หัวหน้าหน่วยรบทุกคนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งล้วนมีแผนที่กระดาษซึ่งเป็นแผนที่ใหญ่ที่เกือบจะสมบูรณ์ 90% แบบนี้อยู่ในมือ ไม่เพียงหลิงหลานที่สังเกตเห็นพื้นที่ที่พวกเขาอยู่ ห หัวหน้าหน่วยรบเหล่านี้ก็สังเกตเห็นเช่นกัน ควรพูดว่าผู้ควบคุมหุ่นรบของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งต่างก็เป็นกลุ่มที่โดดเด่นที่สุดของกลุ่มหุ่นรบต่างๆ ผ่านไปไม่นาน ทุกคนก็รวมทีม มกันครบทั้งหมด ไม่มีขาดเลยสักคนเดียว
หัวหน้าหน่วยรบหลายคนรวมกลุ่มอยู่ข้างกายหลิงหลาน ขณะที่ค้นหาสมาชิกที่ตกหล่น พวกเขาก็หารือกันเรื่องปฏิบัติการขั้นต่อไป โดยที่คิดว่าไปตามเขตทะเลหยาง ตามหาฐานที่มั่นของพว วกเขาโดยเร็วที่สุด ทำภารกิจที่ตัดสินเงื่อนไขว่าท้ายที่สุดพวกเขาสามารถเข้าร่วมการต่อสู้ประจัญบานได้หรือเปล่านี้ให้สำเร็จก่อน
หลิงหลานไม่มีความเห็นคัดค้านเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่สมาชิกคนสุดท้ายหาเจอและกลับมารวมกลุ่มได้ หลิงหลานก็ออกคำสั่งให้บินไปทางเขตทะเลหยาง
โรงเรียนอื่นเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอย่างเงียบเชียบมาโดยตลอด เมื่อพวกเขาเห็นทิศทางที่โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งเลือกตรงกับที่พวกเขาตัดสินใจก็ไม่ได้ลังเ เลอีกต่อไป บินไปทางเขตทะเลหยางอย่างเต็มกำลังรวดเดียวก็แซงหน้าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งที่เคลื่อนไหวก่อนในตอนแรกโดยที่บินแบบรักษาความเร็วต่ำมาตลอด
การเคลื่อนไหวนี้เป็นการยั่วยุในสายตาของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง บรรดาสมาชิกที่โมโหเลยกำลังคิดจะเร่งความเร็ว ขณะที่เตรียมตัวนำอีกฝ่ายคืนนั้น หลิงหลานที่จ้องมองข้างหน้ามาตลอ อดก็เห็นว่า เขตทะเลที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นสงบเงียบในสายตาเธอนี้ดูบิดเบี้ยวอย่างน่าประหลาด
มีปัญหา! หลิงหลานสัมผัสได้ถึงความผิดปกติก็รีบสั่งการทันทีว่า “หยุดบิน!”
คำสั่งของหลิงหลานทำให้ทุกคนหยุดเครื่องยนต์ไอพ่นหุ่นรบและลอยอยู่กลางอากาศ หน่วยหุ่นรบของโรงเรียนอื่นที่เดิมทียังอยู่ในสายตาหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตาเนื่องจากพวก กเขาหยุดฝีเท้าลง
“เชี่ย พวกนั้นเร็วขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย?” พอเห็นคู่แข่งจากโรงเรียนอื่นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย สมาชิกจำนวนมากที่มีจิตวิญญาณต่อสู้เข้มข้นก็หงุดหงิดใจมากทันที และไม่พอใจต่อคำ ำสั่งที่ไม่มีเหตุผลของหลิงหลานนิดหน่อย
เฉียวถิงที่จอดหุ่นรบของตัวเองลอยนิ่งอยู่กลางอากาศขมวดคิ้วมองไปที่หลิงหลาน เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหลิงหลานถึงเรียกให้หยุดโดยไม่มีเหตุผล เขาเอ่ยถามโดยที่แฝงความเ เยาะหยันว่า “หัวหน้ากลุ่มหลิง มีปัญหาหรือเปล่า?”
“อื้อ มีปัญหานิดหน่อยจริงๆ” ไม่นึกเลยว่าคำถามของเขาจะได้รับการยืนยันจากหลิงหลาน นี่ทำให้เฉียวถิงตกใจ “ปัญหาอะไร?”
