หลังจากผมชมการแสดงสเก็ตน้ำแข็งของสาวๆ จนเต็มอิ่มแล้ว
พวกเราก็ตัดสินใจว่าจะไปทานมื้อเที่ยงกันแม้ว่าจะสายไปหน่อยก็ตาม
“วาตารุซัง วันนี้พวกเราจะกินอะไรกันเหรอคะ?”
คาร์ล่าซังถามผมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เวลาที่พูดถึงเรื่องอาหารทีไร
สีหน้าของคาร์ล่าซังก็มักจะสดใสขึ้นเป็นเท่าตัวเสมอเลยล่ะ แล้ววันนี้ผมจะพาพวกเธอไปกินอะไรกันดีนะ?
“อืม…งั้นวันนี้เราลองสั่งอาหารไปทานกันที่ห้องดูดีไหมครับ?”
ผมจะได้ถือโอกาสนี้แนะนำวิธีใช้รูมเซอร์วิสให้กับสาวๆ ด้วย
แต่ผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะมันสามารถสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
กับอาหารได้แบบไม่อั้นเลยยังไงล่ะ ถึงจะเสียเงินก็เถอะ…
ผมกลัวว่าพวกเธอจะเอาแต่สั่งของไปกินกันที่ห้องนี่ล่ะ
“สั่งอาหารไปทานที่ห้องเหรอคะ?” พวกเธอดูจะสนใจกันมากเลยสินะ…
อืม ชักรู้สึกว่าทำพลาดหน่อยๆ แล้วสิที่แนะนำพวกเธอเรื่องนี้เร็วเกินไป…
เอาเถอะ เตือนเอาไว้หน่อยก็แล้วกัน
“ใช่ครับ พวกเราสามารสั่งอาหารไปทานที่ห้อง แต่ถึงจะกินดื่มได้ไม่อั้นในห้องก็เถอะ
แต่ห้ามเมาจนหัวราน้ำเด็ดขาดเลยนะครับ งั้นพวกเราก็ไปที่ห้องของผมกันเถอะ”
พวกเราทั้งหมดมุ่งหน้าไปที่ห้องของผม จากนั้นผมก็เปิดเมนูจากหน้าจอโทรทัศน์
อืม…ตัวอักษรเป็นของโลกเดิมสินะ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษแบบนี้
ก็น่าจะช่วยลดเรื่องกินดื่มของพวกเธอลงได้บ้าง
…เอ๊ะ พอเอาเมาส์ไปชี้ที่ตรงเมนู ก็มีภาพของเครื่องดื่มปรากฏขึ้นมา
จบกันแบบนี้สาวๆ ก็รู้หมดสิว่าแต่ละเมนูมันคืออะไร
“ว้าว มีเมนูแอลกอฮอล์ด้วย อันนี้สั่งได้ใช่ไหมคะ?”
“ช-ใช่ครับ แต่มันต้องเสียเงินนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถึงจะต้องเสียเงิน หรือ จะต้องจ่ายแพงหน่อย
แต่ถ้าคิดว่าเครื่องดื่มพวกนี้เป็นของที่มาจากต่างโลกแล้ว ก็ถือว่ามันถูกมากๆ เลยค่ะ”
คำพูดของอลิเซียซังทำให้กลุ่มนักดื่มเริ่มมีปฏิกิริยาทันที …เอาแล้วไง
จากนั้นทุกคนก็เริ่มสั่งกันแบบจัดเต็ม
เริ่มตั้งแต่น้ำซุป สลัด แซนด์วิช พิซซ่า ไส้กรอก มันฝรั่ง
จากนั้นพอผมกดเลือกบนเมนู อาหารแต่ละจานก็ปรากฏขึ้นมาตรงโต๊ะในห้องนั่งเล่นทันที
แล้วถ้าไม่สั่งจากหน้าจอ แต่ลองพูดเสียงดังๆ ในห้องจะสั่งได้เหมือนกันมั้ยนะ?
