จากผู้แปล
ผู้แปลใช้ฉบับแปล eng ของ tlkun และ yenpress มาผสมกัน ซึ่งทั้งสองเวอร์ชั่นเนื้อหาหลักเหมือนกัน ต่างกันที่สำนวน และมีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องหลัก
ผู้แปลใช้ฉบับ tlkun ยืนพื้น และใช้ของ yenpress มาเสริมในบางประโยค เพราะผู้แปล มี .doc ของฉบับ tlkun ทำให้แปลง่ายกว่า ในส่วน yenpress นั้นผู้แปลเอาฉบับพิมพ์มากางเทียบเอา
รายละเอียดที่ต่างกันในข้อ 1 ผู้แปลจะใส่วงเล็บบอกไว้
ชื่อตัวละครของทั้งสองเวอร์ชั่นมีความแตกต่างกัน เช่น detick bell/detec bell ผู้แปลจะอิงจากของ yenpress เป็นหลัก ยกเว้นบางคนเช่น @nyannyan กับ nokko-chan
พิมพ์ผิด, ตามความคืบหน้า หรืออื่นๆแจ้งได้ที่เพจ https://www.facebook.com/kunmaesofia
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
เมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจคคืออะไร?
☆เกมที่เป็นมิตรสำหรับมือใหม่ ผู้เล่นระดับสูงก็พอใจ!
★เมจิคัลเทรซซิสเต็ม ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในโลกจริงขณะเล่น!
☆กราฟฟิคงดงาม! ระดับเดียวกับโลกจริงเลย!
★ปรับแต่งไอเทมได้นับล้านชิ้น! จงใช้ความคิดสร้างสรรค์ออกมาสิ!
☆ที่สำคัญเลยคือเล่นฟรีตลอดกาล!
ทุกคนคือเมจิคัลเกิร์ล! ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่โลกแห่งดาบและเวทมนต์!
เมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจคได้ถือกำเนิดใหม่เป็นเกมโซเชี่ยลสำหรับเมจิคัลเกิร์ลเท่านั้น!
รวมพลังมิตรภาพกับเมจิคัลเกิร์ลคนอื่น เพื่อกำจัดศัตรูอันแข็งแกร่งด้วยทีมเวิร์ค
ความแข็งแกร่งกับความเมตตา ปัญญาและความกล้าหาญ
เมจิคัลเกิร์ลมีสิ่งเหล่านี้และอีกหลากหลายสิ่ง
การที่จะเอาตัวรอดในโลกใบนี้ได้นั้น จำเป็นต้องใช้พลังและทักษะไปด้วยกัน!
เล่นเพื่อปลดล็อคพื้นที่ที่ถูกปิดอยู่ก่อนหน้านี้ ทำให้เกมมันคืบหน้า!
เอาชนะปีศาจที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน แล้วก็จบเกม!
เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนจบเกม คุณก็จะกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลผู้มีประสบการณ์!
นี่เป็นเกม RPG ก็จริงแต่ก็เป็นการจำลองการฝึกฝนด้วย!
ร่วมทีมกัน 15 คนเพื่อโค่นล้มราชาปีศาจ และนำพาความสุขมาสู่โลกใบนี้
เป้าหมายของเกมนี้… คือจัดการราชาปีศาจ
รางวัลคือเงิน 1 หมื่นล้านเยน
อย่างไรก็ตามจะตกเป็นของผู้ที่จัดการราชาปีศาจได้เท่านั้น
เคลียพื้นที่… 1 ล้านเยน
แต่มันก็จะเป็นรางวัลเฉพาะคนที่ปลดล็อคพื้นที่ใหม่เท่านั้น
รางวัลเข้าร่วม… 1 แสนเยน ว้าว! แค่เล่นเกมก็ได้เงินแล้วนะเนี่ย!
ปฐมบท
“เดซี่! ที่โกดังตรงนั้น!”
พาเล็ตต์ โผล่หัวออกมาจากกระเป๋าเสื้อพูดออกมาและชี้ไปยังอาคารดูเล็กกว่าที่อื่น
มันดูเป็นโกดังเก่าๆ เมจิคัลเดซี่นั้นรู้กว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในโกดังนั่น รู้ว่ามีอะไรน่าสงสัยเกิดขึ้น
เธอวิ่ง และกระโดดจากอาคารฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง
วันนี้มีการค้ายาเสพติดในโกดังที่ย่านชานเมือง
ดินแดนเวทมนตร์จึงได้มอบคำสั่งให้เธอมาโจมตีโกดัง และรายงานกลับไปเมื่อจับคนร้ายได้หมดแล้ว
ในขณะที่เคลื่อนที่อยู่ระหว่างอาคาร
เมจิคัลเดซี่ที่อยู่กลางอากาศนั้นถูกลมที่พัดมาสัมผัสกับ แก้ม ผม กระโปรง และดอกไม้ประดับของเธอ
เธอจ้องมองไปยังอาคาร ชี้นิ้วไปทิศตรงกันข้าม
“เอาล่ะ ไปเลย! เดซี่บีมมมม! ”
__________________________________________________________________
เมจิคัลเกิร์ลได้รับพลังมาจากดินแดนเวทมนตร์ เพื่อประโยชน์ของผู้คน, โลกใบนี้
และเพื่อตัวเองเพียงเล็กน้อย พลังทางกายภาพมีสูงกว่าขีดจำกัดของมนุษย์
การมีอยู่ของพวกเธอท้ายทายกฎของธรรมชาติ
ตั้งแต่โบราณ มันมีเรื่องปาฎิหาริย์ในทางศาสนาหลายอย่าง
พวกนอกรีต, การเล่นแร่แปรธาตุ, ลัทธิบูชาซาตาน, เทพนิยาย และอีกมากมาย
ทั้งหมดนั้นคือรูปแบบหนึ่งของเวทมนตร์
พลังนั้นมีวิธีการใช้ได้มากมายเพื่อก่อเกิดปาฎิหาริย์ เพื่อประโยชน์และความสงบสุขของโลก
ดินแดนเวทมนตร์ ยูโทเปียแห่งความฝันและแฟนตาซี
ในไม่กี่ปีมานี้ได้สรรสร้างวัฒนธรรมที่มีชื่อว่า ‘เมจิคัลเกิร์ล’
อ่อนโยน งดงาม จิตใจที่กล้าหาญ และไม่ยอมแพ้ที่จะปกป้องมนุษย์ชาติ
รูปแบบนั้นได้กระจายออกไปเป็นวงกล้าง เด็กผู้หญิงหลายคนชื่นชอบเมจิคัลเกิร์ล
เด็กผู้ชายเองก็เช่นกัน มิตรมากมายถูกสร้างเพื่อเป็นรากฐานการฝึกฝนแก่ดินแดนเวทมนตร์
ด้วยการปกปิดตัวตนนี้เอง ทำให้เมจิคัลเกิร์ลฝังรากลึกลงไปในสังคม
การกระทำต่างๆเลยยากที่จะรั่วไหลออกมา
แม้จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ในกรณีนั้น ดินแดนเวทมนตร์ยินดีที่จะทำให้การเกิดอุบัติเหตุนั้นลดลง
พูดได้ว่า ความทรงจำของคนและบันทึกของระบบจะได้ถูกลบไป
เรื่องอุบัติเหตุนั้นจึงกลายเป็นการโฆษณาแทน
บางครั้ง การกระทำต่างๆของเมจิคัลเกิร์ล จะถูกดัดแปลงและแก้ไขเป็นอนิเมหรือมังงะ
ในโลกมนุษย์เอง มีคนหลายคนได้รับผลประโยชน์จากดินแดนเวทมนตร์
และที่น่าตกใจคือมีหลายคนที่ทำงานให้ดินแดนเวทมนตร์อยู่ในโลกมนุษย์
พวกเขาเหล่านั้นทำงานในบริษัทฝ่ายผลิตและสถานีโทรทัศน์
ผู้คนจะสนุกสนานไปกับเรื่องราวเหล่านี้ โดยไม่ได้คิดว่ามันมีพื้นฐานมาจากความจริง
สำหรับเมจิคัลเกิร์ลที่เป็นที่รู้จัก ก็จะภูมิใจกับความสำเร็จและจะได้พยายามมากขึ้นอีก
หนึ่งในงานที่กล่าวมาคือทีวีอนิเม เมจิคัลเดซี่ ที่ฉายไปเมื่อหลายปีก่อน
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงจากดินแดนแห่งดอกไม้ ที่มาเรียนในญี่ปุ่นที่ล้ำยุคในฐานะเด็กสาวมัธยมต้นที่สร้างปัญหาต่างๆ โดยปกติแล้วเธอเป็นเด็กผู้หญิงมัธยมต้นธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อมีปัญหา เธอจะแปลงร่างเป็นเมจิคัลเดซี่ ไปด้วยกันกับพาเล็ตต์มาสคอตของเธอ พวกเธอจัดการกับเหล่าร้าย ช่วยผู้คนในนามแห่งความยุติธรรม แต่ไม่มีใครรู้ถึงตัวตนจริงๆของเธอ หากมีใครรู้ล่ะก็เมจิคัลเดซี่จะถูกส่งกลับไปยังดินแดนดอกไม้
อนิเม เมจิคัลเกิร์ลเดซี่ นั้นมีพื้นมาจากการกระทำของเมจิคัลเกิร์ลจริง แต่เซ็ตติ้งเจ้าหญิงจากดินแดนแห่งดอกไม้ที่ย้ายมาเรียนนั้นเป็นเรื่องแต่ง แต่ส่วนที่เหลือก็ใกล้เคียงกับความจริง
___________________________________________________________________
มีสุนัขหอนอยู่ที่ไหนซักที่
มีขี้เมาเดินผ่านมาที่กลางถนน
เมื่อเมจิคัลเดซี่เข้าไปช่วย กลิ่นแอลกอฮอล์ก็ลอยมาเข้าจมูก
เขานั้นพูดงึมงำๆกับเธอ จับใจความได้ว่า “มีปัญหาอะไรวะ!?” ไม่ก็ “ห่าเอ๊ย!”
แต่เขาก็ครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่
พอค้นกระเป๋าหนังของเขาก็เจอใบขับขี่อยู่ในกระเป๋าเงิน
เธอตรวจดูที่อยู่ แบกขี้เมาขี้นมา และมุ่งหน้าไปที่นั่น
ขี้เมานั้นนอนราบอยู่ที่หน้าประตู แล้วเธอก็กดกริ่งเรียก
ได้เสียงของผู้หญิงวัยกลางคน บางทีอาจจะเป็นภรรยาของเขา พูดขึ้นมาจากด้านใน
“ไปอยู่ที่ไหนมาเนี่ย?”
ตอนนี้ภารกิจของเมจิคัลเดซี่สำเร็จแล้ว แต่ว่าวันนี้เธอช่วยคนได้แค่คนเดียว คืนนี้เธอยังทำไม่ได้ครบโควต้าเลย ต่อไปเธอจึงมุ่งหน้าไปตรวจตราในเขตตัวเมือง
หลังจากตรวจทุกอย่างแล้ว แน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว สุดท้ายเธอก็กลับบ้าน
เธอขึ้นรถไฟมาจากจากมหาวิทยาลัยใช้เวลา 15 นาทีตรวจตราในพื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ จากที่นั่นถัดไป 4 สถานี เดินอีก 5 นาทีจนถึงอพาร์ทเมนต์ชั้นเดียวที่อยู่ในพื้นที่เงียบๆเหมือนกับทาว์นเฮาส์ ในอพาร์ทเมนต์นั้น ห้องหนึ่งคือบ้านของ คิคุ ยาคุโมะ
เพดานบางยิ่งกว่าไม้กระดาน หากมีใครซักคนไปโดนมันก็อาจพังได้เลย
ห้องสุขาก็เป็นแบบสาธารณะ แชร์กันใช้แบบญี่ปุ่น ห้องอาบน้ำเองก็เป็นห้องรวม
แล้วเจ้าของที่นี่ ก็เป็นคนที่มีปมด้อย เป็นพวกที่ชอบพล่ามข่าวลือออกมาไม่รู้จบ
มีข้อดีอย่างเดียวคือค่าเช่าถูก
“กลับมาแล้ว!”
