“ฉันจะสอนวิธีจัดงานวันเกิดให้เอง”
ด้วยคำแนะนำจากชายที่แนะนำตัวเองว่า คิมฮยอนอู เราจึงสามารถจัดงานวันเกิดขึ้นมาได้
ฉันไม่ได้รู้สึกอยากจัดนักหรอก แต่ฉันทำเพื่อเลวีนัส
“ง่ำ ง่ำ”
เลวีนัสกินอาหารที่มีคนยื่นให้ด้วยความเอร็ดอร่อย
เพราะฉันไม่ชอบรับของฟรี จึงควักเงินค่าขนมออกมาจากกระเป๋า
สองหมื่นวอน
เงินที่ฉันสามารถใช้จ่ายเองได้
ฉันยื่นแบงก์ยับ ๆ ใบนั้นให้คิมฮยอนอู แต่เขากลับขมวดคิ้ว โบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องจ่ายหรอก”
“แต่ว่าอาหาร—”
“ไม่เป็นไร แค่พวกเธอมาอยู่ตรงนี้ในวันเกิด ก็น่าขอบคุณมากแล้ว”
ฉันเข้าใจความหมายของเขา แต่รู้สึกว่ามันน่าจะใช้กับพวกที่เอาของขวัญมาด้วยมากกว่า
พวกเราไม่ได้เอาอะไรติดมือมาเลยแท้ ๆ แต่กลับได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
‘เงินเป็นภาระหรือเปล่านะ?’
ถ้าให้ของขวัญเป็นเงินสด ก็คงจะดูหนักใจอยู่บ้าง
ฉันหยิบเทปม้วนใหม่ออกมาจากกระเป๋า
ของจำเป็นในชีวิต ที่สามารถซ่อมแซมได้ทุกสิ่ง
“งั้นฉันให้สิ่งนี้เป็นของขวัญนะ”
“เทปเหรอ?”
“ใช่ ใช้ตอนเสื้อผ้าขาดหรืออะไรพัง ๆ ได้ดีเลย”
“ของดีเลย ขอบใจนะ”
คิมฮยอนอูรับเทปไปด้วยรอยยิ้ม
ฉันโล่งใจที่เขาดูพอใจ
“ราชา ราชา”
แปะ แปะ—
เลวีนัสที่นั่งข้าง ๆ แตะไหล่ฉันเบา ๆ
ฉันหันไปมอง และเลวีนัสก็ยัดสลัดใส่ปากฉัน
“ผักอร่อยนะ! ราชากินด้วยสิ!”
“โอเค”
เพราะเป็นมนุษย์สัตว์ที่กินพืช เลวีนัสจึงชอบผักมากที่สุด
แม้ฉันจะเป็นมนุษย์สัตว์ที่กินเนื้อ แต่ผักที่เลวีนัสยื่นให้กลับอร่อยเกินคาด
“ราชา แต่ทำไมเราต้องกินของอร่อยในวันเกิดล่ะ?”
“เพื่อระลึกถึงวันที่เราเกิดมาไง”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”
กร๊อบ กร๊อบ—
เลวีนัสแทะผักชิโครี่เหมือนเล่นเกมเปเปโร* ยัดใบเขียวเข้าเต็มปากแล้วเอนคอเอียง
“แต่ทำไมเราต้องระลึกถึงวันที่เราเกิดด้วยล่ะ?”
“เพราะมันเป็นวันพิเศษ…มั้ง?”
“เอ๋? ทำไมวันเกิดถึงเป็นวันพิเศษล่ะ?”
ทำไมวันเกิดถึงได้ถูกมองว่าเป็นวันพิเศษ… เป็นคำถามที่ลึกซึ้งเกินไป
ฉันไม่เชี่ยวด้านปรัชญา จึงไม่อาจหาคำตอบให้ได้
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าวันเกิดมันพิเศษยังไง?”
ฉันเริ่มสงสัยว่าคนอื่นจะมีคำตอบไหม
เมื่อฉันกวาดตามองไปรอบ ๆ กลับไม่มีใครสบตา ต่างเบือนหน้าหนีอย่างมีพิรุธ
มีเพียงคิมฮยอนอู เจ้าของงานวันเกิด ที่เปิดปากพูดขึ้นมา
“เลวีนัส ลองคิดดูสิว่าถ้าคยออุลไม่ได้อยู่ตรงนี้ล่ะ จะเป็นยังไง?”
“หา—!”
ลูกเชอร์รี่มะเขือเทศหล่นจากมือของเลวีนัส
ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอแสดงความสิ้นหวัง ราวกับจะร้องไห้ออกมาเดี๋ยวนั้น
“ราชาหายไป…?!”
