เย็นวันนั้น
หลังจากกลับถึงบ้าน ฉันก็ทำตามคำสั่งของมาสเตอร์แล้วพักผ่อน
คำสั่งคือให้พักผ่อนอยู่ที่บ้านให้เต็มที่หลังจากเจอเรื่องไม่ดีมา
“ราชา นั่นคืออะไรเหรอ?”
เลวีนัสชี้ไปที่โทรทัศน์ด้วยรีโมตคอนโทรล
บนหน้าจอ มีผู้ชายและผู้หญิงจูบกันที่แก้ม
“พวกเขาจูบกันเพราะว่าชอบกันน่ะ”
“ถ้าชอบกันแล้วทำไมต้องจูบกันด้วยล่ะ…?”
“อืม…”
เป็นคำถามที่ลึกซึ้งมาก
เพราะไม่รู้ประวัติของการจูบ ฉันเลยตอบไม่ได้
จะอธิบายยังไงให้เด็กเข้าใจดีนะ?
ในขณะที่ฉันกำลังครุ่นคิด เงารูปแท่งยาวก็ทอดลงมาบนหัวฉัน
“เจ้าเด็กพวกนี้นี่”
ปึ้ก—
พอฉันเงยหน้าขึ้น โซเฟียก็ใช้ไม้เท้าตีหัวฉันกับเลวีนัสเบา ๆ
ด้วยสีหน้าดุของโซเฟีย ฉันคิดว่าเราอาจทำอะไรผิดไป
“พวกเราทำอะไรผิดเหรอ…?”
“ไม่เห็นหรือไงว่ามันเขียนไว้ว่า ‘เหมาะสำหรับผู้ชมที่อายุ 15 ปีขึ้นไป’?”
โซเฟียชี้ไม้เท้าไปที่มุมขวาบนของหน้าจอโทรทัศน์
มีสติกเกอร์สีเหลืองที่เขียนว่า 15 อยู่
อ๊ะ
เพราะไม่ได้ดูโทรทัศน์มานาน ฉันเลยไม่ทันนึกถึงอายุผู้ชมที่เหมาะสม
ฉันเอารายการที่มีเนื้อหากระตุ้นอารมณ์มาให้เลวีนัสที่อายุแค่สิบขวบดู
เป็นความผิดพลาดของฉันอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
“โซเฟีย ขอโทษนะ…”
“ถ้าเข้าใจก็ดีแล้ว รอให้โตกว่านี้ก่อนค่อยดูพวกนั้นนะ”
“อือ…”
หลังจากรับรีโมตคอนโทรลจากเลวีนัส ฉันก็เปลี่ยนช่องไปเป็นการ์ตูนที่มีตัวละครเป็นสัตว์
ตอนนั้นเอง ยอรึมที่นั่งทำงานอยู่ตรงโต๊ะในห้องนั่งเล่นก็หัวเราะออกมา
“โซเฟีย เด็ก ๆ เข้าใจความหมายของเรตอายุด้วยเหรอ? พวกเขาก็แค่ดูอะไรก็ได้ที่ฉายอยู่น่ะ”
“ถ้าเจ้าคิดว่าเด็ก ๆ ไม่เข้าใจ ยอรึม งั้นเจ้าก็มาบอกให้พวกเขารู้สิ”
“มันก็ไม่ได้เป็นฉากที่แปลกขนาดนั้น ฉันเคยดูหนังเรื่องนั้นมาก่อนแล้ว”
“เหรอ…?”
โซเฟียลูบหัวพวกเราเหมือนรู้สึกผิดที่ตีหัวพวกเราเพราะฉากหนังแค่เล็กน้อย
ถึงมันจะไม่เจ็บ แต่ก็รู้สึกดีที่ได้สัมผัสมือของโซเฟีย
“อืม…”
แม้จะถูกลูบหัวอยู่ เลวีนัสก็กอดอกครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง
เธอกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่กันนะ ถึงได้ดูจริงจังขนาดนั้น?
ในขณะที่ทุกคนหันไปมองเลวีนัส เธอก็พูดคำถามน่าอายออกมา
“พวกคุณเคยจูบคนที่ตัวเองชอบไหม?”
เลวีนัสถามทุกคน
คนแรกที่ตอบคำถามไม่คาดฝันของเธอคือยอรึม
“พี่เคยจูบกับครอบครัวตอนเด็ก ๆ อยู่นะ”
“กับครอบครัวเหรอ?!”
