เมจิคัลเกิร์ลนอกรีต
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นก่อนที่การแข่งขันรวบรวมเมจิคัลแคนดี้
ในเมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจคจะเริ่มต้นขึ้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์
จินบังเหม่ย เริ่มปฎิบัติการในเมือง N มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เดิมทีนั้นเมือง N ถูกปกครองโดยชาวฝูเจี้ยนที่ชื่อหลี่ซินหยวน องค์กรของพวกเขานั้นทำงานอะไรหลายอย่างในเมือง N สิ่งที่องค์กรท้องถิ่นจำเป็นต้องทำหรือไม่มีความรู้พอที่จะทำมันได้ เช่น การปลอมแปลงพาสปอร์ต, การลักลอบนำเข้าวัตถุผิดกฎหมาย หรืออื่นๆ ด้วยความเชี่ยวชาญนี้ทำให้พวกเขาสามารถกระทำการได้อย่างอิสระ ด้วยเหตุผลบางประการ หลี่ซินหยวน จึงมาทำหน้าที่แทน จินบังเหม่ย
ชาวเซี่ยงไฮ้ จินบังเหม่ย และชาวฝูเจี้ยน หลี่ซินหยวน ไม่ถูกกันมานานแล้ว บางทีอาจจะตั้งแต่ก่อนสงครามเวียดนามด้วยซ้ำ พวกเขานั้นสู้กันด้วยคำพูดและกำปั้นมาหลายปีแล้ว แต่มันก็เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่หัวหน้าของ จินบังเหม่ย นั้นถูกเปลี่ยนตัว และนั่นก็เป็นเหตุให้หัวหน้าของทั้งสองฝ่ายจับมือกัน
พวกเขานั้นไม่ได้หลับหูหลับตาสู้กัน พวกเขาให้ค่ากับเกียรติมากกว่าสิ่งใด เพื่อที่จะสร้างสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้พ่ายแพ้ พวกเขารับและมอบความรับผิดชอบและการควบคุมอย่างระมัดระวังตามการประชุมลับ
ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามทำลายภาพลักษณ์ของอีกฝ่าย และบอกว่าทั้งคู่นั้น “ชนะ”
ดังนั้นจินบังเหม่ยจึงสืบทอดธุรกิจในเมือง N ของหลี่ซินหยวนไป แต่ถ้านี่เป็นเพียงการสืบทอดแบบธรรมดาๆ มันก็คงไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะพวกเขานั้นสามารถแบ่งอาณาเขตกันกับพวกแก๊งท้องถิ่น เท็ตสึวะ-ไค ได้
ปัญหาก็คือการที่หลี่ซินหยวนนั้นกระทำกับเท็ตสึวะ-ไคซึ่งตรงข้ามกับที่พูดไว้ ซึ่งดูจากฉากหน้าแล้ว หลี่ซินหยวนกับเท็ตสึวะ-ไคนั้นเข้ากันได้ดี หลี่ซินหยวนนั้นไม่ได้แตะที่มาแหล่งรายได้ของเท็ตสึวะ-ไค ที่ได้มาจากการปลอมแปลงพาสปอร์ตและลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย…หรืออะไรที่ดูเหมือนแบบนั้น ในความจริงแล้ว พวกเขาน้้นขายยาผิดกฎหมาย, เป็นเจ้ามือแทงม้าในสนามแข่ง และเปิดการ้านไพ่นกกระจอกโดยไม่มีใบอนุญาต เท็ตสึวะ-ไคนั้นไม่กลุ่มของคนโง่ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้ การดำเนินนั้นมันอยู่ในขอบเขตเล็กๆ ดังนั้นทางหลี่ซินหยวนจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้
แต่เมื่อหลี่ซินหยวนและจินบังเหม่ยนั้นเปลี่ยนตัวกัน แม้ว่าหลี่ซินหยวนจะอธิบายให้จินบังเหม่ยว่าพวกเขาทำงานประเภทไหนและทำได้ยังไง แต่ไม่ได้สอนเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยให้ ดังนั้นจินบังเหม่ยจึงกระตือรือร้นในการทำงาน แต่เท็ตสึวะ-ไคก็เห็นว่า อำนาจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆของหลี่ซินหยวนนั้นราวกับพยายามจะยึดครองเมือง
ดังนั้นเท็ตสึวะ-ไคจึงสั่งให้บอดี้การ์ดที่เป็นเมจิคัลเกิร์ลไปโจมตีฐานที่มั่นของจินบังเหม่ย เมจิคัลเกิร์ลสไตล์คาวบอยจัดการทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว และกองกำลังของจินบังเหม่ยก็ถูกลบล้างออกไปจากเมือง N
“ถ้าทุกอย่างจงลงโดยเร็วมันก็คงง่ายขึ้น แต่มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ”
ชายชราถอนหายใจออกมา และเอียงแก้วที่อยู่ในมือขวาของเขา แล้วก็ทำให้คอของเขาชุ่มชื้นด้วยของเหลวสีแดง
“จินบังเหม่ยน่ะรู้ว่าพวกนั้นโดนดูถูกแบบไหน และรู้ว่าพวกนั้นต้องการล้างแค้นด้วย”
“แล้ว?”
ชายชรากังวลเรื่องคู่สนทนาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามในโทรศัพท์ตรงมือซ้ายตัวเอง
“พูดแบบนั้นไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ ว่าไหม? ที่ชั้นโทรมาเนี่ยเพราะเป็นห่วงเธอในฐานะเพื่อน เมือง N น่ะมันอันตราย ชั้นพูดไม่ได้ว่า มันเป็นที่ที่เหมาะจะให้เมจิคัลเกิร์ลซ่อนตัวหรอกนะ”
“ฉันไม่ต้องการเพื่อน มันเป็นแค่อุปสรรค นายเองก็เป็นแค่คู่ค้าทางธุรกิจ”
เสียงที่ดังมาจากโทรศัพท์เป็นเสียงของเด็กผู้หญิง ซึ่งมันตรงข้ามกับน้ำเสียงของเขา เสียงนั้นต่ำและฟังดูสงบนิ่ง ชายชราจึงวางแก้วที่มือขวาลงบนโต๊ะ
“นี่ยังคงยึดมั่นในความรักที่ไม่สมหวังตอนอายุเท่านี้อีกงั้นเรอะ?”
