Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 362 มู่เฉิงเสวี่ยมน่าอนาถ
ตอนที่ 362 มู่เฉิงเสวี่ยมน่าอนาถ
“หรูขุยคําสวรรค์!”
กลีบดอกไม้สีแดงม่วงที่เติมเต็มอยู่ในอากาศก่อตัวเป็นวังวนและเข้าสู่บาดแผลของจีชางคง อย่างรวดเร็ว
“ปัง!”
จีชางคงล้มลง กลีบดอกไม้สีม่วงแดงหยั่งรากลงในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว ต้นหวี่ขยสีม่วง แดงงอกออกมาจากบาดแผลของเขา
กิ่งก้านนับไม่ถ้วนค่อยๆขยายออกมาจากลําต้น ผ่านไปครู่หนึ่ง,มันก็แตกใบบนกิ่งก้าน ในแต่ ละกิ่งมีดอกหรูขุยสีม่วงแดงบานออกมา
มู่เฉิงเสวี่ยสีหน้ากลายเป็นร้ายแรง เจตนารมณ์สังหารปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขาตั้งใจจะ ฉวยโอกาสนี้
ดาบของมู่เฉิงเสวียร้องทิ้งออกมาเบาๆ แสงจันทร์นุ่มนวลฉายลงมา,มันแบกฉีฆ่าฟันอัน ล้นหลามพร้อมกับแทงตรงไปที่เซียวเฉิน เซี่ยวเฉินในตอนนี้เขาไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้
อันที่จริงเซี่ยวเฉินก็ไม่ตั้งใจจะหลบอยู่แล้ว เขาเพียงทําประทับมือต่อไปเรื่อยๆและควบคุม การเติบโตของต้นหรูขุย
สายลมจากคมดาบทําให้เซี่ยวเฉินรู้สึกเจ็บที่แก้มของเขา ปลายดาบในตอนนี้อยู่ห่างจากตัว เขาไปสิบเมตร
“บูม!”
จี้หยกที่หน้าอกของเซี่ยวเฉินเรืองแสงรุ่งโรจน์ขึ้น ม่านเกราะไร้รูปห่อหุ้มร่างขงอขเาเอาไว้ นี่ เป็นผลจากสมบัติลับที่เขาได้มาจากการประมูล
เมื่อการโจมตีเต็มกําลังของมู่เฉิงเสวี่ยซัดลงไปบนม่านเกราะ,ม่านพลังก็สะท้อนแรงสามสิ บเปอร์เซ็นต์กลับไปที่เขา พลังกระแทกร่างของเขากลับ,และเขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก
หลังจากที่โล่พลังรับการโจมตีไปหนึ่งครั้งมันก็ค่อยๆแตกสลาย หลังจากที่เซียวเฉินทําประ ทับมือจบเขาก็หันกลับและไล่ตาม่เฉิงเสวี่ยไป
ต้นหว่ขยที่ด้านหลังของเซียวเฉินเติบโตเต็มที่ รากนับไม่ถ้วนขยายไปทั่วทั้งร่างและเส้น ปราณของจีชางคง พวกมันยึดเขาติดเอาไว้กับพื้น,ทําให้เขารู้สึกเจ็บปวดจนถึงกับอยากจะจบชี วิตลง ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไร มันก็ไร้ประโยชน์
ม่เฉิงเสวี่ยเช็ดเลือดที่ปากของเขาขณะที่มองไปที่เซี่ยวเฉินที่กระโดดเข้ามา เขายิ้มอย่างเย็น ชาและแสงจันทร์บนดาบของเขาก็กระเพื่อม
มิติโดยรอบเริ่มเลือนลาง ขณะที่เซียวเฉินลอยอยู่ในอากาศ,ระยะห่างจากตัวของเขาและมู่เฉิง เสวี่ยไร้ที่สิ้นสุดไม่มีทาวที่จะเข้าไปใกล้
“ตอนนี้ข้าใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนแปลงกฎแห่งธรรมชาติและสร้างเขตแดนย่อยขึ้นมาดูสิว่า เจ้าจะทําลายมันได้อย่างไร ตอนนี้มีระยะทางกว่าหนึ่งพันกิโลเมตรระหว่างเจ้ากับข้า;เจ้าลืมที่จะ ไล่ตามข้าไปได้เลย”
เสียงของมู่เฉิงเสวี่ยดังก้องไปทั่วมิติ เสียงมันฟังดูราวกับอยู่ใกล้,แต่ก็อยู่ไกลออกไป
เซี่ยวเฉินนมเบาๆและกล่าว “ข้าเคยกล่าวเอาไว้แล้ว;ตราบใดที่เจ้าไม่ได้เข้าใจถึงกฎแห่งธรรม ชาติด้วยตัวเองการเปลี่ยนแปลงกฎแห่งธรรมชาติมันไร้ประโยชน์ต่อหน้าพลังที่เด็ดขาด”
“ฟังเสียงของดาบ!” เซี่ยวเฉินร้องตะโกนและมีแสงเรืองขึ้นบนกระบี่เงาจันทร์ คมกระบีสีขาว หิมะของมันเปลี่ยนเป็นสีดําลึกแสดงถึงความเฉียบคมของมัน:มันได้เปลี่ยนเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่
แท้จริง
หวี่ขยทะลวงสวรรค์สามารถทําลายได้แม้แต่สวรรค์;กฎแห่งธรรมชาติของเจ้าไร้ค่าต่อหน้ามัน!
