Immortal and Martial Dual Cultivation - ตอนที่ 309 เทือกเขาน้ําหมึก
ตอนที่ 309 เทือกเขาน้ําหมึก
โชคดี,ที่มีเพียงแค่ร่องรอยของอํานาจพลังหากว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้สองสามเท่า,เซียวเฉินจะไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะเผชิญหน้าเขา เพียงแค่จะก้มกราบลงกับพื้น
ขณะเซียวเฉินมองดูเปลวเพลิงที่ริบหรี่,เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเปลวเพลิงมังกรที่เขาเห็นจากหยิงเยวในอดีต
แม้ว่าเปลวเพลิงสวรรค์นี้จะไม่อาจเทียบได้กับเปลวเพลิงมังกรนั้น แต่มันมีกระแสพลังที่เหนือกว่าอย่างมาก
ทันใดนั้น,ความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวของเซี่ยวเฉินหากสามารถใส่อํานาจลงไปในเปลวเพลิงสวรรค์,เช่นนั้นขาสามารถจะสามารถใส่สภาวะของข้าเข้าไปในเพลิงแท้อัสนีม่วงได้หรือไม่?
เปลวเพลิงสีม่วงดุร้ายเผาไหม่ในดวงตาขวาของเขาเมื่อมองเข้าไป,มันดูเหมือนกับเป็นทะเลเพลิงที่ไร้ขอบเขตเปลวเพลิงบีบอัดเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วและก่อเกิดเป็นสายเปลวเพลิงสีม่วงต้นกําเนิดเพลิงแท้อัสนีม่วงลอยออกมาจากดวงตาของเขาและกระพริบไหวอยู่เหนือปลายนิ้วของเซี่ยวเฉิน
ด้วยการนึกคิดของเซียวเฉิน,สภาวะแห่งสายฟ้าระดับสมบูรณ์ขั้นต้นฉีดเข้าไปในต้นกําเนิดเปลวเพลิง
“ซี่ ซี่!”
เปลวเพลิงสีม่วงที่ไม่มีที่สิ้นสุดปรากฏขึ้นด้านหลังของเซียวเฉินในทันที แสงสีม่วงขับไล่แสงสีทองจากเปลวเพลิงสวรรค์ของฉ่ฉาวอวิ่นในทันที 94
สําเร็จ! เซียวเฉินครุ่นคิดอย่างตื่นเต้น เขาสามารถใส่สภาวะของเขาลงในเพลิงแท้อัสนีม่วงนี่หมายความว่าเขาน่าจะสามารถต่อสู้กับเปลวเพ ลิงสวรรค์ได้แล้วตอนนี้
ก่อนหน้านี้ เชี่ยวเฉินไม่กล้าที่จะปลดปล่อยเพลิงแท้อัสนีม่วงออกมาต่อหน้าเปลวเพลิง สวรรค์
ภายในห้องโถงใหญ่,ด้านหนึ่งสว่างด้วยแสงสีทองรุ่งโรจน์อีกด้านหนึ่งเป็นสรม่วงดูแปลกประหลาดสองทั้งสองฝั่งเหมือนกับมีการขบเขี้ยวกัน ในอากาศ
ของทั้งหมดบนโต๊ะลอยขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลขณะที่กระแสพลังทั้งสองปะทะกัน
ฉ่ฉาวอวิ่นยิ้มและกล่าว “เจ้าเรียนรู้ได้รวดเร็วให้ข้าทดสอบพลังของมัน”
หลังจากที่ฉ่ฉาวอวุ่นกล่าวจบ,เขาก็สะบัดนิ้ว,และแสงสีทองทั้งหมดในห้องโถงใหญ่หวนกลับไปในเปลวเพลิงสวรรค์
ทันใดนั้น,เปลวเพลิงเล็กๆกลายเป็นประกายเจิดจ้าราวกับดวงตะวันสีทอง
กระแสพลังแห่งอํานาจสูงสุดเร่งขึ้นไปถึงขีดสุดสายลมรุนแรงพัดผ่านด้านหลังของฉ่ฉาวอวิ่น,โบกสะบัดเสื้อผ้าและผมของเขามันดูเหมือน
จักรพรรดิเทียนหวี่ได้เข้าสิงตัวของเขาเขาดูสง่างาม
สีหน้าของเซียวเฉินเปลี่ยน เขารีบรวบรวมกระแสไฟฟ้าสีม่วงที่กระจัดกระจายอยู่ในอากาศเข้าไปในต้นกําเนิดเปลวเพลิงเขาสําแดงสภาวะของเขาขึ้นไปถึงขีดสุดเปลวเพลิงสีม่วงให้แสงรุ่งโรจน์อย่างยิ่ง
เซียวเฉินสะบัดมือขวาของเขาไปข้างหน้าในลักษณะเดียวกัน,รับกับเปลวเพลิงของอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล
“ปัง!”
