“ทำ ทำไมฉันถึงยิงไม่โดนสักดอกเลย…?”
เมื่อสักครู่ ฉันยังคุยโวเรื่องความแม่นในการยิงธนูของฉันอยู่เลย
แล้วทำไมตอนนี้ฉันถึงยิงกระป๋องตรงหน้าไม่โดนเลยสักใบล่ะ?
ฉันงุนงงกับสถานการณ์และเอาแต่จ้องเต็นท์ที่พัง จนกระทั่งโซเฟียพยุงไม้เท้าเดินมาหาฉัน
“ดูเหมือนมานาของเจ้าจะไม่ไหลเวียนน่ะ”
“มานา? ทำไมมานาถึงไม่ไหลเวียนขึ้นมาอย่างกระทันหันล่ะ?”
“น่าจะเป็นเพราะว่าเจ้าไม่ได้ตึงเครียดเหมือนกับตอนที่เจ้าล่ามอนสเตอร์”
“อ่า…”
ไม่ว่าจะเป็นตอนเผชิญหน้ามอนสเตอร์หรือตอนที่อยู่ในสถานการณ์คับขัน
ฉันสังเกตได้ว่าสายตาและการได้ยินของฉันจะคมชัดขึ้นผิดปกติ
บางที มานาของฉันอาจจะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อฉันรู้สึกถึงอันตราย
แต่ตอนนี้ กับที่เป้าหมายไม่มีอันตราย มานาของฉันก็เลนไม่ทำงาน
“ลองยิงโดยใช้ความตึงเครียดแบบตอนเผชิญหน้ามอนสเตอร์ดูสิ”
“โอเค แต่ก่อนอื่น ฉันควรจัดการตรงนี้ก่อน”
“อืม… ใช่ นั่นน่าจะดีที่สุด”
ฉันเดินไปที่เศษแก้วที่กระจายอยู่
ทีละชิ้น
ฉันใช้มือเล็ก ๆ ของฉันเก็บเศษแก้วอย่างขยันขันแข็ง
ขวดแก้วที่ราคาใบละหนึ่งร้อยยี่สิบวอน ตอนนี้แตกกระจายไปหมด
รวม ๆ แล้วก็เกินห้าร้อยวอน
ชิ
หางของฉันแสดงความหงุดหงิดโดยการกระแทกพื้นเอง
ในตอนนั้นเอง มีคนเรียกชื่อฉันมาจากที่ไกลๆ
“คยออุล! พี่ขายหินมานาได้แล้ว!”
“อืม”
เมื่อฉันหันไปมอง ฉันก็เห็นยอรึมกำลังโบกมือมาจากที่ไกล ๆ พร้อมกับถือเงินปึกหนึ่ง
ดูเหมือนกิลด์จะซื้อหินมานา และมันก็สำเร็จเร็วเพราะยอรึม เนื่องจากเธอเป็นสมาชิกกิลด์
“คยออุล… ฮืม? ทำไมเต็นท์ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?”
“เอ่อ ฉันกำลังฝึกยิงธนูแล้วพลาดไปทำมันพัง…”
“เข้าใจละ…”
ยอรึมเกาแก้มตัวเอง แล้วนั่งยอง ๆ ใกล้กับเศษแก้ว
โดยไม่หวั่นกับเศษแก้วที่แตก เธอตักเศษแก้วขึ้นอย่างคล่องแคล่วด้วยสองมือ
“ฉะ ฉันทำเองได้!”
ฉันปล่อยให้คนอื่นมาทำความสะอาดความผิดพลาดของฉันไม่ได้
ฉันรีบย่อตัวลงตรงหน้าเธอ แต่เธอดันฉันกลับ ป้องกันไม่ให้ฉันเข้าไปใกล้
“พี่จะจัดการเอง คยออุลยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะ”
“แต่ว่า…”
“ไม่เป็นไร พี่อยากทำให้เสร็จเร็ว ๆ จะได้ไปเล่นกับคยออุล”
ฉันเงียบไปเมื่อเจอกับความใจดีของยอรึม
ไม่ว่าจะเป็นการสอนฉันล่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยน หรือช่วยทำความสะอาดเศษแก้ว
เธอมีแต่ความใจดีอย่างเดียว
‘เธอเป็นคนดีจริง ๆ ใช่ไหม?’
