Immortal and Martial Dual Cultivation - ตอนที่ 329 แก่นกลางปีศาจมหาศาล
ตอนที่ 329 แก่นกลางปีศาจมหาศาล
ปริมาณของเจตนารมณ์ฆ่าล้างนี้แข็งแกร่งกว่าที่ได้จากสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 หนึ่งร้อยเท่าดูเหมือนว่าจะถูกต้องยิ่งมันมีชีวิตอยู่มานานเท่าไหร,มันจะยิ่งสะสมเจตนารมณ์ฆ่าล้างมากขึ้นเท่านั้น
ภายในสมุทรแห่งจิตใต้สํานึก,บัลลังก์สีแดงดูดกลืนเจตนารมณ์ฆ่าล้างไปอย่างกระหายท้ายที่สุด,เป็นเพราะมีแสงสีแดงมากเกินไป,มันอดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้ม
หลังจากที่มันสั่นระรัว,ร่างกายที่เหนื่อยล้าของเซียวเฉินรู้สึกผ่อนคลาย
เซียวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปสู่บัลลังก์สีแดง ภายในมีเขตแดนย่อย,มีร่างเทพกําลังลอยอยู่สูงบนท้องฟ้า นี่เป็นตราประทับจิตวิญญาณที่เขาประทับเอาไว้
ในอดีต,มันมีมหาสมุทรสีเลือดอันไร้ขอบเขตอยู่เบื้องล่าง ตอนนี้ มันเดือดแห้ง มีเพียงหนองน้ำสีแดงเล็กๆ,กว้างประมาณห้าเมตรที่เหลืออยู่
นอกจากนั้น นี่เป็นหลังจากที่ดูดกลืนเจตนารมณ์ฆ่าล้างของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 อายุพันปีเข้ามาก่อนหน้านี้ที่เซียวเฉินเข้ามา,มันมีเพียงหยดของเหลวสองสามหยด
ข้าจะจัดการเมื่อมันถึงเวลา,เซี่ยวเฉินไม่รีบร้อนที่จะจัดการกับมันตอนนี้เขาถอนสัมผัสวิญญาณกลับมาและจ้องมองไปที่ซากของงูปีศาจมีสมบัติมากมายที่กําลังรอให้เขาไปเก็บเกี่ยวเซียวเฉอนดึงเอาแก่นกลางปีศาจของจูมงกุฎสี่ขาออกมาจากนั้น,เซียวเฉินก็หยิบเอามีดออกมาและถอนเกล็ดของงูปีศาจเกล็ดพวกนี้สามารถเปลี่ยนสีได้อย่างอิสระ;พวกมันเป็นส่วนประกอบที่ยอดเยี่ยมสําหรับการสร้างสมบัติเวทมนต์
ยังมีถุงน้ำดี,ขาทั้งสี่ข้าง,และมงกุฎบนหัวของมัน ของพวกนี้ต่างมีมงค่า
หลังจากที่เซี่ยวเฉินจัดของทุกอย่าง,เขาพบต้นไม่ใหญ่เพื่อนั่งลงและหมุนเวียนพลังงานฟื้นคืนปราณของเขา
หลังจากจบศึกใหญ่,เซี่ยวเฉินผลาญพลังไปมาก เขาบาดเจ็บภายในอีกไม่น้อยโดยเฉพาะการฟาดหางจู่โจมของมันในตอนสุดท้าย เซี่ยวเฉินต้องแบกรับพลังมากกว่า 25,000 กิโลกรัม
หากไม่ใช่เพราะเกราะศึกสีแดงที่เพิ่มพลังป้องกันและความสามารถในการฟื้นตัวของเขา,การโจมตีนั้นจะทําลายอวัยวะภายในของเขาทั้งหมด
เซี่ยวเฉินหยิบเอาหินวิญญาณระดับกลางออกมาและถือเอาไว้ในมือ ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆหมุนเวียน,และพลังงานจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ภายในหินวิญญาณระดับกลางก็ไหลเข้าสู่วังวนที่จุดตันเที่ยนของเขา