“เปล่า ไม่ได้หายไปจริง แค่ลองนึกภาพเฉย ๆ นะ”
คิมฮยอนอูรีบพูดแก้
“มันจะเศร้ามาก! น้ำตาแห่งความเสียใจจะไหลออกมาจากเลวีนัสเลย!”
“นั่นไงล่ะ ถึงต้องขอบคุณและฉลองที่เราเกิดมาไง”
“……!”
ดวงตาของเลวีนัสเบิกกว้างกว่าครั้งไหน ๆ
สีหน้าราวกับได้รับญาณหยั่งรู้บางอย่างอันยิ่งใหญ่
“ราชา! ขอบคุณที่เกิดมานะ!”
“อืม เลวีนัสก็เหมือนกันนะ”
เฮะเฮะ
หางของเธอก็สะบัดไปมาเหมือนเคย
การเริ่มต้นเฉลิมฉลองวันเกิดของคนรอบข้าง อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
━━━━━━━━━━━━━━━━━
หลังจากงานวันเกิดจบลง พวกเราก็กลับบ้าน
ยอรึมกำลังลูบหัวแซบยอกที่นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาอย่างสบายใจ
“กลับมาแล้วเหรอ?”
“อืม”
ฉันล้างมือกับเท้าเสร็จแล้วจึงนั่งลงข้าง ๆ ยอรึม
เลวีนัสกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของยอรึมอย่างเคย
“พวกเธอสองคนไปทำอะไรกันมาเหรอ?”
“ตอนแรกว่าจะไปปลูกแครอทกัน แต่สุดท้ายก็ไปงานวันเกิดแทน”
“งานวันเกิดงั้นเหรอ…?”
มือของยอรึมที่กำลังลูบหัวของแซบยอกหยุดชะงักไป
นัยน์ตาสีน้ำตาลของเธอสั่นไหวเล็กน้อย
“อืม พวกเรากินเค้กด้วยกัน”
“งะ-งั้นเหรอ? แล้ววันนี้มันเป็นวันเกิดของใครล่ะ…?”
ตุบ ตุบ
ฉันได้ยินเสียงหัวใจของยอรึมเต้นแรง
มันเต้นแรงกว่าปกติ อาจจะเพราะเธอตกใจก็ได้
“ไม่ใช่วันเกิดของใครหรอก แค่ไปร่วมงานวันเกิดของคนที่เขาจัดกันในสวนสาธารณะเฉย ๆ”
“อ๋อ…”
เฮ้อ
ราวกับโล่งใจ ร่างของยอรึมก็ทรุดตัวลงอย่างผ่อนคลาย
เพราะแบบนั้น เลวีนัสที่นั่งอยู่บนตักจึงกลิ้งหล่นลงไปที่พื้นข้างโซฟา
“เฮะเฮะ”
สนุกจัง สนุกจัง
เลวีนัสที่ดูจะชอบใจกลับกระโจนขึ้นไปนั่งบนตักยอรึมอีกครั้งอย่างร่าเริง
“คยออุล วันเกิดของเธอคือวันไหนเหรอ?”
“ฉันไม่มีวันเกิดหรอก”
“จริงเหรอ?”
“ใช่ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเกิดเมื่อไหร่”
พูดให้ชัดคือ ฉันไม่รู้ว่าร่างนี้เกิดเมื่อไหร่ เลยไม่สามารถฉลองวันเกิดให้มันได้
“อืม… งั้นให้วันที่เราเริ่มสนิทกันเป็นวันเกิดของเธอแทนดีไหม?”
“วันที่เราสนิทกันเหรอ?”
“ใช่”
เมื่อไหร่นะ?
ฉันพยายามนึกย้อนกลับไป
แน่นอนว่าคงเป็นวันที่ฉันโดนกระต่ายมีเขาแทงเข้าให้
“หมายถึงวันที่ฉันโดนแทงท้องเหรอ?”
“ไม่ใช่! ไม่ใช่วันนั้นนะ!”
ยอรึมตะโกนเสียงดังเกินเหตุ
ฉันสะดุ้ง หูและหางก็เลยตกลงอย่างหงอย ๆ
“งั้นวันไหนล่ะ?”
“คยออุล จำวันที่เธอตื่นขึ้นมาในกิลด์ครั้งแรกได้ไหม?”
“อ่า…”
เธอหมายถึงวันที่ฉันกลายร่างเป็นมนุษย์สัตว์งั้นเหรอ?
มันเป็นวันที่สำคัญมาก ราวกับวันเกิดใหม่ของฉัน
ถ้าจะให้วันนั้นเป็นวันเกิดก็คงไม่เลว
“รอจนถึงปีหน้าจะลำบากไหม?”
