซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่มีแรงสั่นสะเทือนอะไรส่งมาถึงตัวเรือเลย ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก
“อาร๊า อรุณสวัสดิ์ค่ะนายท่าน”
เธอเดินเข้ามาหาผมและจูบอรุณสวัสดิ์ผม เฟลิเซียที่ลืมจูบก็รีบวิ่งเข้ามาจูบผมเหมือนกัน ทั้งคู่ดูผ่อนคลายกันดี
“โอ้ ริมุ อย่าเข้าไปใกล้มากนะ มันอันตราย“”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ริมุจึงสนใจเจ้าซีเซอร์เพนท์มากและพยายามเข้าไปใกล้ๆ มัน
ผมจึงรีบอุ้มมันขึ้นมา
“…?…”
ทำไมถึงส่ง “?” มาให้ผมแบบนั้นล่ะ
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีคะ นายท่าน?”
“เอ่อ บาเรียนี้คงไม่มีวันถูกทำลายหรอก?”
“ผมว่าตอนนี้เราไม่น่าจะเป็นอะไร”
“แต่แบบนี้มันออกจะ… ไอเนส เฟลิเซีย พอจะจัดการมันได้ไหม”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าฉันพอจะสามารถสร้างความเสียหายให้มันได้อยู่ แต่มันอาจหนีไปก่อนที่ฉันจะเอาชนะมันได้”
“ถ้ามันจะหนี เราก็แค่ต้องปล่อยมันไป คิดยังไงคะ นายท่าน”
“อืม พวกเธอไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองเพื่อเอาชนะมันก็ได้”
“เข้าใจล่ะ งั้นก่อนที่เราจะโจมตีมันอย่างจริงจัง“”
“นายท่านคะ นายท่านควรโจมตีไปที่เจ้าซีเซอร์เพนท์ก่อนนะคะ”
“เพราถ้าพวกเราเอาชนะมันได้ นายท่านจะได้เลเวลอัพไปด้วยยังไงล่ะคะ”
“อย่างนั้นเหรอ? งั้นให้ริมุโจมตีด้วยก็แล้วกัน ริมุเลเวล 1 ผมคิดว่ามันน่าจะเลเวลเพิ่มขึ้นมากเลย”
ผมหยิบธนูออกมาแล้วยิงไปที่เจ้าซีเซอร์เพนท์หลายนัด มันดูไม่สะทบสะท้านอะไรเลยด้วยซ้ำ
แถมทุกนัดที่โดนก็เด้งออกไปอีก ผมล่ะสงสัยว่าว่าจะได้ประสบการณ์จากการอะไรแบบนี้จริงๆ เหรอ?
หลังจากนั้น ผมก็ให้ริมุยิงก้อนหินไปใส่เจ้าซีเซอร์เพนท์ และแน่นอนว่ามันไม่ได้ผล แต่ดูเหมือนริมุจะสนุกกับมัน
“……”
“มันดูไม่ได้ผลเลยอะไรเลยนะ?“”
“ไม่เป็นไรค่ะ แบบนี้ โอเคแล้ว”
“ถ้าเราสามารถเอาชนะเจ้าซีเซอร์เพนท์ได้ เราจะเลเวลอัปด้วยกันหมด”
“เฟลิเซีย เตรียมเวทย์สายฟ้าที่ทรงพลังที่สุดเอาไว้ ฉันก็จะใช้เวทย์ไฟที่ทรงพลังที่สุดเหมือนกัน”
“เมื่อ ฉันให้สัญญาณ เราจะโจมตีไปพร้อนกันนะ”
“อืม”
ทั้งสองคนวาดวงเวทย์ขนาดใหญ่และซับซ้อนขึ้นมาด้วยไม้เท้าของพวกเธอ
“พร้อมนะ…”
“อืม”
“เอาเลย”
วงเวทย์ส่องแสงจากนั้นก็ปรากฎเป็นเปลวเพลิงและสายฟ้าฟาดใส่เจ้าซีเซอร์เพนท์
ฮะ? พวกเธอไม่ตะโกนชื่อท่ากันหรอกเหรอ!? ไว้ผมจะลองไปถามพวกเธอทีหลัง
เสียงดังสนั่น พร้อมกับมีไอระเหยกระจายไปทั่วมั้งบริเวณที่ผมมองเห็นจากนั้นก็จางหายไป
และที่นั่นก็ปรากฎร่างของเจ้าซีเซอร์เพนท์ ที่ถูกโจมตีจนสะบักสะบอมแต่ยังคงมีชีวิตอยู่
ว้าวมันยังไม่ตายล่ะ! ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งจริงๆ
“มันดูโกรธมาก แต่ไม่ยักมีท่าว่าจะหนี ลองอีกครั้งดูมั้ย?“”
“อืม”
เจ้าซีเซอร์เพนท์ดูโกรธจัดมาก จึงพุ่งเข้าใส่เรือด้วยลำตัวของมัน และยิงกระสุนเวทมนตร์นัดที่สองใส่งูทะเล
“มันหนีไปได้เหรอ!?”
