Infinity Armament สรรพวุธไม่สิ้นสุด - ตอนที่ 91
IA:เล่ม 3 บทที่ 26 ราชินีแห่งพายุ (ตอนที่ 2)
“พวกเราก็ต้องลงไป ไม่ต้องสนเรื่องลูกน้องของแม็กนีโต้หรอก เราต้องรายงานเรื่องให้ชาร์ล นี่มันผิดปกติแล้ว” สตรอมตะโกนและโบกมือ สายลมเข้ามาห้อมล้อมตัวเธอและพรรคพวกพร้อมกับพาตัวเธอขึ้นไปบนอากาศ
“ชินยี่! บนฟ้า!” เหวินโหรวชี้ขึ้นไปข้างบนและชินยี่ก็หันตาม
“นั่นมัน สตรอม!”
“กับวูฟเวอรีน”
“ไอซ์แมนด้วย!”
“จัดการมันเลย!”
นักผจญภัยทั้งหลายพุ่งตัวเข้าไปหาสตรอม
“อย่านะ!” ชินยี่ตะโกนห้าม ซึ่งมีเพียงฮงหลานกับอีกน้อยคนนักที่ฟังเขาและหยุดการกระทำนั่น แต่พวกตะวันตกยังเลือกที่จะยิงปืนของพวกเขาขึ้นสู่ท้องฟ้า
สำหรับพวกเขาแล้วการปล่อยให้พวกกลายพันธ์หนีไปนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้
โดยเฉพาะพวกเลเวลสูงอย่างสตรอม
ตามที่ผู้อำนวยการเมืองโลหิตบอกมา ยิ่งตัวละครที่เจอมีเลเวลสูงมากขนาดไหน ของรางวัลก็จะยิ่งสูงขึ้นตาม
ยิ่งไปกว่านั้นพวกตัวละครเหล่านั้นมักจะมีโอกาส 100% ในการดรอปกล่องสมบัติเสียด้วย
แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเหมือนข้อจำกัดที่ว่าพวกตัวละครเหล่านี้นั้นไม่สามารถกำจัดได้โดยง่าย
วูฟเวอรีนเดินมาข้างหน้าสตรอมกับไอซ์แมน กระสุนทั้งหมดพุ่งเข้าใส่เขาแต่เพียงแค่เขายักไหล่กระสุนพวกนั้นก็หลุดออกจากร่างของเขา
ในจังหวะเดียวกันสตรอมก็แหงนมองขึ้นไปบนฟ้าดวงตาของเธอกลายเป็นสีขาวและยกมือขึ้น
และด้วยท่าทีของเธอทำให้ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำขนาดใหญ่เหนือเขตตะวันออกนี้บดบังทัศนวิสัยของนักผจญภัยทุกคน
สายฟ้าแล่บจากก้อนเมฆ
“สตรอมกำลังควบคุมสภาพอากาศอยู่ ทุกคนระวังด้วย!” เหวินโหรวตะโกน
สายฟ้าได้ผ่าลงมาที่ชายผิวสีส่งให้ตัวเขาลอยขึ้นไปบนฟ้า
ถ้าเป็นคนธรรมดาก็คงตายไปแล้ว แต่ชายผิวสีนั่นมีค่าความอึดที่เยอะกว่าปกติอยู่เขาจึงยังไม่ตายทันทีและเหลือพลังชีวิตเพียงแค่ 2 ใน 3 ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาจนเหงื่อตกได้เหมือนกัน
จากนั้นสายฟ้าจำนวนมากก็ไล่ผ่าลงมาบนเขตตะวันออกนี้ เป็นฉากที่ดูตระการตามากถ้าพวกนักผจญภัยยังมีอารมณ์ว่างมาชื่นชมล่ะก็นะ พวกเขาหนีตายกันจ้าละหวั่นไม่ต่างอะไรกับหนูท่อที่ถูกไล่ที่
เท่านี้ยังไม่พอพวกเขายังโดนลมหนาวที่ถูกปล่อยออกมาจากไอซ์แมน อุณหภูมิถูกลดลงอย่างรวดเร็วและเกิดเป็นแท่งน้ำแข็งกลางอากาศ
เรน่าเงยหน้าขึ้นมองและสบถ “เวรแล้วไง”
แคร้ง!
