เช้าแล้วเหรอ…?
หือ! เช้าแล้ว? แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านลงมาทางหน้าต่างทำให้ผมรู้สึกตัว
จากนั้นผมก็รู้สึกเย็นวาบไปจนถึงไขสันหลัง เฟลิเซีย!
ผมรีบมองสำรวจไปรอบๆ ตัวด้วยความลนลานและไปสะดุดเข้ากับสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองมาที่ผม
เฟลิเซีย เธอกำลังจ้องมองมาที่ผมพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน…
“ผ-ผม ขอโทษ เป็นยังไงบ้าง เฟลิเซีย?”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ นายท่าน”
ไม่ดี แบบนี้มันไม่ดีเลย… ผมไม่ควรไปปลดปล่อยความปรารถนาทั้งหมดของตัวเองกับเธอแบบนั้น
ผมเอาแต่พูดว่า “อีกครั้ง อีกครั้ง…” วนซ้ำไปเรื่อยๆ แบบนั้น
ถึงพละกำลังของผมจะดูไม่มีทีท่าว่าจะหมดเลยก็ตาม แต่แบบนี้มันก็มากเกินไปอยู่ดี
ผมควรเป็นฝ่ายที่ต้องดูแลเธอไม่ใช่เหรอ? ผมต้องอ่อนโยนกับเธอสิ และนี่มัน…
แถมตอนนี้ยังรู้สึกว่าสายตาที่เธอมองมาที่ผม มันเหมือนกับสายตาของแม่
ที่กำลังมองมาที่ลูกด้วยความอ่อนโยน หลังจากที่ออกไปเล่นจนหมดแรงแล้วเลย
อ๊ากกกกก!!! อายชะมัดเลย…
“ร-เรา ไปอาบน้ำกันดีกว่านะ”
ผมคิดว่ากำลังเติมน้ำลงในอ่าง และจินตนาการว่า “ไฮด์อเวย์” จะสะอาดอยู่เสมอ
“ค่ะ”
“เฟลิเซีย ผมขอโทษจริงๆ นะ เธอไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ?”
“ฉันไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ นายท่าน ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“อ-อืม”
ผมรู้นะ ว่าเมื่อคืนเธอพยายามขนาดไหนน่ะ เฟลิเซีย และยิ่งรู้มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น…
จริงๆ เช้าวันนี้มันควรที่จะเป็นเช้าที่สดใสแท้ๆ พวกเราควรตื่นขึ้นมาสบตากัน
มองหน้ากันและพูดคุยกันอย่างขวยเขินที่ได้ทำเรื่องอย่างนั้นด้วยกัน…
แต่ผมกลับทำทุกอย่างพังหมดผมข้ามช่วงเวลาที่มันควรจะเป็นที่เวลาที่ขวบเขินและโรแมนติกไปหมดเลย
แถมยังลากยาวไปจนถึงเช้าอีก… ผมนี่มันบ้าจริงๆ ให้ตายสิ
“อ๊ะ นายท่าน ลูโตะ มาโน่นแล้วค่ะ”
“หืม อา ใช่ งั้นเราออกไปรับพวกเขากันเถอะ”
“ค่ะ”
“อรุณสวัสดิ์ นายท่าน เมื่อคืนสนุกกันดีไหมคะ?”
“อ-อืม”
“อย่างงี้นี่เอง… งั้นขอฉันเข้าไปหน่อยได้ไหมคะ?”
“ได้สิ เข้ามาเลย”
“อุฟุฟุ ขอบคุณค่ะ”
จากนั้นไอเนสก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า
อึก! สายตาของผมมันกำลังจองมองไปยังร่างที่เปลือยเปล่าของไอเนส…
จากนั้นไม่นานผมก็ได้สติเพราะริมุกระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของผม
เห้อ…ผมนี่มันจริงๆ เลย ขนาดเมื่อคืนปลดปล่อยออกไปตั้งขนาดนั้นแล้ว
แต่ก็ยังมารู้สึกตื่นเต้นกับอะไรแบบนี้อีก… การเลเวลอัพมันช่วยเพิ่มแรงขับดันทางเพศอย่างงั้นเหรอ?
