Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 337 เขาเป็นเพียงผู้ที่ผ่านมา
ตอนที่ 337 เขาเป็นเพียงผู้ที่ผ่านมา
น้ําเสียงเด็กน้อยของเสี่ยวไปทําให้ทุกคนหัวเราะออกมา เสี่ยวเมิ่งดึงเสี่ยวไปเข้าไปหาและกล่าว “มาเสียวไป ข้าจะพาเจ้าไปถักผม หากผมของหญิงสาวกระเซิง,มันจะดูไม่ดี”
ก่อนที่เซี่ยวเฉินจะทันได้หยุดเสี่ยวไป์,นางก็ถูกเสี่ยวเพิ่งดึงตัวไปแล้ว หลิวหรูเยวี่ยิ้มและกล่าว “ให้นางไปเถอะ,จะไม่มีอะไรขึ้นขึ้นกับนางที่ยอดเขาจึงหยุน”
เซี่ยวเฉินไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น,เขาเพียงกังวลว่าเสี่ยวไป๋จะไปเรียนรู้อะไรแปลกๆมาจากเสี่ยวเมิ่ง
เซียวเฉินยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และถอนสายตากลับมา “ขอบคุณ ข้าเตรียมตัวที่จะเข้าไปในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณแล้ว”
หลิวหรูเยว่หยุดยิ้มลง นางกล่าวอย่างจริงจัง “มากับข้า ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณนี้อันตรายยิ่งกว่าคราวก่อนมาก มันต้องการการบ่มเพาะสภาวะแห่งจิตใจของเจ้าที่สูงขึ้น มีสิ่งที่เจ้าต้องรู้ก่อนที่จะเข้าไป”
หลิวหรูเยว่นําเซียวเฉินตรงไปมุมที่มีค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณตั้งอยู่ จากนั้น,นางอธิบายถึงจริงที่เซียวเฉินต้องรู้เอาไว้อย่างละเอียด
ภายใต้การแนะนําของหลิวหรูเยว่,เซียวเฉินตชค่อยๆเข้าไปในค่ายกลกระบี่ ฉีฆ่าฟันของอาวุธมากมายพลุ่งพล่านออกมา,ปะทะเข้ากับจิตวิญญาณของเซียวเฉิน
หากเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณอ่อนแอ,ในทันทีที่พวกมันพุ่งเข้ามา จิตวิญญาณของพวกเขาจะต้องแตกสลาย
เซี่ยวเฉินปกป้องจุดตันเที่ยนด้วยจิตใต้สํานึกของเขาและใช้สัมผัสวิญญาณของเขาป้องกันร่างกาย ฉีฆ่าฟันที่พรุ่งพล่านถูกกวาดออกไปด้านนอกร่างกายของเซี่ยวเฉินพร้อมกับเขานั่งลงที่ตรงกลางของค่ายกล
“เจ๋ง!”
เสียงหึงอันไพรเราะดังออกมาจากกนะที่ในมือของหลิวหรูเยว่ กระบี่เล่มนั้นออกมาจากฝักของมันและสันไหวอย่างต่อเนื่อง
หลิวหรเยวค่อยๆใช้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันที่นางได้บรรลมา อาวุธทั้งหมดที่ปักอยู่กับพื้นสั่นไหวในทันที
เสียงฟังดังสะท้อนไปทั่วทั้งลานฝึกฝน ในตอนที่กระบี่โบราณนับพันสั่นสะเทือนและแสงของมันรวมตัวกัน มันกล่าวเป็นเสียงที่เสียดแทงแก้ว
สายลมรุนแรงพัดผ่านไปรอบๆค่ายกลประบี่, ใบหน้าอันงดงามของหลิวหรูเยว่เต็มไปด้วยความจริงจังขณะที่นางโห่ร้องคารามศึกออกมา
กระบี่เล็กในมือของนางเรืองแสงเจิดจ้า สายลมแข็งแกร่งมารวมตัวกันในทันทีและจดจ่อไปที่เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่อยู่ตรงกึ่งกลางของค่ายกล,ก่อเกิดเป็นเสาวาย
“ชี!”
