Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 335 สายฟ้าจู่โจมที่น่ากลัว
ตอนที่ 335 สายฟ้าจู่โจมที่น่ากลัว
ต้นไม้ที่เซียวเฉินกําลังยืนอยู่เคลื่อนตัว เขาดูราวกับกําลังจะถูกโยนลงไป อย่างไรก็ตาม เขารักษาสมดุลพร้อมกับยืนอยู่บนยอดสุดของต้นไม้,ไม่ยินยอมที่จะถูกโยนลงไป
“บูม! บูม! บูม! บูม!”
เส้นสายฟ้าพลุ่งพล่านซัดลงมาอย่างต่อเนื่อง มันดูราวกับมิติกําลังถูกฉีก ฉากค่ําคืนที่ดํามืดของป่าแห่งนี้สว่างเจิดจ้าขึ้นมาในทันที
“ขอให้เสี่ยวไปไม่เป็นอะไร!” เซี่ยวเฉินภาวนาเสียงดัง เสียงฟ้าที่แผดเสียงจู่โจมความคิดของเซี่ยวเฉิน,ทําให้เขาเป็นกังวลอย่างยิ่ง
ระหว่างการชําระล้างโดยเต่สวรรค์,เซียวเฉินไม่กล้าขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไป มิฉะนั้น หากเตสวรรค์สังเกตเห็นมัน, พวกมันอาจจะส่งการลงทัณฑ์ที่หนักยิ่งขึ้น
หินดินทรายที่เติมเต็มไปในอากาศบดบังทัศนวิสัยของเซี่ยวเฉิน บางครั้งมีสายฟ้าร่วงหล่นลงมาจากอากาศ ราวกับมันไม่มีวันจบสิ้น
“ฟุ ฟิว!”
เซียวเฉินส่งสาวลมรุนแรงออกจากฝ่ามือของเขา ฝ่ามือวายุนี้เฉียบคมราวกับกระบี่ มันตัดผ่านม่านฝนที่เติมเต็มอยู่ในอากาศ,เปิดเป็นรอยแยกในหมู่เมฆฝุ่นที่มีเสียวไป๋อยู่ตรงกลาง
รอยแยกบานออกมาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะผสานกลับ สายตาของเซี่ยวเฉินเฉียบคมอย่างมาก รอยแยกเพียงเสี้ยววินาที,ในที่สุดเขาก็มองเห็นเสี่ยวไป
ภายใต้การชําระล้างของสายฟ้า,รัศมีแสงสีทองยิ่งสว่างเจิดจ้า กระแสพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ยอมให้ใครมากดข่ม
“ดี มันเพียงต้องอดทนอยู่อีกระยะหนึ่งและมันก็จะจบลง ถึงอย่างไร,เก้าร่างมายาสวรรค์แปรลักษณ์ก็เป็นทักษะบ่มเพาะระดับอมตะ” เซียวเฉินกล่าวพร้อมกับถอดหายใจเบาๆ
เสียงอัสนีร้องครามอยู่อยู่ระยะหนึ่งก่อนที่ในอากาศจะกลายเป็นเงียบงัน อย่างไรก็ตาม,ชั้นเมฆาอันไร้ขอบเขตยังไม่ได้สลายตัวออกไป
มันดูราวกับลมสงบก่อนพายุโหม อากาศภายในป่าแห่งนี้หยุดนิ่งในทันที ฝุ่นที่ลอยตัวอยู่ในอากาศดูราวกับถูกแช่แข็งเอาไว้,ไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
บรรยากาศขุ่นมัวขยายออกไปทั่วทั้งป่า มันทําให้หายใจไม่สบายปอด มันรู้สึกราวกับมีก้อนหินที่หากําลังกดลงบนหน้าอก:มันยากยิ่งที่จะทานทน
เซี่ยวเฉินกลั้นหายใจพร้อมกับมองไปยังเมฆาอัสนี้ที่กําลังหมุนวน เขาพึมพํากับตัวเอง “นี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ข้าหวังว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น”