คงเป็นความเคยชินล่ะนะ เสียงของคิคุก้องอยู่ในห้องที่ว่างเปล่า
ผนังเองก็ไม่ได้กันเสียง คนข้างห้องก็ได้ยินสิ่งที่เธอพูด
พวกเขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว
ซึ่งเธอก็เถียงไม่ได้
เธอแกะหมากฝรั่ง 2 เม็ดจากแผงพลาสติก ใส่มันเข้าปากและเริ่มเคี้ยว
เธอโยนกระเป๋าเรียนที่ใช้ลงบนฝูก และก็นั่งลงข้างๆมัน
รู้สึกแย่จัง
ร่างกายเหมือนจะสลบ มีเพียงแขนสองข้างที่ผยุงไว้
ตอนที่เป็นนักเรียน ม.ต้น
ก็บอกได้ว่าเรื่องราวต่างๆของเมจิคัลเดซี่ นั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
เมื่อเวลาผ่านไปจนเป็นนักเรียน ม.ปลาย เธอถูกมอบหมายให้จัดการเคสใหญ่ที่สำคัญต่างๆ
มากขึ้น แล้วพอมาสค็อตของเธอ พาเล็ตต์ กลับไปยังดินแดนเวทมนตร์
น้ำตาที่ไหลตอนที่แยกจากกันนั้น มันช่างมากมายพอที่จะเติมถังน้ำให้เต็มได้เลย
แต่อย่างไร มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่ไปเสียหมด พวกเธอส่งข้อความหากันระหว่างเมจิคัลโฟนได้
แบบนั้นทำให้รู้สึกถึงตอนที่ เมจิคัลเดซี่ ยังฉายอยู่ เธอไม่รู้ว่าจริงๆแล้วดินแดนเวทมนตร์กับโลกนี้เชื่อมต่อกันยังไง เท่าที่เธอรู้คือการกระทำต่างๆของเธอในฐานะเมจิคัลเดซี่นั้นถูกเอาไปทำใหม่เสมอ
มันไม่ได้มีความนิยมมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ ดีพอที่จะทำอนิเม 2 ซีซั่นแล้วก็ OVA
ในฐานะเมจิคัลเกิร์ล คิคุนั้นทำงานหนักโดยการลาดตระเวณเสมอ ในตอนที่ทำแบบนั้น
เธอยิ้มเมื่อดูในเว็บบอร์ดต่างๆ และเช็คเว็บไซต์ดูยอดขายอนิเม
จนเธอกลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยของเธออยู่ในระดับกลางๆ หากเธอขยันเรียนกว่านี้ตัวเธอคงเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีกว่านี้ได้ แต่สำหรับคิคุ คนที่ให้ความสำคัญกับเมจิคัลเกิร์ลนั้น ทำให้ไม่มีเวลามากพอที่จะเรียน
ในฐานะผู้ปกป้องความยุติธรรม เธอข้ามงดฝึกฝน ลาดตระเวณ กำจัดคนเลวไม่ได้
เธอหยุดคุยกับเพื่อนสมัย ม.ต้น และ ม.ปลาย
ในมหาวิทยาลัยนั้นเธอไม่มีคนที่เรียกว่าเพื่อนเลยซักคน
จึงไม่แปลกอะไรที่คิคุจะกลับบ้านมาเงียบๆ
สภาพเป็นอยู่ของเธอก็แย่
งานของเมจิคัลเกิร์ลกินเวลาของเธอไปมากจนเธอทำงานพาร์ทไทม์ไม่ได้
ครอบครัวของเธอมีโรงงานเล็กอยู่ในเมือง และเพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอยจึงจำเป็นต้องอดออม คิคุรู้สึกดีใจที่ยังได้รับเงินอยู่
เสื้อของเธอก็ซื้อมาจากร้านค้าปลีก เร็วๆนี้เองก็ไม่ได้ซื้อตัวใหม่เลย
ไม่รู้ว่าแต่งหน้ายังไง
ไม่มีใบประกาศอะไรซักอย่าง ไม่มีใบขับขี่ด้วย
เธอไม่ได้คิดว่ามันจำเป็นสำหรับเมจิคัลเกิร์ล เลยคิดว่ามันไม่เป็นอะไร
ในขณะที่เธอเผชิญหน้ากับความลำบากในความมืด เธอก็ทำงานของเธออย่างหนักในเบื้องหน้า
นั่นคือความเป็นฮีโร่ของคิคุ
อย่างไรก็ตาม เร็วๆนี้เธอเริ่มตั้งคำถามว่าแบบนี้ต่อไปมันดีรึเปล่า ชีวิตในฐานะนางเอกของเธอไม่ได้สวยหรูเหมือนตอน ม.ต้น การช่วยผู้คนแล้วปิดเป็นความลับ ทำอย่างระมัดระวังจึงไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่นั่น ช่วยเว็บไซต์ต่างๆเพื่อเพิ่มการรับรู้การกระทำของเมจิคัลเกิร์ลให้คนทั่วไป สิ่งเหล่านั้นทำให้เธอรู้สึกแย่ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หลบซ่อนตัว ไม่มีใครยกย่องเธอ ไม่มีใครขอบคุณเธอตรงๆ แต่เธอก็ยังทำสิ่งเหล่านั้นในขณะที่หลบเลี่ยงสายตาคนธรรมดาต่อไป
บางทีเธอควรเรียนให้มากกว่านี้
ควรเอาเวลาไปเที่ยวเล่นให้มากกว่านี้
ควรใส่ชุดแฟนซีบ้าง
หรือคบกับผู้ชายซักคน
เธอไม่เคยร้องคาราโอเกะมาก่อน
อยากลองเล่นโบว์ลิ่งด้วยเหมือนกัน
อนาคตของเธอจะเป็นยังไงกันนะ?
จะเป็นเมจิคัลเกิร์ลได้อีกนานแค่ไหน?
เธอคิดแบบนั้นเสมอในตอนที่เธอช่วยคนอื่นอย่างหนัก
เหมือนฝนจะเริ่มตกแล้ว เสียงของฝนที่ตกลงมากระทบหลังคาเริ่มดัง
เธอเกลียดเสียงนั้นเพราะมันตอกย้ำว่าชีวิตเธอเป็นยังไง
ทันใดนั้นเมจิคัลโฟนของเธอดังขึ้น เสียงข้อความเป็นเสียงเพลงเปิดของ เมจิคัลเดซี่
พาเล็ตต์ส่งความมางั้นเหรอ?
หรือว่าจะเป็นเรื่องด่วนจากดินแดนเวทมนตร์กันนะ? เธอนั่งลงบนเสื่อทาทามิแล้วหยิบเมจิคัลโฟนขึ้นมาดู
“เมจิคัลเกิร์ล…ไรซิ่งโปรเจค?”
เธอเคยได้ยินมาก่อน มันคือเกมโซเชี่ยลเมื่อไม่นานมานี้…
เป็นโฆษณาเกมเหรอ? แกล้งอะไรกันรึเปล่า? เธอจึงตัดสินใจลบมันไปดีกว่า
“หือ?”
ลบไม่ได้ จอสัมผัสเสียงั้นเหรอเนี่ย? เธอกดลงไปแรงๆแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนโทรศัพท์ของคิคุมันไม่สนใจการกดของเธอ มันเริ่มทำงานของมันเอง ที่หน้าจอนั้นยังเลื่อนแสดงข้อความมาเรื่อยๆจนในที่สุดก็ถึงบรรทุดสุดท้ายของเมล
มาเริ่มเกมกันเถอะ
ข้อความนั้นเริ่มส่องสว่าง มีแสงสีรุ้งส่องออกมา
คิคุก็เริ่มจ้องไปที่แสงนั่น
__________________________________________________________________
ตอนที่ 1:
สวัสดี เดซี่!
☆ เพจิกะ
ตอนที่ทำงานของเมจิคัลเกิร์ลอยู่ มันมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกคนอื่นเห็น
เพราะแบบนั้นจึงมักจะทำอะไรกันแบบปิดบังตัวตนมากกว่า
หากคนที่ช่วยเป็นเด็ก พวกเขาจะไม่คิดว่าเมจิคัลเกิร์ลนั้นเป็นสิ่งที่ผิดแปลกไปจากธรรมดา
แต่ก็ไม่ต้องกังวลอะไร
อากาศฤดูร้อนตอนนี้อยู่ในจุดพีค
ที่สวนสนุกตอนเที่ยงวันนี้
ยางมะตอยที่อ่อนตัวเพราะความร้อน
เสียงของจั๊กจั่นที่ร้องกันระงม
เสียงซุบซิบนินทาของเหล่าภรรยามีอยู่ไปทั่ว
มีเด็กผู้หญิงอายุประมาณเด็กอนุบาลบางทีอาจจะรอแม่ตัวเองอยู่
กำลังหลบแสงแดดโดยอยู่ในที่ร่ม
ที่มือขวาของเธอมีเชือกสีขาว ผูกติดอยู่กับลูกโป่งสีแดงซึ่งมีโลโก้ของบริษัทยาติดอยู่
ลูกโป่งสีแดงนั้นลอยอยู่ท่ามกลางแสงแดดอย่างเอื่อยเฉื่อย
ทันใดนั้นเองก็เริ่มมีลมพัดแรง มือขวาของเด็กสาวก็กำเชือกแน่นทันที
แล้วก็พยายามเอามือมาป้องตาจากฝุ่น แต่กระนั้นลูกโป่งก็หลุดมือเธอไป
“อ๊ะ!” เด็กสาวมองขึ้นไปบนฟ้า ลูกโป่งของเธอลอยขึ้นไปด้านบนอย่างช้าๆแล้ว
อาการตกใจของเด็กสาวหายไป และแทนที่ด้วยน้ำตาของเธอแทน
ทันใดนั้นเอง เมจิคัลเกิร์ลก็กระโดดมาคว้าลูกโป่งอย่างรวดเร็ว
“นี่จ้ะ” เธอเอามาคืนให้เด็กสาวพร้อมกับรอยยิ้ม
เมจิคัลเกิร์ลนั้นควรระวังหากช่วยผู้ใหญ่ แต่ถ้าเป็นเด็กเธอคิดว่าไม่เป็นไรถ้าจะยิ้มให้
“ขอบคุณมากค่ะ!” เด็กสาวกล่าวขอบคุณเมจิคัลเกิร์ลพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“ว้าว…พี่สาวสวยจังเลย!” เด็กสาวตกตะลึง
เมจิคัลเกิร์ลเพจิกะนั้นตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม และรีบซ่อนตัวเพื่อไม่ให้แม่เด็กที่อยู่แถวนั้นเห็น
ชุดของเมจิคัลเกิร์ลนั้นโดดเด่นในช่วงเวลากลางวัน เพราะแบบนั้นจึงต้องทำให้รวดเร็วและฉับไว
___________________________________________________________________
ใช่แล้ว สำหรับ จิกะ ทาเทฮาระ การแปลงร่างเป็นเด็กสาวที่งดงามมันสำคัญยิ่งกว่าทักษะเวทมนตร์หรือความสามารถทางกายภาพซะอีก เรียกได้ว่าเหตุผลกว่า 70% ที่เธอแปลงร่างเป็นเมจิคัลเกิร์ลคือเหตุนี้
จิกะเกลียดตัวตนของตัวเอง เธอทั้งมีไฝเยอะ จมูกใหญ่ หน้าอกไม่ได้รูป ขาโก่ง ตัวเตี้ย แม้จะดื่มนมมากก็ไม่ได้ทำให้เธอตัวสูงขึ้น ดวงตาเองก็ไม่ใหญ่อีกด้วย
แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้เรียกว่าอัปลักษณ์ เธอไม่เคยคิดว่าสิ่งไหนน่ารักหรือสวยงามเลย ทุกคนรอบตัวจิกะหลีกเลี่ยงการพูดถึงตัวเธอด้วย ใกล้เคียงกับการหวาดระแวงแบบนั้น
ตั้งแต่ช่วง ม.ต้น เธอหลีกเลี่ยงการทำตัวเด่นพยายามที่จะทำตัวให้ธรรมดาที่สุด
แม้จะไม่มีใครชื่นชมเธอ แต่ก็ไม่มีใครว่าร้ายเธอด้วยเช่นกัน เธอหลีกเลี่ยงด้วยวิธีการนี้มาตลอด
เธอไม่เคยเคยคิดว่ามันเป็นสิ่งเลวร้าย เพราะเธอทำตัวให้ไม่สะดุดตาได้ง่ายๆ
จะเล่นเกมและถ่ายรูปในบูทน่ารักๆ หรือจะอ่านหนังสือลามกในชมรมการอ่าน
หลังเลิกเรียนก็แต่งหน้าด้วยมาสคาร่า
ทำเรื่องอะไรแปลกๆหรือเรื่องไม่ดี แล้วมีความสนุกอะไรเล็กๆก็ได้
แต่มีบางสิ่งที่จิกะทำไม่ได้
ในทีมเบสบอล มีเด็กผู้ชายมือหนึ่งที่สวมเสื้อเบอร์ 4 ชื่อว่านิโนมิยะคุง
ในอนาคตเขาคงจะเป็นผู้เล่นมืออาชีพแน่ๆ มีแมวมองมาจับตาดูความสามารถแล้วด้วย
บุคลิกเขานั้นออกจะเป็นกันเอง งานอดิเรกคือ กิน นอน แล้วก็เล่นเบสบอล
ส่วนสูงกับน้ำหนักไปไกลกว่านักเรียน ม.ต้น ด้วยกันแล้ว ทำให้หลายตอนเจอหน้ากันทีแรกรู้สึกกลัว แต่พอได้คุยกันจะเป็นคนที่สนุกสนานและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ ทักษะและรอยยิ้มของเขานั้นไม่ได้ดึงดูดแค่นักเรียนโรงเรียนเดียวกัน มันลามไปถึงโรงเรียน ม.ต้น ข้างเคียง ม.ปลาย
แม้กระทั่งเด็กมหาลัยก็มาเชียร์เขาไม่เฉพาะแค่ตอนแข่ง ตอนฝึกซ้อมก็มาด้วย
จิกะได้ยินหลายๆเรื่องของนิโนมิยะคุงมาจากแฟนคลับของเขา
จิกะแตกต่างจากคนเหล่านั้น เพราะเธอเป็นแฟนเบสบอลที่สนุกกับการเล่นของเขาจริงๆ
โดยเฉพาะการขว้างลูกของเขา มันเหมือนกับเวทมนตร์เลยล่ะ
หลังจากฝึกซ้อมเสร็จแล้ว แฟนคลับสาวๆหลายคนยื่นผ้าขนหนู, ลูกอมรสมะนาว ไม่ก็ขวดน้ำให้
มันมีกฎของสาวๆที่ไม่ต้องพูดก็เข้าใจกันอยู่
หากจิกะทำอะไรเกินหน้าเกินตาเข้าหานิโนมิยะคุง วันต่อมาทั้งโรงเรียนจะพูดถึงเธอ ด่าทอลับหลัง กระจายข่าวลือแย่ๆให้เธอถูกทุกคนเกลียด และชีวิตมัธยมต้นของเธอจะเต็มไปด้วยเรื่องเลวร้าย
แต่จะเป็นยังไงกันนะถ้าตัวเธอสวย? ถ้าหากสวยแบบไอดอลไม่ก็นางแบบล่ะ?