เปลวเพลิงทั้งสองเข้าปะทะกัน เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นในห้องโถงใหญ่,และคลื่นกระแทกดังกึกก้องวัตถุทั้งหมดที่ลอยอยู่ในอากาศสลายเป็นผง
มันช่างน่าหวาดกลัว,ขณะที่พลังงานสะท้อนไปมาในห้องโถงใหญ่,ทั่วทั้งราชวังเหมันต์ลึกล้ําสั้นสะเทือนทําให้ทุกคนที่อยู่ข้างในตกใจ
เซียวเฉินหน้าซีดและพลังงานพลั่งพล่านมหาศาลทะยานขึ้นและซัดเขาลอยกลับไปสิบเมตรก่อนที่จะลงจอดอย่างแรง
ในด้านนรงข้าม,ฉ่ฉาวอวิ่นถอยกลับเพียงสามก้าวเบาๆ เผชิญหน้ากับเปลวเพลิงสวรรค์ที่ไม่สมบูรณ์,เพลิงแท้อัสนีม่วงเต็มกําลังของเซี่ยวเฉินพ่ายแพ้ในแง่ของพลัง
แสงสีทองวูบไหวในดวงตาของฉ่ฉาวอวุ่นเปลวเพลิงสวรรค์ที่กระจัดกระจายในอากาศลบหายไป
ฉ่ฉาวอวุ่นมองไปที่เซียวเฉินด้วยสีหน้าจริงจังเขากล่าว“อย่าได้ถือข้าเป็นศัตรูของเจ้าในไม่ช้า,เจ้าจะเข้าใจว่าพวกเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน”
“ชี ชี!”
ราชวังน้ําแข็งหยุดสั่นสะเทือน,และสายน้ําแข็งสี่เส้นปรากฏขึ้นในห้องโถง สายน้ําแข็งก่อตัวเป็นรูปร่างมนุษย์จากนั้นมันกลายเป็นหญิงสาวสวย และสง่างามสี่นาง
“พวกเจ้าทั้งสอง,ครั้งหน้าที่เจ้าทดสอบกระบวณท่าโดยไม่มีเหตุผล,พวกเจ้าจะถูกจับโยนออกไปด้านนอกราชวัง,ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นใครมา จากไหนก็ตาม”
หนึ่งในหนึ่งสาวกล่าวเสียงเย็นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เมื่อฉ่ฉาวอวิ่นเห็นว่ามีผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นเข้ามาฉ่ฉาวอวุ่นก้มโค้งเล็กน้อยและยิ้มขึ้น “ขออภัยจะไม่มีครั้งหน้าเกิดขึ้น”
ในการเดินทางของราชวังเหมันต์ลึกล้ํา,การแลกเปลี่ยนกระบวณท่าของเซียวเฉินและฉ่ฉาวอขึ้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยราชวังเหมันต์ลึกล้ํายังเดินทางต่อไปด้วยความเร็วสองเท่าของความเร็วเสียงและบินตรงไปที่ป่าน้ําหมึก
ในห้องหนึ่งบนชั้นสอง,เซียวเฉินพยายามลองผสานสภาวะของเข้ากับเพลิงแท้อัสนีม่วงอย่างต่อเนื่องพลังของเพลิงสวรรค์ในตํานานน่ากลัว อย่างแท้จริง
ในครั้งแรกที่เซี่ยวเฉินผสานสภาวะของเขา เขาสามารถเกือบจะตีเสมอได้กับเปลวเพลิงสวรรค์แม้ว่าเปลวเพลิงสวรรค์จะไม่ถึงหนึ่งในสิบของ เปลวเพลิงสวรรค์ที่แท้จริงเซียวเฉินก็พึงพอใจแล้ว