“ใช่ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำบ่อยแล้วล่ะ ก็พี่โตแล้วนี่นา”
“ว้าว…”
เลวีนัสลืมตากว้างเหมือนกระต่ายมีเขา มองฉันสลับกับโซเฟียไปมา
แม้จะไม่ได้พูดออกมา แต่ก็ชัดเจนว่าเธอกำลังถามว่าพวกเรามีประสบการณ์แบบนั้นไหม
“สำหรับข้า ตอนที่ยังเด็ก ๆ ข้าเคยอยู่กับครอบครัว…”
“ว้าว! ฉลามยังเคยทำเลยเหรอ?! งั้นราชาก็ต้องเคยเหมือนกันใช่มั้ย?!”
เลวีนัสมองฉันด้วยแววตาเป็นประกาย
ฉันทำได้แค่ส่ายหัวตอบเลวีนัสเท่านั้น
ฉันเคยมีในชาติก่อน แต่ในชาตินี้ ฉันไม่มีครอบครัว
เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด ฉันจึงตัดสินใจไม่พูดถึงชีวิตก่อนหน้านี้
ฉันไม่อาจอ้างว่ามีครอบครัวที่ฉันไม่เคยพบในชาตินี้ได้
“ฉันไม่มีครอบครัว… เพราะงั้นก็เลยไม่เคย…”
“อา…”
ทันทีที่ฉันพูดจบ ยอรึมก็เปล่งเสียงแปลก ๆ ออกมา
พอฉันหันไปมอง ก็เห็นว่ายอรึม โซเฟีย และทุกคนมีสีหน้าเศร้า ๆ
“ทำไมล่ะ…?”
“แล้ว ข้ากับยอรึมไม่ใช่ครอบครัวของเจ้าหรอกเหรอ…?”
“…พวกเราเป็นครอบครัวกันเหรอ?”
ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
หางของฉันม้วนงอเป็นเครื่องหมายคำถาม แสดงถึงความสับสน
จากนั้น โซเฟียก็ทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ ฉัน
“ถ้าเราอยู่ด้วยกัน และชอบกัน แบบนั้นก็เรียกว่าครอบครัวไม่ใช่เหรอ?”
“งั้นเหรอ…?”
“ใช่ เพราะงั้นอย่าพูดว่าเจ้าไม่มีครอบครัวอีกเลยนะ”
“อืม… โอเค…”
แค่คิดว่าได้มีครอบครัว
แค่ได้ยินแค่นั้น ฉันก็รู้สึกมีความสุขแล้ว
ตุ้บ! ตุ้บ!
ฉันอดดีใจไม่ไหวจนหางกระดิกฟาดพื้น
หางฉลามของโซเฟียก็ขยับตีพื้นตามไปด้วย แสดงถึงความสุขร่วมกัน
เป็นการแสดงอารมณ์ตามสัญชาตญาณที่มีเฉพาะมนุษย์สัตว์ที่มีหางเท่านั้น
“เลวีนัสด้วย! เลวีนัสก็อยากเป็นครอบครัวเหมือนกัน! เลวีนัสก็ไม่มีครอบครัวนะ!”
“ได้สิ เลวีนัสก็เป็นครอบครัวได้เหมือนกัน”
“เย่! เลวีนัสมีครอบครัวแล้ว!”
เลวีนัสกระโดดขึ้นจากที่นั่งด้วยความดีใจ
บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกลมกลืนทำให้ฉันยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ฉันหวังว่าแต่ละวันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป
แบบนั้นชีวิตฉันคงจะดีที่สุดจริง ๆ
ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ—
พอเห็นหางฉันกระดิกไม่หยุด ยอรึมก็นั่งยอง ๆ ลงข้าง ๆ ฉัน
“คยออุล อยากให้พี่จูบตรงนี้ไหม?”
ยอรึมกดแก้มฉันเบา ๆ
ฉันน่าจะชอบนะ แต่พูดตามตรง มันก็เขินเกินไปหน่อย
ก็ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้วนี่นา เหมือนกับยอรึมนั่นแหละ
“ฉ-ฉันไม่เป็นไร…”
“งั้นเหรอ?”
“อืม ฉันจะเข้านอนแล้ว…”
ใบหน้าของฉันร้อนผ่าว
ฉันลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งเข้าห้องตัวเองทันที
ฉันได้ยินเสียงยอรึมหัวเราะตามหลังมา ซึ่งมันน่าหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมากนัก
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
คืนนั้น
ในความมืดสนิท เลวีนัสลืมตาขึ้นมา
เธอมองลงไปยังคยออุลที่นอนอยู่ข้าง ๆ
‘เลวีนัสกับราชาเป็นครอบครัวกันแล้ว…!’
