Immortal and Martial Dual Cultivation - ตอนที่ 287 บุปผาสกัดเอ็น
ตอนที่ 287 บุปผาสกัดเอ็น
โจรชุดขาวควบม้าและวิ่งเข้าใในระยะสิบเมตรของเซียวเฉิน เขากล่าวด้วยเสียงชั่วร้าย “ไม่ว่าเจ้าจะจะฉวยเอาบุปผาสกัดเอ็นของข้าไปหรือไม่ ส่งแหวนมิติของเจ้ามาซะ มิฉะนั้น อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
เซี่ยวเฉินเผยรอยยิ้มขึ้นบางเบาและกล่าวด้วยเสียงนุ่มลึก “หากเจ้ามีฝีมือ,เช่นนั้นก็เข้ามาเอา!”
“ช่างกล้า” โจรชุดขาวดีดตัวลงจากหลังม้า เขาพุ่งเข้าหาเซียวเฉินในทันที
เจตนาฆ่าฟันของโจรผู้นั้นผสานเข้ากับกระแสพลังอันชั่วร้าย มันราวกับดาบแหลมคมที่แทงเข้าไปในจิตใจของเซียวเฉิน โจรชุดขาวผู้นั้นรู้ถึงวิธีการจู่โจมจิตใจ
น่าเสียดายสําหรับเขา,จิตใจของเซี่ยวเฉินแข็งแกร่งยิ่ง การจู่โจมจิตใจระดับนี้ไร้ความหมาย
เล่นงานจิตใจ? เช่นนั้นข้าจะเล่นกับเจ้าเอง มุมปากของเซียวเฉินยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา,และ สัมผัสวิญญาณมหาศาลของเขากเปลี่ยนกลายเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ที่กวัดแกว่งดาบแหลมคมเล่มนั้น
มันซัดดาบลอยบินผ่านไปและพุ่งเข้าไปหาโจรขัดขาว ทันใดนั้น, โจรชุดขาวรู้สึกว่าทุกอย่างตรงหน้าของเขาลบหายไป
โจรผู้นั้นรู้สึกเหมือนเขาอยู่ในดินแดนร้างกว้างใหญ่ มีร่างศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่เหนือท้องฟ้าและมองลงมาที่เขาอย่างโหดเหี้ยม มันร้องออกมาด้วยเสียงสวรรค์ “ยังไม่คุกเข่าลงต่อหลังจากพบร่างเทพ?!”
TLรูปร่างมันเป็นยังไงไม่รู้นะครับ ไม่มีอธิบาย
โจรชัดขาวตื่นตกใจและนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นภาพลวง เขากัดลิ้นตัวเองอย่างแรง ความเจ็บปวดปลุกเขาตื่นขึ้นมา
ร่างเทพนี้คือการเลียนแบบรอยประทับที่มหาปราชญ์ทิ้งเอาไว้ในเรือสงครามสีเงิน นี่เป็นเพียงกระบวณท่าทั่วไปของเซียวเฉิน มันใช้งานในการต่อสู้ได้มากนักเพราะมันสามารถดึงดูดคู่ต่อสู้ในระดับขอบเขตพลังเดียวกันได้เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แต่พริบตาก็เพียงพอแล้ว ในขณะที่โจรชุดขาวตื่นขึ้น,เขาพบว่าลูกเตะของเซียวเฉินลอยมาตรึงจังหวะแล้ว
“ปัง!”
