หลังจากที่พวกเราอิ่มหนำสำราญกกับแฮมเบอร์เกอร์กันจนพอใจแล้ว
พวกเราก็เมุ่งหน้าไปยังเซ็นทรัลพาร์ค
มันช่างน่าทึ่งจริงๆ เพราะแม้แต่เสาที่อยู่ที่นี่ก็ยังเต็มไปด้วยใบไม้
ตอนที่เห็นที่นี่ครั้งแรกผมตกใจมากเลยล่ะ
เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นต้นไม้ที่ถูกปลูกไว้ภายในเรือแบบนี้
แต่ก็นะ ที่มันต้องมีต้นไม้ก็น่าจะเป็นเพราะเอาไว้เปลี่ยนบรรยากาศจากการล่องเรือล่ะมั้ง?
เพราะขนาดผมยังรู้สึกว่ามันผ่อนคลายเลยเวลาที่ได้มาเดินที่นี่
เพราะตั้งแต่ที่มาโลกนี้ ผมก็ไม่มีโอกาสได้มาเดินชมธรรมชาติอย่างสบายใจแบบนี้เลย
เพราะธรรมชาติโดยทั่วไปของโลกนี้มันเต็มไปด้วยอันตรายยังไงล่ะ!
ไม่ว่าจะเป็นป่าที่รกทึบที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ และ แมลงยักษ์…
ดังนั้นแค่การไปเดินในป่าของโลกนี้ก็เหมือนกับการเอาชีวิตไปทิ้งแล้ว
แต่ที่ เซ็นทรัลพาร์ค แห่งนี้น่ะไม่ใช่ เพราะที่นี่ปลอดภัย
มันมีทางเดินที่สะดวกสบาย มีพืชพรรณต่างๆ ที่ถูกจัดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ
และที่สำคัญที่สุดคือมันไม่มี มอนสเตอร์กับแมลงยักษ์ยังไงล่ะ
แถมยังมีเสียงนกด้วยนะ (เสียงที่อัดไว้เปิกผ่านลำโพง)
ถ้าเหนื่อยหรือหิวก็มีคาเฟ่กับร้านอาหารให้ไปนั่งพัก
สำหรับคนญี่ปุ่นที่ร่างกายอ่อนแออย่างผม การได้มาเที่ยวชมธรรมชาติที่มนุษย์สร้างขึ้นแบบนี้
คือคำตอบที่ถูกต้องแล้วสำหรับผม ไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องโจร
ไม่มีมอนสเตอร์ ไม่มีแม้แต่คนอื่นเลยด้วยซ้ำ
มันว่างเปล่าจนให้ความรู้สึกเหงาเลยล่ะ…หรือผมควรอัญเชิญซาโปราบิออกมาสัก 2-3 ตัว ไว้ที่นี่ดีนะ?
“วาตารุซัง ที่นี่สวยมากๆ เลยค่ะ
แต่…ทำไมถึงมีต้นไม้ถูกปลูกอยู่บนเรือแบบนี้ล่ะคะ?”
ดูเหมือนว่าอลิเซียซังจะไม่เข้าใจเหตุผลที่ต้องปลูกต้นไม้ไว้บนเรือสินะ
ผมก็พอเข้าใจนะ เพราะที่โลกนี้มันมีสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย
ดังนั้นธรรมชาติจึงไม่ใช่สิ่งที่น่ารื่นรมย์นักสำหรับคนในโลกนี้
“ผมคิดว่าสวนพวกนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้โดยสารได้ผ่อนคลายครับ
เพราะโดยปกติเรือแบบนี้จะล่องเรือกันทีล่ะนานๆ
ดังนั้นการได้เห็นต้นไม้บ้าง จึงน่าจะช่วยให้ผู้โดยรู้สึกผ่อนคลายขึ้นครับ”
แต่ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกัน ว่าคนออกแบบอาจจะแค่คิดว่าการมีต้นไม้อยู่เรือมันเท่ก็ได้!
