ตอนที่ 6:
พวกเราไม่ยอมแพ้
☆ สโนไวท์
เธอคงจะฝันร้าย เธอแน่ใจว่ามันเป็นความฝันประเภทที่จะทำให้ส่งเสียงร้องออกมาในตอนหลับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนเธอลืมตา เธอก็จำมันไม่ได้อีก
สโนไวท์แปลงร่างในทันที ร่างกายของเธอตอบสนองเร็วกว่าจิตใจ
เธอมองไปรอบตัว ตัวของเธอถูกวางเอาไว้บนพื้นหินเย็น แขนขาถูกมัดเอาไว้ เธอพยายามดิ้นไปมา แต่เธอไม่คิดว่าจะสามารถทำลายหรือคลายมันได้ เมื่อเธอเอียงศีรษะไปมองที่เชือกที่พันเอาไว้ที่เท้า เธอก็พบว่ามันคือเส้นด้ายของคลาสสิคคัล ลิเลี่ยน มันไม่สามารถถูกตัดได้ง่ายๆ
ห้องมืดที่ปูด้วยหินมันทำให้รู้สึกเย็นกว่าอุณหภูมิจริง แต่มันรู้สึกน่ากลัวมากกว่าที่จะรู้สึกเย็น บางทีอาจจะเป็นเพราะเรื่องนั้นที่ทำให้มีความเหน็บหนาวแล่นผ่านตัวของเธอก็ได้
สโนไวท์ไม่ใช่คนเดียวที่อยู่ภายในห้องนี้ โฮมุนครูสที่ดูเหมือนกับเธอกำลังถืออาวุธที่ดูเหมือนกับที่เธอใช้เอาไว้ มันยืนอยู่โดยที่ไม่ได้ทำอะไร นี่คือยามเฝ้างั้นเหรอ?
อีกคนคือคนที่รับผิดชอบห้องเรียนเมจิคัลเกิร์ล อาจารย์ใหญ่ฮัลน่า มิดิ เมเร็น โดยปกติแล้วเธอจะไม่ได้ยินเสียงความคิดของฮัลน่า แต่เมื่อมองไปหา สโนไวท์ก็สามารถเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไร เธอมีใบหน้าบึ้งตึง เอาแขนมาไขว้กันที่ด้านหลัง และกำลังเดินไปมา
ฝ่ายของเธอถูกโจมตี การป้องกันเป็นไปได้ไม่ดี ดังนั้นเธอกำลังตื่นตระหนก แต่ถึงกระนั้น หากเธอยังคงปลอดภัย แบบนั้นเธอก็สามารถปกป้องสิ่งต่างๆได้ นี่เพื่อนร่วมห้องที่ถูกควบคุมจิตใจเป็นอะไรรึเปล่า? เธอได้ยินความคิดของเมฟิสและเท็ตตี้มาจากด้านบนบันได เหมือนว่าพวกเธอยังคงถูกควบคุมอยู่ แต่พวกเธอก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ส่วนเสียงอื่นๆมันไม่มีอะไรเลย กระทั่งเสียงของไลท์นิ่งที่เคยมีเสียงดังก็ไม่สามารถได้ยินแล้ว
สโนไวท์สัมผัสได้ถึงการสั่นสะเทือนด้านล่างพื้นหิน เมื่อมองไปที่ฮัลน่าดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ตื่นตระหนก พื้นหินกำลังสั่นมากพอที่จะทำให้เกิดเสียง ดังนั้นมันจึงไม่มีทางที่สโนไวท์จะเป็นคนเดียวที่รู้ นี่หมายความว่าการสั่นสะเทือนมันเกิดขึ้นบ่อยมากพอที่ฮัลน่าจะไม่ตอบสนองกับมันทุกครั้งงั้นเหรอ?
สโนไวท์สงสัยว่าตัวเองหมดสติไปนานแค่ไหน เธอจำเรื่องได้ถึงแค่ตอนที่สโนไวท์สีดำโจมตีเธอ ในตอนนั้น ไลท์นิ่งสามารถเข้ามาภายในสวนได้แล้ว ดังนั้นนี่คือสวน? สัมผัสเรื่องเสียงจากภายในหัวใจถูกตัดออกจากนอกระยะจำกัดเหมือนกับที่สวน —แต่มันมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ?
เธอมองตามสายตาของฮัลน่าลึกเข้าไปในห้อง ประตูขนาดใหญ่ถูกเปิดออก มันดูเหมือนว่ามีบันไดที่ทอดยาวไปด้านล่างอีก แค่มองดูก็ทำให้สโนไวท์รู้สึกปวดศีรษะ จนเธอต้องเบนหน้าออกไป
เธอทำให้ลมหายใจสงบลงและเงยหน้าขึ้น สายตาของเธอไปสบเข้ากับฮัลน่าในตอนที่ฮัลน่ามองลงมาที่เธอ ฮัลน่าดูเหมือนว่าไม่ได้สนใจ เธอหันออกไปในทิศทางอื่นทันที เธอคงจะไม่ได้คิดว่าสโนไวท์จะเป็นภัยมากนัก แม้ว่าจะได้สติและทำการแปลงร่างอีกครั้ง โดยปกติแล้ว มันไม่สามารถจะประมาทเมจิคัลเกิร์ลได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะถูกมัดอยู่ก็ตาม
แต่…
สโนไวท์มองขึ้นไปที่ตัวของเธอที่มีสีดำที่ยืนอยู่ข้างฮัลน่า สโนไวท์คนนี้กำลังเหม่อลอย แต่เธอคงต้องถูกมอบคำสั่งมา อย่างน้อยเธอคงต้องถูกบอกว่าให้จับตัวสโนไวท์เอาไว้หากพยายามขัดขืน
สโนไวท์จะเคลื่อนไหวแบบไม่คิดไม่ได้ การที่จะถามคำถามอะไรกับฮัลน่าที่จะทำให้เธอโกรธก็เป็นความคิดที่ไม่ดี ตอนนี้ฮัลน่าคงรู้สึกกดดันมาก สโนไวท์จะไม่ปั่นหัวเธอ เธอจะคิดถึงเรื่องที่ต้องทำต่อไปแทน
☆ โอลด์ บลู
ไม่ว่าจะจินตนาการยังไง นี่ก็ไม่ใช่จังหวะที่ดี โอลด์ บลูใช้เวลาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการต่อสู้เพื่อสวนแหงนี้และสูญเสียกองกำลังไป เธอไม่รู้ว่าเอซโพดำยังอยู่ดีหรือไม่ สโนไวท์ถูกลักพาตัวไป ฮัลน่าเองก็หนีไปด้วย เธอขาดซึ่งการเตรียมการในทุกๆเรื่องเพื่อทำการโจมตีสวนกลับเข้าหาศัตรู
แต่มันก็ไม่ได้แย่ไปเสียทั้งหมด เดิมทีแล้วเธอคิดว่าถ้าเฟรเดริก้าปรากฏตัวออกมา มันก็จะเป็นจังหวะที่แย่สำหรับพวกเธอ และยิ่งไปกว่านั้น ไพตี้ เฟรเดริก้าได้เข้ามาหาเธอ
มันมีโอกาสสูงที่เฟรเดริก้าจะแค่ส่งกองกำลังของตัวเองเข้ามาและไม่ได้มาด้วยตัวเอง เฟรเดริก้ามีเหตุผลมากมายในตอนนี้ที่จะไม่ลงมือเป็นการส่วนตัว แต่การที่ตอนนี้ได้เห็นเฟรเดริก้าลงมือ โอลด์ บลูก็เข้าใจ —เฟรเดริก้าถูกบังคับให้มาที่นี่ด้วยตัวเอง
ในขณะที่ร่างของเธอมีพื้นฐานจากเฟรเดริก้า ความสามารถทางกายก็เพิ่มขึ้นจนสมเหตุสมผลที่จะเรียกว่าอีกคนหนึ่ง เวทมนตร์ของเธอก็คืออีกเรื่องหนึ่ง การต้านทานเวทมนตร์สูงยิ่งกว่าเอซโพแดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของหน่วยไลท์นิ่ง เธอใกล้เคียงมากกับร่างเกิดใหม่ ใช้ผู้ร่ายเวทที่ซื้อตัวมาโดยฝ่ายแคสปาร์ ผสานเทคโนโลยีล่าสุดเข้าไปมากมายในการออกแบบร่าง
ในขณะที่กำลังวิ่งผ่านสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทางเดิน โอลด์ บลูก็ปัดหมัด ลูกเตะ และการโจมตีจากกระโปรงของเฟรเดริก้าออกไปด้านข้าง ชายกระโปรงที่หมุนตัดกำแพงออกเป็นแนวทแยง เฟรเดริก้าเอามือขวาใส่เข้าไปในแขนเสื้อและชักออกมา ในระหว่างนิ้วแต่ละนิ้วคือทรงกลมขนาดเล็ก เธอขว้างมันออกมาโดยไม่ได้แม้แต่จะหยุด โอลด์ บลูเข้าใจเป้าหมายของเธอ ทรงกลมแต่ละลูกพ่นควันสีแดง ม่วง ฟ้า และเหลืองออกมาพร้อมกับการระเบิดเล็กๆ นี่คือควันสัญญาณ เธอใช้มันเพื่อติดต่อกองกำลังของเธอ