ไม่มีการตอบสนองเรื่องคำพูดที่ไม่ดีจากเด็กสาวที่อยู่อีกฝากของโทรศัพท์
“จะว่าไปแล้ว น้ำตาเมอร์เมด เป็นยังไงบ้างล่ะ?”
“นี่อยากทะเลาะกับฉันงั้นเหรอ? ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่ ไม่มีเวลาว่างจะคุยกับนายหรอก”
“ทะเลาะเหรอ? ฟังนะ เรื่องที่ชั้นพูดไปน่ะมันสำคัญ ตอนนี้เมือง N น่ะอันตราย ย้ายไปที่อื่นเถอะ”
โทรศัพท์นั้นตัดสายไป ชายชราก็ขมวดคิ้วและมองไปที่โทรศัพท์ เขาขยับปกคอเสื้อแล้วเอาโทรศัพท์นั้นไปวางไว้บนโต๊ะ และยืดที่ปิดตาออกมาราว 5 เซ็นติเมตรและก็ปล่อยมันจนส่งเสียงออกมา จากนั้นพิงหลังตัวเองบนวีลแชร์แล้วก็ถอนหายใจออกมา เขายืดหลังของตัวเองแล้วหันไปคุยกับชายสวมสูทที่อยู่ข้างๆ
“เฮ้ โทโทยามะ นี่นายเป็นเพื่อนชั้นรึเปล่าเนี่ย?”
______________________________________________________________________
ริปเปิลนั้นยืนอยู่บนดาดฟ้าห้างสรรพสินค้าในนาคายาโดะ ในตอนกลางคืนบนดาดฟ้าห้างสรรพสินค้าเช่นนี้ เธอบอกตัวเองว่าเธอนั้นไม่ได้อารมณ์เสีย ในการมองดูร้านขายของร้อยเยนและร้านป๊อปคอร์นในตอนกลางคืนจากด้านบน เช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกอ่อนไหวเป็นพิเศษ
เธอนั้นเป็นเมจิคัลเกิร์ลมาได้สัปดาห์นึงแล้ว และเธแก็เคยชินกับงานของตัวเองเช่นกัน จำนวนแคนดี้ของเธอจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เธอไม่ได้เจอคาลามิตี้ แมรี่มาตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าไม่เจอกันอีกแบบนั้นก็จะไม่ต้องสู้กันอีก ท็อปสปีดนั้นมาหาเธอทุกๆสองวัน น่ารำคาญจริงๆ แต่อาหารของเธอก็อร่อยสุดๆ
ท็อปสปีดนั้นก็เป็นคนพวกที่บ้าคำเยินยออยู่แล้ว ดังนั้น-
หืม?
เสียงคน ตอนเที่ยงคืนแบบนี้มันไม่มีคนที่อยู่ด้านห้างสรรพสินค้านาคายาโดะแล้วนี่นา แต่เธอที่อยู่บนดาดฟ้าก็ยังคงได้ยินเสียง เธอมองลงมาและเห็นกลุ่มคนหลายๆคน มีคนที่ตะโกนออกมาพร้อมกับยืดแขนเพื่อจับอีกคนหนึ่งแล้วโยนออกไป ในขณะเดียวกันกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ที่ถืออยู่ก็ส่งชายอีกคนลอยขึ้นไปบนฟ้า… ริปเปิลกระโดดขึ้นมาบนรั้วแล้ววิ่งลงไปตามกำแพงของสิ่งก่อสร้าง น่ารำคาญจริงๆ แต่มันได้เวลาที่เมจิคัลเกิร์ลต้องแสดงตัวแล้ว
______________________________________________________________________
น้ำตาเมอร์เมด นั้นคือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายทั้งหมด อัญมณีอความารีนหรือแซฟไฟร์นี้ เป็นของรักของหวงของราชวงศ์ทิวดอร์* ไม่ก็ยอร์ก* หรือจะอะไรก็ตามแต่ อัญมณีนั้นถูกขโมยโดยพ่อบ้านจากบริษัทน้ำมันแล้วก็ถูกขายให้ร้านค้า และให้มีแผนให้ริโอเน็ตต้านั้นรับมันเป็นค่าตอบแทนในงานของเธอ
*กษัตริย์ที่ปกครองราชอาณาจักรอังกฤษและราชอาณาจักรไอร์แลนด์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2028 ถึง พ.ศ. 2146
*เมืองโบราณที่อยู่ในนอร์ธยอร์กเชอร์ของอังกฤษ
เธอนั้นไม่ได้มีความสนใจเรื่องอัญมณี แต่มีคนรวยบางคนที่รู้จักพ่อของเธอที่ตายไปแล้ว อยากจะให้ น้ำตาเมอร์เมด เป็นของขวัญกับหลานสาว มันคงทำเงินได้ดีแน่ ถ้าเธอสวมบทเป็นแม่ค้าอัญมณีเพื่อไปเอามันมา อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่ควรเกิดขึ้น
ผู้ว่าจ้างของเธอบอกว่าพวกเขามอบอัญมณีให้เธอไปแล้ว พวกเขายืนยันว่ามีเมจิคัลเกิร์ลที่ถือตุ๊กตามาตามเวลาที่นัดกันไว้ แล้วเอาสิ่งนั้นไป ริโอเน็ตต้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องโกหก เพราะว่าเมื่อริโอเน็ตต้าไปตามนัดมันก็ไม่มีใครอยู่เลย
เพราะความแตกต่างจากสิ่งที่พวกนั้นอ้าง และความจริงที่ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมรับกัน ทำให้ตอนนี้ริโอเน็ตต้าต้องหนีจากอดีตนายจ้างของเธอ เพราะเหตุการณ์นั้นมันทำให้ริโอเน็ตต้ากลายเป็นหัวขโมยที่อยากได้รางวัลสองเท่า แม้ริโอเน็ตต้านั้นอยากตะโกนว่า “พวกแกนั่นแหละที่ไม่ได้ให้มาตั้งแต่แรก!” แต่มันก็ไม่มีใครฟังเธอ เป็นปกติของโลกใบนี้มีเพียงอำนาจเท่านั้นคือความถูกต้อง
นั่นคือเรื่องก่อนที่ริโอเน็ตต้าจะกลายเป็นริโอเน็ตต้า หากผู้คนเข้าใจเรื่องความถูกต้อง แค่เพราะมันมีความถูกต้องอยู่บนโลกใบนี้ล่ะก็ แบบนั้นนตอนนี้ริโอเน็ตต้าก็ยังคงเป็นเด็กสาวที่ร่ำรวยอยู่
เมื่อชีวิตแห่งการหลบหนีของเธอเริ่มขึ้น ริโอเน็ตต้านั้นก็มาซ่อนตัวในเมือง N แต่คนรวยที่รู้จักพ่อของเธอก็เตือนเธอว่า “เมือง N นั้นไม่ปลอดภัย” เธอไม่ได้ชอบขี้หน้าอะไรของเขานัก แต่ในตอนนี้เธอฟังคำแนะนำของเขาแล้วก็ออกจากเมือง N มา แต่เธอก็พบว่าเมื่อตัวเองออกจากที่ซ่อน ก็มีบางคนโผล่ออกมาท้าเธอสู้ คนๆนั้นไม่ได้ตามหาตัวริโอเน็ตต้า แต่เป็นองค์กรที่ตามหาเมจิคัลเกิร์ลเพราะอะไรบางอย่าง… บางทีอาจจะเป็น จินบังเหม่ย ที่พูดถึงในการคุยกันก่อนหน้านี้ก็ได้
เธอไม่อยากเสียเวลาในที่แบบนี้ พวกนักเลงทั้งสามคน เธอโยนพวกมันออกไปหนึ่งคน และจัดการไปอีกหนึ่งคน แล้วก็คนสุดท้ายเธอจะเตะมันให้พ้นทาง แต่คางที่ดูเป็นเหมือนตุ๊กตาของเธอนั้นถูกหยุดไว้ด้วยฝ่ามือนุ่มๆ ขาของเธอก็ถูกหยุดไว้ด้วยนิ้วโป้งเช่นกัน
…อะไรน่ะ?