“ไม่ลำบากหรอก ฉันถนัดเรื่องรออยู่แล้ว”
“นั่นสินะ”
เฮะเฮะ
ยอรึมยิ้มอย่างมีความสุข
การได้เห็นทุกคนในบ้านมีความสุขก็ทำให้ฉันรู้สึกดีไปด้วย
“ยอรึม! ยื่นขาออกมาข้างหน้าหน่อย!”
ฉับ ฉับ—
เลวีนัสเคาะต้นขาของยอรึมเบา ๆ
ยอรึมจึงเหยียดขาออกไปในแนวเฉียง
“แบบนี้ใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว!”
เลวีนัสไถลตัวลงมาตามขาของยอรึมราวกับเป็นสไลเดอร์
ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเลวีนัส ที่ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็ยังหาความสนุกใส่ตัวได้เสมอ
“สนุกเหรอ?”
“สนุกมาก! ยอรึมเป็นสนามเด็กเล่นทั้งตัวเลย! กลายเป็นสไลเดอร์ได้ด้วย!”
“รู้ได้ไง? จริง ๆ แล้วพี่เป็นสนามเด็กเล่นเวอร์ชันมนุษย์นะ”
“อะไรนะ! แล้วในสนามเด็กเล่นของยอรึมมีชิงช้าด้วยไหม?!”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ยอรึมลุกขึ้นจากโซฟาแล้วอุ้มเลวีนัสขึ้นสูง แกว่งตัวเธอไปมาราวกับเป็นชิงช้า พลางเดินวนไปรอบบ้าน
การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้แซบยอกกระโดดขึ้นมาเกาะอยู่ด้านข้าง
พรืด พรืด—
แซบยอกนั่งย่อตัวลงและนอนนิ่ง พร้อมส่งเสียงเหมือนแมวออกมา
เมื่อยอรึมไม่อยู่ ฉันจึงลูบหัวแซบยอกแทนเธอ
“แซบยอก เธอดูเหมือนแมวมากกว่าฉันอีกนะ”
“ผู้ใหญ่เป็นคนทำให้ฉันเป็นแบบนี้”
“ผู้ใหญ่?”
ผู้ใหญ่คนไหนกันที่เปลี่ยนร่างของแซบยอก?
ฉันสงสัยมาก แต่ก็รู้สึกว่าการถามออกไปคงจะเสียมารยาท
“ผู้ใหญ่พยายามให้ฉันมีร่างกายคล้ายคยออุล แต่พวกเขาไม่เข้าใจลักษณะของมนุษย์สัตว์ดีพอ ก็เลยใส่สัญชาตญาณแมวมาให้แทน”
“อ่า…”
พวกเขาใส่สัญชาตญาณแมวเข้าไป เพราะคิดว่าคงไม่ต่างกันนัก
นั่นแหละคือเหตุผลที่เธอเหมือนแมวมากกว่าฉันเสียอีก
“บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นแมวจริง ๆ ไปแล้ว”
“ไม่รู้สึกไม่สบายเหรอ ที่ต้องมีสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมีมาก่อน?”
“ไม่เป็นไรหรอก ทุกคนก็ชอบแบบนี้นี่นา”
นั่นก็จริง ความเย็นชาคล้ายแมวของแซบยอกก็เป็นเสน่ห์ของเธอ
ถ้าเธอไม่ลำบากใจ มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องแย่อะไร
“แซบยอก มาทดลองอะไรกันหน่อยไหม?”
“ทดลอง?”
“ใช่ ฉันว่าเราควรดูหน่อยว่าเธอมีสัญชาตญาณแมวมากแค่ไหน”
การเข้าใจสัญชาตญาณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
แซบยอกดูจะเข้าใจเช่นกัน จึงพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“แต่ว่าจะทดลองอะไรกันเหรอ?”
“อันดับแรก ก็อันนี้”
ฉันหยิบหญ้าหางจิ้งจอกจากในกระเป๋าออกมาใบหนึ่ง
มันเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ต้นที่ฉันถอนขึ้นมาเตรียมไว้กิน
แกว่งเบา ๆ ไปมา—
ฉันเขย่าหญ้าหางจิ้งจอกใบหนึ่งตรงหน้าแซบยอก
รูม่านตาแนวตั้งของเธอเริ่มเบิกกว้างกลายเป็นวงกลมสมบูรณ์
‘ว้าว’
รูม่านตาของฉันก็เปลี่ยนแบบนั้นเหมือนกันหรือเปล่านะ?
ต้องลองดูกับกระจกทีหลังแล้วล่ะ
คิดพลาง ฉันก็ยังคงแกว่งหญ้าหางจิ้งจอกไปมาไม่หยุด
“……!”