มีแสงออกจากกาะบี่และหลอมรวมเข้าไปในเสาวายุ ทันมดนั้นเสาวายก็เรื่องแสงรุ่งโรจน์ออกมา หลังจากนั้น มันก็แตกกระจายออกไป อาวุธทั้งหมดเริ่มสั่นไหว
หลังจากที่หลิวหรูเยวทําทั้งหมดทั้งนี้จบลง,สีหน้าของนางซีดจางลงไป ผิวของนางซีดเซียว และร่างกายของนางไม่มั่นคง
เมื่อหลิวสยเฟง,ผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นดังนั้น,เขาเผยสีหน้าร้ายแรงออกมา เขายื่นมือออกไป ประคองหลิวหรูเยว่เอาไว้
“พี่สาว,มันคุ้มกันหรือที่จะช่วยเหลือเขาเช่นนี้? ด้วยระดับพลังในปัจจุบันของเจ้า,แค่การเปิดใช้ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณนี้ครั้งหนึ่งก็จะผลาญการบ่มเพาะพลังของเจ้าไปครึ่งปี”
การผลาญการบ่มเพาะพลังครึ่งปีหมายถึงการเสียเวลาไปครึ่งปี สําหรับยอดนักบ่มเพาะพลัง,การอดอไปหนึ่งเดือนก็สามารถเป็นผลให้พวกเขาร่วงจากตําแหน่งระดับยอดนักบ่มเพาะพลัง สามารถจินตนาการได้ว่าการเสียเวลาไปครึ่งปีจะเสียหายถึงเพียงใด
หลิวหรูเยว่นวดจุดไทหยางบนหน้าผากด้วยมือขวาของนาง หลังจากนั้น,นางก็ลืมตาขึ้น;นางรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว
รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามและทรงเสน่ห์ของหลิวหรูเยว่ นางกล่าวเสียงนุ่ม “เขาเข้ามาที่ยอดเขาฉิงหยุนเพื่อจุดหมายเดียวก็คือการเรียนรู้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน เขาได้ทําอะไรไปมากมายแล้ว,แน่เขากลับไม่ได้ขออะไรตอบแทน หากข้าไม่ช่วยเขาแล้วใครจะช่วย?”
หลิวสุยฟังยิ้ม “อย่างไรก็ตาม,หากเขาได้เรียนรู้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน,เขาจะต้องออกจากศาลากระบี่สวรรค์และยอดเขาจึงหยุนไปอย่างแน่อนอน”
เมื่อหลิวหรูเยว่ได้ยินดังนั้น ความสูญเสียที่ยากจะมองเห็นวูบไหวในดวงตาของนาง นางกล่าว “ข้ารู้ตั้งแต่ในวันแรกที่เขามายังยอดเขาฉิงหยุน ไม่ว่าจะเป็นศาลากระบี่สวรรค์หรือยอดเขาจึงหยุนสิ,มันเป็นเพียงทางผ่านสําหรับเขา”
หลิวหรูเยว่หยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้น,นางก็หัวเราะอย่างช่วยไมไม่ได้และเผยสีหน้านิ่งสงบพร้อมกับกล่าวต่อ “ในโลกใบนี้ มีคนที่ถูกกําหนดมาเพื่อเป็นใหญ่ ชื่อของพวกเขาจะสั่นสะเทือนสวรรค์,ล้างตํานานบทเก่าและเขียนตํานานบทใหม่ แทนที่จะหยุดยื้อถึงตัวเขาเอาไว้ไม่ให้โผบิน,ทําไมไม่ช่วยผลักดันเขาให้ไปยืนบนยอดสุดของโลกใบนี้”
แสงทั้งหมดจากอาวุธปรากฏขึ้น,เซี่ยวเฉิน,ทันมดนั้นก็บนว่าฉากเบื้องหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาได้เข้าสู่โลกสีเทา
มีกระบี่นับไม่ถ้วนกําลังทะลวงผ่านอากาศ, บินตรงมาที่เซียวเฉินอย่างรวดเร็ว
เซี่ยวเฉินได้เข้าสู่ตชค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โลราณมาหลายครั้งแล้ว เขาคงสีหน้านิ่งสงบและไม่ได้ตื่นกลัวแม้แต่น้อย
ด้วยการนึกคิด,กระบี่สีขาวหิมะปรากฏขึ้นในมือของเขา กระบี่เล่มนี่กว่างสองนิ้วและยาว 2.7 เมตร คมกระบกระพริบไหวด้วยแสงเยือกเย็น
เซียวเฉินได้ฝึกฝนในค่ายกระบี่สัมบูรณ์โลราณมากหลายเดือนแล้ว เขามีความคืบหน้าในการฟังเสียงของดาบและสี่สารกับมัน ทั้งหมดที่เขายังขาดอยู่ก็คือช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะทําให้เซี่ยวเฉินบรรลุถึงการฟังเสียงของดาบ และสื่อสารกับมันอย่างสมบูรณ์
“เครั้ง! เครั้ง! เครั้ง!”