เธอเห็นเกี๊ยะไม้, ผ้าพันคอสีแดง, เครื่องประดับรูปชูริเคนที่มัดผมสีดำเงางามเป็นทรงโพนี่เทลอยู่ด้านข้าง พวกนักเลงนั้นกลัวจนวิ่งออกไป ริโอเน็ตต้าเองก็ไม่ได้มองพวกนั้นอีกแล้ว
มีคนใส่ชุดแปลกๆที่ดูเหมือนนินจา ใบหน้าเรียวสวย ที่สำคัญเลยคือเธอหยุดการเตะของริโอเน็ตต้าได้ แบบนั้นเธอจึงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากเมจิคัลเกิร์ล ริโอเน็ตต้าวิ่งออกไปอย่างเร็วที่สุด แม้หน้าต่างจะพัง ราวเหล็กจะงอ แต่เธอก็ไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด เธอพุ่งเข้าไปในทางเข้าห้างสรรพสินค้าจนกระจกแตก เธอรู้สึกตัวว่ามีอะไรเธอมา เธอกำลังถูกไล่ตามอยู่ไม่ผิดแน่
______________________________________________________________________
นั่นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นตุ๊กตาขนาดเท่ามนุษย์ที่ขยับได้
ในตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเด็กผู้หญิง แม้ตุ๊กตานั้นจะถูกสร้างอย่างประณีต แต่มันก็ทั้งโยนผู้ชาย จัดการ แล้วก็เตะพวกนั้นได้ ริปเปิลคนที่อยากหยุดการต่อสู้เกิดมีความรู้สึกประหลาดใจที่เจอสถานการณ์ผิดปกติแบบตุ๊กตาเคลื่อนไหวได้เช่นนี้ และเธอเองก็ตอบสนองกับการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันนั้นไม่ได้ จนมันวิ่งพุ่งเข้าไปในห้างสรรพสินค้า
ในตอนนี้สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในห้างสรรพสินค้าแล้ว แต่ริปเปิลนั้นก็ปล่อยเธอไปไม่ได้ ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงนั้นวิ่งเข้าไปในห้างสรรพสินค้าทันทีจนริปเปิลตอบสนองไม่ทัน และยังวิ่งด้วยความเร็วที่ยากจะจับตัวทันอีกด้วย ริปเปิลไม่รู้ว่าตุ๊กตาเด็กผู้หญิงนี้คืออะไร แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่มนุษย์จะจัดการได้ ตุ๊กตานั้นมันโจมตีผู้คน หาเป็นคาโนะ ซาซานามิก็จะปล่อยมันไป แต่ในฐานะริปเปิลเธอทำอย่างนั้นไม่ได้ ชีวิตของเมจิคัลเกิร์ลนี่มันน่ารำคาญซะจริง
ริปเปิลวิ่งขึ้นบันไดสิบขั้นในก้าวเดียว วิ่งทะลวงผ่านสิ่งของต่างๆที่อยู่ด้านใน ตุ๊กตานั้นพุ่งเข้าหาเธอจากด้านข้าง เธอนั้นตกใจแต่ก็ขว้างคุไนสวนกลับไป และหลังจากที่ไล่ล่ากันจนออกมาที่ชั้นดาดฟ้า
ตุ๊กตานั้นก็หันหลังให้รั้วเหล็กแล้วก็มองกลับมาทางนี้
ริปเปิลถอนหายใจ เอาลมที่อยู่ในปอดออกมาจนหมดในคราวเดียว
______________________________________________________________________
ก่อนอื่นก็ส่งตุ๊กตาออกไป นั่นคือวิธีต่อสู้ของริโอเน็ตต้า ด้วยตุ๊กตาแล้วไม่ว่าจะถูกทำลายซักเท่าไหร่ ตัวเธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ พวกนั้นไม่ใช่คู่หู ไม่ใช่เพื่อน หรือสหาย เป็นแค่วัตถุเท่านั้น เธอไม่รู้สึกอะไรเลยถ้ามันจะโดนทำลาย
หุ่นเชิด…คราวนี้เธอส่งมันไปโจมตี แต่เธอก็สังเกตว่าคู่ต่อสู้นั้นสวนกลับมายังไงด้วย เธอนั้นรวดเร็วแถมยังมีการตัดสินใจที่ดีอีกต่างหาก แม้เธอจะแข็งแกร่ง ริโอเน็ตต้านั้นก็ยังรับมือเธอได้
ปัญหาก็คือเวทมนตร์เฉพาะตัวที่เมจิคัลเกิร์ลคนนั้นใช้ หากเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่ไม่เข้าทางกับริโอเน็ตต้า หรือเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่มีเวทมนตร์ทรงพลังมาก เธอก็จะหาจุดอ่อนไม่ก็หลีกเลี่ยงการต่อสู้ไปเลย
