“เฮ้อ”
จองยูนาถอนหายใจ ส่วนชเวจินฮยอกก็เอาแต่มองพื้น
ทั้งคู่นั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนคนที่ทำความผิดอะไรบางอย่าง
เกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นงั้นเหรอ?
ยอรึมเดินเข้าไปหาร่างทั้งสองที่ดูไร้เรี่ยวแรง
“พวกเธอทำอะไรกันอยู่?”
“อ๊ะ ยอรึม…”
จองยูนา ที่ปกติเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนจะสูญเสียพลังชีวิตไป
น่าจะเกี่ยวกับเรื่องของคยออุล
“เป็นเพราะคยออุลเหรอ?”
“ใช่ เราทำพลาด…”
“พลาดเหรอ?”
“ใช่ คือว่า…”
จองยูนาเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ตั้งแต่การเดินแจกช็อกโกแลตกับคยออุล ไปจนถึงคยออุลตกใจและวิ่งหนีไป
หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมด ยอรึมก็จิ๊ปาก
“น่าจะเป็นเพราะเสียงของจินฮยอกที่ทำให้คยออุลกลัว”
“ก็ดูจะเป็นแบบนั้น”
“เฮ้อ…”
จองยูนาถอนหายใจอีกครั้ง
ชเวจินฮยอกก้มหน้าลงเหมือนตอบรับเธอ
ท่าทางของพวกเขาเหมือนคนที่เผชิญกับวันสิ้นโลก
ยอรึมตบมือเพื่อปลุกพวกเขาให้ตื่น
“หยุดโทษตัวเองได้แล้ว อย่างแรกที่ต้องทำคือไปขอโทษคยออุล”
แปะ แปะ!
เสียงดังนั้นเหมือนปลุกพวกเขาให้ตื่นจากภวังค์ ความมีชีวิตชีวากลับคืนสู่สายตาของพวกเขา
“พวกเราควรขอโทษ แต่…”
เด็กคนนั้นจะยอมรับมันไหม?
หรือเธอจะยอมรับแค่เพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์เพิ่มเติม?
ขณะที่ชเวจินฮยอกพึมพำกับตัวเอง ยอรึมก็เห็นคยออุลวิ่งมาทางพวกเขา โดยยกตะกร้าช็อกโกแลตขึ้นสูง
ตึก ตึก ตึก ตึก—
เสียงนั้นคล้ายกับเสียงแมววิ่งอยู่บนพื้นไม้
เพราะเป็นมนุษย์สัตว์สายพันธุ์แมว ก้าวเท้าของเธอจึงเบาเป็นพิเศษ
ทำไมคยออุลที่เพิ่งวิ่งหนีด้วยความกลัวถึงกลับมาที่นี่อีก?
ในขณะที่ยอรึมกำลังสงสัย คยออุลก็เดินเข้ามาหาชเวจินฮยอกพร้อมใบหน้าที่เกร็งและยกตะกร้าช็อกโกแลตขึ้น
“ช-ช็อกโกแลต กรุณารับไปสักอัน…”
“อ่า โอเค”
ชเวจินฮยอกเอื้อมมือไปหยิบช็อกโกแลตจากตะกร้าที่คยออุลยื่นให้
เขามองคยออุลเป็นระยะอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงกลับมา
โดยไม่พูดอะไร เขาหยิบช็อกโกแลตไปหนึ่งอัน และคยออุลก็กลืนน้ำลายก่อนจะวิ่งหนีไปอีกครั้ง
ชเวจินฮยอก จองยูนา และยอรึมได้แต่มองตามร่างของคยออุลที่วิ่งจากไป
บางทีคยออุลก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ในแบบของเธอเอง
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
“ฮ้า…”
ฉันยื่นช็อกโกแลตให้ชเวจินฮยอกและกลับมาที่บ้านตู้คอนเทนเนอร์
ระหว่างทางกลับ ฉันยังยื่นช็อกโกแลตให้พนักงานร้านสะดวกซื้อที่มักจะดูเศร้าอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเพราะการวิ่งหรือความกลัวผู้คน หัวใจของฉันก็เต้นแรง
‘ฉันทำได้แล้ว’
ฉันสามารถยื่นช็อกโกแลตให้ชเวจินฮยอกที่น่ากลัวได้
มันอาจจะงุ่มง่าม แต่ก็เป็นการแสดงไมตรีจิตที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะสามารถทำได้
‘ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย’
อย่าเร่งรีบ ค่อย ๆ ก้าวไปทีละก้าว
บางทีสักวันหนึ่ง ฉันอาจจะสามารถพูดต่อหน้าผู้คนได้อย่างมั่นใจโดยไม่รู้สึกหวาดกลัว
“ฮู่ว”
ถึงแม้ว่าฉันจะกลัวก่อนที่จะทำ แต่หลังจากนั้นก็รู้สึกโล่งใจ
ในขณะที่ฉันเคาะหน้าอกที่เต้นแรงอย่างพอใจ โซเฟียก็เดินเข้ามาหา
“เป็นยังไงบ้าง แจกช็อกโกแลตได้ไหม?”