“รอเดี๋ยวนะ ให้ฉันศึกษาดูสักหน่อย” หลิงหลานตอบ
หลิงหลานเบิกตาโตจ้องมองเขตทะเลที่สงบนิ่งกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา พยายามค้นหาสาเหตุที่ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความผิดปกติเมื่อสักครู่นี้ จ้องเขม็งไปได้ประมาณหนึ่งนาที เขตทะเลหยาง งที่สงบนิ่งยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ราวกับว่าความบิดเบี้ยวที่หลิงหลานเห็นเมื่อสักครู่นั้นเป็นเพียงความเข้าใจผิดของหลิงหลานเท่านั้น เพียงแต่นั่นเป็นความเข้าใจผิดจริงๆ เหรอ อ?
ขณะที่หลิงหลานตกสู่สภาวะอับจนปัญญา ภาพนิ่งของเขตทะเลหยางที่สงบนิ่งราวกับกระจกเบื้องหน้านี้ก็บิดเบี้ยวอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เนื่องจากหลิงหลานให้ความสนใจมาก ก็เลยมองเห็นชัดเจ จนมากกว่าครั้งที่แล้ว—มีปัญหาอย่างที่คิดไว้จริงๆ ด้วย!
แล้วมีปัญหาอะไรกันแน่นะ? หลิงหลานใคร่ครวญในใจอย่างรวดเร็ว เธอไม่ลืมเรียกเสี่ยวซื่อให้มาวิเคราะห์กับเธอด้วย ถึงอย่างไรความสามารถในการคำนวณของเสี่ยวซื่อนั้นค่อนข้างน่าสะพรึ งกลัว ยอดเยี่ยมกว่าเธอร้อยเท่าพันเท่า ไม่จับเขามาทำงานหนักก็เป็นการสิ้นเปลืองแล้ว
“ลูกพี่ เมื่อกี้ฉันเทียบข้อมูลด้านต่างๆ ของเขตทะเลหยางนี้แล้ว พบว่าค่าความชื้นในอากาศเยอะกว่าความชื้นของเขตทะเลที่พวกเราเพิ่งจะร่วงลงมามาก” เสี่ยวซื่อเทียบข้อมูลของทั งสองก่อนจะพบความผิดปกติ
ค่าความชื้น? หลิงหลานอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะตระหนักได้โดยพลัน เธอประคองศีรษะของเสี่ยวซื่อด้วยความดีใจแล้วก็จูบบนหน้าผากของเขาทันที จากนั้นก็เอ่ยว่า “เสี่ยวซื่อ นายเป็นเสี่ ยวซื่อแสนดีของฉันจริงๆ นายหาเจอแล้วว่าปัญหาอยู่ที่ไหน อีกนิดเดียวฉันก็เกือบจะโดนเขตทะเลหยินหยางนี้หลอกแล้ว”
เสี่ยวซื่อโดนหลิงหลานมอบจูบอันร้อนแรงให้อย่างกะทันหันนี้ก็สติพร่าเบลอ ชิปของเขาร้อนจนใกล้จะไหม้ขึ้นมาแล้ว ด้านในฟลัดข้อความแค่ประโยคเดียวเท่านั้นคือ ลูกพี่จูบฉันแล้ว ว! ลูกพี่จูบฉันแล้ว! ห้าคำนี้แผ่ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พริบตาเดียวก็ยึดครองเครื่องประมวลผลทั้งหมด จนแทบจะทำให้เขาเครื่องเสียตรงนี้เลย
ภายในมิติการเรียนรู้ อาจารย์หมายเลขหนึ่งลืมตาขึ้นมาฉับพลัน ดวงหน้าที่แต่เดิมเย็นชาไร้ความรู้สึกเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรก เขายื่นนิ้วมือออกมาวาดบนอากาศ เส้นสีดำสายหนึ่งปรากฏขึ้นต ตรงนั้นอย่างไร้ที่มาที่ไป หมายเลขหนึ่งใช้มือสองข้างแยกออก เบื้องหน้าก็ปรากฏภาพของหลิงหลานในห้วงจิตใจ