คราวนี้รูปแบบที่ว่ามามันใช้ไม่ได้ คู่ต่อสู้ของเธอขว้างคุไนมาที่ตุ๊กตา คุไนนั้นเปลี่ยนทิศทางและโดนเข้าที่หุ่นเชิด การเปลี่ยนทิศทางแบบนั้นไม่ได้เกิดจากการหมุนหรือความต้านทานในอากาศ นั่นคือเวทมนตร์ของศํตรู สำหรับริโอเน็ตต้าแล้ว มันเป็นเวทมนตร์ที่รับมือได้ง่ายๆ
คนที่ไล่ตามเธอมาคือเมจิคัลเกิร์ลวัยรุ่น ประสบการณ์นั้นยังไล่ตามพลังไม่ได้ ด้วยอายุแล้ว เธอนั้นแตกต่างจากริโอเน็ตต้า เธอฆ่า ฆ่า แล้วก็ฆ่า ทำทุกอย่างเพื่อเงิน ใช้เวทมนตร์ของตัวเองเพื่อตัวเอง เธอทิ้งการช่วยเหลือผู้คนไปนานแล้ว จำนวนครั้งที่เธอเห็นการสังหารมันต่างกับริโอเน็ตต้า
ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากพ่อของเธอ ที่ติดหนี้มหาศาลจนไม่มีวันใช้หนี้หมดได้ด้วยการทำงานธรรมดา และทำให้เจ้าหญิงจากตระกูลร่ำรวยอย่างเธอใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้จนต้องทำงานสกปรก เมื่อทำงานสกปรกลงไปครั้งหนึ่งแล้ว เธอก็ถอนตัวออกมาไม่ได้ เลือดที่สีแดงฉานนั้นไม่มีวันหายไปแม้จะล้างซักกี่ครั้งก็ตาม
ริโอเน็ตต้านั้นไม่ได้เริ่มทำงานแบบนี้เพราะอยากจะช่วยพ่อของเธอจากช่วงเวลาลำบาก เธอเลิกสนใจไอ้ขยะแบบนั้นไปแล้ว แต่มันเป็นเพราะคนทวงหนี้ แต่มันเป็นเพราะคนทวงนี้นั้นบังคับพ่อของเธอให้ชดใช้หนี้ตัวเองด้วยตัวของลูกสาว ริโอเน็ตต้านั้นไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพ่อของเธอ เธอนั้นไม่ต้องการเพื่อน, คู่หู หรือสหาย สิ่งที่ผูกมัดตัวเธอคือเงินและความปลอดภัยของตัวเอง แม้ว่าจะมีเพื่อน เธอก็จะแสร้งทำตัวสนิทสนม แล้วเมื่อถึงเวลา เธอก็จะเตะพวกนั้นลงหน้าผาให้หมด จริงๆเธอเองก็ทำอะไรแบบนี้มาหลายครั้งแล้วด้วย
เธอแสร้งทำเป็นวิ่งไปรอบๆ เข้ามาในห้างสรรพสินค้าและใช้เวทมนตร์ของเธอกับตุ๊กตาหลายๆตัว เธอรอให้คนที่ไล่ตามมาขึ้นมาบนดาดฟ้า แล้วเธอก็จะใช้ตุ๊กตาจากในห้างโจมตีจากด้านหลัง โจมทีจากทุกทิศทาง หุ่นเชิด ตุ๊กตาสัตว์ มาสค็อต ด้วยเวทมนตร์ของริโอเน็ตต้า มันจึงทำให้เธอเป็นนักเชิดหุ่นได้ง่ายๆ
______________________________________________________________________
ตอนนี้ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงนั้นควรจะจนมุมแล้ว ริปเปิลนั้นเตะประตูเพื่อดาดออกไป แต่เด็กผู้หญิงที่เธอเผชิญหน้าด้วยนั้นกลับยืนยิ้มอยู่ จากนั้นมีหุ่นเชิดมาโจมตีเธอจากทางด้านหลัง เธอรู้แล้วว่านี่คือกับดัก เธอจึงหันกลับมาแล้วเตะเข้าไปที่หัวหุ่นและขว้างคุไนเข้าไปที่เข่า โจมตีมันจนกระทั่งมันถูกทำลาย แต่มันก็มาอีก ตุ๊กตามันปรากฏตัวขึ้นตัวแล้วตัวเล่าตรงประตูที่เชื่อมต่อระหว่างตัวห้างกับดาดฟ้า ชั้นดาดฟ้าที่มีขนาดพอๆกับสนามเด็กเล่นและมีเครื่องเล่นอยู่เพียงน้อยนิด ในตอนนี้มันคึกคักราวกับว่าเป็นขบวนพาเรด
ริปเปิลกระโดดจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเพื่อย้ายตำแหน่งของตัวเอง ต้องเคลื่อนตัวไปรอบๆไม่งั้นจะโดนล้อมได้ มีอะไรตัวเล็กๆวิ่งผ่านขาของเธอจนทำให้เธอสะดุด เธอเกือบล้มแต่ก็เอามือไปค้ำไว้กับกำแพงได้
หุ่นเชิด เดิมทีมันจะขยับได้โดยใช้สายเชิด แต่พวกมันกลับขยับได้ด้วยตัวเองและเข้ามาหาริปเปิล สายเชิดของพวกมันถูกควบคุมด้วยเวทมนตร์งั้นเหรอ? เพราะมันแข็งแกร่งกว่าปกติเกินไปมาก
หลังจากนั้น พวกตุ๊กตาก็เข้ามาโจมตีเธอ ภายนอกพวกมันดูเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆน่ารัก แต่ว่าแต่ละตัวขอนั้นกลับถือมีดที่บางแต่แหลมคมอยู่ในมือ และในตอนที่ขาของริปเปิลนั้นขยับได้ช้าลง พวกมันก็ฟันริปเปิลเข้าไปทั่วร่าง จนเลือดเริ่มไหลออกมา
