“คยออุล เกิดอะไรขึ้นเหรอ? คยออุล?”
เสียงของยอรึมในโทรศัพท์ฟังดูร้อนรน
ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงลังเลอยู่นานโดยไม่ตอบกลับไป
‘ผู้ปกครองเหรอ’
มันเป็นสถานการณ์ที่น่าหงุดหงิด แต่ก็พอเข้าใจได้
ในโลกนี้ ฉันไม่มีบัตรประชาชนหรืออะไรแบบนั้นเลย
ถ้าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากใครสักคนที่มีตัวตนถูกต้อง
ใครสักคนอย่างยอรึม
“เอ่อ… จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรหรอก ฉันแค่จะซื้อช็อกโกแลต แต่พวกเขาบอกว่าต้องพาผู้ปกครองมาด้วย”
“ต้องพาผู้ปกครองมาซื้อช็อกโกแลต… อ๋อ เพราะเธอเป็นแมวใช่ไหม?”
“ใช่”
ฉันมองไปที่แซบยอกซึ่งกำลังงีบอยู่ข้าง ๆ
เวลาเธอหลับ เธอดูเหมือนแมวจริง ๆ จนใครก็อาจเข้าใจผิดได้ง่าย
“เอ่อ คยออุล ขอพี่คุยกับพนักงานหน่อยได้ไหม? ผ่านวิดีโอคอลก็ได้”
“โอเค”
ฉันกดปุ่มวิดีโอคอลแล้วยื่นสมาร์ตโฟนให้พนักงานร้าน
เพราะเคาน์เตอร์สูง ฉันเลยต้องเขย่งปลายเท้าเพื่อส่งโทรศัพท์ให้
เมื่อไหร่ฉันจะโตขึ้นกว่านี้นะ?
ฉันก้มหน้าลงพลางฟังบทสนทนาระหว่างผู้หญิงสองคน
ด้วยหูที่ไวของฉัน ฉันจึงได้ยินเสียงของยอรึมผ่านสมาร์ตโฟนอย่างชัดเจน
“อ๊ะ…!”
พนักงานร้านรีบยืนตัวตรงเมื่อเห็นยอรึมปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน
เห็นแบบนี้แล้ว ยอรึมดูเหมือนคนดังจริง ๆ
“นี่เป็นเรื่องของเด็ก ๆ กับช็อกโกแลตใช่ไหมคะ?”
“ใช่ค่ะ เผื่อเอาไว้เท่านั้นเอง”
“ฮิฮิ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ เด็ก ๆ เป็นแมวก็จริง แต่เรื่องอาหารไม่มีปัญหาค่ะ”
“อ๋อ… จริงเหรอคะ?”
สีหน้าของพนักงานร้านดูรู้สึกผิดขึ้นมา
เธอดูเหมือนจะคิดว่าตัวเองตื่นตูมเกินไป ท่าทางของเธอจึงระมัดระวังมากขึ้น
พูดตามตรง ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับความใส่ใจของเธอมากกว่า
การได้รับความห่วงใยจากใครสักคนไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย
“ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอาหารของพวกเธอหรอกค่ะ”
“โอเค เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณที่สละเวลานะคะ”
โค้งคำนับ—
พนักงานร้านโค้งคำนับเบา ๆ ไปทางสมาร์ตโฟน
เธอยอมเชื่อยอรึมอย่างง่ายดาย คงเพราะสถานะทางสังคมของอีกฝ่าย
“เธอบอกว่าเธอกินได้ ขอโทษด้วยนะ”
“ไม่เป็นไร”
“เอ่อ… นี่ ฉันจะให้สองอันนี้เป็นของแถมนะ”
เธอยื่นอมยิ้มสองอันมาให้ฉัน
แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยชอบของแถม แต่ครั้งนี้ฉันก็ตัดสินใจรับไว้
ฉันแกะอันหนึ่งออกแล้วใส่เข้าปากของแซบยอก
เธอถืออมยิ้มไว้ในมือแล้วเลียมันแม้ในขณะง่วงงุน
‘ฉันจะอุ้มเธอไว้บนหลังละกัน’
หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ฉันก็อุ้มแซบยอกขึ้นหลัง
