ตอนนี้พวกเรามาถึงทะเลเปิดใกล้ๆ กับอาณาจักรเจอราห์แล้ว
ก่อนที่จะถึงฝั่ง ผมจะจัดการแปลงโฉมลูโตะให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน…
ผมจะเปลี่ยนมันให้คล้ายกับเรือเวทมนตร์ลำอื่นๆ จะได้ไม่มีใครแยกออก
เวลาที่มองผ่านไปผ่านมา จะได้แยกไม่ออกว่าเรือลำไหนเป็นลำไหน
ภายในเรือเองก็ถูกดัดแปลงเหมือนกัน ผมทำการเปลี่ยนห้องน้ำและห้องอาบน้ำภายในมาสเตอร์เบดรูม
เป็นหนึ่งเดียวกับผนังและทำให้มันเป็นห้องลับ แบบนี้ก็น่าจะพอรอดตัวจากการตรวจค้นได้แล้ว
แต่…มันจะดูน่าสงสัยถ้าไม่มีสินค้าอะไรอยู่บนเรือเลย งั้นเอาพวกไวน์จากปาแลร์โม่
กับเหล้ากลั่นที่ได้มาจากทวีปทางใต้ออกมาโชว์ไว้น่าจะดีกว่า เพราะถ้าเป็นพริกไทยคงดูน่าสงสัย
“งั้นเราก็ขึ้นฝั่งกันเถอะ เมืองที่อลิเซียซังจะไปหาข้อมูลคือเมืองที่ชื่อว่าคาร์ปีที่อยู่ใกล้ๆ กับป่าปีศาจใช่ไหมครับ?”
“ใช่ค่ะ เพราะมันอยู่ใกล้กับป่าปีศาจที่สุดในแง่ของระยะทาง แต่ถ้าเราใช้เส้นทางอื่นก็น่าจะย่นระยะทางลงมาได้อีก
แต่จะยุ่งยากตอนเข้าออกถ้าไม่ใช่มนุษย์ เราเลยจะไปนัดพบกันแถวๆ ชายป่าแทน
ฉันได้ยินมาว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วันในการเดินทางไปถึงที่นั่น
ถ้าคิดรวมเวลาที่จะต้องใช้ในการหาข้อมูลด้วยแล้ว ก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 5 วันค่ะ
ช่วยมารับฉันในตอนเย็นของวันที่ 5 ที่ตรงนี้ทีนะคะ แต่ถ้ามาแล้วไม่พบก็ให้รออีก 3 วัน
แต่ถ้าเกิน 3 วันไปแล้วฉันยังไม่กลับมา ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่ามันอะไรเกิดขึ้น
แล้วให้รีบไปติดต่อกับกิลด์นักผจญภัยทันทีค่ะ”
“เข้าใจแล้ว แต่…เมืองคาร์ปีมันอันตรายถึงขนาดที่พวกคุณอาจจะไม่ได้กลับมาเลยเหรอ?”
