Immortal and Martial Dual Cultivation - ตอนที่ 296 ตํานานไร้พ่ายพังทลาย
ตอนที่ 296 ตํานานไร้พ่ายพังทลาย
สภาวะแห่งสายฟ้าที่แทรกเข้าไปในหรูขุยสะเทือนสวรรค์ลดลงอย่างมากในทันที,พลังของมันก็กําลังลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อมู่หลงชงมองไปที่ต้นหวี่ขยและเชี่ยวเฉิน,เขาเผยรอยยิ้มเย็นชาไร้อารมณ์
เซียวเฉินตกตะลึงและครุ่นคิดกับตัวเอง,ไม่นะ! แท้จริงแล้วมู่หลงชงบ่มเพาะพลังสองสภาวะ,ลม และเมฆาผสานกัน สายลมจะให้พลังแก่เมฆา;เขาระงับสภาวะแห่งสายฟ้าของข้าอย่างสมบูรณ์
มู่หลงชงค่อยๆลุกขึ้นจากพื้น แสงสายฟ้าสีม่วง วูบไหวในหมู่เมฆเบื้องบน, ฉีกผ่านสนามประลอง ที่มืดมิด
สายลมรุนแรงพัดผ่าน,และสายฟ้าผสานรวม เข้ากับมัน จากนั้น,มันเปลี่ยนกลายไปเป็นพายุ หมุนสีม่วงอันน่าหวาดกลัว
มู่หลงชงใช้กระบี่ของเขาชี้ไป พายุหมุนสีม่วง มุ่งหน้าเข้าหาเซี่ยวเฉินกับต้นหรูขุยที่อยู่บนฟ้าใน ทันที
“ปัง! ปัง! ปัง!”
พลังงานของสายฟ้าและสายลมถูกแทรกเข้ามาในพายุสีม่วงอันบ้าคลั่ง ด้วยลักษณะของสายฟ้าและธรรมชาติของสายฟ้าที่รุนแรง,พลังของมันอาจจะเทียบเท่ากับทักษะต่อสู้ระดับปฐพี
ขั้นสูง
มันชนเข้าที่ต้นหวี่ขุย พวกมันทั้งคู่ต่างเป็น ทักษะต่อสู้ธาตุสายฟ้า,และในตอนที่พวกมันปะทะเข้าด้วยกัน มันส่งกระแสไฟฟ้าอันน่าหวาดกลัวออกมา,กําลังเคลื่อนตัวผ่านอากาศไปอย่างดุเดือด “งู” หลายตัวที่สร้างขึ้นมาจากกระแสไฟฟ้าเลื้อยไปในอากาศ
พวกมันชนปะทะห้าครั้ง แต่ละครั้งที่พวกมันปะทะกัน,พวกมันส่งเสียงดัง “เปรียะ เปรี้ยะ ออกมา สีของต้นหรูขุยของเซี่ยวเฉินลดลงอย่างเห็น ได้ชัด
ในครั้งที่ห้า,ต้นหรูขุยของเซี่ยวเฉินกลบหายไปอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ไม่มีต้นหรูขุยคอยขัดขวางอีกแล้ว,พายุหมุนอันน่าหวาดกลัวที่บรรจุพลังฉีอันบ้าคลั่งมุ่งหน้าเข้าหาเซียวเฉิน
“ถอย!”
หลังจากที่สภาวะแห่งสายฟ้าของเซียวเฉินถูกระงับ,เซี่ยวเฉินไม่กล้าที่จะเข้าชนกับมันอีก เขาสามารถทําได้เพียงหลบหลีก เขาเปิดใช้งานรองเท้าก้าววายุและถอยกลับด้วยความเร็วเสียง
“ฟู ฟิว!”
มู่หลงชงปรากฏตัวขึ้นถัดจากพายุหมุนสีม่วง เขากําลังล่องลอยอยู่ เขาครอบครองทั้ง คุณลักษณะสายลมอันบ้าคลั่งและเมฆาอะนไร้ตัวตน ในตอนที่ทั้งสองอย่างรวมเข้าด้วยกันมันกลายเป็นยากที่จะเข้าใจ
“แคร้ง!”
