เบื้องหน้าของผมตอนนี้คือป่าต้องห้ามสุดอันตรายจนถูกขนานนามว่า ป่าปีศาจ
ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเรากำลังจะเข้าไปสำรวจ แต่จากเท่าที่ดู
ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะต่างอะไรกับป่าธรรมดาที่ผมเคยเข้าไปสำรวจตอนที่อยู่ที่เมืองทางตะวันตกเลยสักนิด
แต่จากที่ได้ยินมาป่านี้เป็นสถานที่ที่แม้แต่นักผจญภัยระดับสูงก็ยังอยากที่จะหลีกเลี่ยง…ผมชักเริ่มอยากกลับบ้านแล้วสิ
“วาตารุซัง ใกล้ได้เวลาออกเดินทางแล้วนะคะ”
อลิเซียเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับรอยยิ้ม ทำไมเธอถึงได้มีความสุขขนาดนั้นล่ะ?
พวกเรากำลังจะเข้าไปในป่าที่แม้แต่นักผจญภัยแรงค์ A ยังแทบจะเอาตัวไม่รอดกันนะ
ผมสงสัยว่าเธอไม่รู้สึกประหม่าเลยเหรอ ถึงแม้ผมจะสามารถอัญเชิญเรือได้ก็เถอะ แต่แบบนี้…
“อลิเซียซัง ป่าปีศาจก็เป็นสถานที่ที่อันตรายสำหรับจิราโซเล่เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ?
นี่คุณไม่รู้สึกประหม่าอะไรบ้างเลยเหรอ หรือเพราะรู้ว่ามีบาเรียอยู่ก็เลยไม่เป็นไร?”
“ก็คงใช่ค่ะ ฉันรู้ว่ามันเป็นป่าปีศาลเป็นสถานที่ที่อันตราย แต่พวกเรามีบาเรียของวาตารุซังอยู่
ดังนั้นฉันคิดว่าพวกเราไม่น่าจะเป็นอะไร กลับกันแทนที่จะรู้สึกกังวลฉันกลับรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าค่ะ
เพราะพวกเราอาจจะเข้าไปถึงจุดที่ยังไม่เคยมีใครไปสำรวจมาก่อนก็ได้
แล้วก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ พวกเราจะเป็นคนคุ้มกันวาตารุซังเองค่ะ”
อลิเซียซัง นี่เป็นนักผจญภัยตัวจริงเสียงจริงเลยสินะ การได้ไปสำรวจสถานที่ที่ไม่เคยมีใครไปมาก่อน
คงจะทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยสินะ…แต่ผมกลับไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เลยสักนิด…
“ครับ งั้นผมจะอัญเชิญเรือยางออกมานะครับ”
“รบกวนด้วยนะคะ”
ผมอัญเชิญเรือยางออกมา 3 ลำ จากนั้นก็พลิกมันกลับด้าน
โดยพวกเราจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ อลิเซียซัง มารีน่าซัง อัลม่าซัง และฟูจัง อยู่ในเรือลำแรก
ผม ไอเนส เฟลิเซีย และริมุ อยู่ตรงกลาง โดโรธีซัง คาร์ล่าซัง และคลอเร็ตต้าอยู่ลำท้าย
โดยพวกเราจะเดินเรียงแถวกันในรูปแบบของแถวตอนเรียงหนึ่ง
เพื่อมุ่งหน้าเข้าไปสู่ใจกลางของป่าปีศาจ…แต่แล้วไม่นานทุกอย่างก็พังไม่เป็นท่า
ไม่ใช่ว่าเราโดนมอนสเตอร์โจมตีทันทีหลังจากเข้าไปในป่าหรอกนะ
แต่พอพวกเราเดินลึกเข้าไปก็ต้องพบกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพุ่มไม้หรือกิ่งไม้ที่ขวางทางอยู่
ที่ก่อนหน้านี้พวกเราไม่เจออะไรก็เพราะบริเวณรอบนอกของป่า
ได้มีการเคลียร์ทางบ้างไปบางส่วนแล้วเพราะเหตุผลในการพัฒนาพื้นที่
แต่พอลึกเข้าไปแม้พวกเราจะเลือกเส้นทางที่ดูง่ายที่สุดแล้ว ก็ยังคงติดอุปสรรคไปตลอดทางอยู่ดี
ถ้ามีแค่เรือของผมลำเดียวมันก็ไม่ยากเท่าไหร่เรื่องการอนุญาต
แต่พอเป็นเรือหลายลำ แถมลำข้างหน้าผมยังมองไม่เห็นทางอีก
จึงทำให้การอนุญาตแต่ละครั้งยากลำบากมาก
ตอนแรกอลิเซียซังกับคนอื่นๆ พยายามตัดทางเพื่อหลบเลี่ยงพวกต้นไม้หรือไม่ก็พุ่มไม้ต่างๆ
แต่สุดท้ายไม่ว่าพวกเธอจะพยายามตัดทางเลี่ยงขนาดไหนมันก็ไม่ได้ผลอยู่ดี
