พวกเรากลับไปที่เต็นท์พร้อมกับที่นอนใหม่และกล่อง
ขอบคุณที่จองยูนาใช้เวทมนตร์ยกที่นอน ทำให้ไม่ต้องออกแรงเลยในการนำมันกลับมา
“ว้าว”
แปะ! แปะ!
เมื่อฉันตบที่นอนด้วยฝ่ามือ ความยืดหยุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของมันก็เด้งกลับมาที่มือ
มันนุ่มและนิ่มมากจนแม้จะตีแรง ๆ ก็ไม่ทำให้มือเจ็บ
‘น่าทึ่งจริง ๆ ’
มันรู้สึกแทบจะเป็นการไม่ให้เกียรติเลยหากจะนำไปเปรียบเทียบกับกล่องธรรมดา
หลังจากจ้องมองที่นอนอยู่สักพัก ฉันก็จับกล่องตู้เย็นที่อยู่ใกล้ ๆ
เพื่อจะยื่นมันให้กับโซเฟียที่บ่นเรื่องที่นอนของเธอที่ไม่สบาย
“คือว่า เธออยากใช้กล่องนี้ไหม? มันใหญ่และดีมากเลยนะ”
“เจ้าเด็กนี่…”
พั๊วะ!
โซเฟียเคาะหัวฉันด้วยไม้เท้าของเธอ
แรงกระแทกเบา ๆ ทำให้ไหล่ของฉันหดลงโดยไม่ตั้งใจ
“อ่า ฉันก็แค่ถามเพราะเธออยากได้กล่องนี่ก่อนหน้านี้…จะนอนบนที่นอนก็ได้…”
ยังไงก็ควรเป็นแบบนั้น
มันสมควรที่จะยกที่นอนให้กับคนที่มีความบกพร่องทางร่างกาย
ขณะที่ฉันตบที่นอนด้วยความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย โซเฟียก็นั่งลงไปบนมัน
“เรียบร้อย ที่นอนนี้ใหญ่พอสำหรับคนสองคน”
“พวกเราสองคนเหรอ?”
“ใช่ พวกเราก็ตัวเล็กกันทั้งคู่นี่ใช่ไหม?”
จริง
ถึงแม้จะมีพวกเราสองคน ก็ยังมีพื้นที่เหลือบนที่นอนอีกมาก
แต่ฉันก็ไม่สามารถพยักหน้าตกลงได้ง่าย ๆ เพราะการแชร์เตียงกับใครบางคนที่ฉันแทบไม่รู้จักมันรู้สึกแปลก ๆ
“แต่ว่าเราไม่ควรนอนกับคนที่เราไม่รู้จักดีนะ…”
“เรียนรู้มาได้ดีนี่ แต่ตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้วใช่ไหม?”
“อย่างนั้นเหรอ?”
เรารู้จักกันแค่วันเดียวเอง
แบบนั้นถือว่ารู้จักกันได้เหรอ?
ขณะที่ฉันขมวดคิ้วครุ่นคิด จองยูนาก็เข้ามาแทรกระหว่างพวกเรา
“ไปหาเตียงเพื่มไม่ได้เหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้ ที่นอนแบบนี้หายาก อาจจะเจอสักครั้งในสิบปี”
“อย่างนั้นเหรอ? ใกล้บ้านฉันก็มีพื้นที่รีไซเคิลเหมือนกัน ฉันควรไปลองดูบ้าง”
เฮะเฮะ
จองยูนาเผยรอยยิ้มเก้อ ๆ
ฉันมองเธอ จากนั้นก็หยิบหม้อใบหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ
“อยากดื่มชาสักหน่อยไหม?”
“ชาเหรอ?”
“ใช่ ชาดอกแดนดิไลออนอร่อย ๆ ”
แม้ว่าเธอจะมาด้วยความไม่เต็มใจ แต่เธอก็ช่วยเรา ดังนั้นฉันรู้สึกว่าควรแสดงความขอบคุณบ้าง
ถึงจะเป็นแค่ชาแดนดิไลออน แต่นั่นก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
ฉันยกดอกแดนดิไลออนที่เตรียมไว้อย่างดีขึ้นมา
“ตกลง ฉันจะดื่มสักถ้วย”
“อืม…”
ดอกที่เอาไว้ทำชาแดนดิไลออนใกล้จะหมดแล้ว
พอคิดได้เช่นนั้น ฉันจึงใช้เตาแบบพกพาต้มชาแดนดิไลออน
ชาที่มีดอกไม้ลอยอยู่ด้านบนช่างดูสวยงาม
“ชาที่มีดอกไม้บาน”
“สวยจังเลย”
“ใช่ไหมล่ะ…?”