โอลด์ บลูมอบคำสั่งให้ไลท์นิ่งด้วยสัญญาณมือ จริงๆแล้วสัญญาณมือไม่ใช่ทุกสิ่งที่เธอมี ยิ่งเคลื่อนไหวแบบสามมิติมากเท่าไหร่เธอก็จะสามารถมอบท่าทางออกมาได้อีกมาก แต่เรื่องนี้มันคงยากหากเฟรเดริก้ามองทะลุได้ โอลด์ บลูเข้าใจเรื่องทิศทางที่เฟรเดริก้ามอบมา ในขณะที่ซ่อนทิศทางของตัวเองเอาไว้ เธอมีแต้มต่อมากกว่าหนึ่งหรือสองแต้มในสงครามข่าวสารนี้
ไลท์นิ่ง สายฟ้า มือหอก ข้อศอก เข้าประชิดเพื่อโจมตีด้วยฝ่ามือ ถอยออกห่างและให้อีกฝ่ายถอยออกไป —พวกเธอต่างก็โจมตีและป้องกันอีกครั้งและอีกครั้งโดยไม่หยุดเท้า เฟรเดริก้ารู้ว่าโอลด์ บลูพยายามดึงเธอออกห่างไปจากสวน แต่กระนั้น เฟรเดริก้าก็ไม่สามารถหันหลังและวิ่งออกไปยังสวนได้ โอลด์ บลูเองก็ไม่สามารถทำได้เช่นเดียวกัน การเผชิญหน้ากับเฟรเดริก้าในตอนนี้คือโอกาสครั้งใหญ่ เธอไม่สามารถปล่อยโอกาสนี้ไปได้ เธอจะจบมันลงที่นี่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงออกห่างไปจากสวน
โจมตีด้วยสายฟ้า แสร้งทำการโจมตี สับเปลี่ยนตำแหน่งกับไลท์นิ่ง กระโดดออกจากกำแพง เธอไถลตัวเข้าไปเพื่อจับข้อเท้า แต่มันไม่มากพอที่จะทำการบีบข้อต่อ เธอจึงสับเปลี่ยนตำแหน่งกับไลท์นิ่งอีกครั้ง
เธอตรวจสอบความสามารถในการต่อสู้ของเฟรเดริก้าอีกครั้ง ในเรื่องของพลัง เธอไม่ได้รวดเร็วหรือแข็งแกร่งในฐานะร่างเกิดใหม่ แต่เธอแข็งแกร่งกว่าเมจิคัลเกิร์ลธรรมดาหรือโอลด์ บลูมาก มันขึ้นอยู่กับว่าจะโดนโจมตีที่ตำแหน่งไหน แค่การโจมตีเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ถึงชีวิตได้ การป้องกันเอาไว้ด้วยความกลัวจะนำไปสู่เพียงแค่ความตาย —ดังนั้นโอลด์ บลูจึงทำการโจมตีเข้าไปอย่างต่อเนื่อง โชคดีที่เธอเคยชินกับการเดินบนเส้นเชือกบางๆเสียแล้ว
ในตอนที่เธอป้องกันการโจมตีและปัดออกไปด้านข้าง เธอก็มอบคำสั่งให้แก่ไลท์นิ่ง ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปหาเฟรเดริก้า เธอก็สามารถมองเห็นสวน สถานโบราณ และแม้กระทั่งวัตถุโบราณได้ ในระยะนี้ มันไม่ได้มีอะไรที่เสียหายมากเกินไป
☆ ฮัลน่า มิดิ เมเร็น
สถานการณ์มันแย่เอามากๆ พวกเธอดึงศัตรูเข้ามาภายในสวนด้วยแผนการที่จะทำการโจมตีขนาบข้างระหว่างโรงเก็บของและฐานชั่วคราวที่สร้างขึ้นภายใน และผลลัพธ์นั้น พวกเธอก็ได้อนุญาตให้ศัตรูเข้ามาในสถานที่ไม่ควรจะสามารถทำการเปิดออกได้ ยิ่งไปกว่านั้น ศัตรูยังเข้ามาภายในโรงเก็บของได้ จนฮัลน่าต้องหนีมาที่ทางเข้าของสถานโบราณอย่างตะเกียกตะกาย จากนั้นศัตรูก็ทำลายรากที่อยู่ในโรงเก็บของ แถมสถานโบราณกับวัตถุโบราณก็ตอบสนองอย่างแปลกประหลาด
มันยังคงมีเรื่องดีอยู่บ้าง หัวขโมยคงจะตระหนักถึงแรงสั่นสะเทือนในพื้นดินในตอนที่ถอยออกไปจากสวน ในตอนนี้ ไลท์นิ่งได้ประจำตำแหน่งล้อมรอบสวนเอาไว้
การโจมตีกำลังหยุดนิ่ง แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าเรื่องชั่วคราว ต่อหน้าหัวขโมยพวกนี้ การทิ้งความคิดในแง่ดีไปคือเรื่องดีที่สุด
ช่วงเวลาพักที่ไม่คาดคิดนี้มันคือจังหวะที่ต้องลงมือ แต่การติดต่อกับคุมิคุมิและลิเลี่ยนที่ฮัลน่าส่งเข้าไปในสถานโบราณถูกตัดขาด ฮัลน่าได้จัดเตรียมให้มีการสื่อสารในระดับหนึ่งด้วยการให้ลิเลี่ยนพันด้ายเวทมนตร์ไว้รอบเอวและทำการดึงด้วยจำนวนครั้งที่กำหนดไว้ แต่เพียงไม่นาน การตอบสนองทุกอย่างก็ลดลง จนเมื่อเธอดึงด้ายก็ไม่มีการตอบสนองกลับมาเลย ทุกอย่างที่กลับมาคือด้ายที่ถูกฉีกขาดตรงปลาย
เธอสร้างเทคโนโลยีในการผสานนี้ขึ้นมาหลังจากที่ล้มเหลวมาในขั้นต้น อย่างน้อยที่สุดเธอสามารถยืนยันในเอกสารว่าพวกเธอสามารถลงมือปฎิบัติภายในสถานโบราณได้ กรณีที่แย่ที่สุด มันควรจะใช้เวลามากกว่านี้ก่อนที่เมจิคัลเกิร์ลที่ทำการผสานร่างจะรู้สึกเหนื่อยล้าเพราะผลด้านลบของสถานโบราณ มันทำความเข้าใจไม่ได้เลยที่พวกเธอจะหายไปในเวลาสั้นๆ
มันเห็นได้ชัดเจนว่ามีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น แต่ฮัลน่าไม่ได้มีคนหรืออุปกรณ์เพื่อมองดูมัน สถานโบราณนี้เหมือนว่าจะอยู่ในสถานะที่ต่างจากปกติ อะไรบางอย่างทำการตัดการสื่อสารกับเมจิคัลเกิร์ลร่างผสาน คนที่ควรจะมีความต้านทานทางเวทมนตร์ออกไป แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดมันไม่สามารถทราบได้ นี่ผู้บุกรุกทำอะไรบางอย่างไปงั้นเหรอ? มันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นรึเปล่า? หรือว่ามันมีเหตุผลอื่น? ในตอนนี้ ทุกอย่างที่ฮัลน่าสามารถทำได้ในตอนที่อยู่ใกล้กับทางเข้าสถานโบราณที่มืด แคบ และมีกลิ่นอับคือการกัดเล็บตัวเอง
เธอพ่นลมหายใจออกมา
กัดเล็บตัวเองเนี่ยนะ? ไม่อยากจะเชื่อ!
ถ้าส่งกองกำลังอื่นเข้าไปในส่วนลึกของสถานโบราณล่ะจะเป็นยังไง? ถ้ากลุ่มที่สองพบกับหายนะ แบบนั้นเธอก็จะดวงกุดเข้าจริงๆ เธอกำลังหมดหนทาง ศัตรูมีจำนวนที่เหนือกว่า ฮัลน่าได้ร่างผสานของนักเรียนทั้งหมดมาแล้ว แต่มันก็ยังคงไม่มากพอ นักเรียนที่เหลืออยู่บางทีอาจจะตายไปแล้ว เธอจึงไม่สามารถตั้งความหวังได้ เธอควรจะตั้งความหวังกับความแข็งแกร่งของโฮมุนครูสสโนไวท์ แต่มันก็มีขีดจำกัด
ไม่ใช่ว่าเธอควรใช้ฐานชั่วคราวให้เกิดประโยชน์หรอกเหรอ? แต่เนื่องจากเธอคิดเอาไว้ว่าจะทำการโจมตีขนาบข้างพร้อมกับโรงเก็บของ มันจึงไม่ใช่เรื่องดีที่จะใช้ปกป้องทางเข้าสถานโบราณ คุมิคุมิและลิเลี่ยนคนที่สามารถสร้างใหม่และซ่อมแซมได้ในตอนนี้ก็หายไปแล้ว เมฟิสและเท็ตตี้กำลังพยายามอย่างที่สุดอยู่ด้านบน แต่มันก็เท่านั้น
ใช้การไม่ได้เลย ทั้งหมดนี่มันไม่มีประโยชน์!
ฮัลน่ามองไปที่โฮมุนครูสสโนไวท์ที่อยู่ด้านข้าง มันบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ก็ยังคงต่อสู้ได้ เวลาที่จะส่องประกายเดิมทีแล้วมันควรจะอยู่หลังการต่อสู้นี้ แต่การต้องผ่านเรื่องนี้ไปคือความสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่ชั้นควรจะทำยังไงดี? ควรจะทำยังไงดี?