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์โบราณหภู่ชัยปรากฏขึ้นเหนือหัวของเซี่ยวเฉินอย่างรวดเร็ว สานฟ้าร้องคาราม บนท้องฟ้าเหนือลานฝึกฝน เขาแสดงสภาวะแห่งสายฟ้าออกมาถึงขีดสุด
“บูม!”
เส้นสายฟ้าร่วงหล่นบงมาจากท้องฟ้า เสียงสนั่นสั่นสะเทือนหู ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เติบโตสมบูรณ์ แสงรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นบนกระบี่ของเซี่ยวเฉิน
แสงขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็วมุ่งตรงไปที่มู่เฉิงเสวีย ทะลวงกฎแห่งธรรมชาติของสวรรค์ และปฐพี ด้วยการช่วยเหลือของสภาวะแห่งการฆ่าล้างและอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างจะพังทลายลง
แสงจันทร์บนดาบของมู่เฉิงเสวี่ยเจือจางลง เส้นล่าแสงซัดเข้าที่หน้าอกของเขาในทันที มัน รวดเร็วเสียงยิ่งกว่ากระพริบตา
ฝูงชนบนอัฒจันทร์มองเห็นเพียงแต่แสงวูบไหว จากนั้น,มู่เฉิงเสวี่ยก็ถูกโยนไปบนท้อง ฟ้าหายลับไปจากสายตาของทุกคน
ก่อนที่เซี่ยวเฉินจะได้พักหายใจเขารู้สึกถึงฉีเยือกแข็งที่ขยายออกไปมาในลานฝึกผนอย่าง รวดเร็ว
ตัวนม่จึงหลบเลี่ยงเพลิงแท้อัสนีม่วงไปได้อย่างหมดจดและตอนนี้กําลังใช้ออกกระบวณท่า สังหารของนาง
“บูม! บูม! บูม!”
ฉีเยอกแข็งบนพื้นรวมตัวอย่างรวดเร็วและก่อเกิดเป็นคุกน้ําแข็งห่อหุ้มทั่วทั้งสนามประลอง ในทันใดนั้น ผู้คนด้านนอกสามารถมองเห็นได้เพียงชั้นนอกแข็งหนาพวกเขาไม่อาจมองเห็นสิ่งที่ เกิดขั้นด้านใน
ภายในคุกน้ําแข็งคมหระบี่สีดํามืดวางอยู่บนคอของตัวนมู่ฉิง เซียวเฉินเช็ดเลือดออกจากมุม ปากของเขาและกล่าวอย่างเฉยเมย “ยอมแพ้ซะ ข้ายังมีอีกหนึ่งกระบวณท่าของทักษะกระบหรู ขุยที่ยังไม่ได้ใช้ออกมา เจ้าหมดโอกาสแล้ว”
ในทันทีที่คุกน้ําแข็งก่อตัวขึ้นเซี่ยวเฉินได้รีดใช้มังกรฟ้าเมฆาทะยานจนถึงขีดสุดและใช้ออ กมังกรฟ้าฟาดหาง ในทันทีที่ตัวนมู่ฉิงกําลังจะปลดปล่อยกระบวณท่าสังหารของนางออกมาเขา ก็ตรงเข้ามาจ่อกระบุลงบนคอของนางแล้ว
ช่วงจังหวะที่นิ่งเงียบผ่านไปพลังงานธาตุน้ําแข็งในมือของตัวนมู่ฉิงจางหาย คุกน้ําแข็งค่อยๆ ละลายลง ผมสีขาวของนางพลันกลับเป็นสีด่าเงา