มีกระบี่แสงมาจากมุมแปลกประหลาดและฟันลงไปที่เซียวเฉิน เขาใช้กระบี่ของเขาขึ้นมา พยายามจะปัดป้อง,และพลังอันบ้าคลั่งเกิดขึ้น สภาวะแห่งสายฟ้าที่ใส่ลงในกระบี่ของเขาพ่ายแพ้ในทันที
“ถอยอีก!”
หยิบยืมพลังนี้มาเป็นแรงส่ง,เชี่ยวเฉินล่าถอยอีกครั้ง มือขวาของเขาเหน็บชาจากการกระแทก,และเขาเกือบจะไม่สามารถกุมกระบี่ของ เขาไม่ได้อีกต่อไป
หลังจากนั้น เซี่ยวเฉินก็กําลังล่าถอยต่อไปเรื่อยๆ สภาวะแห่งวายุเมฆาของคู่ต่อสู้ระงับเมฆาอัสนีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มันดําเนินไปเช่นนี้กระแสพลังของมู่หลงชงเพิ่มขึ้นและสถานการณ์จะพลิกกลับในไม่ช้า
“ยอมแพ้ซะ;ถึงแม้ว่าสภาวะแห่งสายฟ้าของเจ้าจะบริสุทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ,แต่มันไม่มีโอกาสในการเผชิญหน้ากับวายุและเมฆาผสมผสานของข้า”
เสียงของมู่หลงชงดังขึ้น,ไม่อาจรู้ถึงทิศทางของเสียง:มันเหมือนกับดังขึ้นมาจากทั่วทุกทิศทาง ไม่อาจระบุถึงทิศทางของเสียงและมันล่องลอยอยู่ในอากาศไปเป็นเวลานาน
“มู่หลงชงก็คือมู่หลงชง;เขาปิดซ่อนฝีมือเอาไว้อย่างสุดลึก นอกจากสภาวะแห่งสายลมระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม,ข้าไม่คาดคิดว่าเขาจะมีสภาวะแห่งเมฆาระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ที่สําคัญที่สุดก็คือเขาสามารถผสมผสานพวกมันได้อย่างลงตัว สมฉายาอันดับหนึ่งบนการจัดอันดับเมฆาล่องลอยของศาลากระบี่สวรรค์”
“ด้วยสภาวะแห่งสายฟ้าที่ถูกระงับไป,พลังต่อสู้ที่แท้จริงของเซียวเฉินก็อยู่เพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางทั่วไป ความพ่ายแพ้ของเขาก็เป็นเรื่องของเวลา”
“ดูเหมือนตํานานไร้พ่ายของมู่หลงชงจะดําเนินต่อไป ภายในหมู่รุ่นเยาว์,อย่างน้อยก็ภายในแคว้นซีเหอ,ไม่มีใครที่ล้มเขาได้ลง แม้กระทั่งภายในอาณาจักรต้าฉินที่ยิ่งใหญ่,เขาก็ติดสามอันดับแรก”
สถานการณ์บนลานประลองชัดเจนยิ่ง มู่หลงข่ง,ผู้ที่เผยสภาวะแห่งเมฆาของเขาออกมาได้ พลิกสถานการณ์กลับโดยสิ้นเชิง,ขยัดข้อได้เปรียบที่เซียวเฉินได้สร้างขึ้น
เซี่ยวเฉินทําได้เพียงป้องกันอย่างกล้ํากลืนฝูง เห็นเห็นพ้องกันว่าเมื่อสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์,เขาจะต้องพ่ายแพ้
ความเศร้าหมองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิวหลู่เยว่ นางไม่ได้กังวลอีกต่อไปแล้วว่าเซี่ยวเฉินจะสามารถชนะและปกป้องยอดเขาฉิงหยุนเอาไว้ได้หรือไม่ นางเพียงหวังว่าเซียวเฉินจะรอดชีวิต
นอกจากนั้น,นางยังหวังให้เซียวเฉินจะไม่สูญเสียจิตวิญญาณในฐานะผู้บ่มเพาะพลังเพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ โดยเฉพาะจิตวิญญาณแห่งมือกระบี่ นางเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากที่สุด