คงจะไม่มีใครปฎิเสธแน่ ไม่มีใครปฎิเสธได้เลย
เธออยากเข้าหานิโนมิยะคุง อยากให้เขากินอาหารที่ตัวเองทำ เพื่อการนั้น เธอจำเป็นต้องกลายเป็นใครบางคนที่ไม่ใช่ตัวเธอเอง การกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลนั้นคือโชคดีของเธอที่อยากจะเป็นคนที่หน้าตาดี เธอพยายามจนผ่านการทดสอบที่ยากลำบากและได้กลายเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่ชื่อ เพจิกะ
ตอนนี้ เธอกำลังหายใจเข้าลึกๆและจ้องมองตัวเองในกระจก มันไม่ใช่สิ่งที่เธอเคยทำมาก่อนเลย
จมูกของเธอดูสวย ผิวก็ดูดี ดวงตาก็ใหญ่มีเสน่ห์ คิ้วโค้งได้รูป นิ้วมือดูเรียวเล็ก รูปร่างดูงาม
ไม่มีอีกแล้วหน้าอกที่ไม่ได้รูป ใกล้เคียงกับอุดมคติที่จิกะคิดไว้ทุกอย่าง แม้กระทั่งขาของเธอที่เคยโก่ง ตอนนี้ก็กลับมาตรงสวย
เธอยิ้มและหมุนตัว โพสท่าต่างๆ ท่าทางของเธอดูน่ารักไปหมด
แม้ว่าเสื้อผ้าของเธอจะดูโดดเด่นไปหน่อย เป็นชุดที่เหมาะกับเมจิคัลเกิร์ลมากกว่า
การเป็นเพจิกะก็ไม่ได้ทำให้เธอผิดหวัง แต่ชุดนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับชีวิตประจำวันเท่าไหร่จริงๆ
จิกะแปลงร่างเป็นเพจิกะ แล้วเธอก็ถอดชุดกับเครื่องประดับต่างๆออก
เธอควานหาด้านในลิ้นชัก และเจอชุดที่ซื้อเมื่อนานมาแล้ว
เธอซื้อมาเพราะชอบแต่ว่ามันไม่เข้ากับตัวเลยไม่กล้าที่จะใส่
มันคือชุดเดรสสีขาว เหมือนกับหญิงสาวในฤดูร้อน
หลังจากที่เปลี่ยชุดเสร็จแล้ว เธอก็แอบออกจากบ้านมาเงียบๆ
ไม่ให้คนในครอบครัวรู้ว่าเธอออกมา
เป็นเวลาปีครึ่งแล้วที่เธอกลายเป็นเมจิคัลเกิร์ล
ตั้งแต่ ม.ต้นปี 2 จนตอนนี้เธออยู่ ม.ต้นปี 3
วันคืนที่เธอจ้องมองตัวเองในกระจกก็ไม่มีอีกแล้ว
เมื่อมีเวลาว่างเธอช่วยเหลือคนอื่นมาตลอด
ก่อนหน้านี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่เธอจะไม่เลื่อนอีกแล้ว
วันนี้คือศึกใหญ่
ตั้งแต่ที่เธอไม่มีเวลาทำมื้อเที่ยง
เธอจึงตัดสินใจใช้เวทมนตร์ของเพจิกะ “สามารถทำอาหารอร่อยๆได้” แทน
เมื่อลองชิมดูพบว่ามันอร่อยมาก เธอเอามันใส่ลงในกล่องข้าวแล้วห่อเหมือนของขวัญ
ในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา เธอกังวลว่าเพจิกะอาจจะไม่ได้น่ารักจริงๆก็ได้
หากเธอเป็นจิกะคนเดิมเธออาจถูกปฎิเสธ
แต่อาการช็อค อิจฉา ริศยา จากเด็กผู้หญิงคนอื่นทำให้ความกังวลของเธอหายไปจนหมด
เสียงซุบซิบของกลุ่มแฟนๆที่อยู่ด้านหน้าเพจิกะแยกออกเป็นทาง
ในที่แห่งนี้นั้นมีการจัดลำดับความสวยอยู่ด้วย
เหมือนว่าลำดับของเพจิกะจะอยู่สูงกว่าพวกสาวๆที่แต่งหน้าซะอีก
มันเหมือนกับว่าเธอเป็นนางแบบหยั่งไงหยั่งงั้น หากเป็นจิกะเธอไม่มีวันทำแบบนี้ได้เลย
นิโนมิยะคุงอยู่ที่สุดสายตาของเหล่าแฟนๆ เขากำลังพูดกับเพื่อนของเขาและหัวเราะเสียงดังอยู่
เพื่อนของเขามองมาที่เพจิกะ พวกนั้นสะกิดเขาและชี้มาที่เพจิกะ
นิโนมิยะคุงมองมาที่เพจิกะ เพจิกะไม่รู้ว่าเขาทำหน้ายังไงเพราะเธอไม่ได้มองเขาตรงๆ เธอเอาตัวเองสบตาเขาไม่ได้
ในตอนที่จ้องไปที่รองเท้าเปื้อนโคลนของเขา เธอก็พูดออกมาเสียงดังว่า
“ฉะ…ฉันเอาใจช่วยนายนะ! พะ…พยายามเข้าล่ะ!!”
เธอพูดแบบตะกุกตะกักและเร็วเกินไป เธอยื่นข้าวกล่องให้นิโนมิยะคุง
เขาพูดอะไรบางอย่างแต่เธอจับใจความไม่ได้ เพราะว่าเพจิกะวิ่งออกมาทันที
เหมือนก่อนหน้านี้ เหล่าแฟนๆหลีกทางให้เพจิกะ
เมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน ก็ตรงไปยังห้องนอน เลี่ยงไม่ให้ครอบครัวรู้
ยกเลิกการแปลงร่างแล้วทิ้งตัวลงบนที่นอน
“อ๊าาาาาาาาาาาาา!! ”
เธอบิดตัว กลิ้งไปมาอยู่บนเตียง และพึมพำอะไรที่ไม่ได้ศัพท์ออกมา
เสียงเรียกเข้าของเมจิคัลโฟนของเธอดังขึ้น แต่เพจิกะไม่อยากดูตอนนี้
เธอรู้สึกแปลกๆอยู่บนเตียงครู่หนึ่ง
และทันใดนั้นเธอก็ตกลงมากระแทกพื้นโดยไม่มีการเตือนใดๆ
ไม่ใช่ความเจ็บปวดจากความรัก แต่เป็นความเจ็บปวดทางร่างกาย
ทรายและก้อนกรวดเข้ามาในปากเธอ จมูกและหน้าเองก็เจ็บ
เตียงนอนนุ่มๆของเธอกลับแข็งกระด้างเหมือนหิน
จิกะพยายามลมตามองดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แสงสว่างมันจ้าจนทำให้เธอลืมตาไม่ขึ้น
พอดวงตาเริ่มชินกับแสงแล้ว ในที่สุดเธอก็ลืมตามองดูและพบว่าตัวเองอยู่ในที่ที่แปลกประหลาด
ดวงอาทิตย์สว่างและร้อนมาก
มีหญ้าขึ้นอยู่ทั่วทุ่งร้าง ไปจนสุดลูกหูลูกตา
เธอมองเห็นสิ่งก่อสร้างสูงๆ 3 แห่งเหมือนตึกระฟ้า แต่ทั้งหมดนั่นก็พังทลายหมดแล้ว
เดี๋ยวสิ ทำไมมองเห็นได้ไกลแบบนี้? สายตาของเธอดีกว่าตอนเป็นร่างมนุษย์
หมายความว่าจิกะแปลงร่างเป็นเพจิกะโดยที่ไม่รู้ตัวงั้นเหรอ
เธอตรวจดูมือ เท้า และร่างกายตัวเอง ปรากฏว่าเธอกลายเป็นเพจิกะไปแล้ว
เธอทดสอบโดยการออกแรงกระโดดเบาที่สุดเท่าที่ทำได้
ปรากฎว่าตัวเธอลอยขึ้นไปในอากาศ 3 เมตร
ยืนยันว่าเธอกลายเป็นเพจิกะจริงๆ แต่คืนร่างไม่ได้ ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล
“นี่ฉันอยู่ที่ไหน? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้นะ?”