“เปล่าค่ะ แค่กันเอาไว้ก่อน เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้นบ้าง”
เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่แม้แต่นักผจญภัยแรงค์ A ก็อาจจะรับมือไม่ได้อย่างงั้นเหรอ…? เมืองนั้นมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยสินะ
“เข้าใจแล้วครับ ยังไงก็ระวังตัวกันด้วยนะครับ”
“ค่ะ ฉันจะระวังตัว ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
ก็แปลกดีที่ต้องมานั่งห่วงนักผจญภัยแรงค์ A ที่แค่เข้าเมืองไปหาข้อมูลแบบนี้
งั้นลองปล่อยใจให้สบาย แล้วรอตอนรับการกลับมาของพวกเธอน่าจะดีกว่า
เมื่อมาถึงชายป่า อลิเซียซัง โดโรธีซัง มารีน่าซัง และฟูจัง ก็ออกเดินทางไปยังเมืองคาร์ปี
แต่ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็ดูเหมือนป่าธรรมดาๆ ทั่วไป
ผมนึกว่ามันจะมีบรรยากาที่ดูศลึกลับมากกว่านี้หรือไม่ก็มีก๊าซประหลาดพวยพุ่งออกมาซะอีก…
เพราะไม่มีอะไรให้ทำตลอด 5 วัน ผมเลยตัดสินใจว่าจะกลับไปที่ทะเลเปิด
เรียก สตรองโฮลด์ ออกมาจากนั้นก็ใช้ชีวิตสบายๆ รอให้พวกอลิเซียซังกลับมา…
พักนี้รู้สึกว่าทำแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ แฮะ เพราะแต่ละวันของผมสลับกันไปมาระหว่าง
ดูหนัง ดีวีดี อ่านมังงะ อาบน้ำ กินบุฟเฟ่ต์ สวีทกับสาวๆ
หรือไม่ก็เปลี่ยนเรือไปที่ฟอร์เทรสหรือไม่ก็ไฮด์อเวย์
อย่างไรก็ตามไม่ว่าชีวิตของผมจะสุขสบายขนาดไหน ผมก็ยังอยากได้เรือสำราญอยู่ดี
ถ้าได้มันมาล่ะก็ กิจกรรมที่มีให้ทำก็คงจะเยอะกว่านี้…
อีกอย่างการที่ผมคิดแต่เรื่องที่จะสนุกอะไรกับไอเนสเมื่อได้เรือสำราญมาแล้ว มันจะผิดไหมนะ?
เหมือนว่าความต้องการทางเพศของผมมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเลเวลที่เพิ่มขึ้นยังไงยังงั้น
หรือไม่ผมก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เพราะตอนที่มาโลกนี้ใหม่ๆ
ผมเคร่งครัดกับตัวเองมากเกินไปเลยไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ล่ะมั้ง…
ตอนนี้เหลืออีก 312 เหรียญทองคำขาว ก็จะซื้อเรือสำราญสุดหรูได้แล้ว
สมมติว่าขายพริกไทย 1 ครั้งได้เงิน 72 เหรียญทองคำขาว
ก็ต้องขายทั้งหมด 5 ครั้งถึงจะได้ 360 เหรียญทองคำขาว…
ถ้า 5 ครั้งก็ต้องใช้เวลาประมาณ 10 เดือน เพราะต้องเว้นระยะรอบละ 2 เดือน…
นานเหมือนกันแฮะ จะอดทนอีก 10 เดือน หรือจะเพิ่มปริมาณพริกไทยที่ขายต่อรอบดีนะ?
ไม่สิ หรือจะย่นระยะเวลาระหว่างรอบลงดี…คิดไม่ออก งั้นเอาไว้คิดดูอีกทีคราาวหลังละกัน
5 วันผ่านไป ผมมารับพวกของอลิเซียซังตามที่ได้นัดหมายกันไว้
และสามารถพบกับพวกเธอได้โดยไม่มีปัญหา ในระหว่างที่เรือกำลังแล่นกลับไปที่ทะเลเปิด
พวกเราก็ได้มานั่งคุยกัน
“ขอบคุณสำหรับความเหน็ดเหนื่อยนะครับ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้างไหมครับ?”
“ไม่มีค่ะ แถมเรายังได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กลับมาด้วย
แต่สำหรับวาตารุซัง ฉันคิดว่ามันเป็นทั้งข่าวดีแล้วก็ข่าวไม่ดีค่ะ”
ผมดีใจนะที่ทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัย แต่ข่าวไม่ดีสำหรับผมงั้นเหรอ?
พักนี้มีแต่เรื่องยุ่งยากเข้ามา จนผมเดาไม่ออกเลยว่ามันเป็นเรื่องอะไร
หรือว่า! ป่าปีศาจมันอันตรายกว่าที่คิด หรือ ไม่ก็เรื่องเกี่ยวกับจอมเวทอีกแล้ว?