โจรชุดขาวไม่อาจตอบสนองได้ทัน,เขาทําได้เพียงรับลูกเตะขณะที่โจรคนอื่นจ้องมองด้วยสายตาโง่งม
ในตอนที่เซียวเฉินลงถึงพื้น,เขาเหยียบลงบนหลังม้าเบาๆ ม้าตัวนั้นรู้สึกได้ถึงหลังมหาศาลกดลงมาและไม่อาจที่จะลุกขึ้นยืนได้
หมู่เมฆเริ่มรวมตัวขึ้นบนท้องฟ้า,ขณะที่สายฟ้าผ่าความมืดมิดลงมาเรืองแสงรุ่งโรจน์
ท่ามกลางเรืองแสง,เซียวเฉินดีดเท้าส่งตัวกระโดดขึ้นไปในอากาศ เขารวบรวมพลังความเร็วอย่างต่อเนื่องขณะที่เคลื่อนตัวไป ทันใดนั้น,วังวนกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
กองทัพหมื่นม้าพันคนทะลวงออกมาจากวังวน เสียงประจุไฟฟ้าดังสนั่นหู,ก้องสะท้อนไปไกลกว่ารัศมีสิบกิโลเมตร
“นั้นมันเขา,เขาคือปีศาจสายฟ้าสีม่วง! หนีเร็ว,หนี!” ทันใดนั้น,โจรคนหนึ่งร้องตะโกนออกมาอย่างหวาดกลัว จากนั้น,สองกว่าสองร้อยชีวิตดึงบังเหียนม้าของเขาและควบหนีสุดชีวิต
อย่างไรก็ตาม,ม้าที่พวกเขาไม่อาจควบคุมได้พวกมันแตกตื่นหวาดกลัว กลุ่มโจรทิ้งม้าของพวกเขาและวิ่งเท้าหนีไป ไม่ว่าโจรชุดขาวจะร้องเรียกเท่าไหร,พวกเขาก็ไม่หยุด
โจรชุดขาวเห็นกองกําลังของเขาแตกหายไป,แม้แต่สมาชิกแก่นกลางระดับขอบเขตนักบุญก็หนีหาย เขาถอนหายใจให้กับฉากตรงหน้า จากนั้น,เขาก็หันหลังเตรียมตัวหนีเช่นกัน
“สายฟ้าฉับพลันคําราม,กองทัพหมื่นอาชา!” เซี่ยวเฉินชี้ปลายดาบลงไปและนักรบบนหลังม้านับไม่ถ้วนทะลวงออกจากวังวนเห็นลงไปที่พื้น และเริ่มการไล่ล่ากลุ่มโจรที่กําลังหลบหนี
“ปัง! ปัง! ปัง!”
เกิดเสียงระเบิดที่ร้อยเรียงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีโอกาสหนีรอดสําหรับโจรกว่าสองยอคน,พวกเขาทั้งหมดถูกซัดระเบิด
โจรที่พลังอ่อนแอหน่อยถูกระเบิดกลายเป็นชิ้น และตกตายลงคาที่
มีเพียงระดับขอบเขตนักบุญที่รอดชีวิต สีผิวของพวกเขาซีดขาวและพวกเขากระอักเลือดออกมา พวกเขารีบหนีไปไกลโดยที่ไม่หันหลังกลับมามอง
เซียวเฉินส่ายหัวเล็กน้อย,พลังของมันยังไม่เพียงพอ ยังมีส่วนที่ต้องปรับปรุงในการรวบรวมพลัง ข้าต้องคิดหาทางที่จะเร่งพลังได้ถึงขีดสุดในเวลาอันสั้น
เซียวเฉินถอนสายตาของเขากลับมาและเมินเฉยพวกโจรที่กําลังหนีไป จากนั้นเขาก็จดจ่อไปที่โจรชุดขาว
ภายใต้การควบคุมของเซี่ยวเฉิน,นักรบสายฟ้า อย่างน้อยหนึ่งพันคนไล่ตามโจรชุดขาวไป แม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีความแข็งแกร่งอยู่บาง,แต่ไม่เพียงพอที่จะเป็นภัยกับเซียวเฉิน
“อัสนีหลบเลี่ยง!”