หลังจากที่เซียวเฉินกล่าวจบ,มีแสงสีทองระเบิดออกบนท้องฟ้า ภายใต้เรืองแสงสีทอง,เมฆาอัสนีดูรุ่งโรจน์เป็นอย่างยิ่ง
เส้นสายฟ้าสีทองทะลวงผ่านอากาศท้องฟ้ายามค่ําคืน มันราวกับหอกสีทองที่กําลังฉีกผ่านกําแพงมิติ มันร่วงดิ่งลงมาจากเก้าสวรรค์และชนเข้าที่หัวของเสี่ยวไปในทันที
แสงสีทองอันไร้ขอบเขตขยายออกและดวงตาของเซียวเฉินรู้สึกเจ็บปวด,มืดบอด ทุกอย่างที่เขามองเห็นมีเพียงความมืด,เขาไม่อาจมองเห็นอะไรได้
คลื่นกระแทกต่อเนื่องซัดเข้าที่ร่างของเซี่ยวเฉิน ทําให้เขาถูกเป่าลอยไปในอากาศก่อนที่จะร่วงลงมาอย่างแรง
เซียวเฉินขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปและฉากรอบตัวก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา เขาตีลังกาและลงจอดบนพื้นอย่างมั่นคง
ข้าประมาทเกินไป,สายฟ้าสีทองนี้น่าจะเป็นหนึ่งในสายฟ้าระดับสูงที่สุด มันจะต้องเป็นสิ่งที่แม้แต่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธก็ไม่กล้าที่จะดูแคลน,เซียวเฉินครุ่ยคิดกับตัวเอง
ข้าจะต้องกําจัดแสงสายฟ้าที่หลงเหลืออยู่ในดวงตาของข้าออกไปโดยเร็ว มิฉะนั้น หากมันทิ้งอาการบาดเจ็บแฝงเอาไว้ มันอาจจะส่งผลให้ดวงตาของข้าเสียฟายถาวร
เซี่ยวเฉินนั่งลงขัดสมาธิและปราณสีม่วงก็ไหลผ่านเส้นผราณของเขาและเข้าไปที่ดวงตา พวกมันค่อยๆขจัดแสงกระแสไฟฟ้าสีทองที่หลงเหลืออยู่ออกไปอย่างระมัดระวัง
ผ่านไปครู่หนึ่ง, เซี่ยวเฉินก็ขจัดสายฟ้าทั้งหมดออกไป เขาลืมตาขึ้นอีกครั้งและวิสัยทัศน์ของเขาก็ฟื้นคืน
เซี่ยวเฉินร้องตะโกนและดีดตัวออกจากพื้น เขามุ่งหน้าไปยังตําแหน่งที่สายฟ้าสีทองดิ่งลงมา
เมฆฝนค่อยๆเริ่มแตกหายออกไป ที่ตรงกลางม่านหมอก,เด็กผู้สมบูรณ์งดงามที่ไม่ได้นุ่งผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวปรากฏขึ้นในสายตาของเซี่ยวเฉิน
เด็กสาวผู้นี้ดูเหมือนนางจะอายุได้เพียงสิบสีหรือสิบห้าปี ผิวของนางขาวดุจหิมะ นางมีรูปพรรณที่งดงามอยู่บนใบหน้ารูปไข่ของนาง นางดูละเอียดอ่อน,งดงาม,และน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
ดวงตาของนางปิดสนิท ขนตาหนาของนางทอดเป็นเงาลงบนใบหน้า ขณะที่นางหัวใจเข้าออก,หน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อย;นางดูเหมือนนอนหลับอยู่
เมื่อเซียวเฉินสัมผัสได้ถึงกระแสพลังแห่งชีวิตของเด็กสาว,เขาถอดหายใจอย่างโล่งอก เขาหยิบเสื้อผ้าออกมาและห่มลงบนร่างของเสียวไป