ความสงสัยของฉันยังคงค้างคาและน่าหงุดหงิด
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเธอบอกฉันทุกอย่าง
แม้ฉันจะรู้สึกไม่ถูกต้อง แต่เหมือนที่ยอรึมบอก ฉันมีอะไรต้องทำอีกเยอะ
ฉันจึงตัดสินใจทำงานของตัวเองให้เสร็จก่อน
“โซเฟีย ไปเก็บดอกอาซาเลียด้วยกันเถอะ”
“ดอกอาซาเลียเหรอ?”
“ใช่ ฉันเห็นมันบานเยอะเลยตรงนั้น”
“อืม…”
โซเฟียกะพริบตาขณะครุ่นคิด ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง
ฉันรู้สึกดีใจเล็กน้อย ไม่สิ ดีใจมากเลย ที่ไม่ต้องเก็บดอกอาซาเลียคนเดียว
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
การใช้ชีวิตอย่างยากจนสอนฉันเรื่องหนึ่ง
บ่อยครั้งที่มีของที่ยังใช้ได้อยู่ถูกทิ้งเหมือนขยะ
ฉันมุ่งหน้าไปที่ถังรีไซเคิลในมุมหนึ่งของสวนสาธารณะ เพื่อหาอุปกรณ์มาซ่อมเต็นท์
ฉันหาแผ่นพลาสติกหรือผ้าคลุมไม่เจอ แต่ก็เก็บขวดเปล่ามาได้สองสามขวด
“ขวดนี้มีเศษบุหรี่ข้างใน…”
“ใช่ ถ้าทำความสะอาดดี ๆ เราก็ขายได้”
“โอ้โห…”
ตุบ—ตุบ—
ฉันเคาะคอขวดกับพื้น เศษบุหรี่ก็หลุดออกมาจากข้างใน
มันเป็นงานที่สกปรก แต่ฉันก็หยิบเศษบุหรี่ขึ้นมาโยนทิ้งในถังขยะ เหลือไว้แค่ขวดเปล่า
“ล้างพวกนี้ด้วยน้ำสักสองสามรอบก็น่าจะโอเคแล้ว”
“เจ้านี่เก็บทุกเม็ดจริง ๆ เลยนะ”
โซเฟียถือขวดเปล่าที่ฉันส่งให้
ฉันพาเธอไปที่พุ่มไม้ใกล้ ๆ พร้อมคิดในใจ
วันนี้ ฉันควรจัดการเต็นท์ด้วย
‘ถ้ามีเงินพอ ฉันน่าจะซื้อเทปกันน้ำได้ใช่ไหม?’
ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ฉันสามารถซ่อมรูบนเต็นท์ของตัวเองได้
ฉันรู้สึกตื่นเต้นในใจ ขณะยืนอยู่ใต้ต้นไม้ที่มีดอกอาซาเลียบานสะพรั่ง
“มาเก็บดอกอาซาเลียให้ได้เยอะ ๆ กันเถอะ”
ฉันสาธิตให้โซเฟียดูวิธีเด็ดกลีบดอกอาซาเลียโดยไม่ให้ขาด
มีเคล็ดลับในการเด็ดให้หลุดออกมาในครั้งเดียว
“เจ้านี่มือคล่องแคล่วมากเลยนะ”
“อืม โซเฟีย…”
โซเฟียก็มาร่วมด้วยสิ
ในขณะที่ฉันกำลังจะพูดแบบนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคู่ใกล้เข้ามา
ตึก—ตึก—
มีชายหนุ่มและหญิงสาวราวห้าคนกำลังเดินมาหา
‘ไม่ใช่นักผจญภัย… แค่คนที่มาเที่ยวสวนสาธารณะเหรอ?’
พวกเขามาที่นี่เพื่อชมดอกอาซาเลียหรือเปล่า?
หรือว่ามีธุระบางอย่างกับพวกเรา?