แสงสายฟ้าวูบไหวและเซียวเฉินมาถึงตรงหน้าของโจรผู้นั้น จากนั้น,เขาคืนคําพูดของโจรชุดขาวกลับไป “ไม่ว่าเจ้าจะมีเหตุผลอะไรทั้งหมดที่ข้าต้องการก็คือแหวนมิติที่นิ้วของเจ้า มิฉะนั้น,อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
ความกระเสือกกระสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโจรชุดขาวก่อนที่เขาจะปลดแหวนของเขาส่งให้กับเซียวเฉิน เขากล่าวด้วยเสียงเย็น “อย่าได้ดูถูกทุ่งหญ้ามารอสูรนัก ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะให้เจ้าเดินไปมาได้ตามใจ”
เซี่ยวเฉินยิ้มบางเบาก่อนที่จะเมินเขาไป เขาก็ไม่ได้เย่อหยิ่งพอที่จะคิดว่าเขาจะเดินไปมาในทุ่งหญ้ามารอสูรได้ตามใจ
ทุ่งหญ้ามารอสูรกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต เพียงชายขอบของทุ่งหญ้าก็เทียบเท่าได้กับครึ่งหนึ่งของแคว้นซีเหอ นอกจากนั้น มันเป็นเพียงสถานที่หนึ่งที่อยู่ในอาณาจักรต้าฉิน
พื้นที่ที่ขยายออกไปกว่าใหญ่ยิ่งกว่านี้ มันอาจกล่าวได้ว่าทุ่งหญ้ามารอสูรที่เห็นมานั้นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ําแข็ง
พื้นที่ที่กว้างไกล,กองโจรน้อยใหญ่นับไม่ถ้วน เซียวเฉินระมัดระวังตัว หากเขาพบกลุ่มโจรใหญ่ด้วยสัมผัสวิญญาณของเขา,เขาจะหลบเลี่ยงโดยทันที เขาจะไม่เคลื่อนไหวใดๆกับพวกมัน
หลังจากที่กองโจรจากไป,เซียวเฉินก็มองหาทิศของศาลากระปสวรรค์และเตรียมตัวเดินทางต่อตลอดทั้งคืน มีอะไรเกิดขึ้นมากในคืนนี้ เขาเกรงว่ามันจะไปกระตุ้นกองโจรที่แข็งแกร่งเข้า มันจะปลอดภัยกว่าที่จะเดินทางในตอนกลางคืน
ที่ตําแหน่งที่บุปผาสกัดเอ็นเติบโตขึ้นมาในทุ่งหญ้ามารอสูร มู่หลงชงมองไปตรงพื้นดินที่ว่างเปล่า เขาคิดเมื่อเขาเห็นซากศพของสัตว์อสูรวิญญาณที่เฝ้าบุปผาสกัดเอ็น
“ฟุ ฟิว!”
สายลมน้อยพัดผ่านที่ด้านหลังของมู่หลงชั่ง,เขาเพียงมองผ่านคราวๆและหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว บุคคลลึกลับในชุดขาวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเขา คนผู้นี้สวมหน้ากากสีขาว
บุคคลชุดขาวลึกลับกล่าวด้วยน้ําเสียงแหบแห้ง “มู่หลงชง,ดูเหมือนเจ้าจะได้ลืมข้อตกลงที่เจ้าห้ามกลับมาเหยียบทุ่งหญ้ามารอสูรอีกครั้ง”
มู่หลงชงกล่าวน้ําเสียงมืดมัว “ข้ามาเพื่อตามหาบุปผาสกัดเอ็นเท่านั้น ข้าไม่มีเหตุอื่นใด นอกจากข้า,มีเพียงเจ้าและคนของเจ้าเท่านั้นที่รู้ถึงเรื่องนี้ ข้ายินดีแลกเปลี่ยนกับหนึ่งล้านหินวิญญาณระดับต่ํา”
บุคคลลึกลับชุดขาวกล่าว “แม้ว่าเจ้าจะเสนอมาถึงสิบล้าน,มันก็เปล่าประโยชน์ มีบางคนเอามันไปเมื่อวันก่อน”
มู่หลงชงสีหน้าเปลี่ยนพร้อมกับปลดปล่อยฉีฆ่าฟันดุร้ายออกมา เจตนาฆ่าฟันเผยออกมาบนใบหน้าของเขาพร้อมกับถามขึ้น “ใคร!”