เซียวเฉินอุ้มนางขึ้นมาในอ้อมกอดของเขา ร่างกายอ่อนนุ่มของนางมีความรู้สึกน่ารักของเด็กสาวที่สามารถทําให้หัวใจต้องสั่นเพิ่ม
เซี่ยวเฉินสูดหายใจเข้าลึกและดับไฟในใจของเขา,สงบปฏิกิริยาตอบสนองที่ชายทุกคนมี
จากนั้น,เซียวเฉินก็รีบมุ่งหน้าไปที่ลานบ้านของเขา เหตุการณ์เอิกเกริกเช่นนี้จะต้องไปทําให้บางคนตกอกตกใจ มันจะเป็นการดีที่สุดหากพวกเขาจะออกไปจากที่แห่งนี้โดยเร็ว
เซี่ยวเฉินอุ้มเสี่ยวไป์ไปพร้อมกับใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยาน ขณะที่เคลื่อนที่ไปตามพื้น,ฉากรอบข้างของพวกเขาวูบผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนเสี่ยวไปพลันลืมตาตื่นขึ้น ดวงตานั่นเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าที่น่ารักของนาง
ชายตาของเสี่ยวไป์ยกขึ้นเล็กน้อย,ขนตาของนางขยับไหว นี่เป็นดวงตาที่สามารถกระชากวิญญาณออกมาจากร่างของชายหนุ่ม เมื่อนางจ้องมองไปที่ใบหน้าจริงจังของเซียวเฉิน,ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น มุมปากของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ
เมื่อเสี่ยวไปมองลงมา,เจอกับริมฝีปากของเซี่ยวเฉิน,นางดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แขนของนางคว้าไปที่คอของเซี่ยวเฉินในทันที
จากนั้น ริมฝีปากสีแดงของเสี่ยวไปก็จือออกและนางใช้ฟันสีขาวหิมะของนางกัดลงบนริมฝีปากของเซี่ยวเฉิน
สถานการณ์ฉับพลันและความเจ็บปวดจากริมฝีปากของเขาทําให้ปราณของเซี่ยวเฉินหยุดชะงัก เขาเกือบจะม้วนหน้าทิ่มลงไปในจังหวะอันตราย เขารีบปลดทักษะเคลื่อนไหวของเขาและหยุดเท้าลง
เสี่ยวไปปล่อยริมฝีปากของเซี่ยวเฉินและรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความภูมิใจ
รอยเลือดปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเซี่ยวเฉิน เสี่ยวไปกัดเป็นแผลเล็กๆบนริมฝีปากของเขา
ภายในวันเดียว เซี่ยวเฉินถูกขืนใจจูบโดยผู้หญิงสองนาง เขาไม่รู้ว่าจะต้องหัวเราะหรือร้องไห้
การเปลี่ยนสีหน้าของเซี่ยวเฉินทําให้บาดแผลบนริมฝีปากของเขาเจ็บขึ้นมา เซียวเฉินสูดหายใจเข้าลึกกลืนความเจ็บปวดในทันที นี่มันเจ็บปวดเหลือเกิน เด็กสาวนางนี้ไปเรียนการกระทําเช่นนี้มานากไหน?
เมื่อเสี่ยวไปมองเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเซี่ยวเฉิน,นางงุนงง “พี่ชายเซี่ยวเฉิน, เกิดอะไรขึ้น? เจ้าดูเหมือนเจ็บปวด แต่ในอตนที่ข้าเห็นพี่สาวหรูเยว่จูบเจ้า,เจ้าดูเหมือนจะมีสีหน้าสุขสบาย หรือ เสี่ยวไปทําอะไรผิดไป?”