“ได้ แต่ฉันแค่ยื่นช็อกโกแลตให้แล้วก็พูดอะไรไม่ออกเลย”
“ไม่เป็นไร แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับตอนนี้”
โซเฟียพยักหน้าให้ฉัน
ท่าทีเรียบง่ายของเธอทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจ
“โซเฟีย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันได้พูดกับคนเยอะขนาดนี้ในวันเดียว”
“อย่างนั้นเหรอ?”
“อืม ฉันมักจะอยู่คนเดียวตลอด เลยไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยกับคนอื่นมากนัก”
“อา-อืม…”
ฉันพูดอะไรแปลก ๆ ไปหรือเปล่า?
โซเฟียมีสีหน้าจริงจัง ริมฝีปากของเธอเม้มลง
“สำหรับคนที่เคยอยู่คนเดียว เจ้าถือว่าฉลาดมากทีเดียว”
“ฉันเหรอ?”
“ใช่ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไม่เคยได้รับการศึกษาที่เหมาะสม แต่การที่เจ้าฉลาดขนาดนี้มันช่างน่าประหลาดใจ”
“เรื่องนั้น คือว่า…”
ฉันเกาหลังหัวกับคำชมทางอ้อมของโซเฟีย
ฉันไม่เคยไปโรงเรียนในโลกนี้ แต่ฉันได้รับการศึกษาที่เหมาะสมในโลกก่อน
ฉันรู้สึกผิด เหมือนกำลังหลอกเธอ แต่ฉันก็ไม่สามารถเปิดเผยเรื่องชีวิตในชาติก่อนได้
มีหวังพวกเขาได้คิดว่าฉันบ้าแน่
“ในความคิดของข้าคยออุล เจ้าทำได้ดีแล้ว อย่ารู้สึกแย่เพียงเพราะเจ้าเคยอยู่คนเดียวเลย”
“อืม…”
โซเฟียพยายามปลอบใจฉัน
ฉันรู้สึกเขินเล็กน้อย ฉันจึงรีบลุกขึ้น
“ฉันจะไปทำงานบ้านแล้ว”
“ข้าช่วยเอง จะเริ่มทำอะไรก่อน?”
คำถามของโซเฟียทำให้ฉันรู้สึกเกร็งโดยไม่รู้ตัว
ฉันกำลังจะเริ่มขั้นตอนที่สองของการใช้ชีวิตแบบคนศิวิไลซ์
ขั้นตอนแรกคือการเข้ากับเพื่อนบ้าน และขั้นตอนที่สองคือ…
“ฉันจะซักผ้า ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเริ่มใช้ชีวิตแบบมนุษย์ที่เหมาะสมตั้งแต่วันนี้”
“โอ้โห”
ดวงตาของโซเฟียเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจที่ฉันจะซักผ้า
ฉันทิ้งเธอไว้ข้างหลังและก้าวเข้าไปในเต็นท์ที่ตอนนี้ใช้เป็นที่เก็บของ
ฉันกำลังจะหยิบผ้าสำหรับซักและ ‘สบู่ซักผ้า’ ที่ซึ่งฉันซื้อมาเป็นครั้งแรกในชีวิตนี้
“คิดได้ดี คยออุล คนเราควรซักผ้ากันบ้าง”
โซเฟียลืมเรื่องขาเจ็บและเดินตามฉันมาติด ๆ
เธอถึงกับเริ่มหยิบเสื้อผ้าสกปรกของฉันไปเอง
“ฉันสกปรกขนาดนั้นเลยเหรอ…?”
