ผมจ้องมองไปยังริมุที่กำลังเปล่งแสงอยู่บนโซฟาในซีกเกอร์
ผมพยายามพูดกับเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยินผม…
หรือไม่ก็ได้ยินแต่ไม่ตอบกลับมา มันทำเอาผมรู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ
“คลอเร็ตต้าซัง หมายความว่ายังไงที่คุณพูดว่าวิวัฒนาการก่อนหน้านี้ ริมุจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
ผมอดที่จะกังวลไม่ได้ เพราะตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ขอโทษด้วยค่ะ วาตารุซัง ฉันเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
เพราะเคยอ่านเจอแต่ในหนังสือ และเท่าที่ได้ยินมา
ดูเหมือนมอนเตอร์แรงค์ต่ำ จะสามารถพัฒนาตัวเองได้หากใช้เวลาแล้วการฝึกฝน
แต่ในกรณีของการวิวัฒนาการจะแตกต่างออกไป
เพราะจะต้องอยู่ในรังไหมแล้วค่อยๆ ใช้เวลาในการพัฒนาไปอย่างช้าๆ
และการเปล่งแสงแบบนี้ ว่ากันว่าจะเกิดขึ้นเฉพาะกับมอนสเตอร์ที่พิเศษมากๆ เท่านั้น
เลยแทบจะไม่มีการพบเห็นเลย จนทำให้ไม่มีข้อมูลด้วยเหมือนกันบันทึกเอาไว้เลย
ฉันเลยคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้ของริมุจัง น่าจะเป็นแบบนั้น
เพราะริมุจังเป็นโฮลี่สไลม์ที่ความพิเศษมากๆ ยังไงล่ะคะ”
จากที่ได้ยินมาจากคลอเร็ตต้าซัง ดูเหมือนมอนสเตอร์พิเศษ
จะเปล่งแสงออกมาตอนที่วิวัฒนาการสินะ ถึงข้อมูลจะมีน้อย
แต่มันก็ตรงกันกับสถานการณ์ในตอนนี้เลย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี…
“คุณพอรู้ไหมครับ ว่าการวิวัฒนาการมันต้องใช้เวลานานขนาดไหน?”
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้จริงๆ”
“ไม่เป็นไรครับ คลอเร็ตต้าซังไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้นไม่ต้องขอโทษหรอกนะครับ
ผมต่างหากล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษคุณ ที่ถามไปทั้งๆ ที่คุณก็บอกแล้วว่าคุณไม่รู้ “
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ วาตารุซัง ฉันเข้าใจว่าคุณเป็นห่วงริมุจัง”
“ขอบคุณครับ”
“วาตารุซัง ฟูจังบอกว่าริมุจะไม่เป็นไรค่ะ”
“จริงเหรอครับ มารีน่าซัง!?”
“ค่ะ เพราะงั้นใจเย็นๆ นะคะ คุณคุยกับฟูจังได้ใช่ไหม?”
จริงด้วย! ผมคุยกับฟูจังได้นี่นา…ลองถามเขาดีกว่าว่าริมุเป็นยังไงบ้าง
“ฟูจัง ริมุจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“…อื้ม…”
แค่นี้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาแล้ว เพราะพวกเขาเป็นสไลม์เหมือนกัน
ดูเหมือนฟูจังจะรู้อยู่แล้วสินะ ว่าริมุจะไม่เป็นอะไร
“ฟูจังรู้ไหวว่าเกิดอะไรขึ้นกับริมุ?”
“…เจ๋งขึ้น…”
เจ๋งงั้นเหรอ? อ้อ หมายถึงการวิวัฒนาการสินะ?
“งั้นก็คงใช่ล่ะสิ ริมุต้องกลายเป็นอะไรที่สุดยอดมากแน่ๆ แล้วรู้ไหมว่าริมุจะออกมาเมื่อไหร่?”
“…ไม่รู้…”
ไม่รู้งั้นเหรอ… การที่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันจะจบลงเมื่อไหร่นี่มันทรมานนะ
การวิวัฒนาการมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วถ้าเป็นมอนสเตอร์ปกติล่ะจะเป็นแบบนี้ไหน?