อย่างไรก็ตาม,เพลิงแท้อัสนีม่วงของเซี่ยวเฉินยังมีศักยภาพที่ไม่ได้ดึงออกมา ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์มีทั้งหมดสิบสองชั้นทุกครั้งที่เขาทะ ลวงระดับชั้น,เพลิงแท้อัสนีม่วงจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากในอนาคต,เขาอาจจะสามารถต่อสู้ได้กับเปลวเพลิงสวรรค์
ขณะที่กําลังค่ํามืด,เชี่ยวเฉินสังเกตเห็นเมฆที่ด้านนอกหน้าต่างกําลังมืดลง นี่ทําให้รู้สึกหดหู
เซี่ยวเฉินหยุดมือจากสิ่งที่กําลังทําและลุกขึ้นเขามองออกไปนอกหน้าต่างและมองเห็นเทือกเขายาวไม่มีที่สิ้นสุด
หมอกสีดําปกคลุมทั่วทั้งเทือกเขาเคลื่อนไปรอบๆยอดเขาเมื่อสายลมเย็นพัด,หมอกสีดําเป็นราวกับของแข็ง:มันไม่ขยับแม้แต่น้อย
“นั้นคือเทือกเขาน้ําหมึก?” เซียวเฉินถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“ยิ้ม..!”
ในจังหวะนั้นเอง, ทั่วทั้งราชวังสั่นสะเทือนแม่ว่าจะไม่ได้รุนแรงนัก มันก็ยาวนานและต่อเนื่อง
“มีฝูงสัตว์อสูรปีศาจประเภทปีกระดับ 7 ฝูงใหญ่ใกล้เข้ามา ราชวังเหมันต์ลึกล้ําจะเปิดใช้รูปแบบโจมตีของมันทุกท่านโปรดอยู่ในห้องของตัวเอง อย่าได้ออกมาข้างนอกพวกเขาจะรับมือเอง”
เสียงไพเราะดังขึ้นในหูของทุกคนที่อยู่บนชั้นสองมันอธิบายถึงสถานการณ์ในตอนนี้
“มีสัตว์อสูรปีศาจประเภทปีกระดับ 7” เซียวเฉินพึมพํากับตัวเอง “ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัต ริย์ยุทธขั้นสูงข้าสงสัยว่าตระกูลต้วนมู่จะรับมือกับพวกมันอย่างไร”
“ถึงอย่างไร,ข้าสามารถลองตรวจสอบรูปแบบกลโจมตีของราชวังเหมันต์ลึกล้ําใครจะรู้:บางทีมันอาจจะมีประโยชน์ในการซ่อมแซมรูปแบบค่าย กลโจมตีของเรือสงครามสีเงิน”
เซี่ยวเฉินมองไปที่หน้าต่างเขาสามาถลอดผ่านมันไปได้เขาดีดตัวออกจากพื้นกระโดดรอดผ่านออกไปโดยปราศจากความลังเล
เซี่ยวเฉินลอยตรงไปข้างหน้ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้างระหว่างราชวังน้ําแข็งและหัวของวิหคเซียว เฉินตัดสินใจที่จะไปสังเกตการณ์รูปแบบค่ายกล โจมตีของราชวังเหมันต์ลึกล้ําอย่างระวัง
ร่างของเซียวเฉินเปลี่ยนกลายเป็นลําแสงสีม่วงในอากาศในตอนที่เขาลงจอด,มีเสียง โซว ดังขี้ นมาหลายครั้งจีชางคง,ฮวาหยุนเฟย,และอีกหลายคนได้มาถึงแล้วเช่นกัน
