มีเหตุผลที่ฉันอ่านการ์ตูนความรู้สำหรับเด็กอยู่
ฉันคิดว่าอาจจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของโลกนี้
“อืม…”
ส่วนใหญ่ดูคล้ายกัน แต่รายละเอียดกลับแตกต่างออกไป
ฉันเผลอจดจ่อกับการ์ตูน เพราะบางครั้งก็มีความรู้ใหม่ ๆ โผล่มาให้เห็น
“คยออุล หนังสือน่าสนุกไหม?”
“อืม น่าสนใจมากเลย ฉันไม่ได้ไปโรงเรียน ก็เลยมีหลายอย่างที่ไม่รู้”
“งั้นเหรอ?”
“ใช่”
มันไม่ใช่เรื่องโกหกที่ฉันไม่เคยเข้าโรงเรียน
เพราะเอาเข้าจริง ฉันไม่เคยไปโรงเรียนในโลกนี้เลย
ฉันรู้สึกอายที่ตัวเองไม่รู้อะไรมากนัก แต่ก็ดีที่มีข้ออ้างให้ตัวเองสำหรับการขาดความรู้ทั่วไป
“อืม… คยออุล อยากไปโรงเรียนไหม?”
โรงเรียนสินะ
เขาว่าการเรียนไม่จำกัดอายุ แต่ฉันไม่อยากไปโรงเรียนตอนนี้
ฉันส่ายหัวแรงจนหูสั่นไปมา
“ฉันไม่เป็นไร ฉันชอบเรียนเองมากกว่า”
“อ่า โอเค ถ้างั้น ถ้ามีอะไรที่ไม่เข้าใจตอนเรียน ก็ถามพี่สาวได้เลยนะ โอเคไหม?”
“โอเค…”
ฉันสงสัยว่ามันจะมีอะไรที่ฉันไม่เข้าใจจากการ์ตูนความรู้สำหรับเด็ก
ถึงจะเป็นของเด็ก แต่เนื้อหาใหม่ ๆ ที่ฉันเจอ ฉันก็เข้าใจได้ตั้งแต่แรกเห็น
จากนั้นไม่นาน ฉันก็เริ่มรู้สึกเสียศักดิ์ศรีกับหนังสือสำหรับเด็ก ฉันเจอเนื้อหาที่ฉันไม่เข้าใจ
‘โพด?’
โพดคืออะไรกัน?
ถ้ามันอยู่ในหนังสือเด็ก ก็คงเป็นอะไรที่เข้าใจง่าย แต่ฉันเพิ่งเคยเห็นคำนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาที่โลกนี้
ฉันเหลือบมองยอรึมก่อนจะถามเธอด้วยความระมัดระวัง
“โพดคืออะไรเหรอ…?”
“โพดเป็นหน่วยที่ใช้วัดน้ำหนักน่ะ”
“น้ำหนัก? ไม่ใช่กรัมเหรอ…?”
“ใช่ ปกติเราก็ใช้กรัม แต่ก็จะมีบางประเทศที่ใช้หน่วยเป็นโพดน่ะ”
“อ๋อ”
งั้นก็มีประเทศที่เหมือนกับอเมริกาในโลกนี้สินะ
พอมาคิดดูแล้ว คำว่าโพดก็ฟังดูคล้าย ๆ กับปอนด์อยู่หน่อย ๆ
“เฮะเฮะ หรือว่าสำหรับคยออุลจะยังยากไปหน่อย?”
“มันไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก…”
พูดแบบนี้กับคนที่อ่านการ์ตูนสำหรับเด็กอยู่มันก็ดูเหมือนประชดอยู่นิดหน่อย
แน่นอนว่าฉันรู้ว่ายอรึมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ฉันเลยตัดสินใจไม่คิดมาก
“เดี๋ยวพี่สาวจะซื้อหนังสือความรู้มาให้เพิ่มนะ…”
“คย๊า!”
ก่อนที่ยอรึมจะพูดจบ เลวีนัสก็ส่งเสียงร้องเบา ๆ ขึ้นมาข้าง ๆ
ฉันรีบหันไปมองเลวีนัส ก็เห็นว่าเธอกำลังถือเครื่องเกมพกพาอยู่
“เลวีนัส?”
“ราชา! เลวีนัสตายแล้ว!”
“อ่า โอเค”
เธอแค่ตายในเกมแค่นั้นเอง
ฉันแอบถอนหายใจโล่งอก
“ราชา คำว่า ‘ไร้ยางอาย[1]’ แปลว่าอะไรเหรอ?”