เพราะถ้าจู่ๆ มาเปล่งแสงวิวัฒนาการแบบนี้ มีหวังได้โดนมอนเตอร์ตัวอื่นโจมตีแน่
แล้วแบบนั้นมันจะไปวิวัฒนาการได้ยังไง ถ้าคิดเข้าข้างตัวเอง
ผมคิดว่าช่วงเวลาในการวิวัฒนาการไม่น่าจะนานสักเท่าไหร่…ล่ะมั้ง?
“พวกเราทำได้แค่นั่งรอไปเฉยๆ แบบนี้เหรอ? มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้บ้างไหม?”
“…ไม่มี…”
ไม่มีเลยเหรอ? การนั่งเฝ้าเฉยๆ มันทรมานนะ
“เข้าใจแล้ว ขอบใจนะ ฟูจัง”
“…อื้ม…”
“วาตารุซัง ได้เรื่องอะไรบ้างไหมคะ?”
คลอเร็ตต้าซังถามผมด้วยสีหน้ากังวล เธอเป็นคนดีจริงๆ
“ครับ ถึงจะไม่ละเอียดเท่าไหร่ แต่ผมได้ยินมาว่าริมุจะไม่เป็นไร
แถมจะเจ๋งขึ้นด้วย แต่ฟูจังเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน แล้วก็ไม่มีอะไรที่เราช่วยริมุได้เลย”
“อย่างนั้นเหรอคะ ฉันดีใจนะคะที่ได้ยินว่าริมุจังจะไม่เป็นอะไร
แต่การที่ทำได้แค่นั่งดูเฉยๆ แบบนี่ก็ลำบากเหมือนกันนะคะ”
“ครับ พวกเราทำได้แค่รอเท่านั้น…”
โชคดีที่สาวๆ ก็จะมาช่วยเฝ้าริมุด้วยเหมือนกัน ริมุ พวกเธอก็รักเขาเหมือนกันสินะ
ริมุกำลังจะวิวัฒนาการงั้นเหรอ?… ทั้งดีใจและเป็นห่วงไปพร้อมๆ กันเลยแฮะ…
ถ้าเขายังน่ารักเหมือนเดิมก็ดีสิ แต่ถ้าเกิดเขากลายเป็นเด็กดื้อขึ้นมาล่ะ…
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมคงได้ร้องไห้ออกมาแน่ๆ
ผมนั่งเฝ้าริมุอยู่อย่างนั้น จนเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง
จากแสงที่เคยสว่างจ้าก็ค่อยๆ จางลง… หรือว่าใกล้จะจบแล้ว?
พวกเราทุกคนจ้องไปยังริมุด้วยจิตใจที่สั่นระรัว แสงค่อยๆ จางลง
และริมุในร่างกลมๆ ฟูๆ ดูสง่างามก็ปรากฏขึ้น…
“ริมุ เป็นยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“…ไม่เป็นไร…”
ผมโล่งใจที่รู้ว่าเขาไม่เป็นอะไร แสงจากตัวเขาดูจะสว่างกว่าตอนก่อนหน้านี้นิดหน่อย
แต่แทบจะแยกความแตกต่างไม่ออกเลยแฮะ…
“ริมุ วิวัฒนาการแล้วใช่ไหม?”
“อื้ม”
“แล้วเป็นยังไงบ้าง รู้ไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปตรงไหน?”
“…หืม?”
ดูเหมือนเขาเองจะยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่สินะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?
“เป็นอะไรไปเหรอคะ วาตารุซัง?”
อลิเซียซังถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ผมต้องอธิบายให้พวกเธอฟังสินะ เพราะสาวๆ คนอื่นๆ เองก็กำลังมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เป็นกังวลเหมือนกัน
“ริมุไม่เป็นอะไรครับ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงกันนะครับ”
“โล่งอกไปที…ยินดีด้วยนะจ๊ะ ริมุจัง!”
อลิเซียซังพูดพลางลูบริมุอย่างอ่อนโยน มันเป็นภาพที่วิเศษจริงๆ
สาวๆ คนอื่นๆ เองก็เข้ามาแสดงความยินดีและลูบริมุอย่างอ่อนโยนเหมือนกัน
ดูเหมือนทุกคนจะเป็นห่วงริมุกันมากๆ เลยสินะ
ตอนที่เขาวิวัฒนาการอยู่ ขอบคุณนะทุกคนที่เป็นริมุ…
ฟูจังเองก็กำลังเข้าไปนัวเนียกับริมุอยู่เหมือนกัน
ดูเหมือนพวกเขาจะกำลังคุยอะไรบางอย่างกันอยู่สินะ
ผมชักอยากรู้แล้วสิ ว่าพวกเขาคุยอะไรกันอยู่…
“ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ? วาตารุซัง”
“อะไรเหรอครับ อลิเซียซัง”
“คือเมื่อกี้คุณคุยอะไรกับริมุจังเหรอคะ?”