ริปเปิลสาบส่งหัวใจตัวเองที่เริ่มรู้สึกกลัว และรู้สึกโกรธที่ร่างกายของเธอที่ไร้เรี่ยวแรง เธอต่อต้านสิ่งเล็กๆเหล่านี้เหมือนกับกัลลิเวอร์* ที่ดิ้นรนในอาณาจักรลิลลิพุต* เธอดึงสายเชิดแล้วแกว่งหุ่นเชิดไปรอบๆ และชักคาตานะของเธอออกมาจากที่หลัง
*ชื่อตัวเอกของวรรณกรรมที่ชื่อว่าการเดินทางของกัลลิเวอร์ เขียนโดยโจนาทาน สวิฟต์ นักเขียนและนักบวชชาวไอริช เป็นวรรณกรรมเสียดสีพฤติกรรมมนุษย์ วิจารณ์สังคม การเมืองอังกฤษ และล้อเลียนวรรณกรรมแนวผจญภัยที่เป็นที่นิยมในขณะนั้น
*อาณาจักรลิลลิพุตหมายถึง ภาคหนึ่งของวรรณกรรมเรื่องการเดินทางของกัลลิเวอร์ ที่ชื่อการเดินทางสู่ลิลลิพุต จะมีฉากหนึ่งที่ตัวเอกกัลลิเวอร์นั้นถูกคนแคระในอาณาจักรลิลลิพุตจับเป็นเชลย ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยเหตุการณ์กับข้อความข้างต้น
เธอฟันพวกตุ๊กตาสัตว์ทิ้ง เตะพวกตุ๊กตาที่เดินเข้ามาหา และกลิ้งเพื่อหลบหมัดของหุ่นเชิด เธอหันไปด้านข้างแล้วเตะ หลบหลีดมีดที่ฟันเข้ามา แล้วก็หันคาตานะไปที่ศัตรูสองตัวที่อยู่ตรงทางเข้า
มันเป็นตุ๊กตาที่ขนาดเท่าคนจริง หนึ่งตัวเป็นสุภาพบุรุษชราภาพที่สวมชุดสูทสีขาว อีกหนึ่งตัวเป็นตัวตลกที่มีผมทรงแอฟโฟรสีแดง จะว่าไปแล้ว เธอวิ่งผ่านร้านฟาสฟู้ดอยู่มาด้วยนี่นา แม้ทั้งสองตัวนั้นดูเหมือนจะไม่ถูกกัน แต่มันก็โจมตีมาที่ริปเปิลอย่างเข้าขากันมาก แถมยังปกปิดจุดอ่อนให้กันอีกด้วย พวกมันโจมตีได้อยู่ครู่หนึ่ง คราวนี้ริปเปิลก็เห็นว่าพวกหุ่นมาโผล่กันออกมาเป็นฝูง บางตัวนั้นก็สวมเสื้อผ้าอยู่ครึ่งหนึ่ง บางตัวก็ไม่สวมอะไรเลย ทุกตัวนั้นรวมตัวกันอยู่ที่ทางเข้าอย่างไร้อารมณ์ใดๆ ส่วนจำนวนนั้น…ริปเปิลหยุดนับเพราะมันมีจำนวนมากเกินไป มันไม่มีประโยชน์
มีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในเงาของหุ่น มันเร็วมากและไม่ใช่ตุ๊กตาด้วย มันสร้างแรงกดดันให้เธออยากยอมแพ้ มันเคลื่อนที่จากเงาหนึ่งไปยังอีกเงาหนึ่ง ซ่อนอยู่หลังตัวตลก แล้วก็ง้างกรงเล็บเข้ามาหาริปเปิล
ริปเปิลหลบมันได้ไม่ทั้งหมด มันเฉือนแก้มของเธอจนเลือดไหลออกมา
มันคือตุ๊กตาตัวแรกที่เธอเห็น ตุ๊กตาเด็กสาวที่มีข้อต่อทรงกลมสวยงาม แต่มันกลับฟาดมือขวาที่มีกรงเล็บเข้ามาโจมตี เด็กสาวตุ๊กตานั้นหลบเข้าไปในเงาอย่างรวดเร็ว และก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง
เหตุผลที่เธอหลบการโจมตีของมันไม่ได้ก็เพราะข้อต่อกับแขนของมันที่ทำให้มีระยะการโจมตีไกลขึ้น ไกลยิ่งกว่าที่ริปเปิลคาดการณ์ไว้ และบิดงอเกินขีดจำกัด เพราะแบบนั้นมันผ่านคาตานะของริปเปิลมาได้ หากริปเปิลไม่งอตัวไปด้านหลังล่ะก็ กรงเล็บนั่นคงเฉือนเส้นเลือดแดงของเธอขาดไปแล้ว
พวกตุ๊กตาจำนวนมากรวมกลุ่มกัน ซ้อนตัวกันราวกับเป็นพีระมิดมนุษย์จนกลายเป็นกำแพงขนาดยักษ์ แต่ในตอนที่ริปเปิลเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก็มีกรงเล็บพุ่งทะลุออกมาจากกำแพง
เธอตอบสนองด้วยการเอามือซ้ายที่ไม่ได้ถือคาตานะไปกันไว้ เธอป้องกันกรงเล็บนั้นไว้ด้วยฝ่ามือได้แต่กรงเล็บนั้นก็แทงทะลุข้อมือเข้ามา เลือดนั้นไหลพุ่งออกมาจากข้อมือซ้าย ริปเปิลนั้นจับกรงเล็บไว้ได้แล้ว
ริปเปิลจับเธอได้แล้ว จากนั้นริปเปิลก็หมุนคาตานะในมือขวาของเธอกลับด้าน เหวี่ยงมันไปที่ตุ๊กตาเด็กผู้หญิง แต่ในทันใดนั้น…เธอได้ยินเสียง คลิก ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงมันถอดข้อมือขวาของตัวเองออกแล้วก้าวถอยหลังกลับไป และคาตานะของริปเปิลก็โดนแต่อากาศ เธอถูกหลอกซะแล้ว แล้วริปเปิลคนที่เสียสมดุลเพราะการโจมตีของตัวเอง ในตอนนั้นเองตัวมาสค็อตของร้านยาที่หัวเป็นกบ* ก็นำเอาพวกตุ๊กตาจำนวนมากมาโจมตีเธอ