หรือไม่ผมก็เป็นคนอย่างงี้มาตั้งแต่แรกแล้ว? จำได้ว่าตอนอยู่ญี่ปุ่นก็ไม่ขนาดนี้นะ…
“นี่ นายท่าน ตาของคุณแดงแจ๋เลยค่ะ… เมื่อคืนได้นอนบ้างหรือเปล่าคะเนี่ย?”
“เอ่อ…”
“อุฟุฟุ ฉันไม่ถามก็ได้ค่ะ”
“อืม อย่าถามเลยนะ ผมคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่เราจะกลับขึ้นฝั่งแล้ว
เรากลับไปที่หมู่บ้าน แล้วงีบหน่อยหลังจากถึงเกาะ”
“ค่ะ”
พวกเรากลับมายังเกาะดาร์กเอลฟ์ แล้วงีบอยู่บนลูโตะจนกระทั่งถึงเที่ยง (ก่อนหน้านี้ไปทะเลเปิด)
ไอเนสเองก็ไม่ค่อยได้เหมือนเหมือนกันเมื่อคืนนี้
เธอจึงมานอนด้วยกันกับผมและเฟลิเซีย
จากนั้นพวกเราก็ไปกินมื้อกลางวันกัน
“อร่อยมากเลย งั้นหลังจากพัก พวกเราก็ไปที่หมู่บ้านกันดีไหม?”
“ค่ะ”
พวกเรานั่งพักกันเล็กน้อยก่อนจะมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้าน
ผมแอบกังวลอยู่หน่อยๆ เพราะเมื่อวานทุกคนดื่มกันไปเยอะมาก
ผมกลัวว่าวันนี้พวกเขาจะตื่นไม่ไหวกัน
เมื่อพวกเราเดินทางไปถึงที่หมู่บ้าน ผมทักทายกับยามที่หน้าประตู
แล้วก็เดินเข้าไปในหมู่บ้าน จากนั้นก็ตรงไปยังบ้านของคุณหัวหน้าหมู่บ้าน
“หือ? ดูเหมือนคนจะน้อยๆ นะ หรือผมคิดไปเอง?”
“นายท่านไม่ได้คิดไปเองหรอกค่ะ สาเหตุมันก็ชัดๆ อยู่”
“ดูเหมือนพวกเขาจะดื่มกันหนักเลยสินะเมื่อคืน”
“น่าจะใช่ค่ะ ฉันว่าทุกคน่าจะกำลังเมาค้างหรือไม่ก็กำลังฟื้นตัวจากการเมาค้างอยู่แน่เลย”
“ผมก็คิดงั้นเหมือนกัน”
เมื่อเรามาถึงบ้านของคุณหัวหน้าหมู่บ้านและเคาะประตู เซซิเลียซังก็เปิดประตูออกมาต้อนรับ
“ขอโทษนะคะ วาตารุซัง สามีของฉันกำลังนอนพักอยู่เพราะเมาค้างน่ะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ จริงๆ ผมก็สงสัยอยู่ว่าคนทั้งหมู่บ้านวันนี้คงจะเมาค้างกันหมดแน่เลย
เพราะระหว่างทางมานี่ผมแทบไม่เห็นคนเดินไปไหนมาไหนเลย”
จริงๆ ผมก็รู้อยู่แล้วล่ะว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เพราะตั้งแต่ตอนที่ผมไปบอกลาคุณหัวหน้าหมู่บ้าน เขาก็เมาอยู่ก่อนแล้ว
“ใช่ค่ะ คนที่ดูแลไร่กับพวกสัตว์เลี้ยงก็ออกมาทำงานกันแค่เท่าที่จำเป็น
จากนั้นก็กลับไปนอนกัน เลยทำให้หมู่บ้านเงียบแบบนี้ค่ะ “
“ฮ่าๆ แสดงว่าพวกเขาดื่มกันต่อหลังจากที่ผมกลับไปสินะครับ ว่าแต่ดื่มกันถึงตอนไหนเหรอครับ?”