พวกเขาทั้งหมดมองกันไปมา,กระอักกระอ่วนอย่างชัดเจนพวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนอื่นออกมาด้วยเช่นกัน
จีชางคงยิ้มบางเบาและกล่าว “ดูเหมือนทุกคนจะมีความคิดเดียวกันพวกเราทั้งหมดอยากที่ จะรู้ว่ารูปแบบค่ายกลรบมันทํางานเช่นไรเช่นนั้นก็ไปพร้อมกันให้หมด”
ขุมอํานาจที่อยู่เบื้องหลังของคนพวกนี้ทั้งหมดต่างมีสมบัติประเภทเรือบินอยู่ไม่หนึ่งก็สองลําอย่างไรก็ตามรูปแบบค่ายกลโจมตีของพวกมันพังเสียหายและไม่อาจใช้งานได้นี่เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะไปสังเกตการณ์
โล่พลังฉีทรงกลมห่อหุ้มราชวังเหมันต์ลึกล้ําเอาไว้สัตว์อสูรปีศาจชนเข้าไปที่โล่พลังอย่างไม่ลดละ
ภายใต้การโจมตีของสัตว์อสูรปีศาจ,ราชวังเหมันต์ลึกล้ําสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องแสงสีขาวของโล่ฉีค่อยๆอ่อนลง
ฮวาหยุนเฟยกล่าวอย่างมืดมัว “สัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 น่ากลัวอย่างแท้จริง หากไม่ได้ใช้หินวิญญาณระดับสูงเพื่อเติมเต็มรูปแบบค่ายกลป้องกัน,มันจะอยู่ได้ไม่นานนัก”
หนึ่งในสมากชิกตําหนักราชวงศ์กล่าวอย่างถิ่นเต้น“หินวิญญาณระดับสูง? พวกเขาได้มันมาอย่างง่ายดายได้เช่นไร?พวกเขาน่าจะเปิดใช้รูปแบบค่ายกลโจมตีเร็วๆนี้”
“บูม!” หลังจากที่เขากล่าวจบ,ลูกบอลแสงรุ่งโรจน์บีบอัดในจะงอยปากของวิหคน้ําแข็งในช่วงเวลาต่อมายืดยาวและเปลี่ยนกลายเป็นเสา แสง,แทงทะลุผ่านโล่ฉีออกไป มันกวาดล้างสัตว์อสูรปีศาจทั้งหมด,เปลี่ยนพวกมันกลายเป็นชิ้นน้ําแข็ง
เซี่ยวเฉินมองขึ้นไป เขาเห็นเพียงผู้เชี่ยวชาญลึกลับกําลังทําผนึกมืออย่างต่อเนื่องบนชั้นบนสุดของราชวังน้ําแข็งขณะที่ผนึกมือของเขาเปลี่ยน ไป วิหคน้ําแข็งก็ยิงลําแสงไปในทิศทางอื่น
ไม่มีสัตว์อสูรปีศาจที่สามารถป้องกันเสาแสงนี้ไว้ได้พวกมันทั้งหมดเปลี่ยนกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งและแตกสลายเป็นเกล็ดน้ําแข็ง
“ฟุ ฟิว! ฟุฟว!”
วงรัศมีปรากฏขึ้นรอบๆ, เริ่มออกมาจากที่ชั้นสามและไต่ขึ้นไป วงรัศมีเหล่านี้ทั้งหมดประกอบไปด้วยอักขระยันต์ลึกลับ
อักขระยันต์นับไม่ถ้วนเคลื่อนไปตามรูปแบบบางอย่างไม่หยุด,ราวกับพวกมันกําลังก่อตัวเป็นบางสิ่ง
ในที่สุด,บุคคลลึกลับที่ชั้นบนสุดก็ร้องตะโกนออกมา“ทลาย!”