แม้ว่าการต่อสู้จะเป็นแบบนี้, จิตใจของเซี่ยวเฉินก็ยังคงนิ่งสงบ มันเหมือนกับมีความรู้สึกมหัศจรรย์ปรากฏขึ้นในใจของเขา ไม่ว่าจะเป็นการโต้เถียงโดยรอบหรือคําพูดของมู่หลงชงก็ไม่ส่งผลกับเขาแม้แต่น้อย
จิตใจของเซียวเฉินเปิดโล่ง;เขาครุ่นคิดไม่หยุด ถึงวิธีที่จะหลุดไปจากสถานการณ์ตรงหน้า
เหตุที่เซียวเฉินไม่อาจตอบโต้เป็นเพราะสภาวะแห่งสายฟ้าของเขาถูกระงับ นี่เป็นครั้งอรกที่เขาเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้
แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะรู้ว่าสภาวะนั้นเป็นสิ่งสําคัญยิ่ง แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะสําคัญถึงเพียงนี้ หรูขุยสะเทือนสวรรค์ได้พ่ายแพ้ให้กับพายุหมุนสีม่วงของคู่ต่อสู้ในตอนที่มันสูญเสียการสนับสนุนจากสภาวะที่แข็งแกร่ง
ในขณะนี้ แม้ว่าเขาจะใช้ออกกระบวณท่าปลดชีพของทักษะกระบหวาขุย,เขาก็ไม่สามารถเรียกพลังที่เขาคาดเอาไว้ออกมาได้ มันเป็นการยากที่จะดําเนินไปโดยปราศจากการสนับสนุนจากสภาวะ
ในเจ็ดวันที่ผ่านมา,เขาให้ความสําคัญผิดจุด เขาไม่ควรใช้เวลาไปกับการฝึกฝนทักษะต่อสู้ใหม่มากเกินไป กลับกัน,เขาควรจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสภาวะของเขา
สภาวะของเซี่ยวเฉินแท้จริงแล้วยังไม่ได้แข็งแกร่งมาก มันเป็นเพราะทักษะบ่มเพาะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์;สภาวะของเขาจึงจึงบริสุทธิ์มากกว่าผู้บ่มเพาะพลังคนอื่น สภาวะระดับสมบูรณ์ขั้นต้นถึงได้เทียบเท่ากับสภาวะระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมของคู่ต่อสู้
นับตั้งแต่ที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น,เขาสามารถยืนหยัดเผชิญหน้ากับมู่หลงชง,ผู้ที่ระดับขอบเขตพลังสูงกว่าเขาและไม่ได้เสียเปรียบอะไรก็เพราะด้วยเหตุนี้
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังไม่ได้สายไปสําหรับเซี่ยวเฉิน แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ในวันนี้ เขาก็ได้เรียนรู้อะไรไปมาก การฝึกฝนของเขาในอนาคตจะกลายเป็นชัดเจนยิ่งขึ้น
“ปัง! ปัง!”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังไตร่ตรอง,มือของเขาก็ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหว เขาขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปและพยายามอย่างที่สุดจับภาพร่างที่ลื่นไหลของมู่หลงชง,ปิดกั้นกระบวณท่าหมดที่ส่งมาทางเขา
สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า,การปราบปรามสภาวะแห่งสายฟ้าของเซี่ยวเฉินมาถึงขั้นสุดท้าย มีเมฆาอัสนีเพียงเล็กน้อยที่ดิ้นรนต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อคงอยู่ต่อไป เมฆสีขาว,ที่ถูกรวมเข้ากับสภาวะแห่งสายลมและเมฆา,เข้าปกคลุมล้อมรอบ
เมฆสีขาวปั่นป่วนไร้ขอบเขต,เร่งกระแสพลังของมู่หลงชงจนถึงขีดสุด ในตอนที่เขาเห็นเซียวเฉินถอยหลังไปติดมุม,เขากล่าวอย่างไม่แยแส “มันจบแล้ว! สามรูปเมฆาวายุ,ขับเมฆาล่าอัสนี!”