“เหมือนกับเจ้า,สานุศิษย์ยอดเขาจึงหยุนเดียว,ข้าลืมไป,เจ้าไม่ได้เป็นสานุศิษย์ยอดเขาฉิงหยุนอีกต่อไปแล้ว” บุคคลชุดขาวกล่าว
ฉีฆ่าฟันของมู่หลงชงจางหายไปอย่างรวดเร็ว;เขายอดเยี่ยมในการควบคุมเป็นอย่างมาก เขาครุ่นคิดไตร่ตรองพร้อมกับกล่าว “ในเมื่อเขาเป็นคนเอาไป มันก็ผลเหมือนกัน ข้าขอตัวก่อน”
บุคคลชุดขาวทันใดนั้นก็เคลื่อนไหว ภายในพริบตาเขาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของมู่หลงชง และส่งฝ่ามือจู่โจม
มู่หลงชงรีบหันกลับและซัดฝ่ามือตอบโต้ พลังมหาศาลทําให้มู่หลงชงถอยหลังไปสิบก้าว ใบหน้าของเขาซีดเซียวเล็กน้อยและเลือดหยดออกมาจากมุมปากของเขา
บุคคลชุดขาวเคลื่อนถอยหลังเล็กน้อย มีความตกตะลึงเล็กน้อยบนใบหน้าของเขาเขากล่าว “ฝ่ามือนี้เป็นราคาสําหรับการฉีกข้อตกลง ข้อตกลงเป็นข้อตกลงก็เพราะมันไม่อาจทําลายลงได้โดยไม่มีเหตุผล
มู่หลงชงเหลียวมองไปที่บุคคลชุดขาวและยืนนิ่งเงียบ จากนั้นเขาก็หายไปจากทุ่งหญ้ามารอสูรอันกว้างใหญ่
“หวี่ขุยแพรวพราว!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกนออกมาและตัวกระบี่กระพริบไหว เส้นกระบี่ฉีที่กลายมาจากกิ่งหวี่ขุยลอยออกไปที่กลุ่มโจร
สายเลือดสาดกระเซ็นและมีเสียงร้องน่าสังเวชดังขึ้น กระบี่ฉีสีม่วงกดข่มเป็นอย่างมาก โจรหลายสิบคนร่วงลงจากหลังม้า
“หวี่ขุยแปลงรูปฉี!”
ต้นหวี่ขยศักดิ์สิทธิ์โบราณปรากฏขึ้นและในไม่ช้ามันก็เปลี่ยนกลายเป็นเส้นกระบี่ฉีเติมเต็มไปในอากาศ กระบี่ฉีเหล่านั้นบินไปทุกที่และผ่าโจรกลุ่มใหญ่ตัวขาดครึ่งตรงเอว
“ทะลวงฉีหรูขุย!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกนและกระบี่ฉีทั้งหมดที่กําลังบินอยู่ในอากาสเข้ามารวมกันที่กระบี่ของเขา จากนั้น มันกลายเป็นกระบี่ฉีที่ควบแน่นจนถึงขีดสุด หัวหน้ากองโจรไม่อาจหลบได้ทันและกระบี่ฉีกลุ่มนี้ก็ทะลวงผ่านหน้าอกของเขา
เมื่อหัวหน้าโจรตาย,กลุ่มโจรทั้งหมดต่างแตกหนีกันอย่างอลหม่าน,วิ่งหนีไปทั่วทุกทิศทาง
เซียวเฉินเมินเฉยพวกมัน หลังจากที่ปลดแหวนมิติมาจากหัวหน้าโจร,เขาก็รีบจากไปในทันที
เซี่ยวเฉินเดินทางไปอย่างไม่เป็นกังวลบนทุ่งหญ้ามารอสูร เขาใช้การเดินทางครั้งนี้เป็นการฝึกฝน
เซียวเฉินสังหารสัตว์อสูรวิญญาณไปหลายตัว,ถล่มกองโจรอีกหลายกลุ่มไปในวันนี้ จากนั้น เขาก็ใช้หินวิญญาณระดับกลางบ่มเพาะพลังในตอนกลางคืน หลังจากที่เสี่ยวไปกลับมาจากการรวบรวมสมุนไพร,เซียวเฉินจะสกัดเม็ดยาต่อ