บางทีอาจจะเป็นเพราะนี้ล่คือการพูดครั้งแรกของเสี่ยวไป,หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะสีหน้าเจ็บปวดของเซี่ยวเฉิน เสียงเล็กๆของเสี่ยวไปปนไปด้วยความเกรงกลัว
เซียวเฉินบรรลุ,เป็นเช่นนี้นี่เอง อย่างไรก็ตาม,เจ้าไม่ได้จํามาอย่างถูกต้อง หลิวหรูเยว่เพียงจุบเบาๆ,นางไม่ได้กัดริมฝีปากของข้า
แน่นอน,เซี่ยวเฉินกล่าวขึ้นในใจ มันไม่สะดวกสําหรับเขาที่จะอธิบายเรื่องนี้ให้เสี่ยวไปฟัง นอกจากนั้น เมื่อเขามองเสี่ยวไปในร่างใหม่,เขายังทําใจให้ชินกับนางไม่ได้เร็วนัก
“เจ้าไม่ได้ผิด,แต่เรื่องเช่นนี้ไม่อาจทํากับใครก็ได้ง่ายๆ มันสามารถทําได้เพียงกับคนที่มีความสัมพันธ์สนิทสนมกับเจ้า” เซี่ยวเฉินกล่าวหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน
เสี่ยวไป์พยักหน้า ใบหน้าที่น่ารักของนางแสดงถึงความเข้าใจ เสียงของเด็กสาวที่ไพรเราะของนางกล่าวขึ้น “โอ้,ข้ารู้แล้ว! พี่สาวหรูเยว่ชอบพี่ชายเยว่เฉิน นางถึงได้ทําเช่นนั้น ข้าก็ชอบพี่ชายเซียวเฉิน,เช่นนั้นข้าก็ทําได้ พี่ใหญ่ช่าวหยางชอบพี่สาวเสียวเมิ่งเช่นกัน,ข้ามักเห็นเขากําลังจูบพาสาวเสี่ยวเมิ่งในที่ลับๆ”
เซี่ยวเฉินเริ่มปวดหัว ยิ่งเสี่ยวไป๋อธิบายยิ่งยุ่งเหยิง อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทําไมเสี่ยวไปถึงได้รู้เรื่องแปลกๆมากนักถึงแม้ว่าน่าเพิ่งจะเปลี่ยนร่าง นางไปเรียนรู้มาจากเสี่ยวเมิ่งนี่เอง
เซียวเฉินไม่เก่งในหัวข้อนี้มากนัก เขาเพียงยิ้มอย่างขวยเขินและหยุดพูดคุย
เซียวเฉินทํามือข้างหนึ่งของเขาให้ว่างและหยิบเอารองเท้าหนึ่งคู่ออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล เขากล่าว “ในเมื่อเจ้าตื่นแล้ว,เช่นนั้นเจ้าควรที่จะเรียนรู้การเดินด้วยตัวเอง นี่รองเท้า,เจ้าจะต้องเรียนรู้วิธีใส่รองเท้าในอานาคต”
เสี่ยวไปิกอดรอของเซี่ยวเฉินเอาไว้แน่นและซุกไซรับนหน้าอกของเซี่ยวเฉิน ดวงตาอิ่มน้ําของนางเต็มไปด้วยความงุนงงพร้อมกับนางกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง “ทําไม? พี่ชายเซี่ยวเฉิน.ไม่ใช่ว่าเจ้ามักจะอุ้มข้าไปมาในอดีต? เจ้าต้องยิ้มข้าต่อไป,เสี่ยวไปชอบตอนเจ้าอุ้มเสี่ยวไป”
เจ้าช่วยหยุดซุกซนจะได้ไหม? เซียวเฉินกล่าวอย่างรันทดในใจของเขา เสียวไปถูกคลุมเอาไว้ด้วยชุดคลุมยาว เนื้อหนังส่วนใหญ่ของนางไม่ได้ถูกปกปิดเอาไว้ ผิวสีขาวหิมะของนางเผยออกมาและสัมผัสกับตัวเขา
เรือนร่างอันนาาหลงใหลของเด็กสาวแนบชิดกับหน้าอกของเซียวเฉินแน่น บางครั้ง.ก็มีเนินนุ่มๆบนหน้าอกของนางก็กดลงมาที่หน้าอกของเขา
สําหรับชายหนุ่มร่างกายสมบูรณ์ , นี่เป็นการจุดไฟปราถนาขึ้นในใจของพวกเขา ยิ่งเมื่อเด็กสาวตรงหน้าของเซี่ยวเฉินไม่รู้ถึงการปฏิบัติตัวต่อหน้าผู้ชาย
เซียวเฉินหลับตาลงและพยายามอย่างหนักอยู่นานก่อนที่เขาจะสามารถดับความปราถนาที่กําลังลุกหหม้อยู่ในใจของเขา