หลังจากเตรียมชาใส่ถ้วยสามใบสำหรับโซเฟีย จองยูนา และตัวฉันเอง ภาชนะที่ใส่กลีบดอกไม้ก็ว่างเปล่า
ฉันอยากจะทำกลีบดอกไม้เพิ่ม แต่แถวนี้จะมีดอกแดนดิไลออนให้เก็บไหมนะ?
ฉันจิบชา พลางมองออกไปข้างนอกผ่านรูในเต็นท์
“อร่อยกว่าที่คิด… ฮืม?”
“ฮืม…?”
โซเฟียและจองยูนา ที่ก็จิบชาเหมือนกัน จ้องมองไปที่ฝ่ามือของพวกเธอเหมือนนัดกันไว้
ทั้งคู่สูดลมหายใจลึกและพ่นออกมา ดูเหมือนจะงุนงงเล็กน้อย
“ทำไมเหรอ? มันไม่อร่อยเหรอ?”
“เปล่า มันอร่อยนะ แต่ทำไมมานาของฉันถึง…?”
“มานา?”
ทำไมจู่ ๆ ถึงพูดเรื่องมานาขึ้นมาตอนดื่มชาล่ะ?
ขณะที่ฉันกำลังครุ่นคิดถึงคำพูดแปลก ๆ ของจองยูนา เธอก็จิบชาต่ออีกจิบ
“โอ๊ะ?”
ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ดวงตาของเธอเบิกกว้างจนเห็นตาขาวทั้งด้านบนและด้านล่างของลูกตาอย่างชัดเจน
ฉันไม่สามารถมองข้ามความจริงที่ว่าชาที่ฉันชงเป็นต้นเหตุของปฏิกิริยาแบบนั้นได้
“ทำไม มีอะไรเหรอ?”
“ตอนที่ฉันดื่มชาดอกแดนดิไลออนนี้ มานาของฉันเพิ่มขึ้น…?”
“อืม… ของข้าก็เหมือนกัน”
“อะไรนะ…?”
มานาเพิ่มขึ้นจากการดื่มชาแค่ถ้วยเดียวเนี่ยนะ?
ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเลยในตอนที่ดื่ม
ด้วยความสับสน ฉันจิ้มดอกแดนดิไลออนที่ลอยอยู่บนถ้วย
ถึงพวกมันจะสวย แต่ยังไงมันก็เป็นแค่ดอกแดนดิไลออนธรรมดา ๆ
“ยิ่งดื่มมานาก็ยิ่งเพิ่ม”
“ไม่ควรไปหาหมอเหรอ…?”
“ไม่หรอก มันเป็นไปในทางที่ดีน่ะ”
ฟู่ว
ขณะที่โซเฟียพ่นลมหายใจออกมา ควันสีน้ำเงินก็ออกมาจากปากของเธอ
มันดูน่าประทับใจอยู่เหมือนกัน เหมือนกับว่าเธอกำลังใช้ลมหายใจในการโจมตี
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความสามารถประเภทบัฟ”
“บัฟเหรอ?”
“ใช่ นี่เป็นหนึ่งในความสามารถที่หายากมาก ในโลกที่ข้าจากมา แค่มีความสามารถนี้ก็สามารถได้รับยศขุนนางแล้ว”
“ว้าว…”
ยศขุนนาง ฟังดูดีจัง
แต่แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ว่าบนโลกนี้ไม่ใช่สังคมแบบแยกชนชั้น
แต่โลกอื่นก็คงจะแตกต่างไป
ฉันตัดสินใจที่จะไม่คาดหวังกับความสามารถนี้มาก
การคาดหวังมีแต่จะนำไปสู่ความผิดหวังที่มากขึ้น
นี่คือภูมิปัญญาชีวิตที่ได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์อันยาวนาน
‘…แต่เอฟเฟกต์บัฟนี้เกิดขึ้นมาได้ยังไง?’
มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากอาหารงั้นเหรอ?
ขณะครุ่นคิดเรื่องนี้ ฉันก็จิบชาดอกแดนดิไลอันอีกจิบ
จองยูนาพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“ด้วยมานาขนาดนี้ จะเป็นไปได้…?”
เธอตื่นเต้นเรื่องอะไรกันนะ?
ด้วยความที่รู้ถึงนิสัยดุดันของเธอ ฉันจึงถอยหลังไปโดยสัญชาตญาณ
“ฉันมีอะไรอยากลองหน่อย ขอฉันออกไปข้างนอกแป๊บนึงได้ไหม?”
“อ่า ได้สิ…”
ไม่ต้องกลับมาเลยก็ได้นะ
ฉันอดกลั้นความอยากพูดแบบนั้นออกไปดัง ๆ
หากอยากอายุยืน ก็ควรระวังคำพูด
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
ที่สำนักงานใหญ่ของกิลด์ยอมยองมีห้องทดลองอยู่ ซึ่งมีไว้สำหรับนักเวทย์ของกิลด์
ระหว่างทางไปที่นั่น จองยูนาก็ประเมินสภาพของตัวเอง
‘น่าทึ่งมาก’
แค่ชาหนึ่งถ้วยก็เพิ่มมานาได้ถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือบัฟของเด็กคนนั้นสามารถซ้อนทับกับโพชั่นบัฟอื่น ๆ ได้
โดยทั่วไปแล้ว บัฟจะใช้ได้แค่ทีละอย่างเท่านั้น แต่ชาของเด็กละเลยกฏข้อนั้นไป
ถ้ามีมานาถึงขนาดนี้ ก็อาจจะสร้างเครื่องมือเวทย์ที่เป็นแค่เพียงแค่ทฤษฏีอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้
‘มีอะไรนอกจากชานี่อีกหรือเปล่านะ?’
ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องสำรวจและยืนยัน
ขณะที่จองยูนากำลังรีบไปที่ห้องทดลอง เธอก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่ที่ปลายทางเดิน
คังจินโฮ หัวหน้ากิลด์ และเพื่อนร่วมงานของเธอ ฮันยอรึม
และยังมีเอนเซีย มนุษย์สัตว์หมาป่า กับอาร์โก้ มนุษย์กิ้งก่า ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ของเด็กคนนั้น
“มาสเตอร์?”
คังจินโฮเดินมาตามทางเดินด้วยอารมณ์ที่สดใสผิดปกติ ทำให้จองยูนาตกใจ
“ยูนา”
ฮันยอรึม เมื่อเห็นจองยูนา ก็รีบวิ่งมาหาเธอ
ถึงแม้เธอจะมีพลังทำลายล้าง แต่รูปลักษณ์ของเธอก็ดูน่ารักมาก
จองยูนาคิดอย่างนั้นในใจ
“ยอรึม เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“อ๋อ เป็นเพราะคยออุลน่ะ”
“คยออุลเหรอ?”
“ใช่ เราได้จัดตั้งพันธมิตรกับเผ่ามนุษย์สัตว์ในคาบสมุทรเกาหลี โดยแลกกับการดูแลคยออุลอย่างดี ทุกอย่างจบลงอย่างราบรื่นมาก”
“สุดยอดเลย”
พันธมิตรกับมนุษย์สัตว์ที่อาศัยซ่อนตัวอยู่ในป่าและไม่สนใจแม้แต่คำเรียกร้องของรัฐบาล
นี่อาจถือเป็นครั้งแรกในเกาหลีใต้ หรืออาจจะเป็นครั้งแรกของโลกอย่างเป็นทางการ
แต่ถ้าไม่เป็นทางการ นั่นอาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“มนุษย์สัตว์จะให้การสนับสนุนทางเทคนิคด้วยนะ น่าทึ่งไหมล่ะ?”
