ตอนที่ 6.51 Arc 6.5 - ตอนที่ 10 - เซอร์ไววัลเกมแห่งนรกของโรงเรียนกวดวิชามาโอ
เซอร์ไววัลเกมแห่งนรกของโรงเรียนกวดวิชามาโอ
เมจิคัลเกิร์ลในชุดสูทสีดำสนิทหยิบไมโครโฟนของตัวเองขึ้นมา ในขณะที่เมจิคัลเกิร์ลที่นั่งอยู่ข้างๆเองก็สวมชุดสีดำสนิทเช่นกัน —แต่ก็เผยเนื้อหนังมากด้วย— กระแอมออกมาเบาๆ
“ในตอนนี้! ในที่สุดมันก็เริ่มขึ้นแล้วค่า!” เมจิคัลเกิร์ลในชุดสูทพูดขึ้นมา “เกมเซอร์ไววัลของโรงเรียนกวดวิชามาโอครั้งที่สามสิบหก! รายงานสดส่งตรงจากพื้นที่โดยผู้ประกาศของทุกคน แพมมี่เองค่า! ส่วนผู้ออกความเห็นก็คือคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ท่านแม่ทัพแห่งโรงเรียนกวดวิชามาโอ คุณมาโอแพมค่า! แพม วันนี้ขอบคุณมากเลยค่ะ”
“อื้อ แล้วก็ขอบคุณ…” มาโอแพมพูด “เรื่องแนะนำตัวน่ะ ที่โรงเรียนมันไม่มีตำแหน่งแม่ทัพ—”
“ว่ากันว่าแม้แต่ปีศาจก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะลองเข้าร่วมเซอร์ไววัลเกมแห่งนรกชื่อดังของโรงเรียนกวดวิชามาโอ! ในคราวนี้สำหรับเกมครั้งที่สามสิบหก ฉันได้ยินมาว่าทิศทางมันจะต่างไปจากเดิมมากเลยค่ะ”
“ชั้นไม่ได้พูดว่าปีศาจ—”
“ค่า ค่า ฉันเข้าใจค่า! อีเวนท์นี้มันควรจะเป็นอีเวนท์เพื่อการศึกษาเรียนรู้เรื่องความแข็งแกร่งและจุดอ่อนเพื่อพัฒนาตัวเอง แต่สังคมเย้ยหยันอีเวนท์นี้ หลายคนคิดว่านี่เป็นอีเวนท์ที่จัดมาเพื่อให้พวกคลั่งปลดปล่อยความเครียดด้วยการทะเลาะกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราต้องเน้นย้ำว่าจุดประสงค์ของอีเวนท์นี้ไม่ใช่มีไว้สำหรับพวกคลั่งความรุนแรง”
“ถูกต้อง แล้วก็—”
“ใช่แล้ว ถูกต้องเลยค่า! อย่างแรกคือคราวนี้พวกเราเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าอีเวนท์ปกติด้วย อย่างที่สองคือ สถานที่ถูกขยับขยายเพื่อรองรับจำนวนคนที่มากขึ้น โดยปกติแล้วพื้นที่สนามจะมีขนาดประมาณหมู่บ้านเล็กๆ แต่ในคราวนี้ ขนาดมันเพิ่มขึ้นจนใหญ่พอที่จะใส่เมืองใหญ่เข้าไปได้เลย พอนักสู้ทั้งหมดอยู่ด้วยกันแล้ว การต่อสู้จะเป็นสิ่งที่ตัดสินว่าใครคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด อย่างที่สามคือเกมจะถูกบันทึกในรูปแบบวีดีโอ ส่วนอย่างที่สี่จะมีเรื่องความเห็นและการประกาศเพิ่มเข้าไปด้วย! แล้วก็อย่างที่ห้านี่เจ๋งที่สุดเลยค่ะ : เพราะมีรางวัลสำหรับผู้ชนะด้วย ฟีเจอร์ใหม่พวกนี้ไม่เคยมีมาก่อนในเกม เพราะปกติแล้วแค่ออกกำลังกายกันเท่านั้นเอง และนี่มันก็หมายถึงจะมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากเพื่อเงินรางวัลด้วย…อุ๊บ ขอโทษค่า เพื่อชัยชนะต่างหาก”
“เรื่องนั้น—”
“วีดีโอที่บันทึกระหว่างเซอร์ไววัลเกมครั้งนี้จะถูกตัดต่อและวางขายหลังอีเวนท์จบแล้วค่ะ ผู้เข้าแข่งขันทุกคน หรือคนที่อยากเข้าร่วมแต่ไม่สามารถทำได้เนื่องด้วยเหตุผลต่างๆ เช่นเดียวกับเมจิคัลเกิร์ลคนอื่นที่ชื่นชอบความแข็งแกร่ง กรุณาซื้อด้วยนะคะ! สำหรับลิมิเต็ทรุ่นแรกจะมีโบนัสพิเศษด้วยค่ะ พวกเราจะใส่บทสัมภาษณ์ของผู้เข้าร่วมแข่งขันที่ถ่ายก่อนเริ่มงานเอาไว้ด้วย อ๊ะ ใช่แล้ว แม้แต่ของแถมก็สุดยอดมากเลยค่ะ!”
“…ข้อเสนอดีนะ”
“สำหรับกฏแล้วก็ง่ายมากเลยค่ะ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะมีธงคนละหนึ่งผืน และต้องขโมยธงจากคนอื่นเพื่อรวบรวมให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในพื้นที่และเวลาจำกัด เท่านี้แหละค่ะ! แต่ยังไงก็ตาม นี่คือโรงเรียนกวดวิชามาโอ ชมรมที่แม้แต่ปีศาจยังกรีดร้อง อสูรยังร้องไห้ นักเรียนและผู้ที่จบการศึกษาจะไม่มอบธงให้กันแบบเบามือแน่นอนค่ะ ฉากของเกมนี้เลยกลายเป็นนรกที่บางคนเรียกว่าโคลอสเซี่ยมสมัยใหม่ไปเลย”
“พวกเรามีการใช้มาตราการป้องกันความปลอดภัยด้วย”
“พอเริ่มต้นสัญญาณได้แค่สิบนาที ดูเหมือนว่าเมจิคัลเกิร์ลบางคนจะเริ่มสู้กันเรียบร้อยแล้วค่ะ!”
____________________________________________
การฝึกเอาตัวรอดที่จัดโดยโรงเรียนกวดวิชามาโอเป็นที่รู้กันดีว่าโหดหิน ฉันได้ยินข่าวลือ —ถึงจะไม่รู้ว่าจริงไม่จริงก็เถอะ— มาว่าแม้แต่นักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ยังร้องไห้ออกมา ถ้าโชคดีก็หนีรอดได้ ส่วนบางคนที่พลาดพลั้งแม้แต่นิดเดียวก็จะเสียชีวิต
มันจำเป็นต้องเซ็นสัญญาก่อนเข้าร่วมเพราะมีข้อตกลงเห็นได้ชัดว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ทุกอย่างมันก็คือความเสี่ยงของฉันเอง และอื่นๆเป็นต้น”
เนื่องจากมันเป็นอีเวนท์ที่อันตรายมาก คนที่เป็นผู้จัดงานเองจึงเครียดมากเช่นกัน
การที่มีนักสู้ที่แข็งแกร่งจำนวนมากอยู่รวมกันแบบนี้ มันดูไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการลอบสังหารอย่างเช่นตอนที่อีกฝ่ายประมาทก็เข้าจู่โจมได้เลย แต่ฉันก็เลือกวันนี้และสถานที่แห่งนี้ ฉันมั่นใจว่าตัวเองทำได้ มาโอแพมจะเคลื่อนไหวอย่างอิสระไม่ได้ในระหว่างการออกอากาศ ซึ่งนี่คือโอกาสดีที่ฉันจะลงมือ
ฉันเคลียร์ด่านแรกเรียบร้อย มาโอแพมกำลังแสดงความคิดเห็นโดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนนักฆ่าจ้องเอาชีวิตอยู่ ก็นะ ถ้าจะพูดให้ถูกแล้ว ฉันว่าเธอไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรอยู่หรอก แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญเหมือนกัน ไม่ว่าเธอจะแค่พยักหน้าหรือแสดงความเห็น งานของฉันก็เหมือนเดิมอยู่ดี
ฉันต้องรออีกหน่อย เรื่องรอนี่ฉันเก่งอยู่แล้ว คนที่น่ารังเกียจมักคุ้นเคยกับการรออย่างใจเย็น ถ้าฉันทำอะไรผิดแล้วถูกเจอตัว ก็คงต้องโดนรองเท้าแตะไม่ก็ม้วนหนังสือพิมพ์ตีแน่ๆ โลกนี้มันเย็นชากับคนชั้นต่ำที่ใส่ชุดดำอยู่แล้ว ก็นะ ฉันมันคนน่ารังเกียจก็เลยไม่ได้แปลกใจอะไร
____________________________________________
“…สองคนนั่น” มาโอแพมพูด
“อ๊ะ สองคนนั่น!” แพมมี่พูดซ้ำ “สองคนที่มีชื่อเสียงที่สุดของโรงเรียนกวดวิชามาโอจู่ๆก็เข้าปะทะกันแล้วค่ะ! สลับกล้องอัติโนมัติเลยค่ะ… กล้องตัวนี้ใช่ไหมนะ?”
“คนแรกคือเด็กสาวขายดอกไม้ มาริกะ ฟุคุโรอิ”
“คนๆนี้…เมจิคัลเกิร์ลที่มีดอกไม้อยู่บนหัวสินะ? เธอทั้งปากเก่งแถมยังชอบต่อยคนอื่นด้วย เพราะแบบนั้นเธอเลยมีศัตรูเยอะค่ะ แต่มันก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าเธอแข็งแกร่ง… ตามที่พูดค่ะ เอกสารที่ฉันมียังพูดถึงเรื่องน่ากลัวเรื่องอื่นๆด้วย แต่ฉันหวังว่าทุกคนจะให้อภัยพวกเราที่ตอนนี้จะพักเอาไว้ก่อนนะคะ”
“แล้วก็อีกคน…”
“คนนี้คือนักดนตรีแห่งพงไพร แครนเบอร์รี่ค่ะ การจบการศึกษามีได้สองทาง หนึ่งคือถูกมาโอแพมยอมรับ สองคือโจมตีมาโอแพมได้ และเธอก็เป็นเมจิคัลเกิร์ลเพียงคนเดียวที่สามารถทำอย่างที่สองได้ ใช่ไหมนะ…? เรื่องนี้จริงรึเปล่าคะ มาโอแพม? ถ้าจริงก็สุดยอดเลยว่าไหมคะ?”
____________________________________________
พืชพรรณที่ขึ้นอยู่ทั่วทุกที่ดูราวกับว่าไม่เคยถูกตัดมาก่อน ต้นไม้นั้นเขียวชอุ่มอยู่ตลอดทั้งปี หนามที่เติบโตเป็นรูปทรงถุงมือเบสบอลกางออกมีขนาดใหญ่และยาว ลำต้นหนาและสูง เปลือกที่มีลายเป็นแนวตั้งเองก็แข็ง พืชหลายชนิดทุกขนาดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่เติบโตอยู่ใต้พุ่มไม้หนา ต้นที่สูงที่สุดก็มีขนาดใหญ่มากพอที่จะบดบังตัวมนุษย์ ใบไม้ที่อยู่ด้านบนก็ปล่อยแสงอาทิตย์ให้ลอดเข้ามาอย่างน่าประหลาด
ไม่มีนกหรือสัตว์ป่าในป่านี้ที่จะทันได้รู้ว่า ในระยะที่ห่างกันเพียงสิบเมตร เมจิคัลเกิร์ลสองคนได้เผชิญหน้ากันเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ นักดนตรีแห่งพงไพร”
รอยยิ้มของมาริกะ ฟุคุโรอิไม่เคยสุภาพ เธอจะยิ้มเมื่อตัวเองรู้สึกสนุกเท่านั้น แล้วจากนั้นเธอก็จะยิ้มออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ บางทีการอธิบายรอยยิ้มของเธอว่าเป็นสัตว์ร้ายที่กำลังจะขย้ำเหยื่อคงจะเหมาะสมที่สุด
“ดีใจที่เห็นเธอสบายดีนะ ฟุคุโรอิ” แครนเบอร์รี่ตอบ
รูปลักษณ์ของเมจิคัลเกิร์ลจะน่ารักและงดงามอย่างไม่มีข้อยกเว้น แครนเบอร์รี่ที่เห็นได้ชัดว่าอายุราวๆยี่สิบ —เมื่อเทียบกับอีกด้านแล้วก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน รูปหน้านั้นดูดี รอยยิ้มเองก็งดงาม
แต่ความจริงที่แครนเบอร์รี่สามารถยิ้มออกมาอย่างดงามในสถานที่เช่นนี้คือความแข็งแกร่งอันพิเศษของเธอ จะมีเมจิคัลเกิร์ลซักกี่คนกันที่จะเมินการคุกคามของมาริกะ ฟุคุโรอิด้วยรอยยิ้ม?
“เราต้องแน่ใจว่าต้องเคารพเธอให้มันถูกต้องน่ะ” แครนเบอร์รี่พูด
“เฮ้ เธอไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาเคารพอะไรชั้นเลยนะ” มาริกะตอบ
เท้าขวาของมาริกะก้าวไปข้างหน้าผ่านพุ่มไม้ และในเวลาเดียวกันแครนเบอร์รี่ก็ก้าวมาข้างหน้า สายลมเย็นๆที่พัดผ่านภูเขาทำให้ใบไม้บนต้นพริ้วไหวและพุ่มไม้ส่งเสียงเบาๆออกมา ดอกกุหลาบตรงไหล่ของแครนเบอร์รี่ขยับไปมา ดอกกุหลายที่หัวของมาริกะก็สั่นไหว
____________________________________________
ผู้ประกาศพูดขึ้นว่า “โอ้โห!” ในแบบที่ประทับใจหรือประหลาดใจ “สองคนนั้นสนิทกันเหรอคะเนี่ย?”
“ชั้นไม่—”
“งั้นเหรอ งั้นเหรอ งั้นเหรอคะ แบบนั้นพวกเธอก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากน่ะสิคะ? ฉันบอกได้จากการดูเอกสารพวกนี้ที่รวบรวมเรื่องโรงเรียนกวดวิชามาโอเอาไว้ค่ะ แต่ทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่ค่อยได้คุยอะไรกันในเรื่องการงานเลย เพราะช่วงเวลาที่แครนเบอร์รี่อยู่ในโรงเรียนกวดวิชาก็สั้นมาก… แต่พอคิดถึงเรื่องนั้น พวกเธอก็คุยกันอย่างมีชีวิตชีวาดีนะคะ? บางทีนี่อาจจะหมายถึงแครนเบอร์รี่รู้วิธีเข้าสังคมจากการทำงานให้ฝ่ายทรัพยากรเมจิคัลเกิร์ลก็ได้”
____________________________________________
“ความผิดชั้นเองแหละที่ทำให้เธอทักทายอะไรแบบปกติไม่ได้” มาริกะพูด “เพราะชั้นไม่ได้จัดการภาระติดพันที่ต้องทำ แล้วไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนจบการศึกษาเร็วขนาดนั้นอยู่ด้วย รู้ไหม”
“ภาระติดพัน?”
“คุยกับสามีในอนาคตน่ะ”
“คุยเรื่องงานแต่งเหรอเนี่ย! แหม แหม…”
____________________________________________
“ตอนนี้กลายเป็นเรื่องส่วนตัวซะงั้นค่ะ” แพมมี่พูด
“หืมม” มาโอแพมพยักหน้า
“แบบนี้ก็หมายความว่ามาริกะเป็นผู้หญิงที่อายุประมาณ [ ] ปี เหรอคะเนี่ย?”
สัมภาษณ์งานแต่ง
แม้จะเป็นเมจิคัลเกิร์ล แต่เธอก็มีชีวิตในฐานะมนุษย์ด้วย
พอมาโอแพมคิดย้อนกลับไป เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่มาริกะเอาชีสเค้กมาให้เป็นของขวัญกับทางโรงเรียนกวดวิชา เธอบอกว่าทำมาจากแป้งและน้ำตาลที่สกัดมาจากพืชที่สร้างขึ้นด้วยเวทมนตร์ของเธอ มาโอแพมเองก็กินมันเข้าไปด้วย เธอจำได้ดีว่ารสชาติมันยอดเยี่ยมมาก
มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับมาริกะ คนที่เอาแต่สร้างปัญหาแล้วปัญหาเล่าด้วยความรุนแรงจนถูกเรียกว่าหมาบ้าแห่งโรงเรียนกวดวิชามาโอที่เด่นด้านการต่อสู้ แต่ไม่ว่าเมจิคัลเกิร์ลนั้นจะแข็งแกร่งขนาดไหน 99% ก่อนการแปลงร่างก็คือเด็กสาวหรือไม่ก็ผู้หญิง ดังนั้นมันจึงไม่แปลกอะไรที่จะมีการพูดคุยเรื่องแต่งงาน มันเป็นไปได้ดีรึเปล่านะ? หรือว่าไม่ใช่? สถานการณ์เป็นยังไงบ้างแล้ว? อีกฝ่ายล่ะเป็นคนยังไง?
____________________________________________
“ไม่ว่าตอนนี้เรื่องจะเป็นยังไง อย่างน้อยพวกเราก็มาฉลองการจบการศึกษาของเธอกันดีกว่านะคะ ว่าไหม?”
“มาจัดงานฉลองแบบดีๆให้เธอกันดีกว่า”
____________________________________________
ในตอนที่พวกเธอจะคิดเรื่องของมาริกะที่คุยเรื่องแต่งงาน มาริกะและแครนเบอร์รี่ก็ค่อยๆเข้าหากัน มาโอแพมรู้สึกละอายใจที่ปล่อยตัวเองให้อยากรู้อยากเห็นเรื่องโรแมนติกของลูกศิษย์ นี่คือสถานที่จัดงานเซอร์ไววัลเกม สิ่งที่ต้องการมันไม่ใช่ซุบซิบนินทา แต่เป็นการต่อสู้
____________________________________________
“ถ้าอย่างนั้น” แครนเบอร์รี่พูด
“อ่าหะ” มาริกะทิ้งตัวลงบนพื้น แล้วก็หายตัวไปราวกับซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า
แครนเบอร์รี่ยกขาข้างหนึ่งขึ้น ส่วนแขนสองข้างยกขึ้นมาตรงหน้าอก
พุ่มไม้ทั้งหมดยุบลงไปในคราวเดียว จากนั้นในพริบตาต่อมาก็เด้งขึ้นอีกครั้งพร้อมกับพื้นดินและทุกๆอย่าง เสียงที่ราวกับจะฉีกแก้วหูกลายเป็นค้อนที่ทุบไปทั่วบริเวณ แครนเบอร์รี่ใช้เวทมนตร์ของตัวเองที่ควบคุมเสียง สร้างคลื่นกระแทกออกมา
____________________________________________
เสียงนั้นดังขึ้นไปเกินกว่าขีดจำกัดการรับเสียงที่จะรับได้ จนทำให้ไมโครโฟนมีเสียงแตกดังลั่น ซึ่งนั่นทำให้แพมและแพมมี่เอามือปิดหูตัวเองเอาไว้ ในตอนที่เสียงดังก้องหายไปแล้ว การรายงานสดและออกความเห็นก็กลับมาตามเดิม
“การโจมตีครั้งแรกจากแครนเบอร์รี่ค่ะ! ตามฉายาเลยคือโจมตีด้วยเสียง! มันดูรุนแรงมากเลยนะคะ ว่าไหมคะ มาโอแพม”
“ไม่ดีเลย”
“ไม่ดี? จริงเหรอคะ?”
“เธอไม่พูดชื่อท่า”
“ไม่ได้พูดเหรอคะ? จริงสิ ว่ากันว่าเมจิคัลเกิร์ลทุกคนจากโรงเรียนกวดวิชามาโอจะพูดชื่อท่าเวลาใช้ใช่ไหมคะ?”
“อื้อ ใช่แล้วล่ะ”
“เมจิคัลเกิร์ลสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายและเวทมนตร์ได้ผ่านทางอารมณ์ที่ทรงพลัง และการมอบชื่อท่าให้และพูดมันออกมาดังๆก็จะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น… แบบนี้ใช่ไหมคะ?”
“ใช่แล้วล่ะ”
“งั้นเหรอคะ… แล้วแบบนั้นทำไมแครนเบอร์รี่ถึงไม่พูดชื่อท่าของตัวเองล่ะ?”
“เธอจบการศึกษาไปก่อนที่ชั้นจะบอกเรื่องความสำคัญของภาพในใจ…”
“อ่าาา ก็เธอเป็นสมาชิกแค่ช่วงเวลาสั้นๆนี่นะ”
____________________________________________
เมื่อแครนเบอร์รี่แบมือออก เสียงสะท้อนจากไมโครโฟนก็ทะลวงเข้าที่หูของทุกคน ในขณะเดียวกันพื้นที่บริเวณโดยรอบก็ถูกคว้านออก มันไม่ใช่แค่ใบหญ้ากับพื้นดิน แต่กระทั่งต้นไม้ที่มีรากฝังลึกลงไปในดินยังต้านทานเสียงไม่ได้ รากนั้นถูกถอนขึ้นมา กิ่งก้านปลิวออก และลำต้นที่หนาพอจนแขนของผู้ชายยังโอบไม่รอบก็ยังหลุด
เสียงที่สร้างขึ้นจากเวทมนตร์ของแครนเบอร์รี่จะทำลายวัตถุทุกอย่าง มนุษย์ หรือร่างกายของเมจิคัลเกิร์ล ด้วยธรรมชาติของเสียงแล้ว ระดับการทำลายล้างมันไม่ใช้เป้าหมายหลักแต่มันคือพื้นที่ เวทมนตร์ที่กระจายไปด้วยความเร็วเสียงที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าและกินพื้นที่กว้าง มันทรงพลังมากพอที่เมจิคัลเกิร์ลธรรมดาจะล้มตัวลงเพราะหมดสติพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลักออกจากหู
ด้วยดิน หญ้า และต้นไม้ที่ร่วงลงมาต้นแล้วต้นเล่า มาริกะ ฟุคุโรอิที่ใช้มือและเท้ายันตัวเองอยู่บนพื้นก็ยังคงไม่ได้ขยับออกไปจากจุดเดิมแม้แต่ก้าวเดียว
____________________________________________
“ที่มาริกะ ฟุคุโรอิไม่ได้เคลื่อนไหวนี่เพราะบาดเจ็บรึเปล่าคะ…?”
“ไม่…”
____________________________________________
มาริกะเงยหน้าขึ้น เธอกำลังยิ้มอยู่
ดอกกุหลาบบนหัวของเธอเปลี่ยนรูปเป็นขวานทรงกางเขนที่ค้ำยันร่างกายเอาไว้ด้วยน้ำหนัก กลีบดอกไม้ที่แข็งแกร่งก็ทำหน้าที่เป็นโล่ป้องกันการโจมตีเอาไว้ แต่กระนั้นเธอก็มีปัญหากับเสียง เธอป้องกันตัวเองอย่างเต็มรูปแบบจากเสียงไม่ได้ ชุดส่วนหนึ่งของมาริกะขาดวิ่นไป และตรงนั้นก็มีรอยช้ำอยู่บนผิวหนัง
มาริกะเอียงหัวพร้อมกับเลือดไหลหยดจากที่หัวลงมายังใบหน้า “ชื่อท่าล่ะ?”
“…อ่า โทษทีนะ” แครนเบอร์รี่ตอบ “ต้องทำแบบนั้นด้วยเหรอ หืม? คราวหน้าเราจะระวังนะ”
“เฮ้ ใครๆก็ผิดพลาดได้น่า”
____________________________________________
“นั่นเธอโดนรุ่นพี่สอนเหรอคะเนี่ย?”
“มาริกะน่ะเหมือนว่าเธออยากทำอะไรก็ทำ แต่เธอก็จะยึดถือในสิ่งที่ควรจะยึดถือจริงๆ”
“หวา ตอนนี้มาริกะกำลังพุ่งไปข้างหน้าแล้วค่ะ!”
____________________________________________
“ฟอร์เต้!”
“โรเซ็นเครอซ์!”