“พอได้ยินแบบนั้นผมก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาหน่อยๆ แล้วสิ
ข้อมูลนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรเหรอครับ อลิเซียซัง?”
“นายท่าน! มีเรือกำลังเข้ามาใกล้ค่ะ!”
เอ๊ะ? อะไรนะ!?
“อาร๊า…คงจะเป็นการสุ่มตรวจค้นสินะค่ะ วาตารุซัง ช่วยซ่อนพวกเรารวมถึงริมุจังกับฟูจังด้วยนะคะ”
“รับทราบครับ!”
จู่ๆ ก็มีการสุ่มตรวจเลยอย่างงั้นเหรอ!?
แบบนี้ยิ่งทำให้ผมอยากรู้ข้อมูลที่อลิเซียซังจะบอกมากขึ้นไปอีกนะสิ…
แต่ตอนนี้ต้องรีบจัดการกับ ริมุ ฟูจัง แล้วก็ทั้ง 5 คนก่อน
ต้องรีบเอาพวกเธอกับสัมภาระเข้าไปซ่อนในห้องน้ำกับห้องอาบน้ำ
แล้วผมจะพรางประตูให้มันกลายเป็นผนัง เพราะถึงจะสุ่มตรวจแต่พวกเขาก็คงไม่ถึงกับทุบผนังเข้าไปหรอก…มั้ง?
พอz,หยุดเรือ ทหารที่มาพร้อมเรือเวทมนตร์ก็ตะโกนขึ้นมาว่า
“นี่คือการตรวจค้นของอาณาจักรเจอราห์ ทุกคนที่บนเรือให้ออกมายืนเข้าแถวอยู่ข้างนอก!”
เราทำตามคำสั่ง และขึ้นมาเข้าแถวที่ตรงดาดฟ้าหลังเรือ
และในเวลาเดียวกันทหาร 3 นาย ก็กระโดดขึ้นมาบนเรือ…
ฟู่…โชคดีชะมัดที่ผมอนุญาตให้พวกเขาขึ้นเรือได้ทันพอดี ไม่งั้นถ้าพวกเขาโดนบาเรียดีดออกไปได้ยุ่งยากแน่ๆ
“ใครเป็นเจ้าของเรือ?”
“ผมเองครับ”
ผมชักเริ่มตื่นเต้นแล้วสิ ถึงจะไม่ได้ทำผิดอะไรก็เถอะ
“ขอดูบัตรประจำตัวหน่อย”
“นี่ครับ”
“หือ! พ่อค้าแรงก์ F… ทำไมพ่อค้าแรงก์ F ถึงมีเรือเวทมนตร์ได้?
แถมยังพยายามแล่นเรือออกจากฝั่งในเวลาแบบนี้อีก…”
ก็ผมไม่ได้อัพแรงก์นี่นาเพราะไม่เห็นประโยชน์อะไรในการอัพแรงค์
แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับสถานการ์อะไรแบบนี้ รู้งี้อัพไว้หน่อยก็น่าจะดี ต้องรีบคิดข้อแก้ตัวแล้ว…
“คือ พอดีผมมีเส้นทางการค้าส่วนตัวนะครับ เลยไม่จำเป็นต้องเลื่อนแรงก์
แล้วผมก็ไม้ได้จะออกเรือไปไหนด้วย ผมแค่พยายามจะหาที่ทอดสมอให้ไกลจากตรงนี้น่ะครับ
เพราะแค่ผมเห็นป่าปีศาจอยู่ในระยะสายตาก็ทำให้ผมรู้สึกขนลุกแล้ว”
ข้ออ้างมันฟังดูมั่วเกินไปหน่อยหรือเปล่านะ!?
“อืม…ข้าก็เคยได้ยินเรื่องแบบนนี้บ้างว่าการมีเรือเวทมนตร์และเส้นทางการค้าเป็นของตัวเอง
จะทำกำไรได้อย่างมหาศาล ช่างน่าอิจฉาจริงๆ แต่หนีเพราะแค่กลัวป่าปีศาจเนี่ยจะไม่ดูขี้ขลาดไปหน่อยเหรอ?”