หมายเลขหนึ่งยื่นมือเข้าไปคว้าเสี่ยวซื่อที่อยู่ข้างในแล้วดึงมาทันที…เสี่ยวซื่อที่อยู่ในห้วงจิตใจพลันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลิงหลานที่กำลังทุ่มเทความคิดคาดการณ์ไม่ได้สน นใจเรื่องนี้เลย เนื่องจากเสี่ยวซื่อมักจะผีเข้าผีออกในตอนที่เธอไม่ต้องการ บางทีครั้งนี้เขาอาจจะไปเล่นที่ไหนสักแห่งอีกแล้ว
หมายเลขหนึ่งคว้าเสี่ยวซื่อ วินาที่ถัดมาก็มาถึงโลกที่เต็มไปด้วยน้ำค้างแข็งเย็นเฉียบ เสี่ยวซื่อมาถึงที่นี่ก็โดนกระตุ้นด้วยความหนาวเหน็บ ปล่อยไอสีขาวนับไม่ถ้วนออกมาจากทั่วทั้ งร่าง แผ่นชิปที่ตอนแรกร้อนผ่าวจนใกล้จะเครื่องเสียในที่สุดก็ลดอุณหภูมิลงไปทีละน้อย…
เวลานี้เอง ท้องฟ้าของโลกน้ำค้างแข็งพลันแยกออกเป็นแปดช่อง วินาทีต่อมาอาจารย์แปดทั้งมาถึงโลกใบนี้ ถึงแม้ใบหน้าของหมายเลขเก้ายังคงเย็นชา แต่เธอก็เอ่ยถามโดยที่ดวงตาสองข้างย ยากจะปกปิดความเป็นห่วง “ฝ่าบาทซื่อ ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ!”
“ไม่เป็นไร แต่…” หมายเลขหนึ่งขมวดคิ้วมุ่น “เกรงว่าฝ่าบาทซื่อคงไม่เหมาะให้อยู่กับหลิงหลานอีกต่อไปแล้ว”
“เพราะอะไร?” หมายเลขสามเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ
“มนุษย์หุ่นรบที่ทั่วทั้งตัวมีแต่กล้ามเนื้ออย่างนายไม่มีทางเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว” หมายเลขห้ากล่าวอย่างเยาะหยัน
หมายเลขสามไม่ได้โกรธ เขาถามกลับพลางหัวเราะหึๆ ว่า “ฉันไม่เข้าใจ ถ้านายเข้าใจก็อธิบายให้ฉันหน่อยสิ?”
หมายเลขห้าพูดไม่ออกทันที ถึงแม้เขาจะสัมผัสได้รางๆ ถึงสาเหตุบางอย่าง แต่ถ้าจะให้เขาอธิบายให้ชัดเจนจริงๆ ยังคงลำบากอยู่บ้าง
หมายเลขสองกลับเอ่ยพึมพำกับตัวเองอย่างลึกลับอยู่ทางด้านข้างว่า “นี่เป็นอิทธิพลอย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่านี่เกี่ยวข้องกับพลังจิตหรือเปล่า ฉันควรจะศึกษาให้ดีสักหน่อย”
“ดูเหมือนว่าลูกศิษย์ในอนาคตของฉันจะมีศักยภาพสูงมาก ต่อให้ตอนนี้เธอไม่มีความเป็นผู้หญิงเลยสักนิดเดียว แต่ก็ยังทำให้ฝ่าบาทซื่อหัวหมุนด้วยความหลงใหลจนเครื่องเกือบพังแล้ว” หมายเ เลขสี่ยิ้มอย่างมีเสน่ห์
หมายเลขเก้าถลึงตาใส่หมายเลขสี่อย่างไม่สบอารมณ์ “หมายเลขสี่ เธอกำลังพูดไร้สาระอะไร? ฝ่าบาทซื่อเพิ่งจะถึงวัยแรกเกิด จะเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไง”
หมายเลขสี่กลับปิดปากหัวเราะ “ไม่แน่ว่าบางทีฝ่าบาทซื่อของเราอาจจะเป็นพวกบ้ากามโดยกำเนิดก็ได้นะ”
เวลานี้อาจารย์สามท่านหมายเลขหก หมายเลขเจ็ด หมายเลขแปดกลับทำตาเป็นประกาย พวกเขาสบตากันเองแวบหนึ่ง สุดท้ายหมายเลขหกก็เอ่ยปากพูดว่า “ถ้าเกิดฝ่าบาทซื่อไม่เหมาะที่จะติดต่อกับหล ลิงหลาน งั้นจะให้พวกเราสามคนแทนที่ฝ่าบาทซื่อใช่หรือเปล่า? มีแค่พวกเราที่ยังไม่เคยเจอหน้าหลิงหลานนะ”
หมายเลขสี่ได้ยินก็รีบร้อนกล่าวว่า “ฉันเองก็ไม่เคยเจอหลิงหลาน ฉันก็แทนที่ฝ่าบาทซื่อได้เหมือนกัน”