ความสุขล้นทะลักในอก
เลวีนัสพยายามข่มความอยากจะลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้น
จะไปปลุกราชาที่กำลังนอนอยู่ไม่ได้เด็ดขาด
“อืม…”
เขาว่ากันว่าคนในครอบครัวจูบแก้มกันได้
แต่พอนึกถึงตอนที่คยออุลปฏิเสธไม่ให้จูบ เธอก็รู้สึกลังเล
แต่ก็ยังอยากจะลองดู
จะทำยังไงดีนะ?
หลังจากครุ่นคิด เลวีนัสก็ตัดสินใจจะหอมแก้มตอนที่คยออุลหลับอยู่
แตะ—
ริมฝีปากของเลวีนัสแตะแก้มของคยออุล
เพราะไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะถูก ก็เลยไม่มีแม้แต่เสียงจุ๊บ
แต่ดวงตาของเลวีนัสก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
“ว้าว!”
นี่มันรู้สึกดีสุด ๆ ไปเลย!
ทำไมราชาถึงไม่ทำแบบนี้นะ?!
ดูเหมือนเธอควรจะทำแบบนี้กับสมาชิกครอบครัวคนอื่นด้วย
‘จะไปทำให้ยอรึมกับโซเฟียด้วย!’
เลวีนัสย่องไปหาสมาชิกครอบครัวที่หลับอยู่ โดยระวังไม่ให้พวกเขาตื่นไปด้วย
โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า หางของคยออุลกระดิกแรงอย่างควบคุมไม่ได้ตอนที่เธอเดินออกจากห้องไป
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
เช้าวันต่อมา
ฉันเดินเข้าร้านสะดวกซื้อพร้อมกับเลวีนัส
หลังจากเอาขวดเปล่าประมาณห้าขวดไปคืน เราก็เดินดูของในร้านด้วยกัน
“เฮะเฮะ”
เลวีนัสแกว่งมือที่จับกันไปมาเบา ๆ ระหว่างเดิน
ฉันรู้ว่าเธอดีใจเพราะอะไร แต่ก็ตัดสินใจเก็บไว้ในใจ
“เลวีนัส อยากซื้ออะไรไหม?”
“ไม่เอา! แค่อยากเดินดูเฉย ๆ!”
“แล้วอยากดูอะไรล่ะ?”
“การ์ดแอนิมอลคิง”
การ์ดแอนิมอลคิง
นั่นคือชื่ออนิเมะที่เราดูด้วยกันเมื่อคืนนี้
มันกำลังฮิตในหมู่เด็ก ๆ ตอนนี้ และเลวีนัสก็ดูจะสนใจด้วย
“แต่จะเห็นการ์ดได้ก็ต่อเมื่อแกะซองนี่?”
“เหรอ…? เราดูการ์ดเฉย ๆ ไม่ได้เหรอ…?”
“อืม เสียใจด้วยนะ เราทำแบบนั้นไม่ได้”
“อา…”
พอรู้ว่าไม่สามารถดูการ์ดเฉย ๆ ได้ เลวีนัสก็ดูผิดหวังจนหยุดแกว่งมือ
ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีเงินซื้อให้เธอ
ฉันตัดสินใจซื้อการ์ดให้เธอ เพียงเพื่อแค่ได้เห็นเธอมีความสุข
“ฉันจะซื้อการ์ดแอนิมอลคิงให้เธอเอง”
“ได้เหรอ…? การ์ดมันไม่แพงเหรอ…?”
“ไม่หรอก ไม่ได้แพงขนาดนั้น”
การ์ดหนึ่งซองราคาแค่พันวอน
ฉันซื้อให้เลวีนัสสองซอง
จากนั้นเราก็นั่งลงที่ม้านั่งใกล้สระน้ำและเริ่มแกะซองดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน
“ราชา ขอบคุณที่ซื้อการ์ดให้เลวีนัสนะ”
“อืม แล้วการ์ดไหนเก่งที่สุดล่ะ?”
“การ์ดเสือเงินเก่งที่สุด! มันคือราชาแห่งสัตว์! มันมีสิบดาวเลย!”