เธออยู่ที่ไหนกันแน่? ดูไม่เหมือนบ้านเกิดของเธอเลย ได้ยินว่าที่ฮอกไกโดมีทุ่งกว้างอยู่
แต่กับอาคารที่พังทลายนี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเจอได้เลย บางที่เธออาจจะอยู่ในที่ๆมีสงครามกลางเมือง
หรือที่แห่งนี้อาจถูกรุกรานโดยประเทศอื่น แบบนั้นก็อธิบายเรื่องอาคารสูงได้ และที่แห้งแล้งแบบนี้ก็อธิบายเรื่องที่ว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ได้ด้วย
แต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่? เพจิกะไม่เข้าใจเลย
เมื่อกี๊เธอยังนอนอยู่บนเตียง เต็มไปด้วยความสุข หรือเพราะเธอมีความสุข เรื่องเลวร้ายก็เลยเข้ามาทำให้สมดุลกันงั้นเหรอ? หรือนี่คือการลงโทษที่เอาพลังของเมจิคัลเกิร์ลไปใช้นอกเหนือจากการเอาไปช่วยคนอื่น?
จริงสิ เธอนึกออกแล้ว ตอนที่เธอนอนอยู่บนเตียง เมจิคัลโฟนของเธอมีเสียงข้อความเข้า
บางทีอาจจะเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ก็ได้
เธอเอาเมจิคัลโฟนออกมา มันใช้งานเหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วไป
แต่เมจิคัลโฟนนั้นพกพาได้ง่ายมาก เอาออกมาจากที่ไหนก็ได้
เมจิคัลโฟนนั้นมีรูปร่างเป็นรูปหัวใจ เป็นดีไซน์ที่เหมาะกับเมจิคัลเกิร์ลมาก
แต่หน้าจอรูปร่างแบบนี้ในสมาร์ทโฟนปกติมันไม่ได้รับความนิยมเพราะทำให้ใช้งานยาก
และอ่านอะไรก็ลำบาก
บนหน้าจอของเมจิคัลโฟนของเธอ มีตัวอักษรที่เรียบง่ายแสดงอยู่
โหมดฝึกซ้อม
เพจิกะเอียงคอด้วยความสับสน
เธอไม่เคยเห็นหน้าจอนี้มาก่อน เธอพยายามเปิดแอปส่งข้อความแต่เพราะเหตุผลอะไรซักอย่างมันถึงไม่ตอบสนอง ข้อความเริ่มเลื่อนลงไปเรื่อยๆ
ในโหมดฝึกซ้อมของเมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจคนั้น คุณจะได้รับประสบการณ์ต่อสู้จริง!
เพื่อดำเนินการต่อ กรุณากำจัดศัตรูเพื่อให้ได้รับเมจิคัลแคนดี้ด้วย!
เมจิคัลเกิร์ลไรซิ่งโปรเจค? ต่อสู้จริง? ศัตรู? เมจิคัลแคนดี้?
เพจิกะรู้สึกว่าพื้นดินรอบๆตัวของเธอมันสั่น ไม่ใช่แผ่นดินไหว เพราะว่าพื้นดินมันสั่นเฉพาะจุด
สั่น สั่น สั่น แล้วก็สั่น จนกระทั่งมีหลุมโผล่ขึ้นมาบนพื้น ด้านในหลุมนั้นมีแขนสีขาวเอื้อมออกมา
ร่างของพวกมันค่อยๆคลานออกมาจากหลุม พวกมันทั้งหมดมีแค่กระดูก ฟัน ไม่มีดวงตา มีแค่เบ้าตาแค่นั้น การเคลื่อนไหวก็เชื่องช้า เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
สเกเลตัน
มีสเกเลตันล้อมรอบตัวเธอ พวกมันเคลื่อนไหว เหมือนดั่งมัจจุราช
สเกเลตัน 5 ตัวปรากฎตัว!
ข้อความปรากฎขึ้นบนจอมือถือของเธอ
เพจิกะกลั้นเสียงกรีดร้องเอาไว้ในลำคอ ก้าวถอยหลังพยายามจะหนี
เพจิกะขบฟัน เอาไม้พายทำอาหารของเธอมาตีพวกนั้น เธอยังสับสนอยู่ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เธอตีเข้าไปที่แขนของสเกเลตันที่พยายามจะจับเธอ และเตะพวกมันที่เข้ามาหา
แต่สเกเลตันล้อมเธออยู่ทุกทิศ พยายามจะจับตัวเธอ
สเกเลตันตัวที่เธอเตะไปก่อนหน้ามันจับขาเธออยู่ด้วย
สัมผัสจากสเกลเลตันที่เย็นนั้นทำให้ตัวเพจิกะนั้นหยุดเคลื่อนไหว
ด้วยความแข็งแกร่งของเมจิคัลเกิร์ลนั้นสามารถจัดการได้ง่ายๆ
แต่โชคร้ายที่จิตใจของเธออ่อนแอ และกำลังตื่นตระหนก
แม้จะเป็นเมจิคัลเกิร์ล แต่เพจิกะนั้นมีแค่เวทมนตร์ ทำอาหาร
เวลาต่อสู้มีแต่ร่างกายเท่านั้นที่พึ่งพาได้
เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเตะ ต่อย
นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กสาวมัธยมต้นที่ใช้ชีวิตธรรมดาจะรับมือไหวเลย ทำยังไงดี?
สเกเลตัน 4 ตัวเคลื่อนไหวมาหาเธออย่างช้าๆ
แต่ก่อนที่จะมาถึงตัวเธอนั้น พวกมันถูกตัดเป็นสองท่อน จากหัวไปถึงเท้าแล้วก็สลายไปเป็นชิ้นๆ
“เอ๋…?”
พอมองลงไปที่เท้า เธอเห็นสเกเลตันที่จับขาเธออยู่ถูกหั่นเป็น 3 ท่อน
เป็นการโจมตีที่รุนแรง รอยตัดมันลึกลงไปในดิน
แล้วเพจิกะก็รีบปัดมือของสเกเลตันออกจากขาเธอ
อะไรน่ะ? มันเกิดอะไรขึ้น?
เท่าที่รู้ตัวเธอไม่ได้มีความสามารถใหม่หรือมีอะไรบ่างอย่างในตัวเธอที่ถูกปลดออก
นี่ไม่ใช่ฝีมือของเธอแน่ๆ จึงมองไปรอบๆและมองเห็นอะไรซักอย่างอยู่ในพายุฝุ่น
ด้วยพลังเวทย์ในการมองเห็น เธอพบว่าสิ่งนั้นรูปร่างเล็กเกินกว่าจะเป็นผู้ชาย…
ผู้หญิง… ถือคาตานะอยู่ในมือขวา เธอพยายามจะช่วยเหรอ?
เพจิกะควรจะมองเห็นแค่อาคารพังๆกับหญ้าที่อยู่รอบตัวเธอ
ไม่มีคนอื่นอยู่แถวนี้ แถมอยู่ห่างกัน 2 กิโลเมตร
บางทีเธออาจพยายามช่วยก็ได้
หากเธอมาช่วย ก็คงจะเป็นพวกเดียวกันแน่ๆ
สำหรับเพจิกะที่ถูกโยนเข้าไปในความสับสน อยู่ในสถานที่แปลกๆ และต้องสู้กับสัตว์ประหลาด
คนๆนั้นเปรียบได้กับผู้มาโปรดเลยล่ะ
เพจิกะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว 2 กิโลเมตรในแค่พริบตาเดียว
เธอก้มหัวลง
“ขะ…ขอบคุณ! ขอบคุณมากค่ะ!!”
เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ผู้มาโปรด เป็นเด็กผู้หญิงจริงๆด้วย
เธอสวมเสื้อเหมือนกับซามูไร เท่มากเลย ไว้ผมทรงโพนี่เทล มีดอกไม้บานอยู่ตรงปลายผมด้วย
แต่ไม่เหมือนกับใส่ชุดซามูไร เหมือนกับชุดของเมจิคัลเกิร์ลมากกว่า
อีกอย่างไม่มีใครจะโจมตีศัตรูจากระยะ 2 กิโลเมตรได้ด้วยดาบนอกจากเมจิคัลเกิร์ลด้วย
“คุณคือ…เมจิคัลเกิร์ล?” เพจิกะถาม
เธอไม่ได้ตอบ
“เอ่อ ฉัน..ชะ ชื่อเพจิกะค่ะ ฉันเองก็…เป็นเมจิคัลเกิร์ล”
เงียบ เธอจ้องมาที่เพจิกะ บางทีเธออาจจะพูดเร็วไป
“ที่นี่คือที่ไหนงั้นเหรอคะ? คุณรู้ไหม? ถะ…ถ้ารู้ล่ะก็ช่วยบอกฉันที…
ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มีสเกเลตันออกมาจากพื้น ฉันกลัวมาก… ไม่รู้จะทำยังไง…”
“ต้องทำแบบนี้อีกแล้วเรอะ? นึกว่าจบไปแล้วซะอีก…”
“หือ?”
“ชั้นล่ะเกลียดแบบนี้จริงๆ เกลียด…จริงๆ”
ตาของคนๆนั้นจ้องมาที่เธอ แต่ในเวลาเดียวกัน เหมือนว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นั่น
ตาของเธอมองมาที่เพจิกะ แต่เหมือนว่าจะมองไปที่อื่นด้วย
เด็กผู้หญิงคนนั้นเงื้อมมือออกมา จับเข้าไปที่คอของเพจิกะ
ขัดขืนไม่ได้ ขยับไม่ได้ด้วย มือของเด็กสาวนั้นรู้สึกเย็นยะเยือก
เพจิกะเริ่มไอ เด็กสาวเริ่มบีบคอเธอแรงขึ้น
คาตานะในมือขวาของเด็กสาวจ่อเข้ามาใกล้ที่คอของเพจิกะเรื่อยๆ
เพจิกะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างสั่นอยู่ อ่า… ฟันของเธอนั่นเอง
“ยังไม่จบสินะ ใช่ไหม นักดนตรี?” เด็กสาวคนนั้นพึมพำ
“ฉะ…ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉะ…ฉะ…ฉันเพิ่งมาถึงเอง!”
เด็กสาวจ้องมาที่เพจิกะด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า มือที่จับคอเธออ่อนแรงลงแล้ว
เธอลดดาบลง และเอามือออกจากคอของเพจิกะ
ขว้างเธอลงบนพื้น เพจิกะนั้นเอาหลังลงพื้น และมองขึ้นไปที่เด็กสาวคนนั้น
ฟันของเธอยังคงสั่นอยู่
“เธอไม่ใช่นักดนตรี… อยู่ที่ไหนกันนะ…นักดนตรี?”
เด็กสาวหันหลังให้เพจิกะ แล้วเดินออกไปด้วยท่าทางผิดธรรมชาติ
คาตานะของเธอลากไปกับพื้นแล้วทิ้งรอยไว้ข้างหลัง
ตัวเธอก็พึมพำอะไรไปด้วย
เพจิกะยังคงนั่งอยู่บนพื้น มองเด็กสาวคนนั้นเดินจากไป
เธอยังคงไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน มาที่นี่ได้ยังไง แต่เธอไม่อยากไปตามหาคนอื่น
___________________________________________________________________________
☆ เมจิคัลเดซี่
สเกเลตันนั้นอ่อนแอจนน่าประหลาด บางทีพวกมันอาจไม่แข็งแกร่งเลยก็ได้
แค่ทีเดียวก็จัดการได้แล้ว ถึงจะดูน่าขยะแขยงหน่อยๆก็เถอะ
เมจิคัลเดซี่นั้นคือเมจิคัลเกิร์ลที่มีประสบการณ์
หากเธอรับมือเรื่องแบบนี้ไม่ได้เธอคงเลิกเป็นไปนานแล้ว
“เดซี่พันช์!”
แค่หมัดธรรมดา
“เดซี่คิก!”
แค่ลูกเตะธรรมดา
เมจิคัลเดซี่คิดว่าการตั้งชื่อท่าต่างๆทำให้แข็งแกร่งขึ้น
เธอเลยตั้งชื่อการโจมตีธรรมดาราวกับเป็นท่าพิเศษ
เธอเชื่อว่าหากพูดออกมาดังๆจะเป็นการพลังการโจมตี
“เดซี่บีม!”