“ร-ไร้ยางอาย?”
ทุกคนในห้อง รวมถึงฉัน แสดงความสับสนออกมา
แม้แต่โซเฟียกับชเวจินฮยอกก็ยังดูเป็นกังวล
“ใช่! มีคนในเกมเรียกเลวีนัสว่า ‘ไร้ยางอาย’! เลวีนัสไม่ใช่หมานะ แต่เป็นกระต่ายมีเขา?!”
“ไปได้ยินคำนี้มาได้ยังไงเนี่ย…?”
“เลวีนัสกำลังฮีลมอนสเตอร์ที่กำลังจะตาย! แล้วพวกเขาก็เรียกเลวีนัสว่า ‘ไร้ยางอาย’!”
“โอ้ ไม่นะ”
ฮีลมอนสเตอร์ที่ควรจะถูกจับ
เลวีนัสยังเด็ก คงทำไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ แต่ในเกมแบบนี้มันถูกมองว่าเป็นการก่อกวนได้แน่ ๆ
“เลวีนัส นั่นมัน…”
ขณะที่ยอรึมกำลังจะแสดงความผิดหวังออกมา
เลวีนัสก็เริ่มพิมพ์ลงในแชตอย่างเงอะงะ
เธอพิมพ์บอกพวกเขาว่าตัวเองเป็นกระต่ายมีเขา โดยไม่รู้เลยว่านั่นอาจถูกมองว่าเป็นการยั่วยุได้
—บ้านมึงอยู่ไหนว่ะ?
“จู่ ๆ ก็ถามว่าเราอยู่ที่ไหน…! หรือว่าเขาอยากเป็นเพื่อนกับเลวีนัส?!”
เธอดูมีความสุขที่คิดว่าจะได้เพื่อนใหม่เหรอ?
เลวีนัสมองฉันด้วยดวงตาเป็นประกาย ความไร้เดียงสาของเธอทำให้สถานการณ์ยิ่งน่าอึดอัดเข้าไปอีก
“เลวีนัส พวกเขาโกรธเธอนะ”
“โกรธ? พวกเขาโกรธเลวีนัสเหรอ?”
“ใช่ คนนั้นพูดอะไรไม่ดีออกมา”
คำพูดไม่ดี
เลวีนัสเอียงคออย่างงุนงงกับคำพูดสั้น ๆ นั้น
“‘ไร้ยางอาย’?”
“อืม ใช่ นั่นเป็นคำไม่ดี”
“ทำไม ‘ไร้ยางอาย’ ถึงเป็นคำไม่ดีล่ะ? มันไม่ได้หมายถึงลูกหมาเหรอ?”
“นั่นมัน…”
ฉันควรจะอธิบายยังไงดี?
ฉันตัดสินใจอธิบายจากประสบการณ์ของตัวเอง
“คนจะพูดคำนั้นตอนที่พวกเขาตีฉัน”
“ตอนที่พูดว่า ‘ไร้ยางอาย’…?”
“อืม ใช่…”
“ว้าว! งั้นมันต้องเป็นคำไม่ดีแน่ ๆ เลย!”
เลวีนัสตกใจ แล้วหันกลับไปมองหน้าจอเกม
ฉันรู้สึกพอใจที่อธิบายได้ดีแล้ว เลยมองไปรอบ ๆ แต่กลับเห็นว่าทุกคนหน้าซีดกันหมด แม้แต่โซเฟียที่ปกติจะสุขุมก็ยังเป็นแบบนั้น
‘เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?’
ฉันอธิบายอะไรผิดไปเหรอ?
ขณะที่ฉันกำลังพยายามนึกทบทวน เลวีนัสก็เริ่มพิมพ์ในแชตอีกครั้ง
“คุณมันโง่”
—อะไรนะ ไอ้เวร?
“คุณเป็นงูที่แย่มาก ทั้งโง่แล้วก็ยังงูด้วย”
นั่นคือคำด่าที่แรงที่สุดที่เลวีนัสคิดออกเหรอ?
มันก็ดูน่ารักอยู่นิดหน่อย แต่ฉันปล่อยให้เธอเดินไปในทางแย่ ๆ ไม่ได้
“พอเถอะ เลวีนัส”
“แต่คนนี้เป็นฝ่ายพูดไม่ดีใส่เลวีนัสก่อนนะ!”