ในตอนที่เธอคิด เวลามันก็ผ่านไป เธอแค่เดินไปทางขวาแล้วก็มาทางซ้ายพร้อมกับเอามือไขว้อยู่ด้านหลัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอมองขึ้นไปยังเพดานพร้อมสงสัยตัวเองจะคิดแผนการอะไรดีๆออกมาไม่ได้ ทุกสิ่งที่เธอเห็นก็คือก้อนหินสีเทาดำ จากนั้นก็มองลงมาที่หินปูพื้น ในระหว่างทาง รองเท้าสีขาวได้เข้ามาในมุมของภาพที่เธอเห็น และสายตาของเธอก็มองไปที่ตรงนั้น
สายตาของเธอสบเข้ากับสโนไวท์ที่ล้มอยู่ —สโนไวท์ตัวจริง คนที่ถูกจับตัวมา
สโนไวท์มองกลับมาที่ฮัลน่า หันหน้าออกไป และก้มหน้าลง
เธอเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ฮัลน่าสัมผัสความแข็งแกร่งของเธอไม่ได้
ฮัลน่ารู้สึกว่า เมื่อคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าเธอคงต้องเป็นแบบนั้น ฮัลน่ารู้สึกแย่แทนเธอ แต่ยิ่งกว่านั้น ฮัลน่ารู้สึกผิดหวังในตัวโสไนวท์ เธออ่อนแอเกินไปกว่าที่จะเป็นสัญลักษณ์ให้กับเมจิคัลเกิร์ลหน้าใหม่ ไม่ใช่ว่าเมจิคัลเกิร์ลควรจะส่องประกายในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้รึไง?
ไม่ใช่ แบบนั้นไม่ถูกต้อง
การฝืนเอาอุดมคติที่เห็นแก่ตัวของตัวเองไปให้เด็กสาวและจากนั้นก็รู้สึกผิดหวังออกมาในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องที่ไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่ เธอยังคงเป็นแค่เด็กสาว มันไม่มีทางเลยที่เธอจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ ร่างผสานมันมีไว้เพื่อการนี้ ก่อนอื่น ร่างกายของเธอจะแข็งแกร่งขึ้น เมื่อร่างกายของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น เธอก็จะมีความมั่นใจ ถ้าหากมันยังคงไม่ดีพอ แบบนั้นฮัลน่าก็จะใช้เวทมนตร์ของตัวเอง ด้วยการทำเช่นนี้ เธอก็จะกำจัดความอ่อนแอในจิตใจของสโนไวท์ได้
ผสานสโนไวท์เพื่อล้างสมองและเสริมพลังเธอคือหนึ่งในตัวเลือกที่ดูเป็นจริง แต่รากที่อยู่ในโรงเก็บของมันถูกทำลายไปแล้ว มีรากใหม่หลายรากงอกออกมาก็จริง แต่มันก็ต้องใช้เวทมนตร์เพื่อดำเนินการ มิเช่นนั้นจะไม่สามารถดึงพลังออกมาได้ เธอไม่ได้มีพลังงานที่กักเก็บเอาไว้ เธอเป็นแค่ผู้ร่ายเวทเท่านั้น เครื่องมือที่สามารถใช้ได้ก็มีจำกัด —ไม่ได้มีอะไรที่วางเรียงรายกันอยู่ และเธอก็ไม่ได้อยากจะลองด้วย
หากเป็นแบบนั้น…
เธอวางมือเข้ากับกำแพงเพื่อประคองตัว กำแพงมันกำลังสั่นอย่างรุนแรง แต่มันไม่ได้มีแผ่นดินไหว มาตราการป้องกันแผ่นดินไหวสำหรับสถานโบราณมันสมบูรณ์แบบ แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน? เธอมองขึ้นไปบนบันได ในขณะที่เมจิคัลเกิร์ลยังคงต่อสู้ มันก็มีแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย แต่มันก็ไม่มีอะไรที่เป็นแบบตอนนี้เลย
☆ ไพตี้ เฟรเดริก้า
เฟรเดริก้าเพ่งความสนใจ 80 หรือ 90 เปอร์เซ็นต์ไปที่โอลด์ บลู และอีก 10 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ไปที่ไลท์นิ่ง เมื่อเทียบกับโอลด์ บลูที่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่ไม่รู้จักแล้ว ไลท์นิ่งจึงไม่ใช่ภัยอะไร สายฟ้าหรือดาบของเธอใช่ว่าจะทำร้ายเฟรเดริก้าในตอนนี้ได้
ดังนั้นเมื่อไลท์นิ่งเริ่มเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด เฟรเดริก้าจึงตอบสนองได้ช้า มันเป็นเพราะว่าเธอตอบสนองกับการโจมตีของโอลด์ บลูแบบในทันที —ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วมันคือการเปิดทางของโอลด์ บลู
ไลท์นิ่งแยกตัวออกเป็นกลุ่มและเหวี่ยงอาวุธของตัวเองขึ้น ที่ด้านหลัง เฉียงออกไปด้านหลัง ตรงหน้า และที่เหนือกำแพง —กลุ่มเล็กๆสี่กลุ่มนี้เหวี่ยงอาวุธของตัวเองลงไปที่พื้นในขณะที่โอลด์ บลูถอยกลับไปด้านหลัง ก่อนที่เฟรเดริก้าจะตาามเธอไป มันก็มีการระเบิดเกิดขึ้น
เฟรเดริก้าก้มหน้าและส่งเสียงครางออกมา แรงสั่นสะเทือนทะลุผ่านผิวหนังจนไปถึงกระดูก การระเบิดจากสี่ทิศทางโจมตีเข้าใส่เฟรเดริก้า แต่ในตอนนี้ร่างกายของเธอยังคงรับมันได้ ดวงตาและแก้วหูยังคงปกติ แต่กระนั้น มันไม่ใช่ว่าอาการบาดเจ็บของเธอคือศูนย์
โอลด์ บลูก้าวมาข้างหน้า และเฟรเดริก้าก็ถอยหลังกลับ มันไม่มีเวลาที่จะให้ทรุดตัวลงไป
เทคนิคนี้…
มันคือการผสานการโจมตีที่เกิดขึ้นในตอนที่ฝ่ายวิจัยและพัฒนาและห้องทดลองทำงานร่วมมือกัน อัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่น มันทำให้เกิดขึ้นได้โดยการรวบรวมเมจิคัลเกิร์ลประดิษฐ์หลายคนเข้าหากัน
ไลท์นิ่งรวมตัวกันและแยกตัวออกไปอีกครั้งเป็นหน่วยเล็กๆหลายหน่วย พวกเธอเคลื่อนไหวอย่างไหลลื่น เหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีรูปร่าง โอลด์ บลูขยับนิ้วของเธออย่างต่อเนื่อง —นั่นคงจะเป็นการมอบคำสั่ง
ขวา ซ้าย ในตอนที่เศษซากปลิวออกไปด้วยการระเบิดกำลังร่วงลงมา เธอและโอลด์ บลูก็โจมตีเข้าใส่กันและกัน และไลท์นิ่งก็เหวี่ยงอาวุธของตัวเองขึ้น
ไม่ยอมให้เกิดขึ้นหรอก
เมื่อโอลด์ บลูพยายามจะออกนอกระยะ เฟรเดริก้าก็ไล่ตามไป เธอเตรียมใจเอาไว้ว่านี่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สิ่งที่เธอมีมากขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้ามันทำให้ไลท์นิ่งยกเลิกอัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่นได้ แบบนั้นก็คือเรื่องดี หากไม่ได้ แบบนั้นโอลด์ บลูก็จะรู้ หากโอลด์ บลูอยากทำให้เรื่องนี้เป็นการแข่งขันว่าใครสามารถรับการโจมตีได้มากกว่ากันล่ะก็ แบบนั้นเธอก็ควรจะลองดู
เฟรเดริก้ารักษาระยะระหว่างพวกเธอเอาไว้ เธอปล่อยหมัดออกไป และการระเบิดก็เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน มันมาจากด้านหลัง ไลท์นิ่งที่อยู่ด้านหน้าแค่เหวี่ยงอาวุธขึ้นแต่ไม่ได้เหวี่ยงลงมา การระเบิดที่เกิดขึ้นด้านหลังเฟรเดริก้ามันดันให้ตัวของเธอออกไปด้านหน้า และโอลด์ บลูก็ต่อย ป้องกัน เตะ แล้วก็หยุดเธอ พวกเธอปะทะกันอีกสองสามครั้งก่อนที่จะแยกกัน เฟรเดริก้าโดนการโจมตีเข้าที่ด้านข้าง และเมื่อเธอพยายามลดศอกลง โอลด์ บลูก็จับข้อมือของเธอเอาไว้
เรื่องนี้ทำให้เฟรเดริก้าเสียสมดุลย์ เธอเตรียมตัวทันที แม้ว่าจะโดนโจมตีเข้าไปหนึ่ง หรือสองครั้ง เธอก็จะไม่มีวันหยุดคิด
เธอเข้าใจเหตุผลที่ทำไมโอลด์ บลูถึงออกห่างจากสถานโบราณ มันคืออัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่น มันคงจะมีปัญหาหากเธอทำให้สถานโบราณโดนการระเบิดไปด้วยจนไม่สามารถควบคุมได้ เธอจึงต้องเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่แห่งใหม่