*มาสค็อตของบริษัทยา kowa ชื่อว่าเคโระจังกับโคโระจัง
ริปเปิลกระโดดขึ้นไปบนอากาศอย่างรวดเร็ว ที่กลางอากาศนั้นเธอมองเห็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่มีเลือดสีแดงแห่งความโกรธของเธอย้อมอยู่ทั่วร่างอยู่สุดสายตา ริปเปิลหมุนตัวหนึ่งครั้งกลางอากาศ และเมื่อเธอลงมาที่รั้วเธอก็กระโดดต่อไปอีก เธอกระโดดข้ามหัวตุ๊กตาและลงมาข้างๆม้านั่งที่อยู่ตรงกลางดาดฟ้า จากนั้นก็ใช้แรงของตัวเองดึงม้านั่งที่ถูกยึดไว้ออก แล้วก็ยกมันขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิง หุ่นเชิด ตัวตลกกับสุภาพบุรุษ หรือตุ๊กตาทั้งหลายแหล่ที่เข้ามาหาเธอ ริปเปิลโกรธมัน ความโกรธจำนวนมหาศาลพุ่งเข้ามาหาเธอ ผ่านเข้าไปในกระดูกและกล้ามเนื้อ เธอหมุนม้านั่งในมือเป็นวงกลม หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง เหมือนกับสิ่งที่นักมวยปล้ำมืออาชีพเรียกกันว่า “ไจแอนท์สวิง” และขว้างมันไปที่ทางเข้าดาดฟ้า ตรงที่พวกตุ๊กตาเข้ามาหาเธอ ทำลายทุกอย่างที่สายตามองเห็น คอนกรีตพังทลายกลายเป็นฝุ่น และก็มีลมพัดพาฝุ่นที่เกิดขึ้นหายวับไป
ริปเปิลปิดทางที่กำลังเสริมจะเข้ามา ตอนนี้เหลือศัตรูอยู่ตัวเดียวคือเจ้าตุ๊กตานั่น ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงมันกระโดดลงมาจากม้านั่งที่ริปเปิลโยนไปหาเธออย่างสบายๆ ศัตรูที่แข็งแกร่งของเธอยังคงยืนอยู่
______________________________________________________________________
การที่เป็นเด็กนั้นหมายความว่ามีพลังที่เต็มเปี่ยม ริโอเน็ตต้าลอกการโจมตีอย่างรุนแรงอย่างการขว้างม้านั่งแบบนี้ไม่ได้ เธอประหลาดใจแต่มันก็จบเพียงเท่านี้
นั่นเธอหมดแรงเพราะการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเมื่อครู่แล้วงั้นเหรอ? นินจานั้นดูไร้เรี่ยวแรงเหมือนกับว่าพร้อมจะสลบได้ตลอดเวลา เมื่อริโอเน็ตต้าเห็นแบบนี้ก็สบโอกาส เธอวิ่งตรงไปข้างหน้าแล้วก็เตะคอนกรีตที่กระจัดกระจายที่อยู่บริเวณเท้าไปด้วย เธอสวมข้อขวามืออันใหม่แทนที่อันเก่า กำมือแล้วก็กางมันออก
คุไน 10 อันพุ่งเข้ามาหาริโอเน็ตต้า แต่ละอันนั้นพุ่งมาแบบอยู่เหนือกฎฟิสิกส์ ทั้งหมดนั้นตรงเข้ามาหาริโอเน็ตต้า มันมีทั้งความเร็วและความรุนแรง แต่เธอก็อ่านมันออก
เธอป้องกันมันไว้ด้วยมือขวา ปัดคุไนหนึ่งอันไปโดนกับคุไนอีกอัน แล้วก็ใช้มือซ้ายเป็นโล่กันไว้ได้อีกสามอัน เธอหลบอีกหนึ่งได้ด้วยการก้มหัวลงแต่มันก็ทำให้ผ้าคลุมผมของเธอขาด เธอยืดกรงเล็บในมือซ้ายออกมาเพื่อฟาดคุไนสองอันในอากาศ ส่วนคุไนสองอันสุดท้ายมันมาไม่ถึงตัวของริโอเน็ตต้า มันเพียงแค่เสียบลงไปบนพื้นใกล้ๆกับเท้าของเธอ
นั่นเธอใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อขว้างคุไนออกมางั้นเหรอ? เข่าของศัตรูของเธอนั้นพับงอ แถมยังใช้มือขวาพยุงร่างกายไว้อีกด้วย
ริโอเน็ตต้าก้าวเข้าไปไกล้ๆเพื่อที่จะจัดการเธอทิ้ง… จากนั้นช่องว่างระหว่างคุไนสองอันที่เสียบอยู่บนพื้นก็ส่องแสงขึ้นมา มีด้ายโปร่งใสอยู่ระหว่างคุไนอันหนึ่งกับอีกอันหนึ่งงั้นเหรอ? เธอเอาสายเชิดของหุ่นเชิดมาผูกคุไนสองอันเข้าไว้ด้วยกัน เแล้วก็ทำให้ดูเหมือนเธอขว้างพลาด แต่จริงๆแล้วเธอขว้างมันลงไปที่พื้น? เพื่ออะไรกันล่ะ?