ของเหลวค่อยๆหยดลงมาจากวังวนฉีสีม่วงหลังยากผ่านไปสิบสองชั่วโมง,พลังปราณภายใน วังวนฉีในที่สุดก็กลับมาเต็มเปี่ยม
เซียวเฉินหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็วเพื่อบํารุงและรักษาอวัยวะภายในที่บาดเจ็บเขาใช้เวลาไปอีกครึ่งวันก่อนที่จะจัดการกับอาการบาดเจ็บทั้งหมด
เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้น มีแสงสีม่วงวูบไหวในดวงตาของเขา นี่ทําให้ใบหน้าที่ขาวละเอียดสวยงามอย่างน่าประหลาดของเขากลับมามีสีอีกครั้ง
เซี่ยวเฉันยืนขึ้นและมองไปยังท้องฟ้าที่ดํามืด จากนั้นเขาก็ออกเดินทางสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ต่อไป เขาได้เห็นถึงพลังอํานาจของเจตนารมณ์ฆ่าล้าง
เซี่ยวเฉินยิ่งสนใจในการสังหารสัตว์อสูรปีศาจที่แข็งแกร่งขึ้นไปอีก เขารวบรวมเจตนารมณ์ฆ่าล้างให้มากขึ้น,เพิ่มความแข็งแกร่งของสภาวะแห่งการฆ่าล้างของเขา
เซี่ยวเฉินใช้เวลาไปสองวัน ก่อนที่จะกลับไปหาเสี่ยวไป๋และหุ่นรบเกราะเงิน
ตลอดสองวัน,เซี่ยวเฉินสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 สําเร็จไปทั้งหมดยี่สิบตัวภายใต้การต่อสู้ที่เข้มข้นมากมายในระยะเวลาสั้นๆมันเกินกว่าที่ร่างกายของเขาจะรับได้
หากเซียวเฉินยังเดินหน้าต่อสู้,มันจะไม่ใช้การฝึกฝนอีกต่อไปแต่เป็นการทําลายอนาคตของเขาร่างกายเป็นพื้นฐานของทุกอย่าง
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของหม้อมังกรฟินิกซ์และหุ่นรบเกราเงินทั้งสองตัว ตลอดสองวันที่ผ่านมา,ไม่มีร่องรอยของสัตว์อสูรปีศาจเข้ามาที่นี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยวเฉันมองไปรอบๆ,เขาไม่เห็นตัวเสี่ยวไป เขารู้สึกประหลาดใจจากการใช้หยกวิญญาณสีเลือด,เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเสี่ยวไป์ยังอยู่ในระยะสิบเมตรทําไมเขาถึงไม่เห็นตัวมัน?
เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นและไปถึงที่ปากหม้อมังกรฟินิกซ์ เมื่อเขามองลงไปในที่สุดเขาก็เจอตัวเสี่ยวไป
เขามองเห็นเสี่ยวไปกําลังกระโดดไปมาอยู่ภายในหม้อ ตัวหม้อมังกรฟินิกซ์สูงเพียงหกเมตร;ทําไมมันถึงกระโดดอกมาไม่ได้?
มีความงุนงงอยู่บนใบหน้าของเสียวไป มันลูบหัวด้วยอุ้งเท้าของมัน, คิดไม่ตกถึงปัญหานี้
เซียวเฉินยิ้มเบาๆและมองเห็นขวดเหล้าที่กลิ้งอยู่ภายในหม้อ เขาเดาได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าตัวน้อยนี้จะต้องดื่มจนเมาขณะที่นั่งอยู่บนปากหม้อ,จากนั้นก็ตกลงไป
ภายในของหม้อใบนี้มีค่ายกลมิติ, ที่สร้างเขตแดนย่อยขึ้นมา
เจ้าเสี่ยวไปจะไปทําได้เช่นไร?