ดังนั้นพวกเราเลยตัดสินใจว่าจะกลับออกมาเพื่อวางแผนกันใหม่
หลังจากถกเถียงกันมาเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเราก็ตัดสินใจว่าจะไม่ใช้เรือยาง
นั่นทำให้ผมรู้สึกเสียใจไม่น้อยเลยล่ะ เพราะความพบพยายามทั้งหมดของผมมันสูญเปล่า
เรากลับมาใช้แผนง่ายๆ อยากการให้จิราโซเล่ ไอเนส และเฟลิเซีย
ยืนคุ้มกันโดยที่มีผมอยู่ตรงกลางในขณะที่เดินสำรวจป่า
โดยที่ผมมีหน้าที่อัญเชิญเรือออกมาเพื่อเป็นที่หลบ ในกรณีที่มอนสเตอร์ถูกกระตุ้นและรุมกันเข้ามาโจมตีพวกเรา
พวกเราจัดเรียงรูปขบวนกันใหม่แล้วเข้าไปสำรวจป่าอีกครั้ง
คราวนี้พวกเราเข้าไปได้ลึกกว่าเดิมโดยไม่มีปัญหาอะไร แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านี่เป็นแผนที่ดีไหม
การถูกล้อมด้วยไปด้วยทุกคนมันก็ดีอยู่หรอก แต่พอไม่มีบาเรียแบบนี้
ผมก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะแม้แต่ตอนที่แมลงตัวเล็กๆ บินผ่านผมก็รู้สึกสะตุ้ง
ผมรู้ตัวขึ้นมาในทันทีเลยว่า ตัวเองในตอนนี้ติดการพึ่งพาบาเรียจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว
ตอนที่ผมมาที่โลกนี้ใหม่ๆ ยังไม่ถึงขนาดนี้เลย เพราะผมเคยเข้าไปสำรวจป่าด้วยตัวคนเดียวมาแล้ว
แต่พอใช้ชีวิตสบายๆ จนเคยตัว มันกลับทำให้จิตใจของผมอ่อนแอลงเรื่อยๆ ซะงั้น
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ค่ะ วาตารุซัง พวกเราจะปกป้องคุณเอง”
“ขอบคุณมากครับ คลอเร็ตต้าซัง แต่ถึงจะพูดอย่างงั้นผมก็อดไม่ได้”
“ฟุฟุ นั่นอาจจะเป็นเพราะยังไม่ชินก็ได้นะคะ ฉันคิดว่าเดินทางไปอีกหน่อยคุณจะปรับตัวได้เองค่ะ
เพราะถ้ายังเอาแต่เกร็งอยู่แบบนั้นคุณจะเหนื่อยไปซะก่อน ดังนั้นมาพยายามผ่อนคลายกันเถอะค่ะ”
“ค-ครับ”
อืม…ก็ถูกของคลอเร็ตต้าซัง เพราะตั้งแต่ที่ผมไม่ได้อยู่ในเขตของบาเรีย ผมก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีเลย
เอาเถอะ ทนๆ ไปก่อนก็แล้วยังอีกหน่อยก็น่าจะชินอย่างที่คลอเร็ตต้าซังบอกนั่นล่ะ
อีกอย่างผมยังได้ยินมาว่ามอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในป่าพวกเธอสามารถจัดการมันได้สบาย
ดังนั้นรูปแบบขบวนในปัจจุบันจึงถือว่ามีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว
เพราะยิ่งสำรวจได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งได่ออกจากป่าปีศาจเร็วเท่านั้น
ผมพยายามไม่มองพวกมอนสเตอร์แมลงที่โผล่มาโจมตีเป็นระยะๆ
ยังโชคดีที่พวกมันโดนกำจัดได้ในพริบตา เลยไม่ถึงกับฝังใจ
แต่ผมก็อยากให้พวกมันไม่โผล่มากวนใจผมได้แล้ว
“วาตารุซัง นั่นลิงคลั่งค่ะ”
ผมหันไปตามทิศที่คลอเร็ตต้าซังบอก ก็เห็นลิงที่มีขนสีน้ำตาลอ่อน…
ขนาดตัวประมาณเด็กอนุบาลเกาะอยู่บนกิ่งไม้ที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก พวกมันมีหอยู่ลายตัวเลยทีเดียว
“…มันดูน่ารักกว่าที่คิดนะครับ”
“ค่ะ แต่ถึงจะดูน่ารักยังไง สุดท้ายพวกมันก็เป็นมอนสเตอร์อยู่ดีค่ะ ดังนั้นห้ามประมาทนะคะ”
“ครับ ผมจะระวัง”
ไม่ว่าผมจะพูดยังไง ผมก็ไม่มีทางประมาทแค่เพราะมันดูน่ารักหรอก
ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าลิงคลั่ง ดังนั้นผมไม่มีวันประมาทมันเด็ดขาด
“แล้วพวกเราจะทำยังไงกับมันครับ จะกำจัดเลยไหม?”