นี่คือไพ่ตายที่โอลด์ บลูเก็บเอาไว้งั้นเหรอ? แต่เรื่องปริศนาก็ยังคงมีอยู่ ไลท์นิ่งรวมตัวกันและแยกตัวออกไปแบบซ้ำๆ สร้างกลุ่มใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ระดับของการระเบิดครั้งที่สองมันต่างจากครั้งแรก พวกเธอกำลังวัดระยะอย่างแม่นยำเพื่อให้โอลด์ บลูอยู่นอกระยะของอัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่น เฟรเดริก้าเหมือนจะจำได้ว่าพลังของการระเบิดจะขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ที่ใช้เทคนิคนี้ แต่ในจุดนี้ ระหว่างกลุ่มที่มีไลท์นิ่งจำนวนน้อยและกลุ่มที่มีไลท์นิ่งจำนวนมาก บางครั้งกลุ่มที่มีจำนวนน้อยก็ทรงพลังกว่า และในทางกลับกัน บางครั้งไลท์นิ่งเพียงคนเดียวก็ทรงพลังมาก
มีการระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้ง ตัวของเฟรเดริก้าโอนเอน เธอกัดฟันและรับมือกับแต่ละการโจมตีของโอลด์ บลูที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเธอพุ่งไปด้านหน้าอย่างรุนแรง เธอป้องกันไม่ให้ตัวเองล้มไปด้านหน้าได้ก็จริง แต่คริสตัลบอลของเธอถูกเตะพร้อมเสียง ตึง เธอจึงปล่อยมันให้กลิ้งออกไป เธอโยนมันขึ้นไปด้านบน ยืดแขนออกเพื่อทำการกระโดดขึ้นไปอีกครั้ง สิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นคริสตัลบอลเพียงลูกเดียวที่กลิ้งออกไปก็กลายเป็นยี่สิบหรือสามสิบ และกระจายอยู่ทั่วบริเวณเหมือนกับกระสุนปืนลูกซอง
☆ โอลด์ บลู
คริสตัลบอลกระจายออกเป็นรัศมีวงกลม โอลด์ บลูปล่อยข้อมือเฟรเดริก้าและถอยกลับไปด้านหลัง เธอสั่งการไลท์นิ่งและให้พวกเธอกระจายตัวออกไปเพื่อป้องกันการถูกโจมตีแบบตรงๆ
เฟรเดริก้ายืดมือออกไปตรงหน้า แม้ว่าจะโดนการระเบิดเข้าไปเล็กน้อย การเคลื่อนไหวนั้นเฉียบคมเสมอ เธอหลบการโจมตี และโอลด์ บลูก็เข้าไปจับแขนของเธอ แต่เฟรเดริก้าก็หลบได้เช่นเดียวกัน โอลด์ บลูสั่งการด้วยสัญญาณมือและโจมตีเข้าใส่เฟรเดริก้า จากนั้นก็ป้องกัน อยู่ในระยะใกล้โดยที่ไม่ถอยออกไป
โอลด์ บลูสังเกตุศัตรูในระยะที่ใกล้พอจนสามารถสัมผัสได้ การเคลื่อนไหวนั้นเฉียบคมก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าไม่ได้รับบาดเจ็บเลย มันกำลังเกิดขึ้น เธอเองก็เหนื่อยเช่นกัน ไม่นานก็จะทำลายผิวหนังได้ แล้วเลือดมันก็จะไหลออกมา
คริสตัลบอลที่ยิงออกมายังคงลอยอยู่ในอากาศ มันรักษาตำแหน่งล้อมการต่อสู้นี้เอาไว้ หากเฟรเดริก้าตั้งใจจะทำให้มันลอยเข้ามาอีกครั้ง โอลด์ บลูก็จะโจมตีกลับ มันไม่จำเป็นต้องโจมตีเข้าใส่อย่างที่เฟรเดริก้าคิด พวกเธอแค่ต้องทำให้มันโดนเข้ากับอัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่นเท่านั้น
ไลท์นิ่งเหวี่ยงอาวุธของตัวเอง การระเบิดกำลังมา ในตอนนี้พื้นดินได้กลายเป็นเหมือนกับด้านมืดของดวงจันทร์ไปเรียบร้อยแล้ว และมันก็จะเปลี่ยนสภาพอีกครั้ง การตอบโต้ระหว่างการเคลื่อนไหวเพื่อป้องกันของโอลด์ บลูและความสามารถทางกายภาพของเฟรเดริก้าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โอลด์ บลูเคลื่อนไหวไปรอบๆอย่างไหลลื่น ไม่ให้ไลท์นิ่งเข้ามาใกล้ แต่ก็ไม่ได้ปล่อยไว้โดยไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้อง วางพวกเธอเอาไว้ในตำแหน่งที่ถูกต้องที่สามารถกระจายออกไปได้อีกครั้ง คริสตัลบอลยังคงตามเธอมารอบๆจากระยะคงที่
โอลด์ บลูจะปล่อยให้ตัวเองเสียสมาธิไม่ได้ จุดประสงค์ดั้งเดิมของคริสตัลบอลไม่ใช่การขว้างออกมาเหมือนกับกระสุน เธอเพ่งความสนใจไปที่คริสตัลบอลแค่เพียงขั้นต่ำเท่านั้น ในขณะที่ใช้ความระมัดระวังมากที่สุดไปกับการร่วมมือกับไลท์นิ่ง
พลังของอัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่นจะเพิ่มมากขึ้นแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้ แต่ไลท์นิ่งนั้นต่างออกไป พลังของเธอไม่ได้อยู่กับแค่จำนวน แต่ยังขึ้นอยู่กับตราและหมายเลขด้วย เฟรเดริก้าไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ว่ามันสามารถทรงพลังได้มากแค่ไหน —แค่มองดูมันก็บอกไม่ได้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำว่าไลท์นิ่งหมายเลขไหนที่ถูกมอบหมายหน้าที่
โอลด์ บลูที่รู้เรื่องหมายเลขของไลท์นิ่งแบบเต็มที่ได้มอบคำสั่งใหม่ เธอสามารถปรับพลังเพื่อป้องกันไม่ให้โดนตัวเอง และเอาเฟรเดริก้าเข้ามาอยู่ในระยะได้
การระเบิดหลายครั้งเกิดขึ้นตามลำดับ
โอลด์ บลูก้าวตรงไปหาคู่ต่อสู้ในขณะที่มีเศษซากถล่มอยู่โดยรอบ
☆ ไพตี้ เฟรเดริก้า
หากจะพูดอย่างง่ายๆ โอลด์ บลูก็คือสัตว์ประหลาด ในขณะที่กำลังทำการโจมตีอยู่ในระยะประชิดกับใครซักคนที่เป็นเมจิคัลเกิร์ลที่มีความสามารถทางกายภาพระดับสูง เธอก็ยังใช้เวทมนตร์ของตัวเองอย่างเต็มที่ มอบคำสั่งให้ไลท์นิ่งอย่างแม่นยำโดยตลอด และเฟรเดริก้าก็มองไม่เห็นช่องว่างเลย ลาซูไลน์รุ่นที่หนึ่ง การมีเธออยู่ฝ่ายเดียวกันคือเรื่องที่ยอดเยี่ยม และในฐานะศัตรู มันก็ไม่มีเมจิคัลเกิร์ลคนไหนที่จะน่ากลัวไปกว่านี้อีกแล้ว
ก็นะ…
ในตอนที่เป็นฝ่ายเดียวกัน เฟรเดริก้าเคยคิดว่าตัวเองจะต้องทำยังไงเมื่อต้องรับมือกับเธอ การมีตัวตนอยู่ของโอลด์ บลูคือแหล่งกำเนิดความกังวลของเฟรเดริก้า จริงๆแล้วเธอรู้สึกโล่งอกที่ต้องสู้กับเธอในฐานะศัตรูด้วย
เมื่อโอลด์ บลูก้าวเข้ามา เฟรเดริก้าเองก็ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน เฟรเดริก้าคาดการณ์ผิดว่าโอลด์ บลูจะถอยกลับไป จนโดนโอลด์ บลูโจมตีเข้ามาที่หน้าท้อง การสวนกลับของเฟรเดริก้าได้แค่เฉี่ยวดอกเนโมฟิเลียที่เป็นเครื่องประดับของโอลด์บลูไป เธอพยายามจับตัวโอลด์ บลู แต่โอลด์ บลูก็หลุดออกไป และไลท์นิ่งก็เหวี่ยงอาวุธลงมา
เฟรเดริก้ายังคงมองแบบไม่กระพริบตา
ก่อนหน้าแรงกระแทกของไลท์นิ่งจะเกิด โอลด์ บลูลอดเข้าไปในช่องว่างระหว่างกลุ่ม และจากนั้นการระเบิดก็เกิดขึ้น บาเรียทำการปกป้องไลท์นิ่งเอาไว้ในทุกครั้งที่ปล่อยอัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่นออกมา เฟรเดริก้าได้ยินว่าการโจมตีนี้เคยถูกใช้ในเหตุการณ์โฮมุนครูสในวันก่อน ซึ่งมันได้ทำลายศัตรูทั้งหมดโดยที่ไม่ทำร้ายผู้ที่ทำการโจมตี
เฟรเดริก้าไม่อยากจะเชื่อว่าโอลด์ บลูใช้โอกาสนี้เพื่อแทรกตัวเข้าไป โอลด์ บลูจะไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น แม้ว่าเธอจะเมินโอลด์ บลูและจัดการไลท์นิ่งไปหนึ่งหรือสองคน เฟรเดริก้าก็ไม่อยากจะจินตนาการว่ามันต้องสูญเสียมากแค่ไหน โอลด์ บลูรู้ถึงเรื่องนี้ดี แถมไลท์นิ่งก็จัดตำแหน่งในแบบในทันทีด้วย แผนการมันจึงไม่ได้มีประโยชน์
