ก่อนที่จะย้ายบ้าน ฉันจำเป็นต้องเก็บของก่อน
เนื่องจากมีของให้คนย้ายเยอะ ฉันจึงตัดสินใจนำรถเข็นที่ไม่ได้ใช้มาสักพักแล้วออกมา
แต่รถเข็นของฉันมันอยู่ที่ไหนกัน?
เมื่อมองไปรอบ ๆ ฉันก็เห็นรถเข็นขนาดพอดีอยู่หลังเต็นท์
รถเข็นอันนั้นเป็นรถเข็นที่ฉันใช้บ่อยในการขนย้ายสิ่งของหรือเก็บเศษขยะ
“รถเข็น…?”
ผู้หญิงคนนั้นใช้นิ้วของตัวเองลูบไปบนรถเข็น
จากนั้นสนิมสีส้มก็ติดปลายนิ้วของเธอ
“ฉันเอารถเข็นออกมาเพื่อขนของน่ะ ฉันคิดว่าต้องเข็นไปกลับประมาณห้ารอบ”
“จะขนเองเหรอ…?”
“ใช่ ฉันมีของเยอะมาก”
อย่างที่หลบภัยแล้วก็ที่ปิ้งย่าง
มีของชิ้นใหญ่อยู่หลายชิ้นเลย
ฉันตัดสินใจทำอย่างช้า ๆ และขนของทีละชิ้นโดยที่ไม่เป็นการหักโหมตัวเอง
‘แต่ก่อนอื่น ฉันต้องคิดวิธีจัดการกับกระปุกออมสินก่อน’
ธนบัตรและเหรียญ
ต้องทำยังไงถึงจะย้ายกระปุกออมสินที่เต็มไปด้วยเงินได้อย่างปลอดภัย?
ในขณะที่ฉันคิดอยู่คนเดียว ผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้าหาใกล้ฉันพร้อมกับลากรถเข็นมาด้วย
“คยออุลจะเอาของที่อยู่ที่นี่ไปให้หมดเลยใช่ไหม? แต่มันจะไม่ดีกว่าเหรอถ้าเอาแต่ของที่จำเป็นไป?
“ของที่ฉันจำเป็น?”
มีของที่ฉันไม่จำเป็นต้องใช้อยู่ที่นี่หรือเปล่า?
ขณะที่ฉันกำลังตรวจของแต่ละชิ้น ผู้หญิงคนนั้นก็หยิบหม้อที่ชำรุดแล้วขึ้นมา
“หม้อใบนี้มีรูอยู่ที่ก้น มันใช้ไม่ได้แล้วละ”
“อ่า อย่านะ! ฉันยังใช้อันนี้อยู่…!”
ฉันรีบคว้าหม้อมาจากมือของผู้หญิงคนนั้นอย่างรวดเร็ว
เธอกล้าดียังไงถึงได้จะมาทิ้งหม้ออันล้ำค่าของฉันไปแบบง่าย ๆ
ฉันซ่อนหม้ออันล้ำค่าของฉันไว้ด้านหลัง
“เป็นของที่ยังใช้ได้อยู่เหรอ?”
“ใช่ ฉันใช้มันใส่ของอย่างมะเขือเทศ”
“อ่า…สำหรับเก็บของนี่เอง”
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าและหยิบหินก้อนหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ขึ้นมา
มันเป็นหินจากกองหินที่ฉันเก็บสะสมเอาไว้ โดยคิดว่ามันอาจจะมีประโยชน์ในสักวัน
“คยยอุล ให้พี่เรียกรถขนของให้ดีไหม?”
“ไม่เป็นไร ฉันย้ายเองได้”
อะไรกัน?
ในขณะที่ฉันกำลังพึมพำกับตัวเอง มนุษย์สัตว์ทั้งสองคนก็เดินมาด้วยฝีเท้าหนัก ๆ
“ท่านผู้นำ! ฉันจะย้ายของหนัก ๆ ให้เอง!”
“ฉันก็จะช่วยด้วยค่ะ ถ้าหากเราทำมันด้วยกันก็จะเสร็จไวขึ้น”
“ค-คือ…”
แม้ว่าฉันจะได้รับคำขอโทษจากผู้หญิงคนนั้นแล้ว แต่ฉันยังไม่ได้รับข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับมนุษย์สัตว์สองคนนี้เลย
ด้วยความไม่ไว้ใจที่ยังเหลืออยู่ ฉันเลยยืนอยู่นิ่ง ๆ เพราะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร และผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์
“ถ้างั้น เรามาทำด้วยกันดีไหม?”