“ยิ่งกว่าสกปรกอีก เจ้าดูเหมือนสัตว์ป่า”
“อย่างนั้นเหรอ…”
ถูกเอาเปรียบเทียบกับสัตว์ป่า
ตอนนี้ฉันเองก็เป็นมนุษย์สัตว์ เป็นคำชมละมั้ง
ฉันพยายามหาเหตุผลในขณะที่เก็บผ้า แต่ก็มีบางอย่างผิดปกติ
มีเสื้อผ้าหลายชิ้นหายไป
‘เกิดอะไรขึ้น?’
ฉันมีเสื้อผ้าเตรียมไว้สำหรับซักทั้งหมดสิบสามชิ้น
แต่ตอนนี้ ฉันเห็นแค่สิบตัว
“โซเฟีย เธอเห็นเสื้อผ้าของฉันไหม? เสื้อของฉันหายไป”
“ข้าไม่เห็น เจ้าเอาไปวางไว้ที่อื่นหรือเปล่า?”
“เป็นไปไม่ได้หรอก…”
เสื้อผ้าทุกชิ้นสำคัญต่อการเอาชีวิตรอด ดังนั้นฉันจำตำแหน่งของแต่ละตัวได้อย่างแม่นยำ
การหายไปของเสื้อผ้าอย่างไร้คำอธิบายนั้นน่าสงสัย
‘จะเป็นขโมยหรือเปล่า?’
แต่ที่นี่มีเขตกั้น แล้วใครจะเข้ามาได้?
แม้จะงุนงง แต่ฉันตัดสินใจซักผ้าก่อน
ฉันหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินไปที่บ่อน้ำพร้อมกับโซเฟีย
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
ซ่า!
ฉันกระโดดลงไปในบ่อน้ำแล้วเงยหน้าขึ้นมองโซเฟีย
เธอกำลังจ้องมาที่ฉัน ใบหน้าแข็งทื่อด้วยความประหลาดใจ
“โซเฟีย ลงมาสิ”
ฉันยื่นมือออกไปเพื่อช่วยโซเฟียที่ดูไม่ค่อยสบายใจกับน้ำ
แต่เธอกลับถอยหลังและยกมือขึ้น
“ข้าไม่ชอบน้ำ”
“…เธอเป็นฉลามไม่ใช่เหรอเหรอ?”
“เพราะสัญชาตญาณของฉลามกำลังกลับมา มันเลยเริ่มตื่นตัว”
สัญชาตญาณของฉลาม ฟังดูน่ากลัว
“โซเฟีย เธอไม่อาบน้ำเลยเหรอ?”
อึ๋ย
แม้แต่ฉันยังอาบน้ำเลย
ฉันอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วกับความคิดนี้
“…อาบน้ำไม่เป็นไร แต่ที่อันตรายคือความรู้สึกเหมือนว่ายน้ำ”
อ๋อ อย่างงี้นี่เอง
แค่เปียกน้ำก็ไม่เป็นไร
ฉันยื่นผ้าขึ้นไปให้โซเฟียที่ยืนอยู่ด้านบน
“งั้นช่วยฉันจากตรงนั้นได้ไหม?”
“ข้าช่วยได้ แต่…ซักผ้าตรงนี้จะดีจริงเหรอ?”
“ใช่ มีเวทมนตร์ชำระล้างในน้ำอยู่ ดังนั้นสิ่งสกปรกจะถูกทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว”
“น่าสนใจ”
โซเฟียแสดงความทึ่งพลางนั่งลงข้างบ่อน้ำ
เมื่อข้อเท้าของเธอสัมผัสน้ำ ฉันก็เห็นสีหน้าของเธอดีขึ้นทันตา
‘ดูเหมือนเธอจะมีอะไรเกี่ยวกับน้ำ’
น้ำสำคัญสำหรับเธอ แล้วสำหรับฉันล่ะ?