“ไม่ ฉันคิดว่าเราจัดการมันได้ มันไม่กระตุกกระติกเลยตอนที่มันจม”
“พวกเราต้องเอาซีเซอร์เพนท์ไปด้วยนะคะ นายท่าน”
“มันคงน่าเสียดายแย่ ถ้าเราจะทิ้งมันไปแบบนี้”
“เอ๊ะ? อ๋อ เอ่อ จริงๆ แล้ว…”
“ผมไม่ได้เตรียมอะไรที่เอาไว้ใช้ทำแบบนั้นมาเลยน่ะครับ”
“คราวนี้คงต้องปล่อยผ่านไปก่อน เอาไว้คราวหน้าค่อยไปซื้อเชือกหรืออะไรพวกนั้นกันครับ”
ไอเนสดูเสียดายมา ในขณะที่เธอจ้องมองไปที่เจ้าซีเซอร์เพนท์ที่กำลังจมอยู่ในน้ำ
“ซีเซอร์เพนท์นี่ แพงมั้ย?”
“ค่ะ เมื่อเทียบกับมังกรทะเลแล้ว พวกมันมีราคาที่ถูกกว่า”
“แต่โดยพื้นฐานแล้วสัตว์ประหลาดทะเลขนาดใหญ่ มักจะแข็งแกร่งมากและเอาชนะได้ยากค่ะ”
“ดังนั้นพวกมันจึงมีมูลค่าที่สูงมากค่ะ ยิ่งคลาสที่อยู่ในตระกูลของซีเซอร์เพนท์แบบนี้แทบจะไม่มีประวัติว่าสามารถเอาชนะไม่ได้เลยอีก”
“ดังนั้นมันจึงมีค่าสูงมากอาจเทียบเท่าเหรียญแพลทินัมด้วยซ้ำค่ะ”
“ห๊ะ! เราต้องการเชือก คราวหน้าต้องเอามันกลับไปให้ได้”
“การถูกโจมตีโดยซีเซอร์เพนท์นั้นปกติแล้วจะทำให้เรือเวทย์มนตร์ส่วนใหญ่ล่มค่ะ”
“แต่ด้วยเรือลำนี้ เราไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“ต่อให้ต้องเจอกับสัตว์ประหลาดที่โดยปกติต้องเตรียมใจที่จะตายหากต้องเผชิญหน้ากับมัน”
“เอาล่ะๆ ไปทานมื้อเช้ากันก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะทำอะไรต่อไปแล้วกัน…”
“โอ้ ฉันกำลังหิวเลยค่ะ งั้นเรามาทำแบบนั้นกันเถอะ”
“ได้ค่ะ พวกเราจะไปเตรียมอาหารไว้ให้เองค่ะ นายท่าน”
“ส่วนคุณก็…ไปแต่งตัวนะคะ…”
“อ๊ะ!”