อักขระยันต์ทั้งหมดรวมตัวกันอย่างรวดเร็วหลังจากผ่านไปครู่หนึ่งพวกมันก็กลายเป็นนกน้ําแข็ง ขนาดเล็กเหล่านกน้ําแข็งร้องออกมาและบินตรง ไปข้างหน้า
นกน้ําแข็งนับไม่ถ้วนชนเขาไปที่สัตว์อสูรปีศาจที่อยู่โดยรอบในทันที ร่างกายของสัตว์อสูรปีศาจเหล่านี้ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ําค้างแข็งในทันที ใน จังหวะต่อมาพวกมันเปลี่ยนกลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งขนาดใหญ่
“ปัง!”
บุคคลที่ชั้นบนสุดของราชวังน้ําแข็งควบคุมวิหคยักษ์ชนเข้ากับรูปปั้นน้ําแข็ง,ทําลายรูปปั้นน้ําแข็งทั้งหมดตรงหน้า
เมื่อสัตว์อสูรปีศาจทั้งหมดตกตายลง,เซี่ยวเฉินและคนอื่นไสูดหายใจเข้าลึก พวกเขาไม่คาดคิดว่าราชวังเหมันต์ลึกล้ําจะทรงพลังถึงเพียงนี้ มัน สามารถสังหารสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 หลายตัวได้อย่างรวดเร็ว
เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,อักขระยันต์พวกนั้นน่าจะเป็นที่ตั้งของรูปแบบค่ายกลโจมตีอย่างไรก็ตามหากมไม่การศึกษาอย่างสมบูรณ์,ไม่มีทางที่จะเข้าในอักขระยันต์พวกนี้ได้
หลังจากที่สัตว์อสูรปีศาจตายหมด,ทิวทัศน์ด้านหน้ากลายเป็นชัดเจนอีกครั้ง มีเสียงกรีดร้องอันน่าหวาดกลัวดังมาจากข้างหน้าในตอนที่ทุก คนมองออกไป,พวกเขามองเห็นกลุ่มสัตว์อสูรปีศาจระดับ 7 อีกฝูงหนึ่ง
สีหน้าของบุคคลหนึ่งเปลี่ยน เขากล่าวด้วยความกลัว“สิ่งที่น่ากลัวในเทือกเขาน้ําหมึกคือการบินเข้ามาในอากาศ เคยมีระดับขอบเขตยอดก ษัตริย์ยุทธขั้นต้นบินผ่านเทือกเขาน้ําหนักแห่งนี้ท้ายที่สุด,เขาต้องบินหนีสัตว์อสูรปีศาจประเภท อีกนับไม่ถ้วนนอกจากนั้น,เขาจบลงด้วยการบาด เจ็บสาหัส
“ราชวังเหมันต์ลึกล้ําอาจจะทรงพลังอย่างไรก็ตาม,หากหินวิญญาณมีไม่เพียงพอให้ใช้,พวกเขาจะอยู่ในอันตราย”
ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็รู้สึกถึงอุณหภูมิโดยรอบลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นอุณหภูมิยังลด ลงเรื่อยๆไม่หยุดในไม่ช้า,มันก็เย็นจับไปถึงกระ ดูกทุกคนต้องหมุนเวียนพลังปราณของพวกเขาเพื่อขับความเย็นออกไป
“เกิดอะไรขึ้น?”
ฝูงชนตกอกตกใจ พวกเขามองเห็นฉีเยือกเย็นปรากฏขึ้นในพื้นที่โดยรอบของราชวังน้ําแข็งอักขระยันต์ทองคําเปลี่ยนเป็นเจิดจ้าท่ามกลางฉี เย็นหลังจากที่บุคคลลึกลับที่ชั้นบนสุดตะโกนออกมา
ฉีเย็นทั้งหมดรวมตัวกันและก่อตัวเป็นร่างน้ํา แข็งขนาดมหึมา เมื่อมองดูอย่างละเอียดนี่เป็นรูปร่างของหญิงสาว