ตอนที่หญ้าและดินกำลังลอยอยู่ในอากาศ ขวานกุหลาบกางเขนก็ปัดมันออกไปด้านข้างด้วยการหมุนอย่างรุนแรง มาริกะรีบร่นระยะห่างระหว่างทั้งคู่ไปพร้อมๆกับป้องกันตัวเองจากแรงกระแทก ฟอร์เต้ แรกเกิดขึ้นหลังจากที่มาริกะกระโจนออกไปเพื่อทำลายพื้นดิน ในขณะที่ครั้งที่สองคือระเบิดที่ด้านหลัง —แต่มันก็ไม่มากพอที่จะหยุดเธอได้ และก่อนที่แครนเบอร์รี่จะโจมตีเป็นครั้งที่สาม มาริกะก็อยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว ฟอร์เต้ ของแครนเบอร์รี่คือการโจมตีเป็นวงกว้างทำให้หลบได้ยาก แต่เมื่อเข้ามาในระยะประชิดแล้ว มันก็กลายเป็นดาบสองคมที่จะโดนตัวของเธอเองเช่นกัน
ขวานกุหลาบกางเขนเฉือนไหล่ของแครนเบอร์รี่จนเลือดพุ่งออกมา แต่มันก็ไม่ลึกถึงกระดูก แครนเบอร์รี่ย่อต่ำและไถลตัวไปกับพื้นเพื่อจับตัวอีกฝ่าย แต่ก็เจอเข้ากับเข่าของมาริกะที่สวนกลับมา —แครนเบอร์รี่ผลักเข่าไปด้านข้าง แต่มาริกะก็เตะมือออกไป ด้วยการตอบสนองต่อการโจมตีที่มาจากมุมต่ำมันเลยทำให้มาริกะเสียการทรงตัว จากนั้นแครนเบอร์รี่ก็หมุนตัวเตะจากด้านล่างทันที เพราะตัวของมาริกะเสียสมดุลอยู่แล้วตั้งแต่แรก ร่างของเธอจึงลอยขึ้นไปในอากาศ แครนเบอร์รี่เตรียมมือหอกเพื่อโจมตีมาริกะในอากาศ แต่เมื่อเธอกำลังจะแทงออกไปข้างหน้า ตัวของเธอก็แข็งทื่อ
มาริกะหยุดอยู่กลางอากาศ เถากุหลาบเลื้อยออกมาจากของหัวของเธอไปทุกทิศทุกทาง มันพันรอบลำต้นของต้นไม้ที่หักโค่นไม่ก็แทงทะลุหน้าหินด้วยหนามแหลมเพื่อประคองตัวมาริกะเอาไว้ หลังจากพักหายใจเพื่อปรับจังหวะการลง มาริกะก็ลงมาพร้อมกับเงื้อหมัดของตัวเองเข้าหามือหอกของแครนเบอร์รี่ที่ช้ากว่า —จากนั้นเพียงแค่กระพริบตา แครนเบอร์รี่ก็เปลี่ยนเป็นการเตะสูง ซึ่งมาริกะป้องกันเอาไว้ได้ด้วยข้อศอก
____________________________________________
“การถูกกระแทกขึ้นไปในอากาศแบบนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่หลบเลี่ยงไม่ได้” มาโอแพมอธิบาย
“เพราะแบบนั้นเธอจึงใช้เถากุหลาบพันทุกอย่างที่อยู่รอบพื้นที่เอาไว้ แล้วด้วยการทำแบบนั้น เธอก็เปลี่ยนจังหวะที่ตัวเองจะร่วงลงมาเพื่อหลบการโจมตีของแครนเบอร์รี่ หมายความว่าแบบนี้เหรอคะ?”
“ถ้ามาริกะใช้เถากุหลาบโจมตีโดยตรง แครนเบอร์รี่ก็สามารถจัดการได้ ต่อให้โดนโจมตีด้วยวิธีที่นึกไม่ถึง—”
“เอาล่ะค่า ตอนนี้พวกเธอกำลังเผชิญหน้ากันแล้ว! ดอกไม้ทั้งสองเผชิญหน้ากันด้วยการต่อสู้แบบมือเปล่าค่า!”
____________________________________________
มาริกะพยายามใช้แขนตัวเองโอบรอบขาของแครนเบอร์รี่ แต่ก็ถูกผลักออกพร้อมกับหลังมือที่ตามมา แต่หลังมือก็ถูกผลักออกไปด้านข้าง จากนั้นก็ตามด้วยขวานกุหลาบกางเขน —ทำให้เลือดไหลออกมาจากเข่าที่ล็อคเอาไว้ด้วยมือขวา แครนเบอร์รี่กระชากขาที่ถูกจับเอาไว้เข้ามา —ทำให้คนที่จับเอาไว้พลิกตัวอย่างไม่ทันระวัง จนพวกเธอกลิ้งทะลุพุ่มไม้
ขาซ้ายของแครนเบอร์รี่พันอยู่กับขาขวาของมาริกะ เธอถือขวานกุหลาบกางเขนเอาไว้ด้วยมือเปล่า ในจังหวะที่สายตาของมาริกะเพ่งไปที่ขวานกุหลาบของตัวเอง แครนเบอร์รี่ก็ใช้ขาที่พันกันอยู่เพื่อพลิกตัว ตรึงลำตัวของมาริกะเอาไว้ด้วยต้นขาทั้งสองข้าง แครนเบอร์รี่คร่อมตัวอยู่ด้านบน
____________________________________________
“แครนเบอร์รี่ได้เปรียบล่ะค่ะ! นี่แครนเบอร์รี่เหนือกว่าในการต่อสู้บนพื้นเหรอเนี่ย?!”
“เธอใช้ความแตกต่างของตัวน่ะนะ”
____________________________________________
แม้ทั้งคู่จะเป็นเมจิคัลเกิร์ล และอายุแครนเบอร์รี่เองก็ดูเหมือนอยู่ที่ราวๆยี่สิบ ในขณะที่มาริกะดูอายุน้อยและตัวเล็กกว่า เพราะแบบนั้นระยะของแครนเบอร์รี่จึงเหนือกว่า หากเธอรักษาตำแหน่งได้เปรียบเอาไว้และกันไม่ให้มาริกะใช้ดอกไม้บนหัวได้ แบบนั้นการโจมตีของมาริกะก็จะมาไม่ถึงตัว
กำปั้นของแครนเบอร์รี่เล็งไปที่กรามของมาริกะ แต่มาริกะก็หันแก้มและไหล่เข้ามารับแทน มาริกะพยายามบิดตัวไปมารอบๆ แต่ขาของแครนเบอร์รี่ก็ตรึงตัวของเธอเอาไว้แน่น มือซ้ายของแครนเบอร์รี่ป้องกันไม่ให้ขวานกุหลาบขยับได้ ถึงมือสองข้างของมาริกะจะว่างอยู่ เธอก็เอื้อมมาไม่ถึงตัวแครนเบอร์รี่ที่ตำแหน่งอยู่ด้านบนตัวได้
แครนเบอร์รี่ต่อยออกมารัวๆ ขวา ขวา ขวา ขวา ขวา ขวา โจมตีอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้มาริกะจับแขนได้และยังป้องกันการโจมตีสวนกลับเอาไว้ด้วย มาริกะใช้แขนสองข้างป้องกันใบหน้าเอาไว้ แต่แครนเบอร์รี่ก็โจมตีเข้าไปเหนือการ์ดที่มาริกะป้องกันไว้ จากนั้นเลือดก็พุ่งออกมา
“เลือดแรกมาแล้วค่า! มาริกะเลือดไหลแล้ว!”
“…กลับกันต่างหาก”
____________________________________________
เลือดมันไหลออกมาจากกำปั้นของแครนเบอร์รี่ มันไม่ได้ออกมาจากมาริกะ มันเป็นเลือดของเธอเอง
“โรเซ็นชเลนจ์”
เถากุหลาบยื่นออกมาจากหัวมาริกะแล้วก็พันรอบแขนของเธอ เถานั้นเต็มไปด้วยหนามอันแหลมคม ด้วยการใช้เถาพันเอาไว้รอบๆแขนตอนที่ป้องกันเอาไว้ เธอจึงทำให้กำปั้นของแครนเบอร์รี่เกิดบาดแผล
เมื่อรู้ว่าตัวเองเลือดออก แครนเบอร์รี่ก็หยุดในทันที และมาริกะไม่ใช่คนที่จะมองข้ามโอกาสนี้ เธอใช้เข่าเตะขึ้นไปที่หลังของแครนเบอร์รี่ที่นั่งคร่อมตัวเธออยู่ พอแครนเบอร์รี่เสียสมดุล เถากุหลาบก็เลื้อยไปพันที่รอบแขน
แครนเบอร์รี่ตัวใหญ่กว่าก็จริง แต่เธอมีความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อมากกว่าด้วยรึเปล่า? มันยากมากที่จะมีเมจิคัลเกิร์ลในโรงเรียนกวดวิชามาโอที่จะเอาชนะมาริกะ ฟุคุโรอิในเรื่องความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวได้ ขนาดตัวส่งผลต่อระยะแต่ไม่ใช่กับความแข็งแกร่ง เมจิคัลเกิร์ลที่ขนาดตัวเท่าเด็กวัยหัดเดินแต่สามารถเล่นซูโม่กับรถถังเวทมนตร์ก็มีอยู่ด้วย
แต่แครนเบอร์รี่ก็ยังคงต่อต้าน เธอพยายามชักแขนที่เถากุหลาบพันไว้กลับเพื่อดึงตัวมาริกะ ฟุคุโรอิเข้ามาหา แต่เธอยืนอยู่ในท่าที่ไม่มีสมดุล เข่าของมาริกะที่โจมตีมาเป็นครั้งที่สองกระแทกเข้าไปจนทำให้รอยยิ้มที่งดงามบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด และก่อนการโจมตีครั้งที่สามจะมาถึง เถากุหลาบก็เลื้อยไปถึงหน้าอกของแครนเบอร์รี่แล้ว
____________________________________________
“ตอนนี้เริ่มรุนแรงกันแล้วค่ะ! นักดนตรีแห่งพงไพรแครนเบอร์รี่จะทำยังไงต่อนะ? เธอต้านทานแส้หนามที่เลื้อนขึ้นไปไม่ได้เลย!”
“…มาแล้ว”
____________________________________________
แครนเบอร์รี่ที่ถูกเถาวัลย์รัดเอาไว้ถูกดึงเข้าไป และตำแหน่งของมาริกะ ฟุคุโรอิที่อยู่ด้านล่างก็กลับกัน ในตอนนี้มาริกะเป็นคนที่นั่งคร่อมอยู่แทน รอยยิ้มของมาริกะมันฉีกกว้างขึ้นและกว้างขึ้นเรื่อยๆ ส่วนแครนเบอร์รี่คนที่แสดงความเจ็บปวดออกมา ในตอนนี้ยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย
“ฟอร์เต้”
เสียงระเบิดดังขึ้น แรงกระแทกอย่างรุนแรงทำให้ต้นไม้โค่นลงมา มาริกะทิ้งตัวลงไปบนแครนเบอร์รี่ ในขณะที่แครนเบอร์รี่พุ่งตัวขึ้นมาจากด้านล่างเพื่อคว้าเส้นผมของมาริกะเพื่อดึงตัวเองขึ้น พร้อมๆกับใช้นิ้วโป้งแทงเข้าไปในเบ้าตาในจังหวะเดียวกัน แต่มาริกะก็ใช้หน้าผากกระแทกเข้ากับนิ้วของแครนเบอร์รี่—
“ฟอร์เต้”
ในตอนที่ทั้งคู่เข้าปะทะกัน เสียงระเบิดครั้งที่สองก็ดังขึ้น มาริกะเอนตัวไปข้างหลัง ส่วนปลายนิ้วของแครนเบอร์รี่ก็เล็งไปที่เบ้าตาขวาอีกครั้ง โรเซ็นชเลนจ์ ที่พันอยู่รอบๆตัวแครนเบอร์รี่ถูกฉีกออกไปแล้ว เพราะแบบนั้นทั่วทั้งตัวแครนเบอร์รี่จึงมีเลือดพุ่งออกมา มาริกะพยายามเตะอีกฝ่ายให้ออกห่าง แต่มันมีเถากุหลาบเถาหนึ่งที่ยังคงพันรอบแขนของทั้งคู่
“ฟอร์เต้”
____________________________________________
ครั้งที่สาม
“โจมตีแบบฆ่าตัวตายค่ะ! ถ้าจะหนีจากสถานการณ์คับขันแบบนี้ก็ต้องโดนเวทมนตร์ของตัวเองไปด้วย!”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น นี่น่ะ—”
“อย่างนี้นี่เอง! แครนเบอร์รี่ยิงฟอร์เต้ของตัวเองไปที่ด้านหลังของมาริกะตลอด ต่อให้แครนเบอร์รี่อยู่ในระยะยิง มาริกะก็จะกลายเป็นโล่ ดังนั้นความเสียหายมันเลยไม่โดนตัวของเธอแบบตรงๆนี่เอง ดังนั้นนี่ก็ไม่ใช่การโจมตีที่รุนแรงหรือสิ้นหวังอะไร แต่มันเป็นการเคลื่อนไหวที่คิดคำนวนมาแล้ว แบบนี้ใช่ไหมคะ?”
ไม่มีทางที่มาริกะจะทนการเป็นโล่แบบนี้ต่อไปได้ เธอกัดฟันและอดทนต่อแรงระเบิด แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าเธอเจ็บปวด โรเซ็นชเลนจ์ที่ใช้จับตัวแครนเบอร์รี่เอาไว้กลายเป็นกุญแจมือของเธอซะเอง มันทำให้เธอหลบเลี่ยงหรือป้องกันฟอร์เต้ครั้งที่สามจากด้านหลังไม่ได้ ชุดด้านหลังของเธอฉีกขาดออกเป็นชิ้น ผิวหนังฉีกขาดจนมองเห็นกล้ามเนื้อ
____________________________________________
“หวา ดูเจ็บจังนะคะ แบบนี้ต้องใช้มาตราการความปลอดภัยไหมคะ?”
“ใช้สิ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับบุคคลด้วย กับสองคนนี้ไม่เป็นอะไรหรอก”
____________________________________________
มาริกะฉีกเถากุหลาบเถาสุดท้ายออกด้วยมือแล้วก็เตะแครนเบอร์รี่ออกไป
____________________________________________
“เถาสุดท้ายที่ฉีกออกไป” แพมพูด “เป็นอันเดียวที่ไม่ใช่โรเซ็นชเลนจ์ของเธอ”
“หมายความว่ายังไงคะ?” แพมมี่ถาม
“อีกแง่หนึ่งคือ—”
“เกิดแบบนี้ขึ้นเองสินะคะ! ส่วนหนึ่งของชุดแครนเบอร์รี่คือกุหลาบขนาดใหญ่ตรงไหล่และที่รอบขาเองก็มีเถากุหลาบพันอยู่ ดังนั้นเธอจึงใช้หนึ่งในเถากุหลาบพวกนั้นใช่ไหมคะ? เธอซ่อนมันไว้ในโรเซ็นชเลนจ์ของมาริกะดังนั้นมันจึงไม่ถูกใช้… และด้วยการซ่อนเถาของตัวเองเข้าไป เธอก็เลยรั้งตัวมาริกะเอาไว้ได้ในครึ่งก้าว…! แม้จะดูจากที่นั่งบรรยาย แต่ฉันก็ไม่ทันรู้ตัวเลยค่ะ!”
____________________________________________
ตอนที่มาริกะพยายามถอยกลับ แครนเบอร์รี่ก็จับเธอเอาไว้จากด้านล่าง นิ้วสีขาวเรียวสวยก็เงื้อไปถึงแก้มมาริกะเพื่อสัมผัส
“สฟอร์ซันโด”
หัวของมาริกะสั่นราวกับกระตุก จากนั้นเลือดก็ไหลทะลักออกมาจากหู ตา จมูก ปาก
____________________________________________
“ท่านั่นมันอะไรกันคะเนี่ย?!”
“คลื่นเสียงทำลายล้างแบบระบุทิศทางน่ะ”
“งั้นเหรอคะ งี้นี่เอง เพราะเป็นการระบุทิศทางก็เลยไม่ได้รุนแรงเท่าฟอร์เต้ แต่จากการสัมผัสตัวโดยตรง แครนเบอร์รี่เลยทำให้เสียงดังก้องอยู่ในตัวอีกฝ่ายได้ การที่เห็นมาริกะกำลังจะหนี แครนเบอร์รี่เลยไม่พลาดโอกาศนี้ในการโจมตีเข้าไป น่ารังเกียจดีค่ะ เป็นวิธีสู้ที่น่ารังเกียจดีจริงๆ”
____________________________________________
หัวมาริกะมีเลือดไหลทะลักออกมาจากทุกรูขุมขน เธอขยับตัวบิดไปมาแล้วก็เตะเข้าไปที่ท้องของแครนเบอร์รี่ แต่แครนเบอร์รี่ยกแขนขึ้นมาสองข้างเพื่อป้องกันเอาไว้ จนทั้งคู่ต่างก็ถอยกลับไปด้านหลัง เว้นระยะห่างระหว่างกันมากขึ้น และมาริกะก็ถ่มน้ำลายลงพื้น
กล้องสลับไปจับภาพมือขวาของแครนเบอร์รี่ที่อยู่ตรงพื้น นิ้วชี้และนิ้วกลางของเธอหัก ทั้งสองนิ้วบิดไปกันคนละทิศ
____________________________________________
“นิ้วค่ะ! นิ้วของแครนเบอร์รี่!”
“สุดท้าย การยื่นมือไปที่หัวมาริกะเพื่อใช้เวทมนตร์มันก็เป็นความเสี่ยง ก่อนหน้านี้ที่เล็งไปที่เบ้าตาเองก็เหมือนกัน การผสานฟอร์เต้เข้าไปเหมือนว่าจะได้ผลดี แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องได้ผลไปทุกครั้งหรอก” แพมอธิบาย
“หมายความว่ายังไงคะ?”
“มาริกะสะบัดศีรษะอย่างรวดเร็วเพื่อหักนิ้วของศัตรูด้วยโหนกแก้ม การเคลื่อนไหวแบบนี้ก็เหมือนกับเอาหน้าผากกระแทก มันเร็วกว่าการใช้ปากเพื่อกัดนิ้วให้ขาด การรับมือการโจมตีที่เข้ามาที่ศีรษะเช่นการแทงเข้ามาที่ตา ฉีกปาก บดจมูก และอื่นๆ… นี่เองก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในวิธีการรับมือนะ”
“แครนเบอร์รี่คงมั่นใจว่าสามารถจัดการอีกฝ่ายได้ด้วยท่านั้น… แต่เหมือนว่ามาริกะ ฟุคุโรอิยังมีพลังเหลืออยู่สินะคะ”
“ถ้าเป็นเมจิคัลเกิร์ลธรรมดาคงอาเจียนออกมาเป็นเลือดและคว่ำหน้าไปแล้ว”
“ใช่ไหมล่ะคะ? พอแก้วหูตัวเองแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้ว ฉันก็คิดว่าคงมีแต่เมจิคัลเกิร์ลที่แข็งแกร่งมากพอที่จะยังยืนอยู่ได้”
____________________________________________
มาริกะย่อต่ำในตอนที่ตาขวายังคงปิดอยู่ ลำตัวของแครนเบอร์รี่ตั้งตรงในตอนที่เธอชันเข่าขึ้นมาหนึ่งข้างและมือข้างหนึ่งแตะพื้น ทั้งคู่ยังคงยิ้มออกมา
มาโอแพมเอาฝ่ามือแตะที่แก้มของตัวเอง มุมปากเธอม้วนขึ้น
“สนุกใช่ไหมล่ะ?” มาริกะพูด
“ใช่เลย” แครนเบอร์รี่เห็นด้วย
“มาสนุกกันกว่านี้ไหม?”
“เราล่ะดีใจจริงๆที่มีรุ่นพี่ยอดเยี่ยมขนาดนี้”
เลือดมันไหลออกมาจากหู ตา จมูก และปากของมาริกะ มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอมองอะไรไม่เห็น
จุดที่แครนเบอร์รี่ถูกตรึงเอาไว้ด้วยโรเซ็นชเลนจ์ถูกฉีกออก เลือดยังคงไหลออกมา
ขวานกุหลาบกางเขนที่อยู่บนหัวของมาริกะกำลังหมุนและขุดดินลึกลงไป แครนเบอร์รี่กลิ้งตัวเพื่อหลบเลี่ยง เมื่อเธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เธอก็ใช้สันมือทุบไปที่ขวานหมุนจากด้านล่าง แรงกระแทกมันทำให้มาริกะเซ เลือดไหลทะลักออกมาจากมือแครนเบอร์รี่แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เธอเหวี่ยงส้นรองเท้าไปที่เข่าของมาริกะ จนทำให้มาริกะที่พุ่งตัวไปข้างหน้าเกิดโซเซ จากนั้นก็เตรียมตัวโจมตีครั้งต่อไป แครนเบอร์รี่ก้าวมาข้างหน้าด้วยแรงที่มากพอทำให้พื้นดินสะเทือน ในขณะเดียวกัน กุหลาบของมาริกะก็พองขึ้นพร้อมกับเสียง ฟู่ววว—
“โรเซ็นซอว์เซอร์!”
เมื่อพองจนกลายเป็นดอกตูม ขวานกุหลาบกางเขนก็พ่นผงสีขาวออกมาและเหี่ยวแห้งไปในทันใด แครนเบอร์รี่ที่ระวังแต่ใบมีดหมุนเกิดความรู้สึกประหลาดใจ
แครนเบอร์รี่ถูกฟันในตอนที่ไอออกมาเพราะผงฟุ้งจนเต็มใบหน้า และในตอนที่บิดตัวด้วยความเจ็บปวด มันก็มีน้ำตาไหลออกมา มาริกะทิ้งน้ำหนักตัวลงบนแครนเบอร์รี่เพื่อบังคับให้ล้ม เธอจับหัวของอีกฝ่ายเอาไว้แบบแน่นๆและเอาหลังหัวทุบเข้ากับก้อนหิน ในขณะเดียวกันก็เอาหน้าผากกระแทกเข้ากับจมูกแครนเบอร์รี่ด้วย เธอเอาหน้าผากกระแทกแครนเบอร์รี่อีกทีครั้งพร้อมกับปล่อยเถากุหลาบให้เลื้อยไปทั่วร่างแครนเบอร์รี่
ใบหน้าของแครนเบอร์รี่ที่ครั้งหนึ่งเคยงดงามกลับบิดเบี้ยว —บิดเบี้ยวไปมากกว่าที่บาดเจ็บเพราะการโจมตี
สีหน้าของเธอไม่ใช่ความกลัวหรือเจ็บปวด แต่มันคือความยินดี
“ฟอร์ติสซิโม่”
หน้าจอกลายเป็นสีดำ
____________________________________________
“หืมม?” แพมพูด
“อ๊ะ” แพมมี่ตอบ “ฉันคิดว่าเวทมนตร์ของเธอกินระยะการโจมตีเป็นวงกว้างค่ะ เพราะแบบนั้นกล้องเองก็โดนไปด้วย ให้ตายสิ ฉันนึกว่ามันจะทำงานแบบอัติโนมัติซะอีก”
“มันยากนะที่กล้องจะหลบการโจมตีไปพร้อมๆกับจับภาพว่าเมจิคัลเกิร์ลกำลังทำอะไรอยู่”
“พวกเราปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ค่ะ ทุกอย่างมันกำลังเข้ารูปเข้ารอยแล้วเชียว! ตอนนี้สลับไปใช้กล้องทางอากาศก่อนดีกว่าค่ะ… อ๋า มีหลุมขนาดใหญ่หยั่งกับอุกกาบาตตกอยู่ด้วยค่ะ คงจะใช่แน่ๆ”
“เหมือนว่าทั้งสองคนจะหายไป…”
“แย่จังค่ะ พอถ่ายจากข้างบนแล้วต้นไม้ก็บังด้วย…ขอโทษค่ะ ช่วยเปลี่ยนเป็นกล้องตัวอื่นหน่อย”
เมื่อได้รับคำขอจากผู้ประกาศ กล้องมันก็แสดงภาพจากสถานที่อื่นก่อนที่จะหยุดลงตรงกล้องตัวที่ห้า ภาพนั้นเต็มไปด้วยสีแดง เปลวเพลิงอันทรงพลังเพียงพอที่จะแผดเผาไปถึงท้องฟ้ากำลังลุกไหม้อยู่
“ไฟป่างั้นเหรอ หืมม?” แพมออกความเห็น
“พวกเราได้รายงานมาค่ะ” แพมมี่พูด “พื้นที่ตรงนั้นที่มีไฟลุกอยู่คือโซน F68 เป็นเพราะเดธเฟลมของเฟลมฟรามี่ค่ะ ตอนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บห้าราย”
“ชั้นจะส่งหนึ่งในปีกไปรักษาเอง”
“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยไหมคะ?”