แต่ถ้าเป็นในกรณีที่เธอกำจัดไลท์นิ่งได้ ถ้าไลท์นิ่งได้เปลี่ยนใจอย่างปริศนาและกลายเป็นพรรคพวกของเฟรเดริก้า แบบนั้นมันจะเป็นยังไงล่ะ? มันจะไม่ใช่แค่จำนวนจะลดลงไปหนึ่งคน มันจะเป็นการทำลายแผนการที่ขณะนี้ถูกใช้กับเธออย่างเมตตา เฟรเดริก้าเลื่อนสายตาขึ้นไปด้านบนเล็กน้อย เครื่องประดับรูปดวงดาวที่ปลายหมวกของเธอสร้างเสียงอันน่ารื่นรมณ์ออกมาในตอนที่หมุนเป็นแนวนอน จากนั้นมันก็หยุดหมุนโดยสมบูรณ์ โอลด์ บลูเองก็หยุดเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน
เธอรู้ว่าโอลด์ บลูกำลังมองไปที่ไหน มันคือเครื่องประดับรูปดวงดาวที่อยู่ตรงปลายหมวกของเธอ ราวกับเป็นต้นคริสมาสต์
ไม่มีใครที่มองดูมันและคิดว่าจะเป็นอะไรที่มากไปกว่าเครื่องประดับของชุด แต่โอลด์ บลูเข้าใจถึงความเป็นจริงของสิ่งใดๆที่มองดู เพียงแค่มองดูครั้งเดียวโอลด์ บลูรู้ว่านี่ —เครื่องประดับรูปดวงดาวที่สร้างมาจากปลายของเรเปียควบคุมจิตใจ— คือไอเท็มที่อันตราย นั่นคือประเภทของเวทมนตร์ที่โอลด์ บลูมี
แขนขวาของโอลด์ บลูสั่น การเคลื่อนไหวของนิ้วมือก็รุนแรงมากยิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกัน พื้นดินก็สั่นไหว เฟรเดริก้ารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยผ่านทางฝ่าเท้า แรงสั่นสะเทือนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการเปิดใช้งาน ศูนย์กลางการสั่นไหวมันอยู่ใกล้ยิ่งกว่านั้น
มันเหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังขุดพื้นดินที่อยู่ด้านล่าง เฟรเดริก้ากระโดด ไลท์นิ่งเหวี่ยงอาวุธขึ้น โอลด์ บลูก้าวมาข้างหน้า เธอโยนเครื่องประดับรูปดวงดาวขึ้นไปด้านบน กะจังหวะให้ตรงกับตอนที่ดึงคริสตัลบอลที่ลอยอยู่รอบๆเข้ามา
ถ้าจะพูดอย่างสุภาพแล้ว โอลด์ บลูก็คือสัตว์ประหลาด เธอมีพลังในการประมวลผลที่เหลือเชื่อ ไม่ใช่แค่ทำสองเรื่องพร้อมกัน แต่เป็น สาม สี่ ห้า หกอย่างในเวลาเดียว สั่งการไลท์นิ่ง ต่อสู้กับเฟรเดริก้า ใช้เวทมนตร์ของตัวเอง รับมือกับคริสตัลบอล —หากเธอจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งพลาด มันก็หมายถึงความตายของตัวเอง แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น เธอก็ลงมือได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย —จากสายตาของคนนอกแล้วคงจะเป็นเช่นนั้น
“สัตว์ประหลาด” คือคำเปรียบเทียบ ในความจริงแล้วเธอคือมนุษย์ เธอมีขีดจำกัด แค่ตัวของเธออย่างเดียวคือเรื่องหนึ่ง —แต่ถึงเธอจะใช้ลูกน้องเสมือนแขนแขนของตัวเอง นั่นก็ไม่ใช่แขนขาจริงๆของเธอ นี่เองก็เป็นการเปรียบเทียบเช่นกัน
เรเปียของพูคินคือไอเท็มที่อันตรายมาก โอลด์ บลูรู้เรื่องนี้ และเธอก็จะพยายามรับมือกับมัน เธอต้องทำอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นเรื่องราวจะผิดเพี้ยนไปหากเฟรเดริก้าใช้มันกับไลท์นิ่ง และเมื่อสิ่งหนึ่งผิดเพี้ยนไป แบบนั้นเรื่องราวก็จะจบลงอย่างแน่นอน
เมื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย เธอก็สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว โดยปกติแล้วนี่คือเรื่องที่ยอดเยี่ยม แต่มันไม่ใช่เรื่องที่เฟรเดริก้าเล็งเอาไว้ —เพื่อที่จะทำให้โอลด์ บลูเกินขีดจำกัดที่จะรับของตัวเอง เรเปียของพูคิน คริสตัลบอล และนอกจากนั้น มันก็มีใครบางคนที่ใจดีเหลือเกินที่ประกาศการมีตัวตนอยู่ของตัวเองออกมาจากแรงสั่นสะเทือนที่พื้น แค่เพียงแรงสั่นสะเทือนจากพื้นเพียงอย่างเดียว มันก็ไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นได้ เธอไม่สามารถจับความเป็นจริงของมันได้ และนั่นก็จะเป็นเพิ่มภาระให้เธอมากยิ่งขึ้น
คริสตัลบอลราวกับฝนดาวตกมาถึงเป็นอย่างแรก จากนั้นปรินเซสไลท์นิ่งก็ใช้อัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่นตามมา เฟรเดริก้าไม่ได้ขัดขืน เธอกระโดดหนีจากแรงกระแทกของการระเบิด ลอยตัวไปเหนือหลุมลึก และพุ่งจากคริสตัลบอลที่เหลืออยู่ไปยังอีกลูก
☆ ดริล โดรี่
แรงสั่นสะเทือนอันรุนแรงมาถึงพวกเธอที่อยู่ใต้ดิน มันไม่ใช่การสั่นสะเทือนจากเบื้องล่างที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นาน มันคือการสั่นสะเทือนจากด้านบน เธอสามารถบอกได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่อง
อาร์ลี่กำลังส่งเสียงวุ่นวาย แต่โดรี่รู้ว่าการโจมตีนี้คืออะไร มันคืออัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่น การโจมตีเกิดขึ้นหลายครั้ง บางครั้งก็เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
การระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็อีกครั้ง ในคราวนี้ การสั่นสะเทือนมันมาจากด้านล่างด้วย
โดรี่เปลี่ยนทิศทาง —เธออ้อมและขุดลึกลงไปอีก เธอไม่สามารถให้ตัวเองและอาร์ลี่ถูกขุดขึ้นไปจากการระเบิดได้ บาเรียมันทำให้ผู้ใช้ปลอดภัยก็จริง แต่ใครก็ตามที่อยู่ใกล้จะโดนการโจมตีเข้าไป ทั้งอาร์ลี่และโดรีสามารถใช้อัลติเมท ปรินเซส เอ็กซ์โพลชั่นได้ แต่พวกเธอก็ยังคงบาดเจ็บ
แผนของโดรี่ในการเกลี้ยกล่อมอาร์ลี่ให้ออกไปนั้นเกิดล้มเหลวเพราะว่าถูกปิดกั้นอย่างแน่นหนาด้วยบาเรีย แม้ว่าจะเป็นใต้ดินก็ตาม ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนทิศทางและพยายามออกห่างจากสนามรบ ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเธอได้ลอดผ่านเข้าไปที่ด้านล่างของการต่อสู้อันรุนแรง โดรี่สามารถคิดได้เพียงแค่ว่า แทนที่ทิศทางที่เธอไปจะผิดพลาด แต่การต่อสู้อันรุนแรงมันเข้ามาหาพวกเธอเองมากกว่า
เมื่อคิดว่าพวกเธอต้องไปต่อ เธอก็ขุดผ่านดินและทราย และตรงหน้า มันก็มีอะไรที่เหมือนกับรากของพืช —แถมยังมีขนาดใหญ่กว่าตัวของโดรี่ ยืดขึ้นมาจากทางด้านล่าง อาร์ลี่ส่งเสียงร้องออกมา โดรี่เองก็ตื่นตระหนกและเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง
เธอแค่ต้องออกห่างไปจากที่นี่ ที่นี่มันไม่ดีเลย เมื่อทุบเข้าไปที่ศีรษะของอาร์ลี่ที่ส่งเสียงร้องออกมา โดรี่ก็หมุนสว่านและเริ่มเคลื่อนไหวออกไปด้านหน้า
☆ ไพตี้ เฟรเดริก้า
ฝุ่นควันเริ่มจางลงอย่างช้าๆ
ทุกอย่างที่มองเห็นโดยรอบคือหลุมยุบ พร้อมกับกองเศษซากที่ตั้งอยู่ในทุกทิศทาง เฟรเดริก้าเองก็กลายเป็นส่วนของเศษซากที่ว่า เธอนอนแผ่อยู่ด้านบน มันมีอะไรหลายเรื่องที่เธออยากจะพูดกับเมจิคัลเกิร์ลคนที่มองลงมาที่เธอ แต่เธอก็ไม่สามารถหยุดสูดอากาศได้ แถมการพูดออกมามันยังยากด้วย
ทั่วทั้งร่างของเธอเต็มไปด้วยรอยฟันและรอยฟกช้ำ มันควรจะเป็นเรื่องยากที่จะสร้างบาดแผลให้กับร่างกายของร่างเกิดใหม่ แต่ในตอนนี้มันมีอยู่เต็มไปหมด บาดแผลที่คอมันค่อนข้างลึก มันเป็นบาดแผลที่ถึงแก่ชีวิตสำหรับเมจิคัลเกิร์ลธรรมดา
“ยืนไหวรึเปล่า?”