ผมลืมไปเลยว่าออกมาทั้งๆ ที่ใส่กางเกงในแค่ตัวเดียว
ที่ซีเซอร์เพนท์โกรธแบบนั้นต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แน่เลย
งั้นผมรีบกลับไปเตรียมตัวแล้วค่อยไปตรวจสอบค่าสถานะของผมตอนกินอาหารเช้าดีกว่า…
ชื่อ : โทโยมิ วาตารุ
อายุ 20
อาชีพ : กัปตันเรือ
เลเวล : 45
ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 980พลังเวทย์มนตร์: 96ความแข็งแกร่ง: 100 สติปัญญา: 110ความคล่องแคล่ว: 106โชค: 15
สกิล
ความเข้าใจภาษา (เฉพาะ)เรียกเรือ เลเวล 3 (เฉพาะ)การใช้หอก เลเวล 1ยิงธนู เลเวล 1เวทย์ชีวิตประจำวัน เลเวล 1ฝึก เลเวล 1
ชื่อ : ริมุ
เผ่าพันธุ์: โฮลี่สไลม์
อายุ: 0
อาชีพ: ของรักของหวงของวาตารุ
เลเวล : 33
ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 650พลังเวทย์: 114ความแข็งแกร่ง: 67สติปัญญา: 79ความคล่องแคล่ว: 71โชค: 30
สกิล
เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ เลเวล 1เวทย์ฟื้นฟู เลเวล 1การย่อย/การดูดซึมต้านการโจมตีทางกายภาพ
ชื่อ : ไอเนส
เผ่าพันธุ์: พยัคฆ์เพลิง
อายุ: 19
อาชีพ: ทาสของวาตารุ
เลเวล : 85
ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 1700พลังเวทย์: 594ความแข็งแกร่ง: 394 สติปัญญา: 82ความคล่องแคล่ว: 126โชค: 25
สกิล
เวทย์เพลิง เลเวล 3วิชาดาบ เลเวล 3ศิลปะการต่อสู้ เลเวล 2ตรวจจับ เลเวล 3เสริมพลังทางกายภาพ เลเวล 4
ชื่อ : เฟลิเซีย
เผ่าพันธุ์ : ดาร์กเอลฟ์
อายุ: 62
อาชีพ: ทาสของวาตารุ
เลเวล : 97
ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 1020พลังเวทย์: 1850ความแข็งแกร่ง: 102สติปัญญา: 278ความคล่องแคล่ว: 188โชค: 18
สกิล
เวทย์สายฟ้า เลเวล 3เวทย์บาเรีย เลเวล 3ยิงธนู เลเวล 3 ศิลปะการใช้มีดสั้น เลเวล 2 ตรวจจับ เลเวล2 เสริมพลังทางกายภาพ เลเวล 2
“สุดยอด ไอเนส เลเวล เพิ่มขึ้นมาตั้ง 7 เลเวล ส่วน เฟลิเซีย 5 เลเวล”
“ริมุ เพิ่มขึ้นมา 32 เลเวล ส่วยผมเพิ่มขึ้นมา 25”
“อุฟุฟุ ยิ่งเลเวลของคุณสูงขึ้น การจะอัพเลเวลก็จะยิ่งยากขึ้นต่างไปด้วยค่ะ”
“แต่อย่างที่คาด การเอาชนะมอนสเตอร์ระดับ A ที่ใกล้เคียงกับระดับ S ได้”
“ทำให้เลเวลอัพได้มากจริงๆ”
“ใช่แล้ว ถ้าไม่มีเรือลำนี้ พวกเราคงไม่สามารถสู้กับมันได้เลยด้วยซ้ำ”
ซีเซอร์เพนท์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์จริง
ผมคิดว่ามันดูแข็งแกร่ง แต่ไม่คิดว่ามันจะแข็งแกร่งขนาดนี้
เพราะตอนที่มันชนเรือ มันไม่ได้รู้สึกสะเทือนอะไรเลย
“ริมุเลเวลอัพแล้ว เป็นยังไงบ้าง?”
“……ริมุ….มีความสุข…..”
“โอ้ ริมุพูดสองคำได้แล้ว”
“สุดยอดเลย ริมุ เป็นเพราะสติปัญญาของมันเพิ่มขึ้นหรือเปล่าน่ะ…”
“การเลเวลอัพนี่มันสุดยอดจริงๆ เลยน้า….”
“…ริมุ มีความสุข…”
“สุดยอดเลย ริมุ เก่งมากๆ”
“…ริมุ มีความสุข…”
ทั้งสองคนมองมาด้วยรอยยิ้มแห้งๆ บนใบหน้า
ในขณะที่ผมกำลังพูดคุยกับริมุ….
ยอดเงินคงเหลือ: 2 เหรียญแพลตตินัม 2 เหรียญทอง 15 เหรียญเงิน 10 เหรียญทองแดง
บ่นไปเรื่อยหลังจบตอน
ก็จบไปอีกตอนแล้วนะครับ ตอนนี้ก็ได้เลเวลอัพกันไปทุกคนเลย
เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็มีเรื่องอย่างจะมาถามอีกเช่นเคย
กับคำศัพย์ต่างๆ ว่าจะใช้อะไรดีระหว่าง
ซีเซอร์เพนท์ กับ งูทะเลยักษ์
สะพานเดินเรือ กับ ห้องคนขับ
หรือมีคำอื่นๆ แนะนำก็แนะนำกันเข้ามาได้นะครับ
MANGA DISCUSSION