“ตกลง!”
“เราจะเริ่มย้ายของหนัก ๆ ไปไว้ข้าง ๆ กิลด์ก่อน
ก่อนที่ฉันจะทันได้ตอบตกลง มนุษย์สัตว์ทั้งสองก็เริ่มยกของขึ้นเพื่อเตรียมย้ายแล้ว
แม้จะยังมีความกังวลอยู่เล็กน้อย แต่ฉันก็ตัดสินใจปล่อยให้พวกเขาทำเนื่องจากของพวกนั้นไม่มีค่าให้ขโมย นอกจากกระปุกออมสิน
อีกอย่าง ฉันยังมีสิ่งสำคัญที่ต้องจัดการ
ฉันดึงชายเสื้อของผู้หญิงคนนั้นอย่างระมัดระวัง
“คือว่า…”
“อืม?”
“แถว ๆ กิลด์มีปลาให้จับไหม…?”
การจับปลาซิวเป็นงานอดิเรกเดียวของฉัน
ฉันรู้สึกเสียดายที่ต้องสูญเสียงานอดิเรกนี้ไป
“ทำไมเหรอ? หรือว่าคยออุลชอบตกปลา?”
“ใช่ มันสนุกดี”
การได้เห็นปลาซิวหลายสิบตัวกระโดไปมาอยู่ในกับดักมันสนุก
แถมยังมีประโยชน์ด้วย
การจะหางานอดิเรกที่สุดยอดกว่านี้คงเป็นเรื่องยาก
“อืม…ถ้างั้น ให้พี่ทำให้มันตกปลาได้ดีไหม?”
“ได้เหรอ…?”
“ได้สิ ที่หลังกิลด์มีบ่อน้ำขนาดใหญ่อยู่ แค่มีของไม่กี่อย่าง เราก็สามารถเลี้ยงปลาน้ำจืดและน้ำเค็มได้ทั้งคู่เลย
แค่มีของไม่กี่อย่าง
เธอพูดราวกับว่าการใช้ของที่มีราคาหลายร้อยถึงพันล้านวอนไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย
ความตื่นตระหนก ฉันรีบโบกมือปฏิเสธทันทีด้วย
“ไม่เป็นไร ฉันแค่พูดเฉย ๆ “
“ไม่หรอก จริง ๆ พี่ก็วางแผนจะเลี้ยงปลาสวยงามไว้อยู่แล้ว
“จริงเหรอ?”
“ใช่ พี่แค่อยากขอให้คยออุลช่วยควบคุมจำนวนประชากรของพวกมันให้หน่อยน่ะ”
“อ๋อ”
เข้าใจได้
เป็นไปไม่ได้หรอกที่กิลด์จะใช้ของที่มีราคาหลายแสนหรือหลายล้านวอนเพียงเพื่อฉัน
ดังนั้น การให้ฉันจับปลาได้บ้างเพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ฉันควบคุมจำนวนของปลาให้ก็ถือเป็นข้อเสนอที่ดี
เป็นข้อเสนอที่ต่างฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์
‘สมบูรณ์แบบ’
ฉันได้ที่ดินในเมืองแล้ว
แถมยังมีบ่อให้ตกปลาด้วย
ที่เหลือก็แค่การย้ายไปที่นั่น
“ฉันควรเริ่มย้ายไปเลยไหม?”
“ย้ายเลย เดี๋ยวพี่ช่วยคยออุลเอง”
และด้วยเหตุนั้น เราทุกคนจึงจับมือร่วมกันย้ายของ
ด้วยความช่วยเหลือจากหลายคน การย้ายเลยเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้มาก
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
บนชั้นสูงสุดของกิลด์ยอมยอง
คังจินโฮ กิลด์มาสเตอร์ ยืนอยู่ที่นั่นพร้อมถือแก้วกาแฟไว้ในมือและมองลงไปข้างล่าง
‘นั่นมันอะไร…’
ที่สวนหลังกิลด์
สถานที่ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นที่พักผ่อนสำหรับคนในพื้นที่และสมาชิกกิลด์ มีเด็กกำลังตั้งเต็นท์อยู่
วิธีที่เด็กเชื่อมเต็นท์ขาด ๆ เข้ากับต้นไม้ด้วยเชือกไม่ใช่ภาพที่พบเห็นได้ทั่วไป
การเคลื่อนของเด็กเต็มไปด้วยความชำนาญ ราวกับทำสิ่งนี้มานาน
แต่คำถามก็คือ ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้ตั้งเต็นท์ที่สวนหลังกิลด์
‘ทำไมเด็กถึงไม่มาอาศัยอยู่ในกิลด์ล่ะ?”