…ไม่ลองน่าจะดีกว่า เพราะบางทีความสะดวกสบายที่มากเกินไปมันก็ไม่ดีเหมือนกัน
สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจที่สุดจากทุกเมนูที่พวกเราสั่งมาก็คือ แซนด์วิช
เพราะมันมีสเต็กหรือไม่ก็ไก่ย่างทั้งชิ้นวางอยู่บนขนมปังแล้วก็เสิร์ฟมาพร้อมกับสลักแล้วก็มีมีดกับส้อมมาให้ด้วย
ผมไม่เคยกินแซนด์วิชด้วยมีดกับส้อมมาก่อนเลย แบบนี้คือวิธีกินแบบพวกผู้ดีใช่ไหม?
ถึงผมจะคิดว่ามันยุ่งยากไปหน่อย แต่ก็นะอาจเพราะผมไม่ใช่ชนชั้นสูงล่ะมั้ง?
ตอนนี้มีอาหารอยู่เต็มโต๊ะไปหมด เลยทำให้บรรยากาศมันเหมือนกับมีงานปาร์ตี้เล็กๆ เลยล่ะ
พวกเรากินกันอย่างครึกครื้น หัวข้อสนทนาส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับการเล่นสเก็ต
ดูเหมือนพวกเธอจะสนุกมากเลยสินะ ถึงขั้นที่คุยกันเรื่องนี้ไม่หยุดเลยล่ะ
อีกอย่างที่น่าทึ่งคือ สาวๆ สามารถใช้รีโมตทีวีกันได้อย่างคล่องแคล่วเลยล่ะ
พวกเธอสามารถกดปุ่มโน่นนี่นั่นได้ถูกหมดไม่เคยกดผิดเลย
และยังเลือกเมนูอาหารกันได้อย่างแม่นยำกันสุดๆ ด้วย
นักผจญภัยแรงค์ A นี่ประมาทไม่ได้เลยจริงๆ
หลังจากมื้อเที่ยง พวกเราก็ไปดูวิดีโอที่ผมถ่ายเอาไว้โดยฉายมันขึ้นจอในห้อง
“รู้สึกแปลกดีนะคะ ที่ได้เห็นตัวเองอยู่ในภาพแบบนี้ หนังก็ทำกันแบบนี้ใช่มั้ยคะ?”
อัลม่าซังถามคำถามที่ตอบยากมาเลยแฮะ อืม…มันก็คล้ายๆ กันล่ะมั้ง แต่…
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่หนังพวกนั้นจะใช้กล้องที่ดีกว่านี้
แพงกว่า แล้วก็มีทีมงานเฉพาะทางในการถ่ายทำน่ะครับ”
อีกอย่างผมมั่นใจด้วยว่าพวกเขาใช้ของอย่าง CG หรืออะไรพวกนั้นด้วย
แต่ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้พวกเธอเข้าใจดี ก็เลยหยุดการอธิบายเอาไว้แค่นี้
“นั่นสินะคะ ยังไงของพวกนั้นก็ต้องมีผู้ชี่ยวชาญเป็นคนทำอยู่แล้ว
เพราะในความคิดของฉันคนธรรมดาไม่น่าจะทำอะไรแบบนั้นได้”
เธอเข้าใจความแตกต่างระหว่างมือสมัครเล่นกับมืออาชีพสินะ
ก็ดีแล้ว เพราะผมแอบกังวลอยู่เลยว่า เธอจะบอกให้ผมลองสร้างหนังดูน่ะ
พวกเธอดูวิดีโอไปหัวเราะกันไป และแสดงความคิดเห็นกันอย่างสนุกสนาน
ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจพวกฉากอกกระเพื่อมเลยสินะ
อาจเพราะในโลกนี้มันเป็นเรื่องปกติรึเปล่านะ?
…และแล้วก็ถึงฉากฮาๆ มันเป็นเหตุการณ์เล็กๆ ระหว่างที่
อลิเซียซังพยายามที่จะกระโดดโชว์หน้ากล้องแล้วพลาดจนล้มลงไปกองบนพื้น
ตอนที่เธอล้มมันยังกับภาพในการ์ตูนตอนที่เหยียบเปลือกกล้วยเลยล่ะ
ขาของเธอลอยขึ้นสูงจากนั้นหัวเธอก็ตกลงมากระแทกพื้นน้ำแข็งแบบเต็มๆ …
จากนั้นทุกๆ อย่างก็เงียบไป แล้วทุกๆ คนก็รีบวิ่งเข้าไปดูอลิเซียซัง
ผมเองก็ตกใจจนรีบวิ่งเข้าไปดูเธอเหมือนกัน จนทำให้ภาพที่ถ่ายเบลอไปหมดเลยล่ะ
เมื่อไปถึงคลอเร็ตต้าซังก็รีบใช้เวทรักษารักษาให้อลิเซียซังทันที
ภาพของอลิเซียซังที่น้ำตาคลอเบ้าตอนนี้มันแบบ…น่ารักมากเลย
แต่จากการที่ผมเห็นอลิเซียซังล้มในครั้งนี้
ทำให้ผมคิดขึ้นมาได้ว่าเราควรไปหาหมวกกันน็อคมาใส่
เพราะการล้มแบบนั้นมันอันตรายมากเลยล่ะ
แต่ผมไม่แน่ใจว่าที่เคาน์เตอร์จะมีหมวกกันน็อคให้ยืมไหม?
