“เมื่อกี้เธอคิดจะทำอะไรกับเด็กๆ พวกนี้?”
“ร-เรื่องนั้น…”
“หยุดพูดติด ๆ ขัด ๆ แล้วพูดให้มันชัด ๆ สักที”
สายตาของจองยูนาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
มันไม่ได้ดูเหมือนการแสดงเลยสักนิด
แม้แต่ฉันที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังตัวสั่น ดังนั้นฉันคงจินตนาการได้เลยว่าควอนอารินที่ต้องเผชิญหน้าโดยตรงต้องหวาดกลัวแค่ไหน
ฉันรู้แค่ว่าฉันต้องเข้าไปห้ามแล้ว
ฉันรีบคว้าชายเสื้อของจองยูนาไว้แน่น
“เอ่อ…”
“ว่าไง คยออุล?”
จิตสังหารของจองยูนาหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่
น้ำเสียงของเธอนุ่มนวล ต่างจากตอนที่พูดกับควอนอารินโดยสิ้นเชิง
หางของฉันเริ่มแกว่ง ฉันจึงคว้าและจับมันเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
“พวกเราแค่เล่นซินเดอเรลล่ากัน…”
“ซินเดอเรลล่า?”
“ใช่ พวกเราเล่นซินเดอเรลล่า แล้วเลวีนัสก็ให้เธอเล่นเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย…”
“อ่า…”
เธอคิดว่าควอนอารินกำลังแกล้งเลวีนัสกับฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?
เมื่อรู้ว่ามันเป็นแค่การเล่น จองยูนาก็ยืนนิ่งไป
เธอขยับแค่ดวงตาแล้วสำรวจควอนอาริน ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ
“มันเป็นแค่การเล่น ไม่ต้องโกรธก็ได้…”
“งั้นเหรอ? แค่เล่นกันสินะ?”
“ใช่”
จองยูนาพยักหน้า ทำให้สวนสาธารณะเงียบไปชั่วขณะ
ความเงียบที่รู้สึกว่ายาวนานนั้น ถูกทำลายโดยจองยูนา
“…เธอเป็นนักผจญภัยใช่หรือเปล่า? เธอดูมีมานามากกว่าคนทั่วไปนะ”
“ใช่ ฉันยังเป็นมือใหม่อยู่ แต่ฉันก็เป็นนักผจญภัย”
“อ่า… ถ้างั้น ฉันมีไอเท็มที่ไม่ได้ใช้อยู่ เธออยากได้ไหม…?”
จองยูนาไอเบา ๆ อย่างประหม่า ก่อนจะเหลือบมองควอนอาริน
เธอรู้สึกผิดที่จู่ ๆ ก็เข้ามากระชากคนที่เล่นอยู่กับเด็ก เธอเลยอยากจะชดเชยให้
“ไม่เป็นไรหรอก”
ควอนอารินที่ยังตกใจอยู่ก้มหน้าลง
จองยูนาที่ตกใจกับปฏิกิริยานั้น คว้ามือของควอนอารินไว้ราวกับกำลังอ้อนวอน
“ฉันตั้งใจจะทิ้งมันอยู่แล้ว ถ้าเธอรับไว้เพื่อเป็นการขอโทษ ฉันจะรู้สึกขอบคุณมาก”
“อ่า… งั้น ฉันจะรับมันไว้โดยไม่เกรงใจแล้วกัน…”
“เฮะ เฮะ… เกรงใจงั้นเหรอ? คนที่ไม่รู้จักเกรงใจคือฉันต่างหาก”
จองยูนาหัวเราะแห้ง ๆ
เลวีนัสยังคงซุกอยู่ในอ้อมแขนของเธอ
“จอมเวทงั้นเหรอ? ฉากนี้มีอยู่ในซินเดอเรลล่าด้วยเหรอ?”
“ก็ คงงั้นมั้ง…? พอเล่นไปเรื่อยๆ ฉากมันก็เปลี่ยนไปเอง”
“งั้นเหรอ?”
เลวีนัสเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ผละออกจากอ้อมแขนของจองยูนา
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองควอนอาริน
“ซูพรีมมาสเตอร์ควอนอาริน คราวนี้เธออยากเป็นซินเดอเรลล่าไหม?”
“ฉันเหรอ ซินเดอเรลล่า?”
“ใช่! บทซินเดอเรลล่าดีที่สุดเลย เรามาสลับกันเล่นเถอะ!”
