กรรรร
เลวีนัสยังคงทำท่าทางข่มขู่ควอนอารินอยู่ เธอขยับเท้าไปมาอย่างกระวนกระวาย หรือไม่ก็กัดแครอทเหมือนเป็นแค่ขนม
โซเฟียมองพฤติกรรมของเลวีนัสก่อนจะเคาะไหล่ฉัน
“คยออุล ทำไมเจ้าตัวน้อยถึงโกรธอีกแล้วล่ะ?”
“เธอคิดว่าตัวเองถูกแกล้งน่ะ”
“…เข้าใจละ”
โซเฟียมองควอนอารินเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง ขณะที่เลวีนัสจ้องเธอด้วยสายตาระแวดระวัง
ถึงหน้าจะดูซูบเซียว แต่การวางตัวก็ยังก้าวร้าวอย่างเห็นได้ชัด
“เธอเคยกินช็อกโกแลตไหม?!”
“อ่า ใช่ เคยกินสิ”
“จริงเหรอ?! กินไปกี่อันแล้ว?!”
เธอกำลังพยายามวัดความเหนือกว่าด้วยจำนวนช็อกโกแลตที่เคยกินงั้นเหรอ?
ฉันรู้สึกสงสารเลวีนัสที่เลือกหัวข้อได้แย่ขนาดนี้
คนทั่วไปน่าจะเคยกินช็อกโกแลตมากกว่าพวกเราแน่ ๆ
“เอ่อ…? น่าจะเยอะจนจำไม่ได้…?”
“เยอะเกินไป?”
“ใช่…”
เมื่อควอนอารินพยักหน้า เลวีนัสก็ทำหน้าตกใจ
หลังจากชะงักไปชั่วครู่ เลวีนัสก็กลืนน้ำลายแล้วพูดขึ้น
“ถ้างั้น เธอเคยไปห้างไหม?”
“เคยสิ ฉันเคยไปห้าง”
“…กี่ครั้ง?”
“เอ่อ…? นั่นก็คงเยอะจนจำไม่ได้เหมือนกัน…?”
การที่เคยไปห้างจนจำไม่ได้ดูจะเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับเลวีนัส เธอรีบเข้ามากระซิบข้างหูฉัน
“โอ้ ราชา พวกเราแย่แล้ว…! เลวีนัสสู้ไม่ได้สักอย่างเลย…!”
“ดูเหมือนเธอจะรวยมากเลยนะ”
ไม่ใช่แค่ช็อกโกแลต แต่เธอยังเคยไปห้างนับครั้งไม่ถ้วนอีกด้วย
มันเป็นเรื่องที่ฉันจินตนาการไม่ออกเลยในตอนนี้
“ฮึก… เลวีนัสอยากชนะ ซูพรีมมาสเตอร์ควอนอารินสักครั้งแท้ ๆ…”
ไหล่ของเลวีนัสสั่นด้วยความสิ้นหวัง
ฉันรู้สึกสงสารท่าทางหมดหนทางของเธอ
“เลวีนัสยังเด็กอยู่ เด็ก ๆ เอาชนะผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ยากนะ”
“งั้นเหรอ…? แต่ราชาก็เอาชนะผู้ใหญ่ได้นี่…?”
“เอ่อ ก็อาจจะ…?”
ยังไงฉันก็เป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน
อาจจะมีเรื่องบางเรื่องที่ฉันเอาชนะได้
แต่ฉันก็ไม่ได้อยากต่อสู้หรือเอาชนะใครสักหน่อย
“ราชา ช่วยเอาชนะซูพรีมมาสเตอร์ควอนอารินให้เลวีนัสหน่อยได้ไหม?”