ฉันแขวนถุงที่มีเค้ก ช็อกโกแลต และการ์ดแอนิมอลคิงไว้กับหางของเธอ
ด้วยพละกำลังของเธอ เธอสามารถถือมันไว้ได้อย่างง่ายดาย
ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้ว
กลับไปยังที่ที่เลวีนัสกำลังรออยู่
━━━━━━━━━━━━━━━━━
วันนี้เป็นวันที่ต้องออกสำรวจดันเจี้ยน
ยอรึมที่ออกมาข้างนอกแต่เช้าตรู่ใช้เวลาสักพักจ้องมองสมาร์ตโฟนของตัวเองอยู่เงียบ ๆ
“อ่า…”
เธออยากวิดีโอคอลกับคยออุลให้นานกว่านี้
คยออุลก็เป็นแบบนี้เสมอ เรียกผู้ปกครองมาเพื่อซื้อช็อกโกแลต
รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าของยอรึมขณะมองไปรอบ ๆ
เหล่านักผจญภัยที่อยู่ใกล้ ๆ ไม่ใช่คนที่จะพูดคุยด้วยได้ง่ายนัก
ส่วนใหญ่แต่งงานและมีลูกแล้ว
พวกเขากำลังคุยกันเรื่องการเลี้ยงลูกและวิธีกล่อมลูกเข้านอน
ยอรึมซึ่งไม่มีลูกเป็นของตัวเองก็ได้แต่นั่งฟังพวกเขาคุยกันเงียบ ๆ
“เฮ้อ… ลูกฉันไม่ยอมแตะผักเลย อยากให้กินได้หลาย ๆ อย่างบ้างจัง…”
“เด็กวัยนั้นทุกคนก็เป็นแบบนั้นแหละค่ะ”
เหล่านักผจญภัยที่กำลังคุยเรื่องนิสัยเลือกกินของลูก จู่ ๆ ก็หันมามองยอรึม
ทำไมพวกเขาถึงมองฉันล่ะ?
ยอรึมค่อย ๆ คลายแขนที่กอดอกอยู่ลงอย่างระมัดระวัง พยายามจับจังหวะในวงสนทนา
“ยอรึม เด็ก ๆ ของเธอกินผักเก่งใช่ไหม?”
เด็ก ๆ ของฉัน
ยอรึมรู้ทันทีว่าหมายถึงใคร
“ค่ะ เด็ก ๆ ของฉันไม่เลือกกินเลย… แต่คุณก็รู้นะคะว่าฉันยังไม่แต่งงาน? ฉันเป็นพี่สาว ไม่ใช่แม่ของพวกเขา…”
“โอ้ แน่นอน เราแค่ถามเพราะเธอเป็นผู้ปกครองของพวกเขาน่ะ”
“แหะ ๆ แค่อยากรู้เฉย ๆ น่ะ”
แม่คนตอนอายุเท่านี้เหรอ?
…ถ้าเด็ก ๆ พวกนั้นเป็นลูกของฉันจริง ๆ ก็คงจะไม่แย่นะ
ขณะที่ยอรึมกำลังเผลอคิดอะไรเพลิน ๆ ก็มีใครบางคนเดินเข้ามาใกล้
เธอเป็นนักผจญภัยหญิงที่มีลูกวัยสี่ขวบอยู่ด้วย
“เด็กของเธอกินผักโขมด้วยเหรอ?”
“ค่ะ พวกเขาไม่ค่อยมีอะไรที่ไม่ชอบกินเลย”
“ทำได้ยังไงกันนะ…?”
นักผจญภัยหญิงดูประหลาดใจมาก ส่วนยอรึมก็เผลอยืดไหล่อย่างภูมิใจ
โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังกลายเป็นผู้ปกครองจอมโม้ ยอรึมก็ให้คำแนะนำออกไป
“ลองปลูกแปลงผักดูไหมคะ?”
“แปลงผัก?”
“ใช่ค่ะ ถ้าให้พวกเขาปลูกผักเอง จะช่วยให้พวกเขารู้สึกภูมิใจ และยอมกินผักได้ง่ายขึ้น”
“โอ้…! ความคิดดีมากเลยค่ะ!”
เพี๊ยะ!
นักผจญภัยหญิงตบมือเหมือนเพิ่งค้นพบทางสว่าง
ข้าง ๆ เธอ มีนักผจญภัยชายที่มีลูกสามคนเดินเข้ามา
“ยอรึม เวลาเด็ก ๆ ดื้อ คุณจัดการยังไงเหรอ?”
“อืม…”
“ไม่ดุเหรอ?”
“ไม่ค่อยค่ะ พวกเขาไม่เคยทำอะไรที่สมควรโดนดุเลย”
“…แบบนั้นก็เป็นไปได้ด้วยเหรอ?”
ดวงตาของนักผจญภัยชายคนนั้นสั่นไหวด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
มีใครบางคนที่ฟังอยู่หลุดหัวเราะเบา ๆ ออกมา
“จินชอล นายมีลูกชายสามคน ส่วนยอรึมมีลูกสาวสามคน”
“อา แบบนั้นมันต่างกันเหรอ?”