“ไม่ค่ะ ถ้ามันไม่เข้ามาโจมตีพวกเรา เราก็จะไม่ไปยุ่งกับมันค่ะ
เพราะเราไม่รู้ว่าการโจมตีจะไปกระตุ้นพวกมันหรือเปล่า”
อ่อ แบบนี้นี่เองเพราะแบบนี้ทุกคนถึงทำตัวสบายๆ กันสินะ
แต่ถึงจะทำอย่างนั้นพวกเธอก็ระมัดระวังกันอยู่ตลอด สมกับเป็นนักผจญภัยแรงค์ A
พวกเราเดินลึกเข้าไปในป่าเรื่อยๆ โดยหลีกเลี่ยงกลุ่มของเจ้าพวกลิงคลั่ง
แต่พวกมันกลับกระโดดตามหลังพวกเรามาเรื่อยๆ มันกระโดดจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่งโดนที่เว้นระยะห่างเอาไว้
พวกมันไม่ได้เข้ามาโจมตี แต่คอยจับตาดูพวกเราอยู่เฉยๆ
ซึ่งผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เอาซะเลย พวกเรายังคงเดินทางแต่ไป
โดยที่เวลาได้ผ่านไปสักพักหนึ่งแล้ว แต่พวกมันก็ยังตามติดเราอยู่ห่างๆ เหมือนเดิม…
“มันตามพวกเรามาตลอดทางเลย พวกมันมัแผนอะไรอยู่หรือเปล่าครับ?”
ผมหันไปถามคลอเร็ตต้าซังที่เดินอยู่ข้างๆ
“แผนเหรอคะ? อืม…อาจจะรอจังหวะตอนที่เราถูกมอนสเตอร์ตัวอื่นโจมตีอยู่ก็ได้นะคะ”
“เอ่อ…แบบนั้นมันจะไม่เป็นอันตรายเหรอครับ?”
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราจัดการพวกมันได้สบายอยู่แล้ว”
ช่างเป็นคำพูดที่ฟังแล้วอุ่นใจจริงๆ สมแล้วที่เป็นนักผจญภัยแรงค์ A
ถึงเธอเป็นนักบวชสาวอกใหญ่ที่ดูใจดี…และตอนโกรธจะดูน่ากลัวนิดๆ แต่สุดท้ายเธอก็เป็นนักผจญภัยตัวจริงสินะ…
“ฝากด้วยนะครับ”
“ฟุฟุ ไว้ใจได้เลยค่ะ”
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินต่อไปเรื่อยๆ มีการหยุดพักบ้างเป็นระยะๆ
เราถูกโจมตีโดยหมาป่าพยาบาทและมอนสเตอร์แมลงอยู่หลายครั้ง แต่ทุกคนก็จัดการกับพวกมันได้อย่างง่ายดาย
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังอดกังวลไม่ได้ว่าเมื่อไหร่พวกมอนสเตอร์จะเกิดคลั่งขึ้นมา
แต่ดูเหมือนจะโชคดีที่วันนี้พวกเราไม่ต้องมาเจอกับอะไรแบบนั้น
หลังอาหารเย็น ผมอัญเชิญเรือกระท่อมออกมา 3 ลำ กับเรือยางสำหรับเฝ้ายามอีก 1 ลำ
พวกเราจัดเวรยามกันและแยกย้ายกันไปพักผ่อน โดยมีลิงคลั่งคอยจ้องเราอยู่ห่างๆ
แต่พอผมจะเข้านอนก็ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากข้างนอก
พอเปิดประตูออกไป ก็เห็นลิงคลั่งกำลังพุ่งเข้าโจมตีเรือยางอยู่
พวกมันแยกเขี้ยวและร้องเสียงแหลมจากนั้นก็กระโดดใส่เรือยาง