ฉันสับสนและถอยหลังไปโดยอัตโนมัติ
“สวัสดี?”
ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่หน้ากลุ่มโบกมือให้ฉันกับโซเฟีย
ฉันไม่รู้จุดประสงค์ของเธอ จึงได้แต่มองเธอเงียบ ๆ
“เฮ้ อย่าเข้าไปแบบกะทันหันสิ เด็ก ๆ จะตกใจเอา”
“โอ้ งั้นเหรอ…?”
“ใครเป็นเด็กกัน…”
โซเฟียบ่นอย่างไม่พอใจ ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นเกาหลังหัวตัวเอง
รอยยิ้มของเธอดูไม่มีพิษภัย แต่ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตแบบไร้เดียงสาที่จะไว้ใจใครจากรูปลักษณ์ภายนอก
เธอต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่
“ขอโทษนะ พวกเราแค่อยากแบ่งขนมให้”
“ขนม?”
“ใช่ พวกเรามาเที่ยวกัน แต่เอาขนมมามากเกินไป”
เธอยื่นตะกร้าให้ฉัน
กลิ่นมันหอม แต่ฉันไม่มีความตั้งใจจะรับมัน
“ไม่เป็นไร พวกเรามีขนมอยู่แล้ว”
ฉันยื่นดอกอาซาเลียที่เพิ่งเก็บมาให้ดู
กลีบดอกไม้สีชมพูดูสวย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง กลุ่มคนเหล่านั้นหน้าซีดและจ้องกลีบดอกไม้อย่างเดียว
“เหรอ? แล้วเราควรทำยังไงกับของพวกนี้ดีนะ? หรือเราควรโยนทิ้งลงถังขยะดี…?”
เธอไออย่างเก้อเขินแล้วเปิดตะกร้า
ข้างในมีแซนด์วิช เครื่องดื่ม และขนม
“……”
มันคงน่าเสียดายถ้าต้องทิ้งของพวกนี้
ฉันไม่รู้จะทำยังไง เลยได้แต่มองไปที่โซเฟีย
“ในนี้ไม่มีพิษใช่ไหม?”
โซเฟียขมวดคิ้ว สลับสายตาระหว่างฉันกับกลุ่มคนพวกนั้น
ดูเหมือนเธอมีอะไรอยากพูด แต่ก็กลั้นไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง
“ทำไมพวกเราต้องใส่พิษลงไปด้วยล่ะ?”
“พวกเราแค่อยากให้ เพราะพวกเธอสองพี่น้องสองน่ารักมาก”
“พี่น้อง…?”
โซเฟียเป็นฉลาม ส่วนฉันเป็นแมว เราจะดูเหมือนพี่น้องได้ยังไง?
ฉันสับสน กำลังจะจับมือโซเฟียแล้ววิ่งหนี แต่เธอกลับเอื้อมไปหยิบตะกร้าก่อน
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอรับน้ำใจนี้ไว้ด้วยความยินดี”
“อ๊ะ…!”
เธอยอมรับง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?
โซเฟียที่ฉลาด ไม่สงสัยอะไรเลย?
ฉันตกใจจนมองโซเฟียด้วยตาเบิกกว้าง
“ไม่ต้องกังวลไป ข้าคิดว่าข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงยื่นให้”
“แต่ว่า…!”
ถึงจะเป็นน้ำใจที่ไม่มีอันตราย แต่การรับของฟรีก็ยังทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ
ฉันกลอกตาไปมาแล้วยื่นดอกอาซาเลียให้พวกเขา
“นี่ เอาไปสิ…”
“ว้าว เธอจะให้พวกเราจริง ๆ เหรอ?”
“อะ อืม… ฉันเก็บมาได้ไม่เยอะ ให้ฉันเก็บเพิ่มให้ไหม…?”
“ไม่ต้องหรอก! แค่นี้ก็พอสำหรับเราแล้ว ใช่ไหมพวกเรา?”