หมายเลขเจ็ดเอ่ยด้วยรอยยิ้มราบเรียบว่า “พวกเราสามคนเชี่ยวชาญกันคนละแขนง สามารถเติมเต็มความต้องการด้านพวกนี้ให้หลิงหลานได้ ที่สำคัญที่สุดคือ พวกเราหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ สามารถ ถแทนที่กันเองได้อย่างอิสระโดยไม่ทำให้หลิงหลานสงสัย หมายเลขสี่ เธอทำเรื่องนี้ไม่ได้หรอกนะ”
หมายเลขสี่หงุดหงิดใจมาก สิ่งที่หมายเลขเจ็ดพูดมาเป็นความจริง พวกเขาออกไปแทนที่เสี่ยวซื่อก็ได้แต่ใช้ระบบวิเคราะห์จัดเก็บภายนอก มีเพียงฝ่าบาทซื่อเท่านั้นถึงจะใช้ของที่เป็นแกนหลั กอย่างแท้จริงได้ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถดำเนินการข้ามระดับได้เลย
“ไม่ ฉันจะอยู่กับลูกพี่!” เสี่ยวซื่อที่ได้สติกลับมาได้ยินพวกอาจารย์หารือกันว่าจะแทนที่เขา เขาก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจทันที
“ฝ่าบาทซื่อ เมื่อสักครู่คุณเกือบจะตายแล้วนะ” อาจารย์หมายเลขหนึ่งเอ่ยอย่างเข้มงวด “ถ้าอุณหภูมิของแผ่นชิปสูงเกินไปก็จะถูกทำลาย ไม่จำเป็นต้องให้ผมพูด คุณก็รู้ว่าจุดจบคืออะไร ร”
เสี่ยวซื่อก้มหน้าลงอย่างละอายใจท่ามกลางสายตาตำหนิของหมายเลขหนึ่ง เขาเอ่ยเสียงค่อยว่า “ฉันแค่ตื่นเต้นนิดหน่อย”
เสี่ยวซื่อไม่รอให้อาจารย์หมายเลขหนึ่งตำหนิต่อก็เงยหน้าเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ต่อไปฉันจะควบคุมตัวเองได้แน่นอน ไม่มีทางทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายอีก เพราะงั้นให้ฉันอยู่กับลูก กพี่เถอะนะ”
สีหน้าของหมายเลขหนึ่งเคร่งขรึมมาก สีหน้าของเสี่ยวซื่อเปลี่ยนจากเต็มไปด้วยความคาดหวังมาเป็นน้ำตานองแล้ว ท่าทางเจ็บปวดใจทำให้หมายเลขเก้าใจอ่อน เธอมองไปที่หมายเลขหนึ่งแล้วกล่ าวว่า “พี่คะ เสียวซื่อรู้จักหนักเบาแล้ว พี่ก็ให้ฝ่าบาทซื่อ ติดตามหลิงหลานเถอะนะ” ความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมสิบกว่าปีของเสี่ยวซื่อกับหลิงหลาน ทำให้เธอแข็งใจแยกพวกเขาอ ออกจากกันไม่ได้
หมายเลขหนึ่งกวาดสายตามองไปที่หมายเลขเก้าฉับพลัน หมายเลขเก้าตื่นตกใจรีบก้มหน้าลงทันที คำเรียกขานเมื่อสักครู่นั้น เธอล่วงเกินแล้ว
หมายเลขห้าเห็นแบบนี้ก็ปวดใจโดยพลัน เขารีบเอ่ยปากว่า “หมายเลขหนึ่ง ที่หมายเลขเก้าว่ามาก็ไม่นับว่าผิดนะ ฝ่าบาทซื่อติดตามหลิงหลานมาสิบกว่าปี ก็วิวัฒนาการจนถึงระดับที่หลาย ร้อยปีถึงจะสามารถวิวัฒนาการได้ ขอเพียงฝ่าบาทซื่อรู้จักหนักเบา ควบคุมตัวเองได้ ข้อดีที่ได้รับจากการติดตามหลิงหลานก็จะเยอะกว่าข้อเสียมากนัก ดูยังไงก็คุ้ม”
เสี่ยวซื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์หมายเลขห้าก็พยักหน้าสุดชีวิต ท่าทางเว้าวอนนั้นทำให้มุมปากของอาจารย์หมายเลขหนึ่งกระตุกขึ้น ฝ่าบาทซื่อที่เดิมทีวิวัฒนาการอย่างฉลาดปราดเปรื่องข ของพวกเขามีพัฒนาการแบบนี้จะดีจริงๆ เหรอ?