กระบี่ในมือของเขาเคลื่อนไหว,กระบี่แสงเคลื่อนไปทั่วทุกทิศทาง ทําให้กระบี่ทุกเล่มในอากาศถูกปัดลอยออกไป
ขณะที่เซียวเฉินยืนอยู่หน้ามิติลวงนี้,เขามีท่าทางที่ชี้ให้เห็นว่าเขาอยู่ในความคิดลึก เขาพึมพํา “ที่ผ่านมา,ภายในค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณ,ข้าสามารถสลายอาวุธที่บินมาหาข้างได้อย่างสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ข้าต้องใช้พลังเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์และสามารถทําได้เพียงหวดมันกลับไป”
ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่หลิวสุยเฟิงกล่าวเอาไว้ ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณนี้ทรงอํานาจกว่า เมื่อก่อนหน้าอย่างน้อยห้าเท่า
กระบี่กระพริบไหวด้วยกระบี่แสงเฉียบคมพร้อมกับพวกมันบินเข้ามาเซียวเฉินอย่างไม่หยุดหย่อน มันราวกับว่าอยากจะกลืนกินเขา
“เร็วอีก! เร็วอีก! ตามหากระบี่ของเจ้า! ตามหากระบี่ของเจ้า!”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ข้างหูของเซี่ยวเฉินอีกครั้ง ขณะที่เขาอยู่ที่กึ่งกลางมิติลวง,เขาเคบอนที่ไปรอบๆ กระบี่แสงของเขาเจิดจ้าพร้อมกับเขาใช้ออกทักษกระบี่หวาย
“หวี่ขยแพรวพราว!”
“หวี่ขยเปลี่ยนรูปฉี!”
“ทะลวงหรูขุย!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกนออกมาและเขาใช้ออกทักษะกระบี่หว่ขยหลอมรวมเข้ากับสภาวะแห่งสายฟ้าเต็มกําลัง เส้นกระบี่ฉีสรม่วงสลายกระบี่ทุกเล่มที่กําลังบินมารอบตัวของเขา
มิติลวงค่อยๆกลายเป็นเงียบ,แต่มันก็เพียงชั่วครู่ แทบจะในทันที,กระบีนับไม่ถ้วนพร้อมกับกระบี่แสงเจิดจ้าบินเข้ามาที่เซี่ยวเฉินพร้อมกับพลังที่ดร้ายยิ่งขึ้น
มิติสีเทาระเบิดแสงขึ้นมาในทันที มันสว่างเจิดจ้าเป็นอย่างมาก
“หว่ขุยผลิบาน!”
ดอกไม้ตูมสีม่วงปรากฏขึ้นด้านล่างของเซียวเฉินและห่อหุ้มราางของเขาเอาไว้,ปลดปล่อยแสงประหลาดสีม่วงออกมาขณะที่มันปรากฎขึ้น
“ปัง! ปัง! ปัง!”
กระบีปะทะเข้ากับผิวของดอกไม้ตูม,การโจมตีไม่หยุดหย่อนตัวเข้ามาดังพายุ,ส่งเสียงเหล็กกระทบออกมา
“ซิ่ว!”