“อ้อ ผมแค่ถามริมุดูว่าเขารู้ไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปยังไงนะครับ
แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมเลยสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นไม่ลองเปิดสถานะของเขาดูล่ะคะ เพราะฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน”
โอ้! ทำแบบนี้ก็ได้นี่นา ผมลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลยเพราะมัวแต่ตกใจอยู่
งั้นลองมาเปิดสถานะของริมุดูดีกว่า…
ชื่อ: ริมุ
เผ่า: แองเจิลสไลม์
อายุ: 2 ปี
อาชีพ: อสูรรับใช้ของวาตารุ
เลเวล: 300
พลังชีวิต: 6000
พลังเวท: 648
พลังโจมตี: 601
สติปัญญา: 613
ความคล่องแคล่ว: 605
โชค: 30
สกิล:
เวทศักดิ์สิทธิ์ เลเวล 3
เวทรักษา เลเวล 1
ย่อย/ดูดซับ
ต้านทานการโจมตีทางกายภาพ
เทวทูต เลเวล 1 (ยูนีค) (ใหม่!)
“นี่มันอะไรกัน…ริมุกลายเป็นแองเจิลสไลม์ไปแล้ว
แถมยังเลเวลตั้ง 300 อีก แล้วยังยูนีคสกิลที่ชื่อว่า ‘ทูตสวรรค์’ เพิ่มเข้ามาอีก”
ตอนนี้ริมุอายุ 2 ขวบแล้วอย่างงั้นเหรอ!?
ถ้าผมจำไม่ผิดครั้งสุดท้ายที่ผมเช็คค่าสถานะของริมุคือตอนที่เขาอายุครบ 1 ขวบ
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได่สนใจเรื่องนี้อีกเลย จะบอกว่าลืมไปแล้วก็ได้…
แต่ค่าสถานะนี่มันอะไร ริมุจะไม่แข็งแกร่งเกินไปหน่อยเหรอ?
ว่าแต่ทำไมค่าสติปัญญาเยอะถึงขนาดนี้แล้ว
ทำไมเขาถึงยังพูดเป็นคำๆ อยู่เลยล่ะ…อ๊ะ! หรือว่าเป็นเพราะอายุ?
เขาคงวิวัฒนาการเพราะเลเวลถึง 300 สินะ…
ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะกลับไปเป็นเลเวล 1 เสียอีกหลังจากที่วิวัฒนาการ
จริงๆ ผมก็แอบเสียดายอยู่หน่อยๆ แฮะ เพราะการรีเซ็ตเลเวลมันก็ดูเท่ไปอีกแบบเหมือนกัน
“ริมุจังสุดยอดไปเลยค่ะ…แต่ก็แอบรู้สึกกังวลอยู่หน่อยๆ
เพราะไม่เคยได้ยินว่าจะมีสไลม์ที่เลเวลสูงถึง 300 มาก่อน…
ไม่สิ ต้องเรียกว่าแองเจิลสไลม์สิถึงจะถูก แล้วยูนีคสกิลนั่นมันอะไรกันเนี่ย?”
อลิเซียซังพูดถูก สไลม์เลเวล 300 มันสุดยอดจริงๆ
บางทีริมุอาจเป็นตัวแรกของโลกที่วิวัฒนาการเป็นแองเจิลสไลม์ก็ได้ แถมยังมียูนีคสกิลอีก
แต่คำว่า โฮลี่ ที่แปลว่าศักดิ์สิทธิ์กับ แองเจิล ที่แปลว่าเทวทูต…
ผมว่าคำว่า โฮลี่ มันฟังดูเท่กว่านะ…หรือว่าจะมีแค่ผมที่คิดแบบนั้น?
“ฮ่าๆ จริงด้วยครับ ที่ริมุมาได้ไกลขนาดนี้
ต้องขอบคุณสกิลอัญเชิญเรือเลย เพราะถ้าเป็นสถานการณ์ปกติคงจะยากมากแน่ๆ”
“จริงด้วยค่ะ แล้วยูนีคสกิล ‘เทวทูต’ มันทำอะไรได้เหรอคะ?”