สาวๆ เองก็กำลังเดินชมสวนอย่างสบายๆ อยู่เหมือนกัน
แต่ดูจากท่าทางของพวกเธอแล้วเหมือนจะไม่ค่อยสนใจพืชพรรณต่างๆ ที่ปลูกอยู่ที่นี่เท่าไหร่เลยแฮะ
ผมชักเริ่มสงสัยแล้วสิว่าคลอเร็ตต้าซังจะสนใจพวกต้นไม้ที่ถูกปลูกอยู่ที่นี่ไหมนะ?
แต่ก็นะพวกพืชที่อยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ที่ได้รับความสนใจ
ก็เป็นพวกต้นที่มีพลังพิเศษ หรือไม่ก็ สมุนไพรมีค่าเท่านั้นล่ะ
ผมว่าพวกเธอคงไม่สนใจต้นไม้ธรรมดาๆ ที่ปลูกอยู่ที่นี่หรอก…
ผมเดินต่อไปเรื่อยๆ ตามทางเดินภายในสวน ซึ่งมันก็ช่วยทำให้ผ่อนคลายอยู่นะ
แต่ตอนนี้ผมชักจะเริ่มสงสัยแล้วสิ ว่าพวกร้านที่อยู่ทั้ง 2 ฝั่งของสวนนี่มันขายอะไร
และเมื่อผมเดินไปจนสุดปลายทาง…ผมก็เริ่มเบื่อ
อีกทั้งยังเริ่มหิวแล้วด้วย งั้นพอแค่นี้ก่อนแล้วกัน
ผมว่าผมพาสาวๆ ไปที่คาสิโนเลยน่าจะดีกว่า
เพราะจากรายการที่เห็นแถวๆ คาซิโนมันมีทั้งร้านอาหารอิตาเลี่ยน
ร้านสเต็ก แล้วก็ร้านหรูๆ อีกเพียบเลย มื้อเย็นวันนี้เราไปกินกันที่คาสิโนี่แหละ
“งั้น…พวกเราไปที่คาสิโนกันเลยดีไหมครับ?”
พูดจบ ผมก็หันไปมองที่ไอเนสก็พบว่าตอนนี้เธอกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วมองมาทางผม
เธอนี่นะ รู้ตัวบ้างว่าที่ตัวเองมาเป็นทาสนิ เพราะเรื่องการพนันล้วนๆ เลยนะ
เฮ้อ…เอาเถอะ ยังไงผมก็เป็นคนควบคุมเงินอยู่แล้วปล่อยให้เธอเล่นๆ ไปคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?
จากนั้นพวกเราก็มาถึงหน้าคาสิโน ก่อนที่จะเข้าไป
ผมต้องคุยกับทุกคนเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน เพราะผมไม่อยากให้ใครหมดตัว
ก่อนหน้านี้ผมเคยถามเรื่องสถานการณ์ทางการเงินของพวกเธอมาคราวๆ แล้ว
พวกเธอบอกว่าเงินรางวัลที่ได้มาก่อนหน้านี้ หลังหักค่าใช้จ่ายประจำวันแล้ว
พวกเธอก็มอบมันให้ผมทั้งหมดเลย และหลังจากนั้นพวกเธอก็อยู่กับผมมาตลอด
เลยยังไม่ได้ออกไปรับงานที่ไหนเลย ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่า
เงินที่พวกเธอเหลืออยู่อาจมีแค่ 10 เหรียญทอง ที่ผมจ่ายเป็นค่าจ้างเท่านั้น
ดังนั้นผมจึงต้องระวังเรื่องนี้เอาไว้มากๆ เพราะถ้าปล่อยให้พวกเธอเล่นจนหมดตัวมีหวังได้ยุ่งกันแน่
“ทุกคนครับ ถึงผมจะอธิบายวิธีการเล่นให้ แต่ก็ห้ามเล่นเพลินกันเด็ดขาดเลยนะครับ
ต้องระวังเรื่องการใช้เงินกันให้มากๆ นะครับ เพราะถ้าเผลอเล่นเพลินล่ะก็
บางทีอาจจะถึงขึ้นหมดตัวเลยก็ได้นะครับ ดังนั้นวันนี้ผมขอให้จำกัดงบไว้คนล่ะ 5 เหรียญเงินนะครับ”
5 เหรียญเงิน…ก็เท่ากับ 5 หมื่นเยน มันเป็นเงินที่มากพอสมควรเลยนะ
เพราะถ้าแค่ล่องเรือเฉยๆ ยังไงก็ไม่มีทางเสียเงินมากถึงขนาดนั้นหรอก…มั้ง?