หลังจากผ่านไปนาน,เขาลืมตาขึ้นและกล่าวอย่างเยือกเย็น “ก็ได้ แต่เจ้าต้องสัญญากับข้าว่าจะไม่ขยับตัวมั่วซั่ว”
เสี่ยวไปขยับด้วยท่าทางน่ารัก “เสี่ยวไป๋จะไม่ขยับ,เสี่ยวไปจะเชื่อฟัง เสี่ยวไปจะไม่ขยับตัวอย่างแน่นอน”
เซี่ยวเฉินเก็บรองเท้าคู่นั้นไป จากนั้น,เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าอันบริสุทธิ์และดวงตาชวนฝันของเสี่ยวไป เขาอดที่จะยิ้มขึ้นมาไม่ได้
เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,แม้ว่าเจ้าจะไม่ขยับ,แต่เจ้าก็ยังดึงดูดใจอยู่เหลือเกิน โชคร้าย,เด็กสาวในตอนนี้ไม่รู้อะไรเลย ข้าไม่อาจปล่อยนางเอาไว้กับเสี่ยวเมิ่งได้อีกแล้ว ข้าต้องสอนนางอีกหลายสิ่ง
เซียวเฉินจัดอารมณ์ของเขาก่อนที่จะใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยาน เขามุ่งหน้าไปที่ลานบ้านของเขาอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลังจากที่เซี่ยวเฉินจากไป,แสงสีแดงวูบไหวสองเส้นปรากฏขึ้นตรงจุดที่เสี่ยวไปเปลี่ยนร่างและลงจอดบนพื้น
คนทั้งสองสวมชุดเกราะศึกสีแดงทับบนชุดคลุมยาวสีแดงพร้อมกับกระบี่สีแดงที่แขวนอยู่ตรงเอวของพวกเขา มีเหรียญสีแดงห้อยอยู่ตรงเอวของพวกเขา พวกเขาคือผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการแห่วค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์
สีหน้าของพวกเขาทั้งสองมืดมัว,ดวงตาของพวกเขาขุ่นและไม่จดจ่อ หากมองดูพวกเขาอย่างละเอียด,ดูเหมือนสีพี่พยาบาทที่ส่วนลึกในดวงตาของพวกเขากําลังกรีดร้องอย่างน่าสังเวช
ทั้งสองยืนนิ่งเงียบไม่ขยับเขยื้อน พวกเขาส่งกระแสพลังออกไปดังใจ ต้นไม้สีเขียวโดยรอบทั้งหมดราวกับรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าฟันอันน่ากลัว ใบหญ้างอราบสั่นเทิ้มอยู่กับพื้น มันดูราวกับพีชพันธุ์ได้มีชีวิตขึ้นมาและรู้สึกถึงความหวาดกลัว
คนที่อยู่ด้านขวามองไปโดยรอบ,ราวกับเขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน หลังจากผ่าไปนครู่หนึ่ง เขากล่าว “พี่ใหญ่,เส้นสายฟ้าสีทองนั้นมาจากตรงนี้อย่างแน่นอน”
เสียงของคนผู้นี้ฟังดูแหบเล็กน้อย แต่มันนิ่งสงบและฟังชัดอย่างยิ่ง ผู้ที่กล่าวขึ้นคือรองผู้บัญชาการแห่งค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ถูกกล่าวว่าพี่ใหญ่คือผู้บัญชาการของค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์,ซีเมิ่นหยิ่ง
ซีเมื่นหยิ่งหลังตาของเขาและแสงสีแดงที่มองไม่เห็นก็ปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา ในตอนที่แสงสีแดงกลับเข้าร่างของเขา,เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “เส้นสายฟ้าสีทองนั้นถูกส่งลงมา โดยเตสวรรค์อย่างแน่นอน สําหรับผู้ที่ยืนหยัดต่ออํานาจของเตสวรรค์,เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่ามู่หลงชง”