เป็นข้อเสนอที่มีแต่เลวีนัสผู้ใจดีเท่านั้นที่คิดออก
“อืม… ถ้าไม่ไดิเป็นซินเดอเรลล่าฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก…”
“จริงเหรอ? ลองเล่นบทอื่นก็ดีเหมือนกันนะ เลวีนัสอยากลองเป็นรถฟักทองดูด้วย”
“อ้า โอเค งั้นฉันจะเป็นซินเดอเรลล่า”
ควอนอารินสูดจมูกแล้วยิ้มออกมา
โล่งใจที่สถานการณ์คลี่คลายไปได้ด้วยดี
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
เช้าวันรุ่งขึ้น ตามนโยบายของกิลด์ที่ว่านอกจากทำงานหนักแล้วก็ต้องเล่นให้เต็มที่ด้วย ฉันตัดสินใจใช้เวลาทั้งวันเล่นกับเลวีนัส
“คยออุล วันนี้พี่ต้องฝึกสมาชิกใหม่ พวกเธอสองคนเล่นกันเองได้ไหม?”
“ได้ พวกเราสองคนเล่นกันเองได้”
ฉันตอบก่อนที่จะเหลือบมองควอนอารินที่ยืนอยู่ข้างยอรึม
อุปกรณ์ที่เธอสวมดูดีผิดปกติ
“อ-อันนี้จองยูนาให้ฉันมา เธอบอกว่าไม่ได้ใช้…”
พอเห็นฉันมอง ควอนอารินก็หน้าแดงก่อนจะตอบ
ฉันไม่คิดว่ามันคือ “อุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้”
แต่ถ้าจองยูนาบอกแบบนั้น มันก็คงเป็นแบบนั้น
“มันดูเข้ากับเธอมากเลย”
“ใช่ ของทั้งหมดนี่สุดยอดมาก ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ใช้ของแบบนี้ในชีวิต…”
ควอนอารินดูตื้นตัน สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
ก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกสงสารเธอ แต่พอเห็นเธอดีใจแบบนี้ก็รู้สึกโล่งใจ
“ถ้ามีคนแปลกหน้าชวนไปเล่นด้วย คยออุลควรทำยังไง?”
“ไม่ไป”
“ถูกต้อง ถึงจะให้ขนมก็ห้ามไป ต้องรีบหนีไปกับเลวีนัสให้เร็วที่สุดนะ”
“โอเค…”
มันฟังดูเหมือนกำลังสั่งสอนเด็กเล็กเลย
ฉันงุนงงไปชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้ามองยอรึม แล้วถึงรู้ว่าเธอไม่ได้พูดกับฉัน แต่พูดกับเลวีนัสเพื่อให้เธอจดจำคำแนะนำนี้
“พี่ต้องไปแล้ว โซเฟียเองก็เริ่มทำงานแล้ว เลยเล่นกับพวกเธอไม่ได้ วันนี้เธอสองคนต้องเล่นกันดี ๆ นะ”
“ได้ พวกเราจะเล่นให้สนุก เดินทางปลอดภัยนะ”
ฉันโบกมือลายอรึมก่อนจะหันไปหาเลวีนัส
แววตาของเธอเปล่งประกายซุกซนแบบที่มีแต่เด็กเท่านั้นที่มีได้
“ราชา! ไปผจญภัยกันเถอะ!”
“ผจญภัย?”
“ใช่! ไปที่ไกล ๆ แล้วค่อยกลับมา!”
“ไกลแค่ไหน…?”
ฉันกังวลว่าเธออาจจะอยากไปไกลเกินไป
แต่ตรงกันข้ามกับที่กังวล เลวีนัสไม่ได้เสนอให้ไปที่ไกลมาก
“ไปผจญภัยที่ห้างสรรพสินค้าที่เราไปครั้งที่แล้วกัน!”
ห้างสรรพสินค้า
มันอยู่ห่างออกไปประมาณสิบนาทีหากขับรถไป
เดินไปจะใช้เวลานานกว่า แต่ก็ไม่ถือว่าไกลมาก
“โอเค งั้นไปที่ห้างแล้วค่อยกลับกัน”
“ว้าว! งั้นเลวีนัสจะเอาอาวุธกับโพชั่นไปด้วย!”
อาวุธกับโพชั่นสำหรับการเดินเล่นแค่นี้ดูจะเกินไปหน่อย
แต่ความกังวลของฉันก็เสียเปล่า เพราะ ‘อาวุธ’ ของเลวีนัสไม่ได้เป็นอาวุธจริง ๆ
เลวีนัสเอาไม้ยาวมาหนึ่งอัน ส่วนของฉันคือหนังสติ๊ก
ส่วนโพชั่นก็คือ นมช็อกโกแลตสองขวด
“ราชาจะเป็นพลซุ่มยิง ส่วนเลวีนัสจะเป็นนักดาบ!”