“ไม่ ไม่เลย”
เซอร์ไววัลเกมของโรงเรียนกวดวิชามาโอถูกจัดขึ้นทุกๆปี และปีนี้เป็นปีแรกที่ทางโรงเรียนรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกมาเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้การที่จะดึงดูดให้มีผู้มาเข้าร่วมมากเท่าที่เป็นไปได้ จึงมีเงินรางวัลห้าล้านเยนสำหรับผู้ชนะอยู่ด้วย ทางกรมการต่างประเทศคือผู้ตัดสินใจยอมรับคนภายนอกมาเข้าร่วม และยังเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนเงินรางวัลด้วย
ในวันนี้โรงเรียนกวดวิชามาโออยู่ภายใต้อำนาจของกรมการต่างประเทศ ผู้คนพูดกันว่ามันเป็นองค์กรส่วนตัวของมาโอแพม แต่ย้อนกลับไปมันก็เป็นเพียงแค่ชมรม มันก็ไม่เคยตกอยู่ใต้การครอบครองของเธอ
แม้ว่าเรื่องความสัมพันธ์จะเป็นแบบอาจารย์กับลูกศิษย์ แต่ลูกศิษย์ก็ไม่ใช่สมบัติของอาจารย์แต่อย่างใด มาโอแพมจะสอนในสิ่งที่เธอรู้ และเธอเองก็มีสิ่งที่ได้มาจากลูกศิษย์ด้วย
เพื่อนบางคนของมาโอแพมก็ดูถูกเรื่องการมีเด็กฝึกหัด บางคนพูดว่ายิ่งทำให้ลูกศิษย์แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งลดค่าของตัวเองมากเท่านั้น บางคนก็พูดว่าสุดท้ายแล้วพวกลูกศิษย์ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าหมูโสโครกที่เอาไว้ทดสอบเทคนิค หากจำเป็นต้องใช้ของทดลอง มันก็ต้องออกไปยังสนามรบ และก็จะพบเมจิคัลเกิร์ลอยู่ที่นั่น บางคนก็คิดแบบเงียบๆว่าหากนักเรียนแต่ละคนต้องตายไปมันต้องแบกรับภาระมากแค่ไหน มันมีหลากหลายเหตุผลที่ไม่จำเป็นต้องมีนักเรียน
มาโอแพมคิดต่างออกไป แน่นอนว่านักรบคือสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยว ดังนั้นการที่มีมิตรอยู่ด้วยคือเรื่องดีที่สุด การฝึกมันจะสนุกมากยิ่งขึ้นหากแข่งขันกันกับเพื่อนมากกว่าทำงานด้วยตัวคนเดียว การมอบเทคนิคฝึกฝนจิตใจหรือถ่ายทอดเทคนิคการต่อสู้ของเมจิคัลเกิร์ลให้แบบคร่าวๆสุดท้ายก็เป็นแค่ข้ออ้าง นั่นคือความเห็นของเธอ
ทุกคนเข้ากันได้ดีและแข็งแกร่งขึ้น ด้วยสิ่งนี้ที่เป็นคติประจำใจของมาโอแพม เธอจึงเป็นเพื่อนกับเมจิคัลเกิร์ลที่มีมุมมองแบบเดียวกัน ซึ่งมันนำไปสู่การขยับขยายโรงเรียนกวดวิชามาโอ แต่มันก็ขยายมากจนเกินไป ทางกรมการต่างประเทศที่มาโอแพมทำงานอยู่ให้การสนับสนุนแก่ทางโรงเรียนเป็นอย่างดี แต่ทางเบื้องบนของแผนกที่ตอนนี้เป็นผู้กุมอำนาจ จนทำให้มาโอแพมที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนยังเข้ามาก้าวก่ายเรื่องนโยบายการจัดการตามที่เธอคิดไม่ได้ง่ายๆ
สำหรับเรื่องนี้มันก็เป็นจริงเช่นกัน งานเซอร์ไววัลที่เกี่ยวข้องกับเมจิคัลเกิร์ลต้องขโมยธงจากกันและกันในพื้นที่จำกัด ใครก็ตามที่รวบรวมธงได้มากที่สุดก่อนหมดเวลาคือผู้ชนะ —มันเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมและสนุกสนาน แต่มันก็มีความอันตรายรวมอยู่ด้วย อนุญาตให้ใช้ความรุนแรงและเวทมนตร์ได้ ดังนั้นแน่นอนว่ามันเลยอันตราย
คนที่จัดการงานออกกำลังครั้งนี้ค่อนข้างคุ้นเคยกับความสามารถในการต่อสู้ของคนจากโรงเรียนกวดวิชามาโอ หากมีแค่คนพวกนี้ มันก็จะขีดเส้นและพูดว่า “จนถึงจุดนี้เรียกว่าปลอดภัย” ได้แบบง่ายๆ แต่กระนั้นทางฝ่ายบริหารก็ไม่รับฟังความเห็นของมาโอแพมว่าการรับผู้เข้าร่วมจากภายนอกจะทำให้พวกเธอดูแลไม่ทั่วถึง แนวคิดของแผนกคือการดึงดูดผู้เข้าร่วมด้วยเงินรางวัล มองหาผู้แข็งแกร่งที่สุดสำหรับโรงเรียน จากนั้นหลังเมื่อจบการศึกษาแล้วก็จะให้ทำงานให้กับแผนก โดยพื้นฐานทางแผนกจะใช้คนใหม่ๆเพื่อยกระดับโรงเรียนกวดวิชามาโอและขยายอำนาจของผู้สนับสนุน ซึ่งก็คือทางกรมการต่างประเทศนั่นเอง
มาโอแพมรู้ว่าตัวเองกำลังถูกใช้เพื่อพลังทางการเมือง เธอมีพลังมากเกินไปในการดำเนินการตามความคิดตัวเอง ไม่มีทางที่อาวุธเมจิคัลเกิร์ลที่มีชื่อนำหน้าว่า “อาวุธแห่งการทำลายล้าง” ควรทำตามความต้องการของตัวเอง ดังนั้นเธอจึงให้ตัวเองกลายเป็นเครื่องมือ ทำตามที่แผนกสั่งการ จำกัดพลังของตัวเองเอาไว้ และปรับแต่งเรื่องต่างๆ ซึ่งนี่หมายความว่าหน่วยงานพลเรือนกำลังควบคุมกองทัพอยู่
มันจะดีกว่านี้มากหากคนที่ฉลาดกว่าเธอใช้พลังของมาโอแพมแทนที่จะเป็นตัวแพมที่จะใช้พลังตามใจชอบ แต่ถึงจะพูดแบบนั้น มันก็มีระดับขั้นต่ำที่เธอยอมรับไม่ได้อยู่ เธอสั่งสอนถึงความอันตรายของการออกกำลังแบบเซอร์ไววัล และยืนกรานว่าทางแผนกควรคัดกรองผู้เข้าร่วมผ่านทางการสัมภาษณ์ อย่างน้อยมันก็จะทำให้เมจิคัลเกิร์ลที่ไม่มีทักษะการต่อสู้พื้นฐานถอยออกไป ปีนี้ทางแผนกเน้นมาตราการด้านความปลอดภัยมากยิ่งกว่าปีไหนๆ เธอเองก็ยังอธิบายให้นักเรียนและคนที่จบการศึกษาฟังอย่างชัดเจนว่าอย่าทำตัวบ้าๆกับแขกที่มาร่วมงาน เธอยังจัดพี่เลี้ยงและเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเอาไว้ทุกพื้นที่ ยังลดเวลาของผู้เข้าแข่งขันที่อนุญาตให้ออกนอกพื้นที่ในตอนแข่งเกมจากปกติสามสิบวินาทีเป็นห้าวินาที เธอยังระมัดระวังมากกว่าปกติเพื่อไม่ให้ความเสียหายออกไปยังภายนอกอย่างเด็ดขาด
นอกจากการประกาศและเรื่องเสริมความคิดเห็นแล้ว มาโอแพมยังต้องจัดการบุคลลากรที่ฐานบัญชาการ หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เธอก็จะมอบคำแนะนำให้กับบุคคลากร ไม่ก็จะส่งปีกออกไป
เสียงเตือนดังขึ้นสามครั้ง และเธอก็เปลี่ยนเมจิคัลโฟนให้กลายเป็นโหมดสนทนา
“นักสู้คนหนึ่งสร้างฝนกรดทำให้กล้องบริเวณโดยรอบได้รับความเสียหาย”
เสียงเตือนดังขึ้นสามครั้ง และเธอก็เปลี่ยนเมจิคัลโฟนให้กลายเป็นโหมดสนทนา
“นักสู้ห้าคนขาดออกซิเจนเพราะไฟนรกของฟรามี่”
รายงานถูกส่งเข้ามาเรื่อยๆ
“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่านคะ ถึงตอนนี้จะเกิดสถานการณ์ร้ายแรงบางอย่างขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลไปหรอกค่ะ” แพมมี่พูด “ไม่ว่าพื้นดิน —พืชและสัตว์— จะเกิดความเสียหายขนาดไหน พวกเราก็จัดการได้ค่ะ มันจะกลับไปเป็นเหมือนก่อนที่งานออกกำลังครั้งนี้จะเริ่มต้น แต่ว่า —หากเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ มันก็หมายความว่าผู้เข้าร่วมบางคนจะตกรอบหากติดอยู่ข้างในนั้น… และในจุดนี้ ทุกท่านคงสงสัยใช่ไหมคะว่าจุดประสงค์ของงานออกกำลังครั้งนี้มันคืออะไร?”
“พวกเรามอบหมายให้ทีมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและทีมปฐมพยาบาลพร้อมกับถังดับเพลิงเวทมนตร์ไปดับเพลิงตรงที่เกิดเหตุแล้ว ชั้นเองก็ส่งหนึ่งในปีกออกไปด้วย พวกเราจะดับไฟได้โดยเร็ว…บางทีนะ”
“รายงานจากที่เกิดเหตุบอกว่ามีนักสู้บางคนกำลังช่วยดับไฟด้วย ฟังแล้วอบอุ่นหัวใจจังเลยค่ะ”
“น่าดีใจจริงๆ”
____________________________________________
ในตอนที่เธอกำลังแนะนำและออกความคิดเห็น มาโอแพมก็เบนความคิดของตัวเองกลับมายังการต่อสู้
นี่การต่อสู้ระหว่างแครนเบอร์รี่กับมาริกะได้ข้อสรุปรึยังนะ? หรือว่าพวกเธอยังสู้กันอยู่? อีกไม่นานดวงอาทิตย์ก็จะลับขอบฟ้าแล้ว ซึ่งมันจะทำให้มาริกะเสียเปรียบ แต่มาริกะก็รู้ตัวเองดี หากไม่มีดวงอาทิตย์ เธอก็แค่ปลูกดอกไม้ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แสงอาทิตย์เพื่อต่อสู้ แล้วแครนเบอร์รี่จะตอบสนองกับเรื่องนี้ยังไงนะ? แพมคิดว่าทางฝ่ายทรัพยากรเมจิคัลเกิร์ลนั้นเหินห่างจากการต่อสู้ แต่สำหรับแครนเบอร์รี่ในตอนนี้มันค่อนข้างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว เทคนิคหรือความพร้อมต่อสู้แล้วสำหรับเธอมันไม่มีแม้แต่นิด แม้จะหลังจากเริ่มงานในฝ่ายทรัพยากรเมจิคัลเกิร์ลแล้ว เธอยังคงต้องฝึกฝนอย่างหนักแน่ แม้แครนเบอร์รี่จะเป็นนักเรียนแค่เพียงเวลาสั้นๆ แต่เธอก็ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของโรงเรียนกวดวิชามาโอไปอย่างสมบูรณ์แบบ
____________________________________________
“หวา เสียงเตือนดังอีกแล้ว” แพมมี่พูด “คราวนี้เกิดอะไรขึ้นนะ?”
“นี่มัน…”
“เหมือนว่าจะมีคนสามคนได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ระหว่างแครนเบอร์รี่กับมาริกะ ฟุคุโรอิค่ะ คนหนึ่งกระดูกหัก ฉันได้รับแจ้งมาว่าทางนั้นกำลังขอความช่วยเหลืออย่างฉุกเฉิน… แพมคะ ขอปีกที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ด้วย”
“…ชั้นจะส่งไปปีกนึงนะ”
____________________________________________
สำหรับงานออกกำลังเซอร์ไววัลในปีนี้ ทางกรมได้จองอุทยานแห่งชาติของประเทศหนึ่งไว้ใช้งานโดยเฉพาะ มันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ทางกรมเองก็สัญญาว่าพื้นที่ทั้งหมดจะถูกฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ด้วยเวทมนตร์เมื่อเรื่องต่างๆจบลงแล้ว แต่จะมีผู้เข้าร่วมกี่คนกันที่เข้าใจว่านี่คือโอ้อวดของกรมการต่างประเทศว่ามีอำนาจขนาดไหน การเจรจากับประเทศซักประเทศและได้ข้อตกลงกับเรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้น่ะ?
ฉันเข้าใจดี ฉันไม่คิดจะรับงานนี้แน่ ถ้าไม่เข้าใจว่าการสร้างปัญหากับเป้าหมายที่ทรงพลังนี้ว่าหมายถึงอะไร ไม่ว่ารางวัลมันจะมากขนาดไหน สุดท้ายแล้วชีวิตของตัวเองคือเรื่องสำคัญที่สุด รางวัลมันจะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าเกิดตายขึ้นมา
การลอบสังหารมาโอแพม
ฉันรู้ดีว่ามาโอแพมแข็งแกร่งขนาดไหน ฉันจำความสำเร็จหลักๆของเธอได้และยังได้เห็นการต่อสู้ที่ถูกบันทึกเอาไว้ด้วย ปีกทั้งสี่ของเธอนั้นน่าทึ่งในทุกๆด้าน ทั้งความสะดวก ความทนทาน และพลังทำลาย ไม่มีเมจิคัลเกิร์ลคนไหนที่ท้าสู้กับเธอตรงๆและเอาชนะได้ ต่อให้มาโอแพมต่อสู้กับเมจิคัลเกิร์ลทั้งหมด เธอก็อาจเอาชนะได้ ฉันคิดว่าเธอคงชนะแน่
นั่นคือคนที่ฉันกำลังจะฆ่า มันเป็นงานที่น่ากลัวมาก มันคงถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ของเมจิคัลเกิร์ล แต่ชื่อของฉันคงไม่ใช่ ชื่อของ JFK และออสวอลด์ถูกพูดถึงแบบเป็นคู่เพราะออสวอลด์ถูกจับตัวได้ ต่อให้การลอบสังหารสำเร็จ แต่ถ้านักฆ่าถูกจับได้ นั่นก็หมายถึงความตาย
ฉันเป็นมืออาชีพแล้ว มืออาชีพน่ะไม่ตายหรอก
ฉันกำลังจะฆ่ามาโอแพม แล้วจากนั้นก็จะกลับบ้านแบบที่ยังมีชีวิตอยู่ ลูกค้าฉันเองก็เตรียมการไว้มากพอที่จะให้ฉันกลับไปแบบเป็นๆ และอีกอย่าง จริงๆแล้วถ้าหากเกิดอะไรขึ้นฉันก็หนีได้เก่งกว่าการฆ่าซะอีก ฉันจะไม่สละชีวิตตัวเองเพื่อทำงานให้สำเร็จ ไม่จำเป็นที่ต้องไปไกลขนาดนั้นด้วยเช่นกัน ฉันรับเงินมาแล้ว ดังนั้นฉันก็จะทำในสิ่งที่คุ้มค่ากับเงินนั้น ไม่ว่าจะได้เงินมามากขนาดไหน มันก็ไม่คุ้มค่าที่จะตายเพื่อมันอยู่ดี อาชีพฉันคือนักฆ่า ไม่ใช่มือระเบิดพลีชีพซักหน่อย
วิธีที่มีชีวิตอยู่สำคัญมากกว่าวิธีการตาย นั่นคือความสำคัญอันดับหนึ่ง ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะตายแบบสงบๆบนเตียงโดยที่ไม่มีใครรู้ ฉันไม่ต้องการคำชื่นชมหรือถูกจดจำ ฉันไม่อยากให้ชื่อตัวเองถูกเขียนลงไปในประวัติศาสตร์ด้วย แต่งานที่ยากก็คุ้มค่าที่จะลงมือทำ ฉันผ่านการฝึกฝนมามาก อีกทั้งยังมีการต่อสู้จริง เพื่อที่จะทำงานที่ไม่ใช่ใครๆก็จัดการได้ —แต่มันเป็นบางสิ่งที่ฉันสามารถทำได้คนเดียวเท่านั้น
จนถึงตอนนี้แผนการก็ประสบความสำเร็จแล้ว มาโอแพมอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ ปัญหาก็คือปีกของเธอ หากฉันทำให้ปีกของเธอหายไปได้ ฉันก็สามารถฆ่าเธอด้วยความสามารถของตัวเองได้ ปีนี้มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าร่วมงานออกกำลัง มาโอแพมจึงไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆได้ เธอใช้ปีกของตัวเอง และเธอก็ส่งปีกไปดับไฟและช่วยเหลือคนบาดเจ็บ เมื่อถึงจังหวะที่สมบูรณ์แบบ ตอนที่ปีกของเธอหายไปหมด นั่นคือจังหวะที่ฉันจะลงมือ
____________________________________________
“แบบนี้น่ามึนหัวจัง ว่าไหมคะ?” แพมมี่พูด “ตอนกลางเกมมันกลายเป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอคะ?”
“เกิดขึ้นเยอะขนาดนี้มันผิดปกตินะ” แพมตอบ
“นี่ผู้เข้าร่วมจากภายนอกส่งผลกระทบอะไรกับเรื่องนี้ไหมคะ? แม้ฉันจะเป็นผู้บรรยายมืออาชีพก็ยังแทบจะตามไม่ทันเลย การต่อสู้มันเกิดขึ้นทั่วทุกที่เลยค่ะ”
การต่อสู้อันกล้าหาญของแขกกำลังดึงดูดความสนใจ
เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบางคนแสดงท่าทางขึงขังในตอนที่กระซิบอะไรอยาง “โรงเรียนกวดวิชามาโอน่ะจบสิ้นแล้ว” และ “หากผู้เข้าร่วมจากภายนอกเอาชนะได้ในตอนที่ทางโรงเรียนยอมรับก็จะขายหน้า”
และแพมก็ขีดเส้นใต้สีแดงสองเส้นตรงชื่อของผู้ลงทะเบียนที่ออกจากการแข่งขันไป เธอพบความจริงว่ามีแขกอีกจำนวนมากที่ยังคงอยู่ในเกม ตั้งแต่คนที่เชื่อมโยงกับโรงเรียนกวดวิชามาโอที่มีชื่ออย่าง “นักดนตรีแห่งพงไพร แครนเบอร์รี่” และ “ทะเลเพลิง เฟลม ฟรามี่” ทำให้ศัตรูหวาดผวาและเกิดภาพลักษณ์สำคัญแล้ว ชื่อนั้นก็ยังยาวกว่าเมจิคัลเกิร์ลทั่วไปซึ่งทำให้ค้นหาได้อย่างรวดเร็วบนรายชื่อที่ลงทะเบียนไว้
ผู้ประกาศมองดูรายชื่อคนที่มีธงอยู่มากที่สุด แต่มันก็เป็นไปได้ไม่ดีเลย และเมื่อมาโอแพมเข้ามาควบคุมเมจิคัลโฟนของผู้ประกาศมันก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้น เธอบังคับให้มาสค็อทของแครนเบอร์รี่ที่เตรียมพร้อมอยู่บนโต๊ะที่ศูนย์บัญชาการทำการค้นหาเธอ เมจิคัลโฟนของผู้เข้าร่วมกองกันอยู่เป็นภูเขาบนโต๊ะ และหนึ่งในนั้นก็คือมาสค็อทของแครนเบอร์รี่ที่ลอยขึ้นมาเป็นภาพโฮโลแกรมพร้อมกับการบ่นแบบซ้ำๆ เรื่องส่วนใหญ่ที่มาสค็อทบ่นออกมาก็เกี่ยวกับผู้ประกาศและผู้ออกความคิดเห็น ความอดทนของแพมนั้นเกือบจะถึงขีดจำกัดในการเมินอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายก็ยังคงบ่นออกมาราวกับว่าอยากให้ได้ยินสิ่งที่พูด “มาโอ ปอน? ชิ ชื่อนี่อวดดีจัง” “ทั้งคนประกาศกับคนออกความเห็นใส่ชุดดำล้วนหมด ปอน สีขาวดำแบบฟาฟเจ๋งกว่าเยอะ ปอน” “เราไม่เคยได้ยินเมจิคัลเกิร์ลชื่อว่าแพมมี่มาก่อนเลย ปอน ถ้าจะเป็นผู้ประกาศก็เอาคนที่เกี่ยวข้องมาสิ ปอน” “อ่า เสียงดังจังเลย ปอน เงียบกว่านี้เหมือนชื่อเสียงหน่อยสิ ปอน”
มันทำให้เธอคิดว่าหากให้อีกฝ่ายทำงานก็จะทำให้หุบปากได้
“ฮึ ทำไมฟาฟต้องเป็นทาสเธอด้วย ปอน?”
“อ๊ะ จริงด้วย ขอโทษนะคะที่ขออะไรแบบไม่เกรงใจ” แพมมี่พูด “ฉันได้ยินว่าไซเบอร์แฟร์รี่ประเภทมาสค็อทจะเก่งเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ ใช่ไหมคะ แพม?”
“โดยพื้นฐานแล้วก็ใช่”
“แครนเบอร์รี่บอกว่าเข้าร่วมเพราะมันจะเป็นข้อมูลอ้างอิงชั้นดีสำหรับการทดสอบของเธอ แต่เธอกลับทิ้งฟาฟเอาไว้ เรื่องนี้ฟาฟไม่ดีใจเลย ปอน ฟาฟไม่มีอะไรทำเลย ปอน เบื่อสุดๆ ปอน ตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าจะเรียกเรื่องนี้ว่าเซอร์ไววัล แบบนั้นมันก็ต้องมีกฏที่ฮาร์ดคอร์และน่าตื้นเต้นกว่านี้ ปอน เกมนี้มันอ่อนเกินไป ปอน”
ไซเบอร์แฟร์รี่สีขาวดำยังคงบ่นต่อไป สำหรับเขา(หรือเธอ?) ผู้เข้าแข่งขันในงานออกกำลังนี้ล้วนแต่เป็นเหตุให้บ่นออกมาทั้งนั้น มาโอแพมรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้ แต่เธอก็ไม่ให้อีกฝ่ายพูดต่อ เธอจะจบด้วยการให้ตัดต่อแก้ไขในการที่จะผลิต Blu-ray ออกมา
ฟาฟไม่ได้คิดอะไรดีๆเกี่ยวกับกรมการต่างประเทศหรือโรงเรียนกวดวิชามาโอ
ฟาฟทำงานให้กับฝ่ายทรัพยากรเมจิคัลเกิร์ลซึ่งไม่ได้ชื่นชอบการต่อสู้ และมีความคิดดูหมิ่นวิธีการของกรมการต่างประเทศที่สร้างชื่อด้วยการใช้กำลังเพื่อให้ได้มา และเรียกว่าพวกป่าเถื่อน ไร้สมอง และหัวโบราณ ไซเบอร์แฟร์รี่พวกนี้ที่เป็นผลจากการตกผลึกของเทคโนโลยีและความรู้จะมองโลกที่มีความรุนแรงเด่นชัดยิ่งกว่าเรื่องอื่นใด แพมเข้าใจความต้องการที่จะบ่นออกมาซักเรื่องสองเรื่องได้
เมื่อเธอได้ความร่วมมือจากฟาฟ เธอก็ให้ไซเบอร์แฟร์รี่เปลี่ยนกล้องไปหาผู้มีคะแนนสูงสุด ตรงนั้นนอกจากนักสู้ที่เธอมองหาอยู่แล้ว ยังมีเมจิคัลเกิร์ลอีกคนหนึ่ง นักสู้คนหนึ่งที่มีหูกระต่ายที่เข้ากับเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่น ฮานะ เกโคคุโจ ส่วนอีกคนหนึ่งไม่ใช่สมาชิกของโรงเรียนกวดวิชามาโอแต่เธอก็ถูกรู้จักกันดี เธอชื่อสไตล์เลอร์ มิมิที่มีธีมของช่างเสริมสวย
“ถ้าจะพูดตามที่เห็น” แพมมี่พูด “สไตล์เลอร์ มิมินั้นร่วมงานกับมาริกะ ฟุคุโรอิ คนที่แสดงความบ้าคลั่งและป่าเถื่อนออกมาให้เห็นในตอนนี้อยู่บ่อยๆค่ะ เวทมนตร์รูปแบบประสานของเธอทำให้เมจิคัลเกิร์ลที่ดูผิดแปลกดูเหมือนกับคนปกติภายในเมืองได้ บางครั้งเธอก็มาช่วยงานของทางโรงเรียนกวดวิชามาโอด้วยใช่ไหมคะ?”
“ช่วยได้มากเลยล่ะ”
“แล้วก็เมจิคัลเกิร์ลหูกระต่าย… ฮานะ เกโคคุโจ เป็นชื่อที่แปลกมากเลยค่ะ”
ท่าทางของสไตล์เลอร์ มิมินั้นดูดุดัน ดวงตาเองก็แข็งกร้าว ท่าทางเย็นชาที่แสดงให้ศัตรูเห็นจะทำให้เมจิคัลเกิร์ลที่ขี้ขลาดเผ่นหนี แต่ถ้าเป็นเหมือนกับมาริกะก็จะรู้สึกดีใจจนพูดว่า “โอ้” อากาศบริเวณรอบๆตัวนั้นแหลมคมเช่นปกติ
ฮานะ เกโคคุโจมองกลับไปที่เธอตรงๆอย่างไม่สะทกสะท้านแบบผ่อนคลายด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ มันสามารถสัมผัสได้ถึงประสบการณ์การต่อสู้และความมั่นใจที่อยู่เบื้องหลังได้ แต่มันก็ไม่สามารถสัมผัสถึงความกระตือรือร้นในการต่อสู้จากเธอได้เช่นกัน รูปลักษณ์ที่ดูดีมันตรงกับข้ามกับความรู้สึกที่บอกว่าเธอเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่มีประสบการณ์
“เธอไม่ได้มาจากโรงเรียนกวดวิชามาโอใช่ไหมคะ? แต่ในตอนนี้เธอมีธงอยู่มากที่สุด —แพมคิดว่ายังไงคะ?”
“จากที่เห็น เธอดูค่อนข้างแข็งแกร่งเลยล่ะ”
“เรื่องฮานะ เกโคคุโจ เธอเป็นสมาชิกของหน่วยสืบสวน —เป็นมือหนึ่งที่โดดเด่นด้วยตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ แพมรู้เรื่องนี้ไหมคะ?”
“พวกเราได้ยินข่าวลือว่าเธอคือมือหนึ่งคนใหม่ของหน่วยสืบสวนจากทางกรมการต่างประเทศมาเหมือนกัน”
“ฟังดูเหมือนกับว่าพวกเราคาดหวังจากเธอได้มากเลยค่ะ!”