แค่ลำแสงธรรมดา…ซะที่ไหนล่ะ
เดซี่บีมคือท่าไม้ตายของเมจิคัลเดซี่
เรียกสิ่งนั้นว่าลำแสงแห่งความตายก็ไม่ใช่การพูดเกินจริงเลย
นอกจากความสามารถทางกายภาพที่สูงแล้ว เมจิคัลเกิร์ลแต่ละคนนั้นมีความสามารถที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย เพราะแบบนั้นถึงเรียกว่า เมจิคัลเกิร์ล ยังไงล่ะ
ความสามารถของเมจิคัลเดซี่คือ เดซี่บีม
เมื่อชี้นิ้วเธอสามารถยิงลำแสงที่เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 10 ซม.ได้ เป็นการกำจัดทุกอย่างโดยทันที่เมื่อโดน เธอไม่รู้ว่ามันได้ผลได้ยังไง จากที่พาเล็ตต์อธิบายไว้ มันจะทำลายไปถึงระดับโมเลกุล สิ่งที่โดนลำแสงสัมผัสจะสูญสลายไปอย่างรวดเร็วและหายไปในอากาศ
นอกจากนี้เธอยังสามารถขยายขนาดของลำแสงได้หากเธอกางมือออกแทนที่จะใช้นิ้ว
แบบนั้นจะเป็นการสร้างลำแสงที่เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 50 ซม.แทน เป็นการโจมตีที่กินระยะมากขึ้น
แต่เดซี่ไม่เคยใช้ทักษะนี้ฆ่าคน เธอมักจะใช้กำจัดสิ่งของ หรือลบพวกสารเคมีอันตรายออกไป
เธอเคยแนะนำดินแดนเวทมนตร์ไปว่า ให้ใช้ความสามารถของเธอกำจัดกากนิวเคลียหรือขยะอุตสาหกรรม แต่ทางนั้นตอบมาว่า “อย่าทำอะไรเกินตัวสิ เราไม่อยากให้มนุษย์ทำอะไรนอกเหนือจากงานของตัวเองเหมือนกัน” เธอแค่อยากให้ใช้ความสามารถของตัวเองให้เป็นประโยชน์ แต่รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าเลย
ใช่แล้ว เธอใช้กับสิ่งมีชีวิตไม่ได้ มาสค็อตกับดินแดนเวทมนตร์ห้ามเอาไว้
แต่กับสัตว์ประหลาดที่ไม่ใช่มนุษย์ ที่เห็นชัดว่าตายมาก่อนแล้วนี่…
สเกเลตัน 5 ตัวปรากฎตัว!
เธอยิงออกไปโดยไม่ลังเล ลำแสงเป่าสเกเลตันหายไปพร้อมกับความเครียดของเธอ
แต่ในเวลาเดียวกันเธอก็สับสน
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?”
เธอพูดกับตัวเองเหมือนปกติ แต่คราวนี้เธอตั้งใจพูด
เธออ่านข้อความว่าเกมเริ่มต้นแล้ว ต่อมาอยู่ดีๆเธอก็แปลงร่างเป็นเมจิคัลเกิร์ล
และถูกส่งมายังทุ่งร้าง มีสเกเลตันมาโจมตีจากทั่วทุกทิศ
เธอไม่เคยไปที่แบบนี้มาก่อน ไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่ที่เม็กซิโกหรือแอฟริกา
แสงแดดแรงมาก หากเธอไม่ใช่เมจิคัลเกิร์ลล่ะก็ ผิวคงโดนแดดเผาไปหมดแล้ว
ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีอาคารร้างอยู่รอบๆตัวเธอด้วย
เดซี่ตรวจดูเมจิคัลโฟนของเธอ
เธอกดเข้าอะไรตามปกติไม่ได้เลย มีแค่ข้อความแสดงอยู่บนจอ
โหมดฝึกซ้อมเสร็จสิ้น!
คุณได้รับเมจิคัลแคนดี้ 5 ชิ้น!
เมจิคัลแคนดี้? จริงสิ มันมีข้อความอะไรซักอย่างก่อนที่สเกเลตันจะโผล่ออกมานี่นา
เหมือนว่าเธอจะเคยได้ยินคำนี้มาก่อน… แต่ที่ไหนนะ?
กรุณาไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดด้วย
เมือง? รอบๆตัว เธอมองเห็นแต่ทุ่งร้าง
บางทีคงต้องมองจากที่สูงถึงจะมองเห็นได้มากกว่านี้ เดซี่หันหน้าไปยังอาคารสูงที่อยู่ใกล้
เมื่อเห็นแล้วเธอก็วิ่งเข้าไปหา ที่นั่นเป็นอาคารสีน้ำตาล เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก
มีดินกับรอยแตกอยู่เต็มไปหมด บางทีอาจจะร้างมานานหลายปีแล้ว ตึกเอียงไปด้านข้าง
ด้านบนจากชั้น 10 ขึ้นไปหายไปหมด จากการสังเกตุความสูงก็ใกล้เคียงกับอาคารอื่นๆ
เธอปีนขึ้นไปอย่างระมัดระวัง ระวังไม่ให้ตัวตึกพัง แต่ก็เร็วเช่นกัน
ด้วยความสามารถทางกายภาพของเมจิคัลเกิร์ล การขึ้นอาคารสูงๆก็ทำได้ง่าย
เมื่อเธอขึ้นไปถึงดาดฟ้า เธอก็มองดูรอบๆ
ลมด้านบนมันแรงกว่าด้านล่าง เดซี่จึงต้องจับกระโปรงของตัวเอง
แสงอาทิตย์ก็แรงกว่าเช่นกันคงเพราะอยู่ใกล้มากกว่า
เธอเอามือซ้ายมาบังแสงที่หน้าผาก มองไปไกลที่สุดเท่าที่ทำได้
สายตาของเมจิคัลเกิร์ลมองเห็นได้ไกลกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
“หืม…นั่นน่ะเหรอ?”
ไกลออกไป มีพื้นที่ที่มีอาคารอยู่รวมกันอย่างแน่หนา
เป็นสิ่งเดียวที่จะเรียกว่า ‘เมือง’ ในที่แบบนี้ได้
เพราะที่อื่นมีแต่อาคารที่พังทลายแบบที่ๆเธออยู่ตอนนี้
เธอสำรวจอาคารรอบตัวและพบว่าอาคารทั้งหมดมันเหมือนกัน องศาการเอียง
ตำแหน่งของหน้าต่างที่แตก เหมือนกับในเกม
แต่สายตาเธอก็หยุดอยู่ที่อาคารหนึ่งที่ต่างออกไป ที่นั่นมีอะไรซักอย่างอยู่ด้านบน
เมื่อเดซีเห็นแบบนั้น เธอจึงกระโดดทันที
ดาดฟ้าที่เธอยืนอยู่เริ่มพัง ไม่ได้พังตามธรรมชาติ
แต่พังด้วยการฟันของดาบที่คมกริบ หั่นคอนกรีดเหมือนกับเนย
เธอมองไปยังที่นั่นอีกครั้ง การโจมตีมาจากทางนั้นเหรอ?
สิ่งนั้นคนนั้นถืออะไรบางอย่างที่ยาวและบางเหมือนกับแท่งไม้
อยู่ไกลเกินไปจนตาของเดซี่ระบุไม่ได้ว่าคืออะไร
คนๆนั้นกำลังขยับตัวเงื้อสิ่งที่อยู่ในมือขึ้น มันสะท้อนแสง
ไม่ใช่แท่งไม้… โลหะ? ดาบงั้นเหรอ?
เมื่อตัวของเดซี่ลงถึงพื้น ขอบของดาดฟ้าก็หายไป กลายเป็นชิ้นๆร่วงลงสู่พื้น
เธอเห็นหมอกควันที่ด้านล่าง
ไม่ผิดแน่ พอดาบในมือขวาขยับ ก็มีความเสียหายเกิดขึ้น
เธอคิดว่ามันเป็นการโจมตีระยะไกล แต่มันไม่ใช่แบบนั้น
มันไม่มีดีเลย์เลย
ตอนที่เดซี่กำลังเก้มตัว เธอยื่นมือออกไปด้านหน้าทางสิ่งนั้น และเริ่มคิด
เธอโดนโจมตีแต่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น มันเป็นคำเตือนหรือกลลวงอะไรรึเปล่า?
เดซี่ลุกขึ้นยืน แต่ควรจะโจมตีหรือหลบดีมันก็พูดยาก
แน่นอนว่าเธอไม่อยากทำร้ายอีกฝ่าย แม้จะอยากก็ตาม
เพราะอีกฝ่ายนั้นมีชีวิต ต่างกับสเกเลตันก่อนหน้านี้
แม้เธอจะเริ่มโจมตีก่อน ถ้าสิ่งนั้นคือมนุษย์… เธอก็ใช้เดซี่บีมไม่ได้
หลังจากนั้นไม่นาน เธอเห็นว่าที่ด้านข้างของอาคารมันเริ่มมีรอยแตกใหญ่ๆ
และตัดสินใจว่าไม่สนใจอีกฝ่ายไม่ได้แล้ว
เดซี่ลดมือลงเล็กน้อยและยิงลำแสงไปที่นั่น และอาคารก็พังทลายอย่างช้าๆ
อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง จนอาคารนั้นถล่มจนเต็มไปด้วยควัน
อีกฝ่ายกระโดดลงมาจากอาคารที่กำลังถล่มลงสู่พื้น
ในขณะเดียวกันเดซี่ก็กระโดดจากจุดที่เธออยู่ และวิ่งเข้าหาเพื่อลดช่องว่าง
อีกฝ่ายก็ทำเหมือนกัน เริ่มฟันอากาศ ด้านล่าง ด้านข้าง หนึ่งครั้ง สองครั้ง
แต่เดซี่ก็หลบได้ทันท่วงที
แม้จะเป็นเทคนิคที่ทรงพลังก็จริง แต่ก็เหมือนกับการต่อสู้กับนักดาบในระยะประชิด
เดซี่สามารถขยับตัวตามการเคลื่อนไหวของดาบได้
สิ่งที่เธอต้องทำคือคิดว่าดาบนั้นอยู่ใกล้ตัวแล้วก็คอยหลบมันเท่านั้น
“เดซี่บีม! เดซี่บีม! เดซี่ บีมมมมมม!”
เดซี่ยิงลำแสงอีกครั้ง และอีกครั้ง แต่เธอไม่ได้เล็งไปที่อีกฝ่าย
เธอเล็งไปที่พื้นดิน ต้องการที่จะสร้างฝุ่นทรายที่จะลดการมองเห็นของอีกฝ่าย
เดซี่วิ่งเข้าไปในฝุ่นทรายขนาดใหญ่
เธอสัมผัสได้ถึงอีกฝ่าย ไม่เหมือนว่าจะพยายามซ่อนเลยสินะ
อีกฝ่ายฟันมาจากด้านล่าง เล็งมาที่ขาของเดซี่
เธอเอี้ยวตัวหลบไปด้านข้าง อีกฝ่ายก้มลง เดซี่เตะต่ำเข้าไปที่หน้าผากของอีกฝ่าย
แต่ก็เด้งออกมาอย่างแรง ขาของเธอรู้สึกชา
ดาบของอีกฝ่ายแทงขึ้นมาจากด้านล่าง เล็งมาที่คอของเมจิคัลเดซี่
เธอหลบได้ แต่ไปโดนไหล่ของเธอแทน
ถึงระยะจะอยู่ห่างแต่ก็ถูกคุมไว้ด้วยดาบ
เดซี่ก้มตัว พยายามจับขาของอีกฝ่ายจนล้มลง ดาบของอีกฝ่ายหลุดจากมือ
ทั้งคู่จึงเข้าประชิด พยายามจับแขนอีกฝ่ายที่มองไม่เห็น
เมื่อเดซี่จับอีกฝ่ายได้ เธอจึงรู้ว่านี่คือเมจิคัลเกิร์ล
มีประสบการณ์ต่อสู้ ผ่านการฝึกฝนมาเหมือนเธอ
ตอนที่สู้กันอยู่นี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองจะชนะได้
เดซี่จับไปที่แขนเสื้อของเธอแล้วทุ่ม
แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะถึงพื้น เธอเตะกวาดขาจากด้านล่างจนเดซี่เองก็ล้มลงไปด้วย
“ฮะฮ่า!”