การครุ่นคิดของคังจินโฮกินเวลาไปเพียงสั้น ๆ
เขารู้ว่าเด็กคนนั้นไม่ชอบรับของมาแบบฟรี ๆ
ถึงแม้จะเชิญให้ไปอยู่ข้างใน เด็กคนนั้นก็คงปฏิเสธ
สมาชิกกิลด์ ฮันยอรึม คงพยายามอย่างเต็มที่แล้ว
คังจินโฮตัดสินใจที่จะไม่ตำหนิยอรึมในเรื่องนี้
เพราะมีเรื่องที่สำคัญให้น่ากังวลยิ่งกว่า
กล่าวคือ สายตาของผู้คนรอบ ๆ ที่มองมาที่เด็กคนนี้
‘นี่เป็นเรื่องใหญ่’
คังจินโฮขยายการรับรู้ของตนเพื่อตรวจสอบพื้นที่ของกิลด์
สมาชิกในกิลด์ส่วนใหญ่ต่างแอบซ่อนตามที่ต่าง ๆ เพื่อคอยมองเด็กผู้หญิงคนนั้น
สมาชิกกิลด์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลมากนัก ปัญหามันอยู่ที่พลเมืองทั่วไปที่เข้ามาเยี่ยมชมกิลด์ต่างหาก
“แม่จ๋า! ดูสิ มีแมวอยู่ตรงนั้นละ!”
“โอ้ ตายจริง…?”
มนุษย์สัตว์เด็กผู้หญิงที่ยังไม่ถึงวัยรุ่น
ภาพของเด็กคนหนึ่งที่ตั้งเต็นท์ใกล้พังในสวนหลังกิลด์เพื่ออาศัยอยู่
เป็นสถานการณ์ที่กิลด์อาจได้รับการร้องเรียนที่ไม่อาจแก้ตัวได้
“อืม”
ทั้งหมดนี้คงเป็นกรรมของกิลด์
คังจินโฮตัดสินใจยอมรับสถานการณ์
แม้ว่าจะต้องถูกวิจารณ์ แต่มันก็ดีกว่าปล่อยให้เด็กอยู่ในที่ลับสายตา
ในตอนนี้ เขาเลือกที่จะเฝ้าดูเท่านั้น
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
มีป่าละเมาะอยู่หลังสวนกิลด์
ฉันตั้งเต็นท์ในจุดที่ลับตาที่สุดของป่าละเมาะ
“ว้าว”
ตอนนี้ฉันมีบ้านอยู่กลางเมืองแล้ว
ฉันมีความสุขมาก แต่ก็ยังวางใจไม่ได้
ฉันยังจัดทุกอย่างไม่เสร็จ
ฉันซ่อนกระปุกออมสินไว้ที่ปลายเต็นท์ ในที่ที่มีแค่ฉันเท่านั้นที่รู้
ฉันใช้เวลานานอยู่พอสมควรในการก่อไฟ เพราะฉันต้องทำให้มั่นใจว่าไฟจะไม่ลุกลาม
“ท่านผู้นำ! จะให้วางเตาย่างเนื้อไว้ตรงไหนดีครับ?”
“ตรงนี้”
“แล้วกระจกที่แตกแล้วอันนี้ล่ะคะ?”
“กระจกเอาไว้ในเต็นท์!”
เป็นเพราะเราช่วยกันจัดของหรือเปล่า?
การย้ายของเลยเสร็จเร็วกว่าที่คิด
“ท่านผู้นำ! เดี๋ยวผมจะไปยกของหนัก ๆ มาเพิ่มนะครับ!!”
“ฉันไปด้วย”
หมาป่าสาวจับรถเข็นเก่า
ฉันรู้สึกผิดที่ปล่อยให้พวกเขาทำงานที่ต้องใช้แรงเยอะทั้งหมด
“เดี๋ยวก่อน ฉันจะไปด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ แบ่งหน้าที่กันจะทำให้เสร็จเร็วขึ้น”
“ก-ก็ได้…”
ทำไมพวกเขาถึงช่วยฉัน?