เฟรเดริก้าไม่สามารถตอบกลับไปได้ แต่เธอสามารถจับมือที่ยื่นเข้ามาหาได้ เมจิคัลเกิร์ลที่มองลงมาที่เธอ —สวมชุดเดรสสีแดงเรียบง่ายแบบคลาสสิค มีริบบิ้นสีเหลือง และถือไม้กวาดไม้ไผ่เอาไว้ในมือขวา— ยื่นมือเข้ามาหา และเธอก็สามารถลุกขึ้นได้ เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางเศษซาก เธอก็สามารถหายใจได้ปกติ
“ให้ตายสิ… คิดว่าตัวเองจะตายซะแล้ว”
โอลด์ บลูต่อสู้เหมือนกับอสุรกายของจริง มันไม่มีจุดอ่อนอะไรอยู่ในแทคติคที่เธอใช้ในการต่อสู้กับร่างเกิดใหม่ที่มีพลังล้นเหลือเลย มันมากเกินไปสำหรับเฟรเดริก้าที่จะเหนือกว่าได้ด้วยความสามารถทางกายภาพเพียงอย่างเดียวด้วยซ้ำ เรเปียที่กลายเป็นของประดับรูปดวงดาวแตกสลายก่อนที่เธอจะทันได้ใช้ ความมั่นใจของเฟรเดริก้าเองก็แตกสลาย แถมยังถูกโจมตีอย่างรุนแรง
เธอมองไปที่กองหินทางด้านขวา เมจิคัลเกิร์ลที่ถูกฝังอยู่ครึ่งตัวตรงนั้น —ที่ในตอนนี้กลายเป็นหญิงชราที่มีใบหน้าสงบนิ่งตอนตาย— ได้แสดงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าเฟรเดริก้าคาดคิด เมื่อนึกย้อนกลับไป เธอก็รู้สึกค่อนข้างตลกที่ตัวเองหัวเราะออกมาเพราะว่ารู้สึกสงสารอีกฝ่าย เนื่องจากโอลด์ บลูไม่สามารถรู้ได้ว่าเฟรเดริก้าได้แข็งแกร่งขึ้นมากแค่ไหน
“เธอควรจะมาเร็วกว่านี้ซักหน่อยนะ” เฟรเดริก้าพูด
“พวกที่หน้าเหมือนกันคอยขวางทางเรื่อยน่ะสิ”
ในตอนที่ถูกช่วยโดยเมจิคัลเกิร์ลในชุดเดรสสีแดง เฟรเดริก้าก้าวขึ้นมาเหนือกองซากปรักหักพังและยืนอยู่ตรงนั้น สื่งที่เธอมองเห็นด้านบนนั้นคือโรงเรียนที่ถูกทำลาย และไม่ได้มีอะไรอยู่เลย
“ฉันจะไปค้นหาคนที่บาดเจ็บและพาออกไปมากเท่าที่ทำได้ก่อนที่จะถอนตัว” เด็กสาวถือไม้กวาดพูด
“ถอนตัว?” เฟรเดริก้าพูด “มันเร็วเกินไปนะ”
“ฉันได้ข้อความมา หน่วยสืบสวนทำทุกวิถีทาง พวกนั้นรวบรวมผู้ร่ายเวทมาจากมากกว่าสิบฝ่ายเพื่อให้ทำการคลายบาเรีย พวกนั้นไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อโชว์แน่ —ของจริงเลยคราวนี้”
“หน่วยสืบสวนลงมือเร็วมากเลยนะ ยอดเยี่ยมจริงๆ พวกนั้นคงมีเจ้าหน้าที่สั่งการที่ยอดเยี่ยมอยู่แน่ แต่มันก็คนละเรื่องนะ ฉันยังทำตามเป้าหมายตัวเองไม่สำเร็จ”
“สติหลุดไปแล้วงั้นสิ”
“ก็นะ ใช่ จริงเลยล่ะ”
เฟรเดริก้าจัดการโอลด์ บลูได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมายดั้งเดิมของเธอ ต่อให้เจ้าหน้าที่ปรากฏตัวขึ้นเฟรเดริก้าก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่เธอไม่ได้มีเวลาที่จะอธิบายตั้งแต่ต้น เธอไม่ได้มีความตั้งใจที่จะอธิบายตั้งแต่แรกด้วย ในฐานะนายจ้างที่คุมสติไม่อยู่ ถูกเลือกให้เหลืออยู่เพียงคนเดียว การที่ต้องแยกทางกับโอลด์ บลูมันทำให้เฟรเดริก้ารู้สึกเศร้าเล็กน้อย แต่มันก็คือเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่เป็นแค่ความรู้สึกอ่อนไหว
“ฉันจะยังอยู่ที่นี่” เฟรเดริก้า
“งั้นพวกเราคงต้องแยกทางกันที่นี่ ที่เหลือไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหมล่ะ? ฉันได้ค่าจ้างของตัวเองมาแล้วด้วย”
เมจิคัลเกิร์ลหมุนตัวไปรอบๆ เอาหน้ากากฮิโยโกะที่อยู่ด้านหลังศีรษะมาปิดบังใบหน้า จากนั้นก็เอาขากระแทกเข้ากับไม้กวาดไม้ไผ่
เฟรเดริก้าก้มศีรษะเล็กน้อย “ขอบคุณมากเลยนะ เธอช่วยฉันได้มากเลย”
“พวกเราจะออกจากที่นี่ หากเธอกลับมาทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ แบบนั้นฉันจะติดต่อไปหา”
“จนกว่าจะถึงตอนนั้น ลาก่อน”
สุดท้ายเฟรเดริก้าก็ใช้นักรบรับจ้างจนหมด เมื่อนักรบรับจ้างหันหลังให้เฟรเดริก้าครั้งหนึ่งแล้ว พวกเธอก็จะหนีไปในทันที คนที่ขาดการตัดสินใจตามสถานการณ์จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน —เหมือนกับเมจิคัลเกิร์ลที่ตายอยู่ที่นี่
หลังจากที่มองดูชุดเดรสสีแดงบินออกไปในอากาศ เฟรเดริก้าก็หันหน้ากลับเข้าหาสวน เธอกระโดดเพื่อออกจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง วิ่งไปด้านบนอาคารเรียนที่พังทลาย และเชิดหูขึ้น
เธออยู่ที่นี่ ฉันกำลังรออยู่เลย
เฟรเดริก้าเตะเข้าไปที่กำแพงอาคารเรียน ทำลายมัน ก้าวเข้าไปสามก้าวในรูที่ตัวเองสร้างขึ้น จากนั้นก็ทิ้งศอกลงมา และก็ถูกมือขวาเพียงข้างเดียวป้องกันเอาไว้
ชุดเครื่องแบบของโรงเรียนมัธยมต้นอุเมะมิซากิ เส้นผมที่ยุ่งเหยิง เครื่องประดับที่เต็มไปด้วยความรุนแรง —เธอดูค่อนข้างแตกต่างจากที่เฟรเดริก้ารู้จัก แต่ก็ไม่มีทางที่จะผิดคน นี่คือรัทสึมุคานะ-โฮโนเมะ-โนะ-คามิ หรือคานะ ท่าทางของเธอดูไร้อารมณ์ แต่เฟรเดริก้าสามารถสัมผัสความโกรธของเธอได้
เธอเข้าใจได้ง่ายมากกว่าโอลด์ บลู คนที่เผชิญหน้ากับเธอด้วยรอยยิ้มบางๆ นี่คือเรื่องดี
“เหมือนว่าจะบอกลาเรียบร้อยแล้วสินะ” คานะพูดกับเธอ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะตั้งแต่ครั้งล่าสุด”
ทั้งสองคนโจมตีเข้าหากัน จากนั้นก็กระโดดในเวลาเดียวกัน พวกเธอขึ้นไปบนหลังคา วิ่งออกไปข้างกันในตอนที่ยังคงต่อสู้ เฟรเดริก้าแทง กวาดขา ปิดบังหน้าแข้งที่เตะเข้าไปด้วยการใช้กระโปรง และป้องกันการเตะสูงของคานะเอาไว้ด้วยแขนซ้าย คานะใช้โซ่พันรอบแขนของและจับเอาไว้ กล้ามเนื้อเฟรเดริก้ากรีดร้องออกมา กระดูกเองก็ส่งเสียงดังขึ้น
ไม่มีใครที่ถอยออกไปได้ ดังนั้นพวกเธอจึงกลับไปโจมตีเข้าใส่กัน
เฟรเดริก้าโดนโจมตีแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เลือดไหลออกมาจากหน้าผาก จนภาพที่มองเห็นด้านขวาก็ถูกย้อมเป็นสีแดง แต่กระนั้น เฟรเดริก้าก็ไม่ได้หลับตา
งั้นเหรอ นี่คือความแตกต่างระหว่างร่างเกิดใหม่กับของปลอมสินะ
เธอไม่เหมือนกับพัคพั๊ค คนที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นร่างสุดยอดของร่างเกิดใหม่ และกริมฮาร์ท คนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ก้าวข้ามพัคพั๊ค รัทสึมุคานะ-โฮโนเมะ-โนะ-คามิไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อการต่อสู้ ความสามารถในการต่อสู้เองก็ด้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับพัคพั๊คและกริมฮาร์ท แต่เธอก็ยังคงแข็งแกร่งมากเกินกว่าที่ร่างของคาชิกิ-อาคารุคุชิ-ฮิเมะจะรับมือไหว
แต่กระนั้น เฟรเดริก้าคือคนเพียงคนเดียวที่สามารถต่อกรกับคานะได้ เหมือนกับการที่ไลท์นิ่งรวมกลุ่มกันและล้อมเธอเอาไว้ แต่ก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับเธอได้แม้แต่แผลเดียว ส่วนเมจิคัลเกิร์ลธรรมดาไม่สามารถเอามาเทียบได้ มันเหนือกว่าการที่ผู้ใหญ่สู้กับเด็ก —มันคือยักษ์ปะทะมด