อีกฝ่ายหัวเราะ และเดซี่ก็กัดฟัน
เธอโดนศอก หมัด เข่าเข้าที่ร่างกาย แล้วโดนจับเข้าที่คอ
เดซี่เตะสวนออกไปเพื่อสร้างระยะ
ร่างกายของเธอเริ่มร้อน เครื่องติด เธอเริ่มรู้สึกตื่นเต้น
มาสิ… มาสิ!!! จะทำอะไรต่อล่ะ หา?
มีลมพัดผ่านมา ควันค่อยๆจางหายไป
พัดพาฝุ่นออกไป เหลือเพียง เมจิคัลเดซี่ ที่ยืนอยู่
“…หือ?”
อีกฝ่ายหนีไปแล้วเหรอ? เป็นเรื่องดีใช่ไหม?
…ใช่ไหมนะ?
เธอรู้สึกเจ็บแผลที่ไหล่
แม้จะเจ็บ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าตัวเองพอใจตอนต่อสู้
แม้จะไม่เห็นหน้ากัน เมจิคัลเดซี่นั้นรู้สึกสนุกที่ได้ต่อสู้กับคนระดับเดียวกัน
และมั่นใจอีกฝ่ายก็รู้สึกแบบนี้ด้วย
“เธอไม่ใช่ นักดนตรี ”
เดซี่ได้ยินเสียงนั่นจากที่ไหนซักแห่ง เธอหันมามองรอบๆ แต่ก็หาต้นเสียงไม่เจอ
เธอไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร แต่ศัตรูของเธอคือเมจิคัลเกิร์ลแน่ๆ
ตอนนี้เธอเริ่มใจเย็นลงแล้ว และคิดถึงแผนการเดิม มองหาเมือง
เธอมองเห็นอะไรบางอย่าง… ไม่สิหลายอย่างเลย พวกนั้นอยู่รอบๆสิ่งหนึ่ง สิ่งที่อยู่รอบดูเล็กกว่า พวกมันมีสีขาว มีแต่กระดูก สเกเลตันนั่นเอง เหมือนกับเมจิคัลเดซี่
มีบางคนกำลังสู้กับสเกเลตันอยู่ เดซี่ยกนิ้วของเธอขึ้นมา
ต้องจัดการสเกเลตันพวกนั้นโดยเร็ว แต่ระยะขนาดนี้หากพลาดล่ะก็แย่แน่
“อ๊า โธ่เอ๊ย!”
เดซี่ตะโกนออกมาแล้วเริ่มวิ่งเข้าไปหา
___________________________________________________________________________
☆ เพจิกะ
ด้านในอาคารนั้นว่างเปล่า ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นที่อยู่อาศัยแต่กลับไม่มีใครอยู่
มีแค่บันได ห้องว่าง และลมที่พัดผ่านหน้าต่างแตกๆเข้ามา
เพจิกะพยายามค้นหาเบาะแสว่าตัวเองนั้นอยู่ที่ไหน
เมื่อเธอเข้าไปที่อาคารหลังที่ 3 เธอก็เริ่มท้อ
หลังจากค้นอาคารไป 5 หลัง เธอก็เริ่มกังวล
จนถึงหลังที่ 8 เธอก็สิ้นหวัง
เพจิกะไม่ใช่เด็กสาวที่เข้มแข็ง
เธอปัดฝุ่นบนพื้นและนั่งลงพิงกำแพง แล้วก็ถอนหายใจ
เธอคิดไม่ออกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน อยู่ดีๆก็โดนโจมตีโดยสัตว์ประหลาด
คนที่มาช่วยก็พยายามจะฆ่าเธอ มือถือกับแอปส่งข้อความก็ไม่ทำงานอีกต่าหงาก
เธอเรียกหาความช่วยเหลือจากใครไม่ได้เลย
อีกเรื่อง เธอไม่เข้าใจข้อความบนมือถือของเธอเลย
ตอนนี้ คุณมีเมจิคัลแคนดี้ 0 ชิ้น
เมจิคัลแคนดี้? ถึงจะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เมจิคัลเกิร์ลควรมี แต่เธอก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน
เธอคิดถึงเรื่องของนิโนมิยะคุง เธอพยายามหนีจากความเป็นจริงที่เจอ
ในตอนแรกเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นความจริงรึเปล่า แต่คิดเรื่องนิโนมิยะคุงแทนดีกว่า
เขาได้กินข้าวกล่องที่เธอให้ไหมนะ? ข้าวกล่องที่ทำจากเวทมนตร์ของเพจิกะ
ถ้าใครได้ชิมก็คงจะชอบ แต่มันอาจจะไม่ใช่ของชอบของนิโนมิยะคุงก็ได้
ถึงจะอร่อยก็จริง แต่ของชอบของแต่ละคนนั้นก็ต่างกัน เขาอาจจะขว้างทิ้งไปโดยไม่คิดก็ได้
อาจจะเอาไปให้คนอื่น อาจจะคิดว่าเขาโง่ด้วยซ้ำหากกินอาหารจากแฟนคลับที่ไม่รู้จัก
หากเพจิกะเป็นเขาล่ะก็ เธอคงไม่กินมันหรอก
อ่า…ไม่อยากนึกถึงมันอีกแล้ว…
แม้เธอควรจะมีความสุขหากคิดถึงเขา แต่กลับกลายเป็นดำดิ่งสู่ความคิดด้านลบ
เพจิกะร้องไห้ ร้องไห้เงียบๆ ไม่มีเสียง หากมีเสียงล่ะก็อาจถูกสเกเลตันโจมตีอีกก็ได้
ที่เธอทำได้มีแค่ปาดน้ำตาที่ไหลจากแก้มลงไปที่คาง น้ำตาหยดลงบนมือของเธอที่กอดเข่าตัวเองอยู่ ก่อนที่จะแปลงร่าง จิกะเป็นเด็กขี้แยมาตลอด เมื่อเธอแปลงร่างเป็นเพจิกะ เธอไม่เคยกลัวหรือร้องไห้มาก่อน ตอนนี้เธอร้องไห้ ร้องไห้ แล้วก็ร้องไห้ ร้องจนรู้สึกเหนื่อยล้าและอยากนอน ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่ามีอะไรสั่นๆอยู่ด้านหลัง จึงทำให้เธอตื่นขึ้น
เมื่อตื่นแล้ว เธอเอาหูแนบกับผนัง ได้ยินเสียงฝีเท้า แล้วก็…เสียงเท้าสัตว์?
มีเสียงพูดคุยกัน เธอไม่ได้อยู่คนเดียวในอาคารหลังนี้
ใครกันนะ? เพจิกะเอาหูที่แนบอยู่ออกจากผนัง แล้วก็เริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ
บางทีคราวนี้อาจจะเจอคนดีๆก็ได้ อาจจะรู้ว่าจะทำอะไร
อาจจะตอบคำถามที่เพจิกะอยากรู้ได้
ใช่ นั่นคือความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง
ตั้งแต่ที่เธอถูกพามาที่นี่ เธอไม่มีโชคอะไรดีๆกับคนที่เจอเลย
ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือไม่ หากพวกเขาดูปกติ เธอก็จะพยายามคุยด้วย
หากไม่ เธอจะวิ่งหนีก่อนที่พวกนั้นจะรู้ตัว นั่นคือแผน
เธอเคลื่อนไหวไปหาเสียงนั่นอย่างช้าๆ เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ละก้าวเธอรอเวลาผ่านไป 30 วินาทีก่อนถึงจะก้าวต่อไป
ก่อนหน้านี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยเหงื่อที่ย้อยไปถึงคาง
“ก็ บอก ไปแล้วใช่ไหม?”
ภาษาญี่ปุ่นล่ะ แต่น้ำเสียงกับไวยากรณฺ์ฟังดูแปลกๆ
ที่สำคัญเลย เพจิกะเข้าใจที่พวกนั้นพูด
“ตอนนี้ พวกเราจะปีนขึ้นไปด้านบน จะได้เห็นวิวที่ดีกว่า แล้วก็ นะ ริโอเน็ตต้า เธอพูดว่า-!”
“แหม ก็เธอยังไม่สนความเห็นฉันเรื่องที่สูงเลยนี่? ทำตัวงี่เง่าจัง
อ๊ะ โทษทีฉันไปจี้ใจดำงั้นเหรอ?”
“โฮ่!! เธอ!! ดิฉันจะไม่ทนกับพฤติกรรมของเธออีกแล้ว! จะ ไม่ ทนอีกแล้ว!”
“พวกเธอ 2 คน เลิกทะเลาะกันได้แล้วนะ!”
เพจิกะแอบมองอย่างระมัดระวัง
ในห้องนั้นไม่มีหลังคานั้น มีกันอยู่ 3 คน ไม่ใช่ 3 ตัว แต่เป็น 3 คน
เพจิกะอยากพูดกับคนพวกนั้นหากดูเป็นคนปกติ แต่เธอก็หยุดอยู่ด้านนอก
“พวกเรา ไม่ได้ ทะเลาะ! นี่คือการพูดคุยด้วย เหตุผล ต่างหาก!”
เด็กสาวที่พูดสำเนียงแปลกๆเธอใส่ชุดมิโกะ คงจะเป็นเมจิคัลเกิร์ลเหมือนกับเพจิกะ
แม้ชุดญี่ปุ่นจะไม่เข้ากับสำเนียงของเธอ แต่อย่างน้อยที่สุดก็ดูไม่แปลกอะไร
“ช่าย ไม่ได้ทะเลาะกันหรอก การทะเลาะกันน่ะมันต้องเฉพาะคนระดับเดียวกันเท่านั้นแหละ”
เด็กสาวอีกคนพูดขึ้น
เธอสวมผ้าคลุมผมกับบลูมเมอร์ ชุดแฟชั่นโลลิต้าขอหากไม่ใช่เมจิคัลเกิร์ลแล้วล่ะก็เข้าใจผิดได้ง่ายว่ามีงานอดิเรกแบบนั้น เพจิกะคิดว่าใบหน้าของเธอนั้นดูน่ารักแต่ก็ดูแปลก ที่ข้อศอกกับข้อมือนั้นมีข้อต่ออยู่ ผิวหนังเหมือนมนุษย์ แต่เพราะข้อต่อทรงกลมนั้นทำให้เธอดูไม่เหมือนมนุษย์ ดูเหมือนตุ๊กตามากกว่า
แต่คนที่ 3 นี่นาตกใจยิ่งกว่าเด็กสาวตุ๊กตาอีก หน้าตาน่ารัก สวมชุดสีม่วง มีริ้บบิ้นกับขนนกประดับอยู่ ท่อนล่างของเธอคือ…ม้า ตอนแรกเพจิกะคิดว่าเธอกำลังขี่ม้าอยู่ แต่ไม่ใช่…
ร่างกายท่อนล่างของเธอคือม้าจริงๆ ตั้งแต่ส่วนเอวลงไปคือม้า ส่วนบนคือตัวของเด็กสาว
ดูเหมือนกับ เซ็นทอร์
เด็กสาวพวกนั้นคือสัตว์ประหลาดเหมือนกับสเกเลตันรึเปล่า? หรือจะเป็นเมจิคัลเกิร์ลนะ?
เพจิกะบอกไม่ถูก ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่ควรเข้าไปหาจะดีกว่า
เธอเริ่มเดินถอยหลัง ระวังไม่ให้พวกนั้นรู้ตัว
แต่เมื่อเพจิกะเดินถอยหลังได้ 3 ก้าว เมจิคัลโฟนของพวกเธอก็ดังขึ้น
เด็กสาว 3 คนก็หยิบเมจิคัลโฟนของตัวเองขึ้นมาดู
ตอนนี้เพจิกะเข้าใจแล้วว่า 3 คนนั้นคือเมจิคัลเกิร์ล แต่ในเวลาเดียวกันเมจิคัลโฟนของเพจิกะก็ดังขึ้นด้วย ทั้ง 3 คนจึงมองมาที่เพจิกะ
แล้วเพจิกะวิ่งหนีโดยไม่หันกลับมามอง
___________________________________________________________________________
☆ เมจิคัลเดซี่
เมจิคัลเดซี่ช่วยเมดคนหนึ่งชื่อนกโกะจังเอาไว้
เธอแต่งตัวเหมือนเมดธรรมดา มีผมสีบลอนด์เงิน มัดผมสองข้างด้วยริบบิ้น
มือของเธอถือไม้ถูพื้นอยู่ มีริ้บบิ้นแบบเดียวกันประดับอยู่
เธอตัวเตี้ยกว่าเมจิคัลเดซี่ อายุราวๆ 10 ขวบ
เธอบอกว่าเป็นเมจิคัลเกิร์ล นกโกะจัง มาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ
ด้วยการเป็นเด็ก ตอนที่ตั้งชื่อเมจิคัลเกิร์ลนั้นเธอตอบไปอย่างร่าเริงว่า “นกโกะจัง!”