โอ้ ผมมัวแต่ตื่นเต้นจนลืมเช็ครายละเอียดของสกิลไปเลย
“ผมยังไม่ได้ดูละเอียดเลยครับ เดี๋ยวขอดูแปปนึงนะครับ”
ไหนดูสิ…
เทวทูต
สามารถแปลงร่างเป็นร่างเทวทูตได้
เมื่ออยู่ในร่างเทวทูต ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า
ยิ่งเลเวลของสกิลสูงขึ้น ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นก็จะมากยิ่งขึ้น
ร่างเทวทูตงั้นเหรอ? หมายความว่าริมุจะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้งั้นเหรอ?
ผมน่ะไม่สนใจค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นหรอก
แต่ถ้ารูปร่างของริมุเปลี่ยนไปแล้วไม่น่ารักเหมือนเดิมล่ะ ผมจะทำยังไงดี…
“ดูเหมือนว่าริมุจะสามารถแปลงร่างเป็นร่างเทวทูตได้นะครับ… ผมรู้สึกประหม่าจังเลยแฮะ”
“ฉันนึกภาพไม่ออกเลยค่ะ”
…ผมก็เหมือนกัน ผมกลัวจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของริมุมากๆ เลยล่ะตอนนี้
แต่ถ้าไม่ลองดู มันจะสงสัยอย่างงี้ต่อไป… งั้นลองให้เขาแปลงให้ดูเลยดีกว่า
“ริมุ คิดว่าตอนนี้ใช้สกิล ‘เทวทูต’ ได้ไหม? ถ้าใช้ได้ ลองใช้ให้ดูหน่อยได้ไหม?”
“ได้”
ดูเหมือนเขาจะใช้ได้แฮะ ผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆ แล้วสิ…
“งั้น ช่วยแปลงให้ดูหน่อยนะ”
“อื้ม”
…ขณะที่ผมกลั้นหายใจ ริมุก็เริ่มเปล่งแสงอีกครั้ง
แสงนั้นเข้มขึ้นและเปลี่ยนไปเป็นวงแหวนแล้วลอยอยู่เหนือตัวของริมุ
จากนั้นแสงก็กลายเป็นปีก 2 ข้าง แล้วไปลอยติดอยู่ที่ด้านข้างตัวของริมุ
นะ…นี่มันอะไรกัน? จะน่ารักเกินไปแล้ว!
เขายังตัวกลมๆ อยู่เหมือนเดิม…เพิ่มเติมคือวงแหวนสีทองที่ลอยอยู่บนหัว
และปีกเล็กๆ สีขาวทอง ลอยอยู่ข้างๆ ทำให้ตอนนี้ริมุดูน่ารักโฮกกกกกก…เลยล่ะ
ไม่คิดเลยว่าสไลม์ที่มีวงแสงสีทองกับปีกเล็กๆ ข้างตัวแบบนี้ จะดูน่ารักได้ขนาดนี้
“ริมุ น่ารักมากๆ เลยล่ะ ริมุดูดีสุดๆ เลยล่ะตอนนี้”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ แล้วปีกพวกนั้นใช้มันบินได้ไหม?”
“…บิน?”
หืม? ถ้ามีปีกก็ต้องบินได้สิ หรือริมุจะบินไม่ได้?
เพราะขนาดของปีก…ไม่สิ บางทีอาจจะลอยได้ด้วยเวทมนตร์ก็ได้
“บิน”
พอริมุพูดแบบนั้น เขาก็เริ่มขยับปีกเล็กๆ ของเขาอย่างเต็มที่
โอ้ย น่ารักจนใจเจ็บ… จากนั้นเขาก็เริ่มลอยขึ้นช้าๆ
ดูจากความเร็วของปีกแล้ว น่าจะต้องใช้เวทมนตร์ช่วยแน่ๆ
เขาบินขึ้นมาได้ถึงระดับเข่าของผม จากนั้นก็เสียสมดุลแล้วก็ตกไปที่พื้น
จากนั้นวงแหวนบนหัวกับปีกเทวทูตก็กลายเป็นแสงจากนั้นก็สลายหายไป
“ริมุ เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ยาก”
“ไม่เป็นไรหรอก นี่เป็นครั้งแรก ทำได้เท่านี้ก็เก่งแล้ว”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ ริมุเก่งมากเลย”
ผมอดใจไม่ไหวแล้ว เลยกอดริมุไว้แน่นแล้วลูบเขาเบาๆ
ริมุ จะน่ารักเกินไปแล้ว!
