รถยนต์แล่นผ่านไปมาตามถนนปล่อยหมอกสีเทาปกคลุมตึกระฟ้าตั้งตระหง่านใจกลางเมือง แสงไฟนีออนเปล่งประกายตามขอบป้ายโฆษณา เหล่าชายไหล่กว้างสวมชุดสูทเดินสวนไปมาจนกระทั่งเธอเลิกนับจำนวน ดูคนนั้นสิ ใส่เสื้อยืดขาดๆ ผมหลากสีชี้แหลม ส่วนอีกคนใส่สร้อยทอง สวมหมวกแก๊ป เด็กสาวหยุดเดินแล้วหันคอมอง แสงสีเจิดจ้าน่าแปลกตา เกิดมาชาตินี้เพิ่งเคยเห็น
พวกเขาเดินบนทางเท้าพื้นแตกร้าว เศษขยะล้นจากถังปลิวลอยไหลไปตามลม ผนังกำแพงบางแห่งเต็มไปด้วยลวดลายตัวอักษร สาวแว่นกลมเดินไปข้างๆ เขาแต่ครั้งนี้เด็กสาวดึงมือเธอแล้วส่ายหน้า เธอพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินตามหลังต่อไป เสียงบางอย่างดังลอยมาจากนี้ไหนสักแห่ง คนจำนวนมากเดินพลุกพล่านผ่านไปมา แต่ไม่มีใครสนใจมัน เธอจูงมือเด็กสาวเดินไปถึงได้เห็นชายคนหนึ่งถือมีดจี้หญิงสาวในตรอกแคบ เธอดึงเด็กสาวหลบเข้ามุมกำแพง รอตรงนี้นะ อย่าไปไหน เด็กสาวพยักหน้าเบาๆ เธอเดินเข้าไปใกล้ ควักปืนใต้เอวแล้วกำมือแน่น ปืนเล็งต่ำ มันเห็นแบบนั้นจึงหัวเราะเสียงดังแล้วค่อยๆ เดินเข้าใกล้ เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย นิ้วมือเตรียมเหนี่ยวไก มันหยุดชะงักไปเมื่อเห็นบางสิ่ง
เธอหันหลังมองเขา ชายแจ็คเก็ตเทา เสียงหัวเราะแหลมสูงหยุดลง มีเพียงเสียงมีดเล่มเล็กตกกระแทกพื้นดังก้องสะท้อนเข้าหูเธอ มันเท้าก้าวเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เอามือแตะไหล่เขาแล้วเดินออกจากตรอกแคบ เธอหันกลับไปมอง หญิงสาวผู้นั้นหายไปไหนกัน? แต่ยิ่งไปกว่านั้น แวะทานอาหารกันดีกว่าครับ เปลือกตาเธอกระตุกเล็กน้อยก่อนหันหน้ามองเขา เด็กสาวชะโงกหน้ามองจากริมกำแพง สีหน้าเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง ไปกันเถอะค่ะ เธอบอก เขายืนรอทั้งสองคนแล้วค่อยเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง
แสงจันทร์สลัวๆ กลมกลืนกับแสงไฟนีออนสีแดงเขียว กลิ่นหอมแป้งอบและชีพเย้ายวนจนเด็กสาวน้ำลายไหล เสียงเพลงป๊อปจากตู้เพลงลอยออกมาตามลม พวกเขาเปิดประตูเข้าไปในร้าน มีผู้คนนั่งประปรายบนเบาะนวมสีแดงเข้ม ชายสวมผ้ากันเปื้อนและหมวกแก๊ปเหลือบมองมาที่พวกเขา ยินดีต้อนรับครับ เชิญเลือกที่นั่งได้ตามสบาย พวกเขามองผนังหลังเคาน์เตอร์ อืม อืม อืม จะอันไหนก็น่าสนใจ เธอนับเลขหนึ่งถึงยี่สิบเสียงเบาก่อนเลือกเมนูแล้วก้มมองต่ำ เลือกตามใจเลย จะอันไหนก็อร่อยนะ เด็กสาวเช็ดน้ำลายเหม่อไปสักพักก่อนส่ายหน้า เธอชี้ภาพตัวอย่างให้ดู เด็กสาวนับหนึ่งถึงยี่สิบในใจแล้วเริ่มสั่งอาหาร