ตอนนี้เธออยากเปลี่ยนชื่อตัวเอง แต่นกโกะจังคือชื่ออย่างเป็นทางการของเธอแล้ว
เธอยื่นเรื่องขอเปลี่ยนชื่อไป 13 ครั้ง แต่ก็โดนดินแดนเวทมนตร์ปฎิเสธทั้งหมด
พวกนั้นบอกเธอว่า “เมื่อเลือกชื่อเมจิคัลเกิร์ลแล้วครั้งหนึ่ง พวกเราจะเปลี่ยนชื่อให้ไม่ได้นอกจากจะมีสถานการณ์พิเศษ แม้จะเป็นชื่อที่เด็ก 4 ขวบตั้งก็ตาม”
ตอนที่เธอรู้สึกอายที่อธิบายที่มาของชื่อให้เดซี่ฟัง เธอก็จับริ้บบิ้นที่ผมตอนพูดไปด้วย
เดซี่คิดว่ามันน่ารักดี
“เธอรู้ไหมว่าพวกเราอยู่ที่ไหน? ทำไมพวกเราถึงมาอยู่ที่นี่น่ะ?”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” นกโกะจังตอบ
“ฉันดูสมุดบัญชีธนาคารอยู่ดีๆ ก็มาโผล่ที่นี่เลย”
เดซี่สงสัยว่าทำไมเธอถึงดูสมุดบัญชีเอาตอนกลางดึกด้วยนะ แปลกจริง
เดซี่ยืนยันวันที่กับนกโกะจัง เป็นวันเดียวกัน
ถูกพามาที่นี่ในช่วงเวลาเดียวกัน
“เอ่อ…”
“อะไรเหรอ?”
“ใช่… เมจิคัลเดซี่…รึเปล่าคะ?”
“หือ? อื้อ ฉันเองแหละ”
“ว้าว! เหมือนในทีวีเลยค่ะ! อนิเมนี่ทำมาจากชีวิตจริงเหรอคะ?”
“ฮะฮะ… ก็ใช่ แต่มันโม้ไปหน่อยนะ”
นกโกะจังนั้นเป็นแฟนคลับของเมจิคัลเดซี่
เดซี่คิดว่าเธอนั้นเหมือนกับเมจิคัลทั่วไป
แต่การที่เจอแฟนคลับของตัวเองที่นี่ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้น เหตุผลโดยทั่วไปว่าทำไมถึงกลายมาเป็นเมจิคัลเกิร์ล ส่วนมากเลยนั้นคือ ”อยากเป็นเมจิคัลเกิร์ลแบบที่ตัวเองดูในอนิเมหรืออ่านในมังงะ! “
เดซี่เองก็เช่นกัน เธอรักเมจิคัลเกิร์ลจึงเลือกที่จะเป็นเมจิคัลเกิร์ล
คงจะไม่แปลกอะไรที่นกโกะจังเป็นแฟนคลับของเมจิคัลเกิร์ล
เดซี่เองก็ดีใจที่ได้เจอกับแฟนคลับของตัวเธอ
นกโกะจังคุยเรื่องอนิเมที่ดู ตอนที่เธอร้องไห้ ตอนที่เธอตื่นเต้น ตอนที่เธอเกลียดศัตรู
การที่ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ทำให้เดซี่ยิ่งรู้สึกอยากจะปกป้องเธอขึ้นมา
“ตื่นเต้นทุกครั้งที่ดูรีรันทุกสัปดาห์เลยค่ะ!” นกโกะจังพูด
“ตอนที่ฉายครั้งแรกฉันอยู่ ม.ต้น อยู่เลย… รีรันใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ”
ไอดอลรู้สึกแบบนี้กับแฟนๆรึเปล่านะ?
เมื่ออนิเม เมจิคัลเดซี่ จบลง เดซี่ก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอดอลที่รีไทร์ไปแล้ว
แต่เมื่อเห็นนกโกะจังพูดอย่างตื่นเต้นแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกเข้มแข็งอีกครั้ง
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานเรื่องเมจิดัลเดซี่
ก็ถูกดึงกลับมาสู่ความจริงด้วยเสียงของเมจิคัลโฟน
พวกเธอยังไม่รู้ว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ และทำไมสเกเลตันถึงโจมตีพวกเธอด้วย
หน้าจอของเมจิคัลโฟนยังแสดงข้อความว่า “กรุณามุ่งหน้าไปที่เมือง” อยู่
แต่มันไม่ง่ายอย่างที่เดซี่คิด เดซี่บอกทิศที่เมืองใกล้เคียงที่มองเห็นจากที่สูงกับนกโกะจัง
หวังว่าไปที่นั่นแล้วจะมีทางออกของสถานการณ์นี้
“ฉันจะไม่เป็นตัวถ่วงหรอกค่ะ!” นกโกะจังพูดอย่างตื่นเต้น
หน้าของนกโกะจังนั้นแดงเรื่อ ทำให้เมจิคัลเดซี่รู้สึกมีความสุข
แม้จะเป็นระยะทางไปที่เมืองนั้นจะไกล แต่ด้วยพลังของเมจิคัลเกิร์ลก็ไม่ใช่ปัญหา
จากที่เธอสู้กับสเกเลตัน เดซี่คิดว่านกโกะจังวิ่งได้ไม่เร็วมาก หรือไม่ได้มั่นใจในพลังของตัวเอง
เดซี่จึงลดความเร็วของเธอลง ถึงจะเป็นแบบนั้นพวกเธอก็มาจนถึงหลังจากวิ่งมาประมาณ 20 กิโลเมตร
ถึงพวกเธอจะเมืองเห็นเมืองจากที่ไกล แต่ในความจริงแล้วมันดูไม่เหมือนเมืองเลยซักนิด
พวกอาคารดูดีกว่าในที่รกร้าง ถนนพังไม่ดับรับการซ่อมแซม ฝุ่นควันฝุ้งอยู่เต็มถนน
มองจากภายนอกก็ไม่มีการทางเท้าด้วย
เดซี่บอกนกโกะจังให้อยู่ติดกันไว้ แล้วเดินเข้าไปในเมืองด้วยกัน
ใจกลางเมืองเป็นพื้นที่เปิดโล่ง เหมือนจัตุรัส มีรูปปั้นเมอร์เมดตั้งอยู่ นี่คงจะเป็นน้ำพุมาก่อน
แทนแที่จะมีน้ำกลับมีทรายอยู่แทน เหมือนกับไม่มีน้ำมานานแล้ว
มีคน 2 สองคนอยู่ที่จัตุรัสนั่น
“หวา! หวา! หวา!”
เสียงแปลกๆตะโกนขึ้นมา
เด็กผู้หญิงคนนั้นหน้าแดงและรู้สึกตื่นเต้น ชี้นิ้วมาทางเธอ
“ตัวจริงเหรอเนี่ย? เมจิคัลเดซี่ตัวจริงใช่ไหม?”
“อ่า ใช่ คิดว่าใช่นะ” เมจิคัลเดซี่ตอบกลับไป
“พระเจ้า! ตัวจริงล่ะ! เมจิคัลเดซี่ตัวจริง! คุณพระช่วย!!”
เมจิคัลเกิร์ลที่พูดนั้น สวมชุดสูทแบบล้ำยุค ใส่หมวก มีปืนลำแสงอยู่ข้างเอว
แต่ดีไซน์ดูเหมือนปืนของเล่น ไม่ใช่ของจริง ชุดของเธอดูเหมือนกองกำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดไม่ก็เอเลี่ยน เมจิคัลเดซี่นั้นชอบดูหนังแนวไซไฟแบบนั้นตอนช่วงวันหยุดฤดูร้อน
เห็นแบบนี้แล้วเธอก็นึกถึงช่วงเวลานั้นนิดหน่อย
“กะแล้วเชียว! เซ็นส์โอตาคุของฉันเนี่ยไม่เคยพลาดหรอกนะ! เมจิคัลเดซี่ ล่ะ!
ฉันเนี่ยมีของสะสมเต็มเลย! มี ดีวีดี ทุกแผ่นด้วย! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีตัวตนอยู่จริง!
วันนี้เป็นวันดีที่สุดของชีวิตเลยอ่ะ”
ตอนแรกเธอดูเหมือนพวกโอตาคุ
แต่ทุกอย่างที่เธอพูดนั่นคือการหลงไหลตัวเดซี่
เพราะแบบนั้นจึงทำให้เดซีมีความสุขหน่อยๆ
“เนี๊ยวเนี๊ยว! เนี๊ยวเนี๊ยว! มานี่สิ!!”
ไม่ใช่เสียงร้อง แต่นั่นคือชื่อคน เธอกำลังเรียกชื่อคนอยู่
แล้วก็มีเด็กสาวที่แต่งชุดแบบจีนออกมา มัดผมเป็นก้อนกลมๆสองข้าง
ดูเป็นเด็กสาวชาวจีนทั่วไป
“เพื่อนเธอเหรอ ยูเมโนะชิม่า รูว?”
เดซี่สังเกตุเห็นที่ด้านหลังของเนี๊ยวเนี๊ยว
เธอมีหางเหมือนพวกสัตว์เลื้อยคลาน เหมือนพวกสัตว์ยักษ์
ดูไม่เข้ากับชุดเลย
“เดี๋ยวสิ เนี๊ยวเนี๊ยว นี่เธอไม่รู้จักเมจิคัลเดซี่งั้นเหรอ?”
“โอ๋ เธอดังเหรอ? ขออภัยนะ รูว”
“อะไรของเธอเนี่ย? ใครๆ ก็รู้จักเมจิคัลเดซี่กันทั้งนั้นนะ!”
เด็กสาวชุดไซไฟแนะนำตัวเอง เธอชื่อว่า ยูเมโนะชิม่า จีโนไซโค
ส่วนเด็กสาวชุดจีนชื่อ @เนี๊ยวเนี๊ยว มี @เป็นส่วนหนึ่งของชื่อด้วย
ชื่อแปลกกันทั้งคู่เลย แต่เดซี่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพื่อไม่ให้ดูไม่ดี
“ชื่อแปลกจังเลยนะคะ”
…นกโกะจังดันพูดขึ้นมาซะงั้น
“ใครๆก็ว่าแบบนี้แหละ รูว.”
“ได้ยินแล้วตะลึงดีใช่ไหมล่ะ?” ยูเมโนะชิม่าพูดเสริม
ทั้งสองคนหัวเราะ เดซี่กับนกโกะจังเองก็พลอยหัวเราะไปด้วย
นกโกะจังเองก็ตัดสินใจบอกที่มาของชื่อตัวเองไปด้วย เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นไปอีก
ทั้งสี่คนนั่งเป็นวงกลมอยู่ที่รูปปั้นเมอร์เมด
จีโนไซโคกับ @เนี๊ยวเนี๊ยว นั้นไม่เคยเจอกันมาก่อน
เดซี่กับนกโกะจังก็เพิ่งจะเจอกันไม่นาน
ทุกคนเจออะไรมาเหมือนกัน มีเสียงมาจากเมจิคัลโฟน
แล้วตัวเองก็มาอยู่ที่นี่และถูกสเกเลตันโจมตี
“จริงสิ พวกเราเจอเมจิคัลเกิร์ลคนอื่นด้วย ฉันว่าพวกนั้นก็เหมือนกับเราแหละ รูว”
เธออธิบายว่ามีกลุ่มเด็กสาวมาที่เมืองนี้ก่อนแล้ว
“แล้วพวกนั้นไปไหนกันล่ะ?” เดซี่ถาม
“บอกว่าออกไปทำอะไรบางอย่างล่ะ รูว.”