“โอเค”
ฉันรับหนังสติ๊กจากเลวีนัส
ฉันไม่ได้จับมันมานานแล้ว แต่ความรู้สึกตอนถือหนังสติ๊กก็ไม่ได้แย่เลย
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
ฟึ่บ ฟึ่บ—
เลวีนัสเดินนำหน้าไป พร้อมกับแกว่งไม้ในมือราวกับเป็นดาบ
ฉันเดินตามหลังเธอ เว้นระยะห่างเล็กน้อย
เราสวมบทบาทกันเต็มที่ อาจเรียกได้ว่าเป็นการเล่นเป็นนักผจญภัย
“โอ๊ะ ดูเด็กพวกนั้นสิ”
“พวกเธอคงกำลังเล่นเป็นนักผจญภัยกัน”
คนที่เดินผ่านไปมาต่างมองเลวีนัสด้วยรอยยิ้ม ประทับใจกับจินตนาการของเธอ
เลวีนัสมีอะไรบางอย่างที่ทำให้คนรอบข้างยิ้มออกมาได้เสมอ
“เลวีนัส ตอนมีคนอยู่ใกล้ ๆ เธอไม่ควรแกว่งไม้นะ”
“โอเค เข้าใจแล้ว”
อาจเพราะมีคนอยู่รอบ ๆ เลวีนัสเลยกอดไม้ไว้แนบตัว
เสื้อของเธอเกี่ยวเข้ากับไม้แหลมจนขาด แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจเลย
ยังไงเสื้อผ้าของเธอก็เปื้อนและขาดอยู่แล้ว
“ราชา พอเราไปถึงห้างแล้ว เราลองเดินดูรอบ ๆ หน่อยดีไหม?”
“แค่เราสองคนเหรอ? เขาอาจไม่ให้เราเข้าไปนะ เพราะเราไม่มีเงิน”
“งั้นเหรอ…?”
“ใช่ แต่ฉันจะลองถามดู”
ฉันพกเงินมาด้วยเท่าไหร่นะ?
รู้สึกว่าฉันพกมาแค่ขั้นต่ำสุด เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
ขณะที่ฉันล้วงกระเป๋าตรวจดูเงินของตัวเอง จู่ๆ ก็ชนเข้ากับหลังของเลวีนัส เพราะเธอหยุดเดินกะทันหัน
ตุบ—
มีเสียงเบา ๆ ดังขึ้น หัวของฉันสะบัดไปข้างหลังเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไร
“ราชา! ราชา!”
“ฮืม?”
“เลวีนัสเจอตรอกน่ากลัว!”
เลวีนัสใช้ไม้ชี้ไปที่ตรอกแคบ ๆ ข้างหน้า
มันมืดสลัวและอึมครึม ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงเช้า
ไม่มีแสงแดดส่องเข้ามาเลย
“เธออยากเข้าไปตรงนั้นเหรอ?”
“ใช่!”
“มันดูอันตรายนะ…”
“แต่เลวีนัสอยากสำรวจเส้นทางนี้!”
มันอันตรายเกินไปสำหรับเลวีนัสที่ยังเด็กอยู่
ฉันคิดว่าต้องทำให้เธอกลัวสักหน่อย เพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ
“ถ้ามีงูโผล่ออกมาล่ะ?”
“ง-งู?!”
อึก!
เลวีนัสตัวสั่น
อยู่ ๆ คนที่เดินผ่านมาหัวเราะเบา ๆ
“ฮ่าฮ่า งูเหรอ?”
“น่ากลัวจังเลย”
ฉันกระซิบเบา ๆ พอให้เลวีนัสได้ยินคนเดียว แต่สุดท้ายคนอื่นก็ดันได้ยินหมด
มันน่าอายตรงที่ฉันพูดเกินจริงเพื่อทำให้เลวีนัสกลัว แต่ตอนนี้เรากลับดูเหมือนเป็นฝ่ายที่กลัวงูจริง ๆ ซะเอง?
หน้าของฉันร้อนผ่าวด้วยความอาย และทำได้แค่ก้มหน้ามองพื้น
“เลวีนัส มันอันตรายนะ ไปทางอื่นกันเถอะ…”
ก่อนที่ฉันจะพูดจบ เลวีนัสก็วิ่งเข้าไปในตรอกแล้ว
“ย้าา!”
เลวีนัสยกไม้ของเธอขึ้นสูง แล้วพุ่งเข้าไปในตรอก ท่าทางของเธอดูเหมือนฮีโร่จากอนิเมะที่เธอเพิ่งดูเมื่อคืน
“เลวีนัส!”