“ฮ่าๆ อยู่กับคุณนี่มีเรื่องให้ประหลาดใจเสมอเลยนะคะ วาตารุซัง ริมุจังน่ารักมากๆ เลยค่ะ”
ดูเหมือนเหตุการณ์ครั้งนี้จะโดนใจอลิเซียซังสุดๆ จนเธอหัวเราะออกมาไม่หยุดเลยล่ะ
ผมว่าเหตุการณ์เมื่อกี้มันออกจะดูมีมนต์ขลังอยู่นะ แต่เธอกลับหัวเราะซะงั้น…
“วาตารุซัง ขอโทษแทนอลิเซียด้วยนะคะ
บรรยากาศรอบๆ ตัวของริมุจังเมื่อกี้มันดูศักดิ์สิทธิ์มากๆ เลยค่ะ
ทำเอาฉันประทับใจจนบอกไม่ถูกเลย”
“ไม่เป็นไรครับ คลอเร็ตต้าซัง แล้วก็ขอบคุณนะครับ”
ริมุเองก็ถูกชมอย่างอบอุ่น แล้วเขาก็กระโดดไปอยู่ข้างๆ คลอเร็ตต้าซัง
เธอยิ้มแล้วลูบเขาเบาๆ ช่างเป็นภาพที่งดงามจริงๆ
“ถ้าฟูจังวิวัฒนาการ จะเป็นยังไงบ้างนะ?”
มารีน่าซังถามคำถามนี้กับฟูจัง ผมว่าถามไปฟูจังก็คงจะไม่รู้หรอก
แต่ถ้าให้เดา…ฟูจังเป็นสไลม์สายลม งั้นก็ต้องวิวัฒนาการไปในทิศทางที่เกี่ยวข้องกับสายลม
อืม…ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันแฮะ
หลังจากคุยกันได้สักพัก มารีน่าซังก็ลุกขึ้นพร้อมอุ้มฟูจังไว้ในอ้อมแขน…
เธอรู้อะไรบางอย่างมาอย่างงั้นเหรอ? เพราะตอนนี้เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
“มารีน่าซัง รู้ไหมครับ ว่าฟูจังจะวิวัฒนาการไปทางไหน?”
“ไม่ค่ะ ฟูจังบอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ แต่นั่นแหละค่ะ ไว้ถึงเวลานั้นพวกเราก็จะรู้เอง
ดังนั้นพวกเรามาพยายามเป็นเลเวลให้ฟูจังกันเถอะนะคะ!”
อ้อ อย่างนี้นี่เอง…มารีน่าซังนี่เป็นคนตรงไปตรงมากว่าที่คิดอีกนะ…
โดยเฉพาะในเรื่องที่มันเกี่ยวของกับสไลม์ ผมมั่นใจเลยว่าเธอจะกระตือรือร้นในการล่ามอนสเตอร์มากขึ้น
และนั่นก็ช่วยพวกเราได้มากเลยล่ะ ตอนนี้การวิวัฒนาการของริมุก็จบลงแล้ว
ทั้งผมและทุกคนต่างก็โล่งใจ คืนนี้เราจะได้ไปทานอาหารเย็นกันอย่างสบายใจ
ที่จริงเวลานี้เราก็ควรจะไปถึงหมู่บ้านดาร์กเอลฟ์ได้แล้วล่ะ แต่ก็ช่วยไม่ได้
ถ้าไปตอนนี้ก็คงจะถึงตอนเที่ยงคืนพอดี ถ้ามีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นก็คงแย่
งั้นเราค่อยไปที่เกาะกันวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน วันนี้ก็หยุดพักกันก่อน
มื้อเย็นวันนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ทุกคนร่วมกันฉลองให้กับการวิวัฒนาการของริมุ
หลังทานมื้อเย็นเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันกลับเข้าห้อง
คืนนี้เป็นคืนที่ดี ถึงแม้ว่าผมจะเครียดกับการวิวัฒนาการของริมุที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันก็เถอะ
“นายท่าน พรุ่งนี้เช้าเราจะไปถึงที่เกาะแล้วใช่ไหมคะ? แล้วเราจะเริ่มสำรวจกันเลยหรือเปล่า?”