มั้งนะ…เพราะผมเองก็เคยมีประสบการณ์การล่องเรือแบบนี้อยู่เหมือนกัน
ตอนที่เดินทางไปที่เกาหลีใต้ แต่…ตอนนั้นผมล่องเรือธรรมดานี่สิ
จะเอามาเทียบกับเรือสำราญสุดหรูแบบนี้ได้ไหมนะ…ไม่อ่ะ ยังไงก็เทียบกันไม่ได้
เรื่องนี้ทำให้ผมรู้เลยว่าตัวเองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการล่องเรือสำราญเลย
และแสดงให้เห็นว่าชีวิตเดิมของผมไม่เคยสัมผัสกับความหรูหราระดับนี้มาก่อนเลย
มันก็แอบน่าเศร้านิดๆ นะ แต่ก็เอาเถอะ ค่อยมาสัมผัสกับประสบการณ์แบบนั้นตอนนี้ก็แล้วกัน
“5 เหรียญเงิน เหรอคะ…เข้าใจแล้วค่ะ พวกเราจะระวัง
เพราะพวกเราไม่เคยเล่นการพนันมาก่อนเลย”
เอ่อ…หรือว่าผมไม่ควรพาพวกเธอมาที่นี่ตั้งแต่แรก?
รู้งี้พาแค่ไอเนสกับเฟลิเซียมาซะก็ดี… แต่ก็เอาเถอะ
มาคิดได้ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว ตอนนี้มาสนุกกับที่นี่กันดีกว่า
จากนั้นพวกเราก็เข้าไปในคาสิโน ข้างในนี่หรูหราชะมัดเลย
แล้วแบบนี้ผมควรไปเล่นอะไรเป็นอย่างแรกดีล่ะ? รูเล็ตต์ดีมั้ย?
ผมลงไปนั่งที่โต๊ะ รูเล็ตต์ ที่มีอัตราเดิมพันขั้นต่ำที่ 5 เหรียญทองแดง…
แล้วต้องทำยังไงต่อ? ลองดูที่หน้าจอก่อนดีกว่า
ไหนดูสิ…มันบอกว่าต้องมีดีลเลอร์ อ้าว…แล้วผมจะไปหาดีลเลอร์มาจากไหนล่ะ?
อ้อ! พอนึกได้ผมก็อัญเชิญซาโปราบิออกมา
จากนั้นก็มีซาโปราบิที่แต่งตัวเป็นดีลเลอร์ปรากฏตัวออกมา…
แล้วเขาก็ยื่นอะไรบางอย่างคล้ายๆ กับเมนูมาให้ผม…
พออ่านดู ก็พบว่ามันมีกติกาการเล่นเขียนอยู่ในนั้น
ในคาสิโนปกติมันมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?
หรือว่าที่ทำแบบนี้เพราะพวกมันพูดไม่ได้?
ผมก็เข้าใจในความทุ่มเทกับงานของซาโปราบิอยู่หรอกนะ…แต่ทำไมไม่ทำให้มันพูดได้ตั้งแต่แรกล่ะ?
หรือมันจะพูดได้แค่ตอนที่วงล้อรูเล็ตต์หยุดหมุน?
…อืม เหมือนจะจำอะไรได้บางอย่างเลย แต่เอาเถอะ
ไหนๆ ก็มีเจ้ามือมาให้แล้ว ลองเล่นเลยก็แล้วกัน
ผมขอแลกชิปแบบ 5 เหรียญทองแดง มาจากซาโปราบิ มาทั้งหมด 20 เหรียญ
เงินคงจะถูกตัดจากบัตรซีพาสสินะ…สาวๆ เองก็แลกชิปมาด้วยเหมือนกัน
“วาตารุซัง ทำไมชิปของแต่ละคนถึงสีไม่เหมือนกันล่ะคะ?”