“ผู้หญิงส่วนใหญ่กลับมากันหลังจากที่วาตารุซังออกไปประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
ส่วนพวกที่เหลือก็นั่งดื่มกันต่อจนกระทั่งน๊อคไปค่ะ พวกเขานอนกันเกลื่อนลานกลางหมู่บ้านเลย
จนกระทั้งก่อนรุ่งสางถึงรู้สึกตัวกันและแยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ สามีฉันเองก็หนึ่งในนั้น”
“ก็เป็นงานเทศกาลนี่นะครับ มันห้ามกันไม่ได้หรอก”
คุณหัวหน้าหมู่บ้านดูเหมือนจะยกเลิกข้อห้ามในเวลากลางคืนแล้วสินะ
ผมแน่ใจว่าเขาเป็นคนรักษาคำพูด แต่…แบบนี้จะให้ชมมันก็ยังไงอยู่
“ฟุฟุ ใช่ค่ะ เมื่อวานฉันเองก็สนุกมากเหมือนกัน เลยว่าจะไม่บ่นอะไร”
“ดีแล้วล่ะครับ ถ้าคุณหัวหน้าหมู่บ้านฟื้นแล้วต้องมานั่งฟังเทศ ก็คงลำบากเหมือนกัน”
พวกเราคุยกันเล็กน้อยแล้วผมก็ออกจากบ้านของคุณหัวหน้าหมู่บ้าน
ระหว่างเดินผ่านหมู่บ้านที่เงียบสงบเพื่อจะออกไปข้างนอก
ผมก็ได้ยินเสียงเด็กๆ ดังขึ้น และเห็นพวกเขาวิ่งเล่นกันอยู่ที่ชายหมู่บ้าน
อืม สายตาของผมเหมือนจะดีขึ้นแฮะ สงสัยเพราะเลเวลที่เพิ่มขึ้น
“อ๊ะ พี่วาตารุ สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ พี่วาตารุ”
“สวัสดีเด็กๆ วันนี้ก็ดูสดใสกันดีนะ”
ก็แน่ล่ะ พวกเด็กๆ ไม่ได้ดื่มเหล้านี่นา… แต่เด็กที่กินเยอะๆ คนนั้นล่ะ…
โอ้ว! ยังดูปกติดีนี่นาค่อยโล่งใจหน่อย ว่าแต่กินเข้าไปขนาดนั้นทำไมถึงยังผอมอยู่เหมือนเดิมล่ะ?
จะว่าไปแล้ว ผมยังไม่เคยเห็นดาร์กเอลฟ์ที่เป็นคนอ้วนเลยนิ
“ผมสบายดีครับ”
“หนูก็สบายดีเหมือนกันค่ะ”
“พี่วาตารุ งานเทศกาลจะจัดอีกมีเมื่อไหร่เหรอคะ?”
“เมื่อไหร่เหรอๆ ?”
“ใช่ค่ะ เมื่อไหร่ดีคะ? เมื่อไหร่ดี?”
“เลี้ยงอีกๆ!”
ดูเหมือนว่างานเทศกาลจะสนุกมากจนพวกเด็กๆ ตั้งตารอครั้งต่อไปกันแล้วสินะ
เมื่อวานทุกคนคงจะสนุกกันสุดๆ เลย แถมพวกผู้ใหญ่ก็น่าจะเริ่มคิดเรื่องงานเทศกาลครั้งต่อไปแล้ว
“อืม งานเทศกาลครั้งหน้าเหรอ?”
“พี่คิดว่าพวกเธอต้องไปถามคุณหัวหน้าหมู่บ้านนะเรื่องนี้”
“หัวหน้าหมู่บ้านเหรอ? งั้นพวกเราไปถามเขากันเถอะ!”
“ไปถามเขา!”
“ถามเลยๆ!”
“อ๊ะ เดี๋ยวๆ ทุกคน คุณหัวหน้าหมู่บ้านกำลังนอนอยู่… อา ไปซะแล้ว”
“เด็กๆ น่ารักดีนะคะ”
“อุฟุฟุ เด็กๆ คึกคักกันจริงๆ”
ยังไม่ทันจะพูดจน เด็กๆ ก็วิ่งออกไปซะแล้ว แต่จะวิ่งตามก็คงพอจะทันอยู่…มั้ง?
