พวกคนรวยไร้สาระก็อยากได้ของหรูหรามากขึ้น ส่วนพวกนักผจญภัยฝีมือเยี่ยมก็ต้องการอุปกรณ์ที่ดีกว่าเดิม
มนุษย์มักอยากได้สิ่งของที่เหมาะสมกับฐานะของตน
เพราะงั้น มันก็ไม่แปลกอะไรที่ฉัน ซึ่งอยู่ต่ำสุดของห่วงโซ่สังคม อยากได้แค่รถเข็นสักคัน
แค่เจอกระทะที่ยังใช้ได้ก็ดีใจจะแย่แล้ว
รถเข็นที่เกือบใหม่คันนี้ ก็เหมือนรถในฝันของฉันเลย
“งื๊อออ…”
ฉันก้มหน้าลงมองพื้นแล้วออกแรงลากรถเข็นเต็มที่
การลากรถเข็นมันเหนื่อยก็จริง แต่เป็นความเหนื่อยที่รู้สึกดี
หนึ่งก้าว
แล้วก็อีกหนึ่งก้าว
ฉันพยายามลากต่อไป แต่ก็ต้องหยุดเพราะมีใครบางคนขวางอยู่
“สวัสดี คยออุล?”
เป็นแชจูยอน หัวหน้ากิลด์ซาเครด
เธอยืนอยู่ข้างหัวหน้ากิลด์อีกคน
แค่เห็นหน้าคุ้นเคยของพวกเขา หางของฉันก็ส่ายไปมาอย่างมีความสุข
“สวัสดี”
“หวัดดี คยออุล ทำอะไรกันอยู่น่ะ?”
แชจูยอนมองฉันสลับกับคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น
คนที่นั่งอยู่ดูจะงง ๆ
“ฉันเพิ่งได้รถเข็นคันใหม่ เลยมาลองลากดู”
“เหรอ?”
“ใช่ แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่เหรอ มาสเตอร์?”
แชจูยอนยิ้มเก้อ ๆ ให้กับคำถามของฉัน
ดูเหมือนเธอจะลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่าง
“คือว่า… มีดันเจี้ยนแตกเมื่อไม่นานมานี้น่ะ”
ดันเจี้ยนแตก
คือเหตุการณ์ที่มอนสเตอร์ในดันเจี้ยนหลุดออกมาสู่โลกภายนอก
“อันตรายมากเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่เลย พวกเราก็เลยต้องส่งสมาชิกกิลด์ไปตามล่า พวกมอนสเตอร์ประเภทภูตผีเป็นความถนัดของกิลด์ซาเครดน่ะ”
ภูตผีงั้นเหรอ?
โลกนี้ก็มีผีด้วยเหรอ?
เป็นเรื่องใหม่สำหรับฉันเลย ดวงตาฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจ
“มันอันตรายไหม?”
“อันตรายสิ มันอ่านความทรงจำเลวร้ายของคน แล้วแสดงมันออกมาเป็นฝันร้าย”
“ว้าว…”
แสดงว่ามันเล่นงานจิตใจ
ซึ่งอาจอันตรายยิ่งกว่าสำหรับคนในโลกนี้ที่ร่างกายแข็งแกร่ง
เพราะแม้ร่างกายจะแข็งแรง แต่จิตใจก็ไม่ได้ต่างจากคนในโลกของฉันเท่าไร
“แต่ไม่ต้องเป็นห่วงมากหรอกนะ”
“ทำไมล่ะ?”
“เราตั้งเขตป้องกันไว้แล้ว มันออกมาไม่ได้ และถ้ามันใช้เวทย์มนตร์เมื่อไร สมาชิกกิลด์ที่อยู่ใกล้ ๆ ก็จะรู้ตัวแล้วรีบไปตรงนั้นทันที”
“อ๋อ…”
ตอนแรกฉันนึกว่าจะเก็บเศษเหล็กไม่ได้เพราะเจ้าภูตผีนี่ซะอีก
แต่ดูท่าจะไม่ต้องกลัวขนาดนั้น
“งั้นฉันยังเก็บเศษเหล็กได้อยู่ใช่ไหม?”