เลวีนัสเงยหน้ามองฉันด้วยสายตาอ้อนวอน
ฉันเบือนสายตาหนี เพราะไม่สามารถปฏิเสธดวงตาที่ชวนให้ใจอ่อนได้
“ฉันไม่ชอบการต่อสู้นะ…”
“…เอ่อ ถ้าราชาสู้ ซูพรีมมาสเตอร์ควอนอารินก็อาจจะตายได้สินะ”
ควอนอารินสะดุ้ง เธอสั่นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่า ‘ตาย’
สายตาของเธอจับจ้องไปที่คันธนูหลักบนหลังของฉัน
“เอ่อ มันเป็นความผิดของฉันเอง ดังนั้น…”
เมื่อควอนอารินค่อย ๆ เดินเข้ามาหา เลวีนัสก็ถอยหลังไป
เพราะถูกเลวีนัสดึงไว้ ฉันเลยถอยหลังตามไปด้วย
“ซูพรีมมาสเตอร์ควอนอาริน เลวีนัสเกลียดเธอ”
“เรียกแค่ควอนอารินก็ได้…”
อื๊อออ
ควอนอารินครางเสียงอ่อยเหมือนจะร้องไห้
ฉันชักจะสงสัยแล้วว่าหรือจริง ๆ แล้วเลวีนัสเป็นฝ่ายชนะ
‘ฉันหวังว่าพวกเขาจะหยุดทะเลาะกันสักที’
ฉันชอบเลวีนัสเวลาที่เธอใจดีและอ่อนโยนมากกว่า
ฉันไม่อยากเห็นเลวีนัสที่เต็มไปด้วยความโกรธแบบนี้เลย
ถ้าจะทำให้เลวีนัสสงบลง ฉันก็ต้องแสดงให้เธอเห็นว่าควอนอารินเป็นฝ่ายแพ้
แน่นอนว่าฉันไม่ได้คิดจะสู้กันจริง ๆ แต่จะใช้การแข่งขันเรื่องตัวเลขแทน ตามที่เลวีนัสต้องการ
ฉันรู้ว่ามันดูเด็กน้อยไปหน่อย แต่ในเมื่อเลวีนัสอยากชนะด้วยวิธีนี้ ฉันก็จะใช้
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ฉันก็เดินเข้าไปหาควอนอารินอย่างระมัดระวัง
ทุกครั้งที่ฉันขยับเข้าไปใกล้ ควอนอารินก็ดูหวาดกลัวขึ้นเรื่อย ๆ
“คือว่า…”
“คะ…?”
“ฉันอ่านการ์ตูนมามากกว่าสิบเล่มแล้ว…”
ฉันยกนิ้วทั้งสิบเพื่อบอกจำนวนให้ควอนอารินดู
การ์ตูนแค่สิบกว่าเล่มคือทั้งหมดที่ฉันเคยอ่านในชีวิตนี้
ฉันพูดถึงการ์ตูนโดยเฉพาะเพราะอยากอวดว่าฉันมีเวลาว่างเยอะ
มันค่อนข้างน่าอาย แต่ทั้งหมดก็เพื่อเลวีนัส
เพราะฉันไม่สามารถต่อสู้กับใครจริง ๆ ได้ต่อหน้าเลวีนัส
การทะเลาะกันเล่น ๆ แบบนี้ดูจะดีกว่าสำหรับการเรียนรู้ของเลวีนัส
“ว้าว ฉันก็ชอบการ์ตูนนะ”
“จริงเหรอ?”
“ใช่ เป็นเว็บตูนซะส่วนใหญ่ แต่ฉันอ่านเป็นร้อยเรื่องต่อเดือนเลยล่ะ”
“เป็นร้อย…!”
เป็นร้อยเรื่องต่อเดือน
ฉันไม่แน่ใจ แต่มันชัดเจนว่าเธออ่านมากกว่าฉันแน่ ๆ
เธอเป็นใครกันแน่?
มีเงินพอที่จะไปห้างบ่อย ๆ แถมยังมีเวลามากพอจะอ่านเว็บตูนเป็นร้อยเรื่องอีก?
เธอเป็นคนที่ฉันไม่มีทางเอาชนะได้เลยในตอนนี้
“คุณไม่ทำงานหรืออะไรเลยเหรอ…?”
“อ๋อ ฉันไม่ได้ทำ…?”
“ว้าว… คุณอ่านการ์ตูนได้เยอะขนาดนี้โดยที่ไม่ต้องทำงานได้ยังไงกัน?”
หรือว่าเธอได้รับมรดกก้อนโต?
หรือว่าเธอมีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์?