แต่สุดท้ายก็โดยบาเรียดีดจนกระเด็นออกไป มารีน่าซังกับคาร์ล่าซังที่เฝ้ายามอยู่จึงสามารถจัดการกับพวกมันได้อย่างง่ายดาย
ไม่กี่นาทีหลังจากที่มันเข้ามาโจมตีลิงคลั่งทั้งหมดก็ถูกจัดการด…
โชคดีที่การโจมตีครั้งนี้พวกมันไม่ถูกกระตุ้น พวกเราเลยสามารถนอนกันต่อได้อย่างสบายใจ
เช้าวันรุ่งเขึ้น…หลังจากได้รับจูบอรุณสวัสด์จากไอเนสและเฟลิเซียแล้ว
ผมก็ลุกขึ้นไปเตรียมตัวอุ้มริมุขึ้นมาวางไว้ที่บนหัวจากนั้นก็ออกจากเรือกระท่อม
ผมทักทายทุกคนจากนั้นพวกเราก็ทานข้าวเช้าพร่อมกัน
พวกเธอบอกว่าลิงคลั่งได้เข้ามาโจมตีพวกเราอยู่หลายครั้งเกือบตลอดทั้งคืน…
แต่โชคดีที่พวกมันไม่ถูกกระตุ้น ไม่งั้นเมื่อคืนพวกเราได้เจอกับฝูงมอนสเตอร์แน่
จากที่ได้เคยยินบางทีแม้แต่การเหยียบเข้ามาในป่าก็ทำให้พวกมันถูกกระตุ้นแล้ว
แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นซึ่ง ถือว่าพวกเราโชคดีมาก
เพราะตั้งแต่ที่พวกเราเข้ามาในป่าจำนวนสูงสุดของมอนสเตอร์ที่เข้ามาโจมตีพวกเรามีเพียงแค่ 15 เท่านั้นเอง
…แต่ผมไม่คิดว่าเราจะโชคดีแบบนี้ตลอดไปหรอกนะ ดังนั้นต้องรีบสำรวจป่าให้มันจบๆ
เรายังคงมุ่งหน้าเข้าไปยังใจกลางของป่าปีศาจ
ตอนนี้ผมเองก็เริ่มชินกับบรรยากาศภายในป่าบ้างแล้ว
ผมเเดินไปพลางกอดริมุเอาไว้ในอ้อมแขนไปพลางเพื่อความสบายใจ
พวกมอนสเตอร์ที่เข้าส่วนใหญ่สามารถถูกจัดการได้อย่างง่ายดาย ทำให้ตอนนี้ผมรู้สึกสบายขึ้นเยอะ
แต่แล้ว…เมื่อทุกคนจัดการกับหมาป่าพยายาทตัวหนึ่ง
จู่ๆ ก็มีเสียงหอนของหมาป่าดังระงมสั่นสะท้านไปไปทั่วทั้งป่า…
“วาตารุซัง รีบอัญเชิญเรือยางออกมาด่วนเลยค่ะ”
“ค-ครับ!”
ตามคำพูดของอลิเซียซัง ผมรีบอัญเชิญเรือยางออกมาในทันที
“ทุกคนขึ้นเรือได้เลยครับ”
เมื่อได้ยินเสียงของผม ทุกคนก็แยกย้ายกันไปขึ้นเรือตามที่ได้วางแผนกันไว้
เสียงเห่าหอนของหมาป่าพยาบาทเริ่มดังใกล้เข้ามาทุกทีและในที่สุดก็มีพวกมันตัวหนึ่งโผล่ออกมา
จากนั้นพริบตาเดียวบริเวณรอบๆ ก็เต็มไปด้วยหมาป่าพยาบาท
“นี่มันทริกเกอร์แล้วใช่ไหม?”
ผมถามไอเนสกับเฟลิเซียขณะที่มองดูพวกหมาป่าที่กำลังบุกเข้ามาโจมตีแบบไม่หยุดยั้ง
“น่าจะใช่ค่ะ แต่ฉันคิดว่านี่คงจะยังไม่ใช่แบบเต็มรูปแบบ
เพราะตอนนี้มีแค่หมาป่าพยาบาทเพียงชนิดเดียวที่เข้ามาโจมตีพวกเราค่”
…ที่ไอเนสพูดมาก็ดูมีเหตุผล ถ้าขนาดนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ แล้วทริกเกอร์ของจริงมันจะขนาดไหนกันนะ?