ดอกไม้ตูมสีม่วงผลิบานและกลีบดอกไม้ก็เติมเต็มไปในอากาศ เมื่อกระบี่ปะทะกับกลีบดอกไม้,พวกมันระเบิดออกรุนแรง ทันใดนั้น,อากาศก็สั่นสะเทือนไม่หยุดราวกับสายประทัด
เซียวเฉินกระโดดขึ้นไปในอากาศที่เต็มไปด้วยกลับดอกไม้ ในตอนที่เขาพุ่งผ่านหมู่กลีบดอกไม้,ความเร็วของเขาระเบิดเพิ่มขึ้น กระบี่ที่ดุร้ายเหล่านั้นไม่อาจไล่ตามเขาได้ทัน
“บูม!”
ตอนนี้,ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นตัวเป็นตน เป็นธรรมดา,ที่หวี่ขยคําสวรรค์จะไม่อาจใช้ออกมาได้ มันทําได้เพียงให้พลังงานทั้งหมดระเบิดออก
เซี่ยวเฉินร้องตะโกนและกลีบดอกไม้ทั้งหมดก็ระเบิด เมื่อพลังงานมหาศาลรวมตัวเข้าด้วยกัน,ทั่วทั้งมิติสีเทาสั่นสะเทือน
“เร็วเข้า! เร็วเข้า! หากระบี่ของเจ้า!”
หลังจากทําลายการโจมตีละลอกนี้,เสียงเร่งเร้าก็ดังออกมาข้างหูของเซียวเฉินอีกครั้ง เขา มองไปที่กระบี่ในมือและเมินเฉยเสียงนั้นไป
ในครั้งล่าสุด,หลังจากที่เซียวเฉินถอดความหมายของคําพวกนี้ เขาพบสิ่งที่เรียกว่ากระบี่ในใจของเขา ตั้งแต่ตอนนั้น,เขาสามารถเรียกกระบี่เงาจันทร์ออกมาอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม,เสียงในหูของเซี่ยวเฉินก็ยังดังออกมาเหมือนอย่างก่อนหน้านี้ มันชัดเจนว่ากระบี่ในมือเล่มนี้ไม่ใช่กระบี่ในใจของเขา
ขณะที่ยืนอยู่ในมิติสีเทา,เซี่ยวเฉินเมินเฉยเสียงในหูของเขา, ทําลายคลื่นกระบี่ที่ละรอบที่พวกมันบินเข้ามา
กระบี่แต่ละละลอกดีร้ายกว่ารอบก่อนหน้า เริ่มมีบาดแผลปรากฏให้เห็บบนตัวของเซี่ยวเฉิน ในไม่ช้า,เซี่ยวเฉินก็ไม่อาจยืนหยัดต่อการโจมตีของคลื่นกระบี่ได้อีกต่อไป
หลังจากทําลายคลื่นโจมตีที่หนึ่งร้อย,ฉากตรงหน้าของเซี่ยวเฉินก็เปลี่ยนไป จิตใต้สํานึกของเขารู้สึกพล่ามัวอยู่ครู่หนึ่ง,และจากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ริมทะเลสาบ
จันทร์เต็มดวงลยอสูงอยู่ในอากาศ มีคลื่นอ่อนๆบนผิวน้ํา, มันเงียบสงบยิ่ง ที่ตรงกลางของทะเลสาบมีกระบี่กําลังลอยออยู่ในอากาศเหนือผิวน้ํา
กระบี่สีขาวหิมะสะท้อนจันทร์เต็มดวงที่อยู่เบื้องบน ทะเลสาบที่นิ่งสงบ,ไพเราะและอ่อนโยนดูกลมกลืนกับตัวกระบี่เป็นอย่างมาก;มันวิเศษและงดงาม
บาดแผลบนเนื้อตัวของเซี่ยวเฉินหายไปอย่างน่าประหลาด เซี่ยวเฉินเมินเฉยไป เขาจดจ่อไปอยู่ที่กระบี่ในทะเลสาบ
เซี่ยวเฉินเผยสีหน้ายินดี เขาพึมพํา “หรือข้าทําสําเร็จแล้ว? นี่คือหระบี่เงาจันทร์ที่แท้จริงในใจของข้า? ช่างสวยงาม!”