ฉันตั้งใจฟังเพราะอยากรู้ว่าคนรวยเขาใช้ชีวิตยังไง แต่ควอนอารินกลับหลบสายตาฉัน
“อ-อันนั้น…”
“คุณอ่านการ์ตูนได้ตั้งเยอะแถมยังมีเวลาเล่นเกมไปด้วยได้ยังไงเหรอ?”
“อันนั้น… ฮึก…”
ฉันพูดอะไรแปลก ๆ ไปหรือเปล่า?
น้ำตาเริ่มคลอขึ้นในดวงตาของควอนอาริน
ขณะที่ฉันกำลังงุนงงกับน้ำตาของเธอ โซเฟียก็คว้าชายเสื้อของฉันทันที
“คยออุล พอแค่นี้เถอะ”
“ท-ทำไม…?”
“บางครั้งความไร้เดียงสาของเด็กก็อาจทำร้ายผู้ใหญ่ได้นะ”
ความไร้เดียงสาของเด็ก
เลวีนัสทำอะไรลงไปงั้นเหรอ?
ฉันมองโซเฟีย หวังจะได้รับคำอธิบาย แต่สายตาของเธอกลับจับจ้องไปที่ควอนอาริน
“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ได้เข้าใจผิด เธอไม่ได้ต้องการแกล้งเจ้า เธอแค่สงสัยจริง ๆ”
“ค่ะ ฉันรู้ดี…”
ควอนอารินเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา
ฉันกับเลวีนัสไม่รู้เลยว่าเธอร้องไห้ทำไม จึงได้แต่มองเธออย่างงุนงง
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
หลังจากโซเฟียไปปลอบควอนอาริน ฉันกับเลวีนัสก็กลับไปที่โพรง
แม้กระนั้น เลวีนัสก็ยังแสดงความไม่พอใจอยู่
“สักวันหนึ่ง เลวีนัสจะเอาชนะ ซูพรีมมาสเตอร์ควอนอาริน ให้ได้!”
“อืม แต่ห้ามใช้กำลังนะ เข้าใจไหม?”
“ได้! เลวีนัสจะไม่ใช้ความรุนแรงอีกแล้ว!”
ค่อยโล่งอกหน่อย
ดูเหมือนผู้ใหญ่จะสั่งสอนเธอมาได้ดี
ขณะที่ฉันกำลังดีใจและลูบหัวเลวีนัส ก็มีใครบางคนเดินเข้ามาใกล้โพรง
จากเสียงฝีเท้า ฉันรู้ได้ทันทีว่าคือยอรึม
“ก๊อก ก๊อก มีใครอยู่ไหม?”
เนื่องจากเธอเคาะจริง ๆ ไม่ได้ ยอรึมจึงทำเสียงเคาะด้วยปาก
เสียงของเธอทำให้หางของฉันกระดิกอย่างมีความสุข
“อยู่สิ ฉันอยู่กับเลวีนัส”
“อ่า พี่ขอเข้าไปได้ไหม?”
“ที่นี่แคบเกินไปสำหรับคุณนะ”
“งั้นเหรอ ถ้างั้นพี่ขอโผล่หน้ามาดูจากเพดานก็แล้วกัน”
กร๊อบ—
หลังจากเคลียร์กิ่งไม้และใบไม้ออกจากเพดาน ยอรึมก็ปรากฏตัวขึ้น
เธอดูเหนื่อยนิดหน่อยด้วยเหตุผลบางอย่าง
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“พี่มีเรื่องจะคุยเกี่ยวกับรายได้”
“รายได้?”
“ใช่ พี่ให้อารินไปเรียกคยออุล แต่เธอกลับร้องไห้อยู่ตรงนั้นซะงั้น”
“อ่า คือว่า…”
ไม่ว่าเพราะอะไร พวกเราก็เป็นคนทำให้เธอร้องไห้
ฉันเกาหลังคออย่างเก้อเขิน
“คยออุล ออกไปคุยกันข้างนอกตึกสักหน่อยได้ไหม?”