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าที่หมู่บ้านเป็นยังไง ถ้าทุกอย่างไปได้สวย เราก็น่าจะได้เริ่มการสำรวจในอีกสัก 2 วัน”
ตอนนี้ที่ผมรู้ว่า ไฮอเวย์ ใช้งานบนบกได้แล้ว
เราก็สามารถออกสำรวจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
อีกอย่างตอนนี้ก็ปลดล็อคเรือพิเศษแล้วด้วย
งั้นมาลองให้ซื้อเรือใหม่มาใช่ดูดีกว่า ว่าแต่…ผมจะซื้อเรือลำไหดีนะ?
“ผ่านไปแล้ว 1 เดือน นับตั้งแต่ที่ทั้ง 2 หมู่บ้านมารวมกัน
และทุกคนก็ดูจะเข้ากันได้ดี ฉันว่าทุกอย่างต้องไปได้สวยค่ะ”
ไอเนสพูดถูก พวกเขาเข้ากันได้ดี ตราบใดที่ไม่มีการทะเลาะกันเป็นการส่วนตัว
การรวมตัวกันของทั้ง 2 หมู่บ้านก็จะไม่มีปัญหา เพราะจำนวนคนยังน้อยอยู่
“เฟลิเซีย ถ้าทุกอย่างไม่มีปัญหา พวกเราจะออกจากหมู่บ้านในอีกสองวัน แบบนี้โอเคไหม?”
“ไม่มีปัญหาเลยค่ะ เพราะพวกเราเพิ่งเจอกันไปไม่นาน จะให้ฉันออกเดินทางเลยก็ไม่เป็นไรค่ะ”
…1 เดือนงั้นเหรอ ฟังดูเหมือนเพิ่งเมื่อวานจริงๆ แฮะ
ไม่เห็นต้องคิดมากเลย แค่หัวหน้าหมู่บ้านจะดูเศร้าๆ หน่อยก็เท่านั้น
หลังจากมื้อค่ำ พวกเราก็ใช้เวลาอย่างสบายๆ พักผ่อนและผ่อนคลาย
ริมุเองก็ดูจะสนุกกับการแปลงร่างเป็นเทวทูตมาก
เพราะทุกครั้งที่เขาอยากจะโชว์ เขาจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมแล้วพูดว่า
“ดูนี่สิ” จากนั้นก็จะแสดงการเปลี่ยนร่างพร้อมบินให้ดู
ตอนนี้เขายังบินได้สูงแค่ระดับหัวเข่าของผม
แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าในอนาคตเขาจะบินได้อย่างอิสระรึเปล่า
มันคงจะสนุกไม่น้อยเลยล่ะ ถ้าเขาบินไปไหนมาไหนได้
แต่ภาพของริมุที่ค่อยๆ เคลื่อนที่ไปมานี่ก็น่ารักเหมือนกันนะ…
หลังจากเขาโชว์บินให้ผมดูแล้ว เขาก็ถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”
ผมก็เลยชมเขาแบบสุดตัว ผมทำแบบนี้ไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังสนุกทุกครั้ง
แต่ริมุต้องระวังไม่ให้ริมุแปลงร่างในที่สาธารณะ
เพราะถึงเขาจะดูน่ารักแค่ไหน ถ้าโดดเด่นเกินไป ก็อาจจะถูกลักพาตัวก็ได้
“ฟุฟุ นายท่าน ริมุจัง ถ้าไม่รีบเข้านอนล่ะก็ พรุ่งนี้จะลำบากนะคะ”
อ๊ะ ผมมัวแต่หลงริมุจนไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานขนาดไหนแล้ว
งั้นไปอาบน้ำแล้วเข้านอนเลยดีกว่า หลังจากอาบน้ำและพาริมุเข้านอนเรียบร้อยแล้ว
ผมดันมาเจอกับไอเนสและเฟลิเซียที่กำลังดักรออยู่บนเตียงนี่สิ…
การเล่นกับทั้ง 2 คน ก่อนนอนมันก็ดีอยู่หรอก…
แต่…สงครามที่ไม่มีวันชนะนี่มัน…เอาเถอะ ผมเชื่อว่า ถ้าผมยังพยายามต่อไป
บางทีสักวันผมอาจจะได้รับ ‘สกิล’ พวกนั้นมาก็ได้…
MANGA DISCUSSION