“ต่างกันมากเลยล่ะ”
เมื่อได้ฟังบทสนทนาของกลุ่มนักผจญภัย ยอรึมก็รู้ตัวขึ้นมาในทันที
เด็ก ๆ ของเรานี่นิสัยดีจริง ๆ เลย
ฉันไปช่วยชาติไว้ในชาติที่แล้วรึเปล่านะ?
ยอรึมซาบซึ้งใจจนเผลอยกมือขึ้นประสานกันราวกับกำลังสวดอธิษฐาน
บทสรุปที่ยอรึมได้จากกลุ่มนักผจญภัยที่เป็นพ่อแม่ก็คือ—
เด็ก ๆ ของเรานี่แหละดีที่สุดแล้วแน่นอน
━━━━━━━━━━━━━━━━━
“เลวีนัส”
ฉันเปิดประตูหน้าบ้านแล้วเดินเข้าไปข้างใน
สิ่งที่เห็นคือโซเฟียที่เพิ่งตื่น กับเลวีนัสที่กำลังเหม่อมองเธออยู่
“เจ้าไปไหนมา?”
“ฉันแค่ออกไปซื้อของนิดหน่อย”
แท็ป แท็ป—
ฉันใช้หางสะกิดแซบยอกที่ยังเกาะอยู่บนหลัง
เธอขยับหางแล้วยื่นถุงให้ฉัน
เดิมทีฉันตั้งใจจะจัดเซอร์ไพรส์แบบเงียบ ๆ
แต่ถ้าเอาออกมาให้เห็นแบบนี้เลยก็คงไม่เลวเหมือนกัน
ฉันรับถุงมาแล้วนั่งลงหน้าตั้งโต๊ะกลางห้องนั่งเล่น
“เลวีนัส มานี่สิ”
“…โอเค”
เลวีนัสเดินเข้ามาอย่างแผ่วเบา ฉันจึงค่อย ๆ เอาของที่ซื้อมาวางไว้ตรงหน้าเธอ
เมื่อขนมช็อกโกแลต เค้ก และการ์ดแอนิมอลคิงถูกหยิบออกมาทีละชิ้น ดวงตากลมโตคล้ายกระต่ายของเลวีนัสก็เบิกกว้าง
ฉันรู้สึกได้ทันทีว่าความรู้สึกของเธอดีขึ้นเล็กน้อยแล้ว
“ราชา วันนี้คือวันเลี้ยงฉลองเหรอ…?!”
“ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันเลี้ยงฉลอง”
“ว้าว…!”
มันเป็นงานเลี้ยงเล็ก ๆ ที่มีแค่เค้กกับช็อกโกแลต
แต่เลวีนัสมีความสุข และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
“เรามากินช็อกโกแลตกันไหม?”
“อืม…!”
มันเป็นช็อกโกแลตคุณภาพดี ห่อแยกชิ้นอย่างเรียบร้อย
เราทุกคนแกะห่อและใส่มันเข้าปากพร้อมกัน
“……!”
“อึ๊ก!”
“แฮ่ก!”
ช็อกโกแลตนั้นขมมากจนแทบทนไม่ไหว
หูและหางของพวกเรากระตุกขึ้นพร้อมกัน
เลวีนัสร้องเสียงหลง ส่วนแซบยอกขู่ฮึ่ม
มีแค่โซเฟียที่ไม่แสดงอาการอะไรเลย
“ช็อกโกแลตนี้น่าจะขมเกินไปสำหรับเด็ก ๆ”
“ชะ-ใช่…”
บางทีต่อมรับรสของพวกเราอาจจะไวเกินไป แต่รสขมนั้นชวนช็อกจริง ๆ
ฉันไม่กล้าแม้แต่จะหยิบชิ้นที่สองขึ้นมากิน
ฉันรู้สึกเสียใจแทนเลวีนัสที่ช็อกโกแลตที่ซื้อมาเป็นแบบนี้
“ขอโทษนะ… ฉันควรตรวจดูก่อนซื้อให้ดีกว่านี้…”
ฉันขยำห่อช็อกโกแลตเปล่าในมือ แล้วหันไปมองเลวีนัส
แต่เธอกลับเอามือปิดปากแล้วหัวเราะคิกคัก
“ราชา ช็อกโกแลตนี่ขมมากเลย!”
“ชะ-ใช่ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม เลวีนัส?”
“ไม่เป็นไร! มันตลกดี!”
คิกคิกคิก
เลวีนัสหัวเราะเสียงใส ดูเหมือนเธอจะสนุกกับมันมาก
หางของฉันกับแซบยอกที่เคยตั้งชี้ เริ่มส่ายไปมาอย่างร่าเริง
“งั้นเรามากินเค้กแครอทแทนช็อกโกแลตกันเถอะ”
“เค้กแครอทเหรอ?!”