“ได้ โอเค”
ฉันยื่นมือไปหายอรึมจากใต้โพรง
โพรงมันลึกเกินกว่าที่ฉันจะปีนขึ้นไปเองได้ เลยต้องขอให้เธอช่วยดึงขึ้นมา
“เฮะเฮะ ขุดโพรงลึกไปหรือเปล่า?”
ยอรึมดึงฉันขึ้นมา พร้อมกับถามแบบนั้น
เธอดึงแรงมากจนฉันไปอยู่ในอ้อมแขนของเธอเลย
“คือว่า ฉันไม่ค่อยชอบให้มีดินอยู่เหนือหัว… มันให้ความรู้สึกน่ากลัว ๆ”
“อ้อ เข้าใจแล้ว ขอโทษนะ พี่ไม่น่าพูดแบบนั้นเลย”
ตบ ตบ
ยอรึมตบหลังฉันเบา ๆ
สัมผัสของเธออบอุ่นมาก
การได้กอดใครสักคน มันมีความสุขขนาดนี้เลยเหรอ?
เมื่อไม่รู้ว่าควรทำยังไง ฉันก็เลยส่ายหางแรง ๆ
จากนั้น ยอรึมก็วางฉันลง แล้วเอื้อมมือไปหาเลวีนัส
ฉันรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
“ยอรึม เดี๋ยวเลวีนัสจะขุดอุโมงค์ให้กว้างและลึก ๆ เลย ยอรึมจะได้มาอยู่กับพวกเราได้?”
“อ่า ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”
“เย้!”
แล้วเราก็เดินไปที่อาคารกิลด์ด้วยกัน
ระหว่างทาง ยอรึมดูเหนื่อยมากจนฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเธอ
“คุณโอเคไหม?”
“ฮืม? หมายถึงอะไรเหรอ?”
“คุณดูเหนื่อยมากเลย”
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก พี่เพิ่งเริ่มทำงานเอกสารน่ะ”
งานเอกสาร?
ยอรึมไม่ใช่สายใช้แรงงานเหรอ?
ฉันเอียงศีรษะแสดงความสงสัย
“เพราะปกติพี่ใช้แต่ร่างกาย เลยไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ ก็เลยต้องเรียนรู้และค่อย ๆ ปรับตัวให้ชินกับงานเอกสารน่ะ”
“อ๋อ”
ก็จริง
งานเอกสารต้องใช้สมอง
มันก็น่าจะช่วยกระตุ้นสมองได้บ้างแหละ
“แล้วก็ ฮ่าาา…”
ระหว่างที่คุยกัน ยอรึมที่ดูเหนื่อยมากก็อ้าปากหาวยาว ๆ
แค่การหาวธรรมดากลับทำให้ฉันตกใจจนหูและหางลุกขึ้นทันที
“เฮือก!”
ความกลัวแล่นเข้ามาจู่โจมฉัน
ฉันกลัวมากจนเผ่นหนีโดยไม่หันกลับไปมองเลย
แค่เห็นการหาวแท้ ๆ แต่ทำไมหัวใจถึงเต้นแรงขนาดนี้?
ฉันวางมือบนอกของตัวเอง ขณะที่มองย้อนกลับไปยังเส้นทางที่วิ่งหนีมา และเห็นยอรึมค่อย ๆ เดินเข้ามา
“ค-คยออุล…?”
“ขอโทษ พอดีฉันตกใจเพราะคุณหาวได้น่ากลัวมาก…”
“หาวเหรอ?”
“ใช่ พอเห็นการหาวแล้ว อยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนกำลังจะถูกจู่โจม…”
หูและหางของฉันที่ตั้งขึ้นเมื่อครู่ตกลงอย่างหวาดกลัว
ฉันกลัวจนไม่กล้าสบตายอรึม และก้มหน้าลงแทน
“อ่า… หรือว่าเป็นเพราะสิ่งนั้น?”
“คุณรู้เหรอว่ามันคืออะไร?”
“อืม อาจเป็นเพราะการหาวมันคล้ายกับการแยกเขี้ยวก็ได้นะ…”
แยกเขี้ยว?
มันคืออะไร?
ฉันมองหน้ายอรึมอย่างงุนงง
MANGA DISCUSSION