“เอาเถอะ จะให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย!” หมายเลขหนึ่งพ่ายแพ้กับความน่ารักของเสี่ยวซื่อก็ตอบกลับด้วยความจนใจ นับตั้งแต่ที่เจอหลิงหลาน เขาก็รู้สึกว่าตัวเองจนปัญญาบ่อยขึ้นเรื่อยๆ …
“ขอบคุณอาจารย์หมายเลขหนึ่ง!” เสี่ยวซื่อกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ วินาทีต่อมา เขาที่กลับมาเป็นปกติแล้วก็กลับไปที่ห้วงจิตใจของหลิงหลาน
“เอ่อ…” หมายเลขหนึ่งเห็นว่าตรงเบื้องหน้าเปลี่ยนเป็นไม่มีคนแล้ว ก็ทอดถอนใจด้วยความเอือมระอาเฮือกหนึ่ง เขายังไม่ได้บอกว่าเจ้าหนูที่อยู่ในห้องมืดเล็กๆ นั่นตื่นแล้ว จะถามว่า าอยากไปดูแลสักหน่อยไหม? อืม ไม่ต้องรีบร้อน ไว้ครั้งหน้าค่อยพูดก็ได้
หมายเลขหนึ่งฉุกใจคิดขึ้นมา แล้วดีดนิ้วทีหนึ่ง เสี่ยวฮัวที่อยู่ในห้องมืดเล็กๆ ก็รู้สึกเวียนหัว กลับสู่การหลับใหลอีกครั้ง เสี่ยวฮัวกรีดร้องอย่างโมโหในใจก่อนที่จะหลับลึกว่า “แม่งเอ๊ย ฉันเพิ่งจะตื่นเองนะ!”
เมื่อเสี่ยวซื่อมาถึงห้วงจิตใจของหลิงหลานก็เห็นหลิงหลานยังคงคาดเดาผลลัพธ์อย่างเงียบเชียบ ทันใดนั้นก็น้ำตานองหน้า
เกือบแล้ว เกือบไปแล้ว เขาเกือบจะแยกจากลูกพี่ตัวเองตลอดกาลแล้ว…เอ้อ ไม่สิ มันเหมือนกับหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าที่มีทางช้างเผือกขวางกั้นจนได้แต่ร้องไห้อย่างพูดไม่ออกให้กัน เอ่อ นี่ก็ไม่ใช่เหมือนกัน เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนี้กับลูกพี่นะ! เสี่ยวซื่อพลันดึงทึ้งเส้นผมของตัวเอง เขาพบว่าปริมาณคำศัพท์ของตัวเองน้อยมาก หาคำพูดที่เหมาะสมมาบรรยาย ยความสิ้นหวังเมื่อสักครู่นี้ของเขาไม่ได้เลย
ช่างมันแล้ว! เสี่ยวซื่อเช็ดน้ำตาตัวเองทันที ก่อนจะกระโจนเข้าไปกอดต้นขาของหลิงหลานไว้ ‘ฮือๆๆ ลูกพี่ ช่วยคุ้มครองด้วย!’
การกระโจนเข้ามาของเสี่ยวซื่อเรียกสติของหลิงหลานกลับมาจากท่ามกลางการครุ่นคิด เมื่อเห็นเสี่ยวซื่อที่แสดงความรักกอดต้นขาของเธอไม่ยอมปล่อย หน้าผากของหลิงหลานพลันขึ้นขีดด ดำหลายเส้น ก่อนจะดีดนิ้วใส่หน้าผากของเสี่ยวซื่อหนึ่งทีโดยไม่ขบคิดเลยสักนิดเดียว “เสี่ยวซื่อ นายแม่งทำบ้าอะไรฮะ?”
MANGA DISCUSSION