“ก็… น่าจะได้นะ แต่ว่า…”
แชจูยอนหันไปมองคังจินโฮที่อยู่ข้าง ๆ
พอสบตากับเธอ เขาก็พยักหน้าอย่างระมัดระวัง
“เราควรอยู่ด้วยกันไว้ก่อน เผื่อมีอะไร”
“แต่มันจะไม่รบกวนพวกคุณเหรอ…”
“ยังไงเราก็ต้องออกตรวจอยู่แล้ว ไปด้วยกันเลยก็ได้”
“อ่า… โอเค”
ถ้าเป็นเพื่อตรวจพื้นที่ ก็ไม่มีปัญหาถ้าจะไปด้วย
ฉันพยักหน้าแล้วหันไปมองด้านหลัง
“อยากมาเก็บเศษเหล็กด้วยกันไหม?”
“ขอโทษนะ พี่ต้องไปดันเจี้ยนวันนี้น่ะ”
“งั้นเหรอ”
ก็แอบเสียดายนิดหน่อย
คงจะดีถ้าได้ไปด้วยกัน
เอาเถอะ ยังมีคนอื่นอีกนี่นา
วันนี้ฉันตัดสินใจออกไปเก็บเศษเหล็กกับพวกมาสเตอร์และเด็ก ๆ
━━━━━━━━━━━━━━━━━
พักหลัง ๆ นี้ มีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้นในชุมชนท้องถิ่นของกิลด์ยอมยอง
ผู้คนเริ่มวางขวดเปล่าไว้ตามที่ต่าง ๆ ที่สามารถหยิบเก็บได้ง่าย
แม้มันจะดูเหมือนเป็นการทิ้งขยะ แต่ก็ไม่มีใครห้าม
ไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่พลเมืองทั่วไป และไม่ใช่เพื่อคนในกิลด์ยอมยอง
แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยเหลือเด็กมนุษย์สัตว์ของกิลด์
“เลวีนัสเก็บขวดได้แล้ว!”
“ฉันก็เหมือนกัน!”
“ฉันก็เก็บได้!”
เด็ก ๆ ที่ถือขวดอยู่ในมือ ต่างก็ยิ้มสดใส
หางที่แกว่งไปมา ทำให้พลเมืองที่อยู่แถวนั้นเฝ้ามองด้วยความเอ็นดู
‘คยออุลเก็บขวดของฉันไปแล้ว!’
นี่คือความสำเร็จในชีวิตเลยนะ
ต้องเอาไปอวดในเน็ตซะหน่อย
มีใครบางคนพิมพ์ข้อความลงมือถืออย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าโพสต์แค่ข้อความ ไม่ได้ถ่ายรูปเด็ก ๆ
“นี่เราจะรวยจากการเก็บขวดหรือเปล่าเนี่ย?”
“ใช่เลย ช่วงนี้มีขวดเปล่าเยอะผิดปกติด้วยนะ”
มีขวดนับสิบกองพะเนินอยู่ในรถเข็น
ไม่ต้องเก็บเศษเหล็กด้วยซ้ำ แค่ขวดพวกนี้ก็พอเลี้ยงตัวได้แล้ว
ก็ดีที่เด็ก ๆ พอจะหาเงินเองได้บ้าง
ขณะที่ชาวเมืองเริ่มโล่งใจ คังจินโฮก็เดินเข้ามาพร้อมกับขวดแก้วใบเล็กใบหนึ่ง
ขวดแก้วใบนั้นเล็กกว่ากระป๋องน้ำอัดลม เป็นขวดยาชูกำลัง
“ขวดนี้ขายได้มั้ย?”
“ไม่ได้ ขวดเล็กขนาดนี้ไม่มีใครรับซื้อหรอก”
“อืม…”
คังจินโฮขมวดคิ้ว มองขวดแก้วในมือตัวเองอย่างสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีใครซื้อ ทั้งที่มันก็เป็นขวดแก้วแท้ ๆ
เขาอยากจะทิ้งมัน แต่ก็ยังถือไว้ในมือ
เขาไม่สามารถทิ้งขยะมั่ว ๆ ได้
ในฐานะกิลด์มาสเตอร์ เขาต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็ก ๆ และชาวเมือง
‘ฉันไม่เคยเก็บขวดมาก่อนเลย…’
เคยมีครั้งไหนที่เขาดูไร้ประโยชน์ได้ขนาดนี้ไหมนะ?