คานะไม่ใช่แค่แข็งแกร่งในด้านกายภาพ —เธอยังแข็งแกร่งในด้านอื่นด้วย การคิดว่าเธอซ่อนตัวอยู่ที่ไหนซักที่และรอจนกระทั่งการต่อสู้ระหว่างโอลด์ บลูและเฟรเดริก้าจบลงเป็นเรื่องที่มีเหตุผล เหมือนกับในตอนนี้ที่เธอรอจนกระทั่งนักรบรับจ้างออกไปจากพื้นที่ มันมีความจริงอยู่ในความโกรธที่เฟรเดริก้าสัมผัสได้ แต่ที่ภายนอกเธอกลับสงบนิ่ง เธอมีความฉลาดที่กริมฮาร์ทและพัคพั๊คไม่มี
เฟรเดริก้าอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา มันยังมีเมจิคัลเกิร์ลอีกคนหนึ่งที่ทำตัวได้ยอดเยี่ยมกับคู่ต่อสู้ที่เจ้าเล่ห์และมีพลังล้นเหลือ —ซึ่งคือโอลด์ บลู คนที่เฟรเดริก้าเพิ่งจะสู้ด้วย
เธอผลักเฟรเดริก้าจนกระทั่งจนมุม เธอต่อสู้ในวิธีที่มีเหตุผลและเป็นระบบ และมันก็ยังคงเป็นวิถีอย่างที่เมจิคัลเกิร์ลควรจะเป็น แม้มันจะหยาบคายที่จะพูดนี่คือเรื่องประหลาดใจ วิธีการที่เธอใช้ไพ่ทั้งหมดที่ตัวเองมีแบบใช้แล้วทิ้ง —เวทมนตร์ของเธอ ลูกน้อง เทคนิค และศิลปะการต่อสู้— และการเข้ามาหาเฟรเดริก้าด้วยทุกอย่างที่ตัวเองมีมันวิถีทางของตัวเอก ในขณะที่เฟรเดริก้าต้องเคร่งเครียดและถูกกดดันอย่างมากในการต่อสู้นั้น ในตอนนี้เมื่อเธอคิดถึงมัน บางทีเธออาจจะรู้สึกสนุกสนาน ในขณะที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ประสบการณ์อันสูงค่าก็ได้ทำการกระตุ้นบางอย่างที่ลึกเข้าไปภายในสมอง ทำให้เกิดสิ่งที่ปกติแล้วเธอจะไม่ได้ใช้มัน
ในขณะที่แขนยังคงถูกคู่ต่อสู้จับเอาไว้ เฟรเดริก้าก็ทำให้ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะโจมตีศอกด้วยแขนอีกข้างและเข้าไปในระยะของคานะ พวกเธอกำลังสัมผัสตัวกัน เธอสามารถสัมผัสได้แม้กระทั่งหัวใจที่กำลังเต้น ความอบอุ่น และกลิ่น ก่อนหน้านี้เฟรเดริก้าเองก็เพลิดเพลินไปกับกลิ่นของเมจิคัลเกิร์ลโดยเฉพาะกลิ่นของเส้นผม ในตอนนี้เธอสามารถเพลิดเพลินกับมันได้ด้วยสัมผัสที่แหลมคมยิ่งกว่าเดิม
คานะพยายามถอยกลับไปด้วยความรังเกียจที่ไม่อยากอยู่ใกล้ แต่เฟรเดริก้ายังคงเข้าหาเธอในตอนที่เคลื่อนไหวไปรอบๆ ด้านหน้า ด้านขวา แนวทแยง เฟรเดริก้าไม่ปล่อยให้คานะหลุดออกไป ระยะนี้มันดีที่สุด
รูปแบบการต่อสู้ของโอลด์ บลูมีพื้นฐานจากภาพที่มองเห็น เมื่อใช้เวทมนตร์ของตัวเองก็สามารถเข้าใจความเป็นจริงของศัตรูได้ อ่านการเคลื่อนไหวและควบคุมการโจมตีโดยเคลื่อนไหวมากยิ่งกว่าคำว่าเร็ว
โชคไม่ดีที่เฟรเดริก้าไม่ได้มีพลังที่สะดวกแบบนั้น ดังนั้นเธอจะใช้อวัยวะในการรับรู้ทุกอย่างนอกเหนือจากดวงตาเพื่อทำการอ่านศัตรู ความรู้สึกของเมจิคัลเกิร์ล กลิ่นของเธอ เสียงของเธอ —มันจะบอกเฟรเดริก้าเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอรักในปริมาณข้อมูลที่มากยิ่งกว่าก่อนหน้า
ไปด้านหน้า ถอยกลับมา เอี้ยวไปทางขวาเพื่อหลบคานะที่พยายามจับแขนของเธอ เธอโจมตีเข้าไปสามครั้ง หลบข้อศอก จากนั้นก็กลับมาที่ตำแหน่งเดิมตรงหน้าคานะ ความสำคัญของเธอที่มากที่สุดคือการรักษาตำแหน่งที่อยู่ใกล้นี้เอาไว้
เฟรเดริก้าเอานิ้วลูบไปตามต้นขาและเอาคริสตัลบอลขึ้นมาในมือ จากนั้นก็โยนมันขึ้นไปในอากาศ
☆ คานะ
คริสตัลบอลที่เฟรเดริก้าโยนเข้ามาหาเธอมันเมินเฉยต่อกฎของฟิสิกส์และหยุดอยู่ตรงนั้น —ที่กลางอากาศ
นั่นคือร่างใหม่ที่เฟรเดริก้าให้ทำการสร้างมาให้ตัวเองรึเปล่า?
ถูกต้อง
คริสตัลบอลนั้นคือเวทมนตร์ใหม่? เวทมนตร์ของมันคืออะไร?
แม้ว่าคานะจะกำลังคิด เธอก็ยังคงเคลื่อนไหว ในขณะที่ปล่อยคริสตัลบอลเอาไว้ด้านหลัง เธอก็ไม่ได้ละทิ้งความสนใจไป โจมตีเข้าใส่เฟรเดริก้าแบบไม่หยุด
เวทมนตร์ประเภทนี้จะดูดสิ่งต่างๆเข้าไปในคริสตัลบอลลูกหนึ่งและขยับมันไปที่อีกลูก ดังนั้นมันจะมีบางสิ่งที่จะพุ่งเข้าหาเธอ หรือเฟรเดริก้าจะโยนบางอย่างเข้ามา ดูเหมือนว่ามีวิธีการมากมายที่จะใช้มัน การคอยระวังเอาไว้นั้นดีที่สุด เฟรเดริก้าสามารถเพิ่มจำนวนได้ถึงห้าสิบ แต่ยิ่งเธอเพิ่มจำนวนมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งสูญเสียการควบคุมได้ตามไป สำหรับจำนวนที่สามารถควบคุมได้ดีที่สุด ส่วนใหญ่ก็คือห้า
คานะโจมตีด้วยมือขวา เฟรเดริก้าหลบด้วยการใช้ข้อศอก ดังนั้นคานะจึงโจมตีกลับด้วยสันมือซ้าย เธอใช้สิ่งเหล่านั้นในการหันเหความสนใจเพื่อจับตัวเฟรเดริก้า แต่เฟรเดริก้าก็หลุดออกไปเหมือนกับปลาไหล และโจมตีคานะในจุดที่มองไม่เห็น เหมือนกันกับก่อนหน้านี้
แม้ว่าเธอจะถูกโจมตี เธอยังคงถามคำถามอยู่ในใจของตัวเอง
นั่นเฟรเดริก้าคิดว่าตัวเองสามารถใช้วัตถุโบราณให้เกิดประโยชน์ได้งั้นเหรอ?
ถูกต้อง
เมจิคัลเกิร์ลไร้หัวคิดจะมีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป แม้คานะจะมองเฟรเดริก้าในฐานะเมจิคัลเกิร์ลที่มีพลังเก่งกาจ และในตอนนี้เมื่อทำการสับเปลี่ยนร่างกายแล้ว มันคงไม่แปลกนักที่ความมั่นใจจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าเธอจะโกรธมากขนาดไหน แม้ว่าเธออยากที่จะฉีกศัตรูที่อยู่ตรงหน้าให้กลายเป็นชิ้นยังไง เมื่อต้องใช้เวทมนตร์ของตัวเอง เธอก็ต้องใจเย็นและสงบนิ่ง ร่างเกิดใหม่ถูกสร้างมาแบบนั้น
“เธอเคยเห็นเมจิคัลเกิร์ลมากมายที่ปล่อยให้พลังอำนาจครอบงำตัวเองจนถึงแก่ความตายใช่ไหม?”
เธอพูดคำถามนั้นออกมา ถูกต้อง
เฟรเดริก้าปัดมือของคานะออกและพยักหน้า “ใช่แล้ว ฉันจะพยายามเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดแบบเดียวกัน”
“เตรียมการในเรื่องในเรื่องที่จำเป็นมาแล้วใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ”
คานะไม่สามารถออกห่างได้ เธอถูกบังคับให้เข้าทำการโจมตีในระยะใกล้จนแรงในการโจมตีของเธอลดลง และถ้าเธอพยายามจะจับเฟรเดริก้า เฟรเดริก้าก็จะหลบด้วยการเคลื่อนไหวประหลาดนั่น มันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ดูแปลก เฟรเดริก้าหายใจออกมาอย่างรุนแรง แต่มันไม่มีสัญญาณที่บ่งบอกว่ากำลังทรมาณ —ความจริงแล้วดูเหมือนกำลังปลาบปลื้มด้วยซ้ำ คานะไม่เข้าใจและยังไม่สามารถอ่านความตั้งใจได้ ซึ่งมันให้ดูน่าขยะแขยง
“เธอจะไม่ฟังความพยายามของเราที่จะทำการโน้มน้าวใช่ไหม?” คานะถาม
“ใช่แล้ว”
จากนั้นคานะก็ถามตัวเอง เป้าหมายของร่างเพื่อการต่อสู้นี้คืออะไร?