“ดูเหมือนหัวหน้าหมู่บ้านจะต้องเหนื่อยหน่อยนะคะ”
“งั้นเหรอ? ผมคิดว่าเซซิเลียซังน่าจะหยุดเด็กๆ ไว้นะ”
“ฉันคิดว่าแม่ของฉันน่าจะต้อนรับพวกเด็กๆ เข้าไปมากกว่าค่ะ”
“ก็นั่นสินะ…”
ขอภาวนาให้คุณหัวหน้าหมู่บ้านพบกับความสงบด้วยเถอะ…
1 เดือนผ่านไปนับจากวันงานเทศกาล
พวกเราใช้ชีวิตไปมาระหว่างหมู่บ้านดาร์กเอลฟ์และลูโตะ
มีการประชุมกันเป็นระยะๆ เพื่อพูดคุยถึงความต้องการในการจัดงานเทศกาลอีกครั้ง
พวกผู้ชายมีความมุ่งมั่นในการเตรียมเครื่องดื่มกันมากๆ พวกเขาได้พยายามทำเหล้าที่สามารถทำได้บนเกาะขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
ส่วนผู้หญิงก็รวมตัวกันเพื่อฝึกร้องเพลงและเต้น รวมถึงฝึกทำอาหารใหม่ๆ ที่ผมได้สอนให้เธอไป
โอเทลโล่กับเจ็งกาก็ได้รับความนิยมเช่นกัน ถึงแม้จะมีเพียงอย่างละชุด
แต่ทุกคนก็สนุกกับมัน ผมคงต้องไปซื้อมาเพิ่มแล้วเอาติดมือมาด้วยในการมาครั้งหน้าแล้วล่ะ
พวกเราไม่ได้ไปที่หมู่บ้านทุกวัน เราออกไปยังทะเลเปิดเป็นครั้งคราว
และเพลิดเพลินไปกับ ไฮด์อเวย์ ฟอร์เทรส และ สตรองโฮลด์ สลับกันไปมาในแต่ละวัน
นอกจากช่วงเวลาสวีทกันตามปกติแล้ว ผมก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นอีก
ผมไม่อยากทำอะไรแบบนั้นในขณะที่ไอเนสนอนอยู่ข้างๆ
เพราะไอ้นั่นมันเกินขอบเขตของ ‘ลามกนิดหน่อย’ ไปไกลมากเลย
ดังนั้นเวลาที่จะทำจริงๆ ไอเนสก็จะพาริมุไปอยู่อีกห้องหนึ่ง
ซักวันพวกเราสามคนต้องอยู่ด้วยกัน ผมตั้งปนิธานไว้ในใจว่าจะต้องหาเงินให้ได้มากๆ
วันนึงเพื่อที่จะอ่านมังงะบน ฟอร์เทรส ได้อย่างสบายใจ
ผมเลยเรียก กาเล็ตต์ กับ กาเล็ตต์หมายเลข 2 ออกมา
และบอกกับพวกเธอว่า ‘ตามสบาย’ พวกเธอก็รีบพุ่งออกไปพร้อมรอยยิ้มสดใสในทันที
ด้วยความที่ไอเนสออกจะอันตรายไปหน่อยเวลาที่เธอตื่นเต้น
ดังนั้นผมเลยขอให้เฟลิเซียเป็นคนดูแลริมุแทน
ตอนกลับมา ไอเนสเล่าให้ฟังถึงความประทับใจที่ได้ขับเรือในวันนี้
เธอบอกว่าถ้าเป็นเรื่องความเร็ว กาเล็ตต์ สนุกกว่าแน่นอน
แต่ถ้าเป็นในกรณีของเกมหลบหนีลูโตะจะสนุกกว่ากาเล็ตต์
ในระหว่างขากลับ เธอบอกว่าการแข่งกันระหว่างเธอกับเฟลิเซียนั้นสนุกมากๆ