“ใช่ มันเป็นเค้กที่ทำจากแครอทน่ะ”
“อะไรนะ?! มีของแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ?!”
เลวีนัสชะโงกหน้าไปดูเค้กแครอทที่อยู่ในกล่อง
พอเธอดูจนพอใจแล้ว โซเฟียก็ยกกล่องเค้กขึ้นมา
“รอสักครู่นะ ข้าจะไปตัดเค้กก่อน”
“โอเค”
ระหว่างที่โซเฟียไปตัดเค้ก พวกเราก็เริ่มแกะซองการ์ดแอนิมอลคิง
ซองมันเยอะมากจนพวกเราต้องใช้เวลานานพอสมควรแค่เพื่อแกะมันออกมา
“อะไรกันเนี่ย…?!”
พอถึงซองที่สิบ เลวีนัสก็ยกการ์ดใบนึงขึ้นมาให้ดู
เป็นการ์ดที่ส่องประกายสีทอง
“นั่นการ์ดอะไรน่ะ?”
“มันคือการ์ด ‘ออลเฟรนด์’…!”
ตุ้บ!
เลวีนัสวางการ์ดลงบนโต๊ะ
การ์ดใบนั้นรวมตัวละครหลักและตัวประกอบทั้งหมดจาก Animal King ไว้ด้วยกัน
แม้ว่าจะมีตัวละครเยอะ แต่ทุกตัวก็ยังจำแนกได้จากลักษณะสัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา
“ทุกคนอยู่ครบเลยนะ?”
“ใช่เลย! เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกันหมดไง! ดูสิ มีแมวดำด้วย!”
“เจ๋งมากเลย”
ดวงตาของเลวีนัสเปล่งประกายสดใสราวกับการ์ดสีทอง
แต่ทันทีที่ดูเหมือนเธอจะร่าเริงขึ้น เลวีนัสก็ไหล่ตกแล้วซบหน้าลงกับโต๊ะ
“เลวีนัสก็อยากเป็นเพื่อนกับทุกคนตลอดไปเหมือนกัน…”
“ก็ได้นี่”
“แต่เลวีนัส…”
“เป็นเพราะพวกมนุษย์สัตว์หัวรุนแรงใช่ไหม?”
พอฉันถามแบบนั้น เลวีนัสก็สะดุ้ง
เธอเงยหน้าขึ้นมานิดหน่อย และฉันก็เห็นน้ำตาคลออยู่ในดวงตา
“ราชารู้เรื่องนี้อยู่แล้วเหรอ…?”
“รู้สิ”
“เลวีนัสน่ะ…”
ขณะที่เลวีนัสกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง โซเฟียก็เดินเข้ามาพร้อมกับเค้กที่ถูกหั่นไว้เรียบร้อยแล้ว
เธอถอนหายใจลึก อาจเป็นเพราะได้ยินบทสนทนาของพวกเรา
“เมื่อคืนข้าคุยเรื่องนี้กับทางกิลด์แล้วล่ะ”
“จริงเหรอ? มาสเตอร์ว่าไงบ้าง?”
ฉันรู้ดีว่า มาสเตอร์ไม่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องได้ง่าย ๆ ด้วยเหตุผลทางการเมือง
แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อดรู้สึกมีความหวังไม่ได้
“เขาโกรธมากเลยนะ ยูนาเองก็สบถออกมาด้วย ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะพูดคำหยาบได้ขนาดนั้น”
“สบถเหรอ?”
“ใช่ มันไม่ใช่คำที่ฉันจะพูดต่อหน้าพวกเด็ก ๆ ได้หรอกนะ”
ยูนาสบภคำอะไรออกมากันนะ ถึงขนาดทำให้โซเฟียไม่กล้าพูดมันออกมา?
ฉันอดสงสัยเรื่องนั้นไม่ได้เลย
“บอกหน่อยไม่ได้เหรอ? พวกเราเคยได้ยินคำหยาบแรง ๆ มาก่อนแล้วนะ”
“อะ-อืม…”
โซเฟียหันหน้าหนีสายตาของฉัน
ไม่รู้ทำไม ดวงตาของเธอถึงได้สั่นไหวอยู่เล็กน้อย
“ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะพูดใส่ฉันซะหน่อย”
“ฮืม… ถ้าเจ้าอยากรู้ขนาดนั้นก็ได้…”
โซเฟียโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูฉัน
เธอพูดเสียงเบา ๆ จนมีแค่ฉันที่ได้ยิน
สิ่งที่เธอพูดออกมานั้น ช่างน่าตกใจจริง ๆ
MANGA DISCUSSION