“มันน่าทึ่งจริง ๆ …”
เหตุผลที่มนุษย์สัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าได้รับการปฏิบัติราวกับบุคคลสำคัญในสังคมสมัยใหม่ก็เพราะเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา
“คยออุลเป็นพรจริง ๆ ”
“ฉันรู้…แถมฉันยังเคยใจร้ายกับเด็กคนนั้นด้วย”
“ไม่เป็นไร…เรายังมีเวลาให้ชดใช้อยู่”
“ใช่ ฉันจะค่อย ๆ พยายามทำให้มันดีขึ้น”
จองยูนาถอนหายใจยาว
เอฟเฟกต์บัฟแถมยังได้เป็นพันธมิตรกับมนุษย์สัตว์อีก เธอแค่อยากช่วยเท่านั้น แต่กลับได้มากกว่าที่คาดเอาไว้
เมื่อหลับตาลง จองยูนาก็ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เธอควรทำ
เธอตัดสินใจที่จะใช้มานาที่เพิ่มขึ้นมาสร้างเครื่องมือเวทย์ให้กับเด็กคนนั้น
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
“เฮะเฮะ”
นุ่มสบายสุด ๆ ไปเลย
ฉันนอนเล่นอยู่บนที่นอน
ฉันยังมีงานที่ต้องทำอยู่อีก แต่เพราะความนุ่มของที่นอนมันเลยยากที่จะลุกขึ้นมา
มันเป็นความสบายในระดับที่ฉันไม่ได้สัมผัสมานานหลายปี สิ่งนี้อาจทำให้ฉันขี้เกียจขึ้นได้
“เจ้าเด็กแสบ จะเริ่มฝึกได้เมื่อไหร่?”
“ข-ขออีกนิด ขอนอนต่ออีกเดี๋ยว”
ฉันซุกหน้าลงบนที่นอน บ่นงอแงเหมือนเด็ก
แล้วโซเฟียก็คว้าแขนฉัน พยายามดึงฉันให้ลุกขึ้น
ฉันขัดขืนเพราะไม่อยากถูกดึงขึ้น แต่โซเฟียกลับแรงเยอะกว่าที่คิด ฉันเลยไม่อาจเอาชนะเธอได้
“ลุกขึ้นมาเร็ว ๆ ”
“อืม…”
อยากซึมซับความนุ่มสบายอีกสักหน่อยจัง
ฉันลุกขึ้นจากที่นอนอย่างไม่เต็ม พร้อมกับทำปากจิ้มลิ้มด้วยความเสียดาย
และในตอนนั้นเอง โซเฟียซึ่งดูเหมือนจะหิวน้ำก็เทน้ำจากกาใส่แก้ว
“ว่าแต่ เราจะไปเอาน้ำได้จากที่ไหน? ข้าไม่เห็นที่เอาไว้เอาน้ำดื่มอยู่ใกล้ ๆ นี้เลย”
อึก—
พูดจบ โซเฟียก็ดื่มน้ำ
เธอต้องกระหายน้ำมากแน่ ๆ เลย เพราะเธอเล่นดื่มน้ำจนหมดในคราวเดียว
ไม่ใช่ว่าฉลามควรดื่มน้ำเค็มหรอกเหรอ?
ฉันหัวเราะเบา ๆ ในใจให้กับความคิดไร้สาระนี้
“ฉ-ฉันตักน้ำมาจากบ่อน่ะ”
“พรวด!”
ฉันพูดอะไรแปลก ๆ ออกไปงั้นเหรอ?
โซเฟียพ่นน้ำที่เธอดื่มออกมา
น้ำตาเอ่อขึ้นในดวงตาของเธอขณะที่เธอไอ
‘ฮืม?’
มันเป็นบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ฟอกน้ำราคาแพง
บ่อน้ำที่เป็นที่อยู่อาศัยของปลาและดูเหมือนจะสกปรก จริง ๆ แล้วมีน้ำที่สะอาดพอจะดื่มได้โดยตรง
ดังนั้น น้ำคงไม่ได้สกปรก เธอสำลักน้ำหรือเปล่านะ?
ฉันไม่แน่ใจเหตุผล แต่ฉันก็ตัดสินใจตบหลังเธอเพื่อช่วยไว้ก่อน
การที่น้ำติดคออาจทำให้รู้สึกไม่สบายอย่างมาก
MANGA DISCUSSION