ทั้งสามคนนั่งรออาหารข้างในโต๊ะไม้หนา เด็กสาวจับแขนแน่นแล้วมุดหน้าหลบเข้าไป เธอเหม่อมองวิวทิวทัศน์นอกกระจกพร้อมกับยกมือข้างหนึ่งดันแว่น เขามองเธอ อีกไม่นานก็คงจะถึงแล้วครับ ไม่มีเสียงตอบกลับ พวกเขาทานอาหารแล้วเดินออกไปนอกร้าน ผู้คนรอบข้างเดินผ่านไปมา ไม่มีใครสนใจพวกเขา เธอมองเห็นกลุ่มชายสามคนข้างถนน พวกมันล้อมสาววัยรุ่นหน้าตาสละสลวย ปากขยับอ้ำๆ อึ้งๆ เธอฝากเด็กสาวไว้ข้างเขา เด็กสาวท่าทางไม่เต็มใจนักแต่ก็ไม่มีทางเลือก เธอก้าวเดินเข้าไปหา ก่อนจะพูดอะไร พวกมันมองบางอย่าง แล้วเดินจากไป เสียงขอบคุณดังขึ้นได้ไม่ทันไรหญิงผู้นั้นเบือนหน้า แล้วเดินจากไป เธอขมวดคิ้ว พึมพำบางอย่างก่อนเดินกลับมาหาเด็กสาว
พวกเขาเดินมาถึงตึกสูงระฟ้าแห่งหนึ่ง ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กระจกสะท้อนแสงจันทร์สีเข้ม ดูทั่วไปไม่แตกต่างจากตึกอื่นมากนัก พวกเขาเปิดประตูเดินผ่านเข้าไปในล็อบบี้ พื้นหินเทาสะท้อนเงาของพวกเธอ เฟอร์นิเจอร์จัดวางน้อยแต่ดูหรูหรามีระดับ ไม่มีใครอยู่ที่นั่น ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงเท้า เขากดเปิดลิฟต์ขึ้นชั้นบนแล้วเดินเข้าไป แรงโน้มถ่วงคอยกระซิบข้างหู บอกว่ามันไม่ใช่ เด็กสาวหลับตาปี๋ แขนขาสั่น กอดเธอแน่น เสียงดังขึ้น ติ๊ง ประตูค่อยๆ เปิดออกช้าๆ
พวกเธออ้าปากค้าง เบิกตากว้าง ทางเดินกลางปูพรมแดงยาวตลอดแนวดั่งมหาวิหารของทวยเทพ พื้นปูด้วยหินอ่อนลายเทา มีประติมากรรมหินอ่อนเหมือนหลุดมาจากกรีกโบราณตั้งอยู่รายทาง แสงจันทร์ลอดจากหน้าต่างครึ่งวงกลม กลิ่นไม้โบราณและกระดาษเก่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ชั้นหนังสือกว้างใหญ่มากมายทำจากไม้หลากชนิด ทาด้วยสีขาวแซมทอง บางส่วนมีลวดลายรากไม้ชอนไชไปมา เพดานตกแต่งด้วยรูปภาพจิตรกรรม พวกมันคอยย้ำเตือนเหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลา รูปภาพหญิงสาวผมสั้นสีทองติดตามฝาผนัง เธอเดินเข้าไปใกล้รูปนั้น มันช่างละม้ายคล้ายคลึงกับตัวละครบนกล่องใหญ่นั้นเสียจริง หญิงผู้นั้นสวมสูทสีขาว มือข้างหนึ่งถือหนังสือ ดวงตาสีฟ้าส่องแสงเปล่งประกาย หน้าตาสมมาตรเหนือมนุษย์ ไม่มีทาง มันเป็นไปไม่ได้ เธอเดินจูงมือเด็กสาวกลับไปหาเขา
ชายแจ็คเก็ตเทาเดินไปใกล้รูปปั้นสีขาว เขาคว้ากุญแจใต้เสื้อ หมุนหัวของรูปปั้นเล็กน้อย เสียบกุญแจใต้ฐานรูปปั้น เขาหมุนเป็นจังหวะบางอย่าง เสียงดังขึ้น แกร๊ก รูปปั้นค่อยๆ เลื่อนกลับเข้าที่เดิม พวกเธอเดินตามเขาเข้าไปในชั้นหนังสือ เขาหยิบหนังสือชั้นล่างสุดและวางไว้ข้างกาย มือควักมีดใต้เสื้อแงะเข้ากับแผ่นไม้บางๆ เขาจับบางอย่าง ออกแรงบิดแล้วดึงมันออกมา ชั้นหนังสือเปิดออกรูปร่างคล้ายประตูเลื่อน ลมเย็นและกลิ่นหอมดอกไม้จางๆ ลอยโชยเข้าจมูกพวกเธอ เสียงดนตรีออร์เคสตรากระแทกเข้าใบหน้า กล้ามเนื้อทั่วร่างกระตุกตามจังหวะเพลง ทุกอย่างเงียบลงคงเหลือไว้แต่เสียงของมัน เธอพยายามยืนให้มั่นคงส่วนเด็กสาวยกมือทั้งสองข้างปิดหูแน่น เขาหันมองพวกเธอสักพักก่อนเดินลงบันได