ฉันครุ่นคิดเรื่องนี้ในขณะที่เริ่มซักผ้า
ซ่า-ซ่า
แค่ล้างเสื้อผ้าที่สกปรกในน้ำมันก็เริ่มสะอาดขึ้นทันที นี่เพราะเวทมนตร์ชำระล้างในบ่อเลย
‘แต่ฉันคิดว่าน่าจะต้องใช้สบู่ด้วย’
หลังจากล้างผ้าอย่างดีแล้ว ฉันก็ถูสบู่อย่างระมัดระวังนอกบ่อ
โซเฟียที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ช่วยถูสบู่
ในขณะที่เราจดจ่อกับงาน คนรอบ ๆ ก็เริ่มซุบซิบกัน
“ดูสิ เด็ก ๆ กำลังซักผ้าด้วยมือละ”
“เฮ้อ… ฉันอยากซื้อเครื่องซักผ้าให้พวกเธอจัง ๆ ”
พอได้ยินคำว่า ‘เด็ก ๆ ’ โซเฟียก็ถึงกับตัวสั่น
ฉันเองก็หงุดหงิดเหมือนกัน แต่พอเห็นโซเฟียใจเย็น ฉันก็แค่ซักผ้าต่อไป
ยังไงก็ตาม ฉันไม่มีความกล้าที่จะโมโหพวกเขา
“โซเฟีย พวกเขาคิดว่าเธอเป็นเด็ก”
“…ตั้งใจซักผ้าเถอะ”
“ก็ได้…”
ซ่า-ซ่า
ฉันมองโซเฟียเป็นระยะขณะที่ซักผ้า
คราบสกปรกและคราบเขียวจากธรรมชาติที่เคยซึมลึกในเนื้อผ้า แต่ด้วยเวทมนตร์ชำระล้างของบ่อ พวกมันก็ถูกล้างออกจนหมด
เสื้อผ้าดูเหมือนใหม่เลย
ขณะที่ฉันตรวจดูเสื้อผ้าที่สะอาดท่ามกลางแสงแดดด้วยความสุข ยอรึมก็เดินเข้ามาหาเรา
“ว้าว คยออุลกำลังซักผ้าอยู่เหรอ?”
“ใช่ ฉันพยายามใช้ชีวิตแบบคนมีอารยธรรมแล้วตอนนี้”
“โอ้ ฉันรู้สึกซึ้งใจจริง ๆ …”
น้ำตาคลอในดวงตาของยอรึม
ทำไมแค่การซักผ้าถึงทำให้เธอซึ้งใจได้ขนาดนี้นะ?
ฉันเงยหน้ามองเธอด้วยความงุนงง
“คยออุล ทำไมไม่ใช้เครื่องซักผ้าล่ะ?”
“เครื่องซักผ้ามันแพงเกินไป…”
“ในตึกกิลด์มีห้องซักผ้าอยู่ แค่สองพัน…ไม่สิ แค่ห้าร้อยวอนต่อครั้งเอง”
ห้าร้อยวอนต่อครั้ง
ก็ยังแพงอยู่ดี แต่เมื่อเอาไปเทียบกับเวลาที่ต้องเสียไปแล้ว มันก็ไม่มากนัก
แถมตอนนี้ฉันหาเงินได้วันละสี่หมื่นวอนแล้วด้วย
“ฉันใช้ได้ด้วยเหรอ?”
“ได้สิ เราเป็นเพื่อนบ้านกันนี่นา”
เพื่อนบ้าน
หางของฉันกระดิกเมื่อได้ยินคำที่น่าฟังนั้น
มันรู้สึกเหมือนฉันได้กลายเป็นคนปกติแล้ว
‘ฉันควรใช้เครื่องซักผ้าจากนี้ไป’
ฉันจะได้ทำอย่างอื่นในเวลาที่เหลือ
ทันทีที่ฉันกำลังจะบิดเสื้อผ้าที่เปียก ยอรึมก็เอามันไปจากมือฉัน
“เดี๋ยวพี่ทำให้นะ พี่น่ะแข็งแรงมาก”
“โอเค”
ฉึบ—
ฉันเงยหน้ามองยอรึมขณะที่เธอกำลังบิดเสื้อผ้า
มีบางอย่างที่ฉันอยากถามเธอมาก
“คือ รอบบ้านไม่มีบาเรียเหรอ?”
“เรื่องนั้น…จริง ๆ แล้ว เรายังไม่ได้ติดตั้งบาเรียเลย”
“อ๋อ… งั้นบางทีอาจมีคนขโมยไป”
“ขโมย…?”
ยอรึมชะงักอยู่กับที่ และน้ำหยดจากข้อศอกของเธอ
“ใช่ ฉันวางผ้าไว้ใต้เต็นท์ และดูเหมือนว่าจะมีคนเอามันไปบางชิ้น”
เสื้อผ้าชุดโปรดของฉัน
มีของตั้งหลายอย่าง แต่พวกเขากลับขโมยสิ่งนั้นไป
ขณะที่ฉันสบัดเสื้อผ้าด้วยความรู้สึกสูญเสีย ฉันก็ได้ยินเสียงฉีกขาดดังออกมาจากมือของยอรึม
เธอฉีกเสื้อผ้าชิ้นโปรดเป็นอันดับสองของฉันด้วยแรงของเธอ
MANGA DISCUSSION