ฉันรีบวิ่งตามเธอไป
ตรอกนั้นคดเคี้ยวราวกับเขาวงกต แต่ฉันยังพอจะตามเธอไปได้จากเสียงฝีเท้า
‘เสียงฝีเท้าหยุดลงแล้ว’
เลวีนัสหยุดอยู่ที่ทางเลี้ยวของตรอก
ฉันเลี้ยวตามไป แล้วก็พบเลวีนัสกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
“เอ่อ…”
มีผู้ชายราวสิบคนยืนรวมตัวกันอยู่ สูบบุหรี่กันเต็มไปหมด
แขนของพวกเขามีรอยสักปลาคาร์ฟที่ดูน่าเกรงขาม
“…พวกคุณเป็นมนุษย์สัตว์สายพันธุ์ปลาคาร์ฟเหรอ?”
เลวีนัสเดินเข้าไปหาพวกเขาแล้วถามขึ้น
พวกผู้ชายขมวดคิ้ว ก่อนจะขยี้บุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดกับกำแพง
“ใช่ พวกเราเป็นมนุษย์สัตว์สายพันธุ์ปลาคาร์ฟ”
“เลวีนัสเป็นมนุษย์สัตว์สายพันธุ์กระต่ายมีเขา”
“เจ๋งดีนี่”
“ใช่ไหมล่ะ?! แต่ราชาของเลวีนัสน่าทึ่งกว่านั้นอีกนะ!”
หูของเลวีนัสกระดิกขึ้นขณะที่เธอหันมามองฉัน
ในเวลาเดียวกัน พวกผู้ชายที่มีรอยสักก็หันมามองฉันด้วย
บุหรี่กับรอยสักอิเรซูมิ
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน พวกเขาก็ดูอันตราย
หางของฉันม้วนเข้าหาท้องด้วยความหวาดกลัว
ฉันทำได้แค่ยืนตัวสั่น ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย
“เฮ้ จองซอก นายทำให้เด็กกลัวแล้ว”
“อะไรกันครับ พี่พูดกับผมแบบนั้นได้ยังไงครับ ในเมื่อผมออกจะหล่อซะขนาดนี้?”
“พอได้แล้ว กวังด็อก”
แกร๊ก—
ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าพี่ขยี้ก้นบุหรี่กับพื้นก่อนจะเดินเข้ามาหาฉัน
เขาดูสูงกว่าฉันอย่างน้อยห้าสิบเซนติเมตรในตอนนี้
ฉันเผลอแนะนำตัวออกไปโดยไม่รู้ตัว
“ฉ-ฉัน ฮัน คยออุล…”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ คยออุล”
ชายคนนั้นพูดพลางมองเลยฉันไปด้านหลัง
ฉันหันกลับไปตามสัญชาตญาณ แล้วก็เห็นกลุ่มคนกำลังเดินตรงเข้ามาหาเรา
พวกเขาถือมีดและไม้เบสบอล
เป็นพวกผู้ชายกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับอาวุธที่ดูอันตราย
มันดูเหมือนว่าพวกเขาอาจจะพุ่งเข้าใส่เราได้ทุกเมื่อ
เราบังเอิญเดินเข้ามากลางศึกแย่งชิงอาณาเขตของแก๊งอันธพาลหรือเปล่า?
ไม่ว่ายังไง ฉันก็ต้องปกป้องเลวีนัสให้ได้
ฉันรีบดึงเลวีนัสเข้ามากอด
“เลวีนัส หลับตาซะ”
“ฮืม?”
“เร็วเข้า…”
“อ-โอเค”
ฉันตัวสั่นและทำอะไรไม่ได้เลย พวกเราติดอยู่ระหว่างสองกลุ่ม ขณะที่ชายคนหนึ่งที่มีแผลเป็นบนใบหน้าเดินเข้ามาหาพร้อมกับมีดสั้น
“เฮ้ย คิมดูชิก…!”
“เฮ้ เด็ก ๆ”
ชายที่ถูกเรียกว่าคิมดูชิกชี้มาที่พวกเราด้วยนิ้วของเขา
ในเวลาเดียวกัน ชายที่ถือมีดและกำลังตะโกนก็หุบปากฉับ
“ฮืม… มีเด็กอยู่ที่นี่ด้วยแฮะ”
ชายที่ถือมีดมองลงมาที่ฉันด้วยความงุนงง ก่อนจะรีบเก็บมีดกลับเข้าไปในเสื้อของเขา
พวกลูกน้องของเขาก็รีบซ่อนอาวุธไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“พ-พวกคุณจะสู้กันเหรอ…?”
“ไม่นะ เปล่าสักหน่อย? พวกเราเป็นเพื่อนกัน”
ฮะ ฮะ ฮ่า
พวกเขาหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะเอาแขนพาดไหล่กัน
มือของพวกเขาที่จับไหล่กันแน่นจนเส้นเลือดปูดออกมา
กร๊อบ—!
ไม่รู้ทำไม แต่ดูเหมือนพวกเขาจะบีบไหล่กันแรงมาก
ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
MANGA DISCUSSION