“เลวีนัสพาตำรวจมา!”
เลวีนัสกระโดดไปมาภายในร้านเหมือนกระต่ายมีเขา
ฉันไม่อยากเชื่อว่าเลวีนัส ที่ฉันคิดว่าเรทสนิทกันแล้ว จะไปแจ้งตำรวจแบบนี้
เธอต้องแจ้งตำรวจว่าเราลักพาตัวเธอแน่ ๆ
ฉันไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้เลย ทำได้แค่ขอโทษเท่านั้น
“ขอโทษนะ เลวีนัส…”
“ขอโทษเรื่องอะไร?!”
“เรื่องที่พาเธอมาอยู่ที่กิลด์…”
แถมยังเอาปลอกคอที่มีระเบิดปลอมไปสวมคอเธอด้วย
มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำกับเด็กเลย แต่เราก็ยังทำ เพราะรู้ว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอันตราย
แต่จากที่คุยกันวันนี้ ทำให้ฉันเริ่มรู้แล้วว่า คนที่อันตรายจริง ๆ ไม่ใช่เลวีนัส แต่เป็นพวกคนที่อยู่กับเธอต่างหาก
“ฮืม? เลวีนัสไม่ได้แจ้งอะไรเลยนะ”
“ไม่ได้แจ้งเหรอ…?”
“ใช่! เลวีนัสไม่รู้วิธีแจ้งตำรวจ! ไม่เคยมีใครสอนเลย!”
ถ้าเธอไม่ได้แจ้ง แล้วทำไมเธอถึงมาพร้อมกับตำรวจล่ะ?
ฉันหันไปมองตำรวจทั้งสามคนในร้านด้วยความสับสน
“พวกคุณจะจับเราหรือเปล่า…?”
“เอ่อ คือว่า…”
เจ้าหน้าที่ทั้งสามลังเลและหันไปสบตากัน ราวกับกำลังสื่อสารอะไรบางอย่าง
“เด็กพวกนี้มาจากสวนยอมยองไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ คนที่เราได้รับแจ้งเข้ามาบ่อย ๆ ไง”
พอเจ้าหน้าที่หญิงพูดแบบนั้น เจ้าหน้าที่ที่ดูมีอายุมากที่สุดก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเรา และฉันก็ถอยหลังไปโดยอัตโนมัติ
“พวกเธอชื่ออะไร?”
“ฉันฮันคยออุล…”
“ส่วนข้าโซเฟีย”
“โซเฟียกับฮันคยออุล…”
เจ้าหน้าที่วัยกลางคนพิมพ์อะไรบางอย่างลงบนอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสขนาดเท่าฝ่ามือ พลางพึมพำชื่อของเราเหมือนกำลังตรวจสอบประวัติ
หรือตำรวจมาที่นี่เพราะฉันจริง ๆ ?
พอเริ่มเข้าใจสถานการณ์ มือทั้งสองของฉันก็สั่น
“ขอโทษ…”
การยอมรับผิดและขอโทษเป็นทางเลือกที่ถูกต้องในการลดโทษ
แต่เพราะฉันทำผิดหลายอย่าง ฉันเลยไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนดี
ในที่สุด ฉันก็ตัดสินใจเริ่มจากเรื่องที่เบาที่สุดก่อน
“ขอโทษเรื่องอะไร?”
“เรื่องที่ไม่มีบัตรประชาชน…”
ในฐานะมนุษย์สัตว์ที่ไม่มีบัตรประชาชน ฉันอยู่ในสถานะที่ถึงแม้จะถูกปฏิบัติเหมือนเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้
เจ้าหน้าที่วัยกลางคนกระแอมเสียงดังหลังจากได้ยินที่ฉันพูด
“…การไม่มีบัตรประชาชนเป็นเรื่องปกติ”
การไม่มีบัตรประชาชนเป็นเรื่องปกติอย่างนั้นเหรอ?