“ฟุ! ฟุ! ฟุ!”
เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นไปในอากาศจากนั้นก็เดินไปบนผิวน้ํา,มุ่งหน้าสู่กระบี่ที่กําลังลอยอยู่เหนือผิวน้ําอย่างรวดเร็ว แต่ละครั้งที่เท้าของเขาสัมผัสผิวน้ํา,เขาจะเคลื่อนที่ไปหนึ่งร้อยเมตร ผ่านไปครู่หนึ่ง,เขาก็มาถึงที่ด้านใต้ของกระบี่
ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นบนผิวน้ําและเซี่ยวเฉอนก็หยุดเท้าลง ในตอนที่เขายืนอยู่บนผิวน้ํา,เขาสามารถมองเห็นจันทร์เต็มดวงจันทร์บนกระบอย่างชัดเจน
ขณะที่เซี่ยวเฉินก่าลังจะกระโดดขึ้นไปคว้ากระบี่ด้วยมือของเขา, ทันใดนั้นเขาพบว่ามีเด็กสาวกําลังนอนหลับอย่างเงียบเชียบอยู่ภายในทะเลสาบ
“อ่าวเจียว!”
ในตอนที่เซียวเฉินมองเห็นรูปร่างของเด็กสาวอย่างชัดเจน,สีหน้าของเขาเปลี่ยน เขาหันกลับ และมุ่งหน้าไปใกล้ๆเด็กสาวที่อยู่ในน้ํา อย่างไรก็ตาม เมื่อเขายื่นมือลงไปในน้ํา,เขารู้สึกได้เพียงความเย็นของน้ําในทะเลสาบ
ระลอกคลื่นบนผิวน้ําทําให้ภาพเด็กสาวที่กําลังหลับอยู่ดูเลือนลาง เซี่ยวเฉินหยุดมือและรีบสงบใจลง
อ่าวเจียวในตอนนี้อยู่ในการหลับไหลเป็นผลมาจากการผนึกตัวเอง ที่ข้ากําลังดูอยู่บนเพียงภาพลวงตา ข้าจะต้องได้กระบี่มาเพื่อปลุกนางขึ้นมาอย่างสมบูรณ์
หลังจากเซียวเฉินตัดสินใจแล้ว เขากระโดดออกจากผิวน้ํา เขาระเบิดคลื่นสาดกระเซ็นออกมา และมุ่งหน้าไปหากระบี่เงาจันทร์
ขณะที่เซี่ยวเฉอนกําลังจะคว้ากระบี่เงาจันทร์,เรียวมือที่งดงามปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า และคว้าเอากระบี่เงาจันทร์เอาไว้ก่อนที่เขาจะเอื้อมไปถึง
เซี่ยวเฉินตกใจ เมื่อเขามองขึ้นไป,เขาเห็นผู้หญิงชุดสีขาวปรากฏขึ้นมาตรงหน้า
นางมีรูปร่างที่เย้ายวนและค่อนข้างคล้ายกับอ่าวเจียว ใบหน้าที่งดงามประกอบส่วนอื่นๆของร่างกายทําให้นางสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม,การแสดงออกทางสีหน้าของนางดูผิดแปลกไปจากโลก ไม่มีอารมณ์อยู่บนใบหน้า มันราวกับว่านางคือผู้เป็นอมตะที่อยู่เหนือคนทั่วไป เปรียบเทียบนางกับตัวนมู่ฉิง,ผู้ที่ใช้ทักษะเหมันต์ลึกล้ํา มีความคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม,นางพิเศษไปยิ่งกว่าตัวนมู่ฉิง
เซี่ยวเฉินตกตะลึง หญิงสาวนางนี้คือคนเดียวกับที่เขาพบในตอนที่เขาเข้ามาในค่ายกลกระสัมบูรณ์โบราณเป็นครั้งแรก นางคือใคร? ทําไมนางถึงเอากระบี่เงาจันทร์ของข้าไป?