ผมเลยไปถามที่เคาน์เตอร์เรื่องหมวกกันน็อค แล้วมันก็มีจริงๆ…
ขอโทษนะครับ อลิเซียซัง…จากนั้นผมก็เอาหมวกกันน็อคไปแจกจ่ายให้กับทุกคน
แต่พวกเธอกลับปฏิเสธ โดยบอกว่าพวกเธอจะระวังกันเอง
ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมสาวๆ ถึงได้ปฏิเสธที่จะใส่หมวกทั้งๆ
ที่พึ่งเกิดเหตุการณ์แบบนั้นไป
“เอ่อ…วาตารุซัง ช่วยลบตอนที่ฉันล้มไปได้ไหมคะ?”
อลิเซียซังถามผมด้วยใบหน้าที่แดงจัด อืม…ผมก็กำลังสงสัยอยู่เหมือนกัน
ว่าจะลบมันได้ไหมนะ…ถ้ามีคอมพิวเตอร์ก็น่าจะพอไหวแหละ
แต่จะให้โหลดโปรแกรมตัดต่อมากจากไหนล่ะ?
“เอ่อ…ดูเหมือนมันจะลบไม่ได้นะครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้นอลิเซียซังก็ทำหน้าผิดหวังออกมาทันที
ผมเข้าใจความรู้สึกของเธอนะ
เพราะเวลาที่เราทำอะไรเปิ่นๆ แล้วมันถูกบันทึกไว้ มันรู้สึกน่าอายจริงๆ
“งั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันจะเก็บมันไว้เป็นความทรงจำก็แล้วกันค่ะ”
“เฮ้อ…จริงๆ ก็อยากที่จะลืมๆ มันไปอยู่หรอก แต่ดูเหมือนตอนนี้จะไม่ได้แล้วสินะคะ
งั้นฉันจะปิดผนึกความทรงจำส่วนนั้นเอาไว้แทนก็แล้วกัน
ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ช่วยอย่ารื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกนะคะ”
…กลายเป็นประวัติดำมืดไปแล้วสินะ ระดับความอับอายนี่มันอะไรกัน?
สำหรับผมมันเป็นฉากน่าอายนิดๆ กับดูน่ารักหน่อยๆ
แต่กับอลิเซียซังมันไม่ใช่สินะ เธอคงเป็นคนประเภทที่ใช้ชีวิตอย่างราบรื่นมาโดยตลอดเลยสินะ
จากนั้นเมื่อฉากฮาๆ จบลง ในที่สุดการแสดงของสาวๆ ก็เริ่มขึ้น
“อย่างที่วาตารุซังพูดเลยค่ะ พอใส่เสื้อผ้าธรรมดาแสดงโชว์แบบนั้น แล้วมันรู้สึกแปลกจริงๆ”
อลิเซียซังเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาจากนั้นสาวๆ คนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วยไปตามๆ กัน
พวกเราจะลองไปหาชุดที่เหมาะกับการแสดงมาดูดีไหมนะ?
อ๊า…แน่นอนว่าเสื้อผ้าแบรนด์หรูๆ สำหรับการแสดงโดยเฉพาะคงไม่มีขายอยู่แล้ว
แต่ถ้าเป็นชุดเดรสสวยๆ ก็น่าจะพอมีขายอยู่ล่ะมั้ง ผมคิดว่ามันน่าจะเอามาใช้แทนกันได้นะ
“แต่การแสดงของพวกเราก็ไม่เลวเลยนะ แถมยังสนุกดีอีกต่างหาก
ฉันว่าเราลองไปหาชุดสวยๆ มาใส่แล้วลองมาแสดงกันอีกครั้งดีมั้ย?”