“ฮ่าๆ เพราะผมขี้ขลาดนี่ล่ะครับ ผมถึงทำธุรกิจมาได้ถึงทุกวันนี้”
“…ก็อาจจะจริง แต่เราจำเป็นต้องตรวจสอบตัวตนของผู้หญิงพวกนั้น และตรวจสอบสินค้าบนเรือด้วย”
“ค-ครับ”
อลิเซียซังกับคนอื่นๆ ก็โชว์บัตรกิลด์ของตัวเองให้ดู ทันใดนั้นผมก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้…
ปกติเวลาแบบนี้ผมควรให้สินบนหรืออะไรพวกนั้นไปไม่ใช่เหรอ? ดันลืมไปซะสนิทเลย
“นักผจญภัยแรงก์ A งั้นเหรอ!? นี่เจ้าจ้างนักผจญภัยแรงก์ A มาเป็นผู้คุ้มกันเลยงั้นเหรอ!
เจ้าคงทำเงินได้มากจริงๆ สินะ แต่มันก็ยังดูน่าสงสัยอยู่ดี ข้าขอเข้าไปตรวจสินค้าดูหน่อยแล้วกัน”
“ครับ”
เขาดูสงสัยผมหนักเลย อยากย้อนเวลากลับไปแล้วเริ่มใหม่จัง…
แต่ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็คงต้องตามน้ำไปล่ะนะ
ผมจะไวน์กับเหล้าที่เตรียมไว้ให้เขาดู
“ไวน์จากปาแลร์โม่งั้นเหรอ…แล้วถังนี้ล่ะ?”
“ถังนั้นเป็นเหล้ากลั่นจากทวีปทางใต้ครับ มันหายากมากเลยผมเลยซื้อเก็บเอาไว้”
“แต่มีของแค่นิดเดียวเองนะ ปกติพ่อค้าจะต้องขนของจนเต็มลำเรือเลยไม่ใช่เหรอ
ช่วยอธิบายเรื่องนี้หน่อยให้ข้าฟังหน่อยสิ?”
“ก็อย่างที่บอก ผมมีเส้นทางการค้าเป็นของตัวเอง
ดังนั้นแค่การขายสินค้าหลักก็สามารถทำให้ผมมีกำไรแล้ว
ไวน์และเหล้าพวกนี้เป็นแค่ส่วนประกอบเฉยๆ…”
“หืม แล้วสินค้าหลักที่ว่าคืออะไร?”
“ผมจำเป็นต้องบอกด้วยเหรอครับ?”
“จะไม่บอกก็ได้ แต่ตราบใดที่ข้ายังสงสัยข้าก็ปล่อยเจ้าไปไม่ได้”
หืม…จะบอกว่าผมขายพริกไทยดีไหมนะ ปกติปิดไว้เพราะมันวุ่นวาย
แต่ถ้าไม่บอกก็คงจะไปไหนไม่ได้… ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว
บอกความจริงไปเลยแล้วกัน แล้วค่อยบอกไปว่าผมขายมันไปหมดแล้ว
“…เข้าใจแล้วครับ จะบอกก็ได้ จริงๆ แล้วผมทำการค้าพริกไทยน่ะ”
“พริกไทย! นี่เจ้าค้าพริกไทยอย่างงั้นเหรอ? แล้วพริกไทยอยู่ไหนล่ะ”
“ไม่มีแล้วครับ ผมขายไปหมดแล้วตอนที่ไปที่ปาแลร์โม่
แต่ผมยังมีชุดเครื่องเทศรวมที่ใช้เป็นของส่วนตัวเหลืออยู่นิดหน่อย คุณจะดูไหมครับ”
“อืม ไหนเอามาดูซิ”
ผมยื่นชุดเครื่องเทศรวมในครัวให้เขาดู จากนั้นเขาก็หยิบไปตรวจดูอย่างละเอียด
แล้วก็ถือไว้ในมือโดยที่ไม่ยอมคืนมา…แบบนี้หมายความว่าอยากได้สินะ?