หรือว่าพวกเขาคิดว่าฉันเป็นผู้อยู่อาศัยผิดกฎหมาย?
บางทีตำรวจอาจจะกำลังมองหาอะไรที่มากกว่าการอยู่อย่างผิดกฎหมาย
‘…แย่แล้ว’
หรือว่าเป็นเพราะเรื่องนั้น?
ฉันเงยหน้ามองตำรวจด้วยสายตาสั่นไหว
“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฉันไปที่จุดรีไซเคิล…”
“ใช่ แล้วไงต่อ?”
“ใช่ แต่มีกาต้มน้ำอันหนึ่งที่ดูใหม่เกินกว่าจะถูกทิ้งไว้ที่นั่น”
“อืม”
พูดต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจมองลงมาที่ฉัน เหมือนจะบอกให้พูดต่อ
“…ฉันอาจจะเก็บของที่ยังมีเจ้าของไป”
มันเป็นกาต้มน้ำสีเงินเงาวับเหมือนกระจก
ฉันคิดว่ามันอาจจะไม่ได้ถูกทิ้ง แต่อาจจะเป็นของที่ทำหาย
บางทีเจ้าของกาต้มน้ำอาจจะแจ้งตำรวจ
“เธอเก็บของจากจุดรีไซเคิลบ่อยไหม?”
“บ่อย ฉันไม่มีเงินมาก…”
เจ้าหน้าที่วัยกลางคนถอนหายใจลึก ดูเหมือนจะผิดหวัง
เจ้าหน้าที่หญิงที่อายุน้อยกว่าก็แสดงปฏิกิริยาแบบเดียวกัน
“ที่ยอมยองเขาไม่มอบอะไรให้เธอเลยเหรอ?”
“ให้อะไรเหรอ?”
“ก็อย่างเสื้อผ้า อาหาร หรือความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ”
ความช่วยเหลือมีอยู่มากมาย
พวกเขายกเว้นค่าธรรมเนียมในการเคลียร์ดันเจี้ยนกระต่ายมีเขา และฉันก็สามารถจับปลาในบ่อได้
พูดตามตรง ฉันรู้สึกว่าความช่วยเหลือนี้มากเกินไปด้วยซ้ำ
แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงถามเรื่องความช่วยเหลือกันล่ะ?
ฉันเงยหน้ามองเจ้าหน้าที่ทั้งสองด้วยความสับสนโดยไม่พูดอะไร แล้วพวกเขาก็เริ่มคุยกันเอง
“นี่มันน่าตกใจจริง ๆ…”
“ใช่เลยค่ะ”
อะไรที่ทำให้พวกเขาตกใจนัก?
หรือว่าพวกเขาหมายถึงประวัติอาชญากรรมของฉัน?
ฉันก้มหน้ามองพื้นด้วยความละอาย
“ขอโทษ ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว…”
เหมือนอาชญากรทั่วไป ฉันได้แต่ขอโอกาสอีกสักครั้งโดยที่ไม่กล้าเงยหน้า
ถึงจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ฉันก็รู้ได้เลยว่าเขามองอาชญากรที่น่าสมเพชอย่างฉันด้วยสีหน้าแบบไหน
“เธอหมายถึงกาต้มน้ำนั่นเหรอ?”
“ใช่ ตอนนี้คิดดูแล้ว มันสะอาดเกินไป… ต่อไปฉันจะเก็บแต่ของที่สกปรกเท่านั้น…”
ของที่สะอาดมักจะมีเจ้าของ
ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย แม้ตอนที่เก็บที่นอนที่ดูเหมือนของใหม่มา
หรือบางทีฉันอาจจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่เลือกที่จะเมินเฉย
“อืม…”
“เอ่อ…”
“เฮ้อ”
เจ้าหน้าที่ทั้งสามถอนหายใจพร้อมกัน
โซเฟียมองดูอยู่ห่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ ส่วนเลวีนัสก็เดินสำรวจร้านด้วยความสนใจ
“ฉันกำลังจะถูกจับใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ เธอไม่โดนจับเพราะเรื่องแค่นี้หรอก”
“จริงเหรอ? ถ้างั้นต้องเสียค่าปรับใช่ไหม?”