เพื่อทำให้ริโอเน็ตต้าสะดุดนั่นเอง
ทันใดนั้น ริโอเน็ตต้าก็ล้มลงแล้วก็จับพื้นไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง แต่นั่นก็กลายเป็นว่ามือของเธอนั้น ไม่สามารถป้องกันชูริเคนที่พุ่งเข้ามาหาจากด้านขวาได้ ใบหน้าของริโอเน็ตต้าถูกเฉือนออกไป
หากเธอมีเนื้อหนังแบบธรรมดา เธอก็คงตายไปแล้ว แต่เพราะร่างกายของริโอเน็ตต้านั้นเป็นตุ๊กตา เพราะแบบนั้นเธอถึงยังมีโอกาสอยู่ เธอเงยหน้าขึ้น และนั่นเป็นเวลาก่อนที่คาตานะจะฟาดลงมาที่ตัวเธอเพียงครู่เดียว
ริโอเน็ตต้ายืดแขนออกมาเพื่อป้องกันตัวเอง และมือขวาของเธอตั้งแต่ข้อศอกลงไปก็ถูกตัดขาด
______________________________________________________________________
ริปเปิลไม่สงสัยอีกแล้วว่าศัตรูนั้นคือใคร หากศัตรูมันพยายามฆ่าเธอ เธอเองก็จะพยายามฆ่าศัตรูเช่นกัน เธอเตะตุ๊กตาเด็กผู้หญิงนั้นขึ้นด้านบน ริปเปิลก็หั่นร่างที่บิดอยู่นั่นจากด้านหลัง เสื้อผ้าสวยๆของตุ๊กตานั่นขาดวิ่นจนเผยให้เห็นร่างที่เป็นไม้ แต่ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงนั้นก็ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
ตุ๊กตานั่นใช้แขนขวาของตัวเองที่ถูกตัดออกก่อนหน้านี้ป้องกันคาตานะของริปเปิล แขนเสื้อนั้นฉีกขาดและเศษชิ้นไม้ก็ปลิวออกมา แขนนั้นดูสั้นลง แต่ตุ๊กตานั้นก็ยังคงฝืนเดินมาด้านหน้า แบบนี้มันก็ง่ายสำหรับริปเปิล
ริปเปิลเลือกที่จะเคลื่อนไหวไปพร้อมกับจังหวะของศัตรู ปล่อยให้ตุ๊กตานั้นผลักเธอถอยกลับไปที่รั้ว ตอนนี้มันลอบโจมตีเธอจากด้านหลังไม่ได้แล้ว ตุ๊กตานั่นเริ่มโจมตีเป็นวงกว้างไปทั่ว ริปเปิลปัดแล้วก็หลบมัน แขนของตุ๊กตานั่นมันยื่นออกมา แต่ริปเปิลก็ทำให้มันเบี่ยงเบนปด้วยสันดาบ เธอได้ยินเสียงรั้วที่อยู่ด้านหลังตัวเองถูกตัดขาด การโจมตีของตุ๊กตามันโดนแค่รั้วเท่านั้น
ริปเปิลเตะแขนซ้ายของศัตรูอย่างแรง และกะจังหวะที่เจ้าตุ๊กตานั้นมันเสียสมดุลเพื่อปกคุไนเข้าไปที่เข่าซ้ายและแทงเข้าไปในข้อต่อของมัน เธอเงื้อคาตานะของตัวเองขึ้นเหนือตัวของตุ๊กตา และตอนที่เธอกำลังจะฟาดมันลงมา ก็มีใครบางคนมาจับตัวเธอจากด้านหลัง ความรู้สึกเย็นๆของเหล็กแทงทะลุผ่านเข้ามาในผิวหนังของริปเปิล คาตานะของเธอนั้นขยับไม่ได้
แต่เธอทำลายตุ๊กตาไปหมดแล้วนี่นา แถมยังปิดทางเข้าที่พวกมันจะปรากฏตัวขึ้นมาแล้วด้วย มันไม่ควรมีอะไรเข้ามาจากด้านหลังสิ ทันใดนั้นกรงเล็บก็แทงเข้าไปที่ริปเปิลคนที่กำลังสับสนอยู่ แต่เธอก็เอี้ยวตัวหลบ แล้วก็เตะเข้าไปที่จุดบอดที่ด้านหลังศีรษะที่ตาของเธอมองไม่เห็น และในตัวที่เธอรู้ตัวว่ากรงเล็บนั้นเป็นเพียงแค่กลลวง ริปเปิลก็หมดสติไปแล้ว
______________________________________________________________________
คนที่ไล่ตามเธอมาเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่ทรงพลัง เธอเตรียมตัวมาทั้งฆ่าและถูกฆ่า แม้จะถูกไล่ต้อนจนมุม เธอก็ยังมีเปลวไฟเล็กๆอยู่ภายในหัวใจ หากเป็นสาม สอง หรือหนึ่งปีให้หลังล่ะก็ ริโอเน็ตต้าคงจะเป็นคนที่ถูกจัดการซะเองแน่ แต่อย่างไรตอนคราวนี้คือชัยชนะของริโอเน็ตต้า
ริโอเน็ตต้ายกเลิกเวทมนตร์ที่ใช้กับตุ๊กตาที่จับตัวคนที่ไล่ตามเธอมา และตุ๊กตานั้นก็คืนร่างเป็นตาข่ายเหล็กแล้วก็ร่วงลงกองไปกับพื้น ในขั้นสุดท้าย ริโอเน็ตต้านั้นแสร้งทำเป็นโจมตีอย่างหมดหวัง ในขณะที่ตัวเธอนั้นตัดรั้วเหล็กที่อยู่ด้านหลังเด็กสาวนินจาคนนั้นออกเป็นรูปร่างตุ๊กตา แม้จะทำอย่างเร่งรีบ ราวกับว่าจะพังได้ตลอดเวลา แต่ตุ๊กตาก็คือตุ๊กตา ริโอเน็ตต้าควบคุมรั้วที่ตัดออกมาเพื่อจับคนที่ไล่ตามเธอมาจากด้านหลังเอาไว้
ริโอเน็ตต้าเข้าใกล้คนที่ไล่ตามเธอมาที่ไม่ได้ขยับเขยื้อน ความเสียหายของเข้าซ้ายที่เธอได้รับนั้นรุนแรง การเคลื่อนไหวของตัวเองก็แปลกไป แต่เธอก็คงยังจัดการได้ หากไม่ฆ่าเธอในวันนี้ ซักวันหนึ่ง เธออาจะคงต้องแพ้แน่
ริโอเน็ตต้ากำนิ้วในมือซ้ายเข้าด้วยกัน แล้วเล็งไปที่คอของคนที่ไล่ตาม-
“เดี๋ยวก่อน”
เธอสัมผัสไม่ได้ถึงอะไรเลย ริโอเน็ตต้าก้มตัวลงต่ำแล้วก็มองหาต้นเสียงนั้นว่ามาจากทางไหน ต้นเสียงนั้นเป็นผู้หญิงอายุยังน้อย มีดวงจันทร์เป็นฉากหลัง เงาของเธอทอดยาวอยู่บนดาดฟ้าที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง เข่าซ้ายของเธอก็เคลื่อนไหวได้ไม่ดี แขนขวาของเธอก็พัง พลังในการต่อสู้ของเธอเหลืออยู่เพียงแค่นิดเดียว
