ตอนที่ 12 เดินหน้า (3)
รุ่งเช้า ทาเรนตื่นนอนตามปกติ แสงลอดผ่านผ้าม่านสะท้อนกับสิ่งรอบข้างตกกระทบร่างกายอย่างอบอุ่น นกร้องเสียงสูงใสเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า เธอค่อยๆ เปลี่ยนท่าจากนอนเป็นการนั่งข้างเตียง บิดขี้เกียจ ยืดแขน ยืดขา ให้รู้สึกสดชื่น ก่อนตรวจสอบพบว่าเหลือเวลาก่อนนัดหมายถึงห้าชั่วโมง เธอลุกออกจากที่นอน ตั้งใจเดินทีละก้าวตรงไปยังห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปมองภายใน พื้นผนังทำจากอิฐดูเรียบง่ายสะอาดสะอ้าน
เธอเดินเข้าไปพร้อมเตรียมของจำเป็น สูดหายใจลึกก่อนใช้ขันตักขึ้นมาอาบ น้ำจากธรรมชาติเย็นจับใจทำให้ร่างสั่นสะท้าน เธอใช้สบู่ถูส่วนเว้าโค้งสวยงาม ใช้แชมพูที่พกมาสระผมด้วยน้ำหลายขัน จากนั้นใช้ครีมล้างหน้าถูเบาๆ เธอล้างตัวให้สะอาดหมดจด ก่อนใช้ผ้าขนหนูซับตัวให้แห้ง
เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวด้วยชุดเดรสสีชมพูอ่อน ก่อนแต่งหน้าเบาๆ ด้วยครีมบำรุงผิว ทาแป้งและลิปสีชมพูอ่อน หยิบแว่นกลมบนโต๊ะเล็กขึ้นมาสวมใส่ น่ารักสดใสดั่งเช่นทุกวัน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เธอเช็กของที่เตรียมตัวไว้อีกรอบก่อนเก็บเข้าที่ลับตา เดินออกจากบ้านพักมุ่งหน้าไปยังร้านขายขนมปัง
เธอเดินไปเรื่อยๆ พลางชมบรรยากาศรอบทาง เท้าก้าวเบาลงพื้นดินนุ่ม กลิ่นดิน กลิ่นไม้ชวนให้สบายใจ ในทุกวันนกยังคงส่งเสียงและบินผ่านไป ใบไม้ยังคงถูกลมพัดพลิ้วไหวลอยละล่องไปมา ใช้เวลาไม่นานก็ถึง เสียงระฆังก้องกังวานเมื่อมีคนเข้า ภายในร้านมีกลิ่นหอมของขนมปัง บรรยากาศเรียบง่าย
เธอสั่งขนมปังกลม พร้อมสโคนนำไปทานคู่กับชา พนักงานนำขนมปังและสโคนใส่ถุงกระดาษ เธอมองเข้าไปพลางสูดกลิ่น ก่อนยิ้มออกมาบางๆ จากนั้นเดินออกมาจากร้านด้วยใบหน้าอันน่าหลงใหล เธอเดินตรงกลับเข้าบ้านพักวางถุงกระดาษลงบนโต๊ะใหญ่ เตรียมกาน้ำร้อน ใส่ถุงชาลงในถ้วย เทน้ำร้อน แล้วรอสักพัก
เธอหยิบขนมปังกลมและสโคนออกจากถุง หั่นขนมปังออกเป็นแผ่นบางๆ แล้วทาแยมอย่างประณีต จากนั้นนำสโคนมาวางคู่กันกับขนมปังในจานเตรียมกินคู่กับชาที่กำลังส่งกลิ่นหอม เธอกัดลงไปคำแรกความหวานหอมกระจายเข้าไปทั่วปาก เธอกินอย่างช้าๆ ค่อยๆ ลิ้มรสชาติอย่างไม่เร่งรีบ
หลังทานอาหารเช้าเสร็จเธอเดินออกจากบ้านพักเพื่อไปเดินเที่ยวชมและพูดคุยกับคนในหมู่บ้าน เธอใช้เวลาที่เหลือเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในหมู่บ้านอีกครั้ง ทุ่งดอกไม้กว้างใหญ่สีสันสวยงาม กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยในอากาศ ลมพัดปลิวไสวราวกับอยากบอกอะไรบางอย่าง เธอใช้เวลามองดูไม่นาน ก่อนเดินทางไปสถานที่ถัดไป
เธอหยุดมองไปรอบๆ โบสถ์ ภายนอกมีหอระฆังเล็กๆ ติดกับอาคารพร้อมส่งเสียงก้องกังวาน รั้วไม้เตี้ยล้อมรอบลานหญ้าเล็ก หลังคาทรงแหลมทำจากแผ่นดินดูแข็งแรง ด้านหน้ามีประตูไม้โค้งสูงบานใหญ่ เธอผ่านทางเดินกรวดเข้าไป ก่อนมองรอบๆ สูดกลิ่นไม้เก่าและปรับสายตาให้ชินกับแสงสลัวภายใน เธอเดินช้า ไปยังม้านั่งไม้ที่เรียงกันเป็นแถว เสียงรองเท้ากระทบพื้นไม้เบาๆ ก่อนนั่งลงตรงแถวหลังสุด เธอพนมมือ หลับตา ภาวนาในใจ