กรมการต่างประเทศและหน่วยสืบสวนได้สร้างความสัมพันธ์บางอย่างขึ้นมา บางทีอาจจะเป็นเพราะว่ามันคงแย่หากมีปัญหากับหน่วยสืบสวนและได้รายงานเรื่องต่างๆไม่ว่าจะจริงหรือเท็จมา มันพูดได้ว่าหน่วยสืบสวนเป็นหนึ่งในฝ่ายที่ทางกรมการต่างประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วย ทั้งสองฝ่ายสนิทกันมากพอจนพูดแบบว่า “อีกไม่นานพวกเราจะมีงานนะ ตอนนี้กำลังหาผู้เข้าร่วมอยู่” “‘งั้นเดี๋ยวทางเราส่งคนไปนะ รู้ไหมเร็วๆนี้มีอใหม่ที่กระตือรือร้นด้วยล่ะ” ใส่กันได้
“ตอนนี้ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วค่ะ!” แพมมี่พูด
“ได้เวลาแล้วสินะ”
____________________________________________
มิมิเริ่มเคลื่อนไหว เธอย่นระยะเข้าไปใกล้หลายเมตรภายในท่าเดียวพร้อมกับใบมีดโกนสามใบที่อยู่ระหว่างนิ้วในมือขวา วีถีโค้งอันเฉียบคมเฉือนเข้าไปที่จุดที่ฮานะอยู่ แต่ฮานะก็เคลื่อนไหวออกจากจุดนั้นไปเรียบร้อยแล้ว
____________________________________________
“เร็วมากค่ะ! แม้แต่กล้องที่เคลื่อนไหวด้วยการตรวจจับพลังเวทยังแทบจับภาพไม่ทันเลยค่ะ!”
“ไม่ใช่แค่เร็วนะ เธอคุ้นเคยกับการต่อสู้ที่คู่ต่อสู้มีอาวุธด้วย”
____________________________________________
ฮานะเตะเข้าไปหามิมิจากด้านหลัง และเมื่อมิมิหันหน้าไปหา เธอก็โจมตีกลับด้วยกรรไกรตัดผมขนาดใหญ่ แต่ก่อนที่ใบมีดจะมาถึง ฮานะก็ชักขาของตัวเองกลับแล้วก็ถอยหลังเพื่อกวาดดินขึ้นมาให้อีกฝ่ายมองไม่เห็น มิมิหลบม่านฝุ่นพร้อมกับพยายามจะวนไปทางขวา แต่ฮานะก็อยู่นอกระยะการโจมตีไปเรียบร้อยแล้ว
____________________________________________
“การเคลื่อนไหวของเธอเร็วจนตกใจเลย” แพมพูด “ชั้นเองจะบอกว่ามันมีเหตุผลนะ”
“เธอคอยระวังอาวุธของสไตล์เลอร์ มิมิไปพร้อมกับรักษาระยะห่างในตอนสู้ด้วย เธอไม่ได้เคลื่อนไหวแบบว่าตัวเองสนุกสนานกับการเตะต่อยเลยค่ะ แต่เหมือนกับว่าเป้าหมายของเธอคือการเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆแต่รวดเร็วและจับตาศัตรูมากกว่า เป็นคนประเภทที่หาได้ยากในโรงเรียนกวดวิชามาโอที่รวบรวมคนเสพติดการต่อสู้ค่ะ “
“ชั้นไม่คิดว่าเป็นการรวบรวมคน—”
“แต่มันก็เป็นความจริงที่ไม่มีคนประเภทเธอมากนักในโรงเรียนใช่ไหมคะ?”
“ก็…ใช่”
“ฉันคิดว่าเธอมีวิธีการต่อสู้แบบนี้เพราะว่าลักษณะงานของเธอค่ะ ผู้ปฎิบัติงานของหน่วยสืบสวนทำงานเพื่อจัดการกับอาชญากรรม และทีมบังคับใช้ที่ฮานะ เกโคคุโจเป็นสมาชิกอยู่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ค่ะ สำหรับพวกเธอแล้ว ความสำคัญอันดับแรกที่จับกุมศัตรูที่อยู่ตรงหน้า —อะไรก็ตามที่ทำให้จับกุมศัตรูได้สำเร็จ ต่อให้จะใช้วิธีที่ผิดกฏหรือไม่ยุติธรรมก็ตาม การปล่อยศัตรูหนีไปคือสิ่งที่ยอมรับไม่ได้เพราะมันจะนำไปสู่การก่ออาชญากรรมเพิ่มเติม —มันเป็นสถานการณ์ที่ต้องเลี่ยงให้ได้ค่ะ”
____________________________________________
มิมิเดาะลิ้นอย่างเงียบๆ เธอวนเป็นรูปพัดรอบตัวศัตรูพร้อมกับเตรียมกรรไกรและใบมีดโกนเอาไว้ ที่ๆมิมิหายตัวไปมีต้นไม้ใหญ่คั่นกลางอยู่ระหว่างพวกเธอ —มิเช่นนั้นเธอก็ต้องปรากฏตัวออกมาต่อหน้าฮานะ เกโคคุโจ
____________________________________________
“หายไปแล้ว?! สไตล์เลอร์ มิมิหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยที่ด้านหลังต้นไม้ค่ะ! นี่เธอหายไปไหนนะ…?”
“เธอใช้เวทมนตร์เพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์อย่างไร้ที่ติกับตัวเองน่ะ”
“หมายถึงไม่ใช่แค่เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นสำหรับชีวิตในเมือง แต่ยังสามารถพรางตัวในกิจกรรมกลางแจ้งได้ด้วยเหรอคะ…? แต่พรางตัว…. พรางตัว…? ไม่ใช่ว่านี่เป็นยิ่งกว่าการพรางตัวไปอีกเหรอคะ?”
“ก็เป็นเวทมนตร์นี่นะ”
“งั้นเหรอคะ เวทมนตร์… แบบนั้นนี่ก็คือวิธีการอำพรางเพื่อให้มองไม่เห็น แทบจะทำให้ตัวเองโปร่งใส ซึ่งมันก็จำเป็นต้องมีสัมผัสเฉพาะเพื่อไม่ให้ถูกหลอก อย่างหูที่ได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจ ไม่ก็ความสามารถในการรับรู้ความร้อนของร่างกาย ไม่ก็เวทมนตร์ที่ทำให้มองเห็นพลังชีวิต”
“ถูกต้อง”
“เอาล่ะค่ะ ทีนี้พวกเราจะเปลี่ยนกล้องให้เป็นโหมดอินฟาเรด อ๊ะ มิมิอยู่ตรงนั้นค่ะ”
____________________________________________
กล้องนั้นเปลี่ยนโหมดตามที่ผู้ประกาศพูด สไตล์เลอร์ มิมิที่พรางตัวอยู่เคลื่อนไหวผ่านด้านหน้าของพุ่มไม้ วนรอบเป็นวงกว้างเพื่อมุ่งหน้าไปหาฮานะ
“เธอยังคงก้มต่ำอยู่ค่ะ เพราะการพรางตัวของเธอมีลวดลายแบบพุ่มไม้งั้นเหรอ หือ?” แพมมี่พูด “เธอก้มต่ำในขณะที่เพ่งความสนใจไปยังจุดที่ฮานะ เกโคคุโจมองอยู่ค่ะ และยังเคลื่อนไหวเข้าไปยังพุ่มไม้ที่อยู่ด้านหลังอีกฝ่ายตลอดเวลาด้วย”
“เคลื่อนไหวเหมือนกับคนที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์ของตัวเองเลยนะ”
____________________________________________
สไตล์เลอร์ มิมิค่อยๆเคลื่อนตัวไปตามรากไม้ขนาดใหญ่อย่างช้าๆ เธอไม่ได้ทำพลาดอย่างเช่นการเหยียบกิ่งไม้หรือทิ้งรอยเท้าเอาไว้ในขณะค่อยๆย่นระยะห่างระหว่างตัวของเธอกับศัตรู พอมิมิเข้าไปใกล้ฮานะจนเหลืออีกไม่กี่ก้าว เธอก็ยกใบมีดโกนขึ้นเหนือหัว ฮานะเองก็เคลื่อนไหว ในตอนที่หันกลับมา เธอก้าวตรงๆเข้าไปหามิมิที่มองไม่เห็นพร้อมกับเตะต่ำ มิมิที่เงื้ออาวุธไว้เหนือหัวไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา และเธอก็โดนเตะเข้าไปที่ข้อเท้า จนท่าทางเปลี่ยนเป็นปวดร้าวและส่งเสียงร้องออกมาจากภายในลำคอ
“เธออ่านทางออกค่ะ! ฮานะ เกโคคุโจรู้ว่าเธออยู่ไหนและจะโจมตีมายังไงด้วย!”
“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ…”
“ตามที่เอกสารของฉันบอกไว้ เวทมนตร์ของเธอคือการทำให้ประสาทสัมผัสแหลมคมขึ้น เธอคงทำให้ประสาทสัมผัสอย่างการได้ยินหรือดมกลิ่นแหลมคมขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนหลอกด้วยการพรางตัวค่ะ เช่นเดียวกับตัวอย่างที่พวกเราพูดขึ้นมาก่อนหน้านี้”
“หืมมม”
“เตะต่ำนั่นก็ดูทรงพลังเหมือนกันนะคะ”
“ไม่ ชั้นไม่คิดว่าแข็งแกร่งอะไร… บางทีเธออาจจะใช้เวทมนตร์กับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน”
____________________________________________
การเตะต่ำมันดูเบามาก แต่มิมิตอบสนองราวกับว่าเธอโดนโจมตีอย่างรุนแรง
ฮานะเตะต่ำอีกครั้ง คราวนี้มิมิใช้หน้าแข้งกันเอาไว้ได้ แต่มิมิก็ยังคงกัดฟันราวกับเจ็บปวดเหมือนกับว่าจะล้มตัวลงได้ทุกเมื่อ มิมิถอยหลังกลับ แต่ฮานะก็ไม่ปล่อยให้เธอหนีไป เธอเดินหน้าพร้อมกับรักษาระยะห่างในตอนเคลื่อนไหวเพื่อจัดการมิมิ เตะต่ำ เตะต่ำ และหลังจากที่เน้นไปยังระยะประชิด เธอก็ออกไปยังระยะกลาง มิมิแทบจะรับมือคอมโบไม่ได้ เธอกันเอาไว้ด้วยเข่า จากนั้นก็แขน และทุกครั้งเธอก็ดูเจ็บปวดมากกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น
____________________________________________
“เวทมนตร์ที่ทำให้ประสาทสัมผัสแหลมคมขึ้นของเกโคคุโจ” แพมพูด “มันมีผลสำหรับตัวเธออย่างเดียวงั้นเหรอ?”
“หมายความว่ายังไงคะ?” แพมมี่ถาม
“หากเวทมนตร์ของเธอสามารถใช้กับคนอื่นได้ แบบนั้นการตอบสนองของมิมิก็จะสมเหตุสมผล ฮานะเชี่ยวชาญการโจมตีแบบรวดเร็วและแม่นยำและมันก็ดูเหมือนว่าไม่ได้จงใจสร้างความเสียหาย เป็นเพียงแค่การสัมผัสเท่านั้น เมื่อเธอสัมผัสอีกฝ่าย เธอก็จะทำให้สัมผัสความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกทรมาณ”
“ทำให้สัมผัสความเจ็บปวดของคู่ต่อสู้รุนแรงขึ้น… ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอคะ?”
“เหมือนว่าเวทมนตร์ของเธอจะปรับใช้ได้เยอะกว่าที่คิดนะ”
____________________________________________
มิมิโปรยใบมีดโกนไปด้านหน้า ใบมีดนั้นลอยอยู่ในอากาศระหว่างเด็กสาวทั้งสอง มันส่องประกายภายใต้แสงจันทร์และดวงดาว และก่อนที่จะร่วงลงถึงพื้น มิมิก็วิ่งไปในทิศตรงข้าม หลังจากที่ใบมีดร่วงลงมาแล้ว ฮานะก็ตามเธอไป
____________________________________________
“เกโคคุโจเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วว่องไว” แพมมี่พูด “มันเลยยากที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีของเธอที่ตั้งใจจะสัมผัสอีกฝ่ายใช่ไหมคะ? คำตอบที่ถูกต้องอาจจะเป็นการไม่ปล่อยให้เธอโจมตีตั้งแต่แรก ด้วยการโยนใบมีดโกนออกไปทั่วบริเวณ สไตล์เลอร์ มิมิก็เลยขัดขวางการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ได้ค่ะ”
“หากเธอทำให้พื้นที่บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยใบมีด อีกฝ่ายก็จะตามมาไม่ได้ ซึ่งทำให้เธอซื้อเวลากับระยะห่างได้”
“เวลากับระยะห่างเหรอคะ?”
“ดูเหมือนเกโคคุโจจะใช้เวทมนตร์จากระยะไกลไม่ได้ ระยะหวังผลคงจำกัด จากที่เข้าปะทะกันเมื่อครู่ มิมิก็คงรู้ตัวแล้ว”
____________________________________________
มิมิใช้มือสองข้างดึงขวดแก้วออกมา จากนั้นก็สาดสิ่งที่อยู่ข้างในออกไปหาศัตรู สิ่งนั้นมันคือขวดน้ำหอม
____________________________________________
“ให้กลิ่นติดตัวอีกฝ่าย?” แพมมี่พึมพำ “ไมสิ แบบนี้คือการทำให้อีกฝ่ายรับกลิ่นไม่ได้?”
“บางทีเหตุผลที่การพรางตัวใช้ไม่ได้ผลก็คือกลิ่นของคู่ต่อสู้”
“ทำแบบนั้นมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอคะ? ทำไมถึงคิดว่ากลิ่นเป็นเรื่องสำคัญล่ะ? หูของฮานะ เกโคคุโจก็เห็นกันอยู่ชัดๆ โดยธรรมชาติแล้วมันต้องเป็นการได้ยินไม่ใช่เหรอคะ?”
“ก็จริงที่เธอดูเป็นแบบนั้น…”
____________________________________________
มิมิรีบวิ่งเข้าไปในพุ่มไม้พร้อมกับใช้เวทมนตร์เพื่อพรางตัวให้หายไป ฮานะนั้นไล่ตามหลังเธอมา หูกระต่ายของเธอขยับเล็กน้อย มันบ่งบอกว่าเธอจับตำแหน่งของศัตรูได้ยังไง
____________________________________________
“หนีไม่ได้หรอก” แพมพูด “การวิ่งเข้าไปในพุ่มไม้ มันหลีกเลี่ยงการสร้างเสียงไม่ได้”
“แบบนี้ก็หมายความว่าไล่ตามไปมันก็ง่ายใช่ไหมคะ? เหมือนว่าฮานะ เกโคคุโจใกล้จะจับได้แล้วด้วย”
____________________________________________
ในตอนที่เข้าใกล้เป้าหมายเรื่อยๆ ฮานะก็วิ่งผ่านต้นไม้ไป แต่ในตอนที่เธอจะกระโดดข้ามก้อนหิน ท่าทางของเธอก็บิดเบี้ยวด้วยความตกใจ
ด้านหลังก้อนหิน มีกรรไกรตัดผมเจ็ดเล่มถูกแทงลงไปที่พื้นและหันด้านใบมีดขึ้นด้านบน
____________________________________________
“กับดักค่ะ! เธอใช้กรรไกรวางกับดักเอาไว้ค่ะ!” แพมมี่ร้องออกมา
“ใช้ได้” แพมพูดเสริม
____________________________________________
ฮานะบิดตัวขึ้นไปในอากาศ ดึงสายคาดเอวกิโมโนออกมาจากกระเป๋าแขนเสื้อเพื่อเกี่ยวไว้เหนือก้อนหิน จากนั้นก็ใช้สายยืดสำหรับทรงตัวในการกระโดดครั้งที่สอง ตลอดเวลาเธอไม่ได้ละทิ้งเรื่องศัตรูออกไปจากหัว เมื่อใบมีดโกนสามใบพุ่งเข้ามาหา เธอก็จับไว้ระหว่างนิ้วมือทั้งสองข้าง จากนั้นเธอก็ลงมาแบบไร้เสียงและทำการไล่ตามต่อไป
ที่หน้าผากของฮานะมีเหงื่อไหลออกมา ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้คาดคิดเรื่องที่ศัตรูจะวางกับดักระหว่างที่กำลังพรางตัวล่องหนอยู่
____________________________________________
“ฮานะ เกโคคุโจหลบกับดักได้อย่างสวยงามเลยค่า!” แพมมี่ร้อง
“เกโคคุโจเป็นคนประเภทที่เด่นเรื่องความเร็วมากกว่าความแข็งแกร่งของร่างกาย ถึงเธอจะเคลื่อนไหวไม่ได้แบบเต็มร้อย แต่ถ้าเกิดการบาดเจ็บขึ้นมามันจะทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเธอลดลงครึ่งหนึ่ง หรืออาจจะแย่กว่านั้นอีก”
“แบบนี้ก็ด้วยใช่ไหมคะ?”
“ชั้นเข้าใจสิ่งที่มิมิทำอยู่ในตอนนี้นะ เธอกำลังทำให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกเจอตัวเพราะกลิ่น”
“หมายความยังไงเหรอคะ ที่ว่าทำให้แน่ใจ?”
“เกโคคุโจมองเห็นการพรางตัวของเธอและยังสามารถทำให้มิมิเจ็บปวดอย่างรุนแรงในแบบที่ปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้ จากสองเรื่องนี้ เธอก็รู้ว่าเวทมนตร์เกโคคุโจอาจจะเป็นการเพิ่มสัมผัสใดๆให้รุนแรงขึ้น ด้วยเหตุนี้เธอจึงสาดน้ำหอมใส่อีกฝ่ายเพื่อสร้างสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำให้ตรวจจับด้วยกลิ่นได้ขึ้นมา”
“งี้นี่เอง! ถ้าฮานะ เกโคคุโจใช้การได้ยินเพียงอย่างเดียว เธอก็จะตรวจจับกับดักไม่ได้ แต่ด้วยกลิ่นแล้ว เธออาจจะได้กลิ่นของโลหะและรู้ว่ามีกับดักอยู่ตรงนั้น”
“แต่เธอก็ฝ่ากับดักมาได้ ทีนี้มิมิก็ลำบากแล้วล่ะ”
____________________________________________
มิมิวิ่งผ่านพุ่มไม้จนออกมายังพื้นที่โล่ง ณ จุดนี้ฮานะก้าวไปด้านข้างก่อนที่จะทำการไล่ตามต่อ
____________________________________________
“ฮานะ เกโคคุโจไม่เคลื่อนไหวแปลกไปหน่อยเหรอคะ?”
“เธอหลบเลี่ยงต้นไม้น่ะ”
“ต้นไม้? ดูเหมือนว่าเธอก้าวออกไปด้านข้างในที่ที่ไม่มีอะไรดวยล่ะค่ะ”
“ในตอนที่มิมิเคลื่อนไหว เธอใช้เวทมนตร์กับต้นไม้เพื่ออำพรางด้วย”
“หมายถึงต้นไม้ด้านหน้าฮานะ เกโคคุโจถูกอำพรางไว้งั้นเหรอคะ? และถ้าเธอยังวิ่งตรงต่อไป เธอก็จะชนเข้า? แต่เมคอัพมันใช้กับต้นไม้ได้ด้วยเหรอคะ?”
“เวทมนตร์ของเธอใช้กับสิ่งมีชีวิตชนิดไหนก็ได้”
“งี้นี่เอง! น่าประทับใจนะคะที่ฮานะ เกโคคุโจหลบได้”
“เพราะกับดักก่อนหน้านี้ทำให้เธอเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น บางทีอาจจะมาจากเสียงสะท้อน… ชั้นเองก็ไม่แน่ใจหรอก แต่เธอคงใช้สัมผัสบางอย่างเพื่อเลี่ยงมันได้”
____________________________________________
กับดักที่มิมิวางไว้อย่างระมัดระวังนั้นมีประโยชน์แค่ทำให้คู่ต่อสู้ของเธอช้าลงเล็กน้อยเท่านั้น มาโอแพมมั่นใจว่าฮานะ เกโคคุโจนั้นแข็งแกร่ง มันก็ยุติธรรมดีที่จะบอกว่าทางหน่วยสืบสวนประเมินได้ถูกต้องและส่งเธอมายังงานออกกำลังครั้งนี้ ค่าความสามารถของเธอสูงในทุกๆด้าน ทั้งความสามารถทางกายภาพ ประสบการณ์การต่อสู้ ไหวพริบ และเวทมนตร์ที่ทรงพลัง
กล้องขยับตามเพื่อจับภาพตามเมจิคัลเกิร์ลทั้งสอง พวกเธอหาตัวมิมิไม่พบแต่ไม่นานก็เจอตัวของเธออีกครั้ง เธอยืนอยู่ในท่าเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับผู้ไล่ล่า มันเกือบอยู่ตรงหน้าเส้นสีแดงที่ระบุว่าพื้นที่จากนี้คืออยู่นอกขอบเขต หากข้ามเส้นนี้ไปห้าวินาทีก็จะถูกตัดสิทธิ์ทันที ธงทั้งหมดเองก็จะถูกริบ
____________________________________________
“สไตล์เลอร์ มิมิจนมุมแล้วค่ะ!”
“เธอหนีต่อไปไม่ได้แล้ว”
“เหมือนกระต่ายถูกหมาป่าล่าที่จนมุมที่หน้าผาแบบไม่มีทางหนีเลยค่ะ! แต่ในคราวนี้กระต่ายกลับเป็นผู้ล่าซะเอง!”
มิมิพุ่งเข้าหาฮานะพร้อมกับขว้างใบมีดโกนและกรรไกร แม้ฮานะจะสามารถหลบหรือปัดมันออกได้ แต่มิมิก็สามารถสลับต่ำแหน่งของพวกมันได้ ทั้งสองคนวิ่งไปตามเส้นแบ่งเขต โจมตีใส่กันและหลบซ้ำไปซ้ำมาพร้อมกับวิ่งไปอย่างเต็มกำลัง ในระหว่างนั้นมิมิก็ก้าวไปด้านข้างและขว้างกรรไกร และฮานะก็หลบได้อย่างสบายๆ มือของมิมิโปรยใบมีดออกมาแบบไม่หยุด โรยผงย้อมสีเหมือนกับม่านควัน เธอใช้ไอเท็มพิเศษทุกอย่างที่มีเพื่อกันไม่ให้คู่ต่อสู้เข้ามาใกล้ แต่ฮานะก็หลบมันได้ทั้งหมดด้วยการใช้เท้าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
ในพวกเธอยังคงต่อสู้ที่แนวเส้นแบ่งเขต พวกเธอก็เคลื่อนตัวลงมาราวห้าร้อยเมตรก่อนที่จะหันกลับไปอีกทาง เหวี่ยงใบมีด เตะ แลกหมัด แล้วก็กลับไปยังตำแหน่งเดิม มิมิเคลื่อนตัวออกห่างจากเส้นแบ่งเขต ในตอนที่เธอหันกลับเข้าไปในป่า เธอก็เงื้อกรรไกรกับใบมีดโกนขึ้นแล้วก็หยุด
ฮานะย่อตัวลงโดยหันหลังให้กับเส้นแบ่งเขต ในตอนนี้ฮานะอาจจะพยายามเข้ามาหา แต่ก่อนที่ฮานะจะทันได้ขยับตัว มิมิก็ขว้างอาวุธของเธอทิ้งและกางแขนออก ยกมันขึ้นให้อยู่ในระดับสายตา
ฮานะหรี่ตาลงพร้อมกับถอยด้วยการกระโดดกลับ ท่าทางหรือการเคลื่อนไหวของเธอไม่ได้แสดงออกถึงความประมาทใดๆ เธอดูท่าทีของมิมิและตั้งท่าเตรียมพร้อมอยู่ด้านหน้าเส้นแบ่งเขตครึ่งก้าว
มือของมิมิยังคงกางออกในตอนที่พูดกับฮานะ “ถ้า…ฉันเสนอว่า…จะยอมเอาธงครึ่งนึงให้เธอ…เธอจะว่าไง?”
____________________________________________
“ยอมจำนน…นี่เธอยอมแพ้งั้นเหรอคะ? พอดูการต่อสู้มาถึงตอนนี้แล้ว มันก็จริง… ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่มิมิจะชนะเลยด้วยค่ะ”
“หืมม”
“อืม แต่ว่า…แบบนี้มันน่าแปลกใจจังค่ะ ดังนั้นการยื่นข้อเสนอเองก็เป็นทางเลือกสินะคะ?”
“ใช่แล้ว”
“ถ้ายังอยู่ในเกมมันก็ยังคงมีโอกาส แต่ถ้าตกรอบไปแล้วมันก็จะไม่มีเลย พวกเราคิดว่านี่เป็นจุดยืนของสไตล์เลอร์ มิมิที่คิดว่าเสียธงไปยังดีกว่าตกรอบได้สินะคะ?”
“ถูกต้อง”
“จากที่ฮานะ เกโคคุโจเห็น แม้เธอจะจัดการสไตล์เลอร์ มิมิไป แต่อีกฝ่ายอาจจะขัดขืน จนเธอก็อาจจะบาดเจ็บขึ้นมาได้ แล้วงานออกกำลังเซอร์ไววัลนี้ก็เป็นเกมแบบยาว การบาดเจ็บมันก็เทียบเท่าได้กับความพ่ายแพ้ —ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องดีสำหรับทั้งสองฝ่าย แม้ว่ามันจะไม่ได้น่าตื่นเต้นสำหรับรายการเลยก็เถอะค่ะ”
“จังหวะแห่งชัยชนะนั้นสำคัญ แต่สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งก็คือการที่สามารถอยู่ได้จนถึงท้ายที่สุด การรู้ถึงกระทำที่หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บเองก็เป็นหัวใจในงานออกกำลังเซอร์ไววัลครั้งนี้ด้วย”
“แล้วแครนเบอร์รี่กับมาริกะ ฟุคุโรอิที่ใส่กันแบบเต็มที่ตั้งแต่เริ่ม —เรื่องนี้ล่ะคะ?”