ไม่มีรอยเลือดบนใบหน้าซีดขาวของตัวนมู่ฉิง มีความอ่อนล้าในดวงตาของนาง นางกล่าวเบาๆ “ตามจริงจากตั้งแต่ต้นเจ้าได้ชัยชนะไปแล้ว ทักษะของข้ายังไม่ถึงขั้น นับตั้งแต่นี้ไปความ บาดหมางระหว่างเจ้าและตระกูลส่วนมู่ถือว่าสิ้นสุดลง”
หลังจากที่ตัวนมู่ฉิงกล่าวจบนางค่อยๆเดินออกจากลานฝึกฝนไป ผ่านไปครู่หนึ่งมีร่างหนึ่งดิ่ง ลงมาจากท้องฟ้าและกระแทกลงบนพื้นอย่างรุนแรง ร่างนั้นกระดอนบนพื้นสองสามครั้งอย่างน่า สมเพชก่อนที่จะหยุดลง
นั้นคือมู่เฉิงเสวี่ยผู้ที่ถูกหวี่ขุยทะลวงสวรรค์ส่งลอยขึ้นไปบนฟ้าก่อนหน้านี้
ม่เฉิงเสวี่ยบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว ในตอนที่เขาร่วงลงมาจากระยะหลายพันเมตรเขายิ่งเจ็บหนัก ขึ้นไปอีก เขาไม่อาจแม่แต่จะเปิดปากกล่าวอะไร เลือดบดบังสายตาของเขา;เขาอยู่ในสภาพน่า อนาถยิ่ง
ทั่วทั้งลานประลองตกอยู่ในความเงียบ เซียวเฉินเผชิญหน้าสามลุมหนึ่งแต่ก็ยังได้รับชัยชนะ ก่อนหน้านี้ เขาล์มสานุศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จากนั้นเขาล้มสานุศิษย์จากตระกูลชั้นสูง
ตั้งแต่เริ่มต้น เขาไม่ได้แม้แต่หยุดพัก คู่ต่อสู้ทั้งหมดของเขาทั้งหมดไม่เพียงแต่แข็งแกร่งแต่ พวกเขายังเป็นผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นจากภูมิภาคของพวกเขา
แต่อย่างไรก็ตาม มือกระบี่ชุดขาวผู้นี้ยังสามารถล้มพวกเขาลงได้ทั้งหมด ไม่มีควรคู่ควรกับ เขาแม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันสามลุ่มหนึ่ง
หลังจากจบการประลองชื่อเซี่ยวเฉินจะทําให้โลกต้องสั่นสะเทือน เขาจะกลายเป็นผู้ที่แข็ง แกร่งที่สุดในหมู่รุ่นเยาว์แห่งอาณาจักรต้าฉัน
เซี่ยวเฉินเป็นตัวเอกในงานวันนี้ แม้แต่เหลิ่งหลิวซ.ผู้ที่กลายเป็นระดับยอดขอบเขตกษัตริย์ขั้น ต้นยังซีดจางเมื่อมาเปรียบเทียบ
หลายคนรู้สึกตื่นเต้น บางที่ในอีกหลายปีให้หลังพวกเขาจะกลายเป็นพยานในการตื่นเต้นต่านาน
ขณะที่เซียวเฉินก้าวเดินไปเขาเหยียบลงไปบนนพแข็งในสนามประลองเสียงดังกรอบแกรบ ใต้เท้าของเขา
ทุกย่างก้าวทําให้เซี่ยวเฉินปวดหัว แต่อย่างไรก็ตามเขาจําต้องการเดินต่อไป ยังมีสิ่งที่เขาต้อ งทําให้ชัดเจนกับคนที่กําลังนอนอยู่บนพื้น เขาจะต้องเค้นคําออกมาจากปากของมันผู้นี้!