มู่หลงชงร้องตะโกน,และพายุหมุนสีม่วงอันน่าหวาดกลัวเปลี่ยนกลายเป็นมังกรหลากตัวยาวกว่าร้อยเมตร สามารมองเห็นเกล็ดที่ร้อยเรียงไปบนร่างของมังกรราวกับว่ามันเป็นของจริง
มีก้อนเมฆรอบไหวอยู่รอบๆตัวของมังกร พร้อมกับเสียง ชั่วะ มันบินออกมาจากหมู่เมฆและพ่นควันสีเขียวออกมาขณะมุ่งหน้าเข้าหาเซี่ยวเฉิน
ความเร็วของมังกรหลากได้เคลื่อนผ่านกําแพงเสียง มันใกล้เคียงกับสองเท่าของความเร็วเสียง ไม่มีเวลาให้เซียวเฉินครุ่นคิดมันได้มาถึงตรงหน้าของเขาแล้ว
เมื่อฝูงชนเห็นมังกรหลากคํารามพุ่งเข้าใส่เซียวเฉิน,ทุกคนสูดหายใจเข้าลึก หลิวหรูเยว่อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นจากที่นั่งของนาง ปากของนางอ้าออกมาเล็กน้อยราวกับนางกําลังจะกล่าวอะไรบางอย่าง
“ปัง!ปัง!”
ในทันทีที่มังกรหลากกลืนร่างของเซียวเฉิน, เกิดเป็นเสียงระเบิดรุนแรง มังกรฟ้าว่ายวนรอบแขนขวาของเซี่ยวเฉิน
แม้ว่ามังกรฟ้าจะตัวน้อย,มันก็เป็นสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์โบราณ;มันคือของจริง
มันจะเทียบกับมังกรของจริงได้อย่างไร? มังกรฟ้าระเบิดมันออกเป็นชิ้นๆ และมันเปลี่ยนกลายเป็นคลื่นกระแทกขยายออกไปทั่วทิศทาง
มังกรฟ้าที่ได้ทําลายขับเมฆาล่าอัสนียังคงไม่ได้ใช้พลังงานทั้งหมดของมัน มันปล่อยเสียงคํารามอันเกรียงไกรออกมา อํานาจของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ึกก้องไปทั่วสนามประลอง
ผู้บ่มเพาะพลังทั้งหมดบนอัฒจันทร์รู้สึกหวาดกลัวขึ้นจับใจของพวกเขา มังกรคํารามนี้มีอํานาจศักดิ์สิทธิ์
มู่หลงชงคิ้วขมวดและรวบรวมกําแพงลมขึ้นป้องกันตรงหน้าของเขา เขาหมายจะป้องกันการโจมตีนี้เอาไว้
มีจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าซ่อนเร้นอยู่ในจุดปราณทั่วร่างของเขามากกว่าสามร้อย นี่เป็นไพ่ตายที่แท้จริงของเซียวเฉิน อย่างไรก็ตาม,นอกเสียจากเขาจะไม่มีทางเลือก,เขาจะไม่ใช้ไพ่ตายใบนี้
จิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าเป็นสิ่งที่ได้สูญหายไปนับพันปี หากสถานะผู้สืบทอดจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าของเขาเผยออกไป,เขาอาจจะดึงความสนใจเข้ามาโดยไม่จําเป็น
อย่างไรก็ตาม,กระบวณท่าของมู่หลงชงมันเกินจะคาดเดา เซียวเฉิน,ผู้ที่สภาวะของเขาถูกระงับ,ไม่มีทางอื่นที่จะป้องกันหรือหลบเลี่ยงมัน ดังนั้น เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเผยไพ่ตายใบนี้ มิฉะนั้น,เขาอาจจะต้องตกตายลงที่นี่
บนท้องฟ้า,เมฆสีขาวที่กําลังปั่นป่วนระงับ สภาวะแห่งสายฟ้าของเซี่ยวเฉินเอาไว้,เริ่มหดตัวลง พลังอันศักดิ์สิทธิ์ของมังกรเสียงคํารามขับสภาวะของมู่หลงชั่งถอยกลับ
“ปัง! ปัง! ปัง!”