“สองคนนั้นเป็นกรณีพิเศษ ไม่ควรเลียนแบบนะ”
____________________________________________
มุมปากของฮานะม้วนขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจความตั้งใจของคู่ต่อสู้ ท่าทางของเธอผ่อนคลายลงแล้วก็ยักไหล่ “ถ้าคุณจะให้ล่ะก็ ดิฉันคิดว่าถ้าเอามาทั้งหมดมันคงจะดีกว่าค่ะ”
“อ่า งั้นเหรอ ก็นะ ฉันเองไม่ได้ถือธงอะไรอยู่แล้ว”
รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของฮานะ และเธอก็มองมิมิอย่างสงสัย มิมิปรบมือเข้าหากันและพึมพำว่า “ตั้งแต่นี้ไปฉันจะคลายเวทมนตร์”
ท่าทางของฮานะเปลี่ยนจากสงสัยเป็นตกใจ แนวเส้นแบ่งเขตมันเปลี่ยนไปแล้ว เส้นที่ควรจะอยู่ห่างจากด้านหลังฮานะครึ่งก้าว ในตอนนี้มันกลายเป็นอยู่ด้านหน้าของฮานะห่างออกไปหนึ่งเมตร พูดอีกอย่างก็คือ ในตอนนี้ฮานะออกนอกเขตไปเรียบร้อยแล้ว
____________________________________________
“เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย?! ตำแหน่งของเส้นมันเปลี่ยนไปแล้ว!”
“อ่าา… เธอจัดการเกโคคุโจได้แล้วสิ”
“หมายความว่ายังไงคะ?”
“สไตล์เลอร์มิมิสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ด้วยเวทมนตร์ของเธอ ความสามารถไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่มนุษย์หรือเมจิคัลเกิร์ล เธอสามารถใช้เวทมนตร์เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของอะไรก็ได้ ไม่ได้ว่าจะเป็นต้นไม้ ดอกไม้ …หรือว่าหญ้าที่มีเส้นวาดเอาไว้”
“เข้าใจแล้วค่ะ! เธอลบเส้นที่มีอยู่เดิมออก จากนั้นปลอมเส้นใหม่ขึ้นมาให้เหมือนของจริงสินะคะ? แล้วเส้นที่เธอปลอมเอาไว้ก็อยู่ห่างออกไปจากเส้นจริง… ดังนั้นฮานะ เกโคคุโจจึงไม่รู้ตัวเลยว่าออกนอกเขตไปเรียบร้อยแล้ว”
“ด้วยการที่ใช้กับดักก่อนหน้านี้ มันทำให้เธอมีระยะห่างจากเกโคคุโจในตอนไล่ล่า ขณะเดียวกันเธอก็ใช้เวทมนตร์กับเส้นแบ่งเขตเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งด้วย”
“แล้วตอนที่ยอมจำนนเองก็เป็นแผนใช่ไหมคะ? ในการต่อสู้ของเมจิคัลเกิร์ล ห้าวินาทีนั้นเป็นเวลาที่นาน นานมากๆ เหมือนกับชั่วนิรันดร์ —ดังนั้นเธอจึงให้คู่ต่อสู้ไปอยู่ในจุดที่ถูกต้องก่อนที่จะทำการยื่นข้อเสนอ เพราะแบบนั้นเธอจึงได้วินาทีอันมีค่ามา”
____________________________________________
สไตล์เลอร์ มิมิสูดจมูกอย่างพึงพอใจและมองไปที่ฮานะ แพมจะไม่พูดว่าเป็นเพราะอิทธิพลของมาริกะ แต่มิมิไม่เคยแสดงท่าทีสุภาพกับคนที่เพิ่งพบหน้า เธอนั้นหยิ่งราวกับจะบอกว่า “ฉันแข็งแกร่งกว่า ดังนั้นจึงสำคัญกว่า” มาโอแพมคิดว่าหากเธอแพ้ใครบางคนแบบหมดรูป เธออาจจะสุภาพขึ้นมาก็ได้ แต่มิมิมาไกลได้ถึงขนาดนี้โดยไม่รู้สึกถึงความสูญเสียเลย เธอแค่แข็งแกร่งเพียงเท่านั้น
ท่าทางของฮานะเปลี่ยนจากตกใจเป็น “อ่า แย่จัง” พร้อมกับหูกระต่ายของเธอที่ห้อยลงมาและเกาหัว “อ่า… แพ้ซะแล้วสิ จะจำไว้เป็นบทเรียนนะคะ” จากนั้นเธอก็ก้มศีรษะลงอย่างอ่อนน้อม
มิมิพูดว่า “อ๊ะ ไม่…ขอบคุณมากเลย” ด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่ จากนั้นเธอก็หันหลังกลับและวิ่งออกไป
เธอแสดงท่าทีสุภาพออกมาเล็กน้อย แม้มันจะดูหยิ่ง หากเป็นแบบนี้ เธอคงเข้าสังคมได้ดีกว่ามาริกะ
____________________________________________
“นี่เองก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับมิมิเหมือนกัน” แพมพูด
“อย่างนั้นเหรอคะ? มันดูเหมือนว่าเธอเอาชนะได้แบบสวยงามด้วยนี่นา”
“เมื่อผู้เข้าแข่งขันตกรอบเพราะออกนอกพื้นที่ ธงของพวกเธอก็จะโดนยึด”
“ถึงสไตล์เลอร์ มิมิจะเป็นคนที่บังคับให้ฮานะ เกโคคุโจออกนอกพื้นที่ไป แต่ตามกฎแล้วเธอเป็นคนที่ทำให้ตัวเองตกรอบสินะคะ… และต่อให้สไตล์เลอร์ มิมิชนะ เธอก็จะไม่ได้ธงอยู่ดี “
“หืมม”
“หลังจากที่พยายามตั้งขนาดนั้นแต่กลับไม่ได้ธงมา… อืมม มันดูเหมือนไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือฮานะ เกโคคุโจมีธงอยู่มากพอที่จะชิงตำแหน่งสูงสุดได้ อ่าาา แย่จังเลยค่ะ อดไม่ได้เลยที่ดูสไตล์เลอร์ มิมิวิ่งออกไปแล้วจะรู้สึกแบบนี้ แถมยังสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจมากกว่าความดีใจที่เอาชนะศัตรูได้อีกด้วยค่ะ”
กล้องซูมเข้าไปที่ฮานะ เกโคคุโจ คนที่ถูกทิ้งอยู่ด้วยหลัง หลังจากที่เสียรู้เพราะเหยื่อของตัวเองที่อยู่ห่างออกไปเพียงแค่ก้าวเดียว เธอที่หมดสิทธิ์เพราะกฏกลับดูสดชื่นอย่างน่าประหลาด เธอพึมพำอะไรบางอย่างในตอนที่ขยับนิ้วชี้มือขวาไปทางขวา ซ้าย ขึ้นและลง แล้วก็เดินออกจากพื้นที่ไป
เธอคงคิดย้อนกลับไปในตอนที่สู้กับมิมิและทุกเรื่องที่พามาถึงตอนนี้ —คิดว่าตัวเองทำอะไรไปบ้างและดีที่สุดแล้วหรือยัง เพราะบางทีอาจมีทางอื่นนอกจากนี้ก็ได้ เธอเหมือนกับผู้มีประสบการณ์ที่ผ่านการต่อสู้มาแล้ว แต่อีกด้านหนึ่งก็เหมือนกับนักสู้หน้าใหม่
มาโอแพมมองดูเธอแล้วก็คิดว่ายังมีจุดหนึ่งที่เธอสามารถเติบโตได้อีก
____________________________________________
มาโอแพมอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว เธอกำลังออกความเห็นด้วยท่าทางที่ตัวเองพึงพอใจ ถ้าฉันยื่นมือออกไป ฉันก็จะสัมผัสตัวของเธอได้
แต่ยังหรอก โอกาสของฉัน จังหวะที่ฉันจะลงมือมันไม่ใช่ตอนนี้ ฉันเก่งเรื่องการรอ ครั้งหนึ่งฉันเคยรออยู่สามวันใต้กองใบไม้แฉะๆที่ร่วงลงมาโดยไม่ขยับกล้ามเนื้อเลยซักนิด งานนั้นมันจำเป็นต้องอดทน สำหรับงานนี้ฉันก็จำเป็นต้องอดทนกว่าเดิม
ปีกทั้งสองของมาโอแพมบินออกไปแล้วและยังไม่ได้กลับมาด้วย ปีกพวกนั้นคือแหล่งกำเนิดพลังของเธอ ตราบใดที่มีมันอยู่ เธอก็สามารถใช้พลังในฐานะ “เมจิคัลเกิร์ลแห่งการทำลายล้าง” ได้ ฉันไม่คิดว่าเธอจะอ่อนแอเมื่อไม่มันอยู่หรอก ไม่จำเป็นต้องคิดเลยว่าเธอเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ
ฉันคือมืออาชีพ ดังนั้นฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองการ์ดตก ฉันไม่ได้รู้สึกภูมิใจอะไรแต่ก็ไม่ได้กลัวเช่นกัน ฉันเข้าใจความแข็งแกร่งของศัตรูดีเช่นเดียวกับความแข็งแกร่งของตัวเอง ในตอนนี้ก็แค่รอจังหวะที่ฉันจะเอาชนะได้เท่านั้น
____________________________________________
เวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงหลังจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เสียงของแมลง เสียงของลม เสียงกรีดร้องของเมจิคัลเกิร์ล และเสียงของการทำลายล้างดังขึ้นไปทั่วบริเวณ งานออกกำลังผ่านมาครึ่งทางแล้วและกำลังเคลื่อนเข้าสู่ครึ่งหลัง จำนวนของผู้เข้าร่วมลดลงเหลือหนึ่งในสี่ ธงเองก็ถูกรวบรวมอยู่ในไม่กี่ที่ เพราะว่าคนหนึ่งคนสามารถมีธงได้หลายผืน หากเด็กสาวคนหนึ่งจัดการอีกคนหนึ่ง มันก็จะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะขึ้นไปอยู่อันดับต้นๆได้
____________________________________________
“ตามข้อมูลของปีก่อนๆ” แพมมี่พูด “นี่คือจุดที่การต่อสู้จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นค่ะ และยังบอกอีกว่าเป็นช่วงของเมจิคัลเกิร์ลประเภทที่รอจนวินาทีสุดท้ายจะเข้าร่วมต่อสู้เมื่อธงถูกรวบรวมมาแล้วด้วย เมื่อคนประเภทนี้ขยับตัว… จะเรียกได้ว่าเหมือนไฮยีน่าไหมคะ?”
“นั่นไม่จริงหรอก”
“ถ้าแบบนั้น จริงๆแล้ว…ในมุมมองของมาโอแพม ต้องการให้พวกเธอเลี่ยงการ เอ่อ… นี่ฉันจะพูดยังไงดีนะ… วิธีที่มันเจ้าเล่ห์ไหมคะ?”
“ชั้นโทษพวกนั้นที่ปรับเปลี่ยนวิธีการไม่ได้หรอก อะไรก็ตามที่กฎอนุญาตเพื่อให้ได้ชัยชนะมันสามารถทำได้”
“แต่สุดท้ายแล้วนี่ก็คืองานออกกำลังใช่ไหมคะ? ไม่ใช่ว่าปกติงานมันควรจะจัดขึ้นเพื่อค้นหาจุดอ่อนของตัวเองและใช้เนื้องานเพื่อพัฒนาตัวเองเหรอคะ? มันเป็นอีเวนท์เพื่อการศึกษาใช่ไหมคะ? แล้วปัญหาก็คือ พวกเธอจะบรรลุเป้าหมายได้มากแค่ไหนในเมื่อพวกเธอไม่ได้เปลี่ยนแผนการของตัวเอง?”
“คิดว่านะ”
____________________________________________
ที่จริงแล้วมาโอแพมนั้นได้มอบคำสั่งที่เข้มงวดกับคนในโรงเรียนกวดวิชามาโอเพื่อหลีกเลี่ยงการนำความขายหน้ามาสู่โรงเรียนในการต่อสู้ แต่เนื่องจากว่าเธอไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับแขก เธอจึงไม่สามารถบังคับให้แขกรับรู้เรื่องกฏที่ไม่ได้มีเขียนเอาไว้ ดังนั้นหากพวกเธอรอซุ่มโจมตีในโอกาสสุดท้าย ทั้งหมดมันก็ขึ้นอยู่กับแขกแล้ว
“แบบนี้ก็หมายความว่าอยากให้สู้กันซึ่งหน้าเหรอคะ?” แพมมี่ถามเธอ “แถมคุณเองก็ไม่ได้ชื่นชอบการจับทีมสู้ด้วยใช่ไหมคะ?”
“เรื่องสร้างทีมไม่มีปัญหาหรอก การผสานเวทมนตร์ของเมจิคัลเกิร์ลหลายคนเข้าด้วยกันมันจะทำให้พลังเพิ่มมากขึ้นเป็นสิบ ร้อย หรือพันเท่าเลยล่ะ”
“อ๊ะ คุณพูดถึงเรื่องจัดทีมสินะคะ? ถ้างั้น ถ้าจะให้พูดแล้ว สิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการจัดทีมมันจะสามารถสร้างปัญหาได้รึเปล่าคะ?”
“…เรื่องนี้ไม่มีความเห็น”
จากนั้นภาพก็สลับไปยังเมจิคัลเกิร์ลที่กำลังเตะต้นไม้เพื่อให้เคลื่อนไหวไปด้านหน้าได้
____________________________________________
“อ๊ะ!” มาโอแพมร้อง
“เธอมาจากโรงเรียนกวดวิชามาโอเหรอคะ?”
“เปล่า ไม่ใช่หรอก”
“แต่จากท่าทางเมื่อกี๊ ดูเหมือนจะรู้จักกันเลยนะคะ”
“เธอทำงานให้กรมการต่างประเทศน่ะ”
“อ๊ะ งี้นี่เอง เพื่อนร่วมงานสินะคะ”
____________________________________________
“…ใช่ เพื่อนร่วมงาน”
หลังจากที่คิดอยู่ว่าจะอธิบายความสัมพันธ์ของตัวเองกับเลดี้พราวยังไง แพมก็คิดว่า “เพื่อนร่วมงาน” แต่จริงๆแล้วเธอเป็นเพื่อนมากกว่าที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานซะอีก หรืออย่างน้อยแพมก็คิดแบบนั้น
มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทัดเทียมกับมาโอแพม ทุกคนที่โรงเรียนกวดวิชามาโอก็คือลูกศิษย์ของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบทัดเทียมกัน แม้จะเป็นที่กรมเอง —ตั้งแต่เริ่มจัดอันดับความสำคัญของผู้ที่จบการศึกษาเพื่อจ้างงาน มันก็เลยกลายเป็นว่าไม่มีคนอื่นเลยนอกจากลูกศิษย์ของแพมเอง ดังนั้นมันจึงไม่มีความสัมพันธ์ที่ทัดเทียมกับเธอไปด้วย
ไม่มีใครอายุเท่ากันกับแพมที่ยังอยู่ในงานของเมจิคัลเกิร์ล เรื่องอายุเท่ากันนั้นไม่ต้องพูดถึง —เพราะว่าแม้อายุจะน้อยกว่าห้าปีก็ยังไม่มีเลย จึงไม่แปลกที่มาริกะ ฟุคุโรอิปฎิบัติกับเธอเหมือนกับหญิงชรา
แต่ถึงทางกรมการต่างประเทศจะเป็นยังไง มันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมาจากโรงเรียนกวดวิชามาโอ และถ้าไม่ได้มาจากโรงเรียน แบบนั้นเธอก็จะสามารถร่วมมือกันได้อย่างทัดเทียม
“ตามเอกสารที่ฉันมี” แพมมี่พูด “เธอชื่อเลดี้พราว เวทมนตร์ของเธอคือการเปลี่ยนเลือดตัวเองให้กลายเป็นของเหลวชนิดใดก็ได้ค่ะ เธอทำงานเป็นหัวหน้าหน่วยที่กรมการต่างประเทศ และยังได้การยืนยันจากมาโอแพมอีกว่าทำงานได้ดี เธอไม่ได้เก่งแค่เรื่องต่อสู้ แถมเมื่อเทียบกับเมจิคัลเกิร์ลที่อุทิศตัวให้กับการต่อสู้แล้ว ทักษะในการร่วมมือกับผู้อื่นตอนเป็นหัวหน้าหน่วยก็หาคนเทียบได้ยาก นี่คือคำชมใช่ไหมคะ? สมกับเป็นกรมการต่างประเทศจริงๆค่ะ เรียกได้ว่าเป็นผู้นำของพรสวรรค์ ที่ๆกลุ่มหัวกะทิมารวมตัวกันค่ะ!”
“ไม่ใช่มีแค่พวกหัวกะทิมารวมตัวกันหรอก”
“แล้วในตอนนี้ เธอมีธง…อยู่หนึ่งผืน?”
“หนึ่ง? น่าแปลกนะ”
“บางทีอาจจะนับผิดก็ได้ค่ะ”
“ไม่มีทางนับผิดรอก ปอน” ฟาฟพูดแทรก
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ เอ่อ เหมือนว่าจะไม่ได้นับผิดนะคะ” แพมมี่ยืนยันคำพูด “แล้วแบบนี้มันหมายความว่ายังไงคะ? นี่เลดี้พราวเพิ่งจะเริ่มลงมือ? เหมือนกับพวกไฮยีน่า?”
“ไม่หรอก เธอและทุกๆคนไม่มีวันทำแบบนั้นแน่”
มาโอแพมรู้จักท่าทีของเลดี้พราวดี
ครั้งหนึ่ง ทั้งคู่เคยเดินทางไปด้วยกันเพื่อตรวจสอบการฝึกงานเบื้องต้น หลังจากที่นั่งรสบัสของพลเรือนเพื่อไปยังโรงฝึกที่เป็นปลายทาง พวกเธอก็พักค้างคืนด้วยกันหนึ่งคืน พวกเธอดื่มแอลกอฮอล์ที่สร้างมาจากเลือดของเลดี้พราวด้วยกันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานะของทางกรมเช่นเดียวกับชีวิตในฐานะเมจิคัลเกิร์ล แพมคิดว่าโดยปกติแล้วเลดี้พราวจะเป็นคนปากแข็งและจริงจังมาก แต่เมื่อเธอเมา —เนื่องจากว่าแอลกอฮอล์ที่สร้างมาจากเลือดของเธอนั้นเป็นเวทมนตร์โดยธรรมชาติ มันก็เลยมีผลกับเมจิคัลเกิร์ลที่ปกติแล้วสามารถต้านทานพิษได้— เธอก็พูดมากอย่างน่าประหลาด แก้มของเธอกลายเป็นสีชมพูในตอนที่บ่นเรื่องความไม่พอใจเกี่ยวกับทางกรมการต่างประเทศออกมา ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังประกาศว่าซักวันนึงเธอจะเอาชนะมาโอแพมและยืนอยู่บนจุดสูงสุดของกรมการต่างประเทศให้ได้ มาโอแพมไม่เคยพบเคยเห็นเมจิคัลเกิร์ลแบบนี้ต่อหน้ามาก่อนเลยแม้แต่คนเดียว
แม้แต่ในตอนนี้ บางครั้งมาโอแพมก็ยังนึกย้อนไปถึงตอนนั้น มันเป็นเรื่องสนุก อาจจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่การทัศนศึกษาในสมัยที่เธอยังเป็นนักเรียนที่ได้สนุกสนานไปกับการเดินทาง
วันต่อมา เลดี้พราวก็กลับไปเป็นคนที่มีท่าทีสุภาพตามเดิม เธอสามารถปิดเปิดโหมดเมจิคัลเกิร์ลของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ในแบบที่ทำให้มาโอแพมจะรู้สึกโปรดปรานเธอมากยิ่งขึ้น
____________________________________________
ในวันนี้ เลดี้พราวแปลกไปจากเดิม แต่โหมดของเธอดูเหมือนว่าจะเปิดอยู่ เธอเดินผ่านป่าด้วยท่าทางที่งดงาม เธอเหยียบลงไปที่ตอไม้แล้วก็ทำลายมัน เธอเตะเข้าไปที่ก้อนหินจนแตกออก ทั้งยังฉีกรากไม้ใหญ่ที่ชอนไชลงไปลึกและพันกัน หากมีต้นไม่ใหญ่ขวางทางเธอ เธอก็จะต่อยมันจนล้มด้วยการแกว่งแขน เธอทำเช่นนี้กับอุปสรรคทุกอย่างที่ขวางทาง
ราวกับว่าเธอกำลังทำให้เกิดเสียงดังในตอนที่เคลื่อนไหว ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่มักจะพยายามหลีกเลี่ยงการทำตัวเด่นในงานออกกำลังเซอร์ไววัลนี้เพราะมันอาจดึงดูดศัตรูมายังจุดที่ตัวเองอยู่ได้ ศัตรูนั้นกำลังไล่ตามมาเรื่อยๆเพราะรู้ตำแหน่งของเธอว่าอยู่ที่ไหน ในขณะที่เธอกลับไม่รู้ถึงตำแหน่งของอีกฝ่าย ซึ่งนี่จะทำให้เกิดความกดดันอย่างมากแม้จะเป็นนักรบที่แข็งแกร่งก็ตามที
“ศัตรูมาแล้วค่ะ!” แพมมี่พูด
“มากันเยอะเลยนะ หืมม?” แพมออกความเห็น
____________________________________________
แน่นอนว่าการโจมตีถูกพุ่งเป้าไปที่เลดี้พราว
เมจิคัลเกิร์ลที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้พยายามซุ่มโจมตีเลดี้พราวในตอนที่เธอเดินผ่านด้วยการเตะลงมา ในขณะที่เมจิคัลเกิร์ลที่ใช้ใบไม้ซ่อนตัวก็กระโจนลงมาจากด้านบนจนกิ่งไม้ที่เป็นแท่นเหยียบเหวี่ยงไปมาในอากาศ —หนึ่งคนด้วยการเตะคู่ หนึ่งคนด้วยการต่อย หนึ่งคนด้วยการเตะ และอีกหนึ่งคนด้วยการขว้าง แต่ท่าทางเลดี้พราวที่แสดงออกมาราวกับว่าจำนวนที่ต่างกันนั้นไม่ใช่ปัญหา
เมื่อลำแสงทำลายล้างยิงออกมาจากด้านหลัง เธอก็แค่หลบด้วยการเอียงหัวและกระโดดกลับไปด้านหลังพร้อมกับสายตาที่ยังคงจับจ้องลำแสงด้านหน้าแล้วก็เตะกลับไปยังช่องท้องของศัตรูเพื่อจัดการในครั้งเดียว เลดี้พราวจับเชือกที่โยนเข้ามาหา กระชากเข้าหาตัวเพื่อใช้สันมือกระแทกเข้าไปที่กรามของนักฆ่าและเตะออกไป ในตอนที่เข็มที่ยากจะมองเห็นขว้างเข้ามาใส่ เธอก็ใช้ต้นไม้ที่ฉีกออกมาจากพื้นป้องกันเอาไว้ทั้งหมดด้วยการหมุน จากนั้นก็โยนต้นไม่ใส่ศัตรูและผลักออกไป
ในจังหวะเดียวกันกับที่เลดี้พราวขว้างต้นไม้ออกไป เสียงของเครื่องยนตร์ เสียงของสิ่งต่างๆที่ถูกหั่นจนเป็นชิ้นๆ และเสียงบางอย่างที่บดเข้ากับพื้นก็เข้ามาจากด้านหลัง เลดี้พราวหันกลับไปเพื่อหยุดยานพาหนะที่เข้ามา ฝ่ามือของเธอที่กางออกมีเลือดไหลพุ่งออกมา มันคือรถถังขนาดเล็กที่ติดใบมีดจำนวนนับไม่ถ้วนเอาไว้ เหมือนกับรถม้าศึกสมัยโบราณที่ใช้กันในยุคโรมัน เมจิคัลเกิร์ลที่นั่งอยู่ด้านบนมีต้นแบบมาจากนักจัดสวน เธอกำลังสับคันโยกพร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้เลดี้พราวกำลังถูกรถถังดันกลับไปด้านหลังอย่างช้าๆจนเท้าของเธอลากไปพื้นดิน และเนื่องจากเธอใช้มือเปล่าดันใบมีดที่กำลังหมุนอยู่ แผลมันจึงเปิดกวางขึ้นเรื่อยๆจนทำให้เธอเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก
เลดี้พราวต้านรถถังขนาดเล็กเอาไว้ด้วยรากไม้ ดิน หิน และทุกๆอย่าง มันโดนเฉือนและบดจนกลายเป็นฝุ่นฝุ้ง เศษของสิ่งต่างโดนผลักไปด้านหน้า แต่พลังของเธอก็เหนือกว่า
____________________________________________
“เอ่อ ตามรายงานที่ฉันมีอยู่ เธอไม่ได้มาจากโรงเรียนกวดวิชามาโอค่ะ มินะ เอเคอร์ หรือ แมดการ์เดนเนอร์ รายงานบอกว่าเธอใช้เครื่องจักรตัดหญ้าเวทมนตร์สังหารความเร็วสูงค่ะ”
“อ่าา นั่นคือเครื่องจักรตัดหญ้าเองเหรอ”
“โดยปกติแล้ว เธอเป็นคนสุภาพเรียบร้อยค่ะ แต่พอเธอขึ้นไปบนเครื่องจักรตัดหญ้าของตัวเอง เธอก็ถูกแรงกระตุ้นอันทรงพลังชักจูงเพื่อลำลายล้าง และอยากต่อสู้ไปเรื่อยๆเหมือนกับเบอร์เซิร์กเกอร์… นี่เธอควรจะถูกอนุญาตให้เข้าร่วมด้วยเหรอคะ?”