เธอเดินตามเขาพร้อมก้มลงมองต่ำ พรมหนานุ่มยวบลงทุกครั้งที่ย่ำเท้า โคมไฟเล็กสะท้อนแสงลงบนราวจับบันได ลวดลายถูกแกะสลักอย่างแม่นยำ มันเปล่งแสงทองอร่ามกลืนกินความมืดมิดของโลกนี้ไปจนสิ้น อากาศเย็นยะเยือกส่งเส้นขนทั่วร่างให้ลุกชัน เด็กสาวกอดมือเธอแน่นขณะค่อยๆ ยกขาลงทีละขั้น เธอเดินมาถึงปลายทาง เงยหน้ามองเพดานสูงราวๆ สิบเมตร โคมไฟหลักขนาดใหญ่ส่องแสงแวววาวสะท้อนกับผนัง เธอเหลือบมองไปรอบๆ โซฟาขนาดใหญ่ เก้าอี้หนัง โต๊ะไม้แกะลาย แจกันโบราณ แล้วก็ หืม ตุ๊กตาสวมหน้ากากดำ?
พวกเขาเดินขึ้นไปบนบันไดโค้งคู่ พื้นไม้สีเข้มมันวาวสะท้อนเงาพวกเธอ ภาพวาดของหญิงสาวผู้นั้นแขวนเงียบบนผนัง บางภาพเหมือนตามองสวนกลับมา พวกเขาเดินตามเสียงดนตรีมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดที่หน้าบานประตูใหญ่ เสียงเพลงดังลอดออกมาจากช่องแคบ เขาเคาะประตู เงียบ เขาเคาะประตูอีกครั้ง เงียบ เขาหยิบกุญแจดอกหนึ่งขึ้นมา เคลือบสีทองมันวาว รูปร่างคล้ายหนังสือถูกมือบีบจนผิดรูป ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไป เธอชะโงกหน้าเข้าไปดูภายในห้อง
ข้า คือพ่อของเจ้า
สาวผมทองขยับริมฝีปากขมุบขมิบ มือสองข้างควงไม้ถูพื้นกวัดแกว่งมันรอบทิศทางอย่างดุเดือดเลือดพล่าน เท้าคู่นั้นหนักแน่นและว่องไว มันย้ำลงตามจังหวะเพลง เมื่อใกล้ถึงท่อนฮุกสาวผมทองเก๊กหน้าเข้มเร้าใจแล้วกระโดดหมุนตัวกลางอากาศ โยกเอวซ้ายขวาพร้อมกับทำเสียงดัง โช้งเช้ง โช้งเช้ง โช้งเช้ง ฟาดฟันซ้ำไปซ้ำมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด บางท่ารุนแรงจนเกิดเสียงไม้กระแทกพื้น ถึงแม้เหงื่อเริ่มไหลซึมตามคอ แต่สายตายังแน่วแน่ มือเริ่มออกแรงเหวี่ยงมากขึ้น แรงเกินควบคุมจนตัวเองหมุนตามไปด้วย สาวผมทองกระโดดถอยหลัง ขาพันกันเองจนล้มลงไปหน้าคะมำ สาวแว่นกลมยกมือข้างหนึ่งปิดปาก ส่วนอีกข้างค่อยๆ แง้มประตูปิดลง เธอนอนมือกุมท้องลงไปดิ้นกับพื้น เสียงหัวเราะลากยาวใสสูงเกินจำเป็น เธอพลิกตัวไปมา มือทุบพื้นไม้หลายครั้งก่อนค่อยๆ ลุกขึ้นเปิดประตูเข้ามาอีกครั้ง ชายแจ็คเก็ตเทามองหน้าเธอ
คุณรู้ใช่ไหมครับ ว่าประตูมันไม่กันเสียง
ขอโทษค่ะ อุ้บ
เสียงทั้งหมดเงียบลง หญิงสาวผู้นั้นใบหน้ากระตุก ไม้ถูพื้นในมือค่อยๆ ร่วงลงอย่างช้าๆ เธอหันมองดวงตาคู่นั้นแล้วเปิดประตูออกไปนอนดิ้นอีกรอบ
MANGA DISCUSSION