“ดีๆ ฉันเอาด้วย”
โดโรธีซังดูจะกระตือรือร้นกับเรื่องนี้มากเลยแฮะ
ผมเองก็อยากเห็นสาวๆ แสดงโชว์ในชุดสวยๆ เหมือนกัน
ดังนั้นเรื่องนี้ผมขอสนับสนุนเต็มที่ ว่าแต่พอพูดถึงเรื่องการแสดงโชว์แล้ว
มันยังมีโชว์ที่ Marine Theater ด้วยนี่นา
แค่จินตนาการว่าสาวๆ กำลังแสดงโชว์ที่นั่นในชุดว่ายน้ำ มันก็ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นแล้วล่ะ
แต่ก่อนอื่นผมต้องสอนให้พวกเธอว่ายน้ำเป็นซะก่อน
จากนั้นค่อยลองแต่งตั้งให้พวกเธอเป็นพนักงานแสดงโชว์ที่นั่นดู
ผมมั่นใจว่าสาวๆ จะต้องทำมันออกมาได้ดีอย่างแน่นอน
เพราะพวกเธอแต่ละคนเรียนรู้กันได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอย่างแน่นอน
มื้อเย็นของนี้วันนี้พวกเราแยกย้ายกันออกไปกินกันตามใจของตัวเอง
และคลอเร็ตต้าซังบอกว่าเธอจะจัดการกับชุดว่ายน้ำให้เสร็จภายในคืนนี้
ดังนั้นพรุ่งนี้พวกเราเลยมีนัดที่จะไปเล่นน้ำกันที่สระว่ายน้ำกัน
“ไอเนส เฟลิเซีย ริมุ มื้อเย็นยังไม่พร้อมใช่ไหม?
งั้นเราออกไปไปแช่อ่างที่ระเบียงรออาหารเย็นกันก่อนดีไหม?”
“ก็ดีนะคะ นายท่าน ฉันว่าการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับดูพระอาทิตย์ตกดินก็ดีเหมือนกัน”
ดื่มอีกแล้วเหรอ…? รู้สึกเหมือนช่วงนี้ผมดื่มทุกวันเลยแฮะ
แต่ก็เอาเถอะ ถ้าไม่ดื่มเยอะจนเกินไปก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งฦ
“งั้นพวกเรามาเปิดแชมเปญกันสักขวดก็แล้วกัน”
“ฟุฟุ ขอบคุณนะคะ นายท่าน”
แช่น้ำกับ 2 สาว จิบแชมเปญพลางดูพระอาทิตย์ตกไปด้วย…
ถึงผมจะไม่รู้ว่าแชมเปญมันดียังไง แต่แค่นี้ก็เหมือนกับชีวิตที่ผมวาดฝันเอาไว้แล้ว
ถ้าผมสามารถทำให้จิราโซเล่ทุกคนมาเข้าร่วมฮาเร็มได้ล่ะก็ทุกอย่างก็คงจะสมบูรณ์แบบ…
แต่ปัญหาคือ ผมไม่มีวิธีดีๆ ที่จะเอาพวกเธอทั้งหมดมาเข้าฮาเร็มนี่สิ
…เอาเถอะ ทำตามแผนที่คิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ไปก่อนก็แล้วกัน
มาทำให้พวกเธอติดความสะดวกสบายจนแยกจากเรือของผมไม่ได้ก่อน
แล้วค่อยหาวิธีสร้างความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่กับพวกเธอทีหลังก็ยังทัน
“นายท่าน มีอะไรเหรอคะ?”
“หืม? อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่กำลังคิดอะไรอยู่นิดหน่อยน่ะ”
“งั้นเหรอคะ…แต่ฉันว่านายท่านควรจะพักเรื่องนั้นเอาไว้ก่อนดีไหมคะ?