ฉันรีบควักกระเป๋าเงินออกมา
เงินส่วนใหญ่ของฉันอยู่กับยอรึม ตอนนี้ในกระเป๋ามีแค่แบงก์พันวอนสามใบกับเหรียญอีกนิดหน่อย
‘เอ่อ…’
มีเงินน้อยเกินไปสำหรับจ่ายค่าปรับ
แต่ไม่ว่าโลกไหน ก็มีแนวคิดเรื่องการจ่ายล่วงหน้า
ฉันรวบรวมเงินในมือทั้งสองข้าง แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่อย่างนอบน้อม แสดงให้เห็นว่าฉันเต็มใจจ่ายค่าปรับ
“เท่านี้พอไหม…?”
ฉันยื่นมือออกไปพร้อมกับเงิน โซเฟียที่ยืนดูอยู่เงียบ ๆ ก็ส่ายหัว
“ตำรวจเอาเงินจากเด็กเนี่ยนะ ตกต่ำเกินไปหรือเปล่า”
“ไม่ใช่นะ! ไม่ใช่อย่างนั้น!”
“ไม่เป็นไร! เธอไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้น!”
เจ้าหน้าที่ทำท่าตกใจอะไรบางอย่าง แล้วโบกมือปฏิเสธเงินทันที
โซเฟียหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางลนลานของเขา
“งั้นพวกคุณมาที่นี่ทำไมล่ะ…?”
“พวกเราแค่ลาดตระเวน แล้วก็เห็นเด็กมนุษย์สัตว์ทำอะไรบางอย่าง พวกเราก็เลยสงสัยเธอกำลังอะไรอยู่”
“จริงเหรอ…?”
จริงด้วย
คงเป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นบ่อย ที่จะมีมนุษย์สัตว์สองคนอยู่ในร้านเฟอร์นิเจอร์
ฉันรู้สึกโล่งใจที่รู้ว่าพวกเขาไม่ได้มาจับฉัน
“เดี๋ยวพวกเจ้าหน้าที่จะพาพวกเธอกลับบ้าน เธอเลือกที่นอนได้หรือยัง?”
“ยังเลย…”
พวกเรายังไม่ได้เลือกเลย
พอฉันกำลังจะพูด จู่ ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงดังตุ้บตั้บ เลยหันไปมอง
“เลวีนัสสนุกจัง! เดี๋ยวจะกระโดดให้สูงขึ้นอีก!”
เลวีนัสกำลังกระโดดเล่นบนที่นอนด้วยเท้าที่เปรอะเปื้อน
ถึงจะยังมีพลาสติกหุ้มอยู่ แต่ดูท่าว่าพวกเราคงต้องซื้ออันนั้นแล้ว
“เอาอันนั้น”
โซเฟียก็ดูคิดแบบเดียวกัน เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่
สุดท้ายพวกเราก็ซื้อที่นอนจนได้ และราคาของมันก็สูงถึงสี่แสนวอน
“โซเฟีย แน่ใจนะ? มันแพงมากเลยนะ”
“ไม่เป็นไร นอนบนที่นอนก็ดีกว่านอนในกล่องไม่ใช่เหรอ?”
ก็จริงของเธอ
ขณะที่ฉันเริ่มทำใจได้ เจ้าหน้าที่ทั้งสามก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน
“กล่อง…”
“กิลด์ยอมยองนี่จริง ๆ เลย…”
“โหดร้ายเกินไปแล้ว”
ทำไมพวกเขาถึงถอนหายใจกัน?