ถึงแม้ว่าเลวีนัสจะเป็นฝ่ายทำอะไรแปลก ๆ ก่อนก็ตาม
ฉันอยากจะอธิบายให้ถูกต้อง แต่ก็อยากปกป้องความไร้เดียงสาของเลวีนัสด้วย
หัวใจที่อ่อนโยนของเธอ ที่คอยรักษามอนสเตอร์ที่ควรจะถูกจับ
“เธอไม่จำเป็นต้องสู้ทุกครั้งที่เจอคนไม่ดีหรอกนะ”
“โอเค! เลวีนัสเข้าใจแล้ว!”
เลวีนัสก้มมองเครื่องเล่นเกมของตัวเอง พลางพองแก้มออก
เธอกำลังพิมพ์ข้อความบอกลาให้กับอีกฝ่าย
“ลาก่อน เจ้างูนิสัยไม่ดี”
—อ้าว ไอ้เชี่ยนี่! บ้านมึงอยู่ไหนว่ะ?!
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
เช้าวันรุ่งขึ้น
ฉันขยับตัววุ่นวายกว่าปกติ
ฉันตั้งใจจะทำงานให้หนักขึ้นในวันนี้ เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปกับการขี้เกียจเมื่อวาน
“อึก”
ถึงอย่างนั้น การอ่านหนังสือการ์ตูนไปมากกว่าสิบเล่มในวันเดียวก็มากเกินไป
ฉันรู้สึกละอายใจที่มัวแต่เล่นและกินโดยไม่ทำอะไรเลย
ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะทำงานโดยไม่หยุดไปสักปีหนึ่ง
ในตอนนั้นเอง ยอรึมก็เดินเข้ามาหาฉัน
“คยออุล วันนี้เธอตื่นเช้ากว่าปกติชั่วโมงนึงเหรอ?”
“ทำไมวันนี้คยออุลตื่นเช้ากว่าปกติตั้งชั่วโมงหนึ่งล่ะ?”
“ใช่ ก็เมื่อวานฉันเล่นมากเกินไป จนฉันคิดอยากทำงานโดยไม่พักสักหนึ่งปี”
“จริงเหรอ…?”
ยอรึมจ้องฉันด้วยอาการอ้าปากค้าง
เธออ้าปากแล้วก็หุบลง ราวกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง
“นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเล่นมากขนาดนั้น”
“อืม… เมื่อวานเราเล่นไปนานแค่ไหนกันนะ?”
“เราเล่นไปเกือบห้าชั่วโมง”
ไม่น่าเชื่อว่าเราเล่นไปตั้งห้าชั่วโมง
เวลาตั้งขนาดนั้น ฉันเอาไปทำอะไรได้ตั้งเยอะ
ขณะที่ฉันกำลังรู้สึกหงุดหงิด ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนมาจากที่ใกล้ ๆ
“กระต่ายมีเขาอยู่ไหน!”
เป็นเสียงของผู้หญิงที่กำลังโกรธ
ถึงแม้จะเห็นคนอารมณ์เสียในสวนสาธารณะเป็นเรื่องปกติ แต่คำพูดที่เธอเอ่ยออกมาทำให้ฉันสนใจ
“กระต่ายมีเขา?”
ในสวนสาธารณะแห่งนี้ มีแค่เลวีนัสเท่านั้นที่เป็นกระต่ายมีเขา
ทำไมผู้หญิงที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนถึงมาหาเลวีนัส?
ฉันสงสัยจึงเงยหน้ามองยอรึม และเธอก็กะพริบตาตอบกลับมา
“เธอมาหาเลวีนัสเหรอ…?”
“ใช่ ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น”
ยอรึมลูบคางตัวเองขณะครุ่นคิดหลังได้ยินคำตอบของฉัน
จากนั้นเธอก็สะกิดไหล่ฉัน
“คยออุล”
“ฮืม?”
“พี่จะซ่อนตัวแล้วดูอยู่ห่าง ๆ คยออุลช่วยออกไปรับหน้าคนเดียวได้ไหม?”
“ฉันเหรอ รับหน้าคนเดียว?”
จะให้ฉันไปเผชิญหน้ากับคนที่ดูน่ากลัวคนเดียวเนี่ยนะ?
ฉันส่ายหน้าทันทีโดยไม่ต้องคิด
“ก็เพราะว่าถ้าพี่อยู่ ท่าทีของอีกฝ่ายอาจจะเปลี่ยนน่ะสิ”
“อ่า…”
แปลว่าเธอต้องการซ่อนตัวเพื่อดูว่าอีกฝ่ายมีเจตนาอะไรจริง ๆ
เพราะถ้าอีกฝ่ายเห็นยอรึมเข้า อาจจะรู้สึกเกรงกลัว
“ถ้าดูท่าไม่ดี พี่จะรีบออกไปช่วยทันที”
“โอเค คุณจะออกมาก่อนที่ฉันจะโดนตีใช่ไหม…?”