“ก็นะ ตอนสัมภาษณ์เธอดูอ่อนโยนมากเลย…”
____________________________________________
เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของมินะดังขึ้นทั่วทั้งป่ายามค่ำคืน และเมื่อเสียงเริ่มหายไปแล้ว มินะที่บ้าคลั่งก็สงบลงเช่นเดียวกับเครื่องจักรตัดหญ้าที่เธอขับ มินะสับคันโยกลงซ้ำๆ แต่เครื่องจักรตัดหญ้าของเธอก็กลับหยุดนิ่ง
“ไม่ขยับค่ะ! เครื่องจักรตัดหญ้าของมินะไม่ขยับด้วยเหตุผลอะไรซักอย่างค่ะ!”
“ดูตรงล้อกับใบมีดหมุนสิ”
____________________________________________
สสารบางอย่างที่แข็งและมีสีขาวติดอยู่ที่ล้อและใบมีดหมุนของเครื่องจักรตัดหญ้า
____________________________________________
“นี่มันอะไรคะเนี่ย…?” แพมมี่ถาม
“กาวน่ะ ส่วนผสมหลักน่าจะเป็นอีพ็อกซี่ ของเหลวสองชนิดที่ผสมเข้าด้วยกันกับสารที่ทำให้แข็งตัวบางอย่าง”
“แบบนี้ก็หมายถึง…”
“ฝ่ามือของเลดี้พราวที่ฉีกขาด และเลือดของเธอที่เปื้อนล้อและใบมีดหมุน เหมือนว่าเธอจะเปลี่ยนเลือดนั่นให้กลายเป็นกาวประสิทธิภาพสูง”
“ดูเหมือนว่ามันจะไม่ขยับอีกแล้วเลยค่ะ”
____________________________________________
มินะสับคันโยกพร้อมกับเสียงร้องแหลมสูง แต่เครื่องจักรตัดหญ้าของเธอก็ไม่ขยับเขยื้อน จากนั้นมันก็เสียงเอี๊ยดอ๊าดพร้อมกับควันดำลอยขึ้นมาจากตัวรถ หลอดเลือดสีน้ำเงินอมดำปูดขึ้นมาที่แขนของเลดี้พราว เสียงหัวเราะของมินะกลายเป็นเสียงร้องไห้ เครื่องจักรตัดหญ้าสังหารกำลังลอยขึ้นจากพื้น
เลดี้พราวเหวี่ยงตัวไปด้านหลังเป็นท่าสะพานโค้ง เธอขว้างเครื่องจักรตัดหญ้าและคนขับไปด้านหลังเหมือนกับกำลังทำท่าซูเพล็กซ์ เครื่องจักรตัดหญ้าปลิวออกไปชนต้นไม้จนหักโค่นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของมินะที่หายไปในความมืด
____________________________________________
“ต่อให้เป็นเครื่องจักรตัดหญ้าสำหรับเธอแล้วก็ไม่มีปัญหาเลยค่ะ! แข็งแกร่งค่ะ! เลดี้พราวแข็งแกร่ง!”
เมจิคัลเกิร์ลที่ปรากฏตัวออกมาราวกับเปลี่ยนตัวกับเครื่องจักรตัดหญ้าสังหารมันต่างกับศัตรูที่เข้ามาหาเธอก่อนหน้านี้
อีกฝ่ายดูไร้อารมณ์หรือไม่ได้มีท่าทีความกระหายการต่อสู้ในตอนที่เข้ามาหาราวกับว่าเธอกำลังเดินเล่นอยู่ในป่า ทั่วทั้งร่างของเธอถูกปกคลุมด้วยชุดโลหะแวววาวและยังมีบรรยากาศบางอย่างแผ่ออกมา หากใครซักคนมองมาที่เธอ พวกนั้นก็จะร้องออกมาว่า “อ๊ะ” —มันเป็นบรรยากาศแบบนั้น
____________________________________________
“และนี่ก็คือศัตรูคนใหม่ค่ะ เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงเรียนกวดวิชามาโอ เอ่อ เธอชื่อเมทัลลี่ค่ะ ตอนนี้มีธงอยู่ยี่สิบแปดผืน”
“…เธอแข็งแกร่งนะ”
____________________________________________
เมทัลลี่ไม่ได้หยุดเดิน เธอยังคงรักษาจังหวะการเคลื่อนไหวในตอนที่ก้าวข้ามต้นไม้ หญ้า หิน และเมจิคัลเกิร์ลที่ถูกเลดี้พราวจัดการ เลดี้พราวเองก็ยังคงยืนนิ่ง เลือดที่ไหลออกมาจากฝ่ามือนั้นหยุดไหลแล้ว
ถึงเธอจะต่อสู้มาแบบไม่หยุดพัก แต่ท่าทีของเลดี้พราวก็ไม่ได้แสดงอาการเหนื่อยล้าออกมา ลมหายใจที่ออกมาจากจมูกนั้นสม่ำเสมอและสงบนิ่ง แถมยังสามารถสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นเล็กๆในการหายใจของเธอด้วย ไอน้ำลอยขึ้นมาจากร่างกายมันห่อหุ้มตัวของเธอเอาไว้จนกลายเป็นบรรยากาศที่น่ากลัว ปริมาณของเหงื่อที่ไหลออกมานั้นมันดูไม่งดงามสำหรับเมจิคัลเกิร์ลเลย
เส้นผมของเธอยุ่งเหยิงราวกับว่ากลายเป็นยัยแก่ผู้โหดร้ายในเทพนิยาย เครื่องประดับที่เป็นสัญลักษณ์ของเธออย่างกระเทียมประดับผมก็เสียหายจากการต่อสู้ เขี้ยวของเธอก็แพลมออกมาจากปากเป็นบางครั้ง ในตอนนั้นมันก็มีคำพูดบางอย่างหลุดออกมาจากปากของเธอ “สำหรับเมจิคัลเกิร์ลแล้ว ความรู้สึกมันคือทุกสิ่ง…”
มาโอแพมพยักหน้า เรื่องต่างๆมันกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี
____________________________________________
“ท่าทางของเลดี้พราวดูแปลกๆนะคะ…ว่าไหม?”
“นี่คือท่าลับของเธอน่ะ เธอจะใช้ก็ต่อเมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังเท่านั้น”
“ท่าลับนี่หมายความว่ายังไงคะ?”
“เลดี้พราวสามารถเปลี่ยนเลือดของตัวเองให้กลายเป็นของเหลวที่ต้องการได้ ด้วยการใช้เวทมนตร์นี้ ประสาทสัมผัสของเธอ—”
“อ๊ะ อย่างนี้นี่เอง! ด้วยการใช้พลังควบคุมแบบเหนือกว่าสารสื่อประสาทและสารเสพติดในสมองอย่างเต็มที่ เธอจึงผลักทักษะการต่อสู้ให้เหนือกว่าขีดสุดของตัวเองได้ และมันก็ทำให้เกิดประโยชน์มากด้วย อย่างเช่นทำให้เจ็บปวดน้อยลง ทำให้ประสาทสัมผัสแหลมคมขึ้น และกล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้นใช่ไหมคะ? จริงด้วย ที่ฝ่ามือของเธอเลือดหยุดไหล —มันก็เป็นเพราะผลจากการควบคุมส่วนประกอบของเลือดใช่ไหมคะ?”
____________________________________________
เมจิคัลเกิร์ลแต่ละคนต่างก็เข้าใจความสามารถของอีกฝ่าย คนที่สวมชุดโลหะแวววาว —เมทัลลี่— สร้างค้อนออกมาจากมือขวาและจาเวลินออกมาจากมือซ้าย เมื่อเลดี้พราวสังเกตเห็น เธอก็กระโดดขึ้นไปในอากาศ
เธอพลิกตัวและหันหน้าไปทางอื่นกลางอากาศ จากนั้นก็กระโจนเข้าไปยังกิ่งไม้ที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ใกล้ๆแล้วใช้มันเป็นฐานรองเพื่อเข้าหาศัตรู เธอใช้ผ้าคลุมของตัวเองพันไว้รอบจาเวลินที่แทงเข้ามาหาเพื่อเปลี่ยนโมเมนตัมในตอนที่เตะเข้าไปยังคู่ต่อสู้ แต่ขาของเธอก็ถูกป้องกันไว้ด้วยโล่ขนาดใหญ่
____________________________________________
“เวทมนตร์ของเมทัลลี่คือการสร้างไอเท็มโลหะจากภายในตัวของเธอค่ะ”
“เธอสร้างพวกมันได้เร็วมากนะ เร็วจริงๆ”
____________________________________________
เลดี้พราวลงมาพร้อมกับผ้าคลุมที่สะบัดขึ้น ด้านในผ้าคลุมนั้นมีหลอดทดลองถูกรัดเอาไว้เป็นแถว ทั้งหมดมันบรรจุเลือดของเลดี้พราวเอาไว้
____________________________________________
“เธอสามารถเปลี่ยนเลือดของตัวเองให้กลายเป็นของเหลวอันตรายชนิดใดก็ได้ใช่ไหมคะ…? แก๊สโซลีน ไนโตรกลีเซอรีน ไนโตรเจนเหลว ลาวา โอปิออยด์สังเคราะห์* ไอโซโพรพิล* มีเทน ฟลูออโรฟอสเฟต แต่ฉันเองก็ไม่รู้นะคะว่าแบบนี้มันจะโอเครึเปล่า?”
*สารสังเคราะห์ที่ออกฤทธิ์คล้ายฝิ่น*แอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งที่ใช้ทางการแพทย์
“มาตราการความปลอดภัยเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว”
____________________________________________
เลดี้พราวดึงหลอดทดลองสามหลอดมาไว้ที่นิ้วจากนั้นก็สาดสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา เลือดสีแดงของเธอหายไปในอากาศ จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นสีขาวในทันที
____________________________________________
“นั่นคือไนโตรเจนเหลวเวทมนตร์” แพมพูด “ถ้าไปโดนเข้า มันแย่ยิ่งกว่าโดนน้ำแข็งกัดแน่”
“แล้วแบบนี้เมทัลลี่จะทำยังไงล่ะ?!”
____________________________________________
เมทัลลี่ไม่ได้พยายามหลบการโจมตีจากของเหลวซึ่งมันหลบยากอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงพุ่งตรงไปข้างหน้าแทน ในตอนที่เคลื่อนไหว เธอก็เปลี่ยนรูปร่างของร่างกายไปด้วย —เธอสร้างเกราะอัศวินแบบหนาขึ้นทั่วทั้งตัว และทันทีที่สัมผัสกับไนโตรเจนเหลว มันก็ทำให้ตัวของเธอที่อยู่ด้านในปลอดภัย และอีกเพียงครึ่งก้าวก็จะถึงตัวเลดี้พราวแล้ว ในระยะใกล้แค่นี้ ไม่ต้องพูดถึงการขว้างหลอดทดลองเลย เธอไม่มีแม้แต่เวลาที่จะดึงออกมาด้วยซ้ำ
เลดี้พราวตบลงมาอย่างรุนแรงด้วยเล็บ และเมทัลลี่ก็ดึงเอาไม้เสียบเหล็กมากันเอาไว้ มันแทงทะลุฝ่ามือของเลดี้พราวจนไปถึงด้านหลัง
____________________________________________
“อูยยยยยย! ดูเจ็บจังเลยค่ะ!”
“นอกจากเจ็บแล้ว มันจะขัดขวางการเคลื่อนไหวของเธอด้วย”
____________________________________________
เมทัลลี่โจมตีตามมาด้วยหมัดที่ขนาดค่อยๆใหญ่ขึ้น เมื่อมันไปถึงตัวเลดี้พราว หมัดของเธอก็ถูกหุ้มด้วยทองเหลือง เลดี้พราวปัดหมัดฮุคสั้นที่เล็งมาที่ข้างตัว จากนั้นก็หันหลบการโจมตีที่เล็งมายังหน้าอกและหักไม้เสียบเหล็กที่แทงทะลุฝ่ามือด้วยการกำมือขวา —เมทัลลี่ต่อคอมโบด้วยการโจมตีเข้าไปที่แก้ม และเลดี้พราวก็ตอบสนองด้วยการอ้าปากออกกว้าง
เขี้ยวของเลดี้พราวขย้ำเข้าใส่หมัดทองเหลืองที่พุ่งเข้าหาราวกับว่าไม่รู้สึกถึงแรงต้าน เมทัลลี่นั้นชักหมัดกลับไปเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่แตกเป็นเสี่ยงอยู่ภายในปากเลดี้พราวก็คือหมัดทองเหลือง เธอพ่นเศษเหล็กที่อยู่ในปากกลับไปหาศัตรู และเมทัลลี่ก็ปัดออกไปด้วยหลังมือขวาพร้อมกับส่งเสียงออกมา เมทัลลี่ฟันเข้าไปที่คู่ต่อสู้ด้วยดาบยาวพร้อมๆกับปามีดโดยไม่ปล่อยให้เสียจังหวะ แต่เลดี้พราวก็ปัดออกไปได้ทั้งคู่ เมทัลลี่ตีลังกากลับหลังพร้อมปล่อยบางอย่างออกมากลางอากาศ สิ่งนั้นกลิ้งลงมาที่พื้นพร้อมกับมีหนามแหลมแทงออกมาจากทุกทิศทาง
____________________________________________
“คัลทรอปส์*งั้นเหรอ หืมม?” แพมพูด “มีกระทั่งเงี่ยงตรงปลายด้วย”
*อาวุธในยุคก่อนที่สร้างขึ้นจากตะปูสองตัวขึ้นไป เอาไว้ใช้ชะลอทัพม้า รถศึกที่บุกเข้ามาhttps://en.wikipedia.org/wiki/Caltrop
“เลดี้พราวยกเท้าขึ้นเหนือคัลทรอปส์แล้วค่ะ! นี่เธอจะไปต่องั้นเหรอเนี่ย?!”
“ตอนนี้เธอให้ความสำคัญกับการโจมตีเหนือกว่าทุกอย่างน่ะ”
“แบบนั้นก็หมายถึง ก่อนที่เธอจะเหยียบลงไปบนคัลทรอปส์แล้วจะเกิดสถานการณ์ชี้ขาดใดๆขึ้น เธอก็จะแค่เคลื่อนไหวไปด้านหน้าเหนือคัลทรอปส์ แล้วก็ใช้ความได้เปรียบจากการที่ศัตรูเปิดช่องว่างไว้ อาจจะเป็นการทำอะไรสะดุดตาอย่างตีลังกากลางอากาศแบบไร้ความหมายก็ได้? แม้เรื่องนี้มันจะทำให้เธอเคลื่อนไหวไปมาได้ลำบาก เธอก็จะไม่เสียใจงั้นเหรอคะ?”
“ตีลังกามันเหมือนกับ… เชื้อเชิญเธอให้ทำเลย”
____________________________________________
เลดี้พราวกำลังจะก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สนใจคัลทรอปส์ แต่ก่อนที่เธอจะก้าวออกไปนั้น เธอก็ไถลตัวไปบนบางสิ่งที่มีรูปทรงเป็นแท่ง เลดี้พราวเตะเข้าไปที่แท่งนั้นเบาๆโดยที่ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ แล้วก็เคลื่อนไหวไปข้างหน้าเพื่อโจมตีเมทัลลี่ด้วยการเตะในจังหวะก่อนที่จะลงมาที่พื้น
เมทัลลี่พยายามจะสร้างโล่ แต่ลูกเตะของเลดี้พราวนั้นเร็วเกินไปจนเธอสร้างไม่ทัน จากนั้นมันก็มีเสียงกระดูกแตกและแรงกระแทกดังขึ้นมาตรงที่เธอยกการ์ด ตัวของเธอลอยไปด้านข้างเข้าไปในพุ่มไม้ เลดี้พราวเองก็ไล่ตามไป
____________________________________________
“ดะ-โดนเต็มๆค่ะ! เสี่ยงนั่นมันอะไรกันเนี่ย! คงเจ็บน่าดูเลย! เจ็บสุดๆค่ะ!”
“เกิดอะไรบางอย่างขึ้น”
“เอ่อ ย้อนวีดีโอค่ะ ย้อน… ขอโทษค่ะ พอเป็นเรื่องที่ต้องทำอะไรซับซ้อนกับกล้อง นอกจากสลับภาพไปมาแล้วมันยากจังค่ะ ไปยุ่งมากๆเข้าดีไม่ดีก็อาจพังได้อีก ดังนั้น… อ๊ะ! ฟาฟคะ ขอโทษที่รบกวนนะคะ แต่ช่วยจัดการเรื่องนี้ได้ไหมคะ?”
____________________________________________
หลังจากที่บ่นออกมามากพอแล้ว ฟาฟก็ทำการย้อนวีดีโอให้พวกเธอ เขายังใส่การสโลโมชั่นเข้ามาในการย้อนดูด้วย จากนั้นพวกเธอก็ตรวจสอบวัตถุทรงแท่งที่ถูกโยนมาที่เท้าของเลดี้พราว
____________________________________________
“…นี่มันร่มเหรอคะ?”
“ร่มนั่นแหละ”
____________________________________________
เมื่อพวกเธอยกเลิกการย้อนดูพร้อมกับสโลโมชั่นและกลับสู่การรายงานสด มันก็มีเมจิคัลเกิร์ล… ปรากฏตัวขึ้นตรงจุดที่เมทัลลี่และเลดี้พราวหายไป เมจิคัลเกิร์ลที่สวมชุดกันฝนสีเหลืองหยิบของที่มีรูปร่างทรงแท่งบนหญ้าขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “อ๊ะ อยู่นี่เอง” —ความจริงแล้ววัตถุนั้นก็คือร่มที่หุบอยู่ เด็กสาวในชุดกันฝนพึมพำออกมาว่า “ต้องทำให้เธอชนะมากกว่านี้อีก” แล้วก็วิ่งตามเลดี้พราวไป
____________________________________________
“เมจิคัลเกิร์ลคนนี้… อัมเบรนนี่นา? ตอนนี้เธอมีธงอยู่ยี่สิบเอ็ดผืนค่ะ” แพมมี่พูด
“เธอมาจากกรมการต่างประเทศด้วย”
“อ๊ะ? งั้นเธอก็เป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมงานของแพมสินะคะ?”
“เธอเป็นหนึ่งในลูกน้องของเลดี้พราวน่ะ… แล้วนี่เธอทำอะไรล่ะเนี่ย?”
“ตามที่ข้อมูลบอกไว้ ร่มเวทมนตร์ของอัมเบรนจะไม่สนมวลและความเร็วของวัตถุแถมยังสามารถป้องกันเอาไว้ได้อย่างนุ่มนวลค่ะ”
“เธอคงทำให้เลดี้พราวไม่เหยียบลงบนคัลทรอปส์ด้วยการโยนร่มที่เท้าเพื่อป้องกันเอาไว้ นี่เธอช่วยเลดี้พราวงั้นเหรอ?” แพมสงสัย
“ขอโทษนะคะฟาฟ แต่ช่วยย้อนดูอีกครั้งว่าอัมเบรนอยู่ตรงไหนด้วยค่ะ”
____________________________________________
พวกเธอสลับกล้องไปมาหลายตัวและพบว่า อัมเบรนกำลังสำรวจเมจิคัลเกิร์ลที่ล้มลง เธอดึงเอาธงที่พับเอาไว้ออกมาจากกระเป๋าเด็กสาว จากนั้นก็ใส่เอาไว้ในเสื้อกันฝนของเธอ
เมจิคัลเกิร์ลที่ล้มลงไปนั้นดูคุ้นตา เธอคือเมจิคัลเกิร์ลใช้เชือกที่เลดี้พราวจัดการไปแล้ว มาโอแพมคิด เลดี้พราวนั้นถือธงอยู่แค่ผืนเดียว และยังมีสิ่งที่อัมเบรนเพิ่งพูดออกมาด้วย
____________________________________________
“แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอคะ?” แพมมี่ถาม
“…กฏมันไม่ได้ห้ามไว้น่ะนะ” แพมตอบ
“ในแง่ของลูกน้องที่ช่วยหัวหน้าตัวเองแล้ว มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกค่ะ แต่ทำไมเลดี้พราวถึงไม่ถือธงเอาไว้เองล่ะคะ? ต่อให้เธอชนะไปกี่คนจากการทำแบบนี้ อันดับของเธอมันก็ต่ำอยู่ดี… “
มาโอแพมนึกย้อนไปว่าเลดี้พราวสร้างเสียงขึ้นในตอนที่เดินผ่านป่า นั่นเธอรับบทเป็นตัวล่อเพื่อดึงดูดศัตรูรึเปล่านะ? มันเป็นการแบ่งหน้าที่ที่เลดี้พราวจะรับบทแนวหน้าและตัวล่อ ส่วนอัมเบรนก็จะรับบทเป็นฝ่ายเก็บกู้และสนับสนุน
สุดท้ายแล้ว การแบ่งงานกันแบบนี้จะทำให้เลดี้พราวตกอยู่ในอันตราย ยิ่งไปกว่านั้น สุดท้ายแล้วอัมเบรนก็จะกลายเป็นคนที่ถือธงไป แต่การที่ตัวเองออกไปสู้เพื่อลูกน้องโดยไม่คิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองมันสมกับเป็นเธอจริงๆ มาโอแพมคิดเช่นนั้นพร้อมกับยิ้มออกมา
____________________________________________
ฉันหายใจเข้าลึกๆแล้วก็ถอนหายใจออกมายาวๆ หัวใจของฉันมันสงบแล้ว ที่นั่นมีคนอยู่กันน้อยลง เหลือเพียงแค่พวกไฮยีน่าไม่ก็พวกที่แข็งแกร่งเท่านั้น พวกไฮยีน่าน่ะไม่เป็นไร พวกแข็งแกร่งเองก็ดี ฉันแค่อยากให้พวกนั้นอาละวาดใส่กันแบบรุนแรงและสร้างปัญหาให้มาโอแพม จนปีกจะออกไปจากรอบตัวเธอมากกว่า
ฉันจำได้ว่าตัวเองเคยเห็นมาโอแพมมาก่อนจากระยะไกล ก่อนหน้างานออกกำลังจะเริ่มต้น
จากการสืบสวนเบื้องต้น ฉันใช้เวลาสองสามวันไปกับการจับตาดูงานของมาโอแพม ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำได้หากมีโอกาส แต่เมื่อฉันเห็นเธอด้วยตาตัวเอง ฉันก็ทิ้งความคิดนั้นไป เธอมีบรรยากาศที่แตกต่าง มันเป็นไปไม่ได้ ปีก… ปีกพวกนั้นคือปัญหา ฉันเคยดูวีดีโอเรื่องวิธีสู้ของมาโอแพมมาก่อน หากปีกพวกนั้นหายไปก็คงไม่มีปัญหา แบบนั้นก็ต้องซุ่มโจมตี ไม่ว่าเมจิคัลเกิร์ลจะแข็งแกร่งขนาดไหน หากโจมตีเข้าไปตอนที่ไม่ทันรู้ตัวก็จัดการได้ง่ายๆ ฉันน่ะจัดการด้วยวิธีการนี้มามากแล้ว
คู่ต่อสู้ของฉันคือเมจิคัลเกิร์ลที่ต่อสู้อย่างอลังการบนเวทีสาธารณะ ส่วนฉันก็คือเมจิคัลเกิร์ลที่แอบอยู่ในฉากหลัง แม้พวกเราทั้งคู่จะสวมชุดสีดำ แต่นั่นมันก็ต่างกันราวกับสวรรค์และนรก มาโอแพมเป็นที่เคารพนับถือ ส่วนฉันถูกคนอื่นดูถูกเหยียดหยาม เรื่องนี้ฉันไม่ได้คิดอะไรมาก นี่คือโอกาสที่หยิบยื่นมาให้ฉันแล้ว ดวงดาวที่ส่องประกายบนท้องฟ้าไม่ได้เหลียวแลแมลงที่ร่อนเรไปมาบนผืนดิน สำหรับเธอแล้ว ฉันอาจไม่เคยมีตัวตนอยู่เลยก็ได้
เวลาเหลือไม่มากแล้ว ฉันสงบสติอารมณ์และบอกตัวเองว่าไม่ต้องรีบร้อน หากมีโอกาสฉันก็จะลงมือ ถ้าไม่มีก็จะไม่ทำ มันก็แค่เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร
เสียงของแมลง เสียงของนก เสียงของงูที่เลื้อยไปตามพื้นดิน เสียงของผู้คนที่พูดคุยกัน เสียงร้องโหยหวน เต็นท์ปฐมพยาบาลสำหรับคนบาดเจ็บงั้นเหรอ? ก็ไม่ได้แปลกอะไรที่อยู่ใกล้ๆเต็นท์บัญชาการล่ะนะ
มันไม่สำคัญว่าเมจิคัลเกิร์บแบบไหนจะอยู่ใกล้ ฉันจะจัดการมาโอแพมด้วยกำลังก่อนที่คนอื่นจะเข้ามาขวาง
____________________________________________
“พวกเรามียอดรวมแล้วค่ะ” แพมมี่พูด “ตอนนี้อันดับหนึ่งก็คือทะเลเพลิง เฟลม ฟรามี่ ตอนนี้เธออยู่ที่…”
“พื้นที่ D-51”
“หวา เร็วจังเลยค่ะ แพม”
“ปีกของชั้นรอคำสั่งอยู่ในพื้นที่ด้วย ดังนั้นก็เลยรู้ว่าเธออยู่ไหนน่ะ”
“นั่นทำให้ฉันนึกได้ว่า —ไม่ใช่ว่าเธอสร้างไฟป่าเหรอคะ? เป็นเด็กมีปัญหาน่าดูเลยค่ะ”
“ชั้นจะไม่พูดแบบนั้นหรอก… เธอเครื่องร้อนได้ง่ายไม่ก็ถูกชักจูงง่ายมากกว่า”
“งั้นเหรอคะ แบบนั้นเธอเองก็คงตื่นเต้นเรื่องงานออกกำลังนี้ด้วยสินะคะ?”