เพราะพระอาทิตย์ตกที่อยู่ตรงหน้าของเราตอนนี้มันสวยมากๆ เลย”
เมื่อได้ยินคำของเฟลิเซีย ผมก็หันไปมองพระอาทิตย์ตก
ตอนนี้ฟ้าทั้งผืนกลายเป็นสีแดง และพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าและตกลงไปในทะเล… มันช่างเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ
“อืม…มันสวยมากๆ เลย
พอมาลองคิดดูดีๆ พักหลังมานี้ผมเอาแต่สนใจกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเรือ จนลืมมองดูวิวรอบๆ ไปเลยสินะ
ผมชอบวิวที่เห็นจาก ลูโตะ ชอบวิวที่มองออกมาจาก ไฮด์อเวย์
แต่พอผมได้เรือเฟอร์รี่มา ผมก็เลิกสนใจวิวรอบๆ ตัว
แล้วเอาแต่สนใจกับตัวเรือ จนไม่สนใจวิวรอบข้างอีกเลย
แม้แต่ตอนที่อยู่บน ซีกเกอร์ ผมก็ยังไม่เคยได้มานั่งดูพระอาทิตย์ตกแบบนี้เลย…
ฉันนั่งดูวิวจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แล้วก็สั่งรูมเซอร์วิสมากินที่ห้อง
เพราะผมไม่รู้สึกว่าอยากออกไปไหนแล้วในวันนี้…
ผมจะรีบเข้านอนจะได้มีแรงสำหรับวันพรุ่งนี้…แต่นี่มันยังหัวค่ำอยู่เลยนะ
งั้นขอใช้เวลาแบบผู้ใหญ่สักหน่อยก็แล้วกันจากนั้นก็จะรีบเข้านอน…
วันนี้พวกเรามากินอาหารเช้ากันที่คาเฟ่ แล้วก็ได้รับชุดว่ายน้ำของไอเนสมาจากคลอเร็ตต้าซัง
ผมไปเปลี่ยนชุดในห้องใกล้ๆ แล้วมุ่งหน้าไปยังสระว่ายน้ำ
อืม… เยี่ยมไปเลย สาวสวย 8 คน ที่ทั้งหุ่นดี และมีหน้าอกแบบเบิ้มๆ คือลือ
กำลังอยู่ในชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่
อ๊า…คุ้มค่าแล้วล่ะที่ผมพยายามอยากหนักในการเกลี้ยกล่อมพวกเธอให้ส่วนบิกินี่จนสำเร็จน่ะ
“รู้สึกอายนิดๆ อยู่เหมือนกันนะคะ”
อลิเซียซังพูดออกมาในขณะที่เธอกำลังสวมบิกินี่สีแดงอยู่
เธอดูน่ารักมากๆ เลยล่ะ ตอนที่กำลังทำท่าเขินอายอยู่แบบนี้
แต่คนที่สุดยอดที่สุดตอนนี้ก็คืออัลม่าซังยังไงล่ะ…
ถึงปกติเธอจะดูเซ็กซี่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอที่กำลังใส่บิกินี่สามเหลี่ยมสีดำ
กำลังปล่อยออร่าเย้ายวนระดับสุดยอดออกมา จนทำเอาผมอยากกระโจนเข้าใส่เธอเลยล่ะ
หรือเธอจะมีเชื้อสายของซัคคิวบัสหรืออะไรประมาณนั้นอยู่หรือเปล่านะ?
ผมขึ้นลิฟต์ไปด้วยสายตาล่องลอย เพราะบรรยากาศรอบๆ ตัวมันสุดยอดเกินไป
วิวทิวทัศน์รอบๆ เรือที่มองออกไปผ่านผนังกระจก
ก็ยังเทียบไม่ได้กับภาพของสาวๆ ที่อยู่ในชุดบิกินี่ที่อยู่รอบๆ ตัวของผมตอนนี้เลย
ผมล่ะอยากให้ลิฟต์มันค้างอยู่แบบนี้จริงๆ แต่ลิฟต์เจ้ากรรมมันดันไม่รอฟังผมซะนี่
เพราะตอนนี้พวกเราเดินทางมาถึงที่จุดหมายกันแล้ว
“ว้าว สุดยอดไปเลยค่ะ วาตารุซัง ตรงนั้นใช่สระว่ายน้ำที่เรากำลังจะไปหรือเปล่าคะ?”