เพื่อใช้สัมผัสทั้งห้าอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรู
คำตอบมันสมเหตุสมผล แต่กระนั้นสำหรับคานะ เฟรเดริก้าคือคนที่รับมือได้ยากเกินไปที่คานะจะแยกตัวออกไปด้วยเทคนิคของตัวเอง และการใช้พลังเพียงอย่างเดียวในฐานะโล่ป้องกันขณะที่กำลังต่อสู้อย่างรุนแรงเองก็ไม่ได้ผล
“ไม่ใช่ว่าเธออยากได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในสถานโบราณ?”
“นั่นฟังดูน่าสนใจนะ แต่ฉันกลัวว่าตอนนี้มันไม่มีเวลา”
คานะหยุดถามคำถามออกมาดังๆ หากเฟรเดริก้าจะไม่พูด แบบนั้นเธอก็ไม่ควรพูดจาอะไรด้วย แม้อาจจะก่อให้เกิดอันตราย แต่การพูดคุยมากไปกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์ คานะจะถูกล้างสมองอย่างช้าๆ และไม่นาน กระทั่งร่างกายของเธอก็จะตกอยู่ในการควบคุมไปด้วย
“หืมม? ฉันไม่ได้ยินเลยนะว่าเธอพูดว่าอะไร” เฟรเดริก้าบอกเธอ
คานะยังคงก้มหน้าและพึมพำคำพูดที่เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ได้ยินออกมา
เฟรเดริก้ามองคานะอย่างเบื่อหน่ายและส่ายหน้า “ฉันสงสัยนะว่าการปฎิเสธการสื่อสารนี่มันเป็นความสามารถพิเศษของสามปราชญ์รึเปล่า ฉันตั้งความหวังไว้สูงกับคนที่น่าสนุกอย่างเธอนะ… ช่างน่าเสียดาย ชีวิตที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้างล่ะ? ฉันได้ยินว่าไปเป็นปลิงอยู่ที่บ้านเมฟิส เฟเลส เธอดูแลคนเก่งจนน่าตกใจเลยใช่ไหม”
คานะคลายโซ่ที่พันเฟรเดริก้า เธอโจมตี หลบ ต่อย หลบ ก้าวออกไปเพื่อเหยียบเท้า —เฟรเดริก้าก็หลบเช่นเดียวกัน แต่เป้าหมายของคานะอยู่ที่อื่น เธอเพิ่มพลังให้ตัวเองด้วยการกระทืบลงไปอย่างรุนแรง เศษหินรอบบริเวณลอยออกไปเพราะแรงกระแทก มีรอยแตกที่เกิดขึ้นตามทางบนพื้น
คานะกระโดด การระเบิดอย่างรุนแรงทำให้ไม่มีอาคารใดเหลืออยู่ในพื้นที่ เหลืออยู่เพียงเศษซากเท่านั้น แต่มันก็ไม่มีหลังคาเข้ามาขวางเช่นเดียวกัน เมื่อต้องเคลื่อนไหวเป็นแนวตั้ง ความสามารถทางกายภาพขั้นสูงของคานะคือเรื่องสำคัญ แต่เฟรเดริก้าก็ใช้คริสตัลบอลที่ลอยอยู่ในฐานะที่ยืนเพื่อตามคานะ พวกเธอสองคนปะทะเข้าหากันสูงขึ้นไปสิบเมตรในอากาศ
คริสตัลบอลตามพวกเธอมาอย่างใกล้ชิด เข้ามาที่ตำแหน่งด้านหลังคานะ แต่มันไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะเคลื่อนไหว ในตอนที่คอยระวัง เธอก็ใช้ศอกปะทะเข้ากับหมัดเฟรเดริก้า แต่มันก็ถูกปัดไปด้านข้าง
ในมุมของภาพที่เธอเห็นมีสวนผ่านเข้ามา นี่เพื่อนร่วมห้องปลอดภัยรึเปล่านะ? ในตอนที่เธอกังวล เธอก็ไม่ได้ถามคำถามอะไรเกี่ยวกับมัน
ดอกไม้ถูกเหยียบย่ำจนกระจายออกไปรอบๆ พื้นหินที่อยู่ที่นั่นแตกเป็นเสี่ยง มันเป็นภาพอันน่าสะพรึงกลัว แต่มันก็ดีกว่าเมื่อเทียบกับในสมัยนั้น
เธอมองเห็นภาพ —ภาพของอะไรบางอย่างที่เธอไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเรื่องในจินตนาการหรือในความทรงจำ การที่จะทำให้เวลาคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์ ปฐมจอมเวทได้ทำการจัดพิธีขึ้น พวกเธอใช้ประโยชน์จากพลังที่สกัดออกมาจาก “เมล็ด”
จากนั้นพิธีก็ล้มเหลว ผู้รอดชีวิตคือลูกศิษย์ทั้งสาม แคสปาร์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เธอไม่ได้รอดชีวิตออกมาอย่างงดงาม มันเป็นแค่ความบังเอิญ
โลกเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนถูกดึงดูดเข้าไปหา ใบหน้าบิดเบี้ยว ร่างกายบิดเบี้ยว การมีอยู่บิดเบี้ยว หัวใจถูกย้อมไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวัง
เหล่าลูกศิษย์ที่ถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลังได้ความเป็นนิรันดร์อันไม่สมบูรณ์มา พวกเธอสามารถทำให้การมีอยู่ของตัวเองดำเนินต่อไปด้วยการย้ายเข้าไปในร่างใหม่ แต่ตัวตนของพวกเธอก็โดนอิทธิพลจากร่างกายค่อนข้างมาก และการทำกระบวนการซ้ำไปซ้ำมาทำให้อิทธิพลจากร่างกายมันรุนแรงขึ้น ไม่มีร่างเกิดใหม่คนไหนของสามปราชญ์ที่ยังคงมีบุคลิกดั้งเดิมอยู่ และมันก็ไม่ชัดเจนว่าพวกเธอยังคงมีความทรงจำทั้งหมดอยู่ บุคลิกของเด็กสาว —บุคลิกของแคสปาร์ วิม ฮ็อบ ซุค— ยังคงเปลี่ยนแปลงไปจนกระทั่งเธอกลายเป็นคานะและถูกช่วงชิงความทรงจำไป
คานะยังคงโจมตีเข้าไปหาเฟรเดริก้าด้วยหมัดอย่างต่อเนื่องที่กลางอากาศ เธอแทงมือขวาออกไป และเฟรเดริก้าก็จับเอาไว้ แต่คานะก็รู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้
ในตอนที่เธอยังคงก้มหน้าและพึมพำสิ่งที่เฟรเดริก้าไม่ได้ยินออกมา นั่นไม่ใช่คำถาม มันคือคาถา เธอมีความสามารถของเมจิคัลเกิร์ลที่จำกัดไม่เหมือนกับพัคพั๊คและกริมฮาร์ท แต่เธอก็ทำให้ตัวเองมีความสามารถในฐานะจอมเวทด้วย ในโรงเรียน ทุกสิ่งที่เธอสามารถใช้ได้ในตอนนั้นคือการบอกว่าเวทมนตร์ของฮัลน่าคืออะไร แต่ถ้าเธอเอาตัวเองออกห่างจากโรงเรียน มันก็มีวิธีการมากมายที่จะใช้ได้
เธอร่ายคาถาเสร็จสิ้น การทำลายถูกปล่อยออกจากนิ้วมือ นี่ไม่ใช่พลังงานเพื่อการทำลาย แต่ผลของมันถูกเรียกว่าการทำลายด้วยตัวมันเอง มันไม่สามารถมองเห็นได้ มันไม่มีกลิ่นหรือเสียง และไม่สามารถหลบได้ด้วยการใช้ศิลปะการต่อสู้ เธอปล่อยมันออกมาอย่างไร้เสียงตรงใบหน้าเฟรเดริก้า
แต่ก่อนที่มันจะไปถึงเป้าหมาย คริสตัลบอลก็เป็นรูปร่างขึ้นในทันทีตรงด้านหน้าใบหน้าเฟรเดริก้า เวทมนตร์ของคานะไม่ได้ทำลายคริสตัลบอล มันถูกดูดเข้าไปด้านในและหายไป
คานะไม่ได้มีเวลาพอที่จะคิดว่า อ๊ะ เธอรู้สึกเจ็บปวดที่หลังจนไม่สามารถทนได้ และมันก็กระจายไปทั่วร่างกาย เฟรเดริก้าหัวเราะออกมาอย่างไร้เสียง แขนขวาของเธอ ลำตัวซีกซ้าย ต้นขาซ้าย ทุกส่วนของร่างกายฉีกขาดจนเลือดทะลักออกมา ชุดเครื่องแบบของเธอฉีกขาดลงมาตั้งแต่ไหล่ โซ่กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเมื่อถูกปล่อยจากพันธนาการ เฟรเดริก้าก็เตะคานะเข้าที่ช่องท้องด้วยนิ้วเท้า
เธอร่วงลงไป หลังมือของเธอมีเลือดไหลออกมา ต่อมา ผิวหนังที่ไหล่ขวาและน่องซ้ายก็ฉีกขาด เฟรเดริก้ากระโดดออกจากคริสตัลบอล กระโดดเข้ามาหาคานะในตอนที่กำลังร่วงลงไป คริสตัลบอลอีกลูกกำลังลอยอยู่ที่บริเวณหัวไหล่ของเฟรเดริก้า
ในตอนที่กำลังร่วงลงมา ร่างกายของคานะก็เหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยง เฟรเดริก้าเข้าหาเธอเร็วกว่าความเร็วที่เธอกำลังร่วงลงมา
แผ่นหลังของคานะกระแทกเข้ากับพื้นจนทำให้ฝุ่นและเศษซากลอยขึ้นมา
MANGA DISCUSSION