เมื่อเลี้ยวไปมองเห็นเซี่ยวเฉินอยู่บนปากหม้อ,ดวงตาที่เป็นประกายของมันก็เผยความยินดีจากนั้นมันก็จ้องมองไปที่เซี่ยวเฉินอย่างน่าสงสาร
เซี่ยวเฉินยิ้มบางเบา มีแสงวูบไหวที่หยกวิญญาณสีเลือดบนหน้าอกของเขาและดึงตัวเสียวไปขึ้นมา
“ยี ยา! ยียา!”
จากนั้น,เสี่ยวไปก็กระโดดออกมาจากหยกวิญญาณสีเลือด มันชี้ไปที่หม้อมังกรฟินิกซ์,ส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง มันพยายามจะกล่าวว่าหม่อใบนี้น่ากลัวมันเลวร้ายมาก
เซียวเฉินกล่าวตําหนิมันด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ,หากเจ้ายังกล้าดื่มจนเมามายอีกในอนาคต ตอนนี้เจ้าน่าจะรู้ถึงผลที่จะตามมาแล้ว และกระนั้น,เจ้ายังรับปากจะปกป้องหม้อใบนี้:เจ้าปกป้องไม่ได้แม้แต่ตัวเจ้าเอง”
เซี่ยวเฉินวางเสี่ยวไปที่เจ็บใจและลอยลงมา เขามองหาต้นไม้ที่ใหญ่พอเหมาะและโค่นมันลง
หลังจากนั้น,เซี่ยวเฉินหยิบเอามีดแกะสลักของเขาออกมาแกะเป็นรูปนกเขาเป๋าเบาๆไล่เศษไม้ทั้งหมดออกไป ทําให้รูปสลักยิ่งดูสมจริง
“ดูเหมือนว่าฝีมือของข้ายังไม่ตก ข้าสงสัยว่ารูปสลักที่ข้ามอบให้หยิงเยว่จะทําให้นางพอใจ?”เซี่ยวเฉินยิ้มและมองไปที่รูปสลัก จากนั้นเขาก็หุบยิ้มและกล่าวออกมาน้ำเสียงจริงจัง “คาถาสละ ชีพ!”
นกไม้กลายเป็นมีชีวิตขึ้นมาในทันที เซียวเฉินควบคุมให้มันกระพือปีกและบินขึ้นไปหลังจากที่มันบินวนไปรอบตัวของเขา,มันก็บินตรงไปที่ทางออกของป่าน้ำหมึก
ตราบใดที่ไม่ใช่รูปสลักสําหรับการต่อสู้,มันไม่ต้องกําหนดวัตถุดิบ เซียวเฉินต้องการเพียงใช้นกตัวนี้ไปสอดแนมดังนั้น,ไม่มีความจําเป็นที่เขาต้องใช้ไม้วิญญาณ
สัมผัสวิญญาณของเซี่ยวเฉินถูกจํากัดภายในป่าแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม,มันไม่จํากัดคาถาสละชีพของเขา
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง, นกตัวนั้นก็บินผ่านอุโมงค์มืดมิดและออกไปถึงด้านนอก
ราชวังเหมันต์ลึกล้ํายังจอดอยู่ที่ตําแหน่งเดิม มีผู้บ่มเพาะพลังหลายคนเฝ้าอยู่ที่ทางเข้าอุโมงค์ดูเหมทอนว่าพวกเขายังไม่ยอมลามือ
เซียวเฉินได้ประทับตราลงบนนกตัวนั้นและควบคุมให้มันไปหยุดอยู่ที่กําแพง,เกาะเอาไว้ด้วยกรงเล็บของมัน เขาพึมพํากับตัวเอง “หาวันผ่านไปแล้ว แต่คนกลุ่มนี้ยังไม่ออกไปไหนอย่างไรก็ตาม,หากจะแข่งขันกับข้าในเรื่องของความอดทน,พวกเจ้าจะต้องเสียใจ”
วันเวลาไหลผ่านไป เซียวเฉินออกล่าสัตว์อสูรปีศาจในตอนกลางวันและบ่มเพาะสลักร่างพยัคฆ์มังกรของเขาในตอนกลางคืน พลังงานจิตวิญญาณในที่แห่งนี้เบาบางเป็นอย่างมาก;มันไม่เหมาะที่จะบ่มเพาะทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น เขาจึงทําได้เพียงบ่มเพาะทักษะฝึกฝนร่สง กายของเขา
โชคดี,สลักร่างพยัคฆ์มังกรของเขาเหลือเพียงอีกน้อยจะถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้นของชั้นที่ห้ากระดูกพยัคฆ์เอ็นมังกร,ลากภูผามัวนธาราเซียวเฉินอาจจะใช่โอกาสนี้ในการทะลวงระดับนี่หมายความว่าเซี่ยวเฉินไม่ได้เร่งรีบอะไร
ครึ่งเดือนต่อมา,เซียวเฉินร้องตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด กระดูกในร่างของเขาส่งเสียงแตกกราวไม่หยุดกระแสพลังทาปล่อยออกมาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า,สลายควันสีดําภายในป่า
ชั้นที่สี่ของสลักร่างพยัคฆ์มังกรขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น เซียวเฉินลุกขึ้นยืนและพุ่งไปถึงหม้อมังกรฟีนิกซ์ในการกระโดดครั้งเดียวจากนั้นเขาก็ปล่อยหมัดออกไปเบาๆ
“ปัง!”