เศษน้ำแข็งพุ่งลงมาดั่งพายุ แม้ว่ามันจะสร้างความเสียหายได้เพียงไม่กี่หน่วย แต่ด้วยความที่มันโถมมาเป้นพายุแบบนี้มันทำให้กลายเป็นความเสียหายที่น่ากลัวได้ในเพียงไม่กี่อึดใจ
“เข้าไปในห้าง!” ชินยี่ตะโกนและรถของเขาก็พุ่งเข้าไปในตัวอาคารพร้อมกับทุกๆคน
ฟรอสรีบพาทหารของเขาเข้าไปในอาคารแต่ทว่ามันก็สายเกินไป หลายต่อหลายคนล้มหายตายจากไปทำให้ใจของชินยี่แทบจะตกไปอยู่ตาตุ่ม
หลังจากที่พวกเขาไปหลบภัยกันในห้าง ภายนอกอาคารก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง แท่งน้ำแข็งทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
พลังของสตรอมกับพลังของไอซ์แมนได้ก่อให้เกิดการทำลายล้างที่ทำให้นักผจญภัยต้องหนีตายไปตามๆกัน
หลังจากนั้นกลุ่มเมฆก็มลายหายไปพร้อมๆกับพวกกลายพันธุ์สามคนนั่น
เหวินโหรวถึงกับหน้าถอดสี “พวกมัน…แข็งแกร่งเกินไป”
“อย่าลืมสิว่าพวกเขาคือตัวเดินเรื่องหลัก” ชินยี่กระโดดออกมาจากรถ “ในบรรดาพวกกลายพันธ์แล้วทั้งสามคนนั้นแข็งแกร่งโคตรๆ”
เหวินโหรวประหลาดใจและถาม “นายคิดเรื่องนี้อยู่ใช่ไหม? ถึงได้บอกห้ามพวกเราโจมตี?”
“แต่มันก็ยังมีไอ้พวกที่ไม่ฟังกันอยู่!”
ชินยี่พูดอย่างเย็นชาพลางมองไปที่พวกนักผจญภัยตะวันตก
“แต่ก็ว่าเถอะ พวกเราเองก็ฆ่าพวกกลายพันธ์มามากพอแล้วใช่ไหม?” เลคยิ้ม
เพียงช่วงเวลาสั้นๆแต้มสังหารของทุกคนก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แต้มเหล่านี้ทำให้พวกนักผจญภัยที่อยู่นอกพื้นที่นี้ไม่สามารถเข้าใจได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เลคเห็นว่าอันดับของเขาพุ่งสูงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของพวกนักผจญภัยตะวันตกทั้งหมด และแต้มสังหารของฝั่งตะวันตกเองก็ไล่เลี่ยกับแต้มของทางใต้ทำให้พวกเขาสบายใจได้
แต่ในจังหวะนั้นชินยี่ก็พุ่งเข้าใส่เลคและส่งเขาลอยขึ้นไป
ชายผิวสีเห้นแบบนั้นจึงเข้าโจมตีชินยี่กลับหมายจะสั่งสอน แต่ชินยี่กลับหมุนตัวและเล็งปืนมายังเขาและเหนี่ยวไกลั่นกระสุนใส่หัวของเขา
แล้วจากนั้นชายคนนั้นก็คุกเข่าลงไปกองกับพื้น
“เฟลเล่อ!” เรน่าร้องออกมา
ความเสียหายจากกระสุนนั่นรุนแรงพอสมควร แถมเฟลเล่อยังได้รับบาดเจ็บมาจากพายุของสตรอมอีก ในจังหวะที่เขาโจมตีชินยี่พลังชีวิตของเขาก็แทบจะเป็นศูนย์อยู่แล้ว ดังนั้นกระสุนเพียงนัดเดียวเขาก็จากโลกนี้ไปทันที
มือซ้ายของชินยี่ถือ Vampire Touch อยู่และวางมันลงบนคอของเฟลเล่อ ปืนในมือขวาของเขาเล็งไปยังเลคที่กำลังลุกตัวเองขึ้นมา
นักเวทย์กำลังจะโจมตีแต่ทว่าฮงหลานกับจินกวงก็เข้ามาพูดกับเขาด้วยเสียงหนักอึ้ง “อย่าขยับเชียวไอ้หนุ่ม”