“ก็นั่นสินะ…”
“เราจะเอายังไงกันต่อดีคะ นายท่าน?”
“อืม…ลองปรึกษากับทุกคนดูก่อนแล้วกันค่อยตัดสินใจ”
ผมหันไปเรียกจิราโซเล่ที่อยู่ในเรือลำข้างๆ
“ทุกคน มาวางแผนกันก่อนดีกว่าครับ ว่าเราจะทำยังไงกันต่อไปดี?”
“ค่ะ…เพราะถึงรีบกำจัดมันไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นอยู่ดี”
ทุกคนหยุดการโจมตีและชั้นหน้ามาที่เรือยางของผม จากนั้นอลิเซียซังก็กระโดดมาที่เรือยางของผม
เพราะเรือยางมันแคบ เลยมีแค่อลิเซียซังเท่านั้นที่มา แต่ถึงคนอื่นๆ จะไม่มา
แต่พวกเราก็สามารถคุยกันได้เพราะเรือทั้ง 3 ลำอยู่ใกล้กันมากๆ
“เฮ้อ…ถึงจะได้ยินมาแล้วก็เถอะว่าพวกมันมีเยอะ แต่ก็ไม่คิดเลยว่ามันจะมีกันเยอะขนาดนี้
ขนาดนี่ยังไม่รวมพวกแมลงกับลิงคลั่งเข้าไปนะคะ ฉันไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเราไม่มีบาเรียของวาตารุซังมันจะเป็นยังไง…”
“ใช่ค่ะ แค่หมาป่าพยาบาทก็เยอะถึงขนาดนี้แล้ว ถ้ามีพวกแมลงกับลิงคลั่งเข้ามาร่วมด้วยอีกล่ะก็…
พวกเราคงได้แต่หนีหัวซุกหัวซุน หรือไม่ก็ถูกฆ่าไปแล้วแน่ๆ ค่ะ ถ้าไม่มีบาเรียของวาตารุซัง”
ผมฟังความคิดเห็นของอลิเซียซังกับโดโรธีซัง แล้วลองจินตนาการภาพตามดู…
อึ๋ย! แค่คิดก็สยองแล้ว ตอนนี้รอบๆ ก็เต็มไปด้วยหมาป่าพยาบาทอยู่แล้ว ถ้ามีพวกแมลงมาเพิ่มล่ะก็…
“งั้นเราค่อยๆ กำจัดไปมันไปทีละนิดดีมั้ยคะ วาตารุซัง?”
“ครับ เอาแบบนั้นก็ได้ เพราะถึงจะอัญเชิญเรือแล้ววิ่งหนีผมก็คิดว่าไม่น่าจะหนีพ้นเหมือนกัน
แล้วไหนจะมีพวกมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ อีก เรามางค่อยๆ กำจัดพวกมันแล้วดูสถานการณ์กันก่อนดีกว่าครับ”
เมื่อวางแผนกันเสร็จทุกคนก็เริ่มโจมตีหมาป่าพยาบาทกันอีกครั้ง
ผมเองก็ร่วมสู้ด้วยโดยแทงหอกใส่หมาป่าที่ถาโถมกันเข้ามา
ผมแทงแบบเดิมซ้ำๆ อยู่หลายครั้งจนไม่ได้นับแล้วว่าผมแทงไปทั้งหมดเท่าไหร่ หวังว่าสกิลการใช้หอกของผมจะเลเวลอัพบ้างนะ
จิราโซเล่เองก็โจมตีพวกมันไม่หยุดเหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะระเบิดหรือเผาพวกมันไปมากเท่าไหร่
ก็ดูไม่มีที่ท่าว่าพวกมันจะหยุดเลย เพราะถ้าตัวเก่าตายก็มีตัวใหญ่เพิ่มเข้ามาแทบจะในทันทีพวกมันกรูกันเข้ามาไม่หยุด
ที่น่าทึ่งคือ ริมุก็โจมตีกับเขาด้วยและฟูจังเองก็โจมตีเหมือนกัน พวกเขาปล่อยเวทมนตร์ใส่พวกหมาป่ากันอย่างคล่องแคล่วเลยล่ะ
…ผมพอใจกับเวทมนตร์ในชีวิตประจำวันแล้ว แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกอยากเรียนเวทโจมตีขึ้นมาบ้างแล้วสิ
แต่ความคิดนั้นก็หยุดลงในทันที…เพราะพวกมอนสเตอร์แมลงและลิงคลั่งกระโจนกันเข้ามาร่วมแจมแล้วยังไงล่ะ!!
MANGA DISCUSSION