ผู้หญิงคนนั้นหยิบดอกอาซาเลียขึ้นมาแล้วหยอกล้อด้วยการยัดมันเข้าปากของผู้ชายที่พยักหน้าอยู่ข้าง ๆ
‘อ๊ะ’
ถ้ากินสด ๆ มันจะรสเปรี้ยวมาก
ฉันกังวล แต่เขาเคี้ยวกินกลีบดอกไม้ได้โดยไม่มีปัญหา
“ขอบคุณนะ เราจะเอานี่ไปและกินให้อร่อย”
“อืม…”
ถึงฉันจะเก็บกลีบดอกไม้มาได้ไม่มาก แต่การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ก็สำเร็จ
ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกและมองกลุ่มคนที่เดินจากไป
ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมพวกเขาถึงใจดีกับฉัน
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
“อา เด็กพวกนั้นน่ารักจริง ๆ ”
“เห็นด้วย”
จองแชอามองดอกอาซาเลียในมือของเธอ
เธอรู้สึกสงสารเด็ก ๆ ที่เก็บขยะเลยยื่นขนมให้พวกเธอ แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนคือดอกไม้
ความมีน้ำใจของพวกเธอช่างน่ารัก แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกสงสารในเวลาเดียวกัน
“ทำไมเด็กมนุษย์สัตว์พวกนั้นถึงมาเก็บขยะที่นี่?”
“ใครจะไปรู้? ช่วงนี้มีมนุษย์สัตว์แถวนี้เยอะ บางทีอาจเกี่ยวกับเรื่องนั้น?”
ทำไมเด็กมนุษย์สัตว์พวกนั้นถึงไร้บ้านและอาศัยอยู่ในสวนสาธารณะ?
แล้วทำไมกิลด์ยอมยองถึงปล่อยให้เป็นแบบนี้?
ปกติกิลด์นี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักในเรื่องการเพิกเฉยต่อเรื่องแบบนี้
บางทีมันอาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับมนุษย์สัตว์โดยเฉพาะ
“…แต่ยังไงก็ดีกว่ามองข้ามพวกเธอ”
จองแชอารู้ตัวว่าเธอเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่เธอก็ตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่างเพื่อเด็ก ๆ
คลิก-!
จองแชอาหยิบสมาร์ทโฟนออกมาแล้วถ่ายรูปดอกอาซาเลียที่เธอได้รับจากเด็กคนนั้น
จากนั้นเธอโพสต์ข้อความสั้นๆ ลงบนโซเชียลมีเดียส่วนตัว
───
ให้ขนมเด็กน่ารัก ๆ ที่สวนสาธารณะยอมยอง แล้วได้ดอกไม้ตอบแทน?
───
เด็กมนุษย์สัตว์
ไร้บ้าน
เธอหลีกเลี่ยงการใช้คำที่ดึงดูดความสนใจในเชิงลบ
สิ่งที่จองแชอาต้องการคือให้ผู้ติดตามของเธอคิดถึงเด็กไร้บ้านในสวนสาธารณะด้วยตัวเอง
[สวนสาธารณะยอมยองสวยใช่ไหมล่ะ~]
[เด็ก ๆ ใจดีมากเลยนะ]
[ได้ยินมาว่าช่วงนี้มีเด็กมนุษย์สัตว์มาอยู่ที่นั่นเหรอ?]
ความสนใจที่เกิดขึ้นเองย่อมดีกว่าความสนใจที่หวือหวา เพราะมันยั่งยืนกว่า
กระกระตุ้นความสนใจในเชิงหวือหวาอาจกระตุ้นให้พวกมีความคิดแปลก ๆ มาทำอันตรายต่อเด็ก ๆ ได้
นี่คือความจริงที่จองแชอา ในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ได้เรียนรู้ตลอดหลายปีที่อยู่บนโซเชียลมีเดีย
‘ถ้าทุกอย่างไปได้ด้วยดี ก็ดีไป แต่ถ้าไม่…’
กิลด์ยอมยองจะยังเพิกเฉยต่อเด็ก ๆ อยู่หรือเปล่า ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา?
จองแชอาเงยหน้ามองตึกกิลด์ยอมยองด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า
MANGA DISCUSSION