เหวินโหรวขยับแส้ของเขาหยุดการเคลื่อนไหวของเรน่าเอาไว้แม้แต่เจ้าอ้วนขี้ขลาดก็เล็งปืนขึ้น
เช่นเดียวกับอันเหวินกับพรรคพวกที่ไม่กล้าจะเข้าไปยุ่งเหมือนกัน
“อย่าโจมตีเขา!” เรน่าตะโกนด้วยความกลัว เธอไม่คิดว่าชินยี่จะโจมตีแบบไม่มีเหตุผลหรอก
“ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อกี้!” ชินยี่พูดด้วยเสียงเย็นชา “แกรู้ไหมว่าฉันเกลียดคนประเภทไหนมากที่สุด? ไม่ใช่ไอ้โง่ ไม่ใช่ไอ้ขี้ขลาด ไม่ใช่แม้แต่ไอ้พวกเลวระยำด้วย แต่เป็นไอ้พวกที่เห็นแก่ตัว! ฉันยอมร่วมมือกับคนโง่ที่เชื่อฟังคำสั่งจากเพื่อนยังดีกว่าต้องมาทนกับไอ้พวกเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมเคารพเพื่อนร่วมทีมอย่างแก! ดังนั้นฉันจึงต้องสั่งสอนแก ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันบอกได้เลยว่าฉันจะฆ่าแกเพื่อจบปัญหาทุกอย่างซะ”
“ชินยี่ พวกมันเป็นแค่พวกกลายพันธุ์ ภารกิจของเราคือกำจัดพวกมันไม่ใช่เหรอ? แล้วมันผิดตรงไหน?” เธอบอก
“ผิดตรงไหนเหรอ? ก็มันโจมตีตัวละครหลักแล้วพวกฉันก็โดนมันสวนกลับไง พวกแกรู้ไหมว่ามีทหารของฉันต้องตายไปกี่ศพจากพายุเมื่อกี้? ฟรอส!”
ฟรอสเดินออกมา
“รายงานความเสียหาย!”
“ทหารทั้งหมดที่เรามีในการปฏิบัตภารกิจนี้ มีด้วยกัน 100 นาย 34 นายไม่อยู่ที่นี่ 52 นายถูกสังหาร และ 23 นายถูกฆ่าด้วยพายุเมื่อกี้”
ชินยี่มองที่เรน่าอย่างโมโห “เธอได้ยินชัดไหม? เพราะความงี่เง่าของเธอทำให้ฉันต้องเสียทหารไป 23 นาย เพราะการกระทำที่ไม่ยั้งคิดของเธอ!”
“ฉะ…ฉันไม่รุ้ว่ามันจะเป็นแบบนี้” เรน่าร้องออกมา
“แหงสิวะ ฉันก็ไม่รู้หรอก มีหลายสิ่งในโลกนี้อีกมากที่ฉันยังไม่รู้ แต่เธอควรจะรู้ไว้อย่างหนึ่งว่าเมื่อเธอตัดสินใจใดๆก็ตามไม่ว่ามันจะดีหรือเลวร้าย แต่เธอก็จะต้องยอมรับในผลที่มันจะตามมาจากการตัดสินใจของเธอไม่ใช่คนอื่น! และตอนนี้ฉันต้องมารับกรรมจากความโง่เง่าของเธอ! แม่งเอ้ย! ถ้าฉันอยากจะโจมตีพวกตัวละครหลักล่ะก็ป่านนี้คงทำไปนานแล้วไม่ต้องใช้งานพวกไร้ค่าอย่างเธอหรอก!”
ชินยี่ตวาดเรน่าหนักมากจนนักผจญภัยคนอื่นๆไม่กล้าโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น
เรน่าได้แต่ขอโทษ “ฉัน…ฉันสามารถชดเชยความสูญเสียของนายได้นะ!”
ชินยี่จ้องไปที่เธอทันทีก่อนจะพูด “ชีวิตมันไม่ใช่สิ่งที่จะซื้อกลับมาได้ด้วยเงินนะ วันนี้ทหารที่ฉันเรียกมาตั้งมาตายเพราะเธอ และพรุ่งนี้ล่ะ? ปัญหานี้มันไม่สามารถถูกแก้ได้ด้วยเงินหรอกคุณนายเรน่า ถ้าเธอจะร่วมมือกับฉันเธอต้องทำความเข้าใจอย่างนึงว่า เธอจะต้องทำตามคำสั่งของฉันและห้ามฝ่าฝืนเข้าใจไหม? ถ้าทำไม่ได้ล่ะก็…ไสหัวไปซะ”
————————————