บนดาดฟ้ามีสระว่ายน้ำอยู่หลายสระเลยล่ะ
ทั้งยังมี ซิปไลน์ ปีนผา มินิกอล์ฟ สนามกีฬา และของสนุกๆ ให้เล่นอีกเพียบเลยล่ะ
“ใช่ครับ งั้นเราไปที่สระเด็กกันก่อนเลยนะครับ”
เมื่อเรามาถึงสระเด็ก ผมก็เริ่มพาทุกคนวอร์มอัพร่างกายกันเบาๆ
โดยถึอโอกาสนี่ส่องสาวๆ อย่างลับๆ ด้วย จากนั้นผมก็พาทุกคนลงน้ำ…
แต่กลายเป็นว่าน้ำมันตื้นเกินไปซะงั้น การมาฝึกว่ายน้ำที่นี่น่าจะเป็นอันตรายแฮะ
ผมเลยต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ทุกคนฟังจากนั้นก็เปลี่ยนไปที่สระสำหรับผู้ใหญ่แทน
พอผมลงไปในสระระดับน้ำก็อยู่ที่ประมาณระดับอก
ทำให้คิดได้ว่าไม่ต้องเริ่มจากสระเด็กก็ได้นี่นา…ทำเอารู้สึกว่างเปล่านิดๆ เลยแฮะ
“งั้นทุกคนลงมาในน้ำได้เลยครับ ไม่ต้องกลัวกันนะครับ พื้นปลอดภัยแน่นอน”
หลังจากผมพูดจบ สาวๆ ก็ค่อยๆ ลงมาในสระกัน
แม้จะประหม่าเล็กน้อยในตอนแรก แต่พอเริ่มคุ้นกับน้ำแล้วพวกเธอก็เริ่มเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
“ต่อไป ได้เวลาฝึกว่ายน้ำกันแล้วนะครับ”
“อ๊ะ จริงด้วย งั้นฉันขอเริ่มก่อนนะคะ”
อลิเซียซังอาสาจะเริ่ม ผมเลยจับมือทั้งสองข้างของเธอแล้วเริ่มฝึกตีขา
ดูเหมือนร่างกายของเธอจะดีมากๆ เลยสินะ เพราะการเคลื่อนไหวของเธอมันดูคล่องแคล่วผิดกับคนธรรมดาไปเยอะเลย
อลิเซียซังสามารถจำท่าได้อย่างรวดเร็ว ผมจึงเปลี่ยนไปสอนโดโรธีซังต่อ…
แต่ตอนที่ผมไปสอนอัลม่าซังก็แทบจะทำให้ผมเสียสติไปเลย
แล้วก็ตอนที่คลอเร็ตต้าซังพุ่งขึ้นจากน้ำแบบเต็มแรง ทำเอาผมหัวใจแทบวายเลยล่ะ
“เฮ้อ…ว่ายน้ำนี่มันทำให้รู้สึกดีจังเลยนะคะ วาตารุซัง”
“ครับ ดีใจนะครับที่คลอเร็ตต้าซังชอบ เพราะผมเองก็ชอบการว่ายน้ำเหมือนกัน “
“ไม่คิดเลยว่าความสนุกแบบนี้จะมีอยู่จริง พอไม่มีมอนสเตอร์แล้ว
ในน้ำก็กลายเป็นสนามเด็กเล่นดีๆ นี่เองนะคะ”
คลอเร็ตต้าซังพูดพร้อมรอยยิ้มที่ดูมีความสุขจริงๆ ช่างเป็นรอยยิ้มที่เจิดจ้าดีจริงๆ
หลังจากพวกเธอเรียนรู้ท่ากบกันได้แล้ว ต่อไปพวกเราก็มาฝึกท่ากรรเชียงกันต่อ
อลิเซียซังนอนหงายลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ ผมคอยประคองหลังของเธอขณะที่เธอฝึกตีขา…
มันก็เป็นเรื่องธรรมดาใช่ไหมล่ะ…ที่สายตาของผมมันจะไปโฟกัสที่ตรงนั้นน่ะ
ระหว่างที่พวกเรากำลังฝึกว่ายน้ำกันอยู่
ริมุกับฟูจังก็กำลังลอยไปลอยมาอยู่ในน้ำอยู่เหมือนกัน
แต่ดูเหมือนเวทมนตร์ลมของฟูจังจะใช้ไม่ได้ผลบนผิวน้ำสินะ
บางทีอาจเป็นเพราะแรงต้านในน้ำมันมีมากกว่าบนน้ำแข็ง
เพราะตอนที่พวกเขาลอยเข้ามาใกล้ๆ ผม พวกเขาก็จะส่งคลื่นความคิดบ่นกันเป็นระยะๆ