“ไม่ได้บอกด้วยนะว่าทำอะไร เป็นพวกเมจิคัลเกิร์ลน่าสงสัยซะจริง”
“รวมกันอยู่ดีกว่านะ รูว. แต่พวกนั้นมีแผนของตัวเองเลยรีบออกไป.”
ตามที่ @เนี๊ยวเนี๊ยวพูด ยังมีเมจิคัลเกิร์ลอีก 4 คน
คนนึงดูเหมือนตุ๊กตา
อีกคนดูเหมือนมิโกะ
อีกคนที่ร่างกายครึ่งล่างเป็นม้า
และอีกคน หมดสติและถูกมัดอยู่บนหลังม้า
“เอ๋!? ปล่อยไว้แบบนั้นดีแล้วเหรอ?” เดซี่พูดขึ้นมา
“พวกนั้นมัดเธอไว้เพื่อไม่ให้ร้องไห้ คลั่ง หรือวิ่งหนีแล้วไปเจอปัญหาอีกน่ะ” จีโนไซโคอธิบาย
“คุยกับพวกนั้นแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่คนเลวนะ รูว”
เดซี่ไม่ใช่คนประเภทที่ห่วงคนอื่น แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน
ไม่บ่อยนักที่เธอจะเมจิคัลเกิร์ลที่ทำร้ายเมจิคัลเกิร์ลด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเจอมากับตัวแล้ว
“ตามที่พวกนั้นบอก ยังมีเมจิคัลเกิร์ลอยู่อีกนะ รูว”
“อยู่ดีๆพวกนั้นก็มาที่นี่ แล้วก็ออกไป ฉันเนี่ยไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น… หือ?”
ก่อนที่จีโนไซโคจะพูดจบ เธอมองไปที่เมจิคัลโฟนที่อยู่ในมือขวา
และอ้าปากกว้างเมื่อจ้องหน้าจอ
“มีข้อความใหม่แล้ว! ทุกคนดูที่มือถือตัวเอง เดี๋ยวนี้เลย!”
ก่อนหน้านั้น เมจิคัลโฟนแสดงข้อความแค่ “กรุณาไปที่เมืองที่ใกล้ที่สุดด้วย!”
ส่วนตอนนี้ข้อความคือ…
เพิ่มปุ่มซัพพอร์ต!
“ปุ่มซัพพอร์ต?”
ปุ่มซัพพอร์ตเหมือนว่าจะกดได้ เมจิคัลเดซี่เลื่อนนิ้วของเธอไปช้าๆ แล้วกดอย่างเบาๆ
___________________________________________________________________________
ฝั่งมาสเตอร์ #1
ห้องเรียนถูกย้อมไปด้วยเปลวเพลิง
ที่นี่คือโรงเรียนเก่าๆที่สร้างด้วยไม้ ไม่มีสปริงเกอร์ดับไฟ มีหลายอย่างที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นหนังสือ ภาพแขวน หน้าต่าง กรอบรูป ทุกอย่างถูกเผาด้วยเปลวเพลิงดั่งนรก
ทุกสิ่งกลายเป็นสีแดงเพลิง และมีควันพิษสีดำอยู่เต็มห้อง
มันคือนรกบนดินที่มีเมจิคัลเกิร์ลสองคนเผชิญหน้ากันอยู่
ฝั่งหนึ่งคือเมจิคัลเกิร์ลสีแดง ผมสีแดงเพลิง แต่งชุดวันพีซสีแดงเหมือนกับเปลวเพลิง มีความโกรธเกรี้ยวอยู่ในภายในตัวของเธอ ใบหน้าของเธอดูป่าเถื่อนราวกับอสูร เธอยกหมัดของเธอขึ้นมาด้านหน้าแล้วย่อตัวลงช้าๆ
อีกฝั่งหนึ่งคือเมจิคัลเกิร์ลสีขาว แต่งชุดนักเรียนเหมือนกับเด็ก ม.ต้น มีดอกไม้ประดับชุดอยู่ตามตัวและที่ผม มีอาวุธยาวดูคล้ายง้าว สิ่งที่แตกต่างจากเด็กสาวสีแดงคือ ใบหน้าของเธอคนนี้ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
เมจิคัลเกิร์ลสีแดงเคลื่อนไหวก่อน เธอย่อเข่าลงจากท่วงท่าต่ำแล้วใช้ขาโจมตีเมจิคัลเกิร์ลสีขาว
มันคือการหลอก แต่เมจิคัลเกิร์ลสีขาวนั้นรู้ว่าจะโจมตีมา เธอจึงเอาง้าวกันไว้
ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ทั้งหมดถูกง้าวของเธอกันไว้ได้หมด
เมื่อถึงการโจมตีครั้งที่ 4 เมจิคัลเกิร์ลสีขาวได้เฉือนขาของเมจิคัลเกิร์ลสีแดงอย่างรวดเร็วด้วยง้าว
เท้าของเมจิคัลเกิร์ลสีแดงขาด เลือดของเธอไหลเจิ่งนองไปทั่วห้อง
เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
เมจิคัลเกิร์ลสีแดงพ่นไฟออกมาจากปาก มันควรจะเป็นการโจมตีที่ไม่ทันตั้งตัว
แต่ว่าเมจิคัลเกิร์ลสีขาวก็หมุนง้าวของเธอด้วยความเร็วสูง
ในตอนที่คิดอะไรไม่ออกนั้น เปลวเพลิงก็ถูกกำจัดโดยลมจากง้าวไปหมดแล้ว
ง้าวนั้นดูจะเป็นอาวุธหนัก แต่ด้วยแรงของเมจิคัลเกิร์ลแล้วมันก็เบาเหมือนขนนก
เมจิคัลเกิร์ลสีขาวนั้นเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำคงเป็นเพราะร่างกายของเธอ
เมจิคัลเกิร์ลสีแดงกรีดร้องอีกครั้ง พาตัวเองเข้าไปในเปลวเพลิงแล้วก็หายไปในนั้น
หลังจากนั้น เปลวเพลิงด้านหลังของเมจิคัลเกิร์ลสีขาวก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นมนุษย์แล้วก็กลายร่างเป็นเมจิคัลเกิร์ลสีแดง เมจิคัลเกิร์ลสีขาวนั้นไม่ควรจะรู้ แต่ว่าก็อย่างที่แล้วมา เธอรู้ว่าจะมีการโจมตี เมจิคัลเกิร์ลสีขาวเลยก้มหัวลง และเป็นอีกครั้งที่เมจิคัลเกิร์ลสีแดงเตะพลาด
เมจิคัลเกิร์ลสีแดงเอาตัวเองเข้าหาเปลวเพลิงด้านหน้าแล้วหลอมละลายไป
สีหน้าของเมจิคัลเกิร์ลสีขาวไม่ได้เปลี่ยนไป เธอหมุนง้าวแล้วเสียบลงไปที่พื้น
เธอเอาบางอย่างออกมาจากกระเป๋าใบเล็ก เปลวเพลิงสีแดงก็มอดกลายเป็นควันสีเทา
สิ่งที่เธอเอาออกมาคือ… ถังดับเพลิง
เธอดึงสลักออก ฉีดพ่นไปยังเพดาน ทั่วห้อง ใต้โต๊ะ เปลวเพลิงทุกที่ดับมอดลง
มีบางสิ่งหล่นล่นมาจากเพดานพร้อมเสียงร้อง
เมื่อเมจิคัลเกิร์ลสีขาวมองดู เธอเห็นเด็กสาวผมสีแดง เสื้อสีแดง แต่ทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยโฟม เมจิคัลเกิร์ลสีแดงนั่นเอง
เมจิคัลเกิร์ลสีแดงมีทั้งความกลัว น้ำตา โฟม และความทรมาณผสมอยู่บนใบหน้าของเธอ
เมจิคัลเกิร์ลสีขาวเดินเข้าหาเธออย่างช้าๆ เงื้อถังดับเพลิงขึ้นแล้วทุบลงมา
ทุบซ้ำๆไปที่เมจิคัลเกิร์ลสีแดง 5 ครั้ง จนเมจิคัลเกิร์ลสีแดงแน่นิ่งไป
เมจิคัลเกิร์ลสีขาวขว้างถังดับเพลิงทิ้ง มองลงปยังเมจิคัลเกิร์ลสีแดง
สีหน้าของเธอก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไป
วีดีโอจบลงตรงนี้
___________________________________________________________________________
เมาส์ขยับ โปรแกรมเล่นวีดีโอและเบราเซอร์ถูกปิด คลิกเมาส์แต่ละครั้งก็เกิดเสียง
สุดท้าย PC ก็ปิดลง เป็นเพราะ PC นั้นเป็นแสงอย่างเดียวในห้องนี้ ห้องก็เลยมืดลง
ห้องมืดๆ มีกลิ่นเหม็นอับ และในที่สุดก็มีเสียงขึ้นมา
“สุดท้ายตัวร้ายก็ถูกจับ… อ่า สโนไวท์นี่ยอดเยี่ยมสุดๆเลย ใช่ไหมล่ะ?”
เสียงของเด็กสาวเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม
อายุของเธอนั้นเหมือนจะอยู่ประมาณช่วงวัยรุ่นตอนกลาง
“แม้ เฟรมฟรามี่ จะเป็นเมจิคัลเกิร์ลที่มีทักษะการต่อสู้สูง แต่พออยู่ต่อหน้าสโนไวท์เธอก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเองนะ! เป็นเพราะสโนไวท์รู้การเคลื่อนไหวทุกอย่างก่อนที่เธอจะขยับตัวซะอีก! ฮะฮ่าาา!”
เสียงของเด็กสาวนั้นแหลมสูง แต่มันก็เต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม
“เจ๋งอย่างที่คิดไว้เลย… ไม่มีเมจิคัลเกิร์ลชั่วร้ายคนไหนที่หนีจาก นักล่าเมจิคัลเกิร์ลสโนไวท์
ไปได้หรอก! ‘มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเป็นเมจิคัลเกิร์ลได้’ เหตุผลงี่เง่าอะไรที่เฟรมฟรามี่คิดว่าฆ่าแล้วดีเนี่ย? ” เมจิคัลเกิร์ลน่ะควรเป็น ฮีโร่แห่งความยุติธรรม เซ่! ฮ่าฮ่าฮ่า!
เสียงพูดมันสะท้อนไปทั่ว
“ใช่แล้ว เมจิคัลเกิร์ลต้องมีความแข็งแกร่งเป็นเรื่องที่รู้กันแน่นอนอยู่แล้ว แต่พวกเธอก็อ่อนโยน งดงาม เต็มไปด้วยความเมตตา มิตรภาพ การอุทิศตน แล้วอื่นๆอีกมากมายด้วย!”
“ก็ใช่… จริงนั่นแหละ เรายังคิดว่านั่นคือความแข็งแกร่งในตัวเองแหละ ปอน”
เสียงที่ตอบกลับเด็กสาวไปนั้นสูงเหมือนกับเด็ก แต่โทนเสียงฟังแล้วสงบ
“รู้แล้วน่า… พี่เลี้ยงสอนชั้นมาเยอะแล้ว แค่ความแข็งแกร่งไม่เพียงพอที่จะเป็นเมจิคัลเกิร์ลหรอก! พวกเราไม่ต้องการเมจิคัลเกิร์ลที่แสวงหาความแข็งแกร่งหรอกนะ! พวกที่ฆ่าคนอื่นนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรวมถึงเมจิคัลเกิร์ลที่ถูกเลือกโดยเกมแห่งความตายด้วย…”
เหมือนว่าเสียงของเด็กสาวจะตื่นเต้นขึ้นแล้ว
“… เพราะแบบนี้แหละ ชั้นถึงจะช่วยสโนไวท์ยังไงล่ะ”
เด็กผู้หญิงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและแข็งกร้าว
MANGA DISCUSSION