อลิเซียซังถามขณะเปรียบเทียบชิปของแต่ละคน
“อ้อ ในการเล่นรูเล็ตต์ ชิปจะถูกวางลงบนโต๊ะที่มีตัวเลขตัวนี้ครับ
ดังนั้นการมีชิปหลายสี จะช่วยให้รู้ว่าอันไหนเป็นของใครน่ะครับ”
“อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ”
“ผมจะเริ่มอธิบายแล้วนะครับ ตรงนี้จะมีสามตำแหน่งที่จะจ่ายเงินเป็นสามเท่าเมื่อเราถูกรางวัล
ตรงนี้ให้เลือกแทงสีแดงหรือสีดำ ตรงนี้เลขคู่หรือคี่ เลข 1-18 หรือ 19-36
ถ้าถูกจะได้เงินคืนสองเท่า แต่ถ้าออก 0 หรือ 00 จะเสียนะครับ อยากลองดูมั้ยครับ?”
ถ้าซาโปราบิมันพูดได้ ผมก็คงจะไม่ต้องมานั่งอธิบายวิธีการเล่นอยู่แบบนี้…
จริงๆ ผมล่ะไม่อยากทำแบบนี้เลย เพราะถ้าพวกเธอเข้าใจกติกากันขึ้นมาจริงๆ
มันอาจจะกลายเป็นหายนะเลยก็ได้ ดังนั้นผมจะอธิบายแบบงงๆ
เพื่อให้พวกเธอเล่นกันอย่างช้าๆ และใช้เงินทีละไม่มาก
จริงๆ ผมก็เผื่อใจเอาไว้แล้วล่ะว่าพวกเธออาจจะเสียเงินน่ะ
แต่มันก็มีโอกาสที่จะชนะรางวัลใหญ่อยู่เหมือนกัน…
แต่ผมอยากให้ทุกคนเล่นกันแบบสนุกๆ มากกว่า
ดังนั้นถ้าใครเสียเงินเกิน 1 เหรียญทอง ล่ะก็ ผมจะแบนไม่ให้คนนั้นเข้าคาซิโน
…หืม แต่ถ้าพวกเธอติดการพนันกันจนหมดตัวล่ะ?
บางทีผมอาจจะใช้เงินล่อพวกเธอให้อะไรแบบนั้นแบบนี้ก็ได้นี่นา…
สาวสวยหน้าอกใหญ่ที่ติดการพนันงั้นเหรอ…แบบนี้มันจะดีหรือเปล่านะ? ชักลังเลแล้วแฮะ
“วาตารุซัง ยังไม่เริ่มอีกเหรอคะ?”
“เอ๊ะ? อ้า ขอโทษครับ อลิเซียซัง งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า?”
จากนั้นเจ้าซาโปราบิก็พูดด้วยเสียงน่ารักๆ ว่า
“Place your bets.” (ในนี้มันพูด eng นะครับ)
“…พูดได้ด้วย!”
เอ๊ะ? จู่ๆ ก็พูดออกมาเฉยเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เอาแต่เงียบเนี่ยนะ?
จากนั้นซาโปราบิก็โยนลูกบอลลงไปในวงล้อ สาวๆ เองก็ดูจะตกใจเหมือนกัน
จากนั้นพวกฌเธอก็รีบวางชิปของตัวเองลงไป ผมเองก็วางชิป 1 อัน ลงไปที่สีแดงเหมือนกัน
ขอโทษนะ ที่ลงน้อยไปหน่อยน่ะ…
“Last call.”
“No more bets.”
มันน่าจะพูดว่าใกล้หมดเวลาวางเดิมพันแล้ว กับ ไม่สามารถวางเดิมพันได้อีก
ได้อีกดีกว่าไหม ทำไมแกถึงได้พูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษล่ะเนี่ย
…ลูกบอลตกลงไปที่ช่องสีแดงหมายเลข 32… ผมชนะ!
แต่ตอนนี้ผมกำลังสนใจเจ้าซาโปราบิมากกว่าอีก
ผมกำลังดูท่าทางของมันที่กำลังเก็บชิปของผู้แพ้ และ แจกจ่ายชิปให้กับผู้ชนะ แบบไม่แสดงอารมณ์อะไรเลย…
“นี่ ซาโปราบิ พูดอะไรกับฉันหน่อยสิ…”
ซาโปราบิพยักหน้าให้ อลิเซียซังกับคลอเร็ตต้าซัง ก็ทำท่าตื่นเต้นกับความน่ารักของมัน
“พูดได้เฉพาะที่กำหนดไว้งั้นเหรอ?”