หม้อมังกรฟินิกซ์สั่นสะเทือนส่งเสียงนุ่มลึกออกมา จากนั้นมันก็ลอยออกไปในแนวระนาบต้น ไม้ที่อยู่ในทางทั้งหมดแตกกระจาย
หลังจากผ่านไปนาน,หม้อใบนในที่สุดก็ตกลงพื้น ขาทั้งสามของหม้อจมลงไปในพื้นลึกหนึ่งเมตร
เซียวเฉินถอนหมัดของเขากลับและกล่าวขึ้นเบาๆ “หลังจากขึ้นมาถึงระดับสมบูรณ์ขั้นต้น,พลังของข้าเพิ่มขึ้นมาห้าพันกิโลกรัม หลังจากขึ้นไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม,และขั้นยอดเยี่ยมสุด,ทักษะสลักร่างพยัคฆ์มังกรน่าจะขึ้นไปถึงระดับบริบูรณ์
“ถึงตอนนั้น,เพียงกําปั้นธรรมดาก็จะมีพลังถึง 25,000 กิโลกรัม กําปั้นเต็มกําลังนะสามารถขึ้นไปถึง 50,000 กิโลกรัม ข้าจะสามารถเปิดจุดปราณที่เหลืออีกสามนุดบนแขนขวาของข้าได้
สละชีพตรวจดูสถานการณ์ด้านนอก เขาพบว่าราชวังเหมันต์ลึกล้ําของตระกูลต้วนม่ได้ออกไปแล้ว
“ผ่านมาแล้วอย่างน้อยครึ่งเดือน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหมดความอดทนกันแล้วข้าก็ควรออกไปได้แล้วเช่นกัน” เซียวเฉินถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมาและยิ้มขึ้นเบาๆ
เซี่ยวเฉินเกรงว่ามันอาจจะเป็นกับดัก ดังนั้นเขาจึงใช้คาถาสละชีพบินไปดูรอบๆเพื่อนยืนยันว่าทุกคนได้ออกไปกันหมดแล้ว
เซียวเฉินไม่รอช้าอีกต่อไป เขาควบคุมหุ่นรบเกราะเงินให้แบกหม้อมังกรฟินิกซ์ จากนั้นเขาก็ออกไปจากป่าในดินอย่างรวดเร็ว,กลับไปยังเทือกเขา
แม้ว่าอากาศภายในเทือกเขาจะขุ่นมัว มันก็ยังสะอาดกว่าอากาศภายในป่าในดินมากเซียวเฉินสูดหายใจเข้าลึกและรู้สึกสบายปอด
มีสิ่งอันตรายต่อชีวิตมากมายบนท้องฟ้าภายในเทือกเขาน้ำหมึก ดังนั้น,เซียวเฉินจึงไม่ได้ใช้บัลลังก์สีแดงหรือเรือสงครามสีเงิน สัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 ประเภทอีกที่ปกครองท้องฟ้าจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆในทันที
เซียวเฉินเดินกลับไปทางเท้าเท่านั้น,สังหารไปตลอดการเดินทางของเขา ข้าจะถือว่ามันเป็นการเดินทางฝึกฝน ตั้งแต่โบราณกาล,ผู้แข็งแกร่งต้องผ่านการทดสอบนับไม่ถ้วนเซียวเฉินหัวเราะและมุ่งหน้าต่อไปพร้อมกับกระบี่เงาจันทร์ในมือของเขา