“ขออภัยนะ แต่ช่วยปล่อยเธอไปได้ไหม? อีกไม่นานการทดสอบของเธอก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว”
อีกฝ่ายนั้นมีเถาวัลย์พันอยู่รอบขา และมีดอกกุหลาบอยู่ที่ไหล่ แม้จะเป็นเมจิคัลเกิร์ล แต่ตัวเธอนั้นก็ดูแฟนซี เธอไม่เคยเจอเมจิคัลเกิร์ลคนนี้มาก่อน ทั้งเสียงทั้งรูปลักษณ์ดูไม่คุ้นเคย แต่ลึกๆภายในหัวใจของเธอนั้นกลับสั่นรัว
“ถ้าเธอไม่สนใจล่ะก็ บางที เราจะสู้กับเธอเอง ถ้าเธอหวังเช่นนั้น เราจะเป็นคู่ต่อสู้ให้อีกครั้ง ผลลัพธ์มันอาจจะต่างจากคราวที่แล้วก็ได้”
สัญชาติญาณมันบอกเธอว่า หากสู้กันที่นี่เธอจะแพ้แน่ เธอจึกถอยหลังออกไปอย่างช้าๆ
“โชคชะตานี่เป็นสิ่งที่แปลกซะจริงนะ นี่พวกเราหลีกเลี่ยงโชคชะตาที่จะพบกันไม่ได้รึไงนะ? เราได้ยินว่าเรื่องแบบนี้เกิดกับเมจิคัลเกิร์ลบ่อยๆด้วยสิ…”
ริโอเน็ตต้าหันหลัง แล้ววิ่งลงมาจากห้างสรรพสินค้าราวกับสัตว์ป่า สลัดความกลัวที่คืบคลานขึ้นมาจากขาของเธอออกไป ไม่ทำอะไรอย่างอื่นนอกจากวิ่ง และบอกตัวเองว่า ถ้าสู้แล้วไม่ได้เงินก็ไม่ต้องสู้หรอก
______________________________________________________________________
เธอได้ยินเสียงของไซเรน ของทั้งรถตำรวจและรถพยาบาล คนมุงดูเริ่มมารวมตัวที่หน้าห้างสรรพสินค้าแล้ว
ริปเปิลถอนหายใจออกมาแล้วมองลงไปด้านล่าง ดาดฟ้าที่ควรจะเป็นสถานที่ไว้สำหรับพักผ่อน ตอนนี้กลับพังราบ แถมยังมีพวกหุ่นและตุ๊กตาสัตว์กองระเนระนาดอยู่ทั่วห้างสรรพสินค้า
“แล้ว…เธอจะบอกฉันรึเปล่าล่ะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
ท็อปสปีดที่นั่งอยู่ด้านหน้าพูดออกมาด้วยเสียงที่ฟังดูหวาดกลัวนิดๆ
ตอนที่ริปเปิลได้สติ เธอก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่ที่ด้านหลังของราพิดสวอลโลว์แล้ว ในตอนที่ท็อปสปีดมาถึง เธอก็บอกว่าริปเปิลนั้นนอนอยู่บนดาดฟ้าของห้างสรรพสินค้าคนเดียว
ริปเปิลแพ้ ความอัปยศและความโกรธนั้นสั่นอยู่ภายในตัวเธอ สั่นเหมือนกับหน้าต่างที่อยู่ท่ามกลางพายุฝุ่น ที่สำคัญกว่านั้น เธอโกรธตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อคิดว่า หากท็อปสปีดอยู่ด้วยเธอก็คงจะชนะไปแล้ว ริปเปิลปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำ จากนั้นก็เขกหัวพี่เลี้ยงของตัวเอง
“โอ๊ย! ทำอะไรของเธอเนี่ย!?”
ริปเปิลน้้นเอาความหงุดหงิดและความเหนื่อยล้าของเธอทั้งหมดไปลงอยู่ที่ลิ้น แล้วเธอก็เดาะลิ้นนั้นอย่างแรงที่สุดเท่าที่ทำได้ รสชาติมันเหมือนเลือดจริงๆ
______________________________________________________________________
“โฮ่ กลับมาเป็นๆได้งั้นเรอะ? ยอดเยี่ยม เอาล่ะ น้ำตาเมอร์เมด เรื่องนั้น… ”
เธอตัดสายทิ้ง ชายชรามองที่โทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งแล้วพึมพำว่า “เมจิคัลเกิร์ลงั้นเรอะ” จากนั้นเขาก็วางโทรศัพท์ลงราวกับหมดความสนใจ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนอารมณ์ในทันใด เขาหันไปหาหลานสาวด้วยท่าทางที่ดูอารมณ์ดีแล้วก็พูดออกมา
“คาโนเอะ หลานชอบเมจิคัลเกิร์ลใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้มีอนิเมมูฟวี่ฉายอยู่นะ”
หลานสาวของชายชราจัดทรงผมม้วนๆของตัวเองด้วยมือซ้าย เธอจัดชายกระโปรงนักเรียนของเองให้เรียบร้อย แล้วนั่งเอาขาชิดติดกัน จากนั้นก็วางจานรองลงบนโต๊ะทรงกลมแล้วตามด้วยวางแก้วชาลงด้านบนอีกที
“คุณปู่จะไม่พูดหน่อยเหรอว่า อยากดูหนังกับหลานสาวสุดแสนจะน่ารักคนนี้ก่อนตายน่ะ?”
“อย่าคิดว่าปู่ตัวเองเป็นคนที่น่าชื่นชมขนาดนั้นสิ ปู่แค่อยากรู้น่ะ”
เด็กสาวที่ดูเด็กกว่าน้ำเสียงของเธอนั้น มีประกายอยู่ในดวงตาที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าคำพูดของเจ้าตัว เธอกระพริบตาอย่างช้าๆ และเมื่อเธอเปิดตาขึ้นมา ประกายในดวงตานั้นก็หายไปแล้ว
“ทุกวันนี้เรื่องราวของเมจิคัลเกิร์ลมีแต่ความรุนแรง ส่วนตัวแล้วหนูชอบเรื่องราวความรักโรแมนติกมากกว่า”
ชายชราไม่ได้รู้สึกถึงประกายในดวงตาของเด็กสาว แล้วก็กางมือออกด้วยท่าทางที่ดูสนุกสนาน
“รักโรแมนติกงั้นเหรอ? หลานคิดว่าดูอะไรแบบนั้นกับปู่แล้วจะสนุกรึไง?”
“ก็ดูด้วยกันกับเพื่อนมันก็สนุกอยู่เสมอนี่นา?”
ทั้งคู่นั้นมองหน้ากันและกัน และบนใบหน้าของทั้งคู่นั้นก็มีรอยยิ้มที่คล้ายกันอีกด้วย
MANGA DISCUSSION