เลวีนัสนั่งที่ม้านั่ง แกว่งขาไปมาพร้อมกับแกะซองการ์ดด้วยความตื่นเต้น
จากการ์ดประมาณยี่สิบใบ ใบที่ดีที่สุดที่เราได้มีแค่การ์ดสองดาวเท่านั้น
“อา…”
แม้แต่ฉันที่ไม่ค่อยรู้เรื่องการ์ดแอนิมอลคิงยังดูออก
นี่มันล้มเหลวสุด ๆ
เลวีนัสต้องผิดหวังแน่ ๆ
ควรซื้อเพิ่มอีกซองดีไหมนะ?
ตอนที่ฉันแอบมองเลวีนัสอย่างเงียบ ๆ น่าแปลก เธอกลับกระโดดไปมาด้วยความตื่นเต้น
“เลวีนัสได้การ์ดที่ดีที่สุดตั้งสองใบแน่ะ!”
“การ์ดที่ดีที่สุดเหรอ?”
“ใช่!”
เลวีนัสยื่นการ์ดสองใบให้ฉัน
ใบหนึ่งมีรูปกระต่ายมีเขา อีกใบเป็นลูกแมวสีขาว
แม้จะเป็นการ์ดแค่หนึ่งดาว เลวีนัสก็ดูมีความสุขมาก แกว่งขาไปมาอย่างร่าเริง
“การ์ดที่ดีที่สุดไม่ใช่เจ้าเสือเงินเหรอ?”
“ความแข็งแกร่งไม่ใช่ทุกอย่างสักหน่อย!”
“เอ่อ อือ…”
แสดงว่าในการ์ดแอนิมอลราชาไม่ได้วัดกันแค่ที่ความแข็งแกร่งสินะ
ฉันเกาหลังคออย่างรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย
“ราชาเก่งจัง ทำไมถึงหยิบได้การ์ดดี ๆ แบบนี้ได้ล่ะ?”
“คงแค่โชคดีล่ะมั้ง”
แค่เห็นเลวีนัสดีใจ ฉันก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย
หางของเราสะบัดไปมาเบา ๆ ขณะที่ดูการ์ดด้วยกัน
จากนั้นเลวีนัสก็ยื่นการ์ดทั้งหมดให้ฉัน
“มาเล่นด้วยกันเถอะ!”
“โอเค แต่เล่นยังไงเหรอ?”
ฉันรู้ว่าการ์ดพวกนี้สร้างมาไว้ต่อสู้กัน
แต่ทั้งฉันและเลวีนัสต่างก็ไม่รู้กติกาการต่อสู้เลย
“การ์ดเอาไว้สู้กัน แต่เลวีนัสไม่อยากสู้กับราชา”
“ฉันก็ไม่อยากสู้กับเลวีนัสเหมือนกัน”
“งั้น… ลองเล่นเลียนแบบแทนดีไหม?”
“เลียนแบบ?”
“เย้!”
กติกาของเกมนั้นง่ายมาก
แค่เลียนแบบสัตว์ที่อยู่ในการ์ดที่คุณจั่วได้
เป็นเกมง่าย ๆ แต่สนุกมาก
“งั้นฉันเล่นก่อนนะ?”
“อื้อ!”
ฉันหยิบการ์ดจากกองที่สับรวมไว้
เป็นนกนางนวลถือดาบ
ฉันกระพือแขนขึ้นลงและส่งเสียงแหลม
“เลวีนัสขอตอบ! คือแมว!”
แมวเหรอ?
ฉันว่าฉันเลียนแบบเสียงนกได้ดีแล้วนะ
ฉันส่ายหน้าแล้วยื่นการ์ดนกนางนวลให้เลวีนัสดู
“ผิด”
“ฮือ? มันคือนกนางนวลเหรอ?!”
“ใช่แล้ว นกนางนวลน่ะ!”
“อ๊า… ตาตาเลวีนัสแล้ว!”
เลวีนัสหยิบการ์ดใบหนึ่งแล้วกระโดดดึ๋ง ๆ อยู่กับที่
ต้องเป็นการ์ดกระต่ายมีเขาแน่ ๆ
“กระต่ายมีเขา…?”
“ผิด! กบต่างหาก!”
เลวีนัสโชว์การ์ดในมือให้ฉันดู
เป็นกบที่แต่งตัวเป็นนินจา
“ว้าว…”
ฉันนึกว่าเป็นกระต่ายมีเขาเพราะการกระโดด แต่ที่จริงเป็นกบเหรอ?
เกมนี้ยากกว่าที่คิด… ฉันถึงกับเหงื่อตกเลยทีเดียว
MANGA DISCUSSION