ครึ่งเดือนต่อมา ผู้บ่มเพาะพลังในชุดคลุมยาวสีฟ้าปรากฏตัวขึ้นที่ทางออกของเทือกเขาน้ำหมึกมีผ้าคาดหัวสีฟ้าบนหน้าผากและจิ้งจอกวิญญาณบนไหล่ของเขาผู้เยาว์ผู้นี้มีกระบี่คาดเอาไว้ที่เอวขณะที่เขาค่อยๆเดินออกมา
คนผู้นี้คือเซี่ยวเฉิน เขาต่อเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่ยังคงมีแสงอยู่ภายในดวงตาของเขา;เขายังคงรูปลักษณ์ที่เฉลียวฉลาด
เซียวเฉินก้าวออกมาและมองไปยังดวงอาทิตย์;เขาไม่ได้เห็นแสงตะวันมานับเดือนเขาหยีตาบริสุทธิ์”
นับรวมตอนอยู่ในป่าน้ำหมึก,เซี่ยวเฉินได้เดินทางฝึกฝนที่นี่ทั้งเดือน
เจตนารมณ์ฆ่าล้างที่กักเก็บอยู่ในบัลลังก์สีแดงกลายเป็นสระน้ำลึก มีพลังมากกว่าสิบเท่าจากก่อนหน้านี้ แน่นอน,มันยังห่างไกลจากมหาสมุทรในตอนแรก
ผลประโยชน์จากการต่อสู้ที่เข้มข้น อันตรายมาเป็นเวลานานก็คือการตอบสนองที่เฉียบคมขึ้นเซี่ยวเฉินใช้ทักษะต่อสู้ได้คล่องแคล่วมากขึ้นเช่นกัน
จํานวนแก่นกลางปีศาจที่เขารวบรวมมามันมากกว่าที่เขาได้มากจากมิติย่อยแห่งนั้นเสียอีกเป็นจํานวนที่มากจนน่าสะพรึง
เซี่ยวเฉินนับด มีแก่นกลางปีศาจระดับ 4 มากกว่า 1500แก่น, หนึ่งพันแก่นกลางปีศาจระดับ 5,และเจ็ดร้อยแก่นกลางปีศาจระดับ 6
นี่เป็นโชคมหาศาล หากเขาแลกเปลี่ยนมันกับหินวิญญาณ,เขาจะได้รับอย่างน้อย,สองพันหินวิญญาณระดับกลาง
ด้วยอันตราการบ่มเพาะพลังของเซียวเฉินในตอนนี้,เขาต้องใช้หินวิญญาณระดับกลางหนึ่งก้อนต่อวันหินวิญญาณระดับกลางสองพันก้อนจะเพียงพอสําหรับหกปี
แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะต้องใช้มากขึ้นในตอนที่การบ่มเพาะพลังของเขาสูงขึ้น,มันก็ยังเพียงพอสําหรับสองปีอย่างแน่นอนในตอนนี้เขายังมีหินวิญญาณระดับกลางมากกว่าห้าพันก่อนเขาสามารถใช้มันซื้ออะไรก็ได้ที่เขาต้องการ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามองไปยังหม้อมังกรฟินิกซ์ที่หุ่นรบเกราะเงินกําลังแบกอยู่,เขาคิ้วขมวดเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันยังไงในตอนนี้
หม้อมังกรฟินิกซ์ไม่อาจเก็บเอาไว้ในแหวนห้วงจักรวาล มันมีขนาดใหญ่มาก;วางเอาไว้ตรงไหนก็เป็นจุดสนใจ