____________________________________________
เมจิคัลเกิร์ลในชุดสีแดงบินไประหว่างต้นไม้พร้อมกับเส้นผมสีแดงเข้มที่ดูยุ่งเหยิง เธอไม่ได้กระโดด เท้าของเธอไม่ได้สมผัสพื้นในตอนที่บินอยู่เลย
____________________________________________
“พลังของฟรามี่ก็คือไฟ” แพมอธิบาย “เธอทำให้ตัวเองบินได้ด้วยเผาไหม้อากาศและบังคับให้ขยายตัวเพื่อพุ่งออกมา”
“เดิมทีเธอไม่มีความสามารถในการบินเหรอคะ?”
“มันคือการประยุกต์ใช้พลังเวททั้งหมดของเธอน่ะ”
“ยอดไปเลยค่ะ… แต่ว่าการบินต่ำแบบนี้มันไม่อันตรายเหรอคะ?”
“การบินสูงเกินไปโดยไม่ระวังจะทำให้เธอตกเป็นเป้าของการโจมตีระยะไกลได้”
____________________________________________
กล้องสลับภาพจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ฟรามี่บินผ่านป่าได้เร็วกว่าเมจิคัลเกิร์ลที่มีขาอันทรงพลัง แถมฟรามี่ยังเชี่ยวชาญในการบินต่ำพร้อมกับหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆไปด้วย ด้วยการบินต่ำมันจึงไม่ได้เป็นอันตรายต่อตัวฟรามี่แต่เป็นสิ่งรอบข้าง เนื่องจากว่าเธอปล่อยประกายไฟออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อให้ตัวเองเคลื่อนที่ ความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเพลิงไหม้มันจึงตามมาเสมอ ในตอนนี้เอง หนึ่งในปีกของมาโอแพมก็กำลังตามเธอมา
____________________________________________
“หืมม เธอดูค่อนข้างเครื่องร้อนนะคะว่าไหม?”
“ฟรามี่คือหัวหน้าของ ซิกซ์ วอลเคโน่แห่งโรงเรียนกวดวิชามาโอน่ะ”
“ซิกซ์ วอลเคโน่แห่งโรงเรียนกวดวิชามาโอ! ฟังดูเจ๋งสุดๆไปเลยค่ะ”
“เธอยังอยู่ในตำแหน่งของ สิบสองนายพลปีศาจ สามเจ้าหญิงแห่งสรวงสวรรค์ เพนตาแกรม สุดยอดหมัดทั้งสี่ และเทพแห่งโชคลาภทั้งเจ็ดของโรงเรียนกวดวิชามาโอด้วย นี่หมายถึงเธอมีความสามารถสูงจนได้รับเชิญจากหลายๆกลุ่ม”
____________________________________________
มุมปากของเธอม้วนขึ้นตลอดทาง และไม่ใช่แค่นั้น เพราะบางครั้งมันยังมีเสียงดังลอดออกมาด้วย เสียงนั้นแหลมสูง อยู่ระหว่างคำว่า ฮึ กับ ฮะ คำไหนซักคำ ทะเลเพลิง เฟลม ฟรามี่กำลังหัวเราะอยู่
____________________________________________
“รู้สึกเหมือนว่าเธออินกับเรื่องนี้เลยนะคะ…”
“เธอเป็นคนประเภทที่กลายเป็นแบบนี้ได้ง่ายด้วย”
“เอาล่ะค่า และในตอนนี้ก็ถึงตาฟรามี่แล้วค่ะ! นี่เธอเจอเหยื่อบ้างรึยังนะ?!”
____________________________________________
มุมปากของเฟลม ฟรามี่เผยอจนดูแหลมขึ้นอีก เมื่อกล้องสลับไปเป็นอีกตัวหนึ่งก็มีเมจิคัลเกิร์ลที่ปรากฏตัวอยู่บนจอ ฟรามี่กระโจนเข้าไปหาเธอโดยไม่ทันมีเวลาได้กระพริบตา เด็กสาวกลิ้งไปด้านหน้าเพื่อหลบ แล้วเมื่อฟรามี่หักเลี้ยวเข้ามาเธอแบบทันที เด็กสาวก็สร้างฟองสบู่ขนาดใหญ่ขึ้นมาระหว่างตัวของเธอกับฟรามี่ —แต่มันก็เปล่าประโยชน์สำหรับฟรามี่ที่พุ่งชนเข้ามา ฟองสบู่นั้นแตกออกโดยที่ทำให้ฟรามี่ช้าลงไม่ได้เลยซักนิด พอหลบการพุ่งชนของฟรามี่ไม่ได้ เมจิคัลเกิร์ลคนนั้นก็กลิ้งไปตามพื้น
____________________________________________
“เธอคืออุตาคัทตะค่ะ เป็นเมจิคัลเกิร์ลฟรีแลนซ์ ตอนสัมภาษณ์เธอก็พูดออกมาตรงๆว่ามาเพราะเงินรางวัล” แพมมี่พูด
“เธอใช้ฟองสบู่เหรอ?” แพมพูด
“เหมือนว่าฟองสบู่กับไฟจะเป็นการจับคู่ที่แย่มากเลยค่ะ”
“มันก็ขึ้นอยู่กับเวทมนตร์ของเธอนะ”
“ตามข้อมูลบอกว่าฟองสบู่เวทมนตร์ของอุตาคัทตะนั้นยืดหยุ่นและถึงจะเป็นเมจิคัลเกกิร์ลก็ไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆ… แต่ก็ไม่ได้บอกว่าสามารถทนความร้อนได้ค่ะ จากที่ฉันเห็น ฟองสบู่มันแตกออกทันที่เมื่อสัมผัสกับไฟ หากเธอใช้ฟองสบู่ของตัวเองไม่ได้ แบบนี้การต่อสู้คงลำบากแน่ค่ะ”
ไฟแผดเผาใบไม้ไปทั่วบริเวณ เปลวไฟโดยรอบสว่างจ้าด้วยสีแดงฉาน เปลวไฟขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นด้านบนแล้วกลายเป็นร่างของมนุษย์ ร่างมนุษย์นั้นหลอมละลายบนเปลวไฟและหายไป จากนั้นเปลวไฟที่รูปร่างต่างกันก็เกิดขึ้นแล้วหายไปอีกครั้ง แต่ละครั้งไฟจะลามออกไปจนไหม้ไปเป็นวงกว้าง
____________________________________________
“เฟลม ฟรามี่เคลื่อนไหวอยู่ด้านในเปลวไฟ” แพมพูด
“แบบนี้ฉากที่เต็มไปด้วยไฟก็คือสนามรบที่ดีที่สุดของเธอเหรอคะ? แบบนี้คงเป็นปัญหากับทุกคนแน่เลย”
“พวกเราเตรียมดับไฟทุกแบบเอาไว้แล้วล่ะ”
____________________________________________
อุตาคัทตะ เมจิคัลในชุดเอี๊ยมที่มีเขางอกอยู่บนหัวเอาฟางใส่เข้าไปในปากแล้วก็พ่นลมหายใจออกมา ด้วยการพ่นลมเพียงแค่ครั้งเดียว เธอก็สามารถเป่าฟองสบู่จำนวนหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าสิบเท่าของฟองก่อนหน้านี้ บางทีเธออาจจะใช้ฟองสบู่พวกนี้หนีขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยไฟ
ฟรามี่ที่ปรากฏตัวขึ้นจากด้านในเปลวไฟหมุนวนขึ้นไปบนท้องฟ้า อุตาคัทตะที่สร้างฟองสบู่เพื่อก้าวขึ้นสูงไปเรื่อยๆก็รู้สึกไม่มั่นคงขึ้นมา ฟองสบู่ใต้เท้าของเธอกำลังสั่นไหว และเธอก็ตอบสนองช้าเกินไป
ฟรามี่มาถึงตัวของเธอ ตัวของอุตาคัทตะไม่มีสมดุลจนทำการป้องกันไม่ได้ ท่าทีของเธอบิดเบี้ยว จากนั้นก็กระโดดออกจากฟองสบู่ของตัวเอง โค้งและพลิกตัวจนแทบหลบฟรามี่ไม่พ้น แต่ที่ด้านล่างไม่มีอะไรรองรับอยู่ ตัวของเธอจึงร่วงลงไปยังพื้น
____________________________________________
“ฟรามี่สร้างกระแสลมตีขึ้น” แพมอธิบาย “เธอใช้มันเพื่อทำให้พวกฟองสบู่ไม่มั่นคง”
“ดูเหมือนเธอกำลังบินอยู่แบบนั้นเหมือนกับอยากจะโชว์เลยค่ะ แต่นั่นเป็นจุดประสงค์ที่ถูกต้องรึเปล่านะ?”
____________________________________________
ก่อนที่อุตาคัทตะจะกระแทกเข้ากับพื้น เธอก็เป่าฟองสบู่ขนาดยักษ์ออกมา ฟองสบู่ขนาดยักษ์มันห่อหุ้มตัวของเธอเอาไว้และลอยอยู่อย่างเชื่องช้า แต่ฟรามี่ก็มาอยู่ตรงหน้าเธอเรียบร้อยแล้ว อุตาคัทตะที่อยู่ด้านในฟองสบู่ไม่สามารถหลบเธอได้ มุมปากของเฟลม ฟรามี่ก็ฉีกขึ้นจนดูแหลมยิ่งกว่าเดิม แต่อุตาคัทตะก็หรี่ตาข้างหนึ่งพร้อมกับสอดมือหนึ่งข้างเข้าไปในชุดเอี๊ยมและยิ้มออกมาราวกับจะเยาะเย้ย
ก่อนที่ฟรามี่จะพุ่งเข้าใส่ ฟองสบู่ที่ป้องกันอุตาคัทตะไว้ก็กลายเป็นสีขาวขุ่นจนมองไม่เห็น ชั่วพริบตาต่อมาก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น เมจิคัลเกิร์ลทั้งสองร่วงลงมาบนพื้นหินห่างจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยไฟ —หนึ่งในนั้นหมุนตัวกลางอากาศและใช้เท้าลงพื้น ในขณะที่อีกคนหนึ่งเอาหลังลงพื้นและกระแทกอย่างรุนแรง เธอชูแขนสองข้างขึ้นตรงหน้าและกลิ้งไปมาบนพื้นหินก่อนจะหมดสติไปด้วยความเจ็บปวด
เมจิคัลเกิร์ลที่ใช้เท้าลงพื้น —อุตาคัทตะ— ค่อยยื่นขึ้น พร้อมกับยิ้มออกมา
____________________________________________
“เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?! ฟรามี่คนที่โจมตีกลายเป็นคนเจ็บซะเอง! ดูเจ็บปวดมากเลยค่ะ! เจ็บสุดๆ! เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะเนี่ย?!”
“ดูตรงพื้นที่ทั้งสองคนปะทะกันสิ มีผงสีขาวกระจายอยู่รอบๆใช่ไหมล่ะ?”
“ผงสีขาว…ใช่ค่ะ มันมีอยู่จริงๆด้วย แต่มันคืออะไรคะ?”
“ผงน้ำยาดับเพลิง”
“ผงน้ำยาดับเพลิง! จริงด้วยค่ะ ในฟองสบู่มันกลายเป็นสีขาวตอนที่ทั้งคู่เข้าปะทะกัน… นี่อุตาคัทตะโปรยผงน้ำยาดับเพลิงที่ด้านในฟองสบู่สินะคะ?”
“ชื่อของเฟลม ฟรามี่มันบ่งบอกถึงเปลวไฟอยู่แล้ว ผงน้ำยาดับเพลิงแบบธรรมดาคือเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเป็นผงน้ำยาดับเพลิงเวทมนตร์มันก็คือพิษร้ายแรงสำหรับเธอ”
“หวา ยอดไปเลยค่ะ!”
“มันยากมากนะที่จะสาดผงน้ำยาดับเพลิงใส่ฟรามี่เพราะว่าเธอบินได้เร็ว แต่ถ้าติดตั้งเป็นกับดักเพื่อล่อเธอเข้ามา แบบนั้นการที่เธอบินได้เร็วขนาดไหนก็ไม่สำคัญอีกต่อไป”
“แต่ผงน้ำยาดับเพลิงเวทมนตร์นี่มัน…? เอาของพวกนั้นมา…”
“การเอาสิ่งของใดๆเข้ามาเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ยกเว้นสิ่งที่เกิดมาจากชุดและเวทมนตร์ของตัวเอง แน่นอนว่าการเอาผงน้ำยาดับเพลิงเข้ามาเป็นเรื่องต้องห้าม”
“แล้วแบบนี้มันผิดกฏรึเปล่าคะ?”
“ไม่หรอก… ถ้าชั้นจำไม่ผิด อุตาคัทตะคือหนึ่งในอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยดับไฟก่อนหน้านี้ ชั้นคิดว่าตอนนั้นเธอคงจะขโมยผงน้ำยาดับเพลิงไปด้วย”
“ตามกฏแล้ว แบบนี้ทำได้รึเปล่าคะ?”
“มันเป็นอะไรที่สีเทามากๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดกับกฎอะไร”
____________________________________________
เฟลม ฟรามี่กลิ้งไปทั่วบริเวณพื้นหินพร้อมกับส่งเสียงคราง ตะโกน ร้องไห้เพื่อระบายความเจ็บปวดของตัวเองออกมาในทุกวิธีที่จินตนาการออก แต่กระนั้นเธอก็ยันตัวเองขึ้นมาได้น้อยกว่าสิบวินาที เธอตัวสั่นอย่างรุนแรง กัดฟัน น้ำลายไหลออกมาจากมุมปาก ลมหายใจปั่นป่วน เธอประคองหัวตัวเองที่หมุนไปมาเพื่อมองขึ้นไปบนฟ้าด้วยสายตาที่ไม่มั่นคงและอ้าปากค้าง
ฟองสบู่สีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนรายล้อมอยู่เต็มบริเวณรอบตัวของเธอ
“เดี๋ย—”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ฟองสบู่นั้นก็แตกออกลูกแล้วลูกเล่าพร้อมกับเฟลม ฟรามี่ที่อยู่ตรงกลาง ผงสีขาวสาดไปทั่วพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังก้องไปทั่วผืนป่า จากนั้นมันก็ค่อยๆหายไป
“ทะเลเพลิงเฟลม ฟรามี่ตกรอบไปแล้วค่า! อุตาคัทตะกระโดดขึ้นมาเป็นอันดับสูงสุดแล้ว!”
“ไม่ ดูไม่เหมือนแบบนั้นนะ”
“หือ? จริงเหรอคะ?”
“พวกผู้เข้าแข่งระดับสูงกำลังต่อสู้แย่งชิงกันอยู่ คะแนนมันก็เลยค่อนข้างผันผวนมาก”
“แบบนั้นในจุดนี้ พวกเราก็ไม่รู้อีกแล้วเหรอคะ?”
“สำหรับตอนนี้ ชั้นจะส่งหนึ่งในปีกออกไปช่วยดับไฟก่อนแล้วกัน”
____________________________________________
สุดท้ายแล้วฟรามี่ก็ทำงานให้ฉันได้ดีมาก ก็นะ แม้ฉันจะไม่เคยจินตนาการว่าเธอจะทำให้มาสเตอร์มีปัญหาไปด้วยก็เถอะ
ฉันกำลังสำรวจพื้นที่เพื่อดูว่ามีใครอยู่บริเวณนี้บ้างรึเปล่า
ปีกของมาโอแพมหายไปแล้ว ปีกทั้งหมดออกจากเต็นท์ไปแล้ว
มาสค็อทยังคงบ่นกับตัวเองในตอนที่ถูกบังคับให้ทำงาน มาโอแพมยังคงแสดงความเห็นออกมา แล้วก็ยัยผู้ประกาศที่น่ารำคาญนั่นก็ยังคงทำงานของตัวเอง มาสค็อทและผู้ประกาศไม่ใช่ปัญหา อย่างมากที่สุดฉันก็หวังว่าพวกนั้นจะตัดพ้อถึงความโชคร้ายที่โดนโจมตีไปพร้อมๆกับเธอด้วย
____________________________________________
มาโอแพมดูนาฬิกา มันใกล้ถึงเวลาจบงานแล้ว งานออกกำลังปีนี้เองก็มีเรื่องที่ต้องกังวลมากมาย
เธอรู้ว่ามันเป็นเพราะเธอทำในสิ่งที่ตัวเองไม่คุ้นเคย หากเป็นไปได้เธอก็อยากหลีกเลี่ยงการทำงานประเภทนี้ แต่เนื่องจากว่ามันเป็นคำสั่งจากทางกรมการต่างประเทศ เธอจึงเลี่ยงไม่ได้
เธอไม่ได้ยินว่ามาริกะหรือแครนเบอร์รี่ตกรอบไปแล้ว ทั่งคู่ต่างก็เป็นคนที่ดึงดูดความสนใจของคนอื่น ดังนั้นฉากคนใดคนหนึ่งแพ้ มันก็จะเกิดหัวข้อสนทนาขึ้นแน่ หากแพมไม่ได้ยินมัน บางทีพวกเธอก็ยังคงสู้กันอยู่ เธอรู้สึกอิจฉาทั้งคู่ขึ้นมาเล็กน้อย
“และตอนนี้ค่ะ ในที่สุด อันดับที่ใกล้ๆกับอับดับสูงสุดก็วุ่นวายกันมากเลยค่ะ” แพมมี่พูด
“ตอนนี้เหลือแค่คนที่มีธงจำนวนมากเท่านั้น สถานการณ์สามารถพลิกได้โดยการจัดการคนแค่หนึ่งคน”
“นับทั้งหมดเสร็จแล้ว ปอน”
บางทีฟาฟ มาสค็อทของแครนเบอร์รี่เบื่อที่จะรอนานๆ ดังนั้นจึงนับธงเพื่อฆ่าเวลา เหมือนว่าจะไม่ได้เป็นห่วงว่ามาสเตอร์ของตัวเองทำอะไรอยู่ที่ไหน
“ปัจจุบันอันดับหนึ่งคือ : อุตาคัทตะ” ฟาฟพูด
บรรทัดตัวอักษรและตัวเลขมากมายโผล่ขึ้นมาบนเมจิคัลโฟนของเธอ ฟาฟกระพือปีกเป็นระยะๆและผงสีทองก็กระจายออกมาในแต่ละครั้ง เมื่อบรรทัดตัวอักษรหยุดลง มันก็มีเสียงสังเคราะห์ว่า “ปอน” ดังขึ้นพร้อมกับฟาฟที่หยุดตัวในเวลาเดียวกัน
“อ๊ะ อันดับหนึ่งเปลี่ยนไปแล้ว ปอน ตอนนี้สไตล์เลอร์ มิมิมีธงนำอยู่สามผืน—”
“เอาล่ะค่า สไตล์เลอร์ มิมิ!” แพมมี่ร้อง
“เปลี่ยนอีกแล้วปอน ตอนนี้อัมเบรนนำอยู่หนึ่งผืน—”
“เอาล่ะค่า อัมเบรนขึ้นนำแล้ว!”
เงินรางวัลมีไว้สำหรับอันดับหนึ่งเพียงอันดับเดียวเท่านั้น มันไม่มีเกียรติบัตรหรือถ้วยรางวัลให้ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ตั้งแต่อันดับสองลงไปจะไม่ถูกประกาศชื่อออกมาด้วย ต่อให้พยายามโม้เรื่องนี้แค่ไหน มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรนอกจากเป็นแค่คำพูดของตัวเอง ดังนั้นคนส่วนใหญ่จะเล็งไปที่อันดับหนึ่งไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็ตาม ซึ่งมันทำให้การแข่งขันเพื่อแย่งชิงอันดับหนึ่งรุนแรงขึ้น
“ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงแล้วปอน คนที่ทำคะแนนสูงสุดคือ… อัมเบรน, ดัชเชส, ทวินสตาร์คิวตี้อัลแตร์, บลูโคเม็ท, อุตาคัทตะ, ซานาเอะ อุทาทาเนะ, ไมยะ, บาร์เทอร์ รันโกะ, โมรุ-โมรุ มอร์ก, สไตล์เลอร์ มิมิ แล้วก็ปุจิ-เดวี่ เหมือนว่าตอนท้ายทุกคนจะกลายเป็นที่หนึ่งได้หมดเลย ปอน”
“ใครกันนะที่จะเป็นที่หนึ่ง?! การนับถอยหลังเริ่มต้นขึ้นแล้วค่ะ!”
มาโอแพมเอาปลายนิ้วมาแตะไว้ที่ระหว่างดวงตา คิ้วของเธอย่นเข้าหากัน
กลุ่มโรงเรียนกวดวิชามาโอไปได้ไม่ดีเท่าที่คิด คนเดียวที่เหลืออยู่ที่สามารถขึ้นไปที่หนึ่งได้ก็คือคิวตี้อัลแตร์ ชื่อของนักเรียนคนอื่นๆและคนที่จบการศึกษาไปแล้วไม่โผล่ขึ้นมาเลย
แม้จะเลี่ยงไม่ได้ว่าสองอันดับแรกที่มีความสามารถมากที่สุด —แครนเบอร์รี่และมาริกะ— เข้าปะทะกันตั้งแต่เริ่ม ส่วนคนอื่นๆล้วนมีแต่ปัญหา เอมี่กับโมนาโกะนั้นตกรอบไปอย่างรวดเร็วแล้วพากันวิ่งเล่นอยู่รอบๆเต็นท์ปฐมพยาบาล พอมาโอแพมตะโกนใส่พวกเธอว่า หากมีเวลาว่างมากนัก ก็ไปช่วยทีมปฐมพยาบาลหน่อย ทั้งคู่ก็หายตัวไป แพมเองก็ไม่ได้รับแจ้งว่าเอมี่และโมนาโกะเข้าไปช่วยทีมปฐมพยาบาลด้วย ส่วนนักเรียนคนอื่นและคนที่จบการศึกษาไปแล้วก็ไม่ต่างกันมากนัก
มาโอแพมสงสัยว่า มันคงเป็นความผิดของเธอเอง การที่บอกทุกคนว่าอย่าประมาทผู้เข้าร่วมจากภายนอกมันเท่ากับการที่บอกว่าอย่าไปจริงจังกับอีกฝ่าย ดังนั้นจึงไปแปลกใจเลยที่พวกเธอจะตีความว่า “ไม่จำเป็นต้องจริงหรอก สบายๆก็ได้”
ตราบใดที่คนที่แข็งแกร่งที่สุดชนะ แพมก็โอเคกับมัน เธอโอเคกับมันก็จริง แต่ในความจริงแล้วเมื่องานใกล้จะจบ เธอก็พบว่าตัวเองหวังให้มีคนจากโรงเรียนกวดวิชามาโออีกซักสองสามคนยังคงอยู่
ต่อให้ไม่แสดงอคติออกมา เธอก็โกหกหัวใจตัวเองไม่ได้
มาโอแพมใช้มือซ้ายกดเข้าที่ระหว่างดวงตา จากนั้นก็เอาไปสัมผัสที่ด้านข้างศีรษะ เธอรู้สึกว่าตัวเองมีไข้
กลุ่มของโรงเรียนกวดวิชามาโอซึ่งรวมตัวของแพมเองด้วย ประมาทผู้เข้าร่วมจากภายนอกมากเกินไป อย่าประมาทแขกงั้นเหรอ? เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? คนพวกนี้จะประมาทไม่ได้เลย แม้แต่แพมที่เป็นคนสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมเองก็ยังไม่รู้ตัว นี่คือผลลัพธ์ของการกังวลแบบผิดที่ผิดทางที่เธอต้องกำจัดทิ้งและคิดว่าอีกฝ่ายมีความสามารถในการต่อสู้แค่ระดับกลางเท่านั้น
ชั้นนี่แหละควรเป็นคนที่ไตร่ตรองการกระทำของตัวเองมากที่สุด
มาโอแพมจมตัวลงไปในเก้าอี้ของเธอและมองขึ้นไปยังเพดานเต็นท์ เมื่อกระดูกสันหลังของเธอส่งเสียงแกร๊ก มาโอแพมก็พุ่งตัวขึ้นจากเก้าอี้ เตรียมตัวเองพร้อม และหันหน้าไปที่โต๊ะ ฟาฟไม่รู้ตัว ผู้ประกาศเองก็ดูจอมอนิเตอร์อยู่
มีเมจิคัลเกิร์ลอยู่ตรงนี้ ใบหน้าของเธอถูกหน้ากากกันแก๊สชนิดหนาสวมทับเอาไว้ เธอไม่ใช่หนึ่งในผู้เข้าร่วม เธอไม่ใช่คนที่มาโอแพมรู้จัก เธอคลานออกมาจากใต้เมจิคัลโฟนที่กองกันเป็นภูเขา ชุดของเธอเป็นสีดำล้วน เส้นผมที่สยายไปด้านหลังเองก็เป็นสีดำ ปีกแมลงสองปีกที่หลังของเธอก็มีสีดำวาว และมีหนวดยาวๆสองเส้นงอกออกมาจากหัว เธอคือแมลงสาบนั่นเอง
เมื่อมองดูมาโอแพมก็เข้าใจในทันทีว่าอีกฝ่ายคือศัตรู แพมก้าวไปข้างหน้าแล้วก็เตะออกไป เธอทำลายโต๊ะที่มีเมจิคัลโฟนกองกันอยู่ด้านบน จนเมจิคัลโฟนปลิวไปทั่วบริเวณพร้อมกับเศษไม้และโลหะ แต่เมจิคัลเกิร์ลคนนั้นหายตัวไปเรียบร้อยแล้ว สายตาอันยอดเยี่ยมของมาโอแพมจับการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้ทัน เมจิคัลเกิร์ลที่ดูเหมือนแมลงสาบสีดำมุดลงไปด้านล่างเมจิคัลโฟนอีกครั้ง ซึ่งมันเร็วกว่าหมัดของมาโอแพมจะไปโดนตัวเธอ
โต๊ะถูกทำลาย เมจิคัลโฟนกระจายไปทั่วบริเวณ แต่เมจิคัลเกิร์ลกลับไม่ได้อยู่ตรงนี้
ผู้ประกาศเตะเก้าอี้ไปด้านหลังแล้วยืนขึ้น ฟาฟเองก็ตะโกนอะไรบางอย่างออกมา
มาโอแพมหันกลับพร้อมกับเตะออกมาทันที เมจิคัลเกิร์ลชุดดำลอดเข้าไปในรอยแตกระหว่างเต็นท์กับพื้นดินเพื่อหลบการโจมตีของเธอ นี่เวทมนตร์ของเธอคือสามารถเข้าไปในรอยแตกได้ทุกที่งั้นเหรอ?