คังจินโฮถึงกับช็อก
ด้านหลังเขา แชจูยอนเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นมือออกมา
ในมือของเธอเต็มไปด้วยเศษแก้วแตก ๆ
“คยออุล!”
“อื้อ?”
“ดูสิ! ฉันเก็บเศษขวดมาได้เยอะเลย!”
“เอ่อ…”
มันก็ดีนะที่เธอช่วยเก็บมา แต่พวกเขาไม่รับซื้อเศษขวดที่แตกแล้วหรอก
คยออุลทำหน้ากระอักกระอ่วน ก่อนที่คังจินโฮจะพูดแทน
“แชจูยอน”
“คะ?”
“ขวดที่แตกแล้วมันก็แบบว่า…”
“อ้าว เค้าไม่รับซื้อเหรอ?”
แชจูยอนดูงุนงงอย่างจริงจัง
ทั้งชีวิตเธอไม่เคยเก็บของไปขายมาก่อนเลย
ด้วยพื้นเพที่มาจากชนชั้นสูง เธอจึงไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย
“ค-คือ…”
คยออุลลังเลแล้วเหลือบมองแชจูยอน
ชาวเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างก็ถอนหายใจในใจ
‘อ่า’
‘น่าสงสารคยออุลจัง’
เพราะยังไงพวกเขาก็เป็นคนที่อยู่บนจุดสูงสุด
แนวคิดเรื่องเก็บขยะไปขาย คงเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คุ้นชิน
แต่การได้เห็นสองมาสเตอร์ที่ใคร ๆ ก็นับถือ มาเงอะงะเรื่องแบบนี้ ก็ให้อารมณ์น่ารักไปอีกแบบ
พวกเขายอมลดตัวลงมา เพื่อเห็นแก่เด็ก ๆ
‘กิลด์นี้ดูแลเด็ก ๆ ได้ดีจริง ๆ’
ชาวเมืองรู้สึกอุ่นใจ เมื่อเห็นมาสเตอร์ทั้งสองคลุกคลีอยู่กับเด็ก ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ซึ่งทั้งสองมาสเตอร์เองก็ไม่รู้เลยว่า ชื่อเสียงของพวกเขากำลังพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ในขณะนี้
“ฉันสอนวิธีเก็บเศษเหล็กให้ไหม…?”
“เอาสิ”
“จะขอบคุณมากเลย”
“โอเค…”
คยออุลเกาแก้มเบา ๆ อย่างรู้สึกประหม่า
การจะต้องมาสอนกิลด์มาสเตอร์ ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุด เรื่องเก็บเศษเหล็กนี่มันก็รู้สึกแปลก ๆ อยู่
แต่เธอก็ตัดสินใจไม่คิดมาก ยังไงการได้อยู่กับมาสเตอร์ทั้งสองก็สนุกดี
บางทีมาสเตอร์เองก็คงคิดแบบเดียวกัน…
ในตอนที่เรากำลังช่วยกันเก็บของไปขาย
—ฮึก…
มีเสียงร้องไห้ของผู้หญิงดังมาจากที่ไหนสักแห่ง
เป็นเสียงเบามาก จนมีแค่ฉันเท่านั้นที่ได้ยิน
เธอเจอปัญหาอะไรหรือเปล่านะ?
ฉันอยากจะบอกคนอื่นให้รู้ แต่พวกมาสเตอร์ก็ไม่อยู่แถวนั้น น่าจะกำลังช่วยเก็บเศษเหล็กกันอยู่
แชจูยอนกำลังยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนเป็นบาเรีย
เด็กสองคนที่เหนื่อยจากการเก็บขวดก็หลับอยู่ในรถเข็น
ฉันเลยต้องไปดูเอง
‘ทางนี้แหละ’
ตรอกแคบ ๆ ที่ดูเปลี่ยว
มีผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้อยู่ข้างเสาไฟฟ้าที่ตั้งอยู่โดด ๆ
เสาไฟฟ้านั้นเต็มไปด้วยขยะจนแทบมองไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นชัด ๆ
“ขอโทษนะ…”
อะไรกันที่ทำให้เธอร้องไห้ได้เศร้าขนาดนี้?