ซาโปราบิพยักหน้าให้ เป็นข้อจำกัดที่น่ารำคาญชะมัดเลยนะแบบนี้
มันเหมือนกับ NPC ชาวบ้านในเกม RPG ที่พูดได้แต่ประโยคเดิมๆ เลยล่ะ
เลิกคิดมากแล้วเล่นต่อดีกว่า สาวๆ ที่เรียนรู้กติกาแล้วก็วางชิปกันอย่างร่าเริง
พอลูกบอลถูกโยนลงไป พวกเธอก็เชียร์ให้มันตกไปตรงที่พวกเธอวางเดิมพันไว้
นี่มันอะไรเนี่ย? ถ้าไม่ใช่เพราะนี่เป็นเรือของผม
พวกเธอได้ถูกไล่ออกไปแล้วนะ เพราะแต่ละคนส่งเสียงเชียร์กันดังสุดๆ เลยล่ะ
ระหว่างที่เล่นผมก็อธิบายการเล่นแบบต่างๆ ให้พวกเธอฟัง เช่น การเดิมพันแบบสองตำแหน่ง
หรือการว่างแบบสามทางเลือกที่จะมีโอกาสชนะมากกว่าแบบสองทางเลือก
พอเล่นไปสักพัก ไอเนสก็บอกว่าเธออยากลองแทงพวกตัวเลขดู
เธอบอกว่ามันขึ้นอยู่กับจังหวะและความเร็วที่ลูกบอลถูกโยนลงไป
เลยน่าจะพอเดาได้ว่ามันจะไปตกลงที่ตรงไหน…
“เอาสิ แต่ผมจะย้ายไปเล่นเกมอื่นแล้วนะ…งั้นอีกแค่ 3 ตาพอนะ”
“ได้เลยค่ะ ดูให้ดีนะคะ นายท่าน ฉันจะแสดงให้คุณเห็นเองว่าฉันเจ๋งขนาดไหน”
นั่นใช่คำพูดที่คนที่เคยขายตัวเองไปเป็นทาสเพราะติดหนี้การพนัน ควรพูดออกมาเหรอ?
เฮ้อ…ถ้าให้เดาล่ะก็ ผมคิดว่าเธอต้องแตกแน่ๆ งั้นทำเป็นไม่สนใจแล้วเล่นต่อดีกว่า…
จากนั้นผมก็หันไปแทงแดงกับดำกับริมุต่อ แต่อาจเป็นเพราะค่าโชคต่ำล่ะมั้ง
ริมุถึงได้ทายถูกบ่อยกว่าได้ผมมากถึงขนาดนี้…ให้ตายสิค่าโชค 15 นี่มันอนาจจริงๆ
“ไม่จริง! นายท่าน ฉันขออีกแค่ครั้งเดียว.. นะคะ?”