“ขอโทษนะครับ ที่มันเหลืออยู่แค่นี้ ถ้าไม่รังเกียจเชิญเอามันกลับไปได้เลยครับ”
“หืม? งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้น ข้าขอรับมันไว้แล้ว”
จากนั้นเขาก็แค่เดินดูรอบๆ เรือและลงจากเรือไป
อ๊า…เมื่อกี้ผมพึ่งได้เห็นมุมสกปรกๆ ของโลกนี้สินะ
แล้วแบบนี้ผมจะกลายเป็นคนสกปรกไปด้วยหรือเปล่านี่ที่ให้สินบนเขาไปอย่างนั้น…
“ตอนที่มาตรวจ พวกเขาเอาแต่พูดว่าน่าสงสัยๆ อยู่นั่นแหละ
แบบนี้มันตั้งใจที่จะมาหาเงินตั้งแต่แรกเลยไม่ใช่เหรอครับ?”
“ฟุฟุ นั่นสิคะ ไหนๆ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว ฉันว่าคุณไปปล่อย 5 คนนั้นออกมาได้แล้วล่ะค่ะ”
“จริงด้วย! เดี๋ยวผมจะรีบไปเอาพวกเธอออกมานะครับ”
ผมยกเลิกการแปลงเรือ และปล่อยทั้ง 5 คนออกมา
ทุกคนดูดีใจที่ได้ออกมาจากที่แคบๆ ผมเข้าใจความรู้สึกเลยล่ะเพราะผมก็เคยติดอยู่ใรห้องน้ำเหมือนกัน
ต่อไปต้องหาที่ซ่อนที่ดีกว่านี้แล้วล่ะ… แต่เรือมันก็ลำเล็กนิดเดียว จะไปซ่อนที่ไหนได้อีกนะ
ผมอุ้มริมุที่กระโดดเข้ามาใส่ไว้แน่น
“ริมุ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร”
“ดีแล้วล่ะ”
ขณะที่ผมกำลังกอดริมุ เฟลิเซียก็เข้ามาคุยด้วย
“นายท่าน การตรวจค้นผ่านไปได้ด้วยดีไหมคะ?”
“อ-อืม…จะเรียกว่าผ่านไปด้วยดีหรือเปล่าก็ไม่มันใจเหมือนกัน คือ…เขาเอาเครื่องเทศรวมไปชุดหนึ่งน่ะ”
“เอ๊ะ! เอาไปแค่นั้น ก็ถือว่าผ่านมาได้ด้วยดีไม่ใช่เหรอคะ?”
เฟลิเซียทำหน้าตกใจเล็กน้อย ถึงจะโดนเอาเครื่องเทศไปก็เถอะ
แต่ก็เป็นแค่ของใช้แล้วที่เตรียมเอาไว้เป็นของฝาก ความเสียหายก็เลยแทบจะไม่มี… งั้นก็ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดีแล้วกัน
หลังจากออกไปที่ทะเลเปิด ผมก็ตั้งระบบนำทางอัตโนมัติใหม่
แล้วกลับไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมน้ำชา ผมเล่าเรื่องการตรวจค้นให้ทุกคนฟัง
จากนั้นทุกคนก็ต่างทำหน้างงเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรดีออกมา เมื่อได้ยินเรื่องสินบน…
มันก็แพงอยู่นะ เพราะมันมีพริกไทยปนอยู่ในนั้นด้วย…คนรอบๆ ตัวผมเป็นอะไรกันไปหมดแล้วเนี่ย…?
“ว่าแต่ ข้อมูลที่เป็นข่าวไม่ดีก่อนหน้านี้ คืออะไรเหรอครับ?”