กติกาก็ง่ายๆ คือใครกลับมาถึง ฟอร์เทรส ได้ก่อนคนนั้นชนะ
เธอเล่าให้ผมฟังด้วยสีหน้าที่มีความสุขสุดๆ เลย สำหรับผมขอแค่พวกเธอมีความสุขผมก็ดีใจแล้ว
พวกเธอได้ใช้เวลาไปกับเด็กๆ ในหมู่บ้านด้วย ไม่ว่าจะพาเด็กๆ ขับเรือวนไปรอบๆ เกาะ
หรือแม้แต่พาเด็กๆ ไปท้าทายริมุในเกมโอเทลโล่ และทายว่าใครจะชนะริมุได้บ้าง
พอพูดถึงเรื่องนี้ ริมุไม่เคยแพ้ใครเลย เขาชนะหมดทุกตาไม่ว่าจะเล่นกับใคร
จนทำเอาผู้ใหญ่ที่มาท้าด้วยความมั่นใจว่าคงจะไม่แพ้สไลม์หน่อยนา ถึงกับหน้าเสียไปตามๆ กัน
หลังจากใช้ชีวิตแบบไร้ความกังวลอย่างนั้นมาตลอด 1 เดือน
ในที่สุดพวกเราก็จะกลับไปที่เมืองทางใต้กันในวันนี้
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ คุณหัวหน้าหมู่บ้าน”
“ทางเราต่างหากครับที่ต้องขอบคุณ พวกเราได้ทั้งหมู่บ้านใหม้ ทั้งงานเทศกาล
ได้สนุกไปกับการร้องเพลง เต้นรำ โอเทลโล่ เจ็งกา อาหารใหม่ๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ขอบคุณอีกครั้งจริงๆ นะครับ”
“ผมก็มีความสุขเหมือนกันที่ได้ยินแบบนั้น ผมจะกลับมาอีกแน่นอน ช่วยดูแลผมอีกครั้งด้วยนะครับ”
“แน่นอนครับ พวกเราจะรอการกลับมาของคุณ”
พวกเราออกจากเกาะและมุ่งหน้ากลับสู่เมืองทางใต้
ว่าแต่ ผมควรจะเอาอะไรกลับไปเป็นของฝากดีนะ?
เพราะจิร่าโซเล่น่าจะเผยเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับจอมเวทไปแล้ว
ผมลองแวะไปที่ปาแลร์โม่ดี หรือจะลองแกล้งทำเป็นว่าผมเดินทางไปๆ มาๆ กับทวีปทางตอนใต้ดีนะ
…เหล้าที่เหลืออยู่จะพอเป็นของฝากให้พวกผู้ชายได้
แล้วของฝากของคามิลล์ซังล่ะ… อืม อาจจะให้เป็นชุดชงชาพร้อมกับพริกหลากดีกับจี้ปะการังดีไหมนะ?
มันจะดูน่าสงสัยหรือเปล่า แต่ยังไงๆ ผมก็ต้องพยายามกลบเกลื่อนให้ดีที่สุด
ถึงแม้จะ กาเล็ตต์ อยู่แต่พวกเราก็เลือกที่จะเดินทางกันอย่างไม่รีบร้อน
ผมเลยเปลี่ยนไปใช้ ฟอร์เทรส จนกระทั่งถึงครึ่งทางจากนั้นก็ค่อยกลับมาที่ลูโตะ
ผมต้องห้ามลืมเปลี่ยมมันกลับไปเป็นสภาพเดิมด้วย เอาล่ะ แปลงโฉมเรือ
“นายท่าน พรุ่งนี้เราจะถึงเมืองทางใต้กันแล้วใช่ไหมคะ?”
“ใช่แล้วล่ะ”
“แล้วนายท่านมีแผนการยังไงเหรอคะ?”