ขณะที่ฉันเดินเข้าไปหา ก็ต้องหยุดเท้าเอาไว้
ร่างกายของเธอเป็นสีเทาโปร่งแสง
เธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ
ทันใดนั้น ฉันก็นึกถึงสิ่งที่แชจูยอนพูดไว้เรื่อง ‘วิญญาณ’
นี่คือหนึ่งในพวกวิญญาณนั่นเหรอ?
พอฉันเริ่มถอยหลัง สิ่งนั้นก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาช้า ๆ
“……!”
ดวงตาของมันดำสนิทจนไม่มีแม้แต่สีขาวให้เห็น
มันดูเหมือนผีจากหนังสยองขวัญไม่มีผิด
นั่นมันอะไรกัน?
ขนลุกวาบไปทั้งตัว หูและหางของฉันตั้งชันด้วยความตกใจ
ทันทีที่ฉันหันหลังจะวิ่งหนี ร่างกายก็ถูกพันธนาการด้วยพลังเวทสีแดงเข้มที่แผ่ออกมาจากสิ่งนั้น
พลังเวทของมันค่อย ๆ ไหลเข้าสู่หัวของฉันอย่างช้า ๆ
นี่คือสิ่งที่คนเขากันสินะ วิญญาณจะแสดงบาดแผลทางใจผ่ายฝันร้าย?
ฉันพยายามดิ้นหนี ขัดขืนเต็มที่ แต่ขยับไม่ได้เลยสักนิด
“กรร…”
หัวฉันหมุนไปหมด และเริ่มรู้สึกคลื่นไส้
นี่คืออาการข้างเคียงของอะไรบางอย่างหรือเปล่า?
ทันใดนั้น ขณะที่ฉันขมวดคิ้ว ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาใกล้ ๆ
“คยออุล!”
เป็นเสียงของแชจูยอน
เธอคงสัมผัสได้ถึงพลังเวทของวิญญาณแล้วรีบมาช่วยละมั้ง?
ขณะที่ฉันโล่งใจและจ้องไปที่วิญญาณตรงหน้า มันก็เริ่มมีท่าทีแปลก ๆ
“กรี๊ดดดดด!”
วิญญาณกรีดหัวของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
เสียงกรีดร้องของมันแสบแก้วหู ราวกับเสียงของผู้หญิงที่เจออะไรที่สยองสุดขีด
มันเป็นอะไรของมัน?
หรือว่านี่คือรูปแบบการโจมตีของมัน?
ในขณะที่ฉันยังงง ๆ มองดูมัน
ฟู่—!
ร่างของวิญญาณเริ่มสลายกลายเป็นแสง
เหมือนกำลังดูผีที่ถูกชำระล้างต่อหน้าต่อตา
“ฮือ…?”
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จู่ ๆ หัวของฉันก็โล่งขึ้นมา
ตรงจุดที่วิญญาณเคยอยู่ ตอนนี้เหลือแค่ลูกแก้วสีแดงกลม ๆ ลูกหนึ่ง
ฉันรู้ทันทีว่านั่นคือหินมานาของวิญญาณ
‘อะไรเนี่ย?’
ทำไมมันถึงตายทันทีหลังจากอ่านความทรงจำของฉัน?
ฉันหยิบหินมานาขึ้นมาด้วยความสับสน พลางสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าขนลุกที่แผ่ออกมา
“คยออุล…?”
ฉันหันกลับไปตามเสียงของแชจูยอน
ดวงตาของเธอสั่นระริก ขณะที่ร่างยืนนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง
“วิญญาณนั่นมันตายเองน่ะ”
ฉันยื่นหินมานาให้แชจูยอนดู
แต่ไม่รู้ทำไม เธอกลับจ้องมองมันด้วยใบหน้าที่แข็งทื่อไม่ไหวติง
MANGA DISCUSSION