“อ่า ใช่ ถ้ามีใครพยายามทำร้ายคยออุล พี่ไม่ยอมอยู่เฉย ๆ แน่”
“โอเค…”
ถ้ายอรึมพูดแบบนี้ ก็คงไม่ต้องกังวลแล้วล่ะ
แต่ทำไมคนนั้นถึงโกรธขนาดนั้นกันนะ?
ขณะที่ฉันกำลังเดินเข้าไปหาเธออย่างประหม่า อยู่ ๆ เลวีนัสก็โผล่ออกมาจากที่ไหนสักแห่ง
“เลวีนัสคือกระต่ายมีเขา!”
กระต่ายมีเขา
นั่นมันไม่ใช่ไอดีเกมของเลวีนัสจากเมื่อวานเหรอ?
‘หรือว่า…?’
การเผชิญหน้ากันในชีวิตจริงงั้นเหรอ?
ฉันรีบวิ่งไปหาเลวีนัส
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
ควอนอาริน
เธอเคยใฝ่ฝันอยากเป็นนักผจญภัย แต่หลังจากสิ้นหวังกับพรสวรรค์ที่ย่ำแย่ เธอก็เริ่มหมกมุ่นอยู่กับเกม
ท้ายที่สุดแล้ว เกมก็ตอบแทนเธอมากเท่ากับความพยายามที่เธอลงไป
ระดับนักผจญภัยของเธออยู่ที่อันดับล่างสุดมาหลายปี แต่เธอกลับไปถึงอันดับสูงสุดในแทบทุกเกมที่เล่น
เธอหวังว่าจะได้รับความพึงพอใจจากการไต่ระดับสูงในเกมที่เพิ่งเปิดใหม่นี้เช่นกัน
แต่ความรู้สึกดี ๆ ของเธอกลับถูกทำลายโดยโทรลตัวหนึ่ง
“ไอ้กระต่ายมีเขา ไอ้แม่ย้อย มึงบอกว่ามึงอยู่ที่สวนยอมยองนี่”
แม้ว่าเธอจะเป็นนักผจญภัยระดับต่ำสุด แต่เธอก็ยังสามารถจัดการกับคนธรรมดาได้ง่าย ๆ
และคนส่วนใหญ่ที่เธอเจอในเกมก็มักจะเป็นแค่คนธรรมดา
ไอ้เวรเอ๊ย
ต้องสั่งสอนมันสักหน่อยแล้ว
แต่ควอนอารินกลับชะงักไปทันทีที่เห็น “กระต่ายมีเขา”
“ธ-เธอคือกระต่ายมีเขาเหรอ?”
“ใช่! ทำไมต้องพูดจาไม่ดีกับเลวีนัสด้วย!”
เด็กน้อย
แถมยังเป็นเด็กมนุษย์สัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลอีก
ควอนอารินซึ่งมีเซนส์ในเกมอยู่บ้าง ในที่สุดก็เข้าใจสถานการณ์
‘หรือว่า…?’
เธอแค่รู้สึกสงสารมอนสเตอร์ที่กำลังจะตายเลยฮีลมันงั้นเหรอ?
มันเป็นไปได้มากเลย ถ้าดูจากความไร้เดียงสาของเด็กคนนี้
‘เธอเป็นกระต่ายมีเขาตัวจริง?’
ควอนอารินมองเห็นเขาเล็ก ๆ บนหน้าผากของเด็กคนนั้น
และหูกระต่ายที่กระดกขึ้น
ไม่ว่าจะมองตรงไหน ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นมนุษย์สัตว์กระต่ายมีเขา
ปากของควอนอารินอ้าค้างโดยไม่รู้ตัว
“ซุปเปอร์มาสเตอร์ควอนอาริน! ทำไมต้องพูดไม่ดีกับเลวีนัสด้วย!”
ซุปเปอร์มาสเตอร์ควอนอาริน
นั่นคือชื่อของไอดีเกมของเธอ
พอได้ยินชื่อไอดีตัวเองถูกตะโกนออกมาต่อหน้าผู้คน เธอก็หน้าแดง
“น-นี่…”
ขณะนั้นเองก็มีใครบางคนดึงชายเสื้อเธอเบา ๆ
เป็นเด็กสาวที่ให้ความรู้สึกราวกับฤดูหนาว พร้อมกับหูแมวสีขาว
MANGA DISCUSSION