ฉันไม่รู้เหตุผล แต่พวกเขาอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ฉันคิด
‘น่าจะเสร็จเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้’
เมื่อมีใครช่วยเหลือ เราก็ควรตอบแทน
ขณะที่ฉันกำลังคิดว่าจะทำอะไรตอบแทนพวกเขา จู่ๆ ก็มีใครบางคนเดินออกมาจากพุ่มที่อยู่ใกล้ ๆ
“หือ?”
ผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ?
เธอกลับมาจากการตรวจไอเทมสำหรับบ่อแล้วเหรอ?
ฉันหันไปทางเสียงโดยไม่คิดอะไรและก็ต้องตกใจ
มีมนุษย์สัตย์ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนยืนอยู่
“ปลาวาฬ…?”
เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มีผมสีฟ้าและมีหางเหมือนปลาวาฬ
เธอดูค่อนข้างเด็ก แต่แก่กว่าฉัน
“ฉลามต่างหาก ไม่ใช่วาฬ”
“ฉลาม?”
“ใช่”
เด็กผู้หญิงที่พิงไม้เท้าเดินเข้ามาหาฉัน
การเข้ามาแบบฉับพลันทำให้ฉันน่ากลัว แต่เพราะเธอดูอ่อนแอ ฉันจึงไม่ได้วิ่งหนีไป
“แล้วฉลามต้องการอะไรจากฉัน…?”
“อืม… ก่อนหน้านั้น ขอฉันดูรอบ ๆ หน่อย”
เด็กสาวที่พิงไม้เท้าเดินวนรอบตัวฉัน
เธอค่อย ๆ เดินวนรอบฉัน มองซ้ายมองขวา และมองขึ้นลง
ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกจ้องนานขนาดนี้
“เธอเป็นใคร?”
“ฉันชื่อโซเฟีย”
“โซเฟีย?”
“ใช่ ผู้อาวุโสของมนุษย์สัตว์”
อะแฮ่ม
โซเฟียกระแอมและเคาะพื้นด้วยไม้เท้า
เสียงที่ชัดเจนนั้นทำให้จิตใจของฉันสงบลง
“ผู้อาวุโสของมนุษย์สัตว์คืออะไร?”
“เธอจะคิดว่าฉันเป็นคนที่ดูแลว่าที่กษัตริย์ก็ได้ ตอนนี้ฉันอยู่ในฐานะผู้ใหญ่ ดังนั้นเธอควรแสดงความเคารพหน่อย”
“ว่าที่กษัตริย์…?”
ถึงจะมีมานาและมอนสเตอร์ แต่ที่นี่คือเกาหลีใต้ไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงพูดถึงกษัตริย์ในประเทศประชาธิปไตย?
ในสถานการณ์ที่ชวนงง ฉันแค่กระพริบตาและนั่งอยู่เฉยๆ
“ชัดเจนว่าเคยอยู่ในป่า…”
เด็กสาวที่แนะนำตัวว่าโซเฟียกำลังตรวจดูเต็นท์ของฉัน
เธอเอาไม้เท้าจิ้มเต็นท์และกดลงบนหม้อเก่า
“หยุดเถอะ เดี๋ยวหม้อมันจะบุบมากขึ้น”
“ไม่ใช่ว่ามันบุบอยู่แล้วเหรอ?”
“ก็ใช่ แต่ฉันไม่อยากให้มันบุบไปกว่านี้”
มันมีความแตกต่างระหว่างหม้อบุบที่พอใช้ได้กับหม้อบุบที่ใช้งานลำบากอยู่
คนธรรมดาไม่เข้าใจความแตกต่างนี้ ดังนั้นจึงช่วยไม่ได้
“อืม…”
เด็กสาวเก็บไม้เท้าและนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ ๆ
เธอนั่งโดยเอามือทั้งสองวางไว้บนไม้เท้า คล้ายคนแก่
ทำไมคนที่ยังเด็กอยู่ถึงได้ทำตัวเหมือนคนแก่?
ถึงจะน่าสงสัย แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญสำหรับฉัน
“คือว่า ตรงนี้เป็นที่ดินของฉันแล้วนะ…”
“ป่าเถื่อน…”
เด็กสาวหลับตาโดยเมินคำพูดของฉันในขณะที่นั่งบนเก้าอี้
ดูเหมือนเธอกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ และเคาะหัวไม้เท้าด้วยนิ้วเป็นระยะ
ใช้เวลาสักพักก่อนที่เธอจะลืมตาอีกครั้ง
“ก็แค่เด็กที่น่าส่งสารไม่ใช่หรือไง…?”
MANGA DISCUSSION