ความแข็งแกร่งของเซียวเฉินพัฒนาขึ้นในทุกวัน แต่อย่างไรก็ตาม,ในเช้าของวันนี้ เซียวเฉินทันใดนั้นก็รู้สึกใจไม่ดี
เซี่ยวเฉินรู้สึกเช่นนี้มาสองสามวันแล้ว อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้รุนแรงอะไรเขาจึงเพิกเฉยมันไป เพียงแต่ตอนที่เขาเข้าใกล้ศาลากระบี่สวรรค์ ความรู้สึกมันยิ่งรุนแรงขึ้น
เป็นความรู้สึกที่ไม่อาจเพิกเฉยได้อีกต่อไป หรือจะมีอะไรบ้างอย่างเกิดขึ้นที่ศาลากระบี่สวรรค์? เซียวเฉินมองไปในทิศทางของศาลากระบี่สวรรค์และรู้สึกเป็นลางไม่ดี
“ต้องรีบกลับไปให้เร็วที่สุด,ข้าไม่อาจชักช้าต่อไปได้อีกแล้ว มิฉะนั้น,ข้าจะรู้สึกไม่ดีในใจต่อไป โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” เซียวเฉินพึมพํากับตัวเอง
เซียวเฉินใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานและเปลี่ยนกลายเป็นเงาสีม่วง เขาเริ่มกระโดดไปเรื่อยในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่
เซียวเฉินเมินเฉยสัตว์อสูรวิญญาณที่แข็งแกร่ง และกองโจรทั้งหมดที่เขาพบตลอดทางเขาเพียงหลบเลี่ยงไปทั้งหมด
สองวันต่อมา,เซี่ยวเฉินก็มาถึงครึ่งทางของทุ่งหญ้ามารอสูร เขาจะถึงศาลากระบี่สวรรค์ในอีกห้าวัน
ขณะที่เขากําลังเตรียมตัวจะพักผ่อน เขาพบเห็นกลุ่มคนที่เปลือยท่อนบนและใส่เพียงกางเกงขาสั้น
เซี่ยวเฉินนั่งลงกับพื้นและยกน้ําขึ้นมาดื่ม,และยิ้มบางเบา “ข้าสงสัยนักว่าเป็นกองโจรใดที่ไปเจอเข้ากับจินต้าเป่า”
กลุ่มของเจ้าหมูจินและเซียวเฉินมีคติต่างกัน,พวกเขาเพียงปล้นความมั่งคั่งแต่ไม่เอาชีวิต อย่างไรก็ตาม,กองโจรที่ไปเจอเข้ากับเจ้าหมูมีสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
ความขี้เหนียวของเจ้าหมอนี้ไปตกอยู่กับพวกกองโจร นอกเสียจากกางเกงขาสั้นที่ใส่อยู่, โจรเหล่านั้นไม่เหลือสิ่งใดอื่นติดตัว
เป็นความอัปยศที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย นี่เป็นสิ่งที่มีแต่จินต้าเป่าเท่านั้นที่จะทําได้
ทันใดนั้น เซี่ยวเฉินได้ยินเสียงคุ้นเคยดังมาตามสายลม เซียวเฉินคิ้วขมวดเล็กน้อยและยืนขึ้นอย่างงุนงง มันราวกับว่าเขาได้ยินเสียงของจินต้าเป่า
เมื่อเซี่ยวเฉินมองไกลออกไป ใบหน้าที่เขาเห็นนั้นเป็นของคนคุ้มกันของจินต้าเป่า
เซี่ยวเฉินเก็บขวดน้ําและกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ผ่านไปครู่หนึ่ง,เขาเห็นร่างตรงหน้าได้อย่างชัดเจน สิ่งที่เห็นทําให้เขาต้องผงะ