โอ้ พระเจ้าผู้ทรงสถิตในฟ้าสวรรค์ ข้าพระองค์วางหัวใจลงแทบพระบาทของพระองค์ในยามนี้ ขอทรงทราบถึงการเดินทางซึ่งข้ากำลังจะเริ่ม หนทางเบื้องหน้านั้นอาจเปี่ยมด้วยสิ่งที่ข้ารู้ไม่ถึง แต่ข้าขอวางทุกย่างก้าวไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ ขอทรงประทานสติปัญญาแก่ข้า ให้รู้สิ่งที่ควรทำ ขอทรงประทานความกล้าแก่ข้า หากต้องเผชิญความมืดมิด และขอทรงปกป้องข้าจากสิ่งชั่วร้ายที่ข้าไม่อาจมองเห็น หากหนทางนี้มีภัย ขอทรงเปลี่ยนให้เป็นโอกาส หากหนทางนี้มีความทุกข์ ขอทรงอยู่เคียงข้าตลอดเวลา ขอให้ดวงตาของพระองค์เฝ้ามอง ข้าพเจ้าในทุกย่างก้าว
เธอไม่ใช่คนเคร่งศาสนา แต่ทำเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสงบใจ หลังจากนั้น นำดอกไม้วางไว้หน้าแท่นบูชา ก่อนเดินออกมานอกโบสถ์แล้วหวังว่าพระผู้เป็นเจ้าจะได้ยินเสียงภาวนา เธอใช้เวลาที่เหลือก่อนถึงเวลานัด เยี่ยมชมสถานที่ให้ได้มากที่สุดราวกับเธอจะไม่ได้กลับมา
เธอเดินไปตามเส้นทางเล็กๆ ลัดเลาะผ่านฟาร์มอันเงียบสงบ กลิ่นหอมของดินผสมกลิ่นหญ้าแห้งลอยแตะจมูก เสียงสัตว์เลี้ยงร้องเบาๆ คู่กับเสียงนกร้องบนยอดไม้ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากวิถีชีวิตเรียบง่ายของผู้คนในหมู่บ้าน
เธอหยุดมองคาเฟ่หลังเล็กที่มีไม้เลื้อยเกาะผนัง ร่มไม้ให้ร่มเงาแก่โต๊ะไม้ด้านนอก บาริสต้ายกแก้วกาแฟให้ลูกค้าพร้อมรอยยิ้ม เด็กสองคนกำลังวาดรูปอยู่ตรงมุมหนึ่งของร้าน เธอก้าวเข้าไปทักทาย สอบถามเรื่องที่พวกเขาวาด ก่อนยิ้มรับคำตอบอย่างเอ็นดู จากนั้นเธอเดินต่อไปยังร้านขายของชำ พูดคุยกับหญิงชราที่กำลังจัดของบนชั้น
เธอรับเสียงหัวเราะของคนในร้าน เห็นเด็กๆ วิ่งเล่นไปมา ผู้คนส่งยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร ทุกสิ่งดูปกติ ทุกสิ่งดูงดงามอย่างที่มันควรจะเป็น โลกเล็กๆ ใบนี้ยังคงหมุนอย่างสงบสุข เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย เธอเดินตามทางแคบที่พาไปสู่ลำธาร น้ำใสไหลเบาๆ สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ลมพัดเบาๆ ให้ใบไม้ร่วงหล่นลงบนผิวน้ำ เธอย่อตัวลงใกล้ขอบลำธาร มองเงาสะท้อนที่ปรากฏตรงหน้า ก่อนจะยืดตัวลุกขึ้น สูดหายใจลึกอีกครั้ง แล้วหันหลังให้ลำธาร เดินหน้าต่อไป
เที่ยงวัน
เธอเดินออกจากบ้านพักพร้อมกระเป๋าใส่อุปกรณ์ สูดหายใจลึก เตรียมใจให้พร้อม สายตาจริงจังไร้ท่าทีขบขันอีกต่อไป
ภายในป่ายังคงเย็นชื้น เงาไม้ผ่านมากระทบลำตัวเธอ เสียงเท้าแตะดินและไม้แห้งที่กำลังแตกสะท้อนเข้าหูเหมือนวันแรกที่ได้พบเขา
เขายืนรออยู่หน้าบ้านไม้เงียบๆ สายตาก้มมองนาฬิกา ก่อนเงยหน้าเมื่อเธอมาถึง
รถของผมอยู่ทางเดินริมถนนหมู่บ้าน เราไปกันเลยดีไหมครับ?
ค่ะ เรารีบไปกันเถอะค่ะ
สายลมพัดยอดไม้ราวกับกำลังโบกมือลา
ใช้เวลาไม่นาน ทั้งสองเดินฝ่าต้นหญ้ากลับออกมาสู่ทางหลักมาถึงรถยนต์คันเล็กสีเทาเมทัลลิก
เขาเปิดประตูผู้โดยสารให้เธอ ก่อนอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ เขาสตาร์ทรถขับไป
เมื่อรถเคลื่อนตัวใกล้ทางออกของหมู่บ้าน เธอหันมาหาเขา
เราจะไปที่ไหนกันหรอคะ?