“อืม ก็ไปซื้อเสบียง จากนั้นก็แวะไปที่ร้านของดอนนิโน่ซังเพื่อซื้อเจ็งกากับโอเทลโล่
แล้วหลังจากนั้น…จะเกิดอะไรขึ้นบ้างผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ มันคงจะวุ่นวายน่าดูเพราะเรื่องของจอมเวท”
“น่าจะใช่ค่ะ ฉันมั่นใจว่านายท่านจะต้องถูกกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์การค้าเรียกตัวไปพบอย่างแน่นอนค่ะ
ดีไม่ดีอาจถูกท่านเคานต์แห่งเมืองทางใต้เรียกไปพบตัวด้วยก็ได้”
“…ที่เธอพูดมาก็ถูก ถ้าจำเป็นจริงๆ ผมจะใช้สกิลอัญเชิญเรือหนีออกมา
แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น ผมจะพยายามทำตัวให้เหมือนกับว่าได้รู้จักกับจอมเวทในระหว่างที่เดินทางด้วยกัน”
“ค่ะ”
“ฉันคิดว่าประเทศอื่นๆ ก็อาจจะกำลังสืบเรื่องของนายท่านอยู่เหมือนกันนะคะ
เราไม่รู้ว่าจะอะไรเกิดขึ้นบ้าง ฉันเลยอยากขอให้จิราโซเล่มาช่วยคุ้มกันเวลาที่นายท่านลงจากเรือด้วยนะคะ”
“อืม แบบนั่นก็ดีเหมือนกัน เอาเป็นว่า ขอให้จิราโซเล่อยู่กับพวกเราจนกว่าสถานการณ์จะสงบลงแล้ว”
“ค่ะ”
พวกเราใช้เวลาในวันนั้นพูดคุยถึงแผนการกันอย่างละเอียด
บรรยากาศมันชวนให้รู้สึกประหม่าจริงๆ พอนึกแล้วก็สงสัย
ทำไมพวกเราต้องมุ่งหน้าไปที่เมืองทางใต้ด้วย ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีเรื่องยุ่งยาก รออยู่…
แต่พอคิดว่า ถ้าไหนๆ มันก็ต้องมีเรื่องยุ่งยากอยู่แล้วไม่ว่าจะไปที่ไหนในทวีปนี้
สู้มาเกิดเรื่องในเมืองทางใต้นี้จะดีกว่า เพราะผมมีทุกๆ คนอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นจิราโซเล่หรือคามิลล์ซัง
ถ้าผมสามารถหลอกพวกเขาได้ ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี…หวังว่าผมจะทำอย่างนั้นได้นะ
ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช้วิธีทรมานแบบป่าเถื่อน แต่ถ้าเป็นวิธีที่ไม่เรียกว่าป่าเถื่อนล่ะ?
พอคิดแบบนี้ ผมจิตใจของผมก็เตลิดเปิดเปิงไปไกลเลยล่ะ
วันรุ่งขึ้น หลังจากจูบอรุณสวัสดิ์
พวกเราก็ไปรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน และมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองทางใต้
เนื่องจากสัญญาเช่าท่าเรือหมดไปนานแล้ว ผมจึงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าจอดไปตามปกติ
และเมื่อลงจากเรือผมก็มุ่งหน้าไปที่กิลด์การค้าทันที
“ดูเหมือนพวกเราจะไม่ถูกจู่โจมแบบกะทันหันนะ ไอเนส เฟลิเซีย พวกเธอรู้สึกถึงอะไรแปลกๆ บ้างไหม?”
“ไม่นะ แล้วเธอล่ะ เฟลิเซีย?”
“ฉันก็ไม่รู้สึกอะไรเหมือนกันค่ะ แต่พวกเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอดแนม ดังนั้นจะประมาทไม่ได้”
“งั้นตรงไปที่กิลด์การค้าทั้งๆ แบบนี้นี่ล่ะจะได้ไม่ดูน่าสงสัย แต่ระวังตัวไว้ด้วยนะ”
“ค่ะ”
พวกเรามาถึงกิลด์การค้าโดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น
และเมื่อเข้าไปข้างใน ผมก็มองหาคามิลล์ซัง เธอจะอยู่แถวนี้หรือเปล่านะ?
“วาตารุซัง!”
ผมหันไปทางต้นเสียงและเห็นคามิลล์ซังกำลังวิ่งเข้ามาหาผม
“สวัสดีครับ คามิลล์ซัง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”
“ค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน…ฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณค่ะ ขอเชิญไปที่ห้องด้านหลังด้วยกันหน่อยได้ไหมคะ?”
“ครับ ได้เลย”
ก็แน่ล่ะ ข้อมูลมันหลุดออกไปแล้วนี่นะ หวังว่าเรื่องนี้มันจะจบลงอย่างสงบนะ
ผมเดินตามคามิลล์ซังไปยังห้องที่อยู่ด้านหลัง
“วาตารุซัง ถึงตอนนั้นฉันจะบอกว่าห้องด้านหลัง แต่จริงๆ แล้ว
พวกเรากำลังจะไปที่ห้องของกิลด์มาสเตอร์กันค่ะ แบบนี้โอเคไหมคะ?”
“อา ครับ”
ก็รู้อยู่แล้วล่ะว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่พอมันเกิดขึ้นจริงๆ …
เห้อ ชักยากกลับบ้านแล้วสิ…
MANGA DISCUSSION