หัวของแซบยอกเคลื่อนไหวตามหญ้าหางจิ้งจอกอย่างรวดเร็ว ส่ายไปมาซ้ายขวา
การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วเสียจนแทบจะเวียนหัว
เธอนอนหมอบลง แขนแนบอกแน่น ขาเกร็งราวกับพร้อมจะพุ่งเข้าจู่โจมได้ทุกเมื่อ
ถ้าแซบยอกที่แข็งแรงขนาดนั้นกระโจนขึ้นมาอย่างกะทันหัน คงจะไม่ใช่เรื่องเล็กแน่
แม้ว่าฉันจะรู้สึกกังวล แต่โชคดีที่แซบยอกไม่ได้พุ่งเข้ามา
เธอแค่ใช้กำปั้นที่กำไว้เหมือนอุ้งเท้าแมวตบ ๆ ไปที่หญ้าหางจิ้งจอกเบา ๆ เท่านั้น
“เฮะเฮะ”
เธอดูเหมือนแมวจริง ๆ
ไม่สิ เธออาจจะเป็นแมวจริง ๆ ก็ได้?
เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันจึงใช้หญ้าหางจิ้งจอกแตะหน้าผากแซบยอกเล่นอย่างขำ ๆ
แล้วในตอนนั้นเอง ยอรึมซึ่งเพิ่งไปในครัวก็เดินกลับมา
“พวกเธอสองคนทำอะไรกันอยู่เหรอ?”
“เรากำลังทดลองกันอยู่”
“ทดลอง?”
“ใช่ เรากำลังทดสอบว่าแซบยอกมีสัญชาตญาณแมวหรือเปล่าอยู่”
“อย่างนั้นเหรอ…?”
ยอรึมหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมามองที่หางของฉัน
มันตั้งตรง พลิ้วไหวเบา ๆ ราวกับหางของแมวจริง ๆ
“…ฉันก็มีสัญชาตญาณเหมือนกันนะ แต่ของแซบยอกมันรุนแรงกว่า”
“เหรอ? พวกเธอสองคนก็คล้ายกันไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันว่าไม่ค่อยเหมือนนะ…?”
คนอื่นมองว่าฉันคล้ายกับแซบยอกอย่างนั้นเหรอ?
ฉันก็ชอบปลานะ แต่ไม่ได้รู้สึกสนใจของที่ขยับได้เหมือนเธอ
พอรู้สึกน้อยใจขึ้นมานิดหน่อย ฉันก็เงยหน้าขึ้นมองยอรึม
เลวีนัสที่ถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนของยอรึม ก็เริ่มแกว่งขาไปมาอย่างร่าเริง
“เลวีนัสด้วย! เลวีนัสด้วย!”
“เลวีนัสด้วย?”
“ใช่! เลวีนัสก็อยากได้หญ้าหางจิ้งจอกเหมือนกัน!”
เธอหมายถึงให้แกว่งหญ้าหางจิ้งจอกตรงหน้าเหมือนกับที่ทำกับแซบยอกหรือเปล่านะ?
เพราะฉันถอนติดมือมาหลายต้นอยู่แล้ว ฉันจึงหยิบอีกต้นขึ้นมาแล้วแกว่งตรงหน้าเธอ
เลวีนัสที่ถูกอุ้มไว้ใต้รักแร้ของยอรึม ก็ส่ายหัวตามหญ้าหางจิ้งจอกไปมาซ้ายขวา
“เลวีนัสเป็นกระต่ายมีเขา แต่ดูเหมือนแมวเลยแฮะ”
“อาจจะแค่เล่นเฉย ๆ ก็ได้นะ”
แปะ แปะ—
ฉันใช้หญ้าหางจิ้งจอกแตะจมูกของเลวีนัสเบา ๆ
ทันทีที่หญ้าเกือบจะแตะริมฝีปากของเธอ เลวีนัสก็กัดมันเข้าเต็ม ๆ
งั่ม งั่ม งั่ม—
ทั้งต้นหญ้าหางจิ้งจอกรวมถึงใบหายวับเข้าไปในปากของเลวีนัส
เธอไม่ได้เล่น เธอตั้งใจจะกินจริง ๆ
ยอรึมกับฉันได้แต่จ้องมองอย่างอึ้ง ๆ ขณะที่เลวีนัสเคี้ยวหญ้าอย่างสบายใจ
━━━━━━━━━━━━━━━━━
เกมเปเปโร คล้ายกับเกมป็อกกี้ ที่จะค่อยๆ กัดทีละนิดไปเรื่อยๆ
เมื่อวานลืมลง
MANGA DISCUSSION