จากนั้น เธอก็ปรากฏตัวขึ้นที่อีกฝั่งของเต็นท์ ห่างออกไปจากมาโอแพม
เมจิคัลเกิร์ลชุดดำถือก้อนโลหะอยู่ในมือขวา มีสายเคเบิลยื่นออกมาและยังมีสวิตช์บางอย่างอยู่เป็นแถวด้วย ดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์บางอย่าง แต่มาโอแพมไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยี เธอจึงไม่รู้ว่ามันมีไว้ทำอะไร อย่างเดียวที่เธอเข้าใจคือสิ่งนั้นมันอันตราย กระดูกสันหลังของเธอจะส่งเสียงออกมาเมื่อมีสิ่งอันตรายเข้ามาใกล้ในช่วงเวลาที่เงียบสงบ
หากมันคือระเบิด แล้วเกิดระเบิดขึ้นในระยะใกล้ขนาดนี้ เมจิคัลเกิร์ลชุดดำเองก็จะถูกแรงระเบิดไปด้วยแน่ เธอไม่ได้ดูบ้าคลั่งเหมือนกับคนที่เลือกวิธีการโจมตีแบบฆ่าตัวตาย บรรยากาศรอบตัวเธอนั้นตึงเครียดและแห้กผาก เธอดูเหมือนกับพวกมืออาชีพ หากหน้ากากกันแก๊ซนั่นไม่ใช่ของประดับ แบบนั้นเธอก็อาจพ่นแก๊ซออกมาก็ได้ มันอาจจะทำให้แพมหมดสติ ชา หรือตายภายในทันทีนะ?
เมจิคัลเกิร์ลชุดดำเหวี่ยงแขนขวาลงมา เธอกระแทกอุปกรณ์ลงเข้ากับพื้น แพมจินตนาการได้ง่ายๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากอุปกรณ์ถูกกระแทก
ต่อให้เธอจะป้องกันได้ มันก็ยังคงสร้างแรงกระแทรกต่ออุปกรณ์อยู่ดี ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องป้องกันให้อุปกรณ์ไม่ถูกเปิดใช้งาน
หากเธอโจมตีเมจิคัลเกิร์ลจากระยะนี้ มันก็จะไม่ทันเวลา และต่อให้เธอโจมตีเข้าไป อุปกรณ์ก็ยังคงกระแทกเข้ากับพื้นอยู่ดี
หากเธอพยายามเตะอุปกรณ์นั้นออกไป มันอาจจะเกิดแรงกระแทกขึ้นเช่นเดียวกับที่จะกระแทกพื้น เธอไม่มีเวลา ความใจเย็น หรือความรู้มากพอที่จะถอดชิ้นส่วนและปิดการใช้งาน แถมเธอยังหนีไปคนเดียวไม่ได้เพราะเต็นท์ปฐมพยาบาลมันก็อยู่ใกล้ๆ
อีกแง่หนึ่ง ไม่ว่ามาโอแพมจะทำอะไร อุปกรณ์มันก็จะถูกกระแทกอยู่ดี และนั่นก็คือสิ่งที่เมจิคัลเกิร์ลชุดดำเล็งเอาไว้ เธอชี้นำการเคลื่อนไหวของมาโอแพม ทำให้ตัวเองอยู่ห่างออกไปมากพอจนมาโอแพมไปไม่ถึง เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของตัวเอง
ในจังหวะที่อุปกรณ์กำลังจะร่วงลงมา ใครบางคนก็ขยับตัว
ผู้ประกาศแทรกตัวเข้ามาและจับอุปกรณ์ไว้ พร้อมกับเปลี่ยนรูปร่างเป็นวัสดุเหมือนผ้าและสีเป็นสีดำเพื่อห่อหุ้มเพื่อห่ออุปกรณ์ที่เมจิคัลเกิร์ลขว้างมันลงมาเอาไว้ จากนั้นรูปร่างก็กลายเป็นทรงกลมในทันที เสียงระเบิดดังขึ้นลึกจากด้านในทรงกลม ตามด้วยแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้ทรงกลมสีดำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“…เกิดอะไรขึ้นเหรอ ปอน?”
“แค่อุบัติเหตุนิดหน่อย ไม่ต้องห่วงหรอก ที่สำคัญกว่านั้น ช่วยประกาศยอดรวมหน่อย” แพมพูดกับฟาฟ
มาโอแพมดึงเอาปีกออกมาจากหลังและสำรวจรอบตัวอย่างระมัดระวัง เธอสัมผัสไม่ได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษ เมจิคัลเกิร์ลชุดดำคงเป็นผู้ร้ายแบบฉายเดี่ยว เธอไม่ได้หายไปจากในวงกลมเช่นกัน ที่มาโอแพมคิดว่าเธอคงหนีไปไหนไม่ได้หากไม่มีรอยแตกให้ลอดออกมาคือเรื่องที่ถูกต้อง
เมื่อแพมถูกถามว่าจะทำหน้าที่ผู้ประกาศหรือออกความเห็นสำหรับการบันทึก เธอก็ตัดสินใจอย่างง่ายๆว่าจะออกความเห็น แต่ไม่มีเมจิคัลเกิร์ลที่มีความสามารถพอที่จะประกาศเรื่องการต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับการอธิบายของมาโอแพมในงานออกกำลังนี้ได้เลย พอไม่เหลือใครที่จะเป็นผู้ประกาศได้แล้ว แถมแพมเองก็ไม่อยากขัดคนที่อยากสู้ ดังนั้นเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เธอก็คิดว่าจะรับบทเป็นทั้งผู้ประกาศและออกความเห็นด้วยตัวเอง ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนหนึ่งในปีกให้มีรูปร่างแบบเมจิคัลเกิร์ลและควบคุมเธอ สวมสองบทบาทด้วยตัวคนเดียว แบบนี้มันทำให้ผู้ประกาศตามคำอธิบายที่รวดเร็วของแพมทันด้วยเช่นกัน
แพมคิดขึ้นมาแล้วก็อยากหัวเราะ คิดว่าเรื่องที่ทำมันเป็นเรื่องโง่ๆ แต่ก็กลับกลายเป็นความคิดที่ดีจนได้
คนที่โจมตีคงคิดว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าผู้ประกาศ มาโอแพมยังคงระวังตัวในตอนที่ได้ยินเสียงกริ่งที่บ่งบอกว่าหมดเวลา เพียงไม่นานมันก็มีเสียงดังและผู้คนที่ตื่นเต้นอยู่ด้านนอกเต็นท์
“ผลออกมาแล้ว ปอน ทวินสตาร์คิวตี้อัลแตร์ชนะด้วยธงที่นำอยู่หนึ่งผืน”
ในจังหวะนั้น มาโอแพมคิดว่า รักษาชื่อเสียงของตัวเองไว้ได้แล้วสิ จากนั้นเธอก็รู้สึกละอายที่คิดอะไรแบบนี้ออกมา
Chapters
Comments
- ตอนที่ 9.1 Arc 9 - ตอนที่ 10 - นักล่าเมจิคัลเกิร์ล [จบภาคสโนไวท์] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9.09 Arc 9 - ตอนที่ 9 - ห้อง 2-F พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9.08 Arc 9 - ตอนที่ 8 - เมจิคัล ดันเจี้ยน บัสเตอร์ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9.07 Arc 9 - ตอนที่ 7 - เลือดล้างเลือด พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9.06 Arc 9 - ตอนที่ 6 - พวกเราไม่ยอมแพ้ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9.05 Arc 9 - ตอนที่ 5 - หุ่นเชิดผู้เงียบงัน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9.04 Arc 9 - ตอนที่ 4 - แค่เพียงข้างหน้า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9.03 Arc 9 - ตอนที่ 3 - เหล่าผู้บงการรวมตัว พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9.02 Arc 9 - ตอนที่ 2 - กาลครั้งหนึ่ง ณ ที่แห่งนี้ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 9.01 Arc 9 - ตอนที่ 1 - THE LIGHTING TIME พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.512 Arc 8.5 - ตอนที่ 12 - ควีน พรีฟลอป [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.511 Arc 8.5 - ตอนที่ 11 - งานแข่งทำข้าวกล่องของห้อง 2-F พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.509 Arc 8.5 - ตอนที่ 9 - เจ้าหญิงตัวน้อย โนโซมิ ฮิเมโนะ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.508 Arc 8.5 - ตอนที่ 8 - ปาร์ตี้คริสต์มาสจากนรกของโรงเรียนกวดวิชามาโอ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.507 Arc 8.5 - ตอนที่ 7 - ชัฟฟินเรียนเต้น พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.506 Arc 8.5 - ตอนที่ 6 - สโนไวท์ไรซิ่งโปรเจค [แปลใหม่ 2024] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.505 Arc 8.5 - ตอนที่ 5 - วันเทศกาล พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.504 Arc 8.5 - ตอนที่ 4 - เมจิคัลเกิร์ลชุดดำและอัศวินสาว พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.503 Arc 8.5 - ตอนที่ 3 - เมจิคัลเกิร์ล VS ฉลาม พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.502 Arc 8.5 - ตอนที่ 2 - เมจิคัล☆ทดสอบความกล้า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.501 Arc 8.5 - ตอนที่ 1 - เส้นทางของมาโอ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.51 Arc 8.5 - ตอนที่ 10 - ผู้สังเกตการณ์ในรั้วโรงเรียน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.1 Arc 8 - ตอนที่ 10 - ไพตี้ เฟรเดริก้า [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.09 Arc 8 - ตอนที่ 9 - วิธีการของผู้คน วิถีทางของสนามรบ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.08 Arc 8 - ตอนที่ 8 - งานปาร์ตี้ตอนเที่ยงวัน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.07 Arc 8 - ตอนที่ 7 - สิ่งที่ควรเปิดเผยและสิ่งที่ไม่ควรเปิดเผย พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.06 Arc 8 - ตอนที่ 6 - โอกาสในการพบพาน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.05 Arc 8 - ตอนที่ 5 - เตรียมการอย่างระมัดระวัง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.04 Arc 8 - ตอนที่ 4 - ไปงานเทศกาล พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.03 Arc 8 - ตอนที่ 3 - ร่วมด้วยได้ไหม? พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.02 Arc 8 - ตอนที่ 2 - สงสัยจังว่าพวกเราจะเข้ากันได้รึเปล่า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 8.01 Arc 8 - ตอนที่ 1 - นักล่าเมจิคัลเกิร์ลไปโรงเรียน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.525 Arc 7.5 - ตอนที่ 25 - ENDING [จบภาคปลาย] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.524 Arc 7.5 - ตอนที่ 24 - แสงสว่างท่ามกลางความโกลาหล พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.523 Arc 7.5 - ตอนที่ 23 - TUMBLIN’ DICE พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.522 Arc 7.5 - ตอนที่ 22 - จุดจบได้มาถึง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.521 Arc 7.5 - ตอนที่ 21 - ไม่ยอมหักไม่ยอมงอ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.519 Arc 7.5 - ตอนที่ 19 - พลังแห่งชีวิต พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.518 Arc 7.5 - ตอนที่ 18 - ด้วยการรวมพลังของพวกเรา! พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.517 Arc 7.5 - ตอนที่ 17 - ดวงดาวกับเทพธิดา พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.516 Arc 7.5 - ตอนที่ 16 - พวกเราจะไม่ยอมแพ้ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.515 Arc 7.5 - ตอนที่ 15 - จุดไฟในใจฉัน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.514 Arc 7.5 - ตอนที่ 14 - ตอนนี้ในฐานะมนุษย์ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.513 Arc 7.5 - ตอนที่ 13 - ด้วยการรวมพลังของพวกเรา…? พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.512 Arc 7.5 - ตอนที่ 12 - ความปรารถนาที่จะปกป้องและช่วยเหลือ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.511 Arc 7.5 - ตอนที่ 11 - จากหายนะสู่หายนะที่ร้ายแรงยิ่งกว่า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.509 Arc 7.5 - ตอนที่ 9 - จงสู้ จงยืนหยัด จงต่อต้าน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.508 Arc 7.5 - ตอนที่ 8 - เทพธิดา พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.507 Arc 7.5 - ตอนที่ 7 - สารอาหาร สารอาหาร สารอาหาร สารอาหาร สารอาหารไม่เพียงพอ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.506 Arc 7.5 - ตอนที่ 6 - แยกไปทุกแห่งหน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.505 Arc 7.5 - ตอนที่ 5 - ปัญหาแล้วปัญหาเล่า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.504 Arc 7.5 - ตอนที่ 4 - เมจิคัลเกิร์ลในชุดธรรมดา พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.503 Arc 7.5 - ตอนที่ 3 - ทักทายกันจากนั้นก็เกิดเรื่อง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.502 Arc 7.5 - ตอนที่ 2 - บนเกาะซาตาบอร์น พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.501 Arc 7.5 - ตอนที่ 1 - เหล่าคนที่มารวมตัว พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.52 Arc 7.5 - ตอนที่ 20 - ไม่ได้วางแผน ไม่ได้คาดคิด พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.51 Arc 7.5 - ตอนที่ 10 - ทุกอย่างเป็นดั่งโคลนตม [จบภาคต้น] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.09 Arc 7 - ตอนที่ 9 - โรงเรียนแห่งสงคราม [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.08 Arc 7 - ตอนที่ 8 - วันนี้ไม่อยากกลับบ้าน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.07 Arc 7 - ตอนที่ 7 - HEART VS. HEART พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.06 Arc 7 - ตอนที่ 6 - กับดักแสนหวาน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.05 Arc 7 - ตอนที่ 5 - สถานที่ที่ฉันอยู่ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.04 Arc 7 - ตอนที่ 4 - โรงเรียนแห่งการต่อสู้ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.03 Arc 7 - ตอนที่ 3 - วิ่ง วิ่งไป วิ่งเข้าไป นักเรียนแลกเปลี่ยน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.02 Arc 7 - ตอนที่ 2 - ยืนตรง! เคารพ! นั่งได้! พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 7.01 Arc 7 - ตอนที่ 1 - ระฆังโรงเรียนคือสัญญาณแห่งการเริ่มต้น พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.513 Arc 6.5 - ตอนที่ 13 - บทเพลงไว้อาลัยแด่เมจิคัลบอย [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.512 Arc 6.5 - ตอนที่ 12 - เมจิคัลเกิร์ลแอสแซสซิเนชั่นโปรเจ็ค พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.511 Arc 6.5 - ตอนที่ 11 - ปฎิบัติการหนีจากแพททริเซีย พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.509 Arc 6.5 - ตอนที่ 9 - เจ้าหญิงแห่งชายหาด พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.508 Arc 6.5 - ตอนที่ 8 - ปีใหม่และเต่า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.507 Arc 6.5 - ตอนที่ 7 - เมจิคัลเกิร์ลในวันคริสต์มาสอีฟ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.506 Arc 6.5 - ตอนที่ 6 - เพจิกะกับการครุ่นคิดถึงความสุขในฤดูใบไม้ร่วง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.505 Arc 6.5 - ตอนที่ 5 - บันทึกการสร้างเมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจค พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.504 Arc 6.5 - ตอนที่ 4 - ทริค ออร์ เมจิคัลเกิร์ล พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.503 Arc 6.5 - ตอนที่ 3 - ไม่มีเมจิคัลเกิร์ลในงานชมดอกไม้นี้เลย พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.502 Arc 6.5 - ตอนที่ 2 - เมจิคัล ช็อปปิ้ง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.501 Arc 6.5 - ตอนที่ 1 - แม่มด กล่องข้าว และการแสดงความรัก พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.51 Arc 6.5 - ตอนที่ 10 - เซอร์ไววัลเกมแห่งนรกของโรงเรียนกวดวิชามาโอ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.1 Arc 6 - ตอนที่ 10 - ทุกสิ่งเพื่อเธอ [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.09 Arc 6 - ตอนที่ 9 - นักล่าเมจิคัลเกิร์ล พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.08 Arc 6 - ตอนที่ 8 - โจมตีมันด้วยทุกอย่างที่เรามี พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.07 Arc 6 - ตอนที่ 7 - แม้เพียงปลายนิ้วก็มิอาจแตะต้อง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.06 Arc 6 - ตอนที่ 6 - ประกายแสงอันเป็นนิรันดร์ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.05 Arc 6 - ตอนที่ 5 - ของขวัญอันแสนคิดถึง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.04 Arc 6 - ตอนที่ 4 - สนามเด็กเล่นขององค์ราชินี พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.03 Arc 6 - ตอนที่ 3 - มาเป็นเพื่อนกันเถอะ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.02 Arc 6 - ตอนที่ 2 - สโนไวท์กับเด็กเลี้ยงแกะ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 6.01 Arc 6 - ตอนที่ 1 - การต่อสู้ครั้งสุดท้ายในมือคู่นี้ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.711 Arc 5.2 - ตอนที่ 11 - สัมภาษณ์กับสวิมสวิม [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.709 Arc 5.2 - ตอนที่ 9 - อลิส อิน ฮาร์ดกอร์แลนด์ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.708 Arc 5.2 - ตอนที่ 8 - Guns or Roses? พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.707 Arc 5.2 - ตอนที่ 7 - เงื่อนไขในการดัดแปลงเป็นอนิเม พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.706 Arc 5.2 - ตอนที่ 6 - เจ้าชายของชมรม พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.705 Arc 5.2 - ตอนที่ 5 - ความกังวลของท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.704 Arc 5.2 - ตอนที่ 4 - งานของนางฟ้ายากูซ่า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.703 Arc 5.2 - ตอนที่ 3 - รูปแบบของเมจิคัลเกิร์ล พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.702 Arc 5.2 - ตอนที่ 2 - ท็อปสปีดของท็อปสปีด พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.701 Arc 5.2 - ตอนที่ 1 - การต่อสู้ของอัศวินสาวผู้โดดเดี่ยว DIRECTOR CUT พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.611 Arc 5.1 - ตอนที่ 11 - เมจิคัลเกิร์ลสีฟ้ายุ่งชะมัดเลย [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.609 Arc 5.1 - ตอนที่ 9 - เอลฟ์แห่งหน่วยสืบสวน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.608 Arc 5.1 - ตอนที่ 8 - ชีวิตจริงของพวกเราถูกเติมเต็มแล้วงั้นเหรอ? พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.607 restart พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.606 Arc 5.1 - ตอนที่ 6 - พริมูล่า ฟาริโนซ่า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.605 Arc 5.1 - ตอนที่ 5 - ยิ่งกว่าสามเศร้า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.604 Arc 5.1 - ตอนที่ 4 - มิตรภาพแห่งสายรุ้ง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.603 Arc 5.1 - ตอนที่ 3 - เพราะพวกเราอยากโค่นล้มมาโอ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.602 Arc 5.1 - ตอนที่ 2 - บทเพลงอันรวดเร็ว พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.601 Arc 5.1 - ตอนที่ 1 - แว่นกันลมและเต่า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.71 Arc 5.2 - ตอนที่ 10 - บางครั้งทามะก็เป็นแบบนี้ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.61 คดีสังหารจอมเวท พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.5 Arc 5 - ตอนที่ 5 - ลาก่อนเพื่อนของฉัน [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.4 Arc 5 - ตอนที่ 4 - พุ่งทะยานผ่านเมืองใหญ่ ข้ามผ่านเหนือเทือกเขา พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.3 Arc 5 - ตอนที่ 3 - จับมือกับฉัน ณ สวนสนุก พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.2 Arc 5 - ตอนที่ 2 - ช่วงชิงโชคชะตา พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 5.1 Arc 5 - ตอนที่ 1 - เริ่มต้นอย่างเร่าร้อน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 4.6 Arc 4 - ตอนที่ 6 - นักล่าเมจิคัลเกิร์ล [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 4.5 Arc 4 - ตอนที่ 5 - โป๊กเกอร์เกม พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 4.4 Arc 4 - ตอนที่ 4 - ฉันคือคนร้าย พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 4.3 Arc 4 - ตอนที่ 3 - การพบพานอันแสนมหัศจรรย์ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 4.2 Arc 4 - ตอนที่ 2 - ทุกคนรวมพล พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 4.1 Arc 4 - ตอนที่ 1 - เหนือกว่าปริซึม พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.12 Arc 3 - ตอนที่ 12 - เมจิคัลเกิร์ลในตัวคุณ [จบภาคปลาย] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.11 Arc 3 - ตอนที่ 11 - เพื่อนของฉัน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.1 Arc 3 - ตอนที่ 10 - ก้าวเดินบนสายรุ้ง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.09 Arc 3 - ตอนที่ 9 - ปีศาจท่ามกลางเปลวเพลิง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.08 Arc 3 - ตอนที่ 8 - การมาเยือน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.07 Arc 3 - ตอนที่ 7 - การจู่โจมของแม่มด พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.06 Arc 3 - ตอนที่ 6 - จุดเริ่มต้นของจุดจบ [จบภาคต้น] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.05 Arc 3 - ตอนที่ 5 - เผชิญหน้า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.04 Arc 3 - ตอนที่ 4 - ฮีโร่หรือไอดอล? พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.03 Arc 3 - ตอนที่ 3 - เด็กสาวที่หวนกลับมาจากคุกที่ลึกที่สุด พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.02 Arc 3 - ตอนที่ 2 - จมอยู่ในหัวใจและความรัก พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 3.01 Arc 3 - ตอนที่ 1 - ก่อตั้งหน่วยเมจิคัลเกิร์ล พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.515 Arc 2.5 - ตอนที่ 15 - เพื่อนของคุณแคลนเทล [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.514 Arc 2.5 - ตอนที่ 14 - ความทรงจำของเมจิคัลเกิร์ลสีฟ้า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.513 Arc 2.5 - ตอนที่ 13 - เมจิคัลเกิร์ลนอกรีต พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.512 Arc 2.5 - ตอนที่ 12 - คดีเนื้อวัวที่หายไป ~ แต่คุณเมดเห็นนะ ~ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.511 Arc 2.5 - ตอนที่ 11 - อัศวินในวันหยุด พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.509 Arc 2.5 - ตอนที่ 9 - มาเล่นกับท็อปสปีดกันเถอะ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.508 Arc 2.5 - ตอนที่ 8 - @เนี๊ยวเนี๊ยวในเมือง N พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.507 Arc 2.5 - ตอนที่ 7 - วอนเดอร์ดรีม พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.506 Arc 2.5 - ตอนที่ 6 - เชอร์น่า คริสต์มาส พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.505 Arc 2.5 - ตอนที่ 5 - เมจิคัลเดซี่ ตอนที่ 22 พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.504 Arc 2.5 - ตอนที่ 4 - ซอมบี้ เวสเทิร์น พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.503 Arc 2.5 - ตอนที่ 3 - ผลแห่งนางฟ้า พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.502 Arc 2.5 - ตอนที่ 2 - หุ่นยนต์กับแม่ชี พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.501 Arc 2.5 - ตอนที่ 1 - การผจญภัยของเนมุริน พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.51 Arc 2.5 - ตอนที่ 10 - อาคาเนะและครอบครัวเมจิคัลเกิร์ลอันแสนสุข พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.11 Arc 2 - ตอนที่ 11 - และอื่นๆอีกมากมาย [จบภาคปลาย] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.1 Arc 2 - ตอนที่ 10 - เพจิกะในโลกแห่งการสรรสร้าง พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.09 Arc 2 - ตอนที่ 9 - เหล่าเด็กสาว พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.08 Arc 2 - ตอนที่ 8 - ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.07 Arc 2 - ตอนที่ 7 - ความฝันของลาซูไลน์ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.06 Arc 2 - ตอนที่ 6 - ลบและบวก พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.05 Arc 2 - ตอนที่ 5 - สาวจีนกับมังกรยักษ์ [จบภาคต้น] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.04 Arc 2 - ตอนที่ 4 - แคนดี้ลึกลับ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.03 Arc 2 - ตอนที่ 3 - นักสืบและคดีฆาตกรรม พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.02 Arc 2 - ตอนที่ 2 - อาหารอร่อยๆ ทำให้ทุกคนมีความสุข พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 2.01 Arc 2 - ตอนที่ 1 - สวัสดีเดซี่ พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 1.5 Arc 1.5 - Snow White Raising Project [จบภาค] พฤษภาคม 26, 2025
- ตอนที่ 0.1 Arc 0.1 - unripe duet พฤษภาคม 26, 2025
MANGA DISCUSSION