มังกรฟ้าทะลวงผ่านกําแพงลมและส่งเสียงลมเสียดแหลมออกมา เมื่อมู่หลงชงเห็นว่ากําแพงลมไม่สามารถป้องกันมังกรฟ้าได้,เขาก็ถอยกลับอย่างเฉียบขาด
ร่างที่ลื่นไหลวูบไหวไปในอากาศ ทุกก้าวที่มู่หลงชงย่าง,เขาวางกําแพงลมขึ้น มังกรฟ้าก็ทะลวงผ่านตามหลังเขามาอย่างใกล้ชิด,ราวกับว่ามันมีชีวิต
หลังจากที่ขับไล่ไปเป็นระยะกว่าหนึ่งพันเมตร,เป็นเพราะพลังงานของมันหมด มันก็จางหายไปในอากาศ
มังกรฟ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง! เกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้ว่าจิตวิญญาณยุทธของเขาถูกสืบทอดมาจากสมัยโบราณ? หลังจากที่มู่หลงชั่ง เหรียบถึงพื้น,เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตาม จิตใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย
“ยิ้ม…!”
ในจังหวะนั้นเอง,เสียงฟ้าคํารามที่หยุดลงไปได้ส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง สภาวะแห่งสายฟ้าของเซี่ยวเฉินเร่งขึ้นกลับมาสูงสุด
สีหน้าของมู่หลงชงเปลี่ยนเมื่อเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ท้องฟ้า,ที่เดิมที่ปกคลุมไปด้วยเมฆสีขาวมีเพียงชิ้นเมฆสีดําหลงเหลืออยู่ประปราย,ตอนนี้กลับมาปกคลุมไปด้วยเมฆสีดําทมิฬ
มันเป็นเวลาสําหรับกระบวณท่าตัดสิน เซี่ยวเฉินไม่ต้องการให้คู่ต่อสู้ของเขามีโอกาสกดดันสภาวะของเขาอีกครั้ง
“หรูขุยทะลวงสวรรค์!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกน,และเสียงสายฟ้าคํารามดังบนท้องฟ้า ต้นหรูขุยศักดิ์สิทธิ์เหนือหัวของเขาเติบโตรวดเร็วราวกับสายฟ้าแผดสาย
ทันทีที่ต้นหวี่ขยเติบโตเต็มที่สมบูรณ์,กระบี่แสงรุ่งโรจน์จุดขึ้นที่คมกระบี่ ราวกับว่ามันกําลังจะทลายสวรรค์สลายปฐพี
บัดซบ! ใบหน้าของมู่หลงชงกลายเป็นมืดมัว เขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะพลิกสถานการณ์กลับตาลปัตร
อย่างไรก็ตาม ไม่มีเวลาให้มู่หลงชงได้ใช้ความคิด กระบี่แสงรุ่งโรจน์ที่บรรจุสภาวะแห่งสายฟ้าอันหน้าหวาดกลัวได้พุ่งตรงหามาเขาแล้ว
“สามรูปแบบเมฆาวายุ,เปิดเมฆาเบิกสวรรค์!”
มู่หลงชงร้องตะโกน,และเสื้อผ้าหน้าผมของเขาสั่นไหว สายลมรุนแรงพัดผ่านรอบตัวของเขา,และเมฆสีขาวบนท้องฟ้าแตกตัว
กระบี่แสงรุ่งโรจน์จุดขึ้นบนคมกระบี่ของมู่หลงชงเช่นกัน มันบรรจุสภาวะแห่งเมฆาวายุพร้อมกับมันมุ่งหน้าไปยังหวี่ขุยทะลวงสวรรค์ของเซียวเฉิน
สองกระบี่แสง,หนึ่งสีขาวหนึ่งสีม่วง,ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกมันก็ปะทะเข้าใส่กัน
“ปัง!”
ในตอนที่พวกมันเข้าปะทะกัน,วังวนโกลาหล ขนาดมหึมาก่อตัวขึ้น มันระเบิดเกิดเป็นหลุมไร้ก้นลงไปในพื้นดิน
ฝุ่นดินหินทรายจํานวนมหาศาลพุ่งออกจากรูบนพื้นขึ้นไปบนท้องฟ้า คลื่นกระแทกขยายออกไปทั่วทุกทิศทาง มันระเบิดฝุ่นดินทุกอย่างออกไปจากลานประลอง