ขณะที่ฉันสังเกตท่าทางของตำรวจ โซเฟียที่จ่ายเงินค่าที่นอนเสร็จก็เดินกลับมา
“เขาบอกว่าจะเอาที่นอนไปส่งให้ภายในวันนี้น่ะ”
“ดีเลย”
ฉันกำลังสงสัยอยู่พอดีเลยว่า ที่นอนใหญ่แบบนั้นเราจะขนกลับได้ยังไง ดีจังที่พวกเขามีบริการขนส่งให้
ขณะที่ฉันโล่งใจ ตำรวจชายวัยกลางคนก็ใช้นิ้วชี้ไปข้างนอกร้าน
“ในเมื่อเสร็จแล้ว ฉันจะส่งพวกเธอกลับบ้านเอง”
“โอเค…”
พวกเรากำลังโดนตำรวจคุ้มกันกลับบ้านเหรอ?
บางทีพวกเขาคงแค่เป็นห่วงพวกเราที่ดูเหมือนเด็กละมั้ง
มนุษย์สัตว์มีโอกาศถูกลักพาตัวสูง เนื่องจากหายาก
พวกเราเดินตามเจ้าหน้าที่ออกไปจากร้าน
แต่พอคิดว่าจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว ตำรวจที่จะไปส่งเราก็เคาะกระจกหลังของรถตำรวจ
“อยากมานั่งตรงนี้ไหม?”
“เอ๋…?”
“นั่งรถไปสบายกว่านะ”
ไม่นะ
นี่มันการจับกุมชัด ๆ เลย
ทุกอย่างเป็นแผนหลอกที่จะจับฉันอย่างงั้นเหรอ?
ฉันยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น มองรถตำรวจอย่างไร้สติ
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
‘อยากเจอคยออุลเร็ว ๆ จัง’
หลังจากทำธุระข้างนอกเสร็จ ยอรึมก็รีบกลับไปที่กิลด์อย่างตื่นเต้น ด้วยความรู้สึกที่อยากเจอคยออุลที่น่ารักและมนุษย์สัตว์คนอื่น ๆ
แน่นอนว่า หนึ่งในนั้นอายุมากกว่าเธออยู่หลายปี
‘แต่ทำไมโซเฟียถึงได้ดูเหมือนเด็กล่ะ?’
หรือว่าเป็นความเฉพาะตัวของมนุษย์สัตว์?
ขณะที่ยอรึมกำลังเดินพลางคิดเรื่องนี้ เธอก็ได้ยินเสียงดัง ‘ตุ้บ’
“ฮืม?”
ยอรุมหันไปทางเสียงนั้นโดยอัตโนมัติ จากนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
ที่เสียงนั้น มีคยออุลที่กำลังเคาะกระจกรถด้วยกำปั้นเล็ก ๆ ของเธอ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่กำลังจะไหลริน
“คยออุล?”
ทำไมคยออุลถึงอยู่ในรถตำรวจ แถมยังทำหน้าจะร้องไห้แบบนั้นอีก?
ขณะที่ยอรึมกระพริบตาด้วยความสับสน จ้องมองคยออุลที่นั่งอยู่เบาะหลังโดยไม่เข้าใจอะไร ไฟจราจรบนถนนก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว
วรูม—
เสียงเครื่องยนต์เบา ๆ ดังขึ้น ก่อนที่รถตำรวจที่พาคยออุลจะเริ่มเคลื่อนตัวออกไป
ในขณะเดียวกัน คยออุล มนุษย์สัตว์สายพันธุ์แมว อ้าปากกว้างจนเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมของเธอ
เสียงของเธอเหมือนลูกแมวที่กำลังร้องหาแม่
“คยออุล…?”
ยอรึมทำได้แค่มองดูรถตำรวจแล่นออกไปอย่างช่วยอะไรไม่ได้ มันค่อย ๆ เคลื่อนห่างออกไป ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในซอยและหายลับไป
คยออุลและยอรึมก็ทำได้เพียงจ้องตากันโดยไม่มีคำพูดใด ๆ จนกระทั้งคู่ลับสายตากันไป
MANGA DISCUSSION