“เอ๊ะ? อ๋อ มันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับป่าปีศาจน่ะคะ”
ดูเหมือนอลิเซียซังจะลืมไปแล้วสินะ…
ถ้าไม่ได้บอกไว้ก่อนว่ามันเป็นข่าวไม่ดี ผมก็คงลืมไปแล้วเหมือนกัน
“จากที่พวกเราไปหาข้อมูลเกี่ยวกับปีศาจป่ามา เราได้ข่าวมาว่าตอนนี้ภายในป่า
กำลังมีมอนสเตอร์ประเภทแมลงจำนวนมากออกอาละวาดอยู่ค่ะ…
นั้นทำให้ฉันคิดว่ามันเป็นข่าวที่ไม่ดีสำหรับวาตารุซัง แล้วก็…”
“…เฟลิเซีย ขอโทษนะ ผมว่าเราไปที่ป่าอื่นกันเถอะ ทุกคนเองก็…”
“วาตารุซัง ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณนะคะ แต่ไม่ว่าเราจะไปที่ป่าไหน มันก็ต้องเจอกับแมลงอยู่ดีค่ะ”
นั่นสิ! อลิเซียซังพูดถูก เพราะไม่ว่าจะไปป่าไหนยังไงก็ต้องมีแมลงอยู่แล้ว…
เพราะงั้นผมควรฟังรายละเอียดให้จบก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะไปดีไหม
“…เข้าใจแล้วครับ เชิญเล่าต่อได้เลย”
“ค่ะ ฉันจะสรุปข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมาให้ฟังนะคะ”
จากข้อมูลที่อลิเซียซัง โดโรธีซัง และมารีน่าซังหามาได้
ภายในปีศาจป่าไม่ได้มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งอะไรมากมายนัก
เพราะส่วนใหญ่เป็นมอนสเตอร์แรงค์ D และ C แต่ปัญหาคือมันอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่
และเวลาที่เข้าโจมตีจะโจมตีเข้ามาทั้งกลุ่มเลย โดยแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
มอนสเตอร์แมลง ลิงคลั่ง และ หมาป่าพยาบาท ซึ่งว่ากันว่าถ้าถูกกระตุ้นด้วยอะไรบางอย่างขึ้นมาเมื่อไหร่
พวกมันจะเข้ามาโจมตีในทันทีและจะไม่หยุดโจมตีจนกว่าผู้บุกรุกจะหนีออกจากป่า หรือไม่ก็ตายไป
ลิงคลั่งกับหมาป่าพยาบาทงั้นเหรอ? ช่างเป็นชื่อที่ไม่น่าฟังเลยสักนิด ยิ่งเจ้าพวกแมลงยิ่งไม่ต้องพูดถึง…
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่กระตุ้นมัน เพราะบางครั้งแค่ก้าวเข้าไปในป่าพวกมันก็บุกเข้ามาโจมตีแล้ว
นอกจากนี้ ยังไม่รู้ด้วยว่ากลุ่มไหนที่ถูกกระตุ้น บางครั้งจัดการกับกลุ่มหนึ่งได้แล้ว
ก็มีอีกกลุ่มตามเข้ามาโจมตีต่อ หรือไม่ก็โถมกันเข้ามาทั้ง 3 กลุ่มเลยก็มี
พลังของ 1 ตัว ว่ากันว่านักผจญภัยแรงค์ B สามารถจัดการกับมันได้อย่างง่ายดาย
แต่ถ้าเกิดทริกเกอร์ขึ้นเมื่อไหร่ พวกมันเกือบทั้งป่าจะกรูกันเข้ามาโจมตีทันที
ถึงขั้นที่กองทัพเองก็ยังรับมือไม่ได้ และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่นี้ได้
โดยเฉพาะมอนสเตอร์แมลงที่เป็นชนิดที่น่ากลัวที่สุด ว่ากันว่ามันสามารถควบคุมแมลงชนิดเดียวกันภายในป่าได้
ไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ มันจะโจมตีเข้ามาแบบไม่หยุดหย่อนเลยล่ะ แค่ฟังผมก็ขนลุกแล้ว
แม้แต่มอนสเตอร์อันตรายในป่าก็ยังสู้กลุ่มแมลงที่ถูกกระตุ้นแล้วไม่ได้
เพราะมีบางครั้งที่มอนสเตอร์หนีออกมาจากป่า และพวกที่หนีออกมาก็มีมอนสเตอร์แรงค์ A ปะปนอยู่ในนั้นด้วย
พลังของจำนวน ช่างน่ากลัวจริงๆ…ถ้าเป็นพลังของนักผจญภัยแรงค์ S จะรับมือกับมันไหวไหมนะ?