ถ้าพวกเขาใช้พลังของลมวิ่งบนน้ำได้เหมือนโฮเวอร์คราฟต์ล่ะก็ มันคงจะเท่สุดๆ เลยล่ะ
หวังว่าในอนาคตพวกเราจะได้เห็นฟูจังลอยได้จริงๆ นะ เมื่อเวทมนตร์ของเขาพัฒนาขึ้น
ช่วงเช้า พวกเธอสามารถว่ายท่าฟรีสไตล์ กบ และกรรเชียงได้แล้ว ส่วนท่าผีเสื้อ
ผมเองก็ว่ายไม่เป็นเหมือนกัน เลยสอนให้ไม่ได้
ตอนนี้เลยมาสนุกกับการเล่นน้ำร่วมกับสาวๆ ที่ตอนนี้ว่ายน้ำเป็นกันหมดแล้ว
พูดตรงๆ เลย มันสนุกมากเลยล่ะ
ผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้มาเล่นวิ่งไล่จับกับสาวๆ ในสระว่ายน้ำแบบนี้…
มันทำให้ผมมีความสุขมากๆ เลยล่ะ ขอบคุณนะครับ ท่านเทพผู้สร้าง
“นายท่าน… ระวังด้วยนะคะ”
“…ขอบใจนะ เฟลิเซีย”
ผมรู้ว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร…
แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นตอนที่ผมขึ้นจากสระเพื่อเตรียมตัวที่จะไปกินมื้อกลางวัน
ในขณะที่ผมกำลังกระโดดเพื่อที่จะไล่น้ำออกจากหูอยู่นั้น
คลอเร็ตต้าซังก็มาเห็นเข้าพอดี เธอเลยพยายามทำท่าทางเลียนแบบผม
แล้วเจ้าสิ่งนั้นก็กระเด้งขึ้นลงจนแทบจะทะลักออกมาจากชัดเลยล่ะ…
ผมเลยรีบมองหากล้องถ่ายวิดีโอในทันที แต่กล้องเจ้ากรรมมันดันวางอยู่บนโต๊ะที่อยู่อีกฝั่งซะนี่…
ทำไมผมถึงไม่เอามันมาไว้ใกล้ๆ มือกันนะ? เป็นความผิดพลาดที่น่าเจ็บใจจริงๆ
“มีอะไรเหรอคะ วาตารุซัง?”
คลอเร็ตต้าซังถามผมขึ้นมา ทำเอาผมถึงกับสะดุ้งเลยล่ะ
จะให้บอกไปก็ไม่ได้ว่าผมกำลังจ้องหน้าอกของเธออยู่น่ะ
“อ้อ ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะไปทานมื้อกลางวันกันที่ไหนดีน่ะครับ”
“นั่นสินะคะ ฉันเองก็เริ่มจะหิวแล้วเหมือนกัน
อาจเป็นเพราะวันนี้ออกกำลังกายไปเยอะเลยหิว
แล้ววันนี้คุณจะพาพวกเราไปลองทานกันร้านไหนเหรอคะ?”
เธอถามผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ผมสังเกตเห็นว่าคาร์ล่าซังเองก็กำลังยืนอยู่ด้านหลังของคลอเร็ตต้าซังอยู่เหมือนกัน
ก็น่ะ ทั้งสองคนนี้เป็นสายกินนี่นา…จะคาดหวังก็คงไม่แปลก
“อืม… งั้นไปร้านที่ชื่อว่า Healthy Menu & Romantic Bistro กันดีไหมครับ?”
แค่ชื่อก็ฟังดูน่าสนใจแล้ว จากที่ผมรู้มา
คือร้านนี้ขายอาหารเพื่อสุขภาพและมีบรรยากาศภายใรร้านที่ดีมากๆ เลยล่ะ
“ฟังดูน่าสนใจดีนะคะ ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะมีอาหารแบบไหนเสิร์ฟอยู่ในร้านแบบนั้น”
คุณเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ คลอเร็ตต้าซัง…
MANGA DISCUSSION