ผมต้องขับไปถึงทางเข้าสลัมขนาดใหญ่ จากนั้นต้องเดินเท้าไปจนถึงตัวเมือง ถึงจะไม่ใช่ที่ลับตา แต่ก็เข้าถึงไม่ง่ายเลยครับ
เขาพักหายใจสั้นๆ ไม่ละสายตาจากถนน
ปกติเขาจะเป็นคนติดต่อผมก่อนเสมอ แต่ครั้งนี้คงต่างออกไปสักหน่อยครับ
เขาขับรถอย่างชำนาญราวกับผ่านเส้นทางมานับไม่ถ้วน
ทิวทัศน์ข้างทางค่อยๆ เปลี่ยนจากความเขียวชอุ่มของหมู่บ้านเป็นเขตชานเมืองที่เริ่มแห้งแล้ง
เสาไฟฟ้าเริ่มปรากฏเป็นระยะ บ้านเรือนดูเก่าและห่างกันมากขึ้น
สลัมขนาดใหญ่… ปกติฉันไม่ค่อยได้ไปที่แบบนั้นเลยค่ะ งานของฉันมักอยู่ในเมือง ไม่ก็หมู่บ้านแบบนี้ซะมากกว่า
คุณชอบงานที่ทำอยู่ไหมครับ?
เธอถอนหายใจเบาๆ สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง
ก็ไม่ได้รักหรือชอบมันขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่มันเป็นสิ่งที่ตัวฉันอยู่กับมันมาตลอด
เธอยิ้มบางๆ สีหน้านิ่งเฉย ก่อนจะหักบทสนทนา
ว่าแต่ เขาเป็นคนยังไงหรอคะ? คนที่คุณจะไปหา
ถ้าคุณเคยเจอโอรินมาก่อน เขาก็คล้ายๆ กัน แต่นิสัยจะค่อนข้างมีเอกลักษณ์มากกว่าคนทั่วไปครับ
เขานิสัยน่ารักสินะคะ
นิสัยน่ารักหรือครับ จะพูดอย่างนั้นก็ได้ครับ ผมเพิ่งเคยเจอคนแบบเขาเป็นครั้งแรก
รถเงียบลงชั่วครู่ มีเพียงเสียงล้อบดกรวดและเสียงลมลอดกระจก
เขาหันมามองเธอเพียงชั่ววินาที ก่อนจะถามเสียงเรียบ
ทำไมคุณถึงมาคนเดียว ไม่จำเป็นต้องพาคนอื่นๆ ในทีมมาด้วยหรือครับ?
เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ ใบหน้าเต็มไปด้วยเลศนัย สายตาเหลือบมองเขาเล่นๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงปนตลก
ฉันว่าคุณคงไม่อยากให้รถคันนี้เต็มไปด้วยคนถือปืน ก็เลยมากันสองคนแบบที่คุณน่าจะสบายใจมากกว่าค่ะ
เอาจริงๆ แล้วผมไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ถ้าคุณต้องการแบบนั้น ผมก็ยินดี
ใช้เวลานานไหมคะ กว่าเราจะไปถึง?
กว่าจะถึงสลัมประมาณสองสามวันได้ครับ เรื่องอาหารคงต้องแวะระหว่างทางและคงต้องพักที่โรงแรมก่อนเดินทางต่ออีกวัน เมื่อไปถึงเราคงต้องอยู่เดินเท้าที่นั่นนานหลายวันเลยทีเดียว
ค่อนข้างนานเลยนะคะเนี่ย แต่รถผ่านเข้าไปไม่ได้ เป็นกฎเฉพาะของที่นั่นหรอคะ?
ไม่ผิดกฎหรอกครับ เพียงแต่เดินเท้าไปจะไปถึงที่นั่นได้เร็วกว่า
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย พึมพำในใจเบาๆ ขณะจ้องมองเส้นทางข้างหน้า
เดินเท้าจะเร็วกว่ารถได้ยังไงกัน… ฟังดูแปลกๆ แฮะ
เธอเก็บความสงสัยไว้ในใจ
ส่วนจักรกลยังเดินหน้าต่อไป
เพื่อพาพวกเขาเข้าสู่โลกอีกใบ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 16 เด็กสาว (4) 3 วัน ago
- ตอนที่ 15 เด็กสาว (3) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 14 เด็กสาว (2) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 13 เด็กสาว (1) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 12 เดินหน้า (3) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 11 เดินหน้า (2) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 10 เดินหน้า (1) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 9 ทีมค้นหา (4) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 8 ทีมค้นหา (3) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 7 ทีมค้นหา (2) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 6 ทีมค้นหา (1) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 5 ข้อสงสัย (4) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 4 ข้อสงสัย (3) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 3 ข้อสงสัย (2) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 2 ข้อสงสัย (1) พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 1 พฤษภาคม 17, 2025
MANGA DISCUSSION