หลังจากแพ้เดิมพันด้วยการแทงตัวเลขแบบ 3 รอบติด
ไอเนสก็เริ่มงอแงว่าอยากเล่นอีก แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ
แล้วก็พอทุกคนไปที่โต๊ะแบล็กแจ็คต่อเลย
ผลของการเล่น รูเล็ตต์ คือ อลิเซียซังกับไอเนสเสียหมด ส่วนคนอื่นๆ ก็มีได้บ้างเสียบ้างกันเล็กน้อย
อลิเซียซังที่โดนไอเนสเป่าหูว่าให้ไปแทงตัวเลข ก็เสียหมดไปตามๆ กันสินะ…
จริงๆ ผมก็อธิบายให้ฟังแล้วว่า ถ้าจะแทงตัวเลย
พวกเธอสามารถแทง 2 หรือ 4 ตำแหน่ง พร้อมกันได้โดยการวางชิปไว้ตรงจุดตัดของเส้น
แต่พวกเธอดันมุ่งไปที่จุดเดียว เลยทำให้แทงพลาดไปทั้งหมด
และการเล่นในครั้งนี้ก็ทำให้ผมได้รู้ว่า ไอเนสน่ะไม่ใช่นักพนัน เธอแค่ชอบการพนันเฉยๆ
ผมนั่งลงที่โต๊ะแบล็คแจ๊คแล้วก็อัญเชิญซาโปราบิออกมา
จากนั้นมันก็ยื่นกระดาษที่มีกติกาเขียนอยู่มาให้ผม
จากนั้นเมื่อทุกคนอ่านกติกากันอย่างละเอียดแล้ว และเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนเข้าใจกติกา
ผมจึงสอนสัญญาณมือสำหรับ จั่ว และ อยู่ พร้อมอธิบายเรื่องดับเบิล สปลิท ฯลฯ ไปด้วยในระหว่างเล่น
ซาโปราบิก็ยังพูดแค่ “Place your bets” “No more bets” เหมือนเดิม
ผมจึงต้องเป็นคนอธิบายกติกาแทน และเพราะพวกเรานั่งพร้อมกันไม่ได้
เลยผลัดกันเล่นและอธิบายกติกาให้กันฟัง
บรรยากาศก็ยังคงคึกคักเหมือนเดิม และมันก็น่าสนใจที่ได้เห็นบุคลิกในแบบต่างๆ ของแต่ละคน
อลิเซียซัง คาร์ล่าซัง และไอเนส เป็นกลุ่มที่ดูจะอินกับการเล่นที่สุด
โดยเฉพาะคาร์ล่าซังที่เธอดูนิ่งจนน่าประหลาดใจเลย
โดโรธีซัง มารีน่าซัง อัลม่าซัง และเฟลิเซีย เป็นสายระมัดระวัง
พวกเธอจะเช็กไพ่ของตัวเองกับไพ่ของดีลเลอร์ก่อนเสมอเวลาจะตัดสินใจอะไร
ส่วนคลอเร็ตต้าซัง เธอน่ะระวังแบบสุดๆ เลยล่ะ เพราะเธอไม่เคยยอมเสี่ยงเลย ถ้าแต้มเกิน 15 แล้ว
หลังจากเล่นแบล็กแจ็คจบ พวกเราก็เปลี่ยนไปเล่นโป๊กเกอร์ บาคาร่า แครบส์ และอื่นๆ
แล้วก็ไม่รู้ทำไม ตอนที่ไอเนสเล่นบาคาร่า เธอถึงได้ระเบิดพลังออกมาจนชนะรัวๆ ได้น่ะ
ตอนนั้นเธอดีใจแบบสุดๆ จนผมแอบรู้สึกกังวลเลยล่ะ…
ถ้าให้สรุปผลของการเล่นในวันนี้ คือ ผมเสียเงินไปทั้งหมด 2 เหรียญเงิน
ส่วนในกลุ่มสาวๆ ก็มีไอเนสที่ชนะมาได้ถึง 33 เหรียญเงิน
อลิเซียซังเสียเงินไปทั้งหมด 5 เหรียญเงิน เลย ส่วนคนอื่นๆ ก็ได้บ้างเสียบ้าง
“คาสิโนเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ก็เสียเงินสิคะ แต่ฉันสนุกมากเลย แล้วก็ยังมีอีกหลายเกมเลยที่ยังไม่ได้เล่น
คราวหน้าฉันจะกลับมาเอาคืนให้ได้ค่ะ”
อลิเซียซังเป็นคนที่ดูจะอารมณ์บูดที่สุดในตอนนี้เลยล่ะ
เพราะเธอเป็นคนเดียวที่เสียเงินไปจนหมด ส่วนไอเนส…
“ดูสิคะ นายท่าน! ฉันสุดยอดไปเลยใช่มั้ยคะ?”