มู่เฉิงเสวี่ยผู้ที่กองอยู่กับพื้นมีสายตาที่เลือนลางและไอออกมาไม่หยุด ในตอนที่เขาได้ยิน เสียงฝีเท้าเขาอยากที่จะดิ้นรนบุกขึ้นยืน แต่อย่างไรก็ตาม,ฝักกระบี่ดันกดเขาลงกับพื้น
“เจ้าเคยกล่าวเอาไว้ยิ่งเจ้าบินขึ้นไปสูงเจ้ายิ่งตกลงมาเจ็บ ดูเจ้าในตอนนี้,ข้าไม่สงสัยในคํา เหล่านั้น ขอบคุณที่ช่วยย่าเตือนข้า ข้าจะไม่มีทางยอมให้ตัวเองต้องยอมจํานนและร่วงหล่นล งมา”
เมื่อมู่เฉิงเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นเขาไออกมาอย่างรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามเขาหัวเราะอย่างเศร้า โศกอยู่ในใจของเขา ตัวเขาได้ร่วงหล่นลงมาจากฟ้าตอนนี้ได้เข้าใจถึงความหมายของคนเหล่า นั้นอย่างลึกซึ้ง
บางที่ข้าไม่ควรที่จะเป็นศัตรูกับคนผู้นี้ มันมีคนที่ได้ถูกกําหนดมาให้บินทะยาน แม้ว่าเจ้าจะสา มารถดึงเขาลงมาได้ชั่วคร่เจ้าก็จะกลายเป็นแท่นเหยียบให้เขาปีนขึ้นไปทําให้เขาบินสูงขึ้นไปอีก
“เซี่ยวเฉินล้มคู่ต่อสู้ลงได้ทั้งหมดช่างคาดไม่ถึง
“ตอนแรกเขาล้มสานุศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในฝ่ามือ จากนั้นเขาล์มผู้สืบทอดของตระกูล ชั้นสูง ไม่มีใครสามารถเผชิญหน้ากับความเฉียบคมของเขา ไม่มีใครในหมู่รุนเยาว์ที่จะคู่ควรกับ เขา”
“อาณาจักรตาฉินของพวกเรานับว่าอ่อนที่สุดในห้าอาณาจักร แต่ในครั้งนี้พวกเราอาจจะได้มี อัจฉริยะระดับปีศาจ”
หลังจากความเงียบงันผู้คนบนอัฒจันทร์คนดูก็ระเบิดเสียงพูดคุยขึ้น พวกเขาทั้งหมดล้วนตื่น เต้น;พวกเขาถกเถียงกันไม่หยุด
ในอีกฝั่งหนึ่ง ในที่ที่หลิวหรูเยวและคนอื่นๆกําลังนั่งชม หลิวหรเยวี่ยิ้มขึ้นอย่างจริงใจพร้อมกับ รีบเดินตรงเข้าไปหาเซี่ยวเฉิน
ถึงตอนนี้ ผู้อาวุโสทั้งหมดจากตระกูลชั้นสูงมืดมัว พวกเขาไม่สามารถกดเซียวเฉินลงไปได้ใน การต่อสู้ครั้งนี้ เซี่ยวเฉินผู้นี้อาจจะกลายเป็นเงาในใจของพวกเขาในชั่วชีวิต
พวกเขามีคู่ต่อสู้ที่มากพรสวรรค์;เพียงคิดถึงก็ทําให้พวกเขาเกรงกลัวตัวสัน
แต่อย่างไรก็ตาม,ที่หวาดกลัวที่สุดก็เป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากซ่งเฉว ตอนนี้เขาหดหูเป็น อย่างยิ่ง เดิมที่เขาคิดว่าความตายได้มาเยือนเซี่ยวเฉินแลเว แต่กระนั้น,เขากลับรอดมาได้ นอก จากนั้น ชื่อเสียงของเขายิ่งเติบโตขึ้นไปอีก
ไม่นะความแข็งแกร่งของเจ้าหนุนนับว่าเป็นภัยกับข้าแล้ว พวกเรามีความอาฆาตแค้นต่อกัน เขาจะต้องกลับมาล้างแค้นข้าอย่างแน่นอน
สีหน้าของซ่งเฉวงังเลขณะที่เขากําลังครุ่นคิดตัดสินใจอย่างยากเย็น
ข้าจะสังหารเขาเสีย ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพอ่อนแอ;นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด เขาไม่ได้เป็นสาน ศิษย์ของศาบากระบี่สวรรค์อีกต่อไปแล้ว ด้วยตําแหน่งของข้าในฐานะท่านเจ้ายอดเขาข้าสามารถเลี่ยงการลงโทษถึงตายไปได้
คิดได้ดังนี้เจตนาฆ่าปรากฏขึ้นในดวงตาของซ่งเฉว ขณะที่เซี่ยวเฉินมองไปที่หลิวหรูเยว่ ผู้ที่ กําลังเดินเข้ามาหาเขา และเซี่ยวเฉินที่กําลังไร้การป้องกันเขากําหมัดแน่น
“ตาย!”