ราชอาณาจักรเจอราห์เองก็ล้มเหลวในการพัฒนาป่าปีศาจมาหลายครั้งแล้ว
แต่เพราะผลประโยชน์ที่พวกเข้าจะได้รับจากการพัฒนาป่าปีศาลนั้นมากมายมหาศาล
นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้ในเรื่องการพัฒนาป่าปีศาจ
ว่ากันว่าที่ราชอาณาจักรเจอราห์หันไปยึดหลักมนุษย์เป็นใหญ่ ก็เพราะพวกเขาต้องการที่จะใช้แรงงาน
เผ่ามนุษย์สัตว์หรือไม่ก็เผ่าพันธ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ในการบุกเบิกพัฒนาพิ้นที่
และได้มีการทดลองทำมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งยิ่งทำมากเท่าไหร่ความเสียหายก็ยิ่งลดลงเท่านั้น
หลังๆ พวกเขาสามารถต้านทานการโจมตีของทั้ง 3 กลุ่มได้นานขึ้นเรื่อยๆ
ผมเองก็อยากเลี่ยงการเข้าไปในป่าเหมือนกัน แต่อลิเซียซังบอกว่าถ้ามีสกิลอัญเชิญเรือ
พวกเราจะสามารถสำรวจป่ากันได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นการกิน นอน หรือแม้กระทั้งต่อสู้กับมอนสเตอร์ได้อย่างไม่มีปัญหา
แต่ผมไม่อยากถูกล้อมไปด้วยมอนสเตอร์และแมลงหรอกนะ…และเมื่อถามเรื่องห้องน้ำ
ก็ได้คำตอบว่าแค่มีเรือยางพวกเราก็สามารถทำธุระกันได้แล้ว…แต่ผมทำไม่ได้ไง!
คงต้องคิดหาวิธีอัญเชิญลูโตะหรือไม่ก็ไฮด์อเวย์ออกมาบนบกซะแล้ว
แต่ที่ทำให้ผมคิดบวกกับการสำรวจป่าปีศาจ ก็เพราะข่าวดีที่อลิเซียซังเอามาบอก
นั่นคือ มีการพบลูกธนูและกับดักในป่า ซึ่งแตกต่างไปจากของที่ราชอาณาจักรเจอราห์ใช้
ลูกธนูแล้วก็กับดักในป่าอย่างงั้นเหรอ…หมายความว่ามีใครบางคนอาศัยอยู่ในป่าสินะ
แม้นักผจญภัยจะไม่ค่อยเข้าไปสำรวจ และจะไม่มีใครไปตั้งกับดักถ้าไม่คิดที่จะกลับมาเก็บ
ถึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นมนุษย์สัตว์ที่หนีออกมา…
แต่ผมก็หวังว่าที่จะเจอกับดาร์กเอลฟ์อยู่นะ จะได้คุ้มกับที่ต้องมาทนกับแมลงที่ผมไม่ชอบหน่อย
หลังจากประชุมวางแผนกันอยู่สักพัก ในที่สุดพวกเราก็ตัดสินใจว่า
พรุ่งนี้จะเริ่มการสำรวจป่าปีศาจกัน ขอให้หาเจอง่ายๆ ทีเถอะ
ทันมังงะแล้วนะครับตอนนี้
MANGA DISCUSSION