เธอยิ้มออกมาอย่างเปล่งประกาย …เจ้าต่ายพวกนั้นต้องแกล้งให้เธอชนะมาแน่ๆ
ตอนแรกก็ปล่อยให้เธอชนะ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยรวบเอาเงินทั้งหมดคืน
เพราะถ้าเป็นผม ผมก็คงทำแบบนั้นเหมือนกัน
ไหนว่าซาโปราบิถูกตั้งโปรแกรมให้ทำงานแค่ขั้นต่ำไง แต่แบบนี้…
อ้อ บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องปกติของคาซิโนก็ได้ ดังนั้นนี่จึงถือว่าอยู่ในขอบเขตของคำว่า ขั้นต่ำ
สมาชิกคนอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะสนุกเหมือนกันกัน
ผมคิดว่าคงมีแต่อลิเซียซังกับไอเนสนี่แหละ ที่จะแตกก่อนเพื่อนถ้ามาที่นี่กันบ่อยๆ
ดังนั้นผมคงต้องคอยจัดตาดูพวกเธอเอาไว้
“งั้นพวกเราก็ไปกินข้าวเย็นกันเถอะครับ
วันนี้ผมอยากกินอาหารของบ้านเกิด คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ?”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ เพราะฉันเองก็กำลังรออยู่เหมือนกัน
เพราะทุกร้านที่คุณพาไปกินมันอร่อยหมดเลยนี่คะ”
ในที่สุดก็จะได้กินอาหารญี่ปุ่นแล้ว จริงๆ ผมก็ชอบแฮมเบอร์เกอร์กับสเต็กอยู่นะ
แต่พอได้ยินคำว่า อาหารญี่ปุ่น มันก็รู้สึกอดไม่ได้ขึ้นมาน่ะ
“หวังว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังนะครับ”
ผมตื่นเต้นกับร้านอาหารญี่ปุ่นมากๆ เลยล่ะตอนนี้
แต่…นี่มันไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นที่ผมคิดเอาไว้นี่…ซูชิมันก็อร่อยอยู่หรอก
แถมสาวๆ เองก็ดูจะชอบกันมากด้วย เพราะมันทั้งอร่อยแล้วก็สนุก
แถมพอตอนที่ผมสั่งเทปปันยากิ ก็มีซาโปราบิออกมาทำให้ด้วย
และนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของความไม่สบายใจ
เพราะพวกซาโปราบิที่ออกมามันเริ่มร่ายรำกันยังไงล่ะ! พวกมันแสดงโชว์บนกระทะเหล็กกันแบบรัวๆ เลยล่ะ
ไม่ว่าจะเป็นการหมุนไข่บนเตาย่าง หรือดีดไข่ขึ้นไปบนอากาศแล้วรับมันด้วยหมวก และอื่นๆ อีกมากมาย
หลังจากนั้น มันก็เอาเนื้อมาย่าง เอาอาหารทะเลมาย่าง แล้วก็เอาผักมาผัดด้วยท่าทางแปลกๆ อีก…
ข้าวผัดนี่มันถือว่าเป็นอาหารญี่ปุ่นไหมนะ? มันก็อร่อยอยู่เหรอ
แต่ผมมองว่านี่มันไม่ใช่อาหารญี่ปุ่น เพราะผมเคยไปร้านเทปปันยากิที่ญี่ปุ่น
ยังไม่เคยเห็นโชว์ที่อลังการขนาดนี้มาก่อนเลยเหมือนกัน
ผมลังเลว่าควรจะอธิบายความเข้าใจผิดนี้ดีไหม แต่ก็พูดไม่ออก
เพราะเห็นสาวๆ กำลังสนุกกันอยู่ แต่นี่มันไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นนะครับ ทุกคน
หรือผมควรที่จะซื้อเรือสำราญของญี่ปุ่นมาดี?
ผมจะได้ว่าชื่อ Asuka II หรือเปล่านะ? ถ้าเป็นเรือลำนั้น บางทีอาจจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆ อยู่ก็ได้
ค่อยๆ อธิบายความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นไปแบบนุ่มนวลก็แล้วกัน
เพราะถ้าผมพาไปกินร้านญี่ปุ่นจริงๆ บนเรือ Asuka II แล้วไม่มีโชว์แบบนี้ พวกเธออาจจะผิดหวังกันก็ได้…
คิดแล้วก็เศร้า งั้นไปที่บาร์แล้วหาอะไรดื่มสักหน่อยดีกว่า
จากนั้นค่อยกลับไปให้ไอเนสกับเฟลิเซียเอาใจก่อนเข้านอน….
MANGA DISCUSSION