ซ่งเฉวร้องตะโกนและใช้มือข้างเดียวที่เหลือของเขาดุจกระบี่ เขาแบกฉีฆ่าฟันอันเฉียบคมและ กระโดดตรงเข้าไปหาเซียวเฉิน
เมื่อหลิวหรูเยวที่กําลังอมยิ้มมองเห็นซึ่งเฉวทาบ้าคลั่ง สีหน้าของนางพลันเปลี่ยน นางร้องขึ้น เสียงดัง “เซียวเฉินระวัง!”
เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงการโจมตีจากฉีฆ่าฟัน เขาอยากที่จะใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานเพื่อหลบ หลัก แต่อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าตัวเขาหมดสิ้นซึ่งพลังปราณ ไม่มีปราณหลงเหลือ เขารู้สึกตื่นต ระหนก
“ปัง!”
หลิวหรเยวรีบบินเข้ามารับการโจมตีแทนเซียวเฉินการโจมตีจากระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ ขั้นสูงสุดซ่งเฉว
“ฟุ ฟิว!”
ความแตกต่างระหว่างระดับขอบเขตกษัตริย์ขั้นต้นและขั้นสูงสุดนั้นมีไม่น้อย นอกจากนั้น.ซึ่ง เฉวได้สะสมพลังมาเป็นเวลานานเพื่อใช้ออกกระบวณท่านี้
หลิวหรูเยว่กระอักเลือดออกมาเต็มปากและรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่หน้าอกของนางขณะที่ ตัวนางลอยกลับไป
เซียวเฉินสีหน้าจมลงในทันที เขาพุ่งเข้าไปรับตัวหลิวหรูเยวและตรวจสอบชีพจรของนาง เขา ส่งสายสัมผัสวิญญาณเข้าไปและพบว่าเส้นเลือดหัวใจของนางสลายและพลังชีวิตของนางจาง หายไปอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ที่พลันเปลี่ยนกระทันหันทําให้ทุกคนตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิด
“เซี่ยวเฉิน,อย่าได้…ใจร้อน” หลิวหรูเยาทรุดลงในอ้อมแขนของเซียวเฉิน นางอ่อนแอและตัว ซีดเซียว
มันราวกับเป็นสายฟ้าฟาดลงในจิตใจของเซียวเฉิน ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงก่ําและบัล ลังก์สีแดงในสมุทรแห่งจิตใต้สํานึกของเขาสันเทิม เส้นสายสีแดงของสภาวะแห่งการฆ่าล้าง ขยายออกมา
เมื่อเขามองกลับหลังไปเขาพบว่าซ่งเฉวยังไม่ยอมเลิกลาและมุ่งหน้าเข้ามาหาเขาอย่างรวด เร็ว เขาหมายที่จะสังหารเซี่ยวเฉิน
รนหาที่ตาย!
จิตใจของเซียวเฉินกลายเป็นเย็นชาและเจตนาฆ่าฟันเติมเต็มทั่วทั้งร่างของเขา รอยสักมังกร ฟ้าบนแขนขวาของเขาเริ่มเคลื่อนไหว พลังงานอันนาากลัวหมุนวน
ผ่านไปครู่หนึ่งรอยสักที่ดูเหมือนของจริงก็เริ่มเคลื่อนไหว มังกรฟ้าหมุนวนรอบแขนของ เซียวเฉิน
“โฮก!”
เสียงมังกรคํารามสั่นสะเทือนพิภพ เมฆขาวบนท้องฟ้าแยกออก พลังอํานาจของสัตว์อสูรศักดิ์ สิทธิ์โบราณขยายออกไปทั่วทั้งลานฝึกฝน